กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 852

เจ้าอาราม​ผู้เฒ่า​ใช้สอง​นิ้ว​คีบ​ยันต์​กระบี่​ หรี่ตา​มอง​พินิจ​พิจารณา​อยู่​ครู่หนึ่ง​ จริง​ดัง​คาด​ ได้​ซุกซ่อน​คาถา​กระบี่​บรรพกาล​ที่​ยาก​จะสังเกตเห็น​ไว้​บท​หนึ่ง​จริง​เสีย​ด้วย​ ผู้ฝึก​ลมปราณ​ที่​ขอบเขต​ไม่พอ​ต้อง​ไม่มีทาง​มองออก​แน่นอน​

ส่วน​คำ​ว่า​ขอบเขต​ไม่พอที่​กล่าวถึง​นี้​ แน่นอน​ว่า​หาก​ต่ำกว่า​ผู้ฝึก​ลมปราณ​ขอบเขต​สิบ​สี่และ​ผู้ฝึก​กระบี่​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​แล้ว​ ล้วน​ไม่พอ​

เพียงแต่​คาถา​กระบี่​นี้​ไม่ครบถ้วน​ คิด​อยาก​จะเติม​ให้​ครบ​ คาด​ว่า​คง​ต้อง​มียันต์​กระบี่​อีก​ห้า​หก​เล่ม​ แต่​ไม่ว่า​ราคา​ขายของ​ยันต์​กระบี่​จะเป็น​อย่างไร​ ขอ​แค่​มีคน​และ​ยัง​มีใจที่จะ​ทำ​เรื่อง​นี้​ให้​สำเร็จ​ ก็​ล้วน​เป็น​การค้า​ที่จะ​ต้อง​ได้​กำไร​พิเศษ​ก้อน​ใหญ่​ ได้​กำไร​อย่างไร​? ลำพัง​เพียงแค่​คาถา​กระบี่​บท​นี้​ก็​มาก​พอ​จะทำให้​สำนัก​วิถี​กระบี่​แห่ง​หนึ่ง​หยัดยืน​อยู่​ใน​ใต้​หล้า​ไพศาล​ได้​อย่าง​มั่นคง​แล้ว​ ประเด็นสำคัญ​คือ​ธรณีประตู​ของ​คาถา​บท​นี้​ต่ำ​ ขอ​แค่​เป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​ ไม่จำเป็นต้อง​มีคุณสมบัติ​ดี​เลิศเลอ​อะไร​ก็​ล้วน​สามารถ​ฝึก​กระบี่​ฝึก​ตน​ไป​ได้​ตามลำดับ​ขั้นตอน​ หาก​พูดถึง​พลัง​พิฆาต​ ระดับ​ของ​คาถา​กระบี่​ไม่สูง แต่​ยาม​ฝึกฝน​กลับ​จะมั่นคง​ปลอดภัย​ ดังนั้น​ยิ่ง​เป็น​สำนัก​ใหญ่​ก็​ยิ่ง​ให้ความสำคัญ​กับ​คาถา​ประเภท​นี้​

ชุยตง​ซาน​กระโดด​ลอยตัว​ขึ้น​สูงอยู่​ตรง​ขั้นบันได​ เบี่ยง​ตัว​พลิก​กาย​มาพลิ้ว​ร่าง​ลง​ข้าง​โต๊ะ​ สะบัด​ชาย​แขน​เสื้อ​ใหญ่​สีขาว​หิมะ​สอง​ข้าง​ แหงนหน้า​ขึ้น​ พูด​กับ​ตัวเอง​ว่า​ “กำลังจะ​เข้าสู่​ฤดูใบไม้ร่วง​แล้ว​ สายลม​สารท​เยียบ​เย็น​ แสงจันทร์​สารท​ใสกระจ่าง​ ก้อน​เมฆสารทฤดู​ลอย​เต็ม​ท้อง​นภา​ น้ำ​สารทฤดู​กลีบบัว​ร่วงโรย​”

จากนั้น​ถึงได้​ถอน​สายตา​กลับมา​ มอง​พ่อครัว​เฒ่าก่อน​ แล้ว​ค่อย​มอง​ไป​ยัง​เจ้าอาราม​ผู้เฒ่า​ที่​ไม่ใช่คนแปลกหน้า​ ชุยตง​ซาน​ยิ้ม​หน้าทะเล้น​ “น้ำ​ฤดูใบไม้ร่วง​มาถึง ร้อย​ลำน้ำ​ไหลหลั่ง​สู่นที​ ยิ่งใหญ่​อลังการ​ ยาก​จะแยกแยะ​ว่า​เป็น​วัว​หรือ​ม้า”

จูเหลี่ยน​ยิ้ม​รับ​ คำพูดคำจา​นี้​ค่อนข้างจะ​กวน​อารมณ์​ชวน​เตะ​อยู่​บ้าง​

ชุยตง​ซาน​เอนหลัง​พิง​โต๊ะ​ นั่ง​แปะ​ลง​บน​ม้านั่งยาว​ ยก​เท้า​ขึ้น​แล้ว​หัน​ตัว​มา ถามว่า​ “ขุนเขา​สายน้ำ​ยาว​ไกล​ เมฆลึก​หนทาง​เปลี่ยว​ร้าง​ นักพรต​ผู้เฒ่า​มาเยือน​ด้วย​เหตุใด​?”

จูเหลี่ยน​แทะ​เมล็ด​แตง​ หาก​ตน​เป็น​เจ้าอาราม​ผู้เฒ่า​คง​ลงมือ​ตี​คน​แล้ว​

เจ้าอาราม​ผู้เฒ่า​หัวเราะ​หยัน​ “สรรพสิ่ง​บน​โลก​ล้วน​มีรอยแตก​ ทุกสิ่ง​ที่​มอง​เห็นด้วย​สายตา​ ต่อให้​เป็น​ร่าง​ทอง​ของ​สิ่งศักดิ์สิทธิ์​ก็​ยัง​ไม่อาจ​เห็น​ได้​ ต่อให้​เป็น​จิต​แห่ง​มรรคา​ของ​ผู้ฝึก​ตน​ ก็​ยัง​ไม่ใช่หนึ่ง​ที่​สมบูรณ์แบบ​อะไร​ เส้นทาง​สาย​นี้​เดินผ่าน​ไป​ไม่ได้​ ต่อให้​เจ้าชุย​ฉาน​จะเสาะหา​มาทั้ง​ชีวิต​ ก็​ยัง​หาไม่​เจอ​ ถูก​กำหนด​มาแล้ว​ว่า​จะต้อง​เหนื่อย​เปล่า​ ไม่อย่างนั้น​ไย​บรรพ​จารย์​สามลัทธิ​ต้อง​มาที่นี่​ด้วย​ มรรคา​และ​หนึ่ง​ หาก​กลายเป็น​ของ​บางอย่าง​ที่​จับต้อง​ได้​จริง​ จะไม่ใช่ว่า​ต้อง​พลิก​ฟ้าคว่ำ​แผ่นดิน​กัน​อีกครั้ง​หรอก​หรือ​”

ชุยตง​ซาน​พูด​บ่น​ “ตะพาบ​อะไร​กัน​ ข้า​คือ​ตง​ซาน​นะ​”

เจ้าอาราม​ผู้เฒ่า​หัวเราะ​หึหึ​

ชุยตง​ซาน​โยก​ไหล่​ ท่อง​พึมพำ​เหมือน​อาจารย์​สอนหนังสือ​ใน​โรงเรียน​ที่​ตอบ​ไม่ตรง​คำถาม​ “อีก​อย่าง​ ทาง​เส้น​นี้​อยู่​ใกล้​เพียงนี้​เชียว​หรือ​? ดวงตา​มองไม่เห็น​ขน​ตา​ของ​ตัวเอง​ ทาง​สาย​นี้​อยู่​ไกล​เพียงนี้​เชียว​หรือ​? มีเพียง​สัมผัส​กับ​เรื่องราว​ถึงจะรู้​ว่า​มัน​ดำรงอยู่​จริง​ ขอบเขต​ของ​อริยะ​บุคคล​อยู่​ต่ำ​ใกล้ชิด​เพียงนี้​เชียว​หรือ​? ดาว​ชาน​ซิงดาว​ซางซิงลอย​ขึ้น​ลอย​ลง​ ขอบเขต​ของ​อริยะ​บุคคล​สูงส่งยาว​ไกล​เพียงนี้​เชียว​หรือ​? เข้าใจ​กระจ่าง​จึงเป็น​ทวยเทพ​”

เจ้าอาราม​ผู้เฒ่า​ยิ้ม​บาง​ๆ “ชุย​ฉาน​ใน​ปี​นั้น​ จะดี​จะชั่ว​ก็​ยังมี​ท่าที​ของ​บัณฑิต​ หาก​ปี​นั้น​มีสารรูป​เช่น​เจ้าในเวลานี้​ ผิน​เต้า​ก็​สามารถ​รับรอง​ได้​เลย​ว่า​เจ้าหนู​เจ้าไม่มีทางเดิน​ออก​มาจาก​พื้นที่​มงคล​ดอกบัว​ได้​”

ชุยตง​ซาน​ตบ​อก​ตัวเอง​คล้าย​กับ​หวาดกลัว​ภายหลัง​

เจ้าอาราม​ผู้เฒ่า​ดื่ม​น้ำชา​ไป​หนึ่ง​อึก​ “คน​ที่​รู้จัก​เป็น​ภรรยา​จะปิดบัง​ทั้งสอง​ทาง​ คน​ที่​ไม่รู้จัก​เป็น​ภรรยา​จะปากโป้ง​ทั้งสอง​ด้าน​ อันที่จริง​ปิดบัง​สอง​ด้าน​มักจะ​ยาก​ทั้งสอง​ด้าน​เสมอ​”

ใช้ชาย​แขน​เสื้อ​เช็ด​โต๊ะ​ ชุยตง​ซาน​กลอกตา​เอ่ย​ว่า​ “คำพูด​ประโยค​นี้​ของ​ผู้อาวุโส​ พูด​ได้​ไม่ค่อย​เหมาะ​เท่าไร​แล้ว​”

เจ้าอาราม​ผู้เฒ่า​เห็น​ว่า​เจ้าหมอ​นี่​ยัง​แกล้ง​โง่ต่อไป​ก็​หันหน้า​ไป​มอง​สตรี​ที่​เดิน​นิ่ง​เลียบ​บันได​ลงมา​ ถามว่า​ “นี่​ก็​คือ​ลูกศิษย์​ถ่ายทอดวิชา​หมัด​ที่​เจ้าเลือก​มาหรือ​?”

จูเหลี่ยน​ยิ้ม​กล่าว​ “ลูกศิษย์​ที่​ไม่ได้รับ​การ​บันทึก​ชื่อ​ แล้ว​นับประสาอะไร​กับ​ที่​ด้วย​ฝีมือ​แมว​สามขา​ของ​ข้า​ สตรี​เรียน​ไป​แล้วก็​ไม่งาม”

เจ้าอาราม​ผู้เฒ่า​ไม่เห็นด้วย​ หันไป​ถามสตรี​ผู้​นั้น​ “เจ้าชื่อ​เฉิน​ยวน​จีรึ​?”

เฉิน​ (岑 ออกเสียง​เดียว​กับ​แซ่เฉิน​ 陈 ของ​เฉิน​ผิง​อัน​ แต่​เขียน​คนละ​แบบ​ คนละ​ความหมาย​) ภูเขา​ลูก​เล็ก​แต่​สูง บรรยาย​ถึงภูเขา​หิน​ที่​มีหน้าผา​สูงชัน​อันตราย​ ยวน​จี หมายถึง​เครื่องทอผ้า​ใน​โลก​มนุษย์​ แต่​นักกวี​ให้​คำ​เปรียบเปรย​ถึงเงาของ​บุปผา​ที่​เคลื่อนไหว​

ลู่​เฉิน​มักจะ​ทำ​อะไร​ตามแต่​ใจของ​ตัวเอง​เป็นหลัก​ ชอบ​ปล่อย​สาย​เบ็ด​ยาว​เพื่อ​ตกปลา​ใหญ่​ ทว่า​ต่อให้​ตกปลา​มาไม่ได้​เขา​ก็​ไม่สนใจ​

สือ​โหร​ว​แห่ง​ตรอก​ฉีหลง​ก็ดี​ ชุด​คลุม​อาคม​จิน​ห​ลี่​ที่​ประวัติ​ความเป็นมา​วกวน​อ้อม​ค้อมตัว​นั้น​ก็ช่าง​ ก็​แค่​รอคอย​คน​ที่​ยินดี​มาติด​เบ็ด​เท่านั้น​ ไม่สนใจ​สักนิด​ว่า​สาย​เส้นเอ็น​ที่​ใช้ตกปลา​จะขาด​ไป​ หรือ​ปลา​จะงับ​เหยื่อ​แล้ว​ว่าย​หนี​ไป​

เฉิน​ยวน​จีเพิ่งจะ​หยุด​เท้า​ที่​หน้า​ประตู​ภูเขา​ นาง​รู้จัก​หนัก​เบา​ดี​ นักพรต​เฒ่าคน​หนึ่ง​ที่​สามารถ​ทำให้​อาจารย์​ผู้เฒ่า​จูและ​ชุยตง​ซาน​เป็น​ฝ่าย​ลง​จาก​ภูเขา​มาพบ​หน้า​ด้วยตัวเอง​ ต้อง​ไม่ธรรมดา​อย่าง​แน่นอน​

ไม่รู้​ว่า​เหตุใด​ ทั้งๆ ที่​นักพรต​เฒ่ามีสีหน้า​เรียบ​เฉย​เป็นปกติ​ แต่​เฉิน​ยวน​จีกลับ​สัมผัส​ได้​ถึงแรงกดดัน​มหาศาล​ นาง​กุม​หมัด​เอ่ย​ว่า​ “ตอบ​ท่าน​นักพรต​ ผู้เยาว์​ชื่อ​เฉิน​ยวน​จีจริง​เจ้าค่ะ​”

จูเหลี่ยน​ยิ้ม​เอ่ย​ “ขู่​ให้​แม่นาง​น้อย​คน​หนึ่ง​ตกใจกลัว​ทำไม​”

ชุยตง​ซาน​กวักมือ​ “หมี่​ลี่​น้อย​ เอา​เมล็ด​แตง​มาแทะ​บ้าง​สิ”

แม่นาง​น้อย​ชุด​ดำ​รีบ​ลุก​จาก​เก้าอี้​ไม้ไผ่​ทันที​ วิ่งเหยาะๆ​ มาที่​โต๊ะ​แล้ว​ควัก​เอา​เมล็ด​แตง​ทั้งหมด​ที่​เหลืออยู่​ใน​กระเป๋า​ผ้าฝ้าย​ออกมา​ แต่กลับ​เท​ให้​ชุยตง​ซาน​ไม่มาก​นัก​ “ข้า​ให้​ ศิษย์​พี่​เล็ก​”

ชุยตง​ซาน​ตบ​ศีรษะ​ตัวเอง​ ถามว่า​ “ผู้พิทักษ์​ฝ่ายขวา​ แค่นี้​เอง​หรือ​?”

หมี่​ลี่​น้อย​ได้ยิน​ว่า​ห่าน​ขาวใหญ่​เปลี่ยน​คำ​เรียกขาน​ก็​ตีหน้า​เคร่ง​ หยิบ​เมล็ด​แตง​ออก​มาจาก​ชาย​แขน​เสื้อ​อีก​กำมือ​ใหญ่​

ชุยตง​ซาน​พยักหน้า​ “ผู้พิทักษ์​ฝ่ายขวา​มือเติบ​ใจกว้าง​นัก​!”

เจ้าอาราม​ผู้เฒ่า​ถามจูเหลี่ยน​อี​กว่า​ “เส้นทาง​ของ​วิชา​กระบี่​ล่ะ​? คิด​ว่า​จะไป​เลือก​เอา​มาจาก​ตัวอ่อน​ผู้ฝึก​กระบี่​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​หรือ​?”

เป็น​เจ้าอาราม​ผู้เฒ่า​เหมือนกัน​ นักพรต​ซุน​ของ​อาราม​เสวียน​ตู​ใหญ่​ยุยง​ให้​ลู่​เฉิน​สลาย​มรรคา​แล้วไป​จุติ​เกิด​ใหม่​เป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​ นั่น​ไม่ใช่คำ​หยอกล้อ​ไป​เสีย​ทั้งหมด​ แต่​เพราะ​เขา​มีเป้าหมาย​

แน่นอน​ว่าด้วย​นิสัย​เช่นนั้น​ของ​ซุน​ไหว​จง หา​กลู่​เฉิน​ไป​เป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​จริงๆ​ คาด​ว่า​ไม่ว่า​จะอย่างไร​ก็​คง​ต้อง​ให้​ลู่​เฉิน​กลาย​มาเป็น​นักพรต​น้อย​ที่​ลำดับ​ศักดิ์​ต่ำสุด​ของ​อาราม​เสวียน​ตู​อย่าง​แน่นอน​ คอย​เรียก​ตน​ว่า​ท่าน​บรรพบุรุษ​อยู่​ทุกวัน​ วัน​ละ​หลาย​ๆ ครั้ง​ ถ้าไม่เรียก​ก็​ต้อง​ถูกจับ​แขวน​ไว้​บน​กิ่ง​ท้อ​แล้ว​โดน​ฟาด​

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!