กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 856

พวก​หนิง​เหยา​สามคน​เดิน​ทางได้​ช้ากว่า​เฉิน​ผิง​อัน​ไป​หนึ่ง​ช่วง​ เฉิน​ผิง​อัน​จึงต้อง​ยืน​อยู่​ที่​เดิม​เพื่อ​รอคอย​ครู่หนึ่ง​

เฉิน​ผิง​อัน​ถาม “ได้ยิน​มาว่า​เจ้านค​รก​วอ​ของ​นค​รอ​วี้​ซูแห่ง​ป๋า​ยอ​วี้​จิงสร้าง​ยันต์​ใหญ่​ชิ้น​แรก​ มีชื่อว่า​ชำระ​กระบี่​หรือ​? ใน​เมื่อ​เจ้าลัทธิ​ลู่​มีความสัมพันธ์​ที่​ดี​ขนาด​นั้น​กับ​เจ้านค​รก​วอ​ ต่าง​ก็​ก่อตั้ง​หอ​พิศ​พัน​กระบี่​อยู่​ที่นั่น​แล้ว​ คิดดู​แล้ว​คง​?”

ลู่​เฉิน​เอ่ย​อย่าง​น่าสงสาร​ “ยันต์​ใหญ่​ขนาด​นี้​ มีน้อย​จน​นับ​นิ้ว​ได้​ ไม่ใช่ว่า​กระดาษ​ยันต์​อย่าง​ยันต์​เขียว​จะสามารถ​ทัดเทียม​ได้​หรอก​นะ​…”

กวอเจี่ย​เจ้านคร​อวี้​ซู เส้าเซี่ยง​รอง​เจ้านคร​ ต่าง​ก็​เป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​อาวุโส​ของ​ลัทธิ​เต๋า​ได้​อย่าง​สมศักดิ์ศรี​

หาก​ใช้คำพูด​ของ​นักพรต​ซุน​แห่ง​อาราม​เสวียน​ตู​ใหญ่​ ก็​คือ​ใน​ป๋า​ยอ​วี้​จิง คน​ที่​เข้าใจ​เวท​กระบี่​มีรวม​ทั้งสิ้น​สอง​คน​

นค​รอ​วี้​ซูได้​ครอบครอง​วัตถุ​สำหรับ​ชำระล้าง​กระบี่​หนึ่ง​ชิ้น​ คือ​ดวงดาว​บรรพกาล​ที่​มีประวัติ​ความเป็นมา​ดวง​หนึ่ง​ ยันต์​ชำระ​กระบี่​ก็​คือ​ยันต์​ใหญ่​ที่จะ​จำแลง​ออกมา​ท่ามกลาง​ขั้นตอน​ของ​การ​หล่อหลอม​กระบี่​บิน​

ลู่​เฉิน​ถามหยั่งเชิง​ว่า​ “ยัง​ยืม​อยู่​เหมือนเดิม​ ใช่ไหม​?”

พูดมาก​เกิน​ก็​ทำให้​เสีย​เรื่องจริง​เสีย​ด้วย​ หาก​รู้​ว่า​จะเป็น​อย่างนี้​แต่แรก​คง​ไม่พูดถึง​หอ​พิศ​พัน​กระบี่​อะไร​แล้ว​

เฉิน​ผิง​อัน​เอ่ย​ “อย่า​ตื่นเต้น​ พวกเรา​ซื้อ​ บน​ร่าง​ของ​เจ้าลัทธิ​ลู่​มีกี่​แผ่น​ พวกเรา​ก็​ซื้อ​เท่านั้น​”

ลู่​เฉิน​ถอนหายใจ​โล่งอก​ “แค่​สามแผ่น​!”

สุดท้าย​ฉีถิงจี้จ่าย​เงิน​ซื้อ​ยันต์​ชำระ​กระบี่​ของ​นค​รอ​วี้​ซูมาสามแผ่น​ อีก​ทั้ง​ยัง​มอบให้​ลู่​จือ​ทั้งหมด​ บอก​ให้​นาง​รีบ​หล่อหลอม​ ขัดเกลา​ความ​เฉียบคม​ให้​กับ​กระบี่​บิน​เป่ย​โต้​ว​

ลู่​จือ​อยาก​จะเอ่ย​ประโยค​เกรงใจ​กับ​คนอื่น​อย่าง​ที่​หา​ได้​ยาก​ จึงฝืน​นิสัย​พูด​กับ​เฉิน​ผิง​อันว่า​ “ขอบคุณ​นะ​”

ได้​กล่อง​กระบี่​มาเปล่าๆ​ หนึ่ง​ใบ​ จิตวิญญาณ​ได้รับ​การ​บำรุง​จาก​ยันต์​สามภูเขา​ แล้ว​ยัง​ได้​ยันต์​ชำระ​กระบี่​ที่​มีราคา​แต่​หา​ซื้อ​ไม่ได้มา​อีก​

และ​ยัง​ต้อง​รวม​ปีศาจ​ใหญ่​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ที่​ใช้นามแฝง​ว่า​เปีย​นจิ้ง​ซึ่งตาม​ไล่​ฆ่าข้าม​มหาสมุทร​ไป​ก่อนหน้านี้​

หาก​ตอนนั้น​ไม่จำเป็นต้อง​ร่วมมือ​กับ​เฉิน​ฉุน​อัน​ หา​กลู่​จือ​ทุ่ม​สุด​ชีวิต​เรียก​กระบี่​บิน​เป่ย​โต้​วอ​อก​มา ไม่แน่​ว่า​อาจจะ​ได้​แกะสลัก​ตัวอักษร​ลง​บน​หัว​กำแพงเมือง​แล้ว​

เฉิน​ผิง​อัน​คลี่​ยิ้ม​พลาง​ส่ายหน้า​

ใน​ใจลู่​เฉิน​รู้สึก​สะทก​สะท้อนใจ​ เจ้าหนู​เจ้าใช้เงิน​ของ​คนอื่น​มาสร้างภาพ​ให้​ตัวเอง​เช่นนี้​ จำได้​ว่า​เด็กหนุ่ม​ของ​ตรอก​หนี​ผิง​ใน​อดีต​ไม่ได้​เป็น​เช่นนี้​เลย​นะ​ เป็น​คนซื่อ​คน​หนึ่ง​แท้ๆ​

เรือน​กาย​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​หายวับ​ไป​ ไป​เยือน​ภาพลวงตา​ของ​ภูเขา​ลูก​ถัดไป​ หลังจาก​จุด​ธูป​คารวะ​ดังเดิม​แล้ว​ คราวนี้​ก็​ไม่ได้​รอ​พวก​หนิง​เหยา​สามคน​อีก​ แต่​ตรง​ไป​ที่​ภาพมายา​ของ​ภูเขา​ลูก​ที่สาม​ทันที​

ลู่​เฉิน​ถาม “ยันต์​สามภูเขา​ส่วน​สุดท้าย​ เหตุใด​ถึงไม่จินตนาการ​เป็น​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​โดยตรง​ไป​เลย​ล่ะ​?”

เฉิน​ผิง​อัน​กล่าว​ “ต่อให้​จะเป็น​เรือ​ที่​ไม่ถูก​ผูก​ลำ​หนึ่ง​แล้ว​ แต่​ก็​ยัง​ต้อง​ระมัดระวัง​เพื่อให้​ขับ​เรือ​ได้​นาน​หมื่น​ปี​”

ลู่​เฉิน​เห็นด้วย​อย่างยิ่ง​ “มีเหตุผล​ และ​ยิ่ง​เป็น​นิมิตหมาย​ที่​ดี​”

เจ้าลัทธิ​สามแห่ง​ป๋า​ยอ​วี้​จิงท่าน​นี้​ยิ้ม​พูด​สีหน้าทะเล้น​ “เฉิน​ผิง​อัน​ อย่า​ลืม​ล่ะ​ว่า​ เวลานี้​ไม่ว่า​จะเป็น​ถ้อยคำ​ที่​ไม่เจตนา​ใดๆ​ ของ​เจ้าล้วน​มีน้ำหนัก​อย่าง​มาก​”

เฉิน​ผิง​อัน​ไม่ได้​สนใจ​เขา​ เพียงแค่​มอง​ทิวทัศน์​เบื้องหน้า​ ภาพมายา​ตรงหน้า​นี้​คือ​ภูเขา​ลูก​หนึ่ง​ที่​มีปราณ​ชั่วร้าย​สกปรก​ท่วม​ทะยาน​ฟ้า โครงกระดูก​ขาว​กอง​ทับถม​กัน​ เมฆดำ​กลิ้ง​หลุนๆ​ บน​ยอดเขา​มีโครงกระดูก​ขาวโพลน​กลาดเกลื่อน​ทั่ว​ทุกหน​แห่ง​ ราวกับว่า​ฟ้าดิน​มีแค่​สีขาว​ดำ​สอง​สีเท่านั้น​

สำนัก​ของ​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​แห่ง​นี้​ ตรงหน้า​ประตู​ภูเขา​เอาอย่าง​จวน​เซียน​ของ​ไพศาล​ด้วย​การ​ก่อตั้ง​ซุ้มหิน​ขึ้น​มา มีกรอบ​ป้าย​เขียน​เป็น​คำ​ว่า​ ‘นคร​ป่าย​ฮวา​ (ร้อย​ผกา​)’

คน​เฝ้าประตู​คือ​โครงกระดูก​สอง​โครง​ ตอนที่​มีชีวิต​อยู่​เคย​เป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​ สภาพ​การตาย​อเนจอนาถ​ยิ่ง​ คน​หนึ่ง​ใน​นั้น​ถูก​กระบี่​ยาว​แทง​ทะลุ​หัวใจ​ แล้ว​ตรึง​ร่าง​ปัก​ไว้​บน​เสาหิน​ของ​กรอบ​ป้าย​อย่าง​แน่นหนา​

คน​ผู้​หนึ่ง​คุกเข่า​อยู่​บน​พื้น​ เรือน​กาย​โน้ม​มาด้านหน้า​ กระบี่​ยาว​ปัก​ไว้​บน​ดิน​ ด้าม​กระบี่​เสย​แทง​ปลาย​คาง​ทะลุ​ออก​ไป​บน​หัว​

คือ​ผู้ล่วงลับ​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​สอง​ท่าน​

เฉิน​ผิง​อัน​เดิน​ไป​หยุด​อยู่​ข้าง​โครงกระดูก​ ทรุดตัว​ลงนั่ง​ยอง​ ดึง​กระบี่​ยาว​เกรอะ​สนิม​เล่ม​นั้น​ออกมา​เก็บ​ใส่ไว้​ใน​ชาย​แขน​เสื้อ​ ยก​ฝ่ามือขึ้น​กด​ลง​บน​หัวกะโหลก​ของ​โครงกระดูก​นั้น​เบา​ๆ

โครงกระดูก​พลัน​กลายเป็น​ผุยผง​ปลิว​กระจาย​ เฉิน​ผิง​อัน​เก็บ​กา​เหล้า​ว่างเปล่า​ใบ​หนึ่ง​มาบรรจุ​อีก​ฝ่าย​ไว้​ภายใน​

จากนั้น​ก็​ลุกขึ้น​เดิน​ไปหา​โครงกระดูก​ที่​คุกเข่า​อยู่​กับ​พื้น​ ประคอง​ผู้ล่วงลับ​ให้​ลุกขึ้น​ยืน​ ปล่อย​แรง​กระเทือน​เบา​ๆ โครงกระดูก​ก็​กลายเป็น​เถ้าธุลี​เช่นเดียวกัน​ เก็บ​ใส่ไว้​ใน​กา​เหล้า​ว่างเปล่า​อีก​ใบ​หนึ่ง​ จากนั้น​จึงเก็บ​กระบี่​ใส่ชาย​แขน​เสื้อ​

ผู้ฝึก​กระบี่​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ คน​ที่​ไม่ชอบ​ดื่มเหล้า​มีอยู่​น้อย​นัก​

ทำ​เรื่อง​พวก​นี้​เสร็จ​ เฉิน​ผิง​อัน​ก็​สอด​สอง​มือ​ไว้​ใน​ชาย​แขน​เสื้อ​

ผู้ฝึก​ตน​เผ่า​ปีศาจ​ขอบเขต​เซียน​เห​ริน​คน​หนึ่ง​ทะยาน​ลม​มาถึง พลิ้ว​กาย​ลง​บน​ขั้นบันได​ของ​ประตู​ภูเขา​ สีหน้า​เดี๋ยว​มืด​เดี๋ยว​สว่าง​ “ผู้​ที่มา​เป็น​ใคร​ จงบอก​ชื่อจริง​มา!”

แทบจะ​เวลา​เดียวกัน​นั้น​ สำนัก​แห่ง​หนึ่ง​ ผู้ฝึก​ตน​เผ่า​ปีศาจ​ร้อย​กว่า​ตน​พร้อมใจกัน​ปราก​ฎตัว​แล้ว​กรู​กัน​มาที่​หน้า​ประตู​ภูเขา​แห่ง​นี้​

เฉิน​ผิง​อัน​เอ่ย​ด้วย​สีหน้า​เฉยเมย​ “อิ่น​กวาน​เฉิน​ผิง​อัน​แห่ง​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​”

ขอบเขต​เซียน​เห​ริน​ผู้​นั้น​อึ้ง​ตะลึง​ไป​ก่อน​ แต่​จากนั้น​ก็​หัวเราะ​ก๊าก​ดังลั่น​ เสียงหัวเราะ​ดัง​ราวกับ​ฟ้าผ่า​จน​กระดูก​ขาว​ที่อยู่​บน​สันเขา​สะเทือน​ร่วง​กรู​ลงมา​ ประหนึ่ง​มีเมฆหมอก​ลอย​อวล​

คนบ้า​ที่ไหน​กัน​ ถึงได้มา​ล้อเล่น​เช่นนี้​?!

มีผู้ฝึก​ตน​ถวายงาน​คน​หนึ่ง​ใช้เสียง​ใน​ใจเอ่ย​เตือน​ “เจ้าสำนัก​ รูปร่าง​ของ​เจ้าเด็ก​นี่​คล้าย​กับ​อิ่น​กวาน​ผู้​นั้น​จริงๆ​ นะ​ขอรับ​”

เพียงแต่​ไม่นาน​ก็​มีผู้ฝึก​ตน​คน​หนึ่ง​ใช้เสียง​ใน​ใจเอ่ย​เย้ยหยัน​ว่า​ “หรือว่า​ใต้เท้า​อิ่น​กวาน​แห่ง​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​อยู่​ใน​ใต้​หล้า​ไพศาล​ไม่รอด​แล้ว​ ก็​เลย​วิ่ง​ไป​เป็น​นักพรต​ซะแล้ว​?”

ผล​คือ​ด้านหลัง​ของ​บุรุษ​ที่​สะพาย​กระบี่​สวม​กวาน​เต๋า​คน​นั้น​กลับ​มีคน​สามคน​เผย​กาย​ขึ้น​แทบจะ​เวลา​เดียวกัน​

คน​หนึ่ง​คือ​บุรุษ​หนุ่ม​รูปโฉม​หล่อเหลา​ที่​พูด​กลั้ว​หัวเราะ​ว่า​ “คุย​เรื่อง​อะไร​กัน​ ตลก​ขนาด​นี้​เชียว​หรือ​?”

เฉิน​ผิง​อัน​กระตุก​มุมปาก​ เอ่ย​หยอกเย้า​ว่า​ “ข้า​บอ​กว่า​ตัวเอง​รู้จัก​เซียน​กระบี่​ผู้อาวุโส​ฉีแห่ง​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ ให้​ตาย​อย่างไร​เจ้าหมอ​นี่​ก็​ไม่ยอม​เชื่อ​”

ผู้ฝึก​กระบี่​ใน​ท้องถิ่น​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ล้วน​คุ้นชิน​กับ​ภาษาทางการ​ภาษากลาง​ของ​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ดี​ และ​แทบ​ทุกคน​ก็​ล้วน​พูด​เป็นอยู่​หลาย​ภาษา

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​ผู้ฝึก​กระบี่​ที่​มักจะ​ออก​เดินทางไกล​ตลอด​ทั้งปี​อย่างเช่น​โฉว​เหมียว​ใน​อดีต​

ฉีถิงจี้พยักหน้า​รับ​ “ถ้าอย่างนั้น​ก็​ตี​ให้​ตาย​ก่อน​แล้ว​ค่อย​ดู​ว่า​จะเชื่อ​หรือไม่​เชื่อ​”

ฉีถิงจี้มีกระบี่​บิน​แห่ง​ชะตาชีวิต​เพียง​เล่ม​เดียว​ ชื่อว่า​ปิง​เจี่ย​ (สมัยโบราณ​หมายถึง​บัณฑิต​ที่​ตาย​ด้วย​คม​อาวุธ​ หรือ​อีก​ความหมาย​คือ​อาศัย​คม​อาวุธ​หลุดพ้น​เพื่อ​บรรลุ​มรรคา​ ถือเป็น​การสละ​ร่าง​อย่างหนึ่ง​)

ตอนที่​เขา​ยัง​หนุ่ม​ เคย​มีฉายา​หนึ่ง​ ฉีซ่งสิง (ซ่งสิงแปล​ว่า​ส่งคน​ออกเดินทาง​ ส่งคน​จากไป​)

ชอบ​ช่วย​ใช้คม​อาวุธ​ส่งคน​เดินทาง​

ฉีถิงจี้ ลู่​จือ​ หนิง​เหยา​…

เจ้าสำนัก​ขอบเขต​เซียน​เห​ริน​ผู้​นั้น​ไม่พูด​อะไร​มากความ​ เผ่นหนี​ก่อน​ใคร​ จากนั้น​คน​ทั้ง​กลุ่ม​ก็​วง​แตก​เหมือน​นก​แตก​รัง​สัตว์​แตกฝูง​

ลู่​จือ​หรี่ตา​กล่าว​ “ข้า​ฟัน​คน​อยู่​ที่นี่​ให้​สาแก่ใจ​ก่อน​แล้ว​ค่อย​ไป​ รับรอง​ว่า​ไม่ถึงครึ่ง​ก้านธูป​”

ฉีถิงจี้เอ่ย​ “ข้า​จะจัดการ​กับ​พวก​ปลา​ที่​หลุด​รอด​หว่าง​แห​เอง​”

เฉิน​ผิง​อัน​พยักหน้า​ “ขอ​แค่​อยู่​ใน​เวลา​ครึ่ง​ก้านธูป​ก็​ไม่ถ่วง​ธุระ​สำคัญ​แล้ว​”

หลังจาก​ใช้ยันต์​สามภูเขา​ การ​เดินทาง​ไป​เยือน​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​ครั้งนี้​จึงร่น​ระยะทาง​ไป​ได้​มาก​ และ​ประหยัดเวลา​ไป​ได้​มาก​เช่นกัน​

เฉิน​ผิง​อัน​เดินทาง​ล่วงหน้า​ไป​ก่อน​ หนิง​เหยา​ติดตาม​ไป​ด้านหลัง​

ภูเขา​มายา​ลูก​ถัดไป​อยู่​ใกล้​กับ​ซาก​ปรัก​ของ​สนามรบ​โบราณ​แห่ง​หนึ่ง​ สถานที่​นี้​มืด​สลัว​มองไม่เห็น​แสงตะวัน​ตลอด​ทั้งปี​ วิญญาณ​หยิน​แข็งแกร่ง​อาละวาด​ ภูตผี​มารวมตัวกัน​ กองทัพ​หยิน​มีมากหลาย​แสน​ตน​

คล้ายคลึง​กับ​หุบเขา​ผี​ร้าย​ของ​ชายหาด​โครงกระดูก​ที่​อุตรกุรุทวีป​ เพียงแต่ว่า​ที่นี่​ไม่มีการ​สยบ​กำราบ​ของ​สำนัก​พี​หมา​ ซาก​ปรัก​สนามรบ​ของ​ใต้​หล้า​ไพศาล​มีการ​สยบ​กำราบ​จาก​สำนักศึกษา​ลัทธิ​ขงจื๊อ​ พิธี​ขอขมา​กรรม​ที่​แคว้น​ใต้​อาณัติ​ของ​ราชวงศ์​ใหญ่​แห่ง​ต่างๆ​ จัด​ขึ้น​ รวมไปถึง​การ​ลง​จาก​ภูเขา​ไปหา​ประสบการณ์​และ​สะสมบุญ​กุศล​ของ​เซียน​ซือ​ทำเนียบ​วงศ์ตระกูล​ เป็นเหตุให้​น้อย​นัก​ที่​วิญญาณ​หยิน​จะรวมตัว​เป็นโล้เป็นพาย​ได้​ ทว่า​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​กลับ​ต่าง​ออก​ไป​

หนิง​เหยา​บอ​กว่า​จะออก​กระบี่​อยู่​ที่นี่​ครู่หนึ่ง​

แต่​เฉิน​ผิง​อัน​กลับ​เดินทาง​ไป​ยัง​ภูเขา​ลูก​ถัดไป​

ไม่ว่า​จะเป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​คนใด​ก็​ตามที่​ไม่มีความกังวล​รอ​อยู่​เบื้องหลัง​ หาก​ปลดปล่อย​ฝีมือ​ร่าย​เวท​กระบี่​อย่าง​เต็มกำลัง​ พลัง​พิฆาต​นั้น​มีแค่​สี่คำ​มาบรรยาย​เท่านั้น​ ไร้เหตุผล​อธิบาย​

และ​ไม่ถึงครึ่ง​ก้านธูป​ สำนัก​แห่ง​หนึ่ง​ของ​เปลี่ยว​ร้าง​ก็​ควัน​ธูป​ขาดสะบั้น​อย่าง​สิ้นเชิง​จริง​ดัง​ว่า​

ลู่​จือ​ถือ​กระบี่​มาหยุด​ยืน​อยู่​ที่​ยอดเขา​ เอ่ย​เรียกชื่อ​ออกมา​ตรงๆ​ “ฉีถิงจี้ ข้า​หวัง​ว่า​วันหน้า​สำนัก​กระบี่​หลง​เซี่ยง​และ​ภูเขา​ลั่วพั่ว​จะสามารถ​ลงเรือลำเดียวกัน​ได้​ ไม่อย่างนั้น​วันใด​ทั้งสองฝ่าย​เกิด​ความขัดแย้ง​กัน​ขึ้น​มา ไม่แน่​ว่า​ข้า​อาจจะ​ช่วย​คนนอก​”

ฉีถิงจี้เอ่ย​สัพยอก​ “ลู่​อันดับ​หนึ่ง​ ตก​เป็นที่​ต้องสงสัย​ว่า​หัน​ศอก​หา​คนนอก​แล้ว​นะ​”

ลู่​จือ​ไม่ใช่คน​ที่จะ​เก็บ​กลั้น​คำพูด​เอาไว้​ได้​ “ต่ง​ซาน​เกิง​ เฉิน​ซีและ​เจ้า หาก​สามารถ​เลือก​ได้​ ข้า​ย่อม​ไม่มีทางเลือก​อยู่​กับ​เจ้า มาเป็น​บรรพ​จารย์​บุกเบิก​ภูเขา​ของ​สำนัก​ใน​ใต้​หล้า​ไพศาล​อะไร​แน่​”

“เพราะ​ผู้ฝึก​กระบี่​สามคน​ที่​ได้​แกะสลัก​ตัวอักษร​ลง​บน​หัว​กำแพงเมือง​ก็​เป็น​เจ้าที่​มีใจทะเยอทะยาน​ที่สุด​ จิต​แห่ง​กระบี่​ไม่บริสุทธิ์​ที่สุด​ นับตั้งแต่​วัน​แรก​ที่​ข้า​ไป​ถึงกำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ก็​ไม่ยินดี​จะสนิทสนม​กับ​เจ้า แม้ว่า​ภายนอก​จะมีสีหน้า​เป็นมิตร​กับ​ทุกคน​ แต่​แท้จริง​แล้ว​ไม่ว่า​กับ​ใคร​ก็​ล้วน​ห่างเหิน​ เชื่อ​ว่า​เจ้าคง​มอง​ข้อ​นี้​ออกมา​นาน​แล้ว​”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!