กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 848

ลู่​เฉิน​กะพริบตา​ปริบๆ​ ใบหน้า​เต็มไปด้วย​ความคาดหวัง​ “เฉิน​ผิง​อัน​ เมื่อไหร่​จะไป​เป็น​แขก​ที่​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​ล่ะ​ ถึงเวลา​นั้น​ผิน​เต้า​สามารถ​ช่วย​นำทาง​ไป​ยัง​ป๋า​ยอ​วี้​จิงได้​นะ​ นคร​เสิน​เซียว​เอย​ หอ​จื่อ​ชี่เอย​ รับรอง​ว่า​ผ่าน​ด่าน​ไป​ได้​อย่าง​ราบรื่น​ เจ้าน่ะ​ไม่รู้​อะไร​ ทุกวันนี้​ที่​ป๋า​ยอ​วี้​จิง ใน​บรรดา​คนต่างถิ่น​ของ​ใต้​หล้า​แห่ง​อื่น​ก็​เป็น​อิ่น​กวาน​อย่าง​เจ้านี่แหละ​ที่​ทำให้​คน​สงสัย​ใคร่รู้​และ​รอคอย​มาก​ที่สุด​ อย่าง​น้อยที่สุด​ก็​เป็นหนึ่ง​ใน​นั้น​ ยังมี​แม่นาง​หนิง​แห่ง​นคร​บิน​ทะยาน​ เฝ่ย​หรา​น​แห่ง​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ แน่นอน​ว่า​ต้อง​มีเฉาสือ​ผู้ฝึก​ยุทธ​ รวมไปถึง​หลิว​ไฉผู้ฝึก​กระบี่​ที่​ถึงกับ​สยบ​กำราบ​เฉินสือ​อี​ได้​ แต่​สิ่งที่​เจ้าหลิว​ไฉผู้​นี้​ทำให้​ป๋า​ยอ​วี้​จิงสนใจ​ได้​มาก​ที่สุด​ยังคง​เป็นการ​ที่​เขา​คนเดียว​ได้​ครอบครอง​น้ำเต้า​เลี้ยง​กระบี่​ที่​อาจารย์​ของ​ผิน​เต้า​เป็น​ผู้​ปลูก​เอง​กับ​มือ​ถึงสอง​ลูก​ ด้อย​กว่า​ของ​พวก​เจ้าไป​ระดับ​หนึ่ง​”

ใน​หนึ่งร้อย​ปี​นี้​เป็น​อวี๋​โต้​ว​เจ้าลัทธิ​รอง​ที่​เป็น​ผู้รับ​ชอบ​จัดการ​กิจธุระ​ใน​ป๋า​ยอ​วี้​จิง ร้อย​ปี​ถัดไป​ก็​ควรจะ​ถึงคราว​ของ​ลู่​เฉิน​ที่​ควบคุม​ดูแล​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​แล้ว​

เฉิน​ผิง​อัน​เงียบ​ไม่คุย​ด้วย​

เรื่อง​ของ​เรือ​ราตรี​ทำให้​จิตใจ​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​สงบ​มั่นคง​ขึ้น​ได้​หลาย​ส่วน​ อิง​ตาม​การ​เปรียบเปรย​ของ​อาจารย์​ตน​ ต่อให้​เป็น​ปรมาจารย์​มหา​ปราชญ์​และ​ห​ลี่​เซิ่ง ก็​ยัง​มอง​เรือ​ราตรี​ที่​ไปมา​อยู่​บน​มหาสมุทร​อย่าง​ไร้​ร่องรอย​ลำ​นั้น​ว่า​คล้าย​กับ​ยุง​ตัว​หนึ่ง​ที่​บิน​อยู่​ใน​บ้าน​ของ​มนุษย์​ธรรมดา​ซึ่งยาก​จะสังเกตเห็น​ได้​ นี่​หมายความว่า​ขอ​แค่​เฉิน​ผิง​อัน​ระมัดระวัง​มาก​พอ​ ปิดบัง​ร่องรอย​ใน​การ​เดินทาง​ได้ดี​พอ​ก็​จะมีโอกาส​หลบ​พ้น​สายตา​ของ​ป๋า​ยอ​วี้​จิงมาได้​ นอกจากนี้​โอกาส​ใน​การผสาน​มรรคา​ขอบเขต​สิบ​สี่ของ​เฉิน​ผิง​อัน​ก็​มีความเป็นไปได้​อย่างยิ่ง​ว่า​จะอยู่​ที่​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​

ดูเหมือน​ลู่​เฉิน​จะมอง​ความคิด​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​ออก​อย่าง​ปรุโปร่ง​จึงตบ​อก​ดังสนั่น​ดุจ​รัว​กลอง​ พูดจา​เป็นหลักเป็นฐาน​น่าเชื่อถือ​ “เฉิน​ผิง​อัน​ เจ้าคิดดู​นะ​ พวกเรา​สอง​คน​มีความ​สัมพันธ์กัน​อย่างไร​ เพราะฉะนั้น​ขอ​แค่​ถึงเวลา​นั้น​เป็น​ข้า​ที่​ได้​ดูแล​ป๋า​ยอ​วี้​จิง ต่อให้​เจ้าพก​กระบี่​บิน​ทะยาน​ไป​จาก​ใต้​หล้า​ไพศาล​ โหม่ง​หัว​เข้าไป​ใน​ป๋า​ยอ​วี้​จิง ข้า​ก็​ยัง​สามารถ​ลืมตา​ข้าง​หนึ่ง​หลับตา​ข้าง​หนึ่ง​ได้​”

เฉิน​ผิง​อัน​พยักหน้า​รับ​ “ถ้าอย่างนั้น​ก็​ตกลง​กัน​ตาม​นี้​”

ลู่​เฉิน​มีสีหน้า​ตกใจ​เหมือน​วัวสันหลังหวะ​ พูด​อย่าง​ลำบากใจ​ว่า​ “หา​? ข้า​ก็​แค่​พูด​ไป​อย่างนั้น​เอง​ เจ้าเอาจริง​เลย​หรือ​นี่​?”

เห็น​ว่า​เฉิน​ผิง​อัน​เริ่ม​ทำตัว​เป็น​น้ำเต้า​ตัน​อีกครั้ง​ ลู่​เฉิน​ก็ได้​แต่​ทอดถอนใจ​อย่าง​ปลงอนิจจัง​ ดู​สิดู​ ไม่ได้​ต่าง​ไป​จาก​เด็กหนุ่ม​ของ​ตรอก​หนี​ผิง​ใน​ปี​นั้น​เลย​ ฝ่ามือ​ข้าง​หนึ่ง​ตบ​เข่า​เบา​ๆ เริ่ม​พูดคุย​กับ​ตัวเอง​ “ผู้ฝึก​บำเพ็ญตน​ที่​มัก​มองเห็น​ความผิดพลาด​ของ​ตัวเอง​ ย่อม​จะสอดคล้อง​กับ​จุดประสงค์​ของ​การ​ฝึก​บำเพ็ญตน​ กาย​อยู่​ใน​เรือน​ของ​ตัวเอง​ ฝึก​จิต​ให้​บริสุทธิ์​อยู่​อย่าง​สงบ​ใน​บ้านเกิด​ ลืม​กาย​ของ​ตน​ไป​ก่อน​ แล้ว​ค่อย​เข้าใจ​ความหมาย​โดย​มิต้อง​เอ่ย​วาจา​ ศาสตรา​เทพ​แปรเปลี่ยน​สู่ขอบเขต​ลี้ลับ​เกิน​หยั่ง​ หมื่น​สรรพสิ่ง​กับ​ข้า​รวม​เป็นหนึ่ง​ หลุดพ้น​จาก​ฝุ่นธุลี​กลับคืน​สู่ธรรมชาติ​…”

เฉิน​ผิง​อัน​ขมวดคิ้ว​ไม่พูดจา​

ลู่​เฉิน​ยกมือ​ข้าง​หนึ่ง​ขึ้น​ คีบ​ใบไม้​ใบ​หนึ่ง​ออก​มาจาก​ปราณ​วิญญาณ​ฟ้าดิน​ พอ​ปล่อย​นิ้วมือ​ออก​ ใบไม้​ก็​ลอย​กลางอากาศ​ จากนั้น​พลิ้ว​ร่วง​ลง​ เขา​โบกมือ​ปาด​ไป​หนึ่ง​ครั้ง​ ใบไม้​ถูก​พา​ให้​เปลี่ยน​วิถี​โคจร​ เส้นทาง​จึงขยับ​เข้าใกล้​มือ​ของ​ลู่​เฉิน​กว่า​เดิม​หลาย​ส่วน​

เฉิน​ผิง​อัน​รู้​ว่า​ลู่​เฉิน​อยาก​จะพูด​อะไร​

นี่​ก็​คือ​การ​ที่​สันดาน​มนุษย์​ถูก​ ‘สิ่งอื่น​’ กระชาก​ลาก​ถู ดึง​ให้​ขยับ​มาใกล้​ และ​ใน​ ‘สิ่งอื่น​’ นี้​ แน่นอน​ว่า​ต้อง​มีสันดาน​แห่ง​เทพ​ที่​บริสุทธิ์​เป็น​สิ่งที่​ล่อลวง​ใจคน​ได้ดี​ที่สุด​ ทำให้​คน​ ‘เลื่อมใส​ใฝ่หา​’ มาก​ที่สุด​

และ​ยิ่ง​เป็น​วิธีการ​ที่​ลึกลับ​ซ่อนเร้น​และ​เป็นธรรมชาติ​อย่าง​ถึงที่สุด​ที่​สิ่งศักดิ์สิทธิ์​ใน​ยุค​บรรพกาล​ห่างไกล​ได้​สร้าง​ไว้​เพื่อ​เผ่า​มนุษย์​ เป็น​ทั้ง​ทางลัด​บน​เส้น​ทางการ​ฝึก​ตน​ ทั้ง​ยัง​เป็น​ขีดจำกัด​ของ​คอขวด​ใน​การ​เดิน​ขึ้น​สู่ยอด​สูงของ​เซียน​ดิน​ใน​อดีต​

ผู้ฝึก​ตน​บน​โลก​มนุษย์​มีเส้นทาง​ใต้ฝ่าเท้า​ให้​เดิน​นับไม่ถ้วน​ มรรค​กถา​ดั้งเดิม​ วิชา​ที่​สืบทอด​เป็นระบบ​อันดับ​หนึ่ง​ วิถี​ทางสายรอง​ลำดับ​รอง​ลงมา​ วิถี​นอกรีต​ที่​ลำดับ​ลดหลั่น​ลงมา​อีก​ขั้น​ เวท​คาถาพัน​หมื่น​ แต่​คน​ที่​เดิน​ขึ้น​เขา​ซึ่งได้​ครอบครอง​คำ​ว่า​บริสุทธิ์​เต็มตัว​มีเพียง​ผู้ฝึก​กระบี่​กับ​ผู้ฝึก​ยุทธ​เท่านั้น​ และ​เส้นทาง​สอง​สาย​นี้​ต่าง​ก็​ถูก​มอง​เป็น​เส้นทาง​หัวขาด​พอดี​ หนึ่ง​ยาก​จะฝ่าทะลุ​คอขวด​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ไป​ได้​ อีก​หนึ่ง​มักจะ​หยุด​เดิน​อยู่​ที่​ขอบเขต​สิบ​

และ​หมื่น​ปี​ที่ผ่านมา​ คน​ที่​ใช้สถานะ​ของ​ผู้ฝึก​กระบี่​เต็มตัว​เลื่อน​เป็น​ขอบเขต​สิบ​สี่อย่าง​แท้จริง​ อันที่จริง​กลับ​มีแค่​เฉิน​ชิงตู​คนเดียว​เท่านั้น​

เพราะ​คน​พิฆาต​มังกร​ที่​มักจะ​ไป​ ‘พึ่งพิง​ใต้​ชายคา​ผู้อื่น​’ ชอบ​ลงมา​เที่ยวเล่น​ใน​โลก​มนุษย์​คน​นั้น​ได้​เดิน​บน​ทางลัด​เส้น​หนึ่ง​ ใช้วิธีการ​สบาย​ๆ เดิน​เข้าไป​ยัง​ฟ้าดิน​กว้างใหญ่​ของ​ขอบเขต​สิบ​สี่ ใช้วิชา​อภินิหาร​ปณิธาน​ความมุ่งมั่น​บางอย่าง​ของ​ลัทธิ​พุทธ​

หลังจากนั้น​ก็​เป็นอดีต​อิ่น​กวาน​เซียว​สวิ้น​ เส้นทาง​การผสาน​มรรคา​ของ​นาง​ห่าง​จาก​คำ​ว่า​บริสุทธิ์​ไป​ไกล​ยิ่งกว่า​ ผสาน​มรรคา​กับ​ตำหนัก​อิง​ห​ลิง​ของ​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ก็​เท่ากับ​ว่า​ผสาน​มรรคา​กับ​ดิน​อวยพร​ นาง​แทบจะ​เป็น​ฝ่าย​สละ​คำ​ว่า​บริสุทธิ์​เต็มตัว​ของ​ผู้ฝึก​กระบี่​ทิ้ง​ไป​ด้วยตัวเอง​แล้ว​

จากนั้น​ต่อมา​ก็​เป็น​ขอบเขต​สิบ​สี่ของ​หลิว​ชาราชา​บน​บัลลังก์​เก่า​ น่าเสียดาย​ที่​ยัง​ไม่ทัน​เสริมสร้าง​ขอบเขต​ให้​มั่นคง​ก็​ถูก​เฉิน​ฉุน​อัน​ซัด​อีก​ฝ่าย​ให้​หล่น​ร่วง​ลงมา​หนึ่ง​ขอบเขต​อย่าง​เด็ดเดี่ยว​ และ​ผู้รอบรู้​ที่​มาจาก​สาย​หย่า​เซิ่ง บน​บ่า​แบก​ตะวัน​จันทรา​ผู้​นี้​ สุดท้าย​แล้ว​ได้​สร้าง​วีรกรรม​ยิ่งใหญ่​อะไร​ไว้​ ผู้ฝึก​ลมปราณ​ของ​ใต้​หล้า​ไพศาล​ที่​เว้น​จาก​คน​บน​ยอดเขา​ จนถึง​ทุกวันนี้​ก็​ยัง​ไม่อาจ​รู้​ได้​

ส่วน​อวี๋​โต้​ว​เจ้าลัทธิ​รอง​แห่ง​ป๋า​ยอ​วี้​จิง นักพรต​ซุน​แห่ง​อาราม​เสวียน​ตู​ใหญ่​ ได้​ครอบครอง​ระบบ​สืบ​ทอดที่​บริสุทธิ์​ดั้งเดิม​ที่สุด​ ขณะเดียวกัน​ยัง​เป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​ด้วย​ ไม่พูดถึง​นักพรต​ซุน​ที่​ให้​คนอื่น​ยืม​กระบี่​เซียน​ไท่​ป๋า​ย​ไป​ก็​เท่ากับ​ว่า​เป็น​ฝ่าย​สละ​ขอบเขต​สิบ​สี่ทิ้ง​ พูดถึง​แค่​เต๋า​เหล่า​เอ้อ​ที่​ถูก​ขนานนาม​ให้​เป็น​ผู้​ไร้​เทียมทาน​ผู้​นี้​ ก็เพราะว่า​เขา​ได้​เดิน​ขึ้น​สู่ยอด​สูงสุด​ของ​วิถี​แห่ง​มรรค​กถา​ ดังนั้น​ต่อให้​เวท​กระบี่​จะเข้าขั้น​เชี่ยวชาญ​ก็​มีเพียง​กับ​คำกล่าว​ที่ว่า​ ‘ผู้ฝึก​กระบี่​เต็มตัว​’ นี้​ที่​ต้อง​เสียเปรียบ​ไป​ไม่น้อย​

อา​เหลียง​ที่อยู่​ระหว่าง​คน​พิฆาต​มังกร​ ‘เฉิน​ชิงหลิว​’ กับ​อิ่น​กวาน​เซียว​สวิ้น​ แม้จะบอ​กว่า​อา​เหลียง​หนี​ไม่พ้น​ชาติกำเนิด​ลูกศิษย์​ลัทธิ​ขงจื๊อ​ แต่​ผู้ฝึก​กระบี่​ขอบเขต​สิบ​สี่ของ​เขา​เข้าใกล้​ความบริสุทธิ์​ของ​เฉิน​ชิงตู​มาก​ที่สุด​ ดังนั้น​รอ​กระทั่ง​ขอบเขต​ของ​อา​เหลียง​ถดถอย​ ผู้ฝึก​ตน​บน​ยอดเขา​ของ​ใต้​หล้า​ทั้งหลาย​ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​ผู้ฝึก​ตน​ขอบเขต​สิบ​สี่ บุคคล​อย่าง​นักพรต​หญิง​แห่ง​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​ที่​เข้าร่วม​การประชุม​ริม​ลำคลอง​ครานั้น​ ต่อให้​นาง​จะไม่ใช่ศัตรู​ของ​อา​เหลียง​ ถึงขั้น​ที่ว่า​ไม่เคย​คบค้าสมาคม​กับ​อา​เหลียง​ แต่​นาง​ก็​ยัง​โล่งอก​เหมือน​ๆ กับ​คนอื่น​

ต่อให้​ฟ้าดิน​ของ​ใต้​หล้า​ทั้งหลาย​จะใหญ่​แค่​ไหน​ และ​ยิ่ง​ไม่ต้อง​พูดถึง​นอก​ฟ้าที่​กว้างใหญ่​ยิ่งกว่า​ เพราะ​สำหรับ​ผู้ฝึก​กระบี่​ขอบเขต​สิบ​สี่แล้ว​ มีแห่งหน​ใด​ที่​ไป​เยือน​ไม่ได้​บ้าง​เล่า​?

หาก​ไม่ทัน​ระวัง​ การ​พก​กระบี่​เดิน​ทวน​แม่น้ำ​ยาว​แห่ง​กาลเวลา​อย่าง​ที่​กล่าวถึง​ใน​ตำนาน​ก็​ยังมี​ความเป็นไปได้​ หาก​ระหว่างทาง​ที่​เดิน​ย้อน​ทวน​กระแสน้ำ​ขึ้นไป​มีวิธีการ​อีก​อย่างหนึ่ง​ที่​สามารถ​หลบเลี่ยง​สายตา​ของ​บรรพ​จารย์​สามลัทธิ​และ​ของ​ห​ลี่​เซิ่งไป​ได้​ ใน​ปัจจุบัน​เว้น​จาก​ผู้ฝึก​ตน​ขอบเขต​สิบ​สี่ที่​มีอายุ​อยู่​มายาวนาน​และ​มีคุณสมบัติ​ประสบการณ์​โชกโชน​ที่สุด​อย่าง​ป๋า​ย​เจ๋อ​ บรรพบุรุษ​ใหญ่​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​และ​เฒ่าตาบอด​แล้ว​ ฆ่าใคร​ก็​คือ​ฆ่าเหมือนกัน​ไม่ใช่หรือ​?

เฉิน​ชิงตู​ที่​เป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​บน​ยอดเขา​สูงสุด​ของ​ขอบเขต​สิบ​สี่ หาก​ไม่เป็น​เพราะ​ตาย​ไป​ใน​ศึก​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​ จำต้อง​สาว​ไหม​ใส่ตัวเอง​ (เปรียบเปรย​ว่า​แกว่งเท้าหาเสี้ยน​ หาเรื่อง​ใส่ตัว​) เลือก​ผสาน​มรรคา​กับ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ ไม่อย่างนั้น​ก็​คง​อยู่ตัว​คนเดียว​พก​กระบี่​ออก​เดินทางไกล​ไป​แล้ว​กระมัง​?

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​สมมติ​ว่า​เฉิน​ชิงตู​สามารถ​พัฒนา​รุดหน้า​ไป​อีก​ขั้น​อยู่​บน​เส้นทาง​แม่น้ำ​แห่ง​กาลเวลา​สาย​นี้​ได้​?

ดังนั้น​หาก​โลก​มนุษย์​มีผู้ฝึก​กระบี่​ขอบเขต​สิบห้า​คนใด​ปรากฏตัว​

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!