ทางฝั่งของหอถิงเจี้ยน เยี่ยนฉู่เอ่ยเสียงทุ้มหนัก “รออีกไม่ได้แล้ว! ข้าจะเป็นคนคุมค่ายกลใหญ่ของภูเขาบรรพบุรุษเอง”
เซี่ยหย่วนชุ่ยและเถาแยนโปต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย
เยี่ยนฉู่มองกลุ่มยอดเขาที่นอกเหนือจากยอดเขาอีเซี่ยนด้วยอารมณ์อันหนักอึ้ง อยู่ดีๆ ก็เอ่ยอย่างสะท้อนใจว่า “เหตุใดถึงกลายมาเป็นแบบนี้ได้นะ?”
วานรเฒ่าชุดขาวไม่พูดไม่จา แต่แล้วจู่ๆ ก็พลันถลึงตาทั้งคู่ จิตสังหารเข้มข้น ปราณชั่วร้ายพุ่งทะยานฟ้า เรือนกายกระโจนโผนจากพื้นดินจนหอถิงเจี้ยนทั้งหลังสะเทือนตามไปด้วย ทว่าผู้ถวายงานพิทักษ์ภูเขาตนนี้กลับไม่ได้ไปที่ยอดกระบี่ แต่ตรงไปที่ยอดเขาสะพายกระบี่แทน!
หากเลือกที่จะไม่มาร่วมงานพิธีเลย อย่างสำนักกระบี่หลงเฉวียน ศาลลมหิมะและภูเขาเจินอู่ ไม่ไว้หน้าภูเขาตะวันเที่ยงเลยแม้แต่น้อย
แต่ในเมื่อมาแล้วต่างก็เข้าพักในจวนของยอดเขาทั้งหลาย พอถึงเวลาเข้าจริงกลับจากไป นี่เป็นเรื่องที่ละเมิดกฎเกณฑ์แห่งขุนเขาสายน้ำอย่างยิ่ง เทียบกับการถามกระบี่สองครั้งจากหวงเหอและหลิวเสี้ยนหยางแล้วยิ่งไม่สอดคล้องกับกฎบนภูเขามากกว่า
ฉีเจินเทียนจวินแห่งสำนักโองการเทพคือผู้นำผู้ฝึกตนของหนึ่งทวีปในนาม และสำนักโองการเทพก็ตั้งอยู่ตรงชายแดนแคว้นหนันเจี้ยน ในฐานะผู้นำตระกูลเซียนมากมายของแจกันสมบัติทวีป แต่ไหนแต่ไรมาเขามักจะทำอะไรสุขุมรอบคอบอยู่เสมอ สำหรับบุญคุณความแค้นมากมายบนภูเขาก็ยิ่งไม่เคยลำเอียงเข้าข้างใคร สำนักโองการเทพไม่เพียงได้ครอบครองพื้นที่มงคลชิงถานเพียงลำพัง เจ้าสำนักฉีเจินก็ยิ่งควบตำแหน่งเจินจวินของสี่แคว้น ดังนั้นการจากไปของเรือลำที่เทียนจวินลัทธิเต๋าท่านนี้โดยสารอยู่จึงทำให้แขกทั้งหลายที่มาเยือนรู้สึกอกสั่นขวัญผวากันที่สุด เพราะด้วยวิชาอภินิหารของฉีเจินแล้ว คิดจะจากไปอย่างเงียบเชียบก็ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ฉีเจินกลับไม่ได้ทำเช่นนั้น
กระตุกผมเส้นเดียวสะเทือนทั้งร่าง พูดถึงแค่จักรพรรดิและเหล่าขุนนางสำคัญที่อยู่บนยอดเขาเพียนเซียน บวกกับการเตือนจากจิ้นชิงซานจวินแห่งขุนเขากลางก่อนหน้านี้ คนที่จากไปก็มีมากถึงครึ่งหนึ่งแล้ว
ผู้ที่มาร่วมแสดงความยินดีจากสำนักเจินจิ้งก็ยิ่งกลับไปกันหมด หลิวเหล่าเฉิงเจ้าสำนักขอบเขตเซียนเหรินกับเกาเหมี่ยนเจ้าประมุขผู้เฒ่าแห่งพรรคหมัดเทพไร้เทียมทาน สหายเก่าสองคนก็ยิ่งจับมือกันเดินทางจากไปไกล
หลิวจื้อเม่าสกัดคงคาเจินจวินที่เป็นผู้ถวายงานอันดับหนึ่ง หลี่ฝูฉวีผู้ถวายงานอันดับรองก็ยิ่งฉีกหน้าภูเขาตะวันเที่ยง ขุดมุมกำแพงบ้านพวกเขา ถึงกับพาหยวนป๋ายผู้ฝึกกระบี่จากไปภายใต้สายตาของคนมากมาย ส่วนหยวนป๋ายก็ป่าวประกาศว่าตนเองหลุดพ้นจากภูเขาตะวันเที่ยงแล้ว นอกจากนี้เทพภูเขาไฉ่จือจากภูเขาทายาทของขุนเขาใต้ เทพวารีแม่น้ำยงเจียง ต่างก็พาสิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งขุนเขาสายน้ำกลุ่มใหญ่ใต้บังคับบัญชาของตัวเองหดย่อพื้นที่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ยิ่งมีเจียวเฒ่าจากถ้ำเฟิงสุ่ยแม่น้ำเฉียนถังที่โดยสารเรือข้ามฟากลำหนึ่งซึ่งมาจากราชวงศ์ต้าสุย ติดตามเฉิงหลงโจวเจ้าขุนเขาของสำนักศึกษาต้าฝูที่ได้เลื่อนขั้นจากรองเจ้าขุนเขาสำนักศึกษาหลินลู่ภูเขาพีอวิ๋น จากไปพร้อมกัน
เฉาจวิ้นที่บอกว่าภูมิลำเนาของตัวเองมาจากตรอกหนีผิง เป็นคนบ้านเดียวกับหลิวเสี้ยนหยาง หลังจากที่ส่งกระบี่ใส่ยอดเขาฉงจือสามครั้ง คงยังรู้สึกไม่สาแก่ใจมากพอจึงแอบกลับมาที่อาณาเขตของภูเขาตะวันเที่ยง ไปยังยอดเขาเซียนเหรินสะพายกระบี่แล้วเรียกเอากระบี่บินแห่งชะตาชีวิตเล่มหนึ่งที่ผ่านการหล่อหลอมซ่อมแซมมานานหลายปีออกมา วนรอบตีนเขาสี่ด้านของยอดเขาสะพายกระบี่ พริบตาเดียวดอกบัวก็เบ่งบานทั่วทุกหนแห่ง จากนั้นเฉาจวิ้นก็ถือกระบี่พกไว้ในมือแล้วฟันจากบนลงล่าง แสงกระบี่เปล่งวาบตามวิถีโคจร ฟันยอดเขาสะพายกระบี่ที่ไม่มีคนเฝ้าพิทักษ์ออกเป็นสองส่วน มารดามันเถอะ ใครใช้ให้ปีนั้นบรรพจารย์ย้ายขุนเขาอย่างเจ้าเหยียบหลังคาบ้านบรรพบุรุษในตรอกหนีผิงของท่านปู่เฉาพังกันเล่า
หลังจากที่เฉาจวิ้นใช้กระบี่หนึ่งฟันภูเขาแล้วถึงได้ขี่กระบี่จากไปอย่างกร่างๆ อีกครั้ง ทิ้งประโยคหนึ่งไว้ว่า “ผู้ที่เปิดยอดเขา คือท่านปู่เฉาเอง!”
ภูเขาเมฆาเรืองที่มีความสัมพันธ์ไม่เลวกับภูเขาตะวันเที่ยง อาจารย์และศิษย์คู่หนึ่งเถียงกันไม่หยุด เซียนซือผู้เฒ่าเจ้าขุนเขาถึงกับคิดว่าลูกศิษย์ผู้สืบทอดคนนี้ถูกผีบังใจแล้วหรือไม่ ถึงได้ไม่บอกกล่าวสาเหตุเอาแต่โน้มน้าวให้ตนไปจากภูเขาตะวันเที่ยง ไม่ต้องเข้าร่วมงานพิธีแสดงความยินดีแล้ว เซียนซือผู้เฒ่าโมโหจนกลายเป็นขำ ถามไช่จินเจี่ยนว่ารู้หรือไม่ว่าหากทำเช่นนี้ก็เท่ากับว่าตัดขาดความสัมพันธ์ควันธูปทั้งหมดกับภูเขาตะวันเที่ยงแล้ว? หรือว่าเพียงแค่เพราะการถามกระบี่ของลูกศิษย์ผู้สืบทอดคนหนึ่งของสำนักกระบี่หลงเฉวียน จากนั้นก็มีกระบี่บินส่งข่าวที่มีปริศนาน่าสงสัยโผล่มาอีกหลายเล่ม ภูเขาเมฆาเรืองก็จะสละทิ้งทุกอย่างไม่ต้องการ กลายเป็นปรปักษ์กับภูเขาตะวันเที่ยงนับแต่นี้ไป?
บรรพจารย์หญิงก่อกำเนิดที่อายุน้อยที่สุดในบรรดาสิบสองยอดเขาของภูเขาเมฆาเรืองบอกว่าศิษย์รู้ดี แต่ก็เพราะว่าเหตุนี้ ถึงได้จำเป็นต้องไปจากสถานที่แห่งนี้
เจ้าขุนเขาผู้เฒ่าเป็นคนสุขุมรอบคอบ บอกว่าขอดูอีกหน่อย เพราะถึงอย่างไรก็ยังมีสกุลเจียงอวิ๋นหลิน เจียงซานวิญญูชนของสำนักศึกษาที่ยัง ‘สงบนิ่งไม่เคลื่อนไหว’ ต่างก็ยังอยู่บนยอดเขาหม่านเยว่
ไช่จินเจี่ยนพูดโน้มน้าวอาจารย์ผู้มีพระคุณแล้วแต่ไร้ผล นางจึงได้แต่จากไปเพียงลำพัง
ผลคือครู่หนึ่งต่อมา เซียนซือผู้เฒ่ากลับไล่ตามมาทันไช่จินเจี่ยน เพราะเมื่อครู่นี้เพิ่งจะได้รับจดหมายลับฉบับหนึ่งบอกว่าเฉาผิงทูตผู้ตรวจการของต้าหลีได้จากไปแล้ว ทิ้งไว้แค่รองเจ้ากรมพิธีการที่มาจากเมืองหลวงเท่านั้น
บนยอดเขาหม่านเยว่ เจียงซานเดินออกมาจากจวนที่พัก มาที่ศาลา ถึงได้สังเกตเห็นว่าเจียงอวิ้น เหวยเลี่ยงและฝูหนันหัวต่างก็จากไปแล้ว ทิ้งไว้เพียงน้องสาวที่ ‘เรือนกายอ้วนฉุ’ ของตนให้อยู่คนเดียวเท่านั้น
เจียงเซิงถาม “พี่ใหญ่ ท่านก็ได้รับจดหมายกระบี่บินแล้วหรือ?”
เจียงซานส่ายหน้า
เจียงเซิงถามอย่างสงสัยใคร่รู้ “เหวยเลี่ยงบอกว่าครั้งนี้มาที่นี่ก็เพื่อมาขอความรู้เรื่องศาสตร์การรื้อถอนกับผู้อื่น เขาพูดจาลึกลับยิ่งนัก ท่านรู้หรือไม่ว่าหมายความว่าอะไร?”
เจียงซานยื่นนิ้วชี้ไปยังเรือข้ามฟากของแต่ละฝ่ายที่พากันแล่นออกไปจากภูเขาตะวันเที่ยงแล้วเอ่ยอย่างจนใจว่า “นี่ก็ชัดเจนดีแล้วไม่ใช่หรือ?”
เจียงเซิงทำหน้าเหลอหรา “หา? ไม่ได้หมายถึงรื้อถอนศาลบรรพจารย์ของภูเขาตะวันเที่ยงหรอกหรือ? ข้ายังนึกว่าจะรื้อจนกลายมาเป็นบุปผาดอกหนึ่งเลยนะ”
กล่าวมาถึงตรงนี้ นางก็หัวเราะกับตัวเอง “ก่อนหน้านี้มีกระบี่บินพุ่งออกมาแน่นขนัดเหมือนบุปผาบานบนยอดเขา เป็นภาพที่งดงามอย่างยิ่ง”
ถึงอย่างไรแจกันสมบัติทวีปก็ไม่ใช่อุตรกุรุทวีป เรื่องอย่างการรื้อถอนศาลบรรพจารย์นี้ มีให้เห็นไม่บ่อยนัก
เจียงซานยื่นนิ้วมาขยี้หว่างคิ้ว เอ่ยว่า “ใช่แล้วก็ไม่ใช่”
เหวยเลี่ยง ไม่เปิดเผยตัวตนโจ่งแจ้ง แต่ก็เพราะคนผู้นี้ที่ตั้งกฎระเบียบขุนเขาสายน้ำของราชสำนักต้าหลีขึ้นมาอย่างลับๆ เองกับมือ สุดท้ายตั้งป้ายศิลาไว้บนยอดเขา ทำให้ผู้ฝึกตนบนภูเขาของทั้งทวีปต่างก็รู้จักที่จะเคารพกฎ ทำอะไรตามคำสั่ง
ส่วนหลิ่วชิงเฟิงที่รับหน้าที่เป็นเจ้ากรมพิธีการของเมืองหลวงแห่งที่สองของต้าหลีก็ยิ่งเป็นผู้ที่เรียบเรียงระดับขั้นทำเนียบวงศ์ตระกูลของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในหนึ่งทวีปของทุกวันนี้ขึ้นมา
พูดง่ายๆ ก็คือสองคนนี้ต่างก็ไม่ใช่คนท้องถิ่นของต้าหลี แต่กลับสามารถนั่งครองตำแหน่งขุนนางระดับสูงในราชสำนักต้าหลีได้ ดังนั้นต่างก็ถือว่าเป็น ‘ลูกศิษย์ผู้เป็นที่ภาคภูมิใจ’ ที่ราชครูชุยฉานให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษ ก็แค่ว่าเป็นลูกศิษย์ที่ไม่ได้รับการบันทึกชื่อเท่านั้น คนทั่วไปในวงการขุนางของต้าหลีย่อมไม่รู้เรื่องวงในระดับนี้
เจียงเซิงถาม “พี่ใหญ่ ในเมื่อท่านอยู่ต่อ ก็คงคิดว่าอีกเดี๋ยวจะไปร่วมงานพิธีที่ยอดเขาอีเซี่ยนสินะ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!