กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 842

ไม่มีเสียง​ใน​ใจของ​หนิง​เหยา​ตอบ​กลับมา​

เฉิน​ผิง​อัน​จึงได้​แต่กลับ​ไป​ที่​โรงเตี๊ยม​อี​กรอบ​ เพียงแต่ว่า​เพิ่งจะ​เดิน​ไป​ถึงหน้า​ประตู​บ้าน​ก็​ได้ยิน​เสียง​ถามของ​หนิง​เหยา​ตอบ​กลับมา​แล้ว​ “มีอะไร​หรือ​?”

เฉิน​ผิง​อัน​กล่าว​ “วันนี้​ข้า​จะอยู่​ที่นี่​ก่อน​นะ​ พรุ่งนี้​เช้าพวกเรา​ค่อย​ไปดู​การ​ประลอง​ขอ​งอ​วี๋หง​กับ​โจว​ไห่​จิ้งด้วยกัน​?”

หนิง​เหยา​บอ​กว่า​ไม่มีปัญหา​ เฉิน​ผิง​อัน​พลัน​นึก​ขึ้น​ได้​ หาก​ตน​ไม่อยู่​ที่นี่​ กลับ​ไป​โรงเตี๊ยม​ก็​จะอยู่​ต่อ​ได้​แล้ว​หรือ​? เขา​รู้สึก​กลัดกลุ้ม​นิดๆ​ จึงเดิน​เข้าไป​ใน​ตรอก​ ไป​ที่​ลาน​ประกอบ​พิธีกรรม​หยก​ขาว​เพื่อ​คุย​เล่น​กับ​อาจารย์​และ​ศิษย์​คู่​นั้น​สัก​สอง​สามประโยค​ เด็กหนุ่ม​จ้าวต​วน​หมิง​เพิ่งจะ​โคจร​ลมปราณ​แบบ​มหา​จักรวาล​เสร็จ​ไป​หนึ่ง​รอบ​ จึงกำลัง​ฝึก​วิชา​หมัด​เท้า​ที่​ทำให้​คน​มอง​รู้สึก​แสบตา​ ผู้ฝึก​ตน​เฒ่านั่ง​อยู่​บน​เบาะ​รอง​นั่ง​ เฉิน​ผิง​อัน​นั่ง​ยอง​อยู่​ด้าน​ข้าง​ ขอ​ถั่วลิสง​ห้า​รส​มาจาก​เด็กหนุ่ม​กำ​มือหนึ่ง​ หลิว​เจีย​ถามว่า​ “ไป​เกี่ยวข้อง​กับ​ศาล​หง​หลู​ได้​อย่างไร​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​ตอบ​ “ข้า​มีลูกศิษย์​คน​หนึ่ง​ชื่อ​เฉาฉิงหล่า​ง คงจะ​เคย​ได้ยิน​ชื่อ​กระมัง​?”

หลิว​เจีย​คิด​แล้วก็​ถามว่า​ “ปั้งเหยี่ยนคน​ใหม่​น่ะ​หรือ​?”

เฉิน​ผิง​อัน​อืม​รับ​หนึ่ง​ที​ “เฉาฉิงหล่า​งกับ​สวิน​ซวี่​ปัน​ของ​ศาล​หง​หลู​เป็น​สหาย​สอบ​ร่วม​สนาม​กัน​ ได้​รู้จัก​กัน​ตอนที่​เข้า​เมืองหลวง​มาร่วม​การ​สอบ​ระดับ​มณฑล​ช่วง​ฤดูใบไม้ผลิ​ด้วยกัน​ มีความสัมพันธ์​ที่​ไม่เลว​”

หลิว​เจีย​ถามอย่าง​คลางแคลง​ “แล้ว​เหตุใด​ลูกศิษย์​ของ​เจ้าถึงเป็น​แค่​ปั้งเหยี่ยน​ ไม่ได้​เป็น​จ้วง​หยวน​หลา​งล่ะ​?”

เฉิน​ผิง​อัน​คร้าน​จะพูดจา​ไร้สาระ​ เพียงแค่​เหล่​ตา​มอง​ผู้ฝึก​ตน​เฒ่า โยน​เปลือก​ถั่ว​ทิ้ง​ไว้​บน​พื้น​

จ้าวต​วน​หมิง​ที่​ร้อง​ฮื่อ​ฮ่าพลาง​ปล่อย​หมัด​ไป​ด้วย​ตะโกน​ขึ้น​มา “อาจารย์​ ท่าน​ไม่รู้​อะไร​ ข้า​เคย​ได้ยิน​ท่าน​ปู่​เล่า​ว่า​ เค​อจวี่​รุ่น​ของ​เฉาปั้งเหยี่ยน​นั้น​มีแต่​คน​มาก​ความสามารถ​ โชคชะตา​บุ๋น​โชติช่วง​ อย่า​ว่าแต่​ปั้งเหยี่ยน​ ทั่น​ฮวา​สอง​คน​อย่าง​เฉาฉิงหล่า​งกับ​หยาง​ซ่วง​เลย​ ต่อให้​เป็น​เม่าหลิน​หลา​งอันดับ​แรก​ๆ ใน​กลุ่ม​ของ​จิ้น​ซื่อ​ระดับ​สอง​ หาก​เป็น​ใน​อดีต​ คิด​จะคว้า​ตำแหน่ง​จ้วง​หยวน​มาก​็ยัง​ไม่ยาก​”

หลิว​เจีย​พูด​ชวน​คุย​ “ทุกๆ​ สามปี​เมืองหลวง​จะมีการ​สอบ​ระดับ​มณฑล​หนึ่ง​ครั้ง​ แต่ละครั้ง​ก็​ยัง​เน้น​สามอันดับ​ของ​ขั้นแรก​เหมือนกัน​ไม่ใช่หรือ​ ไม่มีอะไร​น่าแปลกใจ​ หาก​ถามข้า​ ใน​เมื่อ​ไม่ได้​ตำแหน่ง​จ้วง​หยวน​มาก็​ไม่สู้สอบ​ได้​ตำแหน่ง​ทั่น​ฮวา​ ยัง​จะสามารถ​ขี่ม้า​ชมเมือง​ไป​พร้อมกับ​จิ้น​ซื่อ​ที่​อายุ​น้อยที่สุด​ได้​ด้วย​ มีหน้ามีตา​จะตาย​ไป​ หาก​ข้า​จำไม่ผิด​ล่ะ​ก็​ ปี​นั้น​หยาง​ซ่วง​อายุ​สิบ​แปด​ปี​ เจ้าหนู​อีก​คน​ตอนนั้น​ก็​เพิ่งจะ​อายุ​สิบห้า​ปี​? แล้ว​ตอนนั้น​เฉาฉิงหล่า​งลูกศิษย์​ของ​เจ้าอายุ​เท่าไร​ล่ะ​? ยี่สิบ​แล้ว​กระมัง​?”

เฉิน​ผิง​อัน​หัวเราะ​ร่า​ตอบ​ “ปี​นี้​เซียน​ซือ​ผู้เฒ่า​หลิว​อายุ​เท่าไร​หรือ​?”

หลิว​เจีย​ลูบ​หนวด​ยิ้ม​ “หาก​ตอน​เป็น​เด็กหนุ่ม​ข้า​เข้าร่วม​สอบ​เค​อจวี่​ ขี่ม้า​ชมบุปผา​ (ชมบุปผา​ภาษาจีน​คือ​ทั่น​ฮวา​ คำ​เดียว​กับ​ตำแหน่ง​ทั่น​ฮวา​ บัณฑิต​อันดับ​สามของ​การ​สอบ​) ต้อง​เป็น​ของ​ข้า​อย่าง​แน่นอน​”

พอ​เฉิน​ผิง​อัน​ออก​ไป​จาก​สถาน​ประกอบ​พิธีกรรม​หยก​ขาว​ เด็กหนุ่ม​ก็​เอ่ย​เสียง​เบา​ “อาจารย์​ เฉาฉิงหล่า​งผู้​นั้น​ร้ายกาจ​มาก​ ตอนที่​ท่าน​ปู่​ของ​ข้า​คุย​กับ​สหาย​เก่า​ในกรม​พิธีการ​เป็นการ​ส่วนตัว​ยัง​เคย​พูดถึง​เขา​เป็นพิเศษ​ บอ​กว่า​เรื่อง​ของ​เศรษฐกิจ​และ​การ​เตรียม​กำลัง​รบ​ เฉาฉิงหล่า​งได้รับ​การ​ยอมรับ​ว่า​คำตอบ​ใน​ข้อสอบ​ของ​เขา​คือ​อันดับ​หนึ่ง​ ขุนนาง​ผู้ตัดสิน​หลัก​ของ​เมืองหลวง​สำรอง​สอง​ท่าน​กับ​อาจารย์​ผู้คุม​สอบ​อีก​สิบ​กว่า​ท่าน​ยัง​ตั้ง​ใจมาอ่าน​กระดาษ​คำตอบ​ของ​เขา​โดยเฉพาะ​ด้วย​”

หลิว​เจีย​ยิ้ม​กล่าว​ “เหลวไหล​ ข้า​หรือ​จะไม่รู้​ว่า​เฉาฉิงหล่า​งผู้​นั้น​ไม่ธรรมดา​? อาจารย์​ก็​แค่​แกล้ง​ให้​เฉิน​ผิง​อัน​โมโห​เล่น​เท่านั้น​ มีเผย​เฉียน​เป็น​ลูกศิษย์​ใหญ่​เปิด​ขุนเขา​แล้ว​ยัง​ไม่รู้จัก​พอ​ ยัง​จะมีลูกศิษย์​ผู้​เป็นที่​ภาคภูมิใจ​ที่​สอบ​ติด​ปั้งเหยี่ยน​อีก​ มาทำตัว​หน้า​เหม็น​โอ้อวด​อะไร​กับ​ข้า​กัน​”

จ้าว​ตวน​หมิง​เอ่ย​อย่าง​ระมัดระวัง​ “อาจารย์​ วันหน้า​ตอนดึก​ๆ เวลา​ท่าน​เดิน​ตอนกลางคืน​ต้อง​ระวัง​ให้​มาก​นะ​ ข้า​เคย​ได้ยิน​พี่ใหญ่​เฉิน​บอ​กว่า​รอง​เจ้ากรม​จ้าว​ของ​กรม​อาญา​ถูก​เอา​ไป​แขวน​ไว้​บน​ต้นไม้​ด้วย​ล่ะ​”

ผู้ฝึก​ตน​เฒ่าได้ยิน​แล้ว​หนังตา​ก็​สั่น​ระริก​ จับ​รอง​เจ้ากรม​ของ​เมืองหลวง​คน​หนึ่ง​ไป​ห้อย​ไว้​บน​ต้นไม้​? หลิว​เจีย​เอ่ย​อย่าง​อัดอั้น​ “จ้าว​เหยา​แห่ง​กรม​อาญา​? เขา​เป็น​คน​บ้าน​เดียว​กับ​เฉิน​ผิง​อัน​ไม่ใช่หรือ​ แล้ว​ยัง​เป็น​บัณฑิต​สาย​บุ๋น​เดียวกัน​ด้วย​ พวกเขา​ไม่ถูกกัน​หรือ​? คง​ไม่ถึงขั้น​นั้น​กระมัง​ ก่อนหน้านี้​ไหน​เจ้าบอ​กว่า​จ้าว​เหยา​ยัง​เป็น​ฝ่าย​มาหา​เฉิน​ผิง​อัน​ที่นี่​ด้วยตัวเอง​ไงล่ะ​? นี่​เป็นเรื่อง​ที่​ละเมิด​กฎ​ของ​วงการ​ขุนนาง​อย่าง​มาก​เลย​นะ​”

จ้าวต​วน​หมิง​พยักหน้า​ “นั่นสิ​ มอง​ดูเหมือน​ความสัมพันธ์​ของ​พวกเขา​จะไม่แย่​นะ​ แล้ว​ยังมี​ความสัมพันธ์​ใน​ชั้น​อาจารย์​อา​กับ​ศิษย์​หลาน​อยู่​ด้วย​ สนิท​กับ​พี่ใหญ่​เฉิน​เหมือน​พวกเรา​สอง​คน​นี่แหละ​ เพราะฉะนั้น​อาจารย์​ท่าน​ถึงต้อง​ระวัง​อย่างไรเล่า​”

หลิว​เจีย​พูด​เสียง​ขุ่น​ “แล้ว​เจ้าไม่บอก​ตั้งแต่แรก​?”

เด็กหนุ่ม​เอ่ย​อย่าง​น้อยใจ​ “อาจารย์​เมื่อครู่นี้​ท่าน​พูดจา​น่าฟัง​ติดต่อกัน​ ใน​คำพูด​ซ่อน​คำพูด​ดุจ​สำลี​ซ่อน​เข็ม​ ข้า​ฟังแล้ว​เพลิดเพลิน​นัก​ ตัดใจ​ขัดจังหวะ​ท่าน​ไม่ลง​นี่​นา​”

ผู้ฝึก​ตน​เฒ่าเหลือบมอง​เปลือก​ถั่ว​บน​พื้น​ข้าง​เบาะ​รอง​นั่ง​ ยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “ตวน​หมิง​อ่า​ พรุ่งนี้​เจ้าต้อง​ไปดู​คน​ประลอง​กัน​กับ​ผี​ขี้เหล้า​เฉาไม่ใช่หรือ​ พา​พี่ใหญ่​เฉิน​เจ้าไป​ด้วยกัน​สิ ช่วย​หา​ที่นั่ง​ดี​ๆ ให้​เขา​หน่อย​”

จ้าวต​วน​หมิง​กลอกตา​มอง​บน​ “พี่ใหญ่​เฉิน​ต้องการ​ให้​ข้า​ช่วย​เสีย​ที่ไหน​ คน​เขา​มีป้าย​สงบสุข​ที่​กรม​อาญา​แจกจ่าย​ให้​อยู่​นะ​”

ผู้ฝึก​ตน​เฒ่าบ่น​อย่าง​ไม่พอใจ​ “จะดี​จะชั่ว​ก็​เป็น​น้ำใจ​ แค่นี้​ก็​ยัง​ไม่เข้าใจ​หรือ​? เสียแรง​ที่​เจ้าเป็น​ลูกหลาน​ขุนนาง​ ถูก​ฟ้าผ่า​จน​โง่แล้ว​หรือ​ไร​?”

จ้าวต​วน​หมิง​ร้อง​อ้อ​หนึ่ง​ที​ แล้ว​ฝึก​กระบวนท่า​วร​ยุทธ​ที่​เรียนรู้​มาด้วยตัวเอง​ต่อไป​ ไม่รู้​ว่า​จะสามารถ​รับ​หมัด​ครึ่ง​หมัด​ของ​ปรมาจารย์​ใหญ่​ด้าน​การ​ฝึก​ยุทธ​อย่าง​พวก​อวี๋หง​ โจว​ไห่​จิ้งได้​หรือไม่​?

วัน​ต่อมา​ บริเวณ​ใกล้เคียง​กับ​ศาล​เทพ​อัคคี​ กำลังจะ​มีการ​ถามหมัด​บน​ยอดเขา​ที่​ชื่อเสียง​ขจร​ขจาย​ไกล​เกิดขึ้น​

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!