กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 807

ไปถึงที่ศาลา หลิวสือลิ่วกดบ่าเฉินผิงอัน ตรวจสอบภาพเหตุการณ์อันเล็กละเอียดในขุนเขาสายน้ำหมื่นลี้ของฟ้าดินเล็กร่างมนุษย์ของศิษย์น้องเล็ก ก่อนจะพยักหน้ายิ้มเอ่ยว่า “ยังดี พักรักษาตัวแค่ไม่กี่วันเท่านั้น ปัญหาไม่มาก แต่ช่วงนี้อย่าไปลงไม้ลงมือกับคนอื่นอีกล่ะ ไม่อย่างนั้นจะต้องมีโรคแฝงทิ้งไว้แน่นอน จะต้องระมัดระวังให้มาก”

เฉินผิงอันผงกศีรษะให้กับศิษย์พี่จวินเชี่ยน จากนั้นจึงหันไปยิ้มเอ่ยกับพวกหลี่เป่าผิง “ไม่เป็นไร ไม่ต้องเป็นห่วง”

เหมือนว่าฟันจะสั่นกระทบกันอยู่บ้าง ตอนพูดจึงฟังอู้อี้ไม่ค่อยชัดเจน

จั่วโย่วบอกให้พวกหลี่เป่าผิงสามคนออกไปจากศาลาก่อน

ถามหมัดสิ้นสุดลงแล้ว นอกจากรักษาบาดแผล เลือดลม ปราณกระบี่และจิตสังหารบนร่างของเฉินผิงอันยังเข้มข้นเกินไป

โดยเฉพาะเจิ้งโย่วเฉียนที่หลังจากอาจารย์อาน้อยปรากฏตัวในศาลา เจ้าภูตน้อยก็หน้าซีดขาวทันที

จวินเชี่ยนถึงได้หยิบขวดกระเบื้องใบหนึ่งมายื่นส่งให้เฉินผิงอัน “กินสามเม็ดทุกวัน พร้อมๆ กับอาหาร หนึ่งเดือนให้หลัง ทุกวันให้ลดเหลือเม็ดสองเม็ด เจ้าดูสภาพการณ์การฟื้นตัวของร่างกายเอาเอง วิเคราะห์ไปตามสถานการณ์”

แขนขวาของเฉินผิงอันห้อยลู่ลง ร่างทั้งร่างนั่งแหมะอยู่บนม้านั่งยาว รีบใช้มือซ้ายเปิดขวดกระเบื้อง เทยาหนึ่งเม็ดออกมาโยนใส่ปากเบาๆ ทันที

ซิ่วไฉเฒ่านั่งอยู่ด้านข้างคลี่ยิ้มกว้างสดใส ยกนิ้วโป้งให้กับลูกศิษย์คนสุดท้ายผู้นี้

ไม่ว่าจะเรียนวิชาหมัด ฝึกกระบี่ ศึกษาหาความรู้ ร่ายบทกลอนแกะสลักตราประทับ ทำการค้า หาภรรยา แตกกิ่งก้านสาขาให้กับสายบุ๋น ล้วนเก่งกาจในทุกด้าน

เฉินผิงอันยิ้มกว้างให้อาจารย์

อันที่จริงสำหรับเรื่องของการรักษาบาดแผล การพักฟื้น เป็นเรื่องที่เฉินผิงอันถนัดยิ่งกว่า

ดังนั้นคืนนั้นเมื่อกลับไปถึงที่พัก เขาจึงทำทุกอย่างไปตามขั้นตอนอย่างคล่องแคล่วคุ้นเคย

ครึ่งคืนหลัง เฉินผิงอันลืมตาขึ้น ลังเลอยู่เล็กน้อย แต่ก็ยังไม่เอ่ยอะไรสักคำเดียว

ดูเหมือนว่าดึกดื่นค่อนคืนนี้อาจารย์จะออกมาเดินเล่นเพียงลำพัง ตอนที่เดินผ่านมาก็หยุดชะงักอยู่แค่ครู่เดียว ไม่ได้รั้งรออยู่นานนัก

เฉินผิงอันจึงทำสมาธิต่ออีกครั้ง ใช้มือทำมุทรากระบี่นั่งอยู่บนเบาะรองนั่ง

เช้าตรู่ของวันนี้ เฉินผิงอันเดินออกมาจากห้อง สังเกตเห็นว่ามีเพียงศิษย์พี่จั่วโย่วที่นั่งอยู่ในลานบ้าน กำลังอ่านหนังสือ

เหลือบตามามองเฉินผิงอันแวบหนึ่งแล้วจั่วโย่วก็เอ่ยว่า “ข้าบอกกับพวกเป่าผิงว่าไม่ต้องรีบร้อนมาหา ตอนบ่ายค่อยว่ากัน”

จั่วโย่วอ่านหนังสือต่อ

เฉินผิงอันนั่งลงด้านข้าง ทำท่าจะพูดแต่ก็ไม่พูด

จั่วโย่วไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้น “มีอะไรก็ว่ามา”

เฉินผิงอันจึงแข็งใจเอ่ยว่า “ศิษย์พี่พอจะรู้ว่าเจี่ยงหลงเซียงเป็นคนอย่างไร แต่ศิษย์พี่กลับยากที่จะเป็นศัตรูกับเจี่ยงหลงเซียงอย่างแท้จริงได้”

จั่วโย่ววางตำราในมือลง หันตัวมาถาม “หมายความว่าอย่างไร?”

เฉินผิงอันให้คำตอบที่เตรียมไว้ในใจ “เพราะศิษย์พี่คือบัณฑิต ต่อให้เวทกระบี่จะสูงแค่ไหน ออกกระบี่ก็ยังทำตามกฎเกณฑ์ เคารพกฎระเบียบ บวกกับที่ศิษย์พี่ไม่รู้ว่าสรุปแล้วเจี่ยงหลงเซียงทำเรื่องอะไรลงไปบ้าง เรื่องดี เรื่องร้าย ล้วนไม่รู้แน่ชัด ส่วนเรื่องใดบ้างที่เจี่ยงหลงเซียงทำไปเพราะตั้งใจทำความดี เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองในราชสำนัก หรือมีเรื่องใดบ้างที่ไม่มีใจคิดจะทำดี ศิษย์พี่ก็มีแต่จะยิ่งไม่รู้ ในเมื่อไม่รู้ ศิษย์พี่เผชิญหน้ากับเรื่องราวและคนเหล่านี้ แท้จริงแล้วจะเหมือนถูกมัดมือมัดเท้าอย่างมาก”

จั่วโย่วสีหน้าไร้อารมณ์ แต่ก็ไม่ได้ขัดขวางศิษย์น้องเล็กที่กำลังสั่งสอนศิษย์พี่อย่างตน

“ข้ารู้”

เฉินผิงอันพูดพึมพำกับตัวเองต่อ “ข้าก็เหมือนเป็นนักบัญชีของเจี่ยงหลงเซียง จะช่วยเขาทำบัญชีจดบันทึกแบบที่ไม่คิดเงิน เจี่ยงหลงเซียงจ่ายเงินห้ามไม่ให้ข้าทำก็ไม่ได้ ดังนั้นรับมือกับคนอย่างเจี่ยงหลงเซียงนี้ ข้าจึงเชี่ยวชาญกว่าศิษย์พี่มาก ข้ารู้ว่าทำอย่างไรถึงจะทำให้พวกเขาเจ็บปวดอย่างแท้จริง ต่อให้เคยเผชิญกับความยากลำบากจากข้าไปแค่ครั้งเดียว ก็สามารถทำให้พวกเขาหวาดกลัวไปชั่วชีวิตได้”

คิดอยากจะให้คนชั่วมีคนชั่วเหมือนกันมาจัดการ ย่อมไม่ถูก แต่หากคนชั่วมีเพียงคนชั่วที่สามารถจัดการได้ ก็ไม่ถูกอีกเหมือนกัน ใช้เรื่องเลวร้ายมาทรมานคนชั่ว ใช้ความตรงไปตรงมาแก้แค้น ใช้คุณธรรมตอบแทนคุณธรรม

เอ่ยประโยคพวกนี้ออกมา เฉินผิงอันเตรียมตัวพร้อมรับเพลิงโทสะจากศิษย์พี่เอาไว้แล้ว

เพราะถึงอย่างไรก็เป็นคำกล่าวที่ไม่ให้ความเคารพกัน

เพียงแต่หากไม่พูดออกมาก็ต้องอัดอั้น เขาอยากพูดมานานมากแล้ว

จั่วโย่วกล่าว “พูดต่อสิ”

ห่างไปไกล ซิ่วไฉเฒ่ากับจวินเชี่ยนกำลังหลบแอบมองขุนเขาสายน้ำผ่านฝ่ามือ อาจารย์และศิษย์สองคนกลั้นลมหายใจ มองเรื่องสนุก…ตาไม่กะพริบ

ทางฝั่งนี้เฉินผิงอันเอ่ยอย่างระมัดระวังว่า “ศิษย์พี่ ข้าพูดความในใจหมดแล้ว จะถือว่ามีเหตุผลหรือไม่ ศิษย์พี่เป็นคนตัดสินใจ”

จั่วโย่วมองเฉินผิงอัน แต่แล้วจู่ๆ ก็หัวเราะออกมา

เฉินผิงอันไม่เคยเห็นสายตาที่ให้การยอมรับเช่นนี้จากศิษย์พี่มาก่อน

ในความทรงจำ มีเพียงตอนอยู่กับพวกผู้เยาว์เท่านั้น ศิษย์พี่จั่วถึงจะมีสีหน้าเช่นนี้

จั่วโย่วพยักหน้ายิ้มรับ “ไม่ได้อ่านตำรามาเสียเปล่า สามารถอธิบายเหตุผลกับศิษย์พี่ได้แล้ว”

เฉินผิงอันยังคงกระวนกระวายไปตามความเคยชิน “ศิษย์พี่พูดความจริงในใจ หรือว่าแอบจดบัญชีไว้ในใจกันแน่?”

ต้องรู้ว่านักบัญชีของสายบุ๋นบ้านตน แต่แรกมาก็คือศิษย์พี่คนนี้

จั่วโย่วส่ายหน้า “เจ้าที่เป็นศิษย์น้องจะเอาแต่รู้สึกว่าตัวเองสู้ศิษย์พี่ไม่ได้สักเรื่องอยู่ตลอดไม่ได้ หากอยู่กับข้าแล้วได้แต่รับปากลูกเดียว อาจารย์รับเจ้ามาเป็นลูกศิษย์คนสุดท้ายจะมีความหมายอะไร?”

ห่างไปไกล ซิ่วไฉเฒ่าที่มองภาพเหตุการณ์จากในฝ่ามือของจวินเชี่ยนอดไม่ไหวเอ่ยสั่งสอนว่า “ก็มีแต่เจ้านี่แหละที่พูดมาก วางมาดเสียใหญ่โต”

หลิวสือลิ่วที่อยู่ด้านข้างพยักหน้าเอ่ยคล้อยตาม “ศิษย์พี่จั่วต้องเปลี่ยนตัวเองเสียบ้าง ชอบรังแกศิษย์น้องเล็กเช่นนี้ ขนาดข้าก็แทบจะทนมองต่อไปไม่ไหวแล้ว”

ซิ่วไฉเฒ่าร้องเอ๊ะหนึ่งที “เหตุใดตอนอยู่ข้างกายจั่วโย่วไม่เห็นเจ้าพูดแบบนี้บ้าง?”

หลิวสือลิ่วตอบกลับ “ในเมื่อมีอาจารย์อยู่ก็ไม่ถึงคราวที่ศิษย์จะพูดจาทวงความเป็นธรรม”

ซิ่วไฉเฒ่าพยักหน้า พึงพอใจอย่างมาก

เจ้าโง่ใหญ่ผู้นี้ แท้จริงแล้วคือคนที่ไม่เสียเปรียบมากที่สุด แต่ไหนแต่ไรมาไม่ว่าเรื่องสนุกอะไรก็ร่วมวงไปดูกับเขาทั้งหมด แต่ไม่เคยถูกด่า ไม่เคยถูกซ้อม

ซิ่วไฉเฒ่าลุกขึ้นยืน โบกมือเป็นวงกว้าง “ไป พวกเราไปช่วยสนับสนุนศิษย์น้องเล็กของเจ้ากัน”

หลิวสือลิ่วเดินตามไปด้านหลัง

ทางฝั่งศิษย์พี่ศิษย์น้องสองคน เฉินผิงอันสองจิตสองใจอยู่เล็กน้อย “การที่พูดเรื่องนี้ก็เพราะหวังว่าวันหน้าหากศิษย์พี่อยู่ที่กำแพงเมืองปราณกระบี่ ได้ยินเรื่องบางอย่างแล้วจะไม่โกรธ”

จั่วโย่วกล่าว “ยกตัวอย่างเช่นแจกันสมบัติทวีป ใบถงทวีป?”

เฉินผิงอันพยักหน้ารับ “บางทีอาจจะมีเรื่องมากมายที่ลงมือทำไปอย่างไม่นึกถึงสถานะของบัณฑิตมากขนาดนั้น”

จั่วโย่วกล่าว “เจ้าสู้ซ่งจ่างจิ้งแห่งต้าหลีหรือไม่ก็เหวยอิ๋งของสำนักกุยหยกได้หรือ?”

เฉินผิงอันมึนงง ส่ายหน้าตอบ “ตอนนี้ต้องทำไม่ได้แน่นอน”

จั่วโย่วคร้านจะพูดคุยอีก ก้มหน้าอ่านหนังสือต่ออีกครั้ง

เฉินผิงอันคิดอยู่นานกว่าจะเข้าใจความนัยในคำพูดของศิษย์พี่

อยู่ที่กำแพงเมืองปราณกระบี่หรือที่ใต้หล้าเปลี่ยวร้าง หากศิษย์พี่อย่างเขาได้ยินเรื่องบางอย่าง ในสถานการณ์ทั่วไปก็มีแต่จะแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!