กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 859

หวน​นึกถึง​อดีต​อัน​ห่างไกล​ ตอนที่​นาง​ยัง​มีชีวิต​อยู่​บน​โลก​ อู​ถียัง​เป็น​แค่​ผู้ฝึก​ตน​อายุ​น้อย​ที่​เพิ่ง​ก้าวเดิน​ไป​บน​เส้น​ทางการ​ฝึก​ตน​ วันที่​อู​ถีจำแลง​ร่าง​เป็น​มนุษย์​ได้​สำเร็จ​ อาจารย์​ไม่เห็น​เป็น​เรื่องสำคัญ​ เพียงแค่​มอง​ลูกศิษย์​ที่​คุกเข่า​อยู่​บน​พื้น​ด้วย​สายตา​เย็นชา​ โยน​อาวุธ​วิเศษ​ชิ้น​หนึ่ง​มาให้​ กลับเป็น​บรรพ​จารย์​หญิง​ที่​ตั้งใจ​มาหา​เขา​โดยเฉพาะ​ นาง​ก้มหน้า​ค้อม​เอว​ลง​ ยิ้ม​ตาหยี​ตบ​ศีรษะ​ของ​เด็กหนุ่ม​ พูด​แค่​สามคำ​ด้วย​สีหน้า​อ่อนโยน​ว่า​ เป็น​คน​แล้ว​นะ​

มือ​กระบี่​ชุด​เขียว​กับ​กาย​ธรรม​นักพรต​รวม​ร่าง​เป็นหนึ่ง​

เฉิน​ผิง​อัน​กลับมา​สวม​กวาน​ดอกบัว​บน​ศีรษะ​ สวม​ชุด​นักพรต​เต๋า​ผ้า​โปร่ง​สีเขียว​และ​สะพาย​กระบี่​อีกครั้ง​

ลู่​เฉินจุ๊​ปาก​พูด​ “ผู้ฝึก​ตน​บน​ยอดเขา​ของ​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​พวก​นี้​ ยาม​ที่​ตัดสินใจ​เด็ดขาด​ขึ้น​มาก็​อำมหิต​กัน​จริงๆ​ ช่างน่าชื่นชม​ ข้า​ละอายใจ​ที่​สู้ไม่ได้​”

ตระกูล​เซียน​บน​ภูเขา​ ใน​ด้าน​การอัญเชิญ​เทพ​มา มีความลี้ลับ​มหัศจรรย์​ต่างกัน​ไป​

ลูกหลาน​สกุล​ลู่​จุด​ธูป​กราบไหว้​อยู่​ใน​ศาล​บรรพชน​ของ​ตระกูล​ปีแล้วปีเล่า​นาน​หลาย​พันปี​ แต่กลับ​ไม่เคย​เชิญตัว​ลู่​เฉิน​มาได้​เลย​สักครั้ง​

ดังนั้น​สกุล​ลู่​ของ​สำนัก​หยิน​หยาง​แผ่นดิน​กลาง​จึงมีความไม่พอใจ​ใน​ตัว​บรรพบุรุษ​ที่​ไม่ปกป้อง​คุ้มครอง​ตระกูล​อย่าง​เขา​มาโดยตลอด​

ควรจะ​ลาก​ลูกศิษย์​และ​ศิษย์​หลาน​กลุ่ม​นั้น​มาเบิกตา​มอง​ให้​ดี​จริงๆ​ ว่า​ มาเจอ​กับ​บรรพ​จารย์​เช่น​ตน​ ยัง​จะไม่พอใจ​อะไร​อ​ชีก​ ควร​จุด​ธูป​ขอบคุณ​สิถึงจะถูก​

เฉิน​ผิง​อัน​เอ่ย​เตือน​ “หา​ตัว​อิ๋น​ลู่​สิ”

ลู่​เฉิน​นั่งขัดสมาธิ​อยู่​ใน​ลาน​ประกอบ​พิธีกรรม​ดอกบัว​ นับ​นิ้ว​คำนวณ​ ยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “กำลัง​หา​อยู่​น่า​ รอ​สัก​เดี๋ยว​ อีก​เดี๋ยว​พวกเรา​สอง​คน​ก็​สามารถ​ข่มขู่​ผู้อาวุโส​อู​ถีได้​แล้ว​”

เฉิน​ผิง​อัน​ถึงได้​เอื้อมมือ​ไป​คว้า​หาง​กวาง​ที่​หล่น​อยู่​บน​พื้น​ชิ้น​นั้น​มาไว้​ใน​มือ​ มีตัวอักษร​เหนี่ยว​จ้วน​แกะสลัก​ไว้​สอง​คำ​ว่า​ ‘ฝูเฉิน’​ (แส้ปัดฝุ่น​) ค่อนข้าง​คล้ายคลึง​กับ​ซาน​ชิงชื่อ​ของ​ขุน​เขาใหญ่​ก่อนหน้า​นั้น​

ตรง​ด้าม​ไม้เป็น​สีม่วง​เข้ม​มองดู​โบราณ​เรียบง่าย​ ห้อย​ห่วง​ทอง​ขนาดเล็ก​ไว้​ตรง​ด้าม​แส้ปัดฝุ่น​ ส่วน​เส้นใย​ของ​แส้ปัดฝุ่น​นั้น​เป็น​สีขาว​หิมะ​ เล็ก​เรียว​บาง​ ไม่รู้​ว่า​ทำ​มาจาก​วัสดุ​อะไร​ เฉิน​ผิง​อัน​ยื่นมือ​ไป​กำ​เส้นใย​กำ​หนึ่ง​ไว้​ใน​มือ​ ประมาณการณ์​ว่า​น่าจะ​มีสามพันหกร้อย​เส้น​

ของ​ชิ้น​นี้​ติดตาม​ฉงโอว​อยู่​ใน​ดินแดน​โลก​มืด​มานาน​หลาย​ปี​ แต่กลับ​ไม่มีกลิ่นอาย​ความ​ชั่วร้าย​มืด​ดำ​มาสัมผัส​โดน​แม้แต่น้อย​ หรือ​เป็น​เพราะว่า​หญิง​ชรา​คน​นั้น​ไม่อาจ​หลอม​ใหญ่​ให้​กับ​วัตถุ​แห่ง​ชะตาชีวิต​ชิ้น​นี้​ได้​?

ลู่​เฉิน​ยิ้ม​เอ่ย​ “ร่าง​จริง​ของ​หญิง​ชรา​คือ​ยุง​ตัว​หนึ่ง​ จะหลอม​แส้ปัดฝุ่น​ชิ้น​นี้​ได้​อย่างไร​? ก็​แค่​ถูก​หญิง​ชรา​เอา​มาใช้เป็น​ของ​ติดตัว​ไว้​ตั้งหลัก​เท่านั้น​ ความคิด​เลิศ​ล้ำ​เสีย​จริง​ มิน่าเล่า​ถึงสามารถ​หลบเลี่ยง​สายตา​ของ​กุ่ย​ชาเมืองผี​มาได้​ตั้ง​นาน​หลาย​พันปี​”

ลู่​เฉิน​ทอดถอนใจ​อย่าง​ปลงอนิจจัง​ “แสงแห่ง​เห​ยาก​วง​ (เห​ยาก​วง​มีหลาย​ความหมาย​ หนึ่ง​คือ​ชื่อ​ของ​ดวงดาว​ลำดับ​ที่​เจ็ด​ของ​กลุ่ม​ดาว​เป่ย​โต้​ว​ ซึ่งสมัยโบราณ​หมายถึง​สัญลักษณ์​แห่ง​ความเป็นมงคล​ สอง​หมายถึง​ประกาย​แสงของ​หยก​ สามคือ​แสงสีขาว​) บรรพกาล​ ส่องสว่าง​ชี้ทาง​ให้​แก่​ธัญพืช​และ​สรรพสิ่ง​ กุย​ห​ลิง​เซียง​มีใจแล้ว​ น่าเสียดาย​ที่​นาง​ต้อง​มาเจอ​กับ​พวก​ล้างผลาญ​กลุ่ม​นี้​”

กุย​ห​ลิง​เซียง​บรรพ​จารย์​เปิด​ภูเขา​ของ​นคร​เซียน​จาน​มีคุณสมบัติ​ใน​การ​ฝึก​ตน​ดีเยี่ยม​ แต่​นาง​กลับ​ไม่มีความทะเยอทะยาน​ ราวกับ​ว่าการ​ฝึก​ตน​ตลอดชีวิต​ก็​เพื่อ​ทำให้​นคร​เซียน​จาน​ขยับ​เข้าใกล้​สวรรค์​มากขึ้น​

พอ​มาถึงเจ้านคร​รุ่น​ที่สอง​ หรือ​ก็​คือ​หญิง​ชรา​ฉงโอว​ที่​พอ​เห็นท่า​ไม่ดี​ก็​ถอยกลับ​ไป​ยัง​ดินแดน​ของ​โลก​มืด​ผู้​นั้น​ ถึงได้​เริ่ม​มีความสัมพันธ์​ไปมาหาสู่​กับ​สำนัก​ใหญ่​ของ​เปลี่ยว​ร้าง​ซึ่งมีภูเขา​ทัว​เย​ว่​เป็นหนึ่ง​ใน​นั้น​ แต่​ฉงโอว​ก็​ยัง​ทำ​ตามคำสั่ง​ของ​อาจารย์​ ไม่ได้​ไป​แตะต้อง​พื้นที่​มงคล​ที่​สืบทอด​มาจาก​บรรพบุรุษ​ซึ่งได้​ครอบครอง​ดาวตก​หนึ่ง​ดวง​ นคร​เซียน​จาน​สืบทอด​ต่อ​มาถึงมือ​ของ​อู​ถีถึงได้​เริ่ม​เกิด​การเปลี่ยนแปลง​ แน่นอน​ว่า​ส่วนใหญ่​มาจาก​ความเห็นแก่ตัว​ของ​อู​ถีเอง​ เพื่อ​สร้าง​ประโยชน์​ให้​แก่​การ​ฝึก​ตน​ของ​ตัวเอง​ สามารถ​ทำลาย​คอขวด​ขอบเขต​เซียน​เห​ริน​ได้​เร็ว​กว่า​เดิม​ จึงเริ่ม​หลอม​อาวุธ​ขาย​ให้​กับ​สำนัก​บน​ภูเขา​ มีเงินทอง​ไหล​มาเท​มา กระทั่ง​เสวียน​ผู่​รับ​ช่วงต่อ​ดูแล​ นคร​เซียน​จาน​ก็​แตกต่าง​ไป​จาก​เดิม​มาก​ พื้นที่​มงคล​แห่ง​หนึ่ง​ที่​ถูก​บรรพ​จารย์​กุย​ห​ลิง​เซียง​ตั้ง​ชื่อว่า​เห​ยาก​วง​ได้รับ​การขยับขยาย​และ​ดำเนินการ​ใน​ระดับ​ที่​ใหญ่​ที่สุด​ เริ่ม​ทำการค้า​กับ​ราชวงศ์​ใหญ่​แห่ง​ต่างๆ​ จุด​ที่​ขาด​คุณธรรม​มาก​ที่สุด​ยังคง​เป็นเรื่อง​ที่​เสวียน​ผู่​ชอบ​ขาย​อาวุธ​และ​สมบัติ​อาคม​ให้​กับ​ราชวงศ์​สอง​แคว้น​ที่อยู่​ห่าง​กัน​ไม่มาก​มาก​ที่สุด​ แต่​การ​ที่​นคร​เซียน​จาน​มีฐานะ​สูงส่งใน​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ได้​สำเร็จ​ก็​ด้วย​ฝีมือ​ของ​เสวียน​ผู่​จริงๆ​

ในที่สุด​อู​ถีก็​ถามคำถาม​ที่​เขา​สงสัย​ใคร่รู้​ที่สุด​ “เจ้าคือ​?”

คราว​ก่อนที่​ปรากฏตัว​ อู​ถียัง​ร่วมมือ​กับ​ฉงโอว​ผู้​เป็น​อาจารย์​รับมือ​กับ​บรรพ​จารย์​ย้าย​ภูเขา​ที่​นิสัย​ดุร้าย​ผู้​นั้น​ ทั้ง​ต่อสู้​ทั้ง​ขอร้อง​แล้ว​ยัง​มอบ​เงิน​ให้​ ถึงได้​ทำให้​นคร​เซียน​จาน​ผ่าน​หายนะ​ครั้งนั้น​ไป​ได้​

ดังนั้น​อู​ถีจึงไม่รู้​สถานการณ์​ของ​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ใน​ทุกวันนี้​เลย​แม้แต่น้อย​

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​เอ่ย​ “อิ่น​กวาน​คน​สุดท้าย​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​”

“มิน่าเล่า​”

อู​ถีพยักหน้า​รับ​ “ถ้าอย่างนั้น​เจ้าก็​ต่อสู้​ได้​เก่ง​กว่า​เซียว​สวิ้น​ใน​ปี​นั้น​”

ผี​บิน​ทะยาน​ตน​นี้​รีบ​เอ่ย​เสริม​ไป​อีก​ประโยค​ทันที​ “แต่​ตอนนั้น​เซียว​สวิ้น​อายุ​ไม่มาก​”

เฉิน​ผิง​อัน​คลี่​ยิ้ม​

อู​ถีอดไม่ไหว​ถามอี​กว่า​ “เจ้าฝึก​ตน​มานาน​แค่​ไหน​แล้ว​? ข้า​ก็​ว่าแล้ว​ว่า​ทำไม​ถึงไม่เหมือน​นักพรต​จริงๆ​ ใน​เมื่อ​เจ้าเป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​ใน​ท้องถิ่น​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ต้อง​ไม่มีกฎ​ที่ว่า​ภิกษุ​ไม่ถามนาม​ นักพรต​ไม่ถามอายุ​แน่ๆ​”

เฉิน​ผิง​อัน​ตอบ​ “ไม่ถึงหนึ่ง​พันปี​”

อู​ถีจุ๊ปาก​เอ่ย​ชื่นชม​ไม่หยุด​ ยก​นิ้วโป้ง​ให้​กับ​ผู้เยาว์​ใน​ด้าน​การ​ฝึก​ตน​ เอ่ย​ชมจาก​ใจจริง​ว่า​ “ผู้​มีพรสวรรค์​ที่​โดดเด่น​”

ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ไม่ยอมรับ​อะไร​ทั้งนั้น​ ยอมรับ​แค่​ขอบเขต​อย่าง​เดียว​

เฉิน​ผิง​อัน​เอ่ย​ “เพิ่งจะ​อายุ​สี่สิบ​ต้น​ๆ”

อู​ถีอึ้ง​ตะลึง​ จากนั้น​โบกมือ​ “จะพูด​ล้อเล่น​ก็​ต้อง​มีขอบเขต​บ้าง​สิ”

อยู่​ใน​ดินแดน​ของ​โลก​มืด​ที่​ฟ้าดิน​เงียบสงัด​อย่าง​ถึงที่สุด​ หา​คน​ตัว​เป็น​ๆ มาพูดคุย​ด้วย​นั้น​ยาก​ราวกับ​เดิน​ขึ้น​สวรรค์​ นอกจากนี้​ไม่ว่า​จะผี​ตน​ใด​ที่​เร่ร่อน​อยู่​ที่นั่น​ ไม่ว่า​จะขอบเขต​สูงหรือ​ต่ำ​ก็​ล้วน​ไม่คาดหวัง​ที่จะ​ได้​พบ​เจอ​กับ​คน​ของ​โลก​มนุษย์​ ผู้ฝึก​ตน​ใน​โลก​มนุษย์​ที่มา​เยือน​ปรโลก​ดินแดน​คนตาย​ได้​ ใคร​จะกล้า​ไป​มีเรื่อง​ด้วย​ แต่ละคน​รับมือ​ได้​ยาก​ยิ่งกว่า​ผี​เสีย​อีก​

อู​ถียังคง​หา​ตัว​อิ๋น​ลู่​ไม่เจอ​จึงได้​แต่​ยอมรับ​ชะตากรรม​ หวัง​ว่า​ลูกศิษย์​ของ​ลูกศิษย์​คน​นั้น​จะไม่รู้​วิธี​อัญเชิญ​ตัว​เขา​ใน​ศาล​บรรพ​จารย์​ ไม่อย่างนั้น​อย่า​เห็น​ว่า​เขา​พูด​กับ​อิ่น​กวาน​ตรงหน้า​ผู้​นี้​ได้​อย่าง​ปร​อง​ดอก​ง อู​ถีกล้า​รับรอง​เลย​ว่า​ขอ​แค่​อีก​ฝ่าย​คว้า​โอกาส​เอาไว้​ได้​ ทั้งสองฝ่าย​จะต้อง​ได้​เจอกัน​อีกครั้ง​ทันที​แน่นอน​ ถึงเวลา​นั้น​คง​หลีกเลี่ยง​การเข่นฆ่า​เอาชีวิต​ไม่ได้​ ผู้ฝึก​ตน​เฒ่ามอง​ไป​ทาง​ทิศเหนือ​ “ใช่แล้ว​ ถามข้อ​สุดท้าย​ ต่ง​ซาน​เกิง​เป็น​อย่างไรบ้าง​แล้ว​?”

ตอน​มาคือ​โอสถ​ทอง​ ตอน​ไป​คือ​บิน​ทะยาน​

ใน​ประวัติศาสตร์​หมื่น​ปี​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​คือ​วีรกรรม​ที่​มีเพียง​หนึ่งเดียว​เท่านั้น​ ผู้ฝึก​กระบี่​ขอบเขต​โอสถ​ทอง​คน​หนึ่ง​ เอา​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​มาเป็น​สถานที่​หลอม​กระบี่​ สุดท้าย​ไม่เพียงแต่​มีชีวิตรอด​กลับ​ไป​ยัง​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ ประเด็นสำคัญ​คือ​ตอนที่​ต่ง​ซาน​เกิง​กลับ​บ้านเกิด​ยัง​เอา​หัว​ของ​ปีศาจ​ใหญ่​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ไป​ด้วย​!

เฉิน​ผิง​อัน​ชี้ไป​ที่​ม่าน​ฟ้า “ไม่รู้สึก​ว่า​ขาด​อะไร​ไป​บ้าง​หรือ​?”

อู​ถีเหลือบตา​มอง​ม่าน​ฟ้า ถึงได้​เพิ่ง​สังเกตเห็น​ว่า​มีดวงจันทร์​เพียงแค่​สอง​ดวง​เท่านั้น​

มารดา​มัน​เถอะ​ เป็นเรื่อง​ที่​ต่ง​ซาน​เกิง​ทำได้​จริงๆ​

ท่ามกลาง​ซาก​ปรัก​ของ​ศาล​บรรพ​จารย์​ด้านหลัง​อู​ถี คือ​ร่าง​จริง​ของ​เสวียน​ผู่​ผู้ฝึก​ตน​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ ถึงกับ​เป็น​งูใหญ่​สีดำแดง​ตัว​หนึ่ง​

ขนาดที่​คฤหาสน์​หลบ​ร้อน​ยัง​ไม่มีบันทึก​ถึงเรื่อง​นี้​ ยังคง​เป็น​เจ้าลัทธิ​สามแห่ง​ป๋า​ยอ​วี้​จิงที่​ความรู้​กว้างขวาง​ ช่วย​ไขข้อข้องใจ​ให้​กับ​เฉิน​ผิง​อัน​ด้วย​การ​เปิด​เผยความลับ​สวรรค์​ใน​ประโยค​เดียว​ “งูดำ​บรรพกาล​ เรือน​กาย​เหมือน​เชือก​ยาว​ที่​ห้อย​แขวน​อยู่​บน​ฟ้า มหา​มรรคา​ลึกล้ำ​ยาว​ไกล​ เชื่อมโยง​ฟ้าดิน​”

“ดังนั้น​ผู้อาวุโส​เสวียน​ผู่​ผู้​นี้​กับ​การสืบทอด​ควัน​ธูป​ของ​นคร​เซียน​จาน​ แน่นอน​ว่า​ต้อง​มีความ​สอดคล้องกัน​บน​มหา​มรรคา​ เป็น​เจ้านคร​ก็​ถือว่า​เป็น​หน้าที่​ที่​มิอาจ​บอกปัด​ได้​จริงๆ​! เสวียน​ผู่​เอ๋ย​เสวียน​ผู่​ สร้าง​นคร​เซียน​จาน​ให้​เป็น​สถานที่​อัน​เลื่องชื่อ​ที่​ทิวทัศน์​งดงาม​ได้​แล้ว​ ฉายา​นี้​ก็​ตั้ง​ได้​เหมาะสม​จริงๆ​ ไพเราะ​กว่า​ ‘ตู๋ปู้’​ ที่​ฟังแล้ว​ไม่สมจริง​ของ​เย่​พู่​มาก​นัก​ คิดไม่ถึง​ว่า​เสวียน​ผู่​จะเป็น​คน​จริงใจ​แบบนี้​”

เฉิน​ผิง​อัน​ใช้เสียง​ใน​ใจสอบถาม​ “ร่าง​จริง​ของ​เสวียน​ผู่​สั้น​ไป​หน่อย​หรือไม่​?”

แม้จะบอ​กว่า​ขด​ล้อม​อยู่​รอบ​ซาก​ปรัก​ศาล​บรรพ​จารย์​อยู่​หลาย​ชั้น​ แต่​อันที่จริง​อย่าง​มาก​สุด​ก็​คง​ยาว​ได้​ไม่ถึงพัน​จั้ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!