กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 847

คน​ที่​ปรากฏตัว​ก่อน​ใคร​คือ​ฉีถิงจี้ เซียน​กระบี่​ผู้อาวุโส​ที่​มีใบหน้า​อ่อนเยาว์​ทั้ง​ยัง​หล่อเหลา​อย่างยิ่ง​ รวมไปถึง​ลู่​จือ​ที่​เรือน​กาย​สูงโปร่ง​แต่กลับ​มีโฉมหน้า​ธรรมดา​สามัญ

เฉิน​ผิง​อัน​ลืมตา​ขึ้น​

ฉีถิงจี้เหลือบตา​มอง​ผู้ฝึก​ตน​ที่​รู้สึก​เหมือน​วัวสันหลังหวะ​พวก​นั้น​ ยิ้ม​ถามว่า​ “เกิด​อะไร​ขึ้น​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​กล่าว​ “อยาก​จะเอา​เศษหิน​บน​หัว​กำแพงเมือง​กลับ​ไป​ ข้า​เลย​ขวาง​ไว้​แล้ว​สั่งสอน​ไป​รอบ​หนึ่ง​”

ฉีถิงจี้กับ​ลู่​จือ​มอง​ไป​ยัง​เว่ย​จิ้น​และ​เฉาจวิ้น​แทบจะ​เวลา​เดียวกัน​ ส่วน​เซียน​ซือ​ทำเนียบ​วงศ์ตระกูล​ที่​เส้นเอ็น​หัวใจ​ขึง​ตึง​ทั้งหลาย​เหล่านั้น​ คร้าน​จะมอง​แม้แต่​หาง​ตา​

เว่ย​จิ้น​ไม่รู้สึกรู้สา​ใดๆ​ ทั้งสิ้น​

เฉาจวิ้น​ที่​เป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​ขอบเขต​ก่อกำเนิด​เล็ก​ๆ คน​หนึ่ง​กลับ​ไม่มีความกล้าหาญ​เช่นนี้​แล้ว​

ฉีถิงจี้ที่​เป็น​เจ้าประมุข​สกุล​ฉีของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ เวท​กระบี่​เป็น​อย่างไร​ ตัวอักษร​ที่​แกะสลัก​ไว้​บน​กำแพง​ตัว​นั้น​ยัง​ตั้ง​วาง​อยู่​ตรงนั้น​

ส่วน​ลู่​จือ​ นี่​คือ​สตรี​ที่​กล้า​ไล่ตาม​ไป​ดัก​สังหาร​หลิว​ชาไม่ให้​มุ่งหน้า​ไป​ยัง​ฝูเหยา​ทวีป​เพียงลำพัง​เชียว​นะ​

ฉีถิงจี้ยืน​อยู่​ข้าง​กาย​เฉิน​ผิง​อัน​ เหลือบตา​มอง​แผ่น​หลัง​ของ​คน​กลุ่ม​นั้น​ ยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ “คน​รุ่นเยาว์​นี่​นะ​ จะทำผิด​บ้าง​ก็​เป็นเรื่อง​ที่​หลีกเลี่ยง​ไม่ได้​ ชาติหน้า​ก็​สามารถ​ระมัดระวัง​ให้​มาก​อีกหน่อย​ได้​”

ลู่​จือ​ยิ่ง​ไม่พูดจา​เหลวไหล​ เงยหน้า​มอง​เฮ้อ​โซ่วอ​ริ​ยะ​ลัทธิ​ขงจื๊อ​ที่นั่ง​บัญชา​การณ์​ม่าน​ฟ้าโดยตรง​ ขอ​แค่​ฉีถิงจี้ลงมือ​ฟัน​คน​ นาง​ก็​จะรับผิดชอบ​ขัดขวาง​เฮ้อ​โซ่ว​ให้​เอง​

เจี่ย​เสวียน​และ​จู้ย่วน​ที่​ยัง​เดิน​จากไป​ได้​ไม่ไกล​รู้สึก​เหมือน​หล่น​ลง​ไป​ใน​หลุม​น้ำแข็ง​ ถึงกับ​ก้าว​ขา​ไม่ออก​แม้แต่​ก้าว​เดียว​

รู้สึก​เพียง​ว่า​หาก​ตน​เดิน​เพิ่ม​อีก​หนึ่ง​ก้าว​ก็​เท่ากับ​เป็นการ​ถามกระบี่​ต่อ​เซียน​กระบี่​สอง​ท่าน​นั้น​

เฉิน​ผิง​อัน​สอด​สอง​มือ​ไว้​ใน​ชาย​แขน​เสื้อ​ ส่ายหน้า​ “ข้า​อธิบาย​เหตุผล​ไป​แล้ว​”

ฉีถิงจี้ยิ้ม​กล่าว​ “ถ้าอย่างนั้น​ก็​เอา​ตามที่​อิ่น​กวาน​ว่า​”

ลู่​จือ​รู้สึก​ไม่พอใจ​ใต้เท้า​อิ่น​กวาน​อยู่​บ้าง​ จึงแค่น​เสียง​เย็นชา​ “ก็​มีแต่​เจ้านี่แหละ​ที่​พูด​ง่าย​ที่สุด​ ฟัน​คนตาย​ไป​ เจ้าก็​อธิบาย​เหตุผล​ไม่ได้​แล้ว​หรือ​?”

เฉิน​ผิง​อัน​เพียงแค่​โยน​เหล้า​หมัก​ร้อย​บุปผา​ไป​ให้​นาง​หนึ่ง​กา​

ลู่​จือ​รับ​เหล้า​ร้อย​บุปผา​มา นั่ง​ยอง​บน​หัว​กำแพง​ แหงนหน้า​กระดก​ดื่ม​สุรา​เลิศ​รส​

เฉาจวิ้น​ฟังด้วย​อาการ​ชาไป​ทั้ง​หนัง​หัว​

เซียน​กระบี่​อย่าง​ฉีถิงจี้ ลู่​จือ​นี้​ ดูแคลน​ที่จะ​จงใจพูดจา​อาฆาตมาดร้าย​ ใช้คำพูด​ปลุกปั่น​ให้​คน​หวาดกลัว​จริงๆ​

คาด​ว่า​ก่อน​จะฟัน​คน​ เอ่ย​เตือน​ไป​ก่อน​คำ​หนึ่ง​ก็​คง​ถือว่า​ไว้หน้า​มาก​พอแล้ว​?

เฉิน​ผิง​อัน​ใช้เสียง​ใน​ใจพูด​กับ​พวก​คน​ที่​ยืน​อึ้ง​อยู่กับที่​ไม่กล้า​ขยับเขยื้อน​ “อย่า​ยืน​บื้อ​อยู่เลย​ รีบ​กลับบ้าน​พวก​เจ้าไป​เถอะ​”

แต่ละคน​รู้สึก​เหมือน​ได้รับ​อภัยโทษ​ พา​กัน​ทะยาน​ลม​ออก​ไป​จาก​หัว​กำแพงเมือง​

เฉิน​ผิง​อัน​ชูแขน​ขึ้น​ส่งเหล้า​กา​หนึ่ง​ไป​ให้​ฉีถิงจี้ ถามชวน​คุย​ว่า​ “ทาง​ฝั่งของ​กุย​ซวี​รื่อ​จุ้ย​ กองทัพ​ชายแดน​ต้า​หลี​มีคน​มาถึงกี่​คน​แล้ว​?”

ฉีถิงจี้ค้อม​เอว​ลง​ไป​รับ​กา​เหล้า​มา คิด​แล้วก็​ทรุดตัว​ลง​ไป​นั่งขัดสมาธิ​เสีย​เลย​ ตอบ​ว่า​ “ตอนนี้​มีสามแสน​หก​หมื่น​นาย​ ใน​บรรดา​นั้น​มีทหารม้า​ติดอาวุธ​หนัก​สอง​หมื่น​นาย​ ทหารม้า​ติดอาวุธ​เบา​สอง​แสน​นาย​ พล​ทหารราบ​กลับ​มีไม่มาก​ ส่วน​จำนวน​ของ​ผู้ฝึก​ตน​ติดตาม​กองทัพ​ ทาง​ฝั่งของ​ต้า​หลี​ไม่ได้​ป่าวประกาศ​ให้​คนนอก​รู้​”

เฉิน​ผิง​อัน​เอ่ย​อย่าง​ตกตะลึง​ “มีมาก​ขนาด​นี้​แล้ว​หรือ​?”

สนามรบ​ที่​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ยาก​ที่จะ​ใช้สงคราม​เลี้ยง​สงคราม​ได้​อีก​ ในอนาคต​หาก​แนว​เส้น​การ​สู้รบ​ถูกลาก​ยาว​ออก​ไป​ การเผาผลาญ​ทรัพยากร​ของ​เสบียง​ทัพ​ย่อ​มมาก​เกิน​กว่า​จะประมาณการณ์​ โชคดี​ที่​วัตถุ​ฟางชุ่น​และ​วัตถุ​จื่อ​ชื่อ​ของ​ผู้ฝึก​ตน​บน​ภูเขา​ล้วน​ถูก​ศาล​บุ๋น​และ​ราชวงศ์​ใหญ่​แห่ง​ต่างๆ​ ‘เช่ายืม​’ มาเป็น​จำนวนมาก​ เพียงแต่​ไม่รู้​ว่า​ได้มา​จำนวน​เท่าไร​

ฉีถิงจี้กล่าว​ “ได้ยิน​มาว่า​หลังจากนี้​จะมีคน​ทยอย​กัน​มาถึงอีก​ จำนวน​คน​ของ​กองทัพ​ชายแดน​ต้า​หลี​ใน​ทุกวันนี้​เป็นรอง​แค่​ราชวงศ์​เฉิงกวาน​ของ​แผ่นดิน​กลาง​เท่านั้น​แล้ว​ เพราะ​ต้า​หลี​ออกเดินทาง​เร็ว​สุด​ เรือ​กระบี่​ เรือข้ามฟาก​ขุนเขา​ เรือ​ข้าม​ทวีป​ สามารถ​เคลื่อน​ขบวน​กัน​ได้​อย่าง​ราบรื่น​มาก​ ใน​บรรดา​สิบ​ราชวงศ์​ใหญ่​ของ​ไพศาล​ มีอยู่​สอง​สามแห่ง​ที่​ต่อให้​จะร่ำร้อง​โอดครวญ​แค่​ไหน​ก็​ยัง​จำต้อง​เพิ่มจำนวน​กองทัพ​ให้​มากขึ้น​ ส่วน​จะมีสถานการณ์​ที่​เอา​คนไร้ความสามารถ​แทรก​เข้ามา​เพื่อให้​ครบ​จำนวน​หรือไม่​ ดู​จาก​ทหาร​ฝีมือดี​ที่​ถูก​ดึง​ตัว​มาจาก​แคว้น​ใต้​อาณัติ​ของ​แต่ละ​ฝ่าย​แล้ว​ ก็​มีเพียง​ศาล​บุ๋น​เท่านั้น​ที่​รู้​ชัดเจน​ดี​ที่สุด​”

เฉิน​ผิง​อัน​ถามอย่าง​ประหลาดใจ​ “ทุกวันนี้​เฉาสือ​อยู่​ที่ไหน​?”

ฉีถิงจี้ยิ้ม​กล่าว​ “เขา​ติดตาม​บุตรชาย​ที่รัก​ของ​เทพเจ้า​แห่ง​โชคลาภ​หลิว​ไป​ที่​ฉิงจีด้วยกัน​ แต่​ได้ยิน​มาว่า​เพียง​ไม่นาน​ก็​ติดตาม​พวก​สหาย​ออก​เดินทางไกล​ไป​แล้ว​ เฉาสือ​ ฟู่จิ้น​ หยวน​พาง​ ฉุน​ชิง อวี้เจวี้ยน​ฟู กู้​ช่าน​ ล้วน​เป็น​คนหนุ่มสาว​พวก​นี้​ หลิว​โย​ว​โจว​ไม่ได้​ตาม​ไป​ด้วย​ อยู่​ที่นั่น​ต่อ​กับ​ไหว​เฉียน​ คาด​ว่า​คง​ต้อง​เป็น​กุมาร​แจก​ทรัพย์​อี​กรอบ​แล้ว​”

บน​ภูเขา​มีคำพูด​ตลกขบขัน​อย่างหนึ่ง​แพร่หลาย​ออก​ไป​ หาก​ได้​เจอ​หลิว​โย​ว​โจว​ก็​อยาก​จะบอ​กว่า​ตัวเอง​คือ​พี่น้อง​แท้ๆ​ ที่​พลัด​พรากจากกัน​ไป​นาน​หลาย​ปี​ยิ่งนัก​ จากนั้น​จะได้​กลับบ้าน​ไป​พบ​หลิว​จวี้​เป่า​แล้ว​เรียก​เขา​ว่า​บิดา​ด้วยกัน​

ส่วน​ผู้ฝึก​ตน​หญิง​ ก็​แค่​ผูก​สมัคร​เป็น​คู่​บำเพ็ญ​เพียร​กับ​หลิว​โย​ว​โจว​ ก็​สามารถ​เรียก​บิดา​ได้​เหมือนกัน​แล้ว​

ฉีถิงจี้ยก​กา​เหล้า​ชน​กับ​กา​เหล้า​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​เบา​ๆ “นอกจากนี้​คน​ที่​ช่วย​ปกป้อง​มรรคา​ให้​คนหนุ่มสาว​พวก​นี้​อย่าง​ลับ​ๆ เท่าที่​ข้า​รู้​มาก็​มีหัน​เชี่ยว​เซ่อ​แห่ง​นคร​จักรพรรดิ​ขาว​กับ​เค่อ​ชิงของ​ถ้ำสวรรค์​จู๋ไห่​คน​หนึ่ง​ ประวัติ​ความเป็นมา​ไม่แน่ชัด​ มอง​ตื้น​ลึก​ไม่ออก​”

จากนั้น​ฉีถิงจี้ก็​ถือว่า​ได้​ให้​ความกระจ่าง​แก่​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​ “ก่อนหน้านี้​ที่​จั่ว​โย่วลง​ใต้​ไป​ ได้​เตือน​พวกเรา​ไว้​ว่า​ อย่า​ช่วย​ให้​เสีย​เรื่อง​”

บอก​ให้​ทั้ง​ฉีถิงจี้และ​ลู่​จือ​อย่า​ช่วย​ให้​เสีย​เรื่อง​

คน​ที่​สามารถ​พูด​กับ​เซียน​กระบี่​ผู้อาวุโส​ที่​ได้​แกะสลัก​ตัวอักษร​ลง​บน​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​เช่นนี้​ได้​ บน​โลก​มนุษย์​ใบ​นี้​ มีไม่มาก​จริงๆ​

เฉาจวิ้น​มอง​ด้วย​ความอิจฉา​สุดขีด​

เฉิน​ผิง​อัน​เจ้าเด็ก​นี่​ได้ดิบได้ดี​อยู่​ใน​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​จริงๆ​ เมื่อก่อน​มีแค่​ความเข้าใจ​อย่าง​พร่า​เลือน​ต่อ​อิ่น​กวาน​ เวลานี้​ได้​เห็น​เฉิน​ผิง​อัน​ตอน​อยู่​กับ​ฉีถิงจี้และ​ลู่​จือ​กับ​ตา​ตัวเอง​ ได้​สัมผัส​กับ​น้ำหนัก​ของ​สอง​คำ​ว่า​ ‘อิ่น​กวาน​’ กับ​ตัวเอง​แล้ว​

อยู่​ที่​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​แห่ง​นี้​ อย่า​ว่าแต่​เว่ย​จิ้น​ที่​เปลี่ยนไป​ไม่เหมือนเดิม​ได้​อย่าง​เป็นธรรมชาติ​เลย​ ที่แท้​พวก​คน​อย่าง​ฉีถิงจี้ ลู่​จือ​ ต่าง​ก็​มอง​เฉิน​ผิง​อันเป็น​ผู้​แข็งแกร่ง​ที่​เท่าเทียม​กับ​ตัวเอง​อย่าง​แท้จริง​แล้ว​

……

เฝิงเซวี่ย​เทา​ที่​ได้​ฉายา​ว่า​ชิงมี่ ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ที่​มีชาติกำเนิด​มาจาก​ผู้ฝึก​ตน​อิสระ​ผู้​นี้​ไม่ได้​หนี​ออกจาก​สนามรบ​แห่ง​นั้น​ไป​เป็น​เส้นตรง​ แต่​เลือก​จะอ้อม​เส้นทาง​กลับ​มายัง​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ ระหว่างทาง​ที่มา​เยือน​เปลี่ยว​ร้าง​ เฝิงเซวี่ย​เทา​คอย​สังเกต​สภาพ​ภูมิศาสตร์​ของ​แต่ละ​สถานที่​ที่​ผ่าน​ ถึงขั้น​ยัง​วาดภาพ​แผนที่​อย่าง​ละเอียด​ขึ้น​มาด้วย​

ทำเอา​เหลียง​ที่​มองดู​อยู่​มีสีหน้า​เมตตา​ปราณี​ บอ​กว่า​พี่​ชิงมี่กับ​สหาย​ที่​เป็น​อิ่น​กวาน​ของ​ข้า​คน​นั้น​จะต้อง​พูดคุย​กัน​ถูกคอ​แน่​ วันหน้า​หาก​มีโอกาส​ได้​กลับ​ไป​ไพศาล​จะต้อง​ไป​เป็น​แขก​ที่​ภูเขา​ลั่วพั่ว​นะ​ ถึงเวลา​นั้น​เจ้าแค่​บอกชื่อ​ข้า​อา​เหลียง​ออก​ไป​ ไม่ว่า​จะเป็น​เฉิน​ผิง​อัน​หรือ​ซาน​จวิน​ใหญ่​เว่ย​แห่ง​ขุนเขา​เหนือ​ก็​ต้อง​เอา​สุรา​ดี​ๆ มารับรอง​พี่​ชิงมี่แน่นอน​

เฝิงเซวี่ย​เทา​คิด​ว่า​ระหว่าง​ที่​เดินทาง​กลับ​เหนือ​จะไป​เยือน​กุย​ซวี​ฉิงจีที่อยู่​ใกล้​ที่สุด​เพื่อ​นำ​ภาพ​แผนที่​เหล่านั้น​ไป​มอบให้​กับ​ยักษ์​ใหญ่​แห่ง​วิถี​มาร​ของ​นคร​จักรพรรดิ​ขาว​ท่าน​นั้น​ด้วย​

เขา​พลัน​หยุด​ร่าง​นิ่ง​

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!