กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 784

หากอยู่ที่อื่น ความคิดแรกของเขาก็คือนักฆ่า

แต่อยู่ที่นี่กลับไม่มีความจำเป็นเช่นนั้น ทว่าระมัดระวังขับเรือได้นานนับหมื่นปี ระวังตัวสักหน่อยย่อมไม่ผิดไปแน่ กู้ช่านจึงเก็บลมปราณ เดินเข้าหาเด็กสาวผู้นั้นช้าๆ

อำเภอพ่านสุ่ย เรือนพักสิบกว่าแห่งมีใครพักอาศัยอยู่บ้าง ล้วนชัดเจนดีอยู่แล้ว

เพราะผู้ที่มาเข้าร่วมงานประชุมที่ศาลบุ๋นครั้งนี้ หลังจากที่ปรากฏตัวที่ท่าเรือเวิ่นจิน ก็มีน้อยคนนักที่จะร่ายเวทอำพรางตา

หนึ่งเพราะไม่มีความจำเป็น อีกอย่างหนึ่งก็เพราะต้องการให้ความเคารพหลี่เซิ่งอยู่ไกลๆ

พวกเทพธิดาเทพจะมุ่งเป้าไปที่ฟู่จิ้นทั้งหมด

พวกบุรุษก็มุ่งเป้าไปที่เหล่าเทพีบุปผาของพื้นที่มงคลร้อยบุปผา

กู้ช่านกอดหนังสือปึกหนึ่งไว้ในอ้อมอก เดินผ่านตรอกเล็กมาแล้วก็หยุดเดิน ยิ้มถามว่า “แม่นางคิดจะมาหาฟู่จิ้นแห่งนครจักรพรรดิขาวผู้นั้นหรือ?”

แม่นางน้อยส่ายหน้าแรงๆ ไม่กล้ายอมรับ

กู้ช่านจึงเดินออกไปจากตรอกเล็ก มุ่งหน้าไปทางถนนใหญ่ หันหน้ามองไป เด็กสาวกำลังใช้หลังมือเช็ดเหงื่อที่ซึมออกมาบนหน้าผาก คล้ายกำลังพูดคุยกับใครจึงตื่นเต้นอย่างมาก

เขาหลุดหัวเราะ เทพธิดาที่เป็นเช่นนี้จะอาศัยบุปผาในคันฉ่องจันทราในสายน้ำหาเงินได้อย่างไร? หาเงินได้แล้วมีอะไรให้ต้องลำบากใจกัน?

กู้ช่านพลันหยุดเดิน

ในเรือนพัก

หลิ่วชื่อเฉิงดึงไฉ่ป๋อฝูให้เดินออกไปข้างนอกด้วยกัน ถามว่า “น้องหลงป๋อ รู้จักจางเถียวเสียผู้นั้นหรือไม่?”

ไฉ่ป๋อฝูส่ายหน้า

รายงานขุนเขาสายน้ำบนภูเขาของแจกันสมบัติทวีปในอดีตไม่ค่อยพูดถึงคนมหัศจรรย์เรื่องราวประหลาดของทวีปอื่นเท่าใดนัก ยกตัวอย่างเช่นบางครั้งที่หากจะพูดถึงเรือนซือเตาของภูเขาห้อยหัวก็ยังเป็นเพราะบนกำแพงติดประกาศมอบรางวัลให้กับคนที่ตัดหัวซ่งจ่างจิ้งได้ สำหรับผู้ฝึกตนของแจกันสมบัติทวีปในเวลานั้นแล้ว นี่เป็นเรื่องที่มีหน้ามีตาอย่างมาก ดังนั้นรายงานขุนเขาสายน้ำของแต่ละฝ่ายจึงเน้นเขียนเรื่องนี้ด้วยตัวอักษรใหญ่ ส่วนสาเหตุที่เรือนซือเตาให้รางวัลกลับไม่พูดถึงแม้แต่คำเดียว พูดแค่ว่าซ่งจ่างจิ้งไปมีเรื่องกับยอดฝีมือของทวีปอื่น แจกันสมบัติทวีปในทุกวันนี้ต้องไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้ได้อีกแน่นอน

ผู้ฝึกตนแจกันสมบัติทวีปในอดีตจะยอมรับว่าตัวเองด้อยกว่าใบถงทวีปหนึ่งช่วงศีรษะ ด้อยกว่าอุตรกุรุทวีปที่มีผู้ฝึกกระบี่มากมายดุจก้อนเมฆอย่างน้อยสองช่วงศีรษะ ส่วนทวีปแดนเทพแผ่นดินกลางก็ไม่ต้องหวังเลย บางทีต่อให้กระโดดถ่มน้ำลายก็ยังถ่มใส่ได้ถึงแค่หัวเข่าของทวีปแดนเทพแผ่นดินกลางเท่านั้น

หลิ่วชื่อเฉิงเอ่ยทวงความเป็นธรรม “เขามีการช่วงชิงบนมหามรรคากับเจ้า ข้าก็ต้องช่วยเจ้าครั้งหนึ่ง เวลานี้หากไม่ผิดไปจากที่คาด เขาคงกำลังตกปลาอยู่ที่เกาะยวนยางเป็นแน่ พวกเราสองคนร่วมแรงกันเอาไม้กระบองไปฟาดเขากันเถอะ!”

ไฉ่ป๋อฝูใจหายวาบไปหมดแล้ว

เห็นหลิ่วชื่อเฉิงก้าวเดินเร็วรี่ราวกับบิน ไฉ่ป๋อฝูที่ติดตามอยู่ข้างหลังอย่างระมัดระวังก็ปลุกความกล้าถามว่า “เกิดเป็นการช่วงชิงบนมหามรรคาได้อย่างไร?”

หลิ่วชื่อเฉิงเอ่ย “เขามีฉายาว่าหลงป๋อ เจ้าทนได้หรือ?”

ไฉ่ป๋อฝูเอ่ยอย่างร้อนรน “ทนได้สิ! ทำไมจะทนไม่ได้ล่ะ…”

เล่นลูกไม้อยู่ที่อื่นก็ยังทำเนา แต่คิดจะมาทำที่นี่ จะได้อย่างไร?

หลิ่วชื่อเฉิงหลุดหัวเราะพรืด “ทุกวันนี้จะดีจะชั่วเจ้าก็เป็นเซียนดินโอสถทองคนหนึ่งแล้ว จะต้องกลัวอะไร”

ไฉ่ป๋อฝูถามอย่างระมัดระวัง “จางเถียวเสียผู้นั้นมีขอบเขตอะไร?”

หลิ่วชื่อเฉิงส่ายหน้า “ไม่ใช่ผู้ฝึกลมปราณห้าขอบเขตกลางแล้ว”

หัวใจบีบรัดตัวแน่น ไฉ่ป๋อฝูรีบถามทันที “หยกดิบ? เซียนเหริน? บินทะยาน?!”

เกือบจะถามไปแล้วว่าจางเถียวเสียใช่ขอบเขตสิบสี่หรือไม่

หลิ่วชื่อเฉิงส่ายหน้า “ล้วนไม่ใช่”

ไฉ่ป๋อฝูคลางแคลงไม่เข้าใจ

หลิ่วชื่อเฉิงร้องอ้อหนึ่งที “ก็คือผู้ฝึกยุทธขอบเขตสิบคนหนึ่ง ก่อนที่เผยเปยจะมีชื่อเสียง เขาก็คือยอดฝีมือผู้ฝึกยุทธเต็มตัวของใต้หล้าไพศาล เพียงแต่ว่าถูกการตกปลาถ่วงรั้งเอาไว้ หลังจากเลื่อนเป็นขอบเขตปลายทางก็แทบจะไม่เคยถามหมัดกับใครมาก่อน ดังนั้นชื่อเสียงจึงไม่โด่งดังมากนักมาโดยตลอด”

ไฉ่ป๋อฝูยืนอยู่ที่เดิม

หลิ่วชื่อเฉิงยื่นมือไปประคองจับแขนของน้องหลงป๋อ

ไฉ่ป๋อฝูกัดฟัน ถึงกับโคจรลมปราณทำให้ตัวเองหมดสติไป พอเลือดไหลออกจากทวารเจ็ดก็สลบเหมือดคาที่ทันที

หลิ่วชื่อเฉิงเสียดายเล็กน้อย

ไปหาจางเถียวเสียคือเรื่องจริง แต่ไม่ได้จะไปท้าทาย เพราะผู้ฝึกยุทธขอบเขตปลายทางผู้นี้มีความสัมพันธ์ที่ไม่เลวกับนครจักรพรรดิขาว หลิ่วชื่อเฉิงจึงคิดจะไปพูดคุยรำลึกความหลังกับอีกฝ่าย

ถ้าอย่างนั้นก็ให้น้องหลงป๋อนอนไปแล้วกัน ไม่ปลุกเขาให้ตื่นแล้ว

หลิ่วชื่อเฉิงเตรียมจะออกไปเดินเล่นข้างนอก

อยู่ดีๆ ตรงนอกประตูก็มีเสียงคนตะโกนดังลั่น “ฟู่ปัญญาอ่อน ออกมาตายให้ข้าผู้อาวุโสเดี๋ยวนี้!”

หลิ่วชื่อเฉิงอึ้งตะลึง ฟังจากน้ำเสียงแล้วค่อนข้างคุ้นหูนะ เพียงแต่ว่าเขาถูกขังอยู่ในแจกันสมบัติทวีปมาพันกว่าปีจึงค่อนข้างจะแปลกหูไปบ้าง พอมาลองคิดอีกที มารดามันเถอะ เจ้าตัวดี คือกู้ชิงซงผู้นั้น! คนพายเรือผู้เฒ่าที่ทำตัวราวกับว่าพุ่งชนด่านประตูผีอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันผู้นี้ ถึงกับยังไม่ถูกคนฟันตาย? ชั่วชีวิตนี้หลิ่วชื่อเฉิงไม่เคยเจอใครที่ไม่ต้องการชีวิต แต่กลับยังมีชีวิตรอดมาได้แบบนี้มาก่อน

หลิ่วชื่อเฉิงถาม “เสี่ยวฟู่ จะให้อาจารย์อาช่วยเจ้าหรือไม่?”

ฟู่จิ้นเพียงแค่นั่งบำรุงหล่อเลี้ยงปณิธานกระบี่อยู่ในห้องของตัวเองเงียบๆ

ทั้งไม่สนใจกู้ชิงซงคนนั้น แล้วก็ไม่สนใจหลิ่วชื่อเฉิงผู้เป็นอาจารย์อา

พวกเทพธิดาที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง แต่ละคนล้วนมีสีหน้าสดใสเบิกบาน ทั้งนินทาผู้เฒ่าไม่หยุดปากว่าถึงกับกล้าเรียกฟู่หลางว่าฟู่ปัญญาอ่อนเสียได้ แต่ก็ซาบซึ้งใจจากใจจริงด้วยหลายส่วน หากฟู่หลางปรากฎตัวเพราะเหตุนี้ กลับต้องขอบคุณการโยนอิฐล่อหยกของผู้เฒ่าแล้ว

ใบหน้าของกู้ชิงซงเต็มไปด้วยรอยยิ้มหยามหยัน “เจ้าเด็กฟู่ สวมชุดขาวอยู่ตลอดทั้งปี ไว้ทุกข์ให้ใครงั้นรึ?”

หลิ่วชื่อเฉิงลูบคลำปลายคาง ดีนักนะ แม้แต่ศิษย์พี่ของตนก็ถูกด่ารวมไปด้วย? มาดของกู้ชิงซงไม่ด้อยไปกว่าในอดีตเลยนะ

หันเชี่ยวเซ่อที่เดิมทีนอนคว่ำนับทรัพย์สมบัติอยู่บนเสื่อเย็นในห้องตัวเอง ขวดไหแต่ละใบล้วนเป็นผงเครื่องประทินโฉมหลากสีสันของบนภูเขา สตรีออกเรือนแล้วของสกุลหลิวธวัลทวีปผู้นั้นสายตาไม่เลวเลยจริงๆ

นางลุกขึ้นเดินก้าวหนึ่งออกไปจากเรือน มาที่หน้าประตูใหญ่ เพียงแต่ว่าไม่รอให้นางเปิดปากพูด กู้ชิงซงผู้นั้นก็โบกมือ “บุรุษเขาจะตีกัน สตรีถอยไปห่างๆ!”

หลิ่วชื่อเฉิงรีบปรากฏตัวข้างกายศิษย์พี่หญิง ผลคือกู้ชิงซงผู้นั้นร้องถุยหนึ่งที ใบหน้าเต็มไปด้วยความรังเกียจ “กลางวันแสกๆ ดันสวมชุดคลุมเต๋าสีชมพู แต่งกายเป็นหญิงให้ใครสะอิดสะเอียนกัน ทำไมเจ้าไม่สวมรองเท้าปักลายไปด้วยเลยเล่า?”

เพียงแค่คำพูดไม่กี่ประโยคก็หาเรื่องทั้งเจิ้งจวีจง ฟู่จิ้น หันเชี่ยวเซ่อ หลิ่วชื่อเฉิงได้ครบถ้วนแล้ว

คาดว่านี่ก็คงเป็นดั่งคำกล่าวที่ว่าคล่องแคล่วดุจเมฆคล้อยน้ำไหล สำเร็จเสร็จสิ้นในรวดเดียวแล้ว

คือวิชาอภินิหารแห่งชะตาชีวิตที่เป็นไปตามธรรมชาติของกู้ชิงซง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!