กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 823

เฉินผิงอันเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะส่ายหน้า แต่จากนั้นก็พยักหน้าอีก คลี่ยิ้มเจิดจ้า ให้คำตอบที่อยู่เหนือความคาดหมายของหลิวเสี้ยนหยางแต่กลับสมเหตุสมผล เป็นคำพูดที่เฉินผิงอันจะพูด เป็นเรื่องที่เฉินผิงอันจะทำได้จริงๆ

‘ปีนั้นมันเกือบฆ่าเจ้าตายเชียวนะ ดังนั้นนับตั้งแต่วันแรกที่ข้าเรียนหมัดก็เริ่มจดจำความแค้นแล้ว ข้าผู้อาวุโสจะต้องทำให้สัตว์เดรัจฉานตัวนั้นตายทั้งกายและใจให้จงได้!’

มรสุมลูกแล้วลูกเล่าถาโถม

เจ้าประมุขสกุลสวี่นครลมเย็น ผู้ฝึกตนสำนักการทหารขอบเขตหยกดิบผู้ยิ่งใหญ่ที่มีฝีมือครบทั้งรุกและรับ ถึงกับถูกหลิวเสี้ยนหยางมองแค่ปราดเดียวก็ถูกทำร้ายบาดเจ็บแล้ว กลิ่นอายความองอาจห้าวหาญ ความกล้าหาญมิกลัวตายของก่อนหน้านี้หมดสิ้นไม่มีเหลือ ต้องจากไปอย่างหม่นหมองพร้อมบาดแผล

เป็นเหตุให้ทั้งในและนอกภูเขาตะวันเที่ยงมีความคิดหนึ่งที่เหมือนกันโดยไม่ได้นัดหมาย

ใครเป็นคนประเมินคนรุ่นเยาว์สิบคนและตัวสำรองสิบคนของแจกันสมบัติทวีปกันนะ ยังมีตาอยู่ไหม? เหตุใดถึงไม่มีคนอย่างหลิวเสี้ยนหยางติดอันดับอยู่ด้วย?!

ส่วน ‘คนตาบอด’ ที่เป็นตัวการสำคัญอย่าง ‘เถียนหว่าน’ แห่งยอดเขาจูอวี๋นั้น เวลานี้กำลังยกเท้าข้างหนึ่งเหยียบลงบนเก้าอี้ยาวในเรือนหลังหนึ่งของยอดเขาสุ่ยหลง กำลังแทะปูดองเหล้าที่เหลืออีกครึ่งจาน คนที่ยืนอยู่ด้านข้างคือผู้ฝึกตนขอบเขตประตูมังกรที่ใกล้บ้าเต็มที ในฐานะลูกศิษย์ผู้เป็นที่ภาคภูมิใจของบรรพจารย์ผู้คุมกฎเยี่ยนฉู่ มีบทบาทสำคัญในการดูแลรายงานของหนึ่งภูเขา ต่อให้คิดจนหัวแตกก็ยังไม่เข้าใจว่าวันนี้บรรพจารย์หญิงผู้นี้เป็นอะไรกันแน่ เดี๋ยวก็เรียกตนว่า ‘พี่เทียนไฉ’ เดี๋ยวก็ชมตนว่าเป็น ‘ผู้มีพรสวรรค์เลิศล้ำ พันปีก็ยากจะพานพบ’ จากนั้นก็เริ่มพูดจาเหลวไหลเลื่อนเปื้อนไร้ต้นสายปลายเหตุ บอกว่าพี่หลิวท่านไม่ได้ติดอันดับ จะโทษข้าในอดีตไม่ได้นะ ไม่เป็นไร วันหน้าได้เจอกับพี่ใหญ่หลิวอีกครั้ง ข้าจะตบปากตัวเองสิบเจ็ดสิบแปดทีเป็นการขออภัยเอง

หลิวเสี้ยนหยางไม่ติดอันดับสิบคนรุ่นเยาว์ ดูเหมือนว่าจะเสียเปรียบในด้านอายุที่มากไปสักหน่อย แต่แท้จริงแล้วนี่เป็นการกระทำที่เกิดจากความตั้งใจของสตรีอย่างเถียนหว่านผู้นี้ คนที่ติดอันดับ อายุมากสุดคือสี่สิบปี ปีนั้นหลิวเสี้ยนหยางเพิ่งจะสี่สิบเอ็ดพอดี

โจวจื่อผู้เป็นศิษย์พี่ทำการประเมินคนรุ่นเยาว์สิบคนและตัวสำรองสิบคนของหลายใต้หล้าอยู่เบื้องหลัง

เถียนหว่านผู้เป็นศิษย์น้องจึงเอาเยี่ยงอย่าง จงใจเลือกช่วงเวลาที่หลิวเสี้ยนหยางอายุสี่สิบเอ็ดปี ถึงเพิ่งจะตั้งใจคัดเลือกรายชื่อคนที่ติดอันดับสองฉบับให้กับภูเขาตะวันเที่ยงอย่างมีจุดประสงค์ซ่อนเร้น

ผู้ฝึกตนที่ดูแลเรื่องรายงานข่าวของภูเขาตะวันเที่ยงถามเสียงสั่น “วันนี้บรรพจารย์เถียนมาที่นี่เพราะมีเรื่องจะปรึกษากับผู้เยาว์หรือ?”

เมื่อก่อนเขามักจะเรียกชื่อเถียนหว่านตรงๆ เสมอ ทว่าเถียนหว่านในวันนี้แทบไม่ต่างอะไรจากหญิงบ้า ทำให้เขาใจคอไม่ดี

เถียนหว่านเหลือบตามองเขาแวบหนึ่ง น้ำเสียงยังคงเป็นเสียงของนาง เพียงแต่ว่านับตั้งแต่สายตาไปจนถึงสีหน้ากลับไม่ปกติเอาเสียเลย “พี่เทียนไฉ รังเกียจที่จะดื่มหล้ากินปูร่วมโต๊ะกับข้าหรือ? ทำไม ดูแคลนกันแล้ว? เชื่อหรือไม่ว่าข้าจะวิ่งออกไปเสื้อผ้าไม่เรียบร้อย ตะโกนบอกว่าท่านละโมบในความงาม พอเมาเหล้าก็เกิดตัณหา ทำตัวไร้มารยาทกับข้า?”

ผู้ฝึกตนขอบเขตประตูมังกรคนนั้นจึงได้แต่นั่งลงอย่างหวาดเกรง รินเหล้าให้เถียนหว่านหนึ่งจอกอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน แล้วเอ่ยเตือนอย่างระมัดระวังว่า “บรรพจารย์เถียน เจ้าสำนักมีคำสั่ง พวกเราต้องไปที่ยอดเขาอีเซี่ยนแล้ว”

เห็นเพียงว่าเถียนหว่านพลันจีบมือเป็นท่าดรรชนีดอกกล้วยไม้ คลี่ยิ้มหวานหยาดเยิ้ม “จะรีบร้อนไปไย ดื่มเหล้าก่อนแล้วค่อยจากไปก็ยังไม่สาย”

ทำเอาเขาสะอิดสะเอียนแทบแย่

ทางฝั่งของหน้าประตูภูเขายอดเขาอีเซี่ยน เซียนกระบี่ชุดเขียวที่บอกว่ายินดีรออีกหนึ่งก้านธูปกวาดตามองไปรอบด้าน ยิ้มบางๆ เอ่ยว่า “หากอยู่ในกฎเกณฑ์ แต่ละคนสามารถทำเรื่องตามที่ตัวเองชื่นชอบได้”

หมี่อวี้เหลือบตามองยอดเขาฉงจือที่อยู่ใต้ฝ่าเท้า สตรีที่ยังอยู่ในภูเขาต่างก็เงยหน้ามองมาที่ตน ดวงตาแต่ละคู่นั้นชุ่มฉ่ำคล้ายสายน้ำในฤดูใบไม้ร่วง

หมี่อวี้โมโหไม่เบา แต่ละคนคิดว่าข้าผู้อาวุโสคือชายโสดที่กินไม่เลือกอย่างนั้นหรือ? ไม่ลองสืบข่าวมาบ้างเล่าว่าตอนอยู่บ้านเกิด การที่ชื่อเสียงของข้าผู้อาวุโสย่ำแย่ขนาดนั้น อย่างน้อยก็มีครึ่งหนึ่งที่เกิดจากความอิจฉาริษยาที่พวกชายโสดทั้งเด็กและแก่ทั้งหลายช่วยกันกระพือข่าว

ผู้ฝึกกระบี่เฒ่าอวี๋เยว่ได้ยินก็ให้ปิติยินดียิ่งนัก กำหมัดถูมืออย่างคึกคัก

หลังจากที่หลิ่วอวี้ออกมาจากยอดเขาฉงจือ นางก็ไม่ได้ติดตามอาจารย์ไปที่หอถิงเจี้ยนของภูเขาบรรพบุรุษโดยตรง แต่รีบทิ้งตัวดิ่งลงหน้าประตูภูเขาอีเซี่ยน ไปประคองอวี่หลิ่นที่ลมปราณอ่อนแอจึงเพิ่งจะฟื้นตื่นขึ้นมาอย่างเชื่องช้า หน้าผากนางเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ ถามเสียงสั่นว่า “เจ้าขุนเขาเฉิน พวกเราเดินไปได้หรือไม่?”

เฉินผิงอันพยักหน้า ยิ้มเอ่ยว่า “แน่นอน”

อวี่หลิ่นและหลิ่วอวี้ อันที่จริงต่างก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการถามกระบี่ครั้งนี้ คนทั้งสองก็แค่ถูกเซียนกระบี่ผู้เฒ่าอย่างพวกจู๋หวงจับโยนออกมา จงใจสร้างความสะอิดสะเอียนให้กับหลิวเสี้ยนหยางและสำนักกระบี่หลงเฉวียนเท่านั้น

แต่หลิ่วอวี้มีจิตใจที่ไม่เลวร้าย ทว่าอวี่หลิ่นที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้ไม่อาจนับได้ เพราะถูกชะตากับภูเขาตะวันเที่ยงมากจริงๆ ควรมาฝึกตนอยู่ที่นี่ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

เฉินผิงอันใช้เสียงในใจพูดคุยกับเจ้ายอดเขาหนุ่มของยอดเขาอวี่เจี่ยวว่า “แค่แสร้งทำท่าก็ยังทำได้ไม่เหมือน มิน่าเล่าถึงถูกขับออกมาจากสำนักกระบี่หลงเฉวียน วันหน้าอยู่ในภูเขาตะวันเที่ยงแห่งนี้ก็พยายามให้มากเข้าหน่อย เลียนแบบเอาอย่าง พยายามฝึกฝนให้ได้ขอบเขตก่อกำเนิดเสียก่อน จากนั้นค่อยออกกระบี่เอาอย่างเทพเจ้าแห่งโชคลาภเถา ผู้คุมกฎเยี่ยน ต่อมาเมื่อฝึกจนได้หยกดิบก็จะสามารถเอาอย่างบรรพจารย์ผู้เฒ่าเซี่ยได้แล้ว”

อวี่หลิ่นริมฝีปากสั่นระริก สีหน้าเขียวคล้ำ

ก่อนที่จะมาถึงวันนี้ ต่อให้เขาถูกหมิ่นเกียรติดูแคลนตอนอยู่สำนักกระบี่หลงเฉวียน แต่พอมาถึงภูเขาตะวันเที่ยง เขาก็ยังคงเป็นลูกรักแห่งสวรรค์ลำดับหนึ่ง ถึงขั้นที่ว่าได้เลื่อนขั้นเป็นโอสถทอง กลายเป็นเซียนกระบี่หนุ่มอายุสี่สิบปีคนหนึ่งแล้ว และยังได้เปิดยอดเขาอวี่เจี่ยว สามารถรับลูกศิษย์ผู้สืบทอด ผู้ฝึกกระบี่สายของยอดเขาอวี่เจี่ยวได้แตกกิ่งก้านสาขาไปนับแต่นี้ เต็มไปด้วยความหวัง และสักวันหนึ่งเขาก็จะต้องไปถามกระบี่ต่อสำนักกระบี่หลงเฉวียน ถามกระบี่ต่อภูเขาเสินเซิ่วให้จงได้!

เฉินผิงอันหันหน้ามายิ้มเอ่ย “ยังไม่ไปอีกหรือ? ตอนเดินไป จำไว้ว่าต้องแสดงละครให้ถึงที่สุด ไม่อย่างนั้นหากทำท่ากระโดดโลดเต้นมีชีวิตชีวา ทั้งๆ ที่มีเรี่ยวแรงถามกระบี่แต่กลับไม่ยอมถามกระบี่ วันหน้าชื่อเสียงจะไม่ฉาวโฉ่แย่หรอกหรือ? จะกลายเป็นว่าแม้แต่ที่ภูเขาตะวันเที่ยงแห่งนี้ก็จะอยู่ไม่ได้เอานะ”

สำหรับผู้ฝึกตนของฝ่ายต่างๆ ในแจกันสมบัติทวีปที่ไม่ต้องมาข้องเกี่ยวกับเรื่องครั้งนี้ วันนี้เพียงแค่ชมเรื่องสนุกอยู่ไกลๆ ก็เต็มอิ่มแล้ว อิ่มจนเกือบจะท้องแตกตายแล้วด้วยซ้ำ

อันดับแรกก็เป็นหวงเหอเจ้าสวนลมฟ้าที่ปรากฏตัวตรงท่าเรือป๋ายลู่ ส่งกระบี่อยู่ไกลๆ หนึ่งครั้ง แสงกระบี่ก็กระจัดกระจายออกไปหล่นลงตามยอดเขาทั้งหลายในเวลาเดียวกัน ราวกับว่าเป็นการเปิดฉากให้กับคนนอกที่มาร่วมงานของภูเขาตะวันเที่ยง ช่วยเปิดฤกษ์อันดีให้กับงานพิธีของวันนี้

เดิมทีได้เห็นภาพเหตุการณ์นี้ก็ถือว่ามาไม่เสียเที่ยวแล้ว ต่อให้เป็นพวกผู้ฝึกตนอิสระแห่งป่าเขาที่ไม่อาจไปนั่งลงดื่มเหล้าบนยอดเขาอีเซี่ยนก็ยังถือว่ามาเยือนอาณาเขตของภูเขาตะวันเที่ยงอย่างไม่เสียเปล่า

เหล้าหมักตระกูลเซียนในงานเลี้ยงคือเหล้า เหล้าในหมู่ชาวบ้านก็เป็นเหล้าเหมือนกัน ราคาไม่เหมือนกัน หนึ่งคือดื่มเงินเทพเซียน แต่อีกหนึ่งก็สามารถดื่มความครึกครื้นได้จนเกินพอเหมือนกัน

จากนั้นก็มีหลิวเสี้ยนหยางผู้ฝึกกระบี่ผู้สืบทอดของสำนักกระบี่หลงเฉวียนมาปรากฏตัวที่หน้าประตูภูเขาของภูเขาบรรพบุรุษ การถามกระบี่แต่ละครั้งเกิดเรื่องไม่คาดฝันติดกันต่อเนื่อง ทำให้คนนอกรู้สึกเพียงว่าไม่อาจกะพริบตาได้เลย ในใจรู้สึกเสพติดความรู้สึกนี้ หลิ่วอวี้แห่งยอดเขาฉงจือ อวี่หลิ่นแห่งยอดเขาอวี่เจี่ยว ผีหญิงแห่งยอดเขาหม่านเยว่ ต่างคนต่างรับกระบี่ ผลคือก็ยังไม่อาจสกัดขวางฝีเท้าในการเดินขึ้นเขาของหลิวเสี้ยนหยางได้ ไม่เพียงเท่านี้ ค่ายกลกระบี่สองแห่งจากยอดเขาโปอวิ๋นและยอดเขาเพียนเซียน เมื่อเผชิญหน้ากับการถามกระบี่ของหลิวเสี้ยนหยางกลับไม่ต่างอะไรจากกระดาษเปียก มิอาจต้านทานการโจมตีได้เลย หลังจากนั้นผู้ฝึกกระบี่สองกลุ่มจากภูเขาชิวลิ่งและยอดเขาสุ่ยหลงก็ยิ่งบาดเจ็บล้มตายกันไปหนักกว่า คนที่ขอบเขตถดถอยก็ขอบเขตถดถอย คนที่กระบี่หักก็กระบี่หัก และยังมีศพของผู้ฝึกกระบี่ขอบเขตประตูมังกรคนหนึ่งที่ยิ่งถูกหลิวเสี้ยนหยางโยนทิ้งไว้ตรงตีนเขาด้านหลังตัวเอง

อีกทั้งไม่ว่าใครก็คาดไม่ถึงว่าเซียนกระบี่หนุ่มที่เมื่อก่อนไร้ชื่อเสียงอยู่ในแจกันสมบัติทวีปคนนี้ ไม่เพียงแต่เดินขึ้นเขาสำเร็จ ไม่มีใครสามารถขัดขวางเขาได้ แม้แต่เซียนกระบี่ผู้เฒ่าสามคนที่รับผิดชอบเฝ้าหอถิงเจี้ยนก็ยังไม่อาจขัดขวางการเดินขึ้นสู่ยอดเขาสูงของหลิวเสี้ยนหยาง ถึงขั้นที่ว่าแม้แต่เซียนกระบี่ผู้เฒ่าแห่งยอดเขาหม่านเยว่ที่ชื่อเสียงคุณธรรมดีงามอย่างเซี่ยหย่วนชุ่ยก็ยังมีสภาพไม่ต่างจากอวี่หลิ่น ถึงกับถูกหลิวเสี้ยนหยางลากขึ้นไปบนยอดกระบี่

ในช่วงเวลาระหว่างนี้ก็ราวกับว่าเกิดการขานรับกับการถามกระบี่พวกนี้อยู่ไกลๆ เรือข้ามฟากตระกูลเซียนลำแล้วลำเล่า ผู้ฝึกตนบนยอดเขาคนแล้วคนเล่า ต่างทยอยกันไปจากอาณาเขตของภูเขาตะวันเที่ยง บ้างก็เปิดเผย บ้างก็เงียบเชียบ

ใต้หล้ามีการร่วมงานพิธีเช่นนี้ด้วยหรือ?

ผู้ฝึกยุทธเต็มตัว เซียนกระบี่แต่ละท่าน ต่างก็ทะยานลมหยุดลอยอยู่กลางอากาศสูง แยกกันอยู่ตามยอดเขาทั้งหลาย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!