มหามรรคาแห่งใต้หล้า ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่การทะเลาะต่อยตีกันในหมู่ชาวบ้านที่ต้องแบ่งแพ้ชนะให้จงได้
บนมหามรรคาแต่ละเส้น คนที่ก้าวเดินอยู่บนนั้น คนที่มีเหตุผล อันที่จริงก็คือผู้ฝึกตนที่แท้จริง
เหตุผลยิ่งพูดยิ่งเถียงยิ่งชัดเจน หมัดเท้ายิ่งฝึกยิ่งฝนยิ่งหนักหน่วง จิตแห่งมรรคายิ่งขัดยิ่งเกลายิ่งใสกระจ่าง
จิงเซิงซีผิงพยักหน้าเอ่ยว่า “ขอแค่เฉินผิงอันตามทันเฉาสืออยู่ตลอด ต่อให้ถูกทิ้งห่างไปครึ่งช่วงตัว ก็ไม่ใช่ปัญหา ยังมีโอกาส”
ทุกวันนี้ทั้งสองฝ่ายห่างกันอยู่แค่ครึ่งก้าวเท่านั้น
อย่าเห็นว่าการถามหมัดของคืนนี้ เฉินผิงอันโดนหมัดค่อนข้างเยอะ แท้จริงแล้วโอกาสแพ้ชนะไม่ได้ห่างกันมากนัก หนึ่งเพราะรากฐานขอบเขตการเรียนวรยุทธของเฉินผิงอัน เดิมทีก็ถูกต่อยตีมาตลอดทาง นอกจากนี้ในเมื่อทั้งสองฝ่ายเพียงแค่แบ่งแพ้ชนะ ไม่แบ่งเป็นตาย การถามหมัดครั้งนี้สำหรับสองคนแล้ว ออกหมัดอย่างเต็มกำลัง ทว่าจิตสังหารไม่มากพอ จึงไม่ถือว่าเป็นการลงมืออย่างเต็มคราบสาแก่ใจ ในสายตาไม่เห็นใคร ในใจไร้อุปสรรคกีดขวางตามความหมายที่แท้จริงด้วยซ้ำ
หลิวสือลิ่วกล่าว “ต่อให้วันใดทั้งสองฝ่ายต่างก็เป็นเทพมาเยือน ก็อาจจะมีการทิ้งระยะห่างกันเล็กน้อยอีกครั้ง ดังนั้นขั้นของคืนความจริงในอนาคต ศิษย์น้องเล็กจะต้องขัดเกลาให้ดีๆ”
เลื่อนเป็นขอบเขตยอดเขาก่อนจะถึงขอบเขตปลายทาง อาจเป็นเพราะมีสงครามใหญ่ที่ฝูเหยาทวีปให้ต้องรับมือ เฉาสือจึงเลื่อนขั้นอย่างฉุกละหุกเล็กน้อย แต่เฉินผิงอันที่อยู่กำแพงเมืองปราณกระบี่กลับมีสมาธิจิตใจไม่วอกแวกมากกว่า
ทุกวันนี้ก็ต่างกันอีกครั้ง
เฉาสือบริสุทธิ์เกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อแรงใจของเขาผุดขึ้นมา ภาพบรรยากาศของการถามหมัดต่อจากนี้จะน่าตกใจอย่างมาก
หลิวสือลิ่วไม่มีทางเกิดอคติใดๆ ต่อคนหนุ่มอย่างเฉาสือเพียงแค่เพราะตนคือศิษย์พี่ของเฉินผิงอัน ตรงกันข้ามกันเลยด้วยซ้ำ หลิวสือลิ่วชื่นชมพลังอำนาจบนร่างของเฉาสืออย่างมาก ก็เหมือนกับว่าเขากำลังใช้เหตุผลกับหลายใต้หล้า วิชาหมัดของข้าจะต้องไร้ศัตรูทัดทาน ทั้งไม่มีทางดูแคลนตัวเอง แล้วก็ไม่ลำพองใจ นี่เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลตามหลักฟ้าดินอย่างมาก คนอื่นจะยอมรับหรือไม่ก็ล้วนเป็นความจริง
กลับกันเมื่อศิษย์น้องเล็กหวนคืนสู่บ้านเกิด เขาต้องแบ่งสมาธิไปกับเรื่องมากมาย พูดถึงแค่สถานะของผู้ฝึกลมปราณ โดยเฉพาะกระบี่บินแห่งชะตาชีวิตทั้งหลายของสถานะผู้ฝึกกระบี่ก็กลายเป็นภาระที่ไม่เล็กแล้ว
ซิ่วไฉเฒ่าถลึงตาใส่
หลิวสือลิ่วรีบเอ่ยขออภัยอาจารย์ทันที “ข้าปากไม่ดีเอง”
ร่างของจิงเซิงซีผิงเปล่งวูบหายไป มาปรากฏตัวอยู่บันไดขั้นบนสุดของศาลบุ๋น เจ้าสองคนนี้ตีกันจะเอาแต่คิดว่ามีคนคอยเก็บกวาดซากเละเทะให้ พวกเจ้าสองคนก็เลยทำตัวซื่อบื้อไม่สนใจสิ่งใด ต้องรื้อถอนศาลบุ๋นที่อยู่ข้างหลังให้ได้ถึงจะยอมเลิกราไม่ได้กระมัง
ผู้ฝึกตนใหญ่ที่มาร่วมการประชุม มาร่วมวงความครึกครื้น ส่วนใหญ่ล้วนออกไปจากอาณาเขตศาลบุ๋นกันหมดแล้ว ต่างคนต่างกลับบ้าน ต่างคนต่างมีธุระให้ต้องไปทำ
ดังนั้นหลังจบเรื่องจึงมีผู้ฝึกตนบนยอดเขาจำนวนไม่น้อยที่เสียดายอย่างมากที่พลาดเรื่องครึกครื้นในคืนนี้ไป
ไหนเลยจะคิดได้ว่า การประชุมเสร็จสิ้นลงแล้ว นอกจากแผนการชั่วร้ายบนภูเขาที่เกิดขึ้นอย่างแปลกประหลาดจนทำให้คนอกสั่นขวัญผวา มีแต่จะทำให้คนยิ่งก้าวเท้าเดินจากไปอย่างรีบร้อน ผู้ฝึกตนห้าขอบเขตบนบางส่วนที่คิดว่าขอบเขตของตัวเองยังไม่สูงมากพอมีแต่จะเร่งให้เรือข้ามฟากออกไปจากสถานที่อันตรายแห่งนี้ คิดไม่ถึงว่าจะยังมีเรื่องสนุกใหญ่เทียมฟ้าเช่นนี้ให้ดูอีก? จะมีการถามหมัดที่ถูกคนรุ่นหลังเรียกขานว่า ‘การช่วงชิงเขียวขาว’ ครั้งนี้เกิดขึ้น
เฉาชุดขาว เฉินชุดเขียว
ปรมาจารย์ใหญ่อายุน้อยสองคนถึงกับเอาสวนกงเต๋อและศาลบุ๋นเป็นสถานที่ถามหมัด ออกหมัดเหมือนมังกร พลังอำนาจพุ่งทะยานดุจสายรุ้ง
แม้ว่าจิงเซิงซีผิงจะโมโหอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ถ่วงรั้งการชื่นชมการถามหมัดของผู้ไร้ขอบเขตท่านนี้ เขานั่งลงบนขั้นบันได หยิบเหล้าออกมาหนึ่งกา
เพราะถึงอย่างไรสามารถชมหมัดในระยะใกล้เช่นนี้เพียงลำพังได้ ก็ช่างเป็นโอกาสที่หาได้ยากยิ่งนัก
การประชุมของศาลบุ๋นสิ้นสุดลงก็ปิดประตูใหญ่ ในสวนกงเต๋อนอกจากกลุ่มของซิ่วไฉเฒ่าแล้ว อริยะปราชญ์ลัทธิขงจื๊อคนอื่นๆ ที่ต้องอยู่ต่ออีกสองสามวันก็ยังอยู่ห่างไปค่อนข้างไกล ส่วนท่าเรือทั้งสี่แห่ง สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งขุนเขาสายน้ำและผู้ฝึกลมปราณที่อยู่ในสถานที่อย่างอำเภอพ่านสุ่ย เกาะยวนยาง ต่อให้เซียนเหรินหรือซานจวินหูจวินสัมผัสได้ถึงความผิดปกติของที่แห่งนี้แล้วมองขุนเขาสายน้ำผ่านฝ่ามืออยู่ไกลๆ ไม่ต้องให้จิงเซิงซีผิงตั้งใจปิดบังอำพรางก็ไม่มีทางเห็นได้ชัดเจนอยู่แล้ว นี่เป็นเพราะปณิธานหมัดที่กระจายออกไปของเฉาสือและเฉินผิงอัน
บนลานกว้างของศาลบุ๋น
รุ้งยาวสีขาวเส้นหนึ่ง แสงสีเขียวเส้นหนึ่ง เนื่องจากการออกหมัดและการพลิกตัวของทั้งสองฝ่ายเร็วเกินไป จึงถักทอออกมาเป็นเส้นแสงเขียวขาวแถบใหญ่
ผู้ฝึกกระบี่ขอบเขตหยกดิบคนหนึ่งออกแรงเต็มกำลัง ก็ได้แต่ฟันลานกว้างหยกขาวให้เกิดเป็นร่องรอยเล็กน้อยเท่านั้น ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผู้ฝึกยุทธสองคนนี้ออกหมัดกันอย่างไรถึงกับสามารถทำให้ทุกหนทุกแห่งเป็นรอยปริแตก แล้วนี่ยังไม่ใช่ว่าจงใจออกหมัดต่อยลงบนพื้นด้วยซ้ำ จิงเซิงซีผิงที่มองดูอยู่จุ๊ปากเอ่ยชื่นชมไม่หยุด ใช้สิ่งนี้มาแกล้มเหล้า ดื่มอย่างมีรสชาติยิ่ง ผู้ฝึกยุทธขอบเขตสิบในใต้หล้าล้วนมีเรี่ยวแรงเหมือนมังกรเหมือนพญาคชสารเช่นนี้เลยหรือ?
หากเป็นเช่นนี้ ก่อนหน้านั้นตอนที่หลินจวินปี้แห่งราชวงศ์เส้าหยวนเมาหลับนอนกรนอยู่บนขั้นบันได เทียบกับผู้ฝึกยุทธสองคนนี้แล้วก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่เสียมารยาทอะไรเลย
เฉาสือออกหมัด ปราณแห่งเซียนลอยล่อง โดนหมัดต่อยไม่มาก ต่อให้ชุดขาวจะถูกชุดเขียวต่อยใส่ ส่วนใหญ่ก็มักจะลดทอนปณิธานหมัดทิ้งไปในทันที แต่บางครั้งที่เฉาสือโซซัดโซเซถอยไปสองสามก้าวก็เป็นเรื่องปกติอย่างมาก
เฉินผิงอันเองก็ออกหมัดได้ไม่เลว เปี่ยมไปด้วยพลังชีวิต ส่วนตอนที่โดนอัดนั้นก็มั่นคงดียิ่ง
ถึงกับไม่เคยล้มแล้วลุกไม่ขึ้นเลยสักครั้ง บ้างก็ใช้นิ้วบ้างก็ใช้ฝ่ามือบ้างก็ใช้ข้อศอกยันพื้น ก็สามารถลุกขึ้นมาได้แล้ว
อีกทั้งซีผิงยังเริ่มค่อยๆ ได้ข้อสรุปอย่างหนึ่ง เจ้าเฉินผิงอันผู้นี้ค่อนข้างจะหน้าไม่อายนะ หากหมัดเบาก็ไม่เท่าไร ต่อยโดนตรงจุดไหนบนร่างของเฉาสือก็ได้ทั้งนั้น แต่หากมีโอกาสได้ปล่อยหมัดหนักๆ จะต้องต่อยเข้าหน้าเฉาสือให้ได้ทุกหมัด
ดังนั้นรอกระทั่งทั้งสองฝ่ายทิ้งระยะห่างจากกันแล้ว คนทั้งสองก็แทบจะพ่นลมหายใจขุ่นมัวและเลือดขุ่นคลั่กออกมาพร้อมกัน ต่างคนต่างผลัดเปลี่ยนลมปราณแท้จริงที่บริสุทธิ์กันอย่างรวดเร็ว
เสื้อผ้าของเฉินผิงอันขาดวิ่น ทั่วร่างเหมือนอาบไปด้วยเลือด แต่ว่ารอให้ยืนได้นิ่งแล้วเรือนกายก็มั่นคงไม่สะท้านไหว ลมหายใจหนักแน่น
ส่วนเฉาสือกลับหน้าเขียวจมูกบวม ใบหน้าเต็มไปด้วยคราบเลือด
เฉาสือยื่นมือออกมาเช็ดหน้า พูดกลั้วหัวเราะอย่างฉุนๆ “เจ้าเป็นบ้าไปแล้วหรือไง?!”
เอาแต่จะต่อยหน้าคนอื่นท่าเดียว สนุกนักหรือ?
เฉินผิงอันใช้พายุปณิธานหมัดกระเทือนเสื้อผ้าเบาๆ เลือดสดอาบเต็มร่างเหมือนดอกไม้ผลิบาน เอ่ยอย่างเดือดดาลว่า “เจ้ามายุ่งอะไรด้วย?!”
ข้าผู้อาวุโสก็ต้องช่วยลูกศิษย์ใหญ่เปิดขุนเขากอบกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมาไม่ใช่หรือ?
ในศาลา ซิ่วไฉเฒ่าเป็นกังวลใจ รู้สึกสงสารยิ่งนัก ถามว่า “จวินเชี่ยน พอสมควรแล้วกระมัง?”
หลิวสือลิ่วส่ายหน้า “สำหรับทั้งสองฝ่ายแล้วนี่เพิ่งจะ…อุ่นมือกันเท่านั้นกระมัง กระบวนท่าหมัดมากมายที่เฉาสือคิดค้นขึ้นมายังมีข้อบกพร่องอยู่อีกไม่น้อย เขาเองก็ต้องการเอาศิษย์น้องเล็กมาเป็นหินลับเหมือนกัน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!