กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 859

หลังจาก​นคร​เซียน​จาน​ครึ่ง​บน​ถูก​ฝ่ามือหนึ่ง​ตบ​ออก​ไป​ ลำแสง​นับ​ร้อย​นับ​พัน​เส้น​ก็​พา​กัน​สว่าง​วาบ​ในเวลาเดียวกัน​ คือ​เงาร่าง​ของ​ผู้ฝึก​ตน​ของ​นคร​เซียน​จาน​ที่​พา​กัน​ทะยาน​ลม​จากไป​

ลู่​เฉิน​เหลือบมอง​ภาพ​ที่​กลิ่นอาย​เซียน​ล่องลอย​ สีสัน​พร่างพราว​เจิดจ้า​ งดงาม​ตระการตา​ภาพ​นี้​ น่าเสียดาย​ที่​เป็น​ไม้ล้ม​ลิง​ค่าง​แตก​ซ่าน​ วันหน้า​เปลี่ยว​ร้าง​จะไม่มีนคร​สูงอันดับ​หนึ่ง​อีกต่อไป​แล้ว​

รวบรวม​ทราย​กลายเป็น​ภูเขา​อย่าง​ยากลำบาก​ กระแสน้ำ​ไหล​กระจัดกระจาย​ เสน่ห์​อัน​องอาจ​ย่อม​ต้อง​ถูกลม​พัด​ฝน​ซัด​ให้​ปลิว​หาย​ไป​ได้​เช่นกัน​ แต่​วันนี้​นคร​เซียน​จาน​ถูก​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​ใช้ท่วงท่า​ของ​ผู้ฝึก​ยุทธ​เต็มตัว​มาทำลาย​ให้​หัก​ครึ่ง​แล้ว​ทุบ​จน​แหลก​เละ​

ลู่​เฉิน​เก็บ​สายตา​กลับคืน​มา เอ่ย​เตือน​ว่า​ “พวกเรา​หยุด​แค่​พอสมควร​เถอะ​ เสียเวลา​อยู่​ที่นี่​นาน​เกินไป​จะถ่วง​รั้ง​การ​ออก​กระบี่​”

เฉิน​ผิง​อัน​แบกรับ​ชื่อจริง​ของ​เผ่า​ปีศาจ​เอาไว้​ ผสาน​มรรคา​กับ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ เดิมที​ก็​ถูก​มหา​มรรคา​ของ​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​สยบ​กำราบ​ไว้​อยู่แล้ว​ อันที่จริง​ตลอดทาง​ที่​ลู่​เฉิน​เดินทางไกล​มานี้​ก็​ไม่ได้​ผ่อนคลาย​นัก​ ต้อง​คอย​ช่วย​เฉิน​ผิง​อัน​จำแลง​มรรค​กถา​อย่าง​ต่อเนื่อง​ คอย​สลาย​การ​สยบ​กำราบ​ที่​ล่องลอย​มีอยู่​ทุกหนทุกแห่ง​นั้น​ทิ้ง​ไป​ ไม่อย่างนั้น​ยันต์​เปิน​เย​ว่​สามแผ่น​ แค่​กระดิก​นิ้ว​ก็​ได้มา​ ถึงอย่างไร​มัน​ก็​ไม่เหมือนกับ​ยันต์​สามภูเขา​ ยันต์​เปิน​เย​ว่​คือ​ยันต์​ที่​ลู่​เฉิน​เป็น​ผู้สร้าง​ขึ้น​มา เจ้าลัทธิ​สามอยู่​ใน​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​ไม่มีอะไร​ทำ​ อยู่​ที่​ป๋า​ยอ​วี้​จิงรู้สึก​อุดอู้​ก็​จะทะยาน​ลม​ไป​กลาง​นภา​กา​ศ ดื่ม​สุรา​อยู่​ใน​ดวงจันทร์​ (เปิน​เย​ว่​แปล​ว่า​บิน​เข้าหา​ มุ่งเข้าหา​ดวงจันทร์​) เพียงลำพัง​

ไม่เหมือน​ที่​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ บน​ท้องฟ้า​ของ​ใต้​หล้า​แห่ง​อื่นๆ​ ล้วน​มีดวงจันทร์​ดวง​เดียว​ ซึ่งเป็น​สถานที่​ต้องห้าม​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย​ ต่อให้​ขอบเขต​ของ​ผู้ฝึก​ตน​เพียง​พอที่จะ​ประคับประคอง​ให้​เดินทางไกล​ แต่​การ​บิน​ทะยาน​ไป​ยัง​ดวงจันทร์​ก็​คือ​เรื่อง​ต้องห้าม​ใหญ่​อันดับ​หนึ่ง​ พูดถึง​แค่​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​ เคย​มีผู้ฝึก​ตน​ใหญ่​พยายาม​แหก​กฎ​ไป​เที่ยวเล่น​ที่​ซาก​ปรัก​ของ​ตำหนัก​ดวงจันทร์​บรรพกาล​ ผล​คือ​ถูกอวี๋​โต้​ว​ที่อยู่​ใน​ป๋า​ยอ​วี้​จิงจับ​เบาะแส​ได้​ จึงปล่อย​กระบี่​อยู่​ไกลๆ​ ฟัน​คน​ให้​ร่วง​ลง​บน​โลก​มนุษย์​ จาก​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​หล่น​มาเป็น​ขอบเขต​หยก​ดิบ​ ผล​คือ​ได้​แต่​กลับมา​ที่​สำนัก​ ดื่มเหล้า​ดับทุกข์​อยู่​ใน​ดวงจันทร์​ของ​พื้นที่​มงคล​บ้าน​ตัวเอง​ ป่าวประกาศ​ว่า​เต๋า​เหล่า​เอ้อ​หาก​เจ้าแน่จริง​ก็​ลอง​สอด​มายุ่ง​เรื่อง​ของ​ข้า​ผู้อาวุโส​อี​กสิ​ ข้า​ผู้อาวุโส​ดื่มเหล้า​อยู่​ใน​ถิ่น​ของ​บ้าน​ตัวเอง​ เจ้าลอง​ควบคุม​ฟ้าควบคุม​ดิน​อี​กสิ​…ผล​คือ​อวี๋​โต้​ว​ปล่อย​กระบี่​ออกมา​อีกครั้ง​จริงๆ​ ฟัน​ให้​ดวงจันทร์​ของ​พื้นที่​มงคล​แยก​ออก​เป็น​สอง​ส่วน​ ถึงท้ายที่สุด​เต้า​กวาน​หลาย​ร้อย​คน​ของ​ทั้ง​สำนัก​กลับ​ไม่มีใคร​สัก​คน​ที่​กล้า​ไป​ตี​กลอง​ฟ้าร้องทุกข์​ กลาย​เป็นเรื่อง​ตลกขบขัน​เรื่อง​หนึ่ง​

ในที่สุด​กาย​ธรรม​นักพรต​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​ก็​หยุด​มือ​ เหลือบตา​มอง​ร่องรอย​ของ​ผู้ฝึก​ตน​ที่​หนี​กระเจิง​กัน​ไป​กลางอากาศ​ “ดูเหมือนว่า​จะไม่มีเงาของ​รอง​เจ้านคร​อิ๋น​ลู่​ ใน​นคร​อีก​ครึ่งหนึ่ง​ก็​สัมผัส​ไม่ได้​ถึงกลิ่นอาย​ของ​ปีศาจ​ตน​นี้​ เจ้าหา​ตัว​เขา​เจอ​หรือไม่​?”

ลู่​เฉิน​ยิ้ม​กล่าว​ “คาด​ว่า​คง​ใช้เวท​ลับ​บางอย่าง​หลบ​ซ่อนตัว​ไป​แล้ว​ แสวงหา​ความร่ำรวย​ท่ามกลาง​ความเสี่ยง​นี่​นะ​ รากฐาน​มหา​มรรคา​ของ​นคร​เซียน​จาน​หยั่งราก​ลึก​อยู่​ที่นี่​นาน​แล้ว​ ขอ​แค่​เจ้าไม่ทำลาย​ปิ่น​นักพรต​ชิ้น​นั้น​ทิ้ง​ อิ๋น​ลู่​เซียน​เห​ริน​ที่​อีก​เดี๋ยว​ก็​จะฉวยโอกาส​นี้​เลื่อนขั้น​เป็น​เจ้านคร​ ก็​ยัง​มีโอกาส​ที่จะ​กลับมา​ลุก​ผงาด​ใหม่​อีกครั้ง​ ด้วย​คุณสมบัติ​ใน​การ​ฝึก​ตน​ของ​มัน​ ช่วงชิง​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​มาก็​ไม่ถือว่า​เป็น​ความเพ้อฝัน​ แน่นอน​ว่า​เป็น​แค่​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ที่​มีเพียง​โครง​ว่างเปล่า​เท่านั้น​ เมื่อ​เทียบ​กับ​อาจารย์​ของ​มัน​แล้วก็​ไม่ได้ดี​ไป​กว่า​กัน​สัก​เท่าไร​ ขายหน้า​ปีศาจ​ใหญ่​ของ​เปลี่ยว​ร้าง​ยิ่งนัก​ มิน่าเล่า​เสวียน​ผู่​ถึงไม่เคย​กล้า​ไป​โผล่​หน้าที่​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ อีก​เดี๋ยว​พวกเรา​สอง​คน​ไป​ใน​นคร​อีก​ครึ่ง​นั้น​ ผิน​เต้า​พอ​จะเป็น​วิชา​คำนวณ​อยู่​บ้าง​ ไม่แน่​ว่า​อาจ​หา​เบาะแส​อะไร​เจอ​”

พูด​มาถึงตรงนี้​ ลู่​เฉิน​เผย​สีหน้า​เคร่งเครียด​อย่าง​ที่​หา​ได้​ยาก​ “ขอ​ผิน​เต้า​ปากมาก​พูด​สัก​ประโยค​ ห้าม​คิด​ทำลาย​ปิ่น​ชิ้น​นั้น​เด็ดขาด​เชียว​ อดีต​เจ้าของ​ของ​วัตถุ​ชิ้น​นี้​ มีคุณูปการ​ใหญ่หลวง​ต่อ​โลก​มนุษย์​ของ​พวกเรา​ ตาม​คำกล่าว​ใน​ปฏิทิน​เหลือง​เก่าแก่​ ถือเป็น​ผู้​ที่​บน​มรรคา​มีทักษะ​ โลก​มนุษย์​มีตบะ​ฌาน​ มีครบถ้วน​ทั้ง​ทักษะ​และ​ตบะ​ฌาน​ ดังนั้น​ทาง​ที่สุด​ที่สุด​พวกเรา​ไม่ควร​ไป​มีเรื่อง​ด้วย​”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​กล่าว​ “ถ้าอย่างนั้น​ก็​หยุด​แต่​เพียงเท่านี้​ ไม่เสียเวลา​อยู่​ที่นี่​แล้ว​”

ลู่​เฉิน​เอ่ย​อย่าง​ปลงอนิจจัง​ “เรื่อง​ที่​ใช้สอง​หมัด​ทุบ​ทำลาย​นคร​เซียน​จาน​ ให้​ผู้ฝึก​ตน​ของ​นคร​เซียน​จาน​รื้อถอน​ศาล​บรรพ​จารย์​กันเอง​ ใน​สายตา​ของ​ผิน​เต้า​ เห็นได้ชัด​ว่า​เป็น​วีรกรรม​ที่​ยิ่งใหญ่​มากกว่า​”

เก็บ​กาย​ธรรม​นักพรต​สูงแปด​จั้งนั้น​ลง​ไป​ ร่าง​สูงเท่า​คน​ปกติ​ เฉิน​ผิง​อัน​เปลี่ยน​มาอยู่​ใน​ชุด​คลุม​สีเขียว​สวม​กวาน​เต๋า​อีกครั้ง​ เงยหน้า​มอง​ ‘นคร​เซียน​จาน​’ ที่​ไม่ขัดตา​มาก​ถึงเพียงนั้น​แล้ว​หลาย​ที​ ยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “ก็​แค่​รู้​เหตุผล​ว่า​ทำไม​มัน​ถึงเป็น​เช่นนี้​ก็​เท่านั้น​”

เหตุผล​นั้น​เรียบง่าย​ยิ่ง​ ก็​เหมือน​ชาวบ้าน​ฐานะ​ธรรมดา​แต่กลับ​ชอบ​ทำบุญทำทาน​ ย่อม​ยาก​ที่จะ​เข้าใจ​ว่า​ตระกูล​เศรษฐี​ร่ำรวย​ที่​ได้​ครอบครอง​ภูเขา​เงิน​ภูเขา​ทอง​ เหตุใด​ถึงได้​ขี้เหนียว​กว่า​ตน​ เหตุใด​ถึงได้​ตัดใจ​ทำบุญทำทาน​ได้​ยาก​นัก​ อันที่จริง​ก็​แค่​มอง​เส้นสาย​เส้น​หนึ่ง​ไม่ออก​ เดิมที​เงินทอง​บางส่วน​ก็​เข้า​บ้าน​มาจาก​ประตู​ด้าน​ข้าง​ แล้​วจะ​เพ้อฝัน​ให้​เงินทอง​พวก​นี้​ออกจาก​ประตู​หลัก​ด้านหน้า​ได้​อย่างไร​? ก็​เหมือน​คนธรรมดา​คน​หนึ่ง​ที่​ยาก​จะทำความเข้าใจ​หลักการ​ถามถึงแค่​การหว่าน​ไถ ไม่ถามถึงผล​เก็บเกี่ยว​ ผู้ฝึก​ตนเอง​ก็​ยาก​จะทำ​เรื่อง​ที่​ถามแค่​สาเหตุ​ไม่ถามถึงผลลัพธ์​ได้​อย่าง​แท้จริง​เช่นกัน​

จิต​ของ​ลู่​เฉิน​ขยับ​ไหว​ สอง​นิ้ว​ประกบ​กัน​ปาด​ลงมา​เป็น​เส้นตรง​ วาด​เส้นตรง​เส้น​หนึ่ง​ จากนั้น​จึงวาด​จักจั่น​ตัว​หนึ่ง​อยู่​ข้าง​เส้นตรง​นี้ คล้าย​จักจั่น​เกาะ​ต้นไม้​

จักจั่น​ตัว​หนึ่ง​บน​กระดาษ​คล้าย​จะส่งเสียงร้อง​ว่า​ทราบ​แล้ว​ ทราบ​แล้ว​ไม่หยุด​อยู่​ท่ามกลาง​สายลม​ฤดูใบไม้ร่วง​…

ลู่​เฉินยก​สอง​มือขึ้น​อีกครั้ง​ ใช้นิ้ว​วาด​กรอบ​ภาพ​ครอบ​ภาพ​นี้​เอาไว้​ แล้ว​เก็บ​ม้วน​ภาพ​ใส่ไว้​ใน​ชาย​แขน​เสื้อ​ “ไม่เสียแรง​ที่​เดินทาง​มาครั้งนี้​”

ลู่​เฉิน​ยื่น​ฝ่ามือ​มาบัง​ไว้​ตรง​หน้าผาก​ กวาดตา​มอง​ไป​รอบด้าน​ ถามว่า​ “พวก​หนิง​เหยา​ยัง​ตามมา​ไม่ทัน​ จะเอา​อย่างไร​? จะไปหา​อิ๋น​ลู่​แล้ว​พูดคุย​กัน​สัก​สอง​สามประโยค​ไหม​?”

ถึงอย่างไร​สถานที่​แห่ง​นี้​ก็​เป็น​ภาพมายา​ภูเขา​แห่ง​สุดท้าย​แล้ว​ ไม่มีขีดจำกัด​เวลา​ที่​หยุด​อยู่​ที่นี่​ได้​แค่​หนึ่ง​ก้านธูป​เท่านั้น​ รอ​ให้​พวก​หนิง​เหยา​สามคน​มาเจอกัน​ที่นี่​ ลู่​เฉิน​ก็​จะมอบ​ยันต์​สามภูเขา​ส่วน​สุดท้าย​ให้​พวกเขา​ ภาพมายา​ภูเขา​สามแห่ง​แบ่ง​ออก​เป็น​สำนัก​จิ่ว​เฉวียน​ ลำคลอง​อู๋ติ้ง​ซึ่งเป็น​น่านน้ำ​ใน​อาณาเขต​ของ​ลำคลอง​เย่ลั่ว​ ภูเขา​ทัว​เย​ว่​

หาก​ไม่เป็น​เพราะ​รีบร้อน​อยาก​จะเดินทาง​ไป​เยือน​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​ เฉิน​ผิง​อัน​ก็​ไม่ถือสา​ที่จะ​รอ​อยู่​ที่​เดิม​ เฝ้าตอ​รอ​กระต่าย​อยู่​ใน​นคร​เซียน​จาน​แห่ง​นี้​จริงๆ​

หาก​บวก​กับ​หาว​ซู่สิงกวาน​ นัก​เดินทางไกล​อย่าง​กลุ่ม​ของ​พวก​ตน​นี้​ก็​คือ​ขอบเขต​สิบ​สี่คน​หนึ่ง​ ผู้ฝึก​กระบี่​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​สามคน​ รวมไปถึง​ผู้ฝึก​กระบี่​ขอบเขต​เซียน​เห​ริน​คน​หนึ่ง​ที่​พลัง​การต่อสู้​สามารถ​มอง​เป็น​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ได้​

แล้ว​นับประสาอะไร​กับ​ที่​พลัง​การ​สู้รบ​ขั้นสูงสุด​ของ​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ มีความเป็นไปได้​อย่างยิ่ง​ว่า​ส่วนใหญ่​จะไป​อยู่​ใน​สนามรบ​ของ​อา​เหลียง​กับ​จั่ว​โย่ว​หมด​แล้ว​

ใคร​จะมาเป็น​กองหนุน​? หาก​ไม่กล้า​มา เฉิน​ผิง​อัน​ก็​อยาก​จะเอา​ความกล้า​ให้​พวก​ปีศาจ​ใหญ่​บน​บัลลังก์​เก่า​ใหม่​พวก​นั้น​ยืม​จริงๆ​

ลู่​เฉิน​ยิ้ม​เอ่ย​ “เซียน​เห​ริน​อย่าง​อิ๋น​ลู่​นี้​ ความสามารถ​ใน​การ​เก็บ​ทรัพย์สมบัติ​และ​อำพราง​ร่องรอย​ช่างสุดยอด​จริงๆ​ นคร​เซียน​จาน​ครึ่งหนึ่ง​ที่อยู่​ตรงหน้า​แห่ง​นี้​กลับ​ไม่เหลือ​ของมีค่า​อะไร​ไว้​ให้​เจ้าเลย​”

อันที่จริง​นี่​ก็​คือ​คน​ฉลาด​เสียท่า​เพราะ​ความ​ฉลาด​ของ​ตัวเอง​ ไม่ฉลาด​เลย​จริงๆ​ แล้ว​นับประสาอะไร​กับ​ที่​ตอนนี้​ทั้ง​ใน​และ​นอก​นคร​เซียน​จาน​ คน​ที่​ต้องการ​ชีวิต​ของ​อิ๋น​ลู่​ ไม่ได้​มีแค่​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​คนเดียว​เท่านั้น​

เฉิน​ผิง​อัน​เอ่ย​เสียงทุ้ม​หนัก​ “พื้นที่​มงคล​แห่ง​นั้น​ หาก​นำ​ไป​ได้​ก็​นำ​ไป​ นำ​ไป​ไม่ได้​ ต่อให้​ขุด​ดิน​ลึก​ลง​ไป​สามฉื่อ​ ต่อให้​ข้า​ต้อง​ทุบ​นคร​เซียน​จาน​ให้​แหลก​เละ​ก็​ต้องหา​ตัว​มัน​ออกมา​ให้ได้​”

ลู่​เฉิน​ยิ้ม​เอ่ย​ “ข้า​?”

ยังคง​ไม่ใช่พวกเรา​

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!