กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 848

สรุปบท บทที่ 848.3 มังกรและงูผงาดจากดิน: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!

บทที่ 848.3 มังกรและงูผงาดจากดิน – ตอนที่ต้องอ่านของ กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!

ตอนนี้ของ กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 848.3 มังกรและงูผงาดจากดิน จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ไต้​เฮายก​นิ้วโป้ง​ชี้ไป​ที่​ตัวเอง​ “ตอนนั้น​มีเซียน​กระบี่​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​อยู่​กี่​คน​กัน​แน่​? สอง​มือ​นับ​ก็​ยัง​ไม่หมด​ มีตั้ง​สิบเอ็ด​คน​ หาก​บวก​เฉินอิ่น​กวาน​และ​เยี่ยน​หมิง​ น่า​ห​ลัน​ไฉ่ฮ่วน​ที่​เป็น​ก่อกำเนิด​สอง​คน​นี้​เข้าไป​ด้วย​ นั่น​ก็​มาก​ถึงสิบ​สี่คน​! ขอ​ถามหน่อย​เถอะ​ว่า​หาก​เป็น​คนธรรมดา​ทั่วไป​ เข้าไป​อยู่​ใน​นั้น​ เผชิญหน้า​กับ​พวก​ผู้ฝึก​กระบี่​ที่​ฆ่าคน​ตา​ไม่กะพริบ​เหล่านี้​ ใคร​จะกล้า​เปิดปาก​พูด​ก่อน​? นั่น​ไม่ใช่การ​ถามกระบี่​แล้​วจะ​เป็น​อะไร​?”

การประชุม​ครั้งนั้น​ ด้านใน​ห้องโถง​ใหญ่​เรือน​ชุน​ฟาน​ เซียน​กระบี่​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ที่​เดินทาง​มาเยือน​ภูเขา​ห้อย​หัว​มีมากมาย​

หมี่​ฮู่ เว่ย​จิ้น​ ซุน​จวี้​เฉวียน​ เกา​ขุย​ หยวน​ชิงสู่ เซี่ยซงฮ​วา​ ผู​เห​อ​ ซ่งพิ่น​ เซี่ยจื้อ​ ลี่​ไฉ่ บวก​กับ​เส้าอวิ๋นเหยียน​ที่​เป็น​เจ้าบ้าน​อีก​หนึ่ง​คน​

และ​ยังมี​ผู้ฝึก​กระบี่​ก่อกำเนิด​สอง​คน​อย่าง​เยี่ยน​หมิง​ น่า​ห​ลัน​ไฉ่ฮ่วน​

เซียน​กระบี่​สิบเอ็ด​ท่าน​ ผู้ฝึก​กระบี่​ขอบเขต​ก่อกำเนิด​สอง​คน​

ไต้​เฮาเอ่ย​อย่าง​ปลงอนิจจัง​ “ข้า​กับ​อิ่น​กวาน​ที่​อายุ​น้อย​ผู้​นั้น​ ต้อง​เรียก​ว่า​แค่​เจอ​หน้า​ก็​เหมือน​คน​เคย​รู้จัก​กัน​มานาน​ พูดคุย​กัน​อย่าง​ถูกคอ​ เฉินอิ่น​กวาน​อายุ​ไม่มาก​ แต่​คำพูดคำจา​ทุก​คำ​ล้วน​มีความรู้​ซ่อน​อยู่​”

เจี่ย​เสวียน​จึงได้​แต่​ฝืนใจ​เอ่ย​คล้อยตาม​ไป​หนึ่ง​ประโยค​ “ช่วย​เปิดฉาก​การ​เริ่มต้น​ที่​ดี​ให้​กับ​การประชุม​ใน​เรือน​ชุน​ฟาน​ครั้งนั้น​ ถึงได้​ทำให้​ขั้นตอน​ใน​ภายหลัง​พัฒนา​ไป​อย่าง​ราบรื่น​ พี่ใหญ่​ไต้​มีคุณ​ความชอบ​อย่าง​ที่​มิอาจ​มองข้าม​ได้​”

ไต้​เฮาพยักหน้า​ “ก็​ใช่น่ะ​สิ คน​ทำการค้า​ที่​ทั่ว​ร่าง​เต็มไปด้วย​กลิ่น​เหม็น​ของ​เหรียญทองแดง​อย่าง​พวกเรา​ก็​ถือว่า​ได้​พยายาม​สุดความสามารถ​ที่​มีเพื่อ​ช่วย​เป็นกำลัง​เสริม​ใน​กลยุทธ​ของ​สงคราม​ใน​ภายหลัง​แล้ว​”

ส่วน​ความจริง​เป็น​อย่างไร​ ถึงอย่างไร​พวก​ผู้ดูแล​เรือข้ามฟาก​ที่อยู่​ใน​เหตุการณ์​วันนั้น​ ตอนนี้​ต่าง​ก็​ไม่ได้​อยู่​ที่นี่​ด้วย​ แน่นอน​ว่า​ไต้​เฮาจะพูด​ให้​น่าฟัง​อย่างไร​ก็ได้​

ในความเป็นจริง​แล้ว​หลังจากที่​ไต้​เฮาลุกขึ้น​เปิดปาก​เอ่ย​ถ้อยคำ​ ‘เป็นกลาง​’ ที่​เป็น​ดั่ง​สำลี​ซ่อน​เข็ม​แล้ว​ ก็​ถูก​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​ผู้​นั้น​พูดจา​เสียดสี​ไป​หนึ่ง​คำรบ​ ผล​คือ​เก้าอี้​ใต้​ก้น​ของ​ผู้เฒ่า​ก็​ราวกับ​มีกระบี่​บิน​ปัก​ไว้​เต็มไปหมด​ ให้​ตาย​อย่างไร​ก็​ไม่กล้า​นั่งลง​อีก​

อยู่ดีๆ​ ผู้ดูแล​เฒ่าก็​เอ่ย​อย่าง​สะท้อนใจ​ว่า​ “ทำการค้า​ก็ดี​ ลงมือทำ​เรื่อง​ต่างๆ​ ก็ดี​ ล้วน​ต้อง​มีจิตสำนึก​ให้​มาก​หน่อย​”

เหลือบตา​มอง​ชายหนุ่ม​หญิงสาว​คู่​นั้น​ ไต้​เฮาก็​ยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ “เสียเปรียบ​แล้วก็​ให้​จำไว้​เป็น​บทเรียน​ ไม่อย่างนั้น​ความยากลำบาก​ที่​กล้ำกลืน​มาย่อม​ต้อง​เสียเปล่า​ คราวหน้า​ออกจาก​สำนัก​ไป​อยู่​ข้างนอก​ ไม่ใช่พ่อ​ไม่ใช่แม่ ไม่ว่า​ใคร​ก็​ไม่มีทาง​มาคอย​เอาใจ​ใคร​”

คน​หนึ่ง​คือ​ลูกศิษย์​ผู้สืบทอด​ศาล​บรรพ​จารย์​ของ​หอ​โหย​ว​เซียน​ อีก​คน​หนึ่ง​คือ​เทพธิดา​ของ​ภูเขา​หง​ซิ่ว​ซื่อ​สุ่ย​ ก่อนหน้า​จะไป​เยือน​ซาก​ปรัก​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ ตอน​อยู่​บน​เรือข้ามฟาก​ก็​ชอบ​ส่งสายตา​ให้​กัน​ไปมา​ คิด​ว่า​ตัวเอง​เป็น​คู่รัก​เทพ​เซียน​กัน​จริงๆ​ แล้ว​หรือ​ไร​?

ไต้​เฮาติดตาม​เรือข้ามฟาก​ไท่​เกิง​ลำ​นี้​ท่อง​ไป​ทั่ว​ยุทธ​ภพ​ด้านนอก​ตลอด​ทั้งปี​ มีคน​แบบ​ใด​บ้าง​ที่​ไม่เคย​พบ​เจอ​มาก่อน​ แม้จะบอก​ว่าการ​ฝึก​ตน​ของ​ผู้ฝึก​ตน​เฒ่าไม่ได้เรื่อง​ เพียงแต่​สายตา​ของ​เขา​นั้น​เฉียบคม​เพียงใด​ ย่อม​ต้อง​มองเห็น​สีหน้าที่​แปร​เปลี่ยนไป​เล็กน้อย​ของ​ชาย​หญิง​คู่​นั้น​

ไต้​เฮาจุ๊ปาก​พูด​ “ดูท่า​ที่​โดน​ตี​ไป​จะเสียเปล่า​”

คนหนุ่มสาว​สอง​คน​นี้​ไม่มีความ​หยิ่งในศักดิ์ศรี​ แต่​ความ​จองหอง​อวดดี​กลับ​ไม่ขาด​ไป​เลย​ บางที​นี่​ก็​คง​เป็น​ดั่ง​คำกล่าว​ที่ว่า​สุนัข​ไม่เปลี่ยน​นิสัย​กิน​อาจม​กระมัง​

ชีวิต​ไม่ใช่ลาน​ฆ่าหมาใน​ทุกหนทุกแห่ง​ ไม่มีเลือด​หมา​มากมาย​ขนาด​นั้น​

แต่​วิถี​ทางโลก​กลับ​มีลาน​ฆ่าหมา​อยู่​ทั่ว​ทุกที่​ บน​พื้น​เกลื่อน​นอง​ไป​ด้วย​เลือด​หมา​

ไต้​เฮาใช้เสียง​ใน​ใจเอ่ย​ว่า​ “น้อง​เจี่ย​ ข้า​ไม่สนิท​กับ​จู้ย่วน​และ​ภูเขา​หง​ซิ่ง ก็​คง​ไม่ทำตัว​เป็น​คนเลว​ใน​สายตา​ใคร​แล้ว​ แต่​อยู่​กับ​เจ้ากลับ​ยินดี​ปากมาก​พูด​เตือน​เจ้าสัก​คำ​ วันหน้า​หาก​ต้อง​ปกป้อง​มรรคา​ให้​คนอื่น​ ท่อง​อยู่​ล่าง​ภูเขา​อย่า​ได้​ปล่อย​ให้​คนโง่​เอา​ดิน​เหลือง​มาป้าย​เต็ม​กางเกง​ตัวเอง​ ถอด​กางเกง​เดี๋ยว​คนอื่น​เห็น​ก้น​ แต่​หาก​ไม่ถอด​ ยื่นมือ​ไป​เช็ด​ก็​คือ​ท่าที​ไม่สุภาพ​ที่​ต้อง​ล้วงควัก​เป้ากางเกง​ ถึงเวลา​นั้น​จะถอด​หรือไม่​ถอด​กางเกง​ ใน​สายตา​ของ​คนอื่น​แล้วก็​ล้วน​ถือเป็น​เรื่องตลก​ทั้งสิ้น​”

เจี่ย​เสวียน​เอ่ย​อย่าง​ปลงอนิจจัง​ “คำพูด​ของ​พี่​ไต้​หยาบ​ แต่​หลักการ​ไม่หยาบ​เลย​”

ไต้​เฮาลูบ​หนวด​ยิ้ม​ “ธัญพืช​หยาบ​ (อาหาร​ประเภท​ข้าวโพด​ เกาเหลียง​ ถั่ว​เป็นต้น​ ไม่รวม​ข้าว​) ช่วย​บำรุง​กระเพาะ​ คำพูด​หยาบ​ (ในที่นี้​หมายถึง​คำพูด​ที่​ไม่เสริม​เติม​แต่ง​ เป็น​คำ​ปกติ​ทั่วไป​ แม้จะตรงไปตรงมา​แต่​มีเหตุผล​) ช่วย​ให้​คน​อยู่รอด​”

ทาง​ฝั่งของ​ซาก​ปรัก​ศาล​บรรพ​จารย์​สำนัก​อวี่​หลง​ที่​กำลัง​มีการ​ก่อสร้าง​ อวิ๋น​เชีย​น​ยืน​อยู่​บน​ยอดเขา​ นาง​รู้สึก​ปลงอนิจจัง​ยิ่งนัก​

ขุนเขา​เขียว​ยังอยู่​ก็​ไม่ต้อง​กลุ้ม​ว่า​จะไม่มีฟืน​เผา​ไฟ

เป็น​เช่นนี้​จริง​เสีย​ด้วย​ อิ่น​กวาน​หนุ่ม​ผู้​นั้น​พูด​ถูก​แล้ว​

หาก​ไม่เป็น​เพราะ​คำเตือน​ของ​คนหนุ่ม​ใน​ปี​นั้น​ ควัน​ธูป​ที่​สืบทอด​ต่อเนื่อง​ยาวนาน​มาพันปี​ของ​สำนัก​อวี่​หลง​ก็​คง​ต้อง​ขาดสะบั้น​ด้วย​น้ำมือ​ของ​สัตว์เดรัจฉาน​ของ​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​กลุ่ม​นั้น​แล้ว​

จดหมาย​ลับ​ฉบับ​หนึ่ง​ที่​ส่งไป​ยัง​ตำหนัก​สุ่ย​จิงครั้งนั้น​ บน​กระดาษ​เขียน​ไว้​แค่​สามคำ​ว่า​ ย้าย​ขึ้น​เหนือ​

เคย​ถูก​ศิษย์​พี่​หญิง​โยนทิ้ง​อย่าง​ไม่ใส่ใจ แต่กลับ​ถูก​อวิ๋น​เชีย​น​เก็บ​กลับมา​ แล้ว​เก็บรักษา​เอาไว้​อย่าง​ระมัดระวัง​

ใน​จดหมาย​ฉบับ​นั้น​นอกจาก​ตัวอักษร​ นอกจาก​ตราประทับ​ของ​เซียน​กระบี่​เส้าอวิ๋นเหยียน​แล้ว​ ยังมี​ตราประทับ​อักษร​โบราณ​อีก​สอง​คำ​ว่า​ อิ่น​กวาน​

ตอนนั้น​นาง​พา​ผู้ฝึก​ตน​ทำเนียบ​วงศ์ตระกูล​หก​สิบสอง​คน​จากไป​ได้​สำเร็จ​ ใน​บรรดา​นั้น​มีเซียน​ดิน​อยู่​สามคน​ การ​เดินทาง​หลังจากนั้น​ก็ได้​ทยอย​รับ​ลูกศิษย์​มาอีก​สิบ​กว่า​คน​ บวก​กับ​ผู้ฝึก​ตน​ของ​สำนัก​อวี่​หลง​ที่​ได้​แยก​เกาะ​เป็น​ของ​ตัวเอง​ได้​กลับมา​รวมตัวกัน​ คิด​คำนวณ​รวม​ๆ แล้วก็​ยัง​ไม่ถึงร้อย​คน​ ทว่า​นี่​ก็​คือ​รากฐาน​ทั้งหมด​ของ​สำนัก​อวี่​หลง​ใน​ทุกวันนี้​แล้ว​

ตอนนี้​อวิ๋น​เชีย​น​กำลัง​รอคอย​คน​ผู้​หนึ่ง​ หรือ​ก็​คือ​เจ้าสำนัก​อวี่​หลง​ในอนาคต​ ผู้ฝึก​กระบี่​หญิง​แห่ง​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ น่า​ห​ลัน​ไฉ่ฮ่วน​

ทุกวันนี้​น่า​ห​ลัน​ไฉ่ฮ่วน​ได้​เป็น​เซียน​กระบี่​ขอบเขต​หยก​ดิบ​แล้ว​

ปี​นั้น​น่า​ห​ลัน​ไฉ่ฮ่วน​ได้​เสนอ​การค้า​ครั้งนี้​ อวิ๋น​เชีย​น​เอง​ก็​ไม่ใช่คน​ประเภท​ที่​ข้าม​แม่น้ำ​แล้ว​รื้อ​สะพาน​ แล้ว​นับประสาอะไร​กับ​ที่​หากว่า​กัน​ตาม​เหตุ​ตาม​ผล​ ตาม​หลัก​ส่วนรวม​และ​ส่วนตัว​แล้ว​ อวิ๋น​เชีย​น​ก็​ล้วน​ยินดีต้อนรับ​ให้​นาง​มาเป็น​เจ้าประมุข​ของ​สำนัก​อวี่​หลง​

บน​เรือข้ามฟาก​ลำ​หนึ่ง​ที่​กำลังจะ​ไป​ถึงเมืองหลวง​ต้า​หลี​ ซ่งจี๋ซิน​อ๋อง​เจ้าเมือง​ต้า​หลี​ยิ้ม​เอ่ย​ “จื้อ​กุย​ เจ้าเป็น​ถึงขอบเขต​บิน​ทะยาน​แล้ว​ เรื่อง​สำมะโนครัว​ จะให้​ข้า​ช่วย​เจ้าเปลี่ยน​เมื่อไหร่​?”

ที่​ฝ่าย​ครัวเรือน​ของ​ที่ว่าการอำเภอ​ไหว​หวง​ สัญชาติ​ของ​จื้อ​กุย​ยัง​เป็น​สัญชาติ​ไพร่​ซึ่งมีสถานะ​เป็น​สาวใช้​ แน่นอน​ว่าที่​เขต​ ที่​จังหวัด​ไป​จนถึง​กรม​พิธีการ​ต้า​หลี​ย่อม​ต้อง​อิง​ตาม​นี้​

โอ้โห​ คน​มีอาจารย์​มักจะ​ไม่เหมือน​คนอื่น​จริงๆ​ ด้วย​ กร่าง​นัก​นะ​

ฮ่า

มีครั้งหนึ่ง​จูเหลี่ยนลง​จาก​ภูเขา​มาที่​ตรอก​ฉีหลง​เป็นเพื่อน​เฉินห​ลิง​จวิน​ เจ้าใบ้​น้อย​ก็​เอา​หนังสือ​มาให้​เขา​สอง​สามเล่ม​ บอ​กว่า​ช่วย​ซื้อ​มาให้​เจ้าพ่อครัว​เฒ่า เอ่ย​ขอบคุณ​นั้น​ไม่ต้อง​ เพียงแต่​อย่า​ลืม​ไป​จ่าย​เงิน​ที่​เมือง​หง​จู๋ด้วย​ล่ะ​

จูเหลี่ยน​ดวงตา​เป็นประกาย​ พลิก​เปิด​หน้า​หนังสือ​ดู​สอง​สามที​แล้ว​กระแอม​ พูด​บ่นว่า​ ‘ทั่ว​ร่าง​ผู้อาวุโส​มีแต่​ความ​เที่ยงธรรม​ซื่อตรง​ แต่​เจ้ากลับ​ช่วย​ข้า​ซื้อ​หนังสือ​แบบนี้​มาเนี่ย​นะ​?’

เจ้าใบ้​น้อย​จึงยื่นมือ​ออกมา​ ไม่เอา​ก็​คืน​ข้า​มา พ่อครัว​เฒ่ากลับ​เก็บ​ตำรา​พวก​นั้น​ใส่ไว้​ใน​ชาย​แขน​เสื้อ​เรียบร้อย​แล้ว​

เฉินห​ลิง​จวิน​ทอดถอนใจ​ ตำหนิ​พ่อครัว​เฒ่า บอ​กว่า​ตอนนั้น​ข้า​ก็​บอก​แล้ว​ว่า​ไม่แนะนำ​ให้​เจ้าใบ้​น้อยลง​จาก​ภูเขา​ มาทำงาน​อยู่​ที่นี่​ เพราะ​ง่าย​ที่จะ​ได้​เรียนรู้​อะไร​แย่​ๆ

ภูเขาใหญ่​แสน​ลี้​ ลูกศิษย์​และ​หมา​เฝ้าบ้าน​ต่าง​ก็​ไม่อยู่​ ตอนนี้​จึงเหลือ​แค่​เฒ่าตาบอด​อยู่​คนเดียว​ แขก​ที่มา​ใน​วันนี้​คือ​คน​ชุด​เขียว​ คน​พิฆาต​มังกร​ ทุกวันนี้​ใช้นามแฝง​ว่า​เฉิน​ชิงหลิว​

เฉิน​ชิงหลิว​ยิ้ม​ถาม “ได้ยิน​มาว่า​ผู้อาวุโส​ยอม​แหก​กฎ​รับ​ลูกศิษย์​เปิด​ภูเขา​หรือ​?”

เฒ่าตาบอด​พยักหน้า​

เฉิน​ชิงหลิว​ยืน​อยู่​ริม​หน้าผา​ อยู่ดีๆ​ ก็​เอ่ย​ว่า​ “ข้า​มาถึงช้ามาก​ ถึงได้​เพิ่ง​รู้​ว่า​ที่แท้​ตกปลา​ห้อย​ไส้เดือน​ก็​สามารถ​เผย​ปลาย​แหลม​ของ​ตะขอ​ได้​”

เฒ่าตาบอด​เอ่ย​อย่าง​ไม่สบอารมณ์​ “เลิก​พูดจา​เหลวไหล​ไร้สาระ​พวก​นี้​เสียที​”

ฝูลู่​อวี๋​เสวียน​ที่​ผสาน​มรรคา​กับ​ธาร​ดวงดาว​ลืมตา​ขึ้น​ จากนั้น​ก็​มองเห็น​คนหนุ่ม​ที่​พก​ถุงตรง​เอว​คน​หนึ่ง​ ฝ่าย​หลัง​ใช้ท่า​เท้า​พายุ​เหยียบ​ดารา​อย่าง​สมชื่อ​ เดิน​ก้าว​มากลางอากาศ​ว่างเปล่า​ ใช้ดวงดาว​แต่ละ​แห่ง​เป็น​ท่าเรือ​

สามภูเขา​ของ​ดึกดำบรรพ์​ดูแล​เรื่อง​ทำเนียบ​เป็น​ตาย​ ห้า​ขุนเขา​ของ​บรรพกาล​มีหน้าที่​โคจร​ห้า​ธาตุ​

อวี๋​เสวียน​มอง​ถุงที่​ไม่สะดุดตา​ใบ​นั้น​ก็​เกิด​ความสงสัย​ ด้านใน​สามารถ​บรรจุ​ยันต์​ไว้​ได้​กี่​แผ่น​ หลาย​ล้าน​แผ่น​ สิบ​ล้าน​แผ่น​?

วันนี้​เฉินห​ลิง​จวิน​อยู่​ว่าง​ไม่มีอะไร​ทำ​ หลังจาก​คุย​เล่น​กับ​พี่ใหญ่​เจี่ย​เสร็จ​ก็​ไป​เดิน​เตร็ดเตร่​อยู่​ใน​เมือง​เล็ก​เพียงลำพัง​ สุดท้าย​ไป​ที่​ตรอก​หนี​ผิง​ของ​นาย​ท่าน​บ้าน​ตัวเอง​มารอบ​หนึ่ง​ ดู​ว่า​มีโจร​หรือไม่​ จากนั้น​ก็​ทะยาน​ลม​ลอยตัว​ขึ้น​มา เตรียม​จะกลับ​ไป​ที่​ภูเขา​ลั่วพั่ว​แล้ว​ ระหว่าง​นั้น​บังเอิญ​ก้มหน้า​ลง​มอง​ก็​เห็น​ว่า​มีคนแปลกหน้า​สอง​สามคน​มาเยือน​เมือง​เล็ก​ มองดู​คล้าย​ผู้ฝึก​ตน​อย่าง​มาก​ แต่​เหมือน​ขอบเขต​จะธรรมดา​

เห็น​เพียง​ว่า​ตรง​ริม​ลำคลอง​หลง​ซวี​มีภิกษุ​วัยกลางคน​คน​หนึ่ง​ยืน​อยู่​ริมน้ำ​ ด้านนอก​โรงเรียน​แห่ง​หนึ่ง​ที่อยู่​ใน​เมือง​เล็ก​มีอาจารย์​ผู้เฒ่า​คน​หนึ่ง​ยืน​อยู่​นอก​หน้าต่าง​ และ​ยังมี​นักพรต​เด็กหนุ่ม​คน​หนึ่ง​ขี่​วัว​เดิน​เข้า​มาจาก​ทาง​ประตู​ใหญ่​ทิศตะวันออก​

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!