กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 858

สรุปบท บทที่ 858.1 ทำลายเมือง: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!

ตอน บทที่ 858.1 ทำลายเมือง จาก กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 858.1 ทำลายเมือง คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายกำลังภายใน กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

กาย​ธรรม​นักพรต​เต๋า​สูงห้า​พัน​จั้งปล่อย​หมัด​ต่อย​ลง​บน​นคร​เซียน​จาน​อย่าง​แรง​

ไม่เพียงแต่​ไม่อาจ​ต่อย​ให้​นคร​เซียน​จาน​ทะลุ​เป็น​รู​ ถึงขั้น​ที่ว่า​ยัง​ไม่อาจ​แตะต้อง​ไป​โดน​ตัว​ของ​นคร​อย่าง​แท้จริง​ ได้​แต่​ต่อย​ให้​แสงทอง​จำนวน​นับไม่ถ้วน​แตก​กระจาย​ แต่​หมัด​นี้​กลับ​ปล่อย​พายุ​หมัด​สะเทือน​ออก​ไป​ ทำให้​ชะตา​ฟ้าของ​นคร​ใต้​อาณัติ​สอง​แห่ง​ของ​นคร​เซียน​จาน​ที่​หมัด​ร่วง​ไป​โดน​เกิด​ความวุ่นวาย​ปั่นป่วน​ แห่ง​หนึ่ง​พลัน​เกิด​ลม​ฝน​พัด​กระโชก​แรง​ แห่ง​หนึ่ง​เกิด​ลาง​ว่า​จะมีหิมะ​ใหญ่​ตก​ลงมา​

ใน​นคร​ทั้งสอง​แห่ง​ พวก​ผู้ฝึก​ตน​เซียน​ดิน​เผ่า​ปีศาจ​จิตวิญญาณ​สะท้าน​ไหว​ ตื่น​ตะลึง​สุดขีด​ พวก​ผู้ฝึก​ลมปราณ​ที่​ยัง​ไม่สร้าง​โอสถ​ทอง​ก็​ไม่นั่ง​เข้าฌาน​สร้าง​ร่าง​จำแลง​ขึ้น​มาอีก​ สภาพการณ์​ยัง​นับว่า​ดี​หน่อย​ เพียง​รีบ​เรียก​วัตถุ​แห่ง​ชะตาชีวิต​ออกมา​ช่วย​สร้าง​ความมั่นคง​ให้​กับ​จิต​แห่ง​มรรคา​ ต้านทาน​พลานุภาพ​อัน​ยิ่งใหญ่​ไพศาล​ที่​ราวกับ​ ‘ทัณฑ์​สวรรค์​มาเยือน​’ ส่วน​นั้น​ คน​ที่​กำลัง​ฝึก​ตน​ แต่ละคน​รู้สึก​เพียง​ว่า​หัวใจ​ถูก​ค้อน​หนัก​ๆ ทุบ​ลงมา​ ลมตีขึ้น​มาจุกอก​จน​ต้อง​กระอัก​เลือด​ออกมา​คำ​ใหญ่​ ผู้ฝึก​ตน​ห้า​ขอบเขต​ล่าง​จำนวน​ไม่น้อย​ถึงกับ​หมดสติ​ไป​ทันที​

“คือ​อิ่น​กวาน​คน​สุดท้าย​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ผู้​นั้น​จริงๆ​ หรือ​?!”

พอ​ได้ยิน​ว่า​อาจ​เป็น​อิ่น​กวาน​ที่มา​เป็น​แขก​ที่​นคร​เซียน​จาน​ ทันใดนั้น​พวก​นางกำนัล​มากมาย​ใน​นคร​เซียน​จาน​ก็​เหมือน​สกุณา​ที่​พา​กัน​บิน​ผละ​จาก​กิ่งไม้​ จับมือ​กัน​บิน​ออกมา​ พลิ้ว​กาย​ลง​ตรงจุด​ที่​การ​มองเห็น​เปิดกว้าง​ บ้าง​ก็​เงยหน้า​ บ้าง​ก็​ก้มลง​มอง​กาย​ธรรม​ตน​นั้น​ พวก​นาง​มีสีหน้า​สดชื่น​มีชีวิตชีวา​ ใน​ดวงตา​ฉ่ำน้ำ​ทอ​ประกาย​ ไม่นึก​ว่า​จะโชคดี​ได้​เห็น​อิ่น​กวาน​ตัว​เป็น​ๆ กับ​ตา​ตัวเอง​ บางคน​ที่​โน้มน้าว​ให้​พวก​นาง​กลับ​ไป​ยัง​สถานที่​ฝึก​ตน​ด้วย​ความหวังดี​ล้วน​ถูก​พวก​นาง​มอง​ค้อน​ใส่

ลู่​เฉิน​ที่อยู่​ใน​สถาน​ประกอบ​พิธีกรรม​ดอกบัว​เขย่ง​ปลายเท้า​ ยืด​คอ​ยาว​ เอ่ย​อย่าง​ตกตะลึง​ “นคร​แห่ง​นี้​ทน​การ​ทุบตี​ได้ดี​เลย​นะ​นี่​”

นคร​เซียน​จาน​ก็​คล้าย​กับ​ผู้ฝึก​ลมปราณ​คน​หนึ่ง​ที่​ได้​ครอบครอง​เม็ด​เสื้อเกราะ​ที่​สำนัก​การทหาร​สร้าง​ขึ้น​มา หลังจาก​สวม​ไว้​บน​ร่าง​แล้ว​ เว้น​เสีย​จากว่า​จะสามารถ​ต่อย​หนึ่ง​หมัด​ให้​เสื้อเกราะ​แตก​ยับ​ได้​ ไม่อย่างนั้น​ก็​จะอยู่​ใน​สภาพ​สมบูรณ์แบบ​เป็นหนึ่ง​เดียวกัน​ตลอดเวลา​ สรุป​ก็​คือ​เหมือน​เต่า​หดหัว​อยู่​ใน​กระดอง​อย่าง​มาก​

หาก​พูด​ให้​ใหญ่​หน่อย​ กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ และ​ยังมี​เรือ​ราตรี​ลำ​นั้น​ อันที่จริง​ล้วน​เป็น​ค่าย​กล​ที่​ใช้หลักการ​เดียวกัน​ วิธีการ​โคจร​ของ​มหา​มรรคา​ ช่วง​แรกเริ่ม​สุด​ล้วน​มีต้นกำเนิด​มาจาก​หนึ่ง​นั้น​ของ​ซาก​ปรัก​สรวงสวรรค์​

ใน​อดีต​บรรพบุรุษ​ใหญ่​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​อาศัยที่​เฉิน​ชิงตู​ใช้กระบี่​เปิดทาง​ให้​กับ​นคร​บิน​ทะยาน​ ยก​ทั้ง​นคร​บิน​ทะยาน​ไป​อยู่​ใต้​หล้า​แห่ง​อื่น​ ถึงสามารถ​หา​โอกาส​เหมาะ​ฟัน​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​จาก​หนึ่ง​ให้​กลายเป็น​สอง​ ทำลาย​หนึ่ง​นั้น​ทิ้ง​ไป​ได้​

ลู่​เฉิน​มอง​พวก​นางกำนัล​ทั้งหลาย​ที่​ยัง​ไม่รู้​ว่า​หายนะ​ใหญ่​กำลัง​มาเยือน​แล้วก็​หัวเราะ​ออกมา​ ยิ่ง​รอคอย​ให้​ในอนาคต​เฉิน​ผิง​อัน​ไป​เยือน​ป๋า​ยอ​วี้​จิง

ปี​นั้น​อา​เหลียง​ไป​เยือน​ป๋า​ยอ​วี้​จิงมาหนึ่ง​รอบ​ เป็น​เขา​ที่​หลงตัวเอง​ทั้งนั้น​

ทว่า​พวก​นางกำนัล​ของ​นคร​เซียน​จาน​ที่อยู่​ตรงหน้า​เหล่านี้​กลับเป็น​พวก​นาง​ที่​ละเมอ​เพ้อ​พก​ไป​เอง​

เหล่า​พี่สาว​น้องสาว​เทพธิดา​ใน​ห้า​นคร​สิบสอง​หอ​เรือน​ ต่อให้​เป็น​คน​ที่​เดิมที​ยัง​ฝันหวาน​ต่อ​อา​เหลียง​อยู่​บ้าง​ พอ​เห็นภาพ​ที่​บุรุษ​ผู้​นั้น​ถ่มน้ำลาย​ปาด​เส้น​ผม​ คาด​ว่า​หัว​ใจรัก​และ​เลื่อมใส​ของ​พวก​นาง​ก็​คง​แตกสลาย​หล่น​ร่วง​เต็ม​พื้น​ หรือไม่​ก็​ปลิว​หาย​ไป​กับ​สายลม​ เก็บ​กลับมา​ไม่ได้​อีกแล้ว​

ในความเป็นจริง​แล้ว​ ป๋า​ยอ​วี้​จิงก็​มีพี่สาว​น้องสาว​อยู่​หลาย​คน​ที่​สนิทสนม​กับ​เจ้าลัทธิ​สาม พวก​นาง​ต่าง​ก็​รู้สึก​เสียใจ​นิดๆ​ บอ​กว่า​พบ​หน้า​ไม่สู้ได้ยิน​ข่าว​ ต้อง​รู้​ว่า​ก่อนหน้า​นั้น​ อา​เหลียง​ที่​เคย​แลกหมัด​สอง​หมัด​กับ​เจ้าลัทธิ​รอง​ เป็น​คนนอก​คน​หนึ่ง​ที่​ป๋า​ยอ​วี้​จิงพูดถึง​มาก​ที่สุด​ใน​ช่วงเวลา​ร้อย​ปี​เชียว​นะ​

แต่​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​กลับ​ไม่เหมือนกัน​ หลังจาก​ได้​พบ​หน้า​ มีแต่​จะทำให้​คน​รู้สึก​ว่า​ชื่อเสียง​สมคำเล่าลือ​

ลู่​เฉิน​กล่าว​ “เฉิน​ผิง​อัน​ วันหน้า​ไป​เยือน​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​ เจ้ากับ​ศิษย์​พี่​อวี๋​ และ​ยังมี​ท่าน​ผู้​นั้น​ของ​หอ​จื่อ​ชี่ ควรจะเป็น​อย่างไร​ก็​เป็น​อย่างนั้น​ ถึงอย่างไร​ข้า​ก็​ทั้ง​ไม่ช่วย​คน​ที่​มีเหตุผล​และ​ไม่ช่วย​คนกันเอง​ จะนั่ง​ดูดาย​อย่าง​เดียว​ รอ​ให้​บุญคุณ​ความแค้น​ของ​พวก​เจ้าชำระ​กัน​เสร็จสิ้น​ค่อย​ไป​เที่ยวเล่น​ที่​ป๋า​ยอ​วี้​จิง ยกตัวอย่างเช่น​นคร​ชิงชุ่ย​ และ​ยังมี​นคร​เสิน​เซียว​ จะต้อง​ให้​ข้า​เป็น​คนนำทาง​ให้ได้​นะ​ ตกลง​กัน​ตาม​นี้​แล้ว​นะ​ ห้าม​ผิดสัญญา​ล่ะ​”

เฉิน​ผิง​อัน​แสร้ง​ทำเป็น​ไม่ได้ยิน​ เพียงแค่​ใช้มือซ้าย​ปล่อย​หมัด​อีก​หนึ่ง​หมัด​ เป็น​กระบวนท่า​ม้าเหล็ก​ทะลวง​ขบวน​รบ​

ลู่​เฉิน​รีบ​หุบปาก​ทันใด​ รู้สึก​เหมือน​วัวสันหลังหวะ​

นคร​เซียน​จาน​เหมือน​เทพ​หญิง​อรชรอ้อนแอ้น​คน​หนึ่ง​ที่​ยืน​ตระหง่าน​อยู่​ระหว่าง​ฟ้าดิน​ ด้านนอก​ห่มคลุม​ชุด​คลุม​อาคม​ที่​ปิดบัง​ฟ้าดิน​ แต่กลับ​ถูก​ต่อย​จน​เกิด​เป็น​รอย​เว้า​ขนาดใหญ่​ยักษ์​

หมัด​หยุด​ลอย​นิ่ง​ ห่าง​จาก​นคร​บน​ภูเขา​ไป​แค่​สิบ​กว่า​จั้งเท่านั้น​

ตรง​จวน​ตระกูล​เซียน​แห่ง​หนึ่ง​ที่​ตั้งอยู่​ ‘กึ่งกลาง​ภูเขา​’ ของ​นคร​เซียน​จาน​ ผู้ฝึก​ตน​เผ่า​ปีศาจ​ที่​รูปโฉม​อ่อนเยาว์​อยู่​ตลอดเวลา​รับหน้าที่​เป็นรอง​เจ้านคร​คน​หนึ่ง​ เขา​ลุกขึ้น​จาก​กอง​นารี​ที่​เคล้า​คลอ​อยู่​บน​เตียง​ ไม่รัก​หยก​ถนอม​บุปผา​เลย​แม้แต่น้อย​ มือ​ผลัก​เท้า​เตะ​ผู้ฝึก​ตน​หญิง​ที่​รูปโฉม​งามพิลาส​พวก​นั้น​ทิ้ง​ไป​ สตรี​มีเสน่ห์​เย้ายวน​คน​หนึ่ง​ที่อยู่​ใกล้​กับ​ขอบ​เตียง​จึงกลิ้ง​หลุนๆ​ ร่วง​ลงพื้น​ นาง​ตัวสั่น​ระริก​ สายตา​ฉายแวว​ขุ่นเคือง​ เอื้อมมือ​ไป​คว้า​ชุด​กระโปรง​ชุด​หนึ่ง​ที่อยู่​บน​พื้น​มาปิดบัง​เรือน​กาย​อัน​งดงาม​ เขา​ลุกขึ้น​สวม​เสื้อผ้า​ ไม่ได้​เลือก​จะเปิดเผย​ร่าง​จริง​ แต่​พลิ้ว​กาย​ออก​ไป​ข้างนอก​แล้ว​จำแลง​ร่างกาย​ธรรม​เซียน​เห​ริน​สูงพัน​จั้งอย่าง​ไม่ลังเล​ เอ่ย​อย่าง​เป็น​เดือด​เป็น​แค้น​ “คนบ้า​ที่ไหน​กัน​ ทำไม​ต้อง​มาเป็น​ศัตรู​กับ​นคร​เซียน​จาน​ของ​ข้า​ ใช้ชีวิต​มาพอแล้ว​เลย​รีบร้อน​อยาก​ไป​เกิด​ใหม่​อย่างนั้น​รึ​?!”

กาย​ธรรม​นักพรต​เต๋า​ของ​คน​ผู้​นั้น​ปล่อย​หมัด​ต่อย​ออกมา​อีกครั้ง​

ก็​คือ​การ​ตอบกลับ​

ปีศาจ​ใหญ่​ที่​เผย​ร่าง​จริง​พัน​จั้งสะอึก​อึ้ง​ไป​ทันใด​

โชคดี​ที่​ปราณ​วิญญาณ​ฟ้าดิน​ของ​นคร​เซียน​จาน​กลับมา​รวมตัวกัน​โดยอัตโนมัติ​อีกครั้ง​ แบกรับ​หมัด​ที่​พุ่ง​มาเป็น​เส้นตรง​จาก​นักพรต​สวม​กวาน​ดอกบัว​คน​นั้น​เอาไว้​

พายุ​หมัด​ของ​หมัด​นี้​ยิ่ง​มีพลานุภาพ​น่า​กริ่งเกรง​ สำหรับ​ผู้ฝึก​ตน​ของ​นคร​เซียน​จาน​แล้ว​ ภาพ​ปราก​ฎการณ์​ประหลาด​ที่​สายตา​มอง​ไป​เห็น​นั้น​ก็​คือ​ใน​นคร​มีลม​พัด​กระโชก​ก้อน​เมฆซัด​ปั่นป่วน​ ปราณ​วิญญาณ​จำนวน​นับไม่ถ้วน​มารวมตัวกัน​กลายเป็น​ทะเล​เมฆผืน​หนึ่ง​อย่าง​รวดเร็ว​ เมฆขาว​เหมือน​คันฉ่อง​ประทิน​โฉมบาน​หนึ่ง​ที่ตั้ง​วาง​อยู่​ สกัด​ขวาง​เบื้องหน้า​หมัด​นั้น​ จากนั้น​ก็​มีหนึ่ง​หมัด​ที่​ซัด​ให้​ทะเล​เมฆปั่นป่วน​แตก​กระจาย​ หมัด​พลัน​ขยาย​ใหญ่​ราว​มหา​บรรพต​ ราวกับว่า​นาที​ถัดมา​ก็​จะพุ่งตรง​เข้ามา​ที่​เปลือกตา​ของ​ผู้ฝึก​ตน​

อิ่น​กวาน​หนุ่ม​ที่​กาย​ธรรม​ใหญ่โต​โอฬาร​ หนึ่ง​หมัด​ทุบ​ทำลาย​เมฆขาว​

คน​ผู้​นี้​ เวลานี้​ เหตุการณ์​นี้​ ได้​ทำให้​ความคิด​จิตใจ​ของ​เหล่า​นางกำนัล​ของ​นคร​เซียน​จาน​กลาย​มาเป็น​ความรัก​ความ​หลงใหล​

ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​มีหลักการ​ที่​สมเหตุสมผล​ตาม​หลัก​ฟ้าดิน​แค่​ข้อ​เดียว​เท่านั้น​ ผู้​แข็งแกร่ง​ได้รับ​ความ​เคารพนับถือ​

จุด​ที่สูง​ที่สุด​ของ​นคร​เซียน​จาน​ ห้อง​หลอม​โอสถ​แห่ง​หนึ่ง​ที่​เป็น​พื้นที่​ต้องห้าม​ ผู้ฝึก​ตน​เฒ่าที่​มีมาด​แห่ง​เซียน​คน​หนึ่ง​ เดิมที​ใน​มือ​กำลัง​ถือ​พัด​จดจ้อง​ไฟใน​เตา​หลอม​โอสถ​ หลังจากที่​แขกไม่ได้รับเชิญ​ปล่อย​หมัด​ออกมา​สามที​ก็​จำต้อง​เดิน​ออกจาก​ห้อง​มายืน​พิง​ราว​รั้ว​ หลุบ​ตา​ลง​มอง​กวาน​ดอกบัว​นั้น​ ครั้น​จึงยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “สหาย​ช่วย​หยุด​มือ​ก่อน​ได้​หรือไม่​? หาก​มีเรื่อง​เข้าใจผิด​กัน​ แค่​พูดคุย​กัน​ก็ได้​แล้ว​”

ใน​สายตา​ของ​เขา​ นักพรต​คน​นั้น​ร่าง​สูงถึงครึ่งหนึ่ง​ของ​นคร​

หมัด​เขย่า​นคร​สูง

เจ้านคร​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ท่าน​นี้​มีสีหน้า​เรียบ​เฉย​ แต่​แท้จริง​แล้ว​กลับ​กังวลใจ​ยิ่งนัก​ ผู้​ที่​มีเจตนา​ดี​ไม่มา ผู้​ที่มา​มีเจตนา​ไม่ดี​ ไม่รู้​ว่า​ไป​มีเรื่อง​กับ​แขกไม่ได้รับเชิญ​คน​นี้​ตั้งแต่​เมื่อไหร่​

ถ้าอย่างนั้น​ลู่​เฉิน​ที่​เป็น​เจ้าลัทธิ​สามของ​ป๋า​ยอ​วี้​จิง เป็น​ลูกศิษย์​คน​เล็ก​ของ​มรรคา​จารย์​เต๋า​มาหลาย​พันปี​ แน่นอน​ว่า​ต้อง​มีมรรค​กถา​เป็น​ของ​ตัวเอง​ หาก​ไม่ใช่ลู่​เฉิน​ที่​ตัดสินใจ​เอง​โดยพลการ​ ยืนกราน​จะรับ​ลูกศิษย์​แทน​อาจารย์​ ถ้าอย่างนั้น​ลูกศิษย์​คน​ที่สาม​อย่าง​ลู่​เฉิน​นี้​ อดทน​ไป​อีก​แค่​ไม่กี่​ปี​ก็​ย่อม​ต้อง​กลาย​มาเป็น​ลูกศิษย์​ปิด​สำนัก​ของ​มรรคา​จารย์​เต๋า​อย่าง​สมชื่อ​จริงๆ​ แล้ว​ เพียงแต่​ไม่รู้​ว่า​ทำไม​ ดูเหมือนว่า​ลู่​เฉิน​จงใจไม่ไป​แตะ​เรื่อง​นี้​ สละ​สถานะ​นี้​ทิ้ง​ไป​ด้วยตัวเอง​

ลู่​เฉิน​ยิ้ม​ถาม “หาก​อยาก​จะสูงกว่า​นี้​ อันที่จริง​ก็​ง่าย​มาก​ ผลงาน​สามบท​นั้น​ของ​ข้า​ จนกระทั่ง​ถึงตอนนี้​เจ้าก็​ยัง​ไม่เคย​เปิด​อ่าน​เลย​สัก​หน้า​ใช่ไหม​? ไม่เป็นไร​ๆ สามารถ​อาศัย​โอกาส​นี้​มาอ่าน​ได้​พอดี​…”

หาก​เฉิน​ผิง​อัน​ยัง​ไม่ได้​อ่าน​ ‘คัมภีร์​หนัน​หัว​’ เล่ม​นั้น​ ก็​ง่าย​มาก​ ขอ​แค่​เฉิน​ผิง​อัน​ในเวลานี้​ยอม​ตั้งใจ​ศึกษา​ตำรา​ลัทธิ​เต๋า​ แค่​เปิด​ตำรา​ออก​ก็​พอ​ เขา​ก็​จะเหมือน​มีเทพ​ช่วย​ จิต​จะรับรู้​ได้​อย่าง​รวดเร็ว​ อ่าน​ผ่าน​รอบ​หนึ่ง​ก็​จะเข้าใจ​ความหมาย​ที่​แท้จริง​ของ​มัน​ ทุกอย่าง​จะเป็น​เหมือน​น้ำ​มาคู​คลอง​เกิด​ เพราะว่า​เฉิน​ผิง​อัน​ใน​ตอนนี้​อยู่​ใน​สภาวะ​ที่​ลี้ลับ​มหัศจรรย์​ดั่ง​ ‘ปราชญ์​ผู้ฟัง​หลักการ​เหตุผล​’ ก็​คือ​ ‘ผู้​ที่​เป็น​ความภาคภูมิใจ​’ ตาม​ความหมาย​ที่​แท้จริง​ คน​มีสติปัญญา​มาก​มอง​ดูเหมือน​มอง​หลาย​ด้าน​หลาย​มุม คน​มีสติปัญญา​น้อย​กลับ​สนใจ​เรื่อง​หยุมหยิม​เล็กน้อย​

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​กล่าว​ “เมื่อ​เทียบ​กับ​ตัวอักษร​ห้า​พัน​ตัว​อันน้อย​นิด​ของ​มรรคา​จารย์​เต๋า​ ตัวอักษร​แปด​หมื่น​กว่า​ตัว​สามแผ่น​ของ​เจ้า ตัวอักษร​จะเยอะ​ไป​หน่อย​หรือไม่​? ผู้​ที่​ชอบ​วิพากษ์วิจารณ์​มัก​ใช้อำนาจ​รังแก​คนอื่น​ ผู้​ที่​ชอบ​ถกเถียง​มักจะ​ทะเลาะเบาะแว้ง​ไม่หยุด​ เจ้าเป็น​คนพูด​เอง​ใช่หรือไม่​”

เห็นได้ชัด​ว่า​เฉิน​ผิง​อัน​เคย​อ่าน​ ‘คัมภีร์​หนัน​หัว​’ มาก่อน​แล้ว​ นคร​หนัน​หัว​ของ​ป๋า​ยอ​วี้​จิงแห่ง​นั้น​ พิธี​รับ​เต้า​กวาน​เข้าไป​อยู่​ใน​ทำเนียบ​สาย​เต๋า​อย่าง​เป็นทางการ​ พิธีการ​ที่​หยุมหยิม​ยิบ​ย่อย​ที่สุด​ก็​คือ​คัมภีร์​หนัน​หัว​เล่ม​ที่​จัดพิมพ์​ใน​ยุค​หลัง​ซึ่งลู่​เฉิน​เป็น​คน​โยน​ไป​ให้​

ลู่​เฉิน​พูด​ด้วย​สีหน้า​จริงจัง​ “หาก​เทียบ​กับ​บน​หนึ่ง​ขั้น​ย่อม​อยู่​ไกล​เกิน​กว่า​จะเทียบ​ติด​ แต่​หาก​เทียบ​กับ​ล่าง​เก้า​พัน​เก้า​ร้อย​เก้า​สิบ​เก้า​ขั้น​กลับ​มาก​พอ​เหลือแหล่​ มิอาจ​ละโมบ​ไป​มากกว่า​นี้​ได้​อีกแล้ว​”

ริม​ทะเลสาบ​หัวใจ​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​ ด้านนอก​หอ​ตำรา​มีตำรา​โบราณ​ของ​ลัทธิ​เต๋า​ที่​แต่ละ​เล่ม​หนา​บาง​ไม่เท่ากัน​ปราก​ฎขึ้น​มา ลอยตัว​เรียง​กัน​อยู่​กลางอากาศ​ เหมือน​มีลม​เปิด​หน้า​หนังสือ​ระลอก​หนึ่ง​ หน้า​หนังสือ​ของ​ตำรา​เต๋า​เหล่านี้​จึงเปิด​แต่ละ​หน้า​ด้วยตัวเอง​

ลู่​เฉิน​พลัน​ใช้หมัด​ทุบ​ฝ่ามือ​ เอ่ย​อย่าง​เจ็บปวดรวดร้าว​ใจ “เฉิน​ผิง​อัน​ จะดี​จะชั่ว​ก็​เป็น​คัมภีร์​ใหญ่​ที่​ลัทธิ​เต๋า​ให้การ​ยอมรับ​ ทำไม​ถึงไม่มีคุณสมบัติ​ได้​ไป​วาง​อยู่​ใน​หอ​หนังสือ​เล่า​?”

หลังจาก​เฉิน​ผิง​อัน​ ‘อ่านหนังสือ​’ ไป​แล้ว​ กาย​ธรรม​ที่​เดิมที​สูงเท่าครึ่ง​นคร​ก็​ได้รับ​ปณิธาน​เต๋า​ทั้งหมด​ของ​คัมภีร์​หนัน​หัว​ จึงสูงเพิ่มขึ้น​มาอีก​สามพัน​จั้ง

เขา​คิด​จะใช้กระบวนท่า​เทพ​ตี​กลอง​สายฟ้า​ปล่อย​หมัด​ใส่นคร​สูงแห่ง​นี้​

เฉิน​ผิง​อัน​เอ่ย​เตือน​ “เจ้าลัทธิ​ลู่​ก็​อย่า​อยู่​ว่าง​เลย​ วาด​ยันต์​เปิน​เย​ว่​สามแผ่น​ต่อ​เถอะ​ หาก​ถ่วง​รั้ง​เรื่องสำคัญ​ กับ​ข้า​ยัง​พูด​ง่าย​ แต่​กับ​เซียน​กระบี่​ผู้อาวุโส​ฉีและ​อาจารย์​ลู่​ กลับ​ไม่แน่​เสมอไป​ว่า​จะพูด​ง่าย​แล้ว​”

สิงกวาน​หาว​ซู่บิน​ทะยาน​ไป​อยู่​ใน​ดวงจันทร์​ก่อน​แล้ว​ หาก​ถึงเวลา​ที่​นัดหมาย​หาว​ซู่จะใช้วิชา​อภินิหาร​แห่ง​ชะตาชีวิต​ของ​กระบี่​บิน​เล่ม​หนึ่ง​ รับ​ตัว​ผู้ฝึก​กระบี่​อีก​สามคน​ที่​เหลือ​ให้​ขึ้นไป​บน​ฟ้าด้วยกัน​

ลู่​เฉิน​เอ่ย​อย่าง​น่าสงสาร​ว่า​ “พวก​เจ้าจะเอาแต่​จับตัว​คนซื่อ​ไว้​แล้ว​รังแก​อย่าง​เอาเป็นเอาตาย​แบบนี้​ไม่ได้​นะ​”

ให้​เฉิน​ผิง​อัน​ยืม​ของ​แทน​ตัว​เจ้าลัทธิ​และ​มรรค​กถา​ขอบเขต​สิบ​สี่ มอบ​กล่อง​กระบี่​ให้​สำนัก​หลง​เซี่ยง​ยืม​ วาด​ยันต์​สามภูเขา​โดย​ไม่สน​ต้นทุน​ ซื้อขาย​ยันต์​ชำระ​กระบี่​กับ​ฉีถิงจี้ แล้ว​ยัง​มอบ​ยันต์​เปิน​เย​ว่​ให้​อี​ก.​..การ​เดินทางไกล​ครั้งนี้​ทำไม​ถึงท้ายที่สุด​เขา​ที่​เป็น​คนนอก​ซึ่งไม่ใช่ผู้ฝึก​กระบี่​ถึงกลายเป็น​คน​ที่​ยุ่ง​ที่สุด​เลย​เล่า​?

เฉิน​ผิง​อัน​ปล่อย​หมัด​แรก​ใส่นคร​เซียน​จาน​

นคร​เซียน​จาน​โยก​ไหว​ทันใด​ พื้นดิน​ใน​รัศมี​พัน​ลี้​สั่นสะเทือน​ บน​พื้น​ถูก​ฉีก​กระชาก​ให้​กลายเป็น​ร่อง​ลึก​จำนวน​นับไม่ถ้วน​ ราก​ภูเขา​สะเทือน​เลือน​ลั่น​ กระแสน้ำ​เปลี่ยน​ช่องทาง​ ปราก​ฎการณ์​ผิด​สามัญก่อเกิด​

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!