กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 861

สรุปบท บทที่ 861.1 ผู้ครองกระบี่ที่แท้จริง: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!

สรุปเนื้อหา บทที่ 861.1 ผู้ครองกระบี่ที่แท้จริง – กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! โดย Internet

บท บทที่ 861.1 ผู้ครองกระบี่ที่แท้จริง ของ กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

นคร​ที่อยู่​เหนือ​สำนัก​จิ่ว​เฉวียน​ ผู้คน​เบียดเสียด​กัน​แออัด​ สัญจร​ไปมา​กัน​อย่าง​คับคั่ง​ เทียบ​กับ​เมืองหลวง​ของ​ราชวงศ์​อวิ๋น​เห​วิน​แล้ว​ยัง​ครึกครื้น​กว่า​หลาย​ส่วน​ ส่วนใหญ่​ล้วน​เป็น​ผู้ฝึก​ตน​เผ่า​ปีศาจ​ห้า​ขอบเขต​ล่าง​ที่​ยัง​หลอม​เรือน​กาย​ได้​ไม่สมบูรณ์​ นอกจาก​ขาย​สุรา​แล้ว​ คน​ที่​ดื่ม​สุรา​แทบ​ทั้งหมด​ต่าง​ก็​เป็น​คนต่างถิ่น​ที่มา​ทำการค้า​สุรา​หรือไม่​ก็​เป็น​พวก​คน​ที่​เดินทาง​มาท่องเที่ยว​ที่นี่​ ร้านเหล้า​เหลา​สุรา​น้อย​ใหญ่​ทั้งหลาย​เหมือน​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ใน​อดีต​อย่าง​มาก​ พอ​ได้เงิน​มาก​็อยาก​เหล้า​ ตอน​สร่าง​เมานั่ง​หน้า​จอก​ เมาพับ​หลับ​อยู่​ใต้โต๊ะ​

รากฐาน​ของ​สำนัก​ใน​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​เป็น​อย่างไร​ แค่​มอง​ก็​รู้​ได้​ แค่​ต้อง​ดู​ว่า​มี ‘คน’​ กี่มากน้อย​ แต่​สำนัก​จิ่ว​เฉวียน​เอง​ไม่มีศักยภาพ​ที่​แท้จริง​อะไร​ ทั้ง​ใน​มุมสว่าง​และ​ใน​ที่​มืด​ล้วน​อยู่​ไกล​เกิน​กว่า​จะเทียบ​กับ​นคร​เซียน​จาน​ได้​ติด​ ใน​สำนัก​ก็​มีผู้ฝึก​ตน​ห้า​ขอบเขต​บน​อยู่​สอง​คน​ คน​หนึ่ง​คือ​เจ้าสำนัก​ผู้เฒ่า​เซียน​เห​ริน​ที่​ทุกวัน​คิด​แต่​จะยอม​ถอย​ให้​กับ​ผู้​ปราดเปรื่อง​ อีก​คน​หนึ่ง​คือ​บรรพ​จารย์​ผู้คุม​กฎ​ขอบเขต​หยก​ดิบ​ที่​ให้​ตาย​อย่างไร​ก็​ไม่ยอมรับ​สืบทอด​ตำแหน่ง​เจ้าสำนัก​ ผู้ฝึก​ตน​ทำเนียบ​คนอื่นๆ​ ใน​สำนัก​ไม่ว่า​จะชาย​หรือ​หญิง​ล้วน​เชี่ยวชาญ​การ​หมัก​เหล้า​และ​เป็น​ผี​ขี้เหล้า​ที่​ชอบ​ดื่มเหล้า​แทบ​ทั้งหมด​ ตลอดชีวิต​แช่อยู่​ใน​ถังเหล้า​อย่าง​แท้จริง​

ฉีถิงจี้ที่มา​เป็น​แขก​จิบ​เหล้า​คำ​เล็ก​ดื่ม​ช้าๆ ตาม​ความเคยชิน​ ทว่า​ลู่​จือ​กลับ​ดื่มเหล้า​ชามใหญ่​ ดื่ม​จน​หน้า​แดงก่ำ​

ก่อนหน้านี้​ฉีถิงจี้ได้​ตั้งใจ​เลือก​เหล้า​หมัก​ของ​สำนัก​จิ่ว​เฉวียน​สอง​แบบ​ที่​ถูก​อา​เหลียง​เรียก​ว่า​เป็น​เหล้า​โข่วเหลียง​ (โดยทั่วไป​หมายถึง​เหล้า​ที่​ราคา​เหมาะสม​และ​ฤทธิ์​ค่อนข้าง​แรง​ เหมาะ​แก่​การ​ดื่ม​ใน​ชีวิตประจำวัน​) มาดื่ม​กับ​ลู่​จือ​คนละ​กา​ ของดี​ที่​ราคา​ถูก​

ทุกครั้งที่​อา​เหลียง​แอบ​มาเที่ยว​ที่​เปลี่ยว​ร้าง​ จะต้อง​มาเที่ยว​ที่​สำนัก​จิ่ว​เฉวียน​หลาย​วัน​ถึงจะยอม​กลับ​ ไม่เมาไม่กลับ​

ลู่​จือ​ยก​นิ้วโป้ง​ขึ้น​เช็ด​มุมปาก​ “อยู่​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​มานาน​หลาย​ปี​ขนาด​นี้​ อันที่จริง​ก็​ไม่มีช่วงเวลา​ไหน​ที่​เบิกบานใจ​เป็นพิเศษ​หรือ​เสียใจ​มาก​เป็นพิเศษ​”

เคย​มีคน​บอ​กว่า​ เรื่อง​อย่าง​การ​ดื่มเหล้า​นี้​ หาก​ไม่ดื่ม​เยอะ​อย่าง​คน​ที่​โมโห​หนัก​หรือ​อยาก​ดื่ม​อย่าง​หนัก​ ก็​ดื่ม​ร่วมกัน​อย่าง​เต็มคราบ​ด้วย​ความสนุก​ไม่ก็​ทุกข์ใจ​ ถึงจะดื่ม​จนได้​รสชาติ​ที่​แท้จริง​ของ​สุรา​ ถึงจะทำให้​หัวใจ​ที่​กลัดกลุ้ม​ปวดร้าว​ของ​ชีวิต​คน​เชื่อมโยง​เป็นหนึ่ง​กับ​ฟ้าดิน​

ฉีถิงจี้ยิ้ม​เอ่ย​ “ดังนั้น​เจ้าจึงไม่เคย​ดื่มเหล้า​เมาอย่าง​แท้จริง​มาก่อน​ นี่​เป็นความ​น่าเสียดาย​ที่​ไม่เล็ก​เลย​ คาดหวัง​อย่างยิ่ง​ว่า​วันหน้า​อยู่​ใน​สำนัก​กระบี่​หลง​เฉวียน​ ข้า​จะได้​เห็น​ลู่​จือ​ที่​เมามาย​สักครั้ง​ จะด่า​ฟ้าด่า​ดิน​ก็ได้​ หรือ​หาก​ร้องไห้​สะอึกสะอื้น​ไม่เป็น​คำ​ก็​ยิ่ง​ดี​”

ลู่​จือ​ส่ายหน้า​ ไม่รู้สึก​ว่า​ตนเอง​ดื่ม​แบบนี้​ต่อไป​แล้ว​จะเสียกิริยา​ นาง​เหลือบตา​มอง​ฉีถิงจี้ “ดูเหมือนว่า​เจ้าจะยินดี​ลงหลักปักฐาน​อยู่​ใน​ใต้​หล้า​ไพศาล​จริงๆ​ แล้ว​”

ใน​บรรดา​ผู้ฝึก​กระบี่​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ แต่ไหนแต่ไร​มาไม่เคย​ขาด​หนุ่ม​หล่อ​สาวงาม​ เซียน​กระบี่​ผู้อาวุโส​ที่อยู่​ตรงหน้า​ผู้​นี้​ต้อง​ถือเป็น​คน​หนึ่ง​ใน​นั้น​ได้​แน่นอน​

ฉีถิงจี้ให้​คำตอบ​ว่า​ “ตาม​ความเห็น​ของ​ข้า​ ใต้​หล้า​ไพศาล​แห่ง​หนึ่ง​ก็​เหมือน​เรือน​กาย​หนึ่ง​ของ​มนุษย์​ หาก​จิตใจ​เต็มเปี่ยม​ แม้แขนขา​ทั้ง​สี่จะเจ็บป่วย​ก็​ยัง​ไม่ได้​เป็น​ภัย​ใหญ่หลวง​ อีก​ทั้ง​ทุกครั้งที่​หาย​ดี​ก็​จะเป็นการ​สร้าง​ความ​แข็งแกร่ง​ให้​กับ​ตัวเอง​อย่างหนึ่ง​ ดังนั้น​เดิมที​แล้ว​ที่​แห่ง​นั้น​จึงเหมาะกับ​การ​ก่อตั้ง​สำนัก​ แตก​กิ่งก้านสาขา​อยู่แล้ว​ อีก​อย่าง​วันหน้า​พวกเรา​ยัง​ต้อง​มีสำนัก​เบื้องล่าง​ ยกตัวอย่างเช่น​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​กับ​ใต้​หล้า​ห้า​สีที่​ต่าง​ต้อง​สร้าง​สำนัก​ไว้​ที่​ละ​หนึ่ง​แห่ง​ ปกครอง​ดูแล​ตระกูล​ก็ดี​ ขยับขยาย​สร้าง​ความยิ่งใหญ่​ให้​กับ​สำนัก​ก็ช่าง​ ล้วน​แตกต่าง​จาก​การ​ที่​คน​คน​หนึ่ง​ก้มหน้าก้มตา​ฝึก​ตน​ราว​ฟ้ากับ​เหว​”

ลู่​จือ​ได้ยิน​เรื่อง​ที่​เป็นการเป็นงาน​พวก​นี้​ก็​ให้​เสียอารมณ์​ จึงยก​ชามเหล้า​ขึ้น​มา แหงนหน้า​กระดก​ดื่ม​หมด​รวดเดียว​อี​กรอบ​

ลู่​จือ​พลัน​หันขวับ​ไป​มอง​ ฉีถิงจี้ก็​ขมวดคิ้ว​น้อย​ๆ เมื่อครู่นี้​ยาม​กลางวัน​กับ​กลางคืน​สลับ​สับเปลี่ยน​ หยิน​และ​หยาง​เดิน​สลับ​สวนทาง​กัน​ใน​เสี้ยว​วินาที​ สร้าง​ความ​ตะลึงพรึงเพริด​ให้​กับ​ฟ้าดิน​

ภาพ​ปราก​ฎการณ์​ที่​ผิดปกติ​เช่นนี้​หาก​ไม่ใช่ผู้ฝึก​ตน​ขอบเขต​สิบ​สี่ย่อม​ทำ​ไม่ได้​ ดู​จาก​ทิศทาง​คร่าวๆ​ แล้ว​เหมือน​จะพุ่ง​เป้า​เล่นงาน​ไป​ที่​กุย​ซวี​ฉิงจี?

ลู่​จือ​เลิก​สนใจ​อย่าง​รวดเร็ว​ นาง​คร้าน​จะคิดมาก​ คนใน​กลุ่ม​มีทั้ง​ฉีถิงจี้ที่​ประสบการณ์​โชกโชน​แผนการ​ลึกล้ำ​ แล้วก็​มีอิ่น​กวาน​หนุ่ม​ที่​ทำ​อะไร​รอบคอบ​รัดกุม​ นาง​ต้อง​สิ้นเปลือง​สมอง​คิด​ด้วย​หรือ​?

ตรง​โต๊ะ​อื่น​ใน​ร้านเหล้า​ ผู้ฝึก​ตน​เผ่า​ปีศาจ​คน​หนึ่ง​ดวงตา​เป็นประกาย​วาบ​ ยก​ก้นกระดก​ขึ้น​ สายตา​มอง​นิ่ง​ไม่ขยับ​ จ้อง​ไป​ยัง​ภาพ​อัน​เย้ายวน​ชวน​ฝัน​เบื้อง​ใต้​เอวบาง​ของ​สตรี​ผู้​นั้น​ลง​ไป​ เขม้น​มอง​อยู่​หลาย​ที​ “สตรี​ผู้​นี้​หน้าตา​อัปลักษณ์​ แต่กลับ​มีขา​อวบ​อิ่ม​เรียว​ยาว​นัก​! หาก​ปิดบัง​ใบหน้า​…”

สหาย​ร่วมโต๊ะ​รีบ​รับคำ​ต่อ​ทันใด​ “จะต้อง​ปิดหน้า​ให้​เสียเวลา​ทำไม​ ก็​ให้​นาง​นอนคว่ำ​โก่ง​ก้น​มาให้​สิ”

ลู่​จือตบ​ขาอ่อน​ตัวเอง​ พูด​ขึ้น​โดย​ไม่ได้​หันหน้า​ไป​มอง​ “มาลูบ​ตรงนี้​”

เสียง​ผิวปาก​หวือ​ เสียง​ตบ​โต๊ะ​อย่าง​แรง​ดังระงม​ขึ้น​มาใน​ร้านเหล้า​ ผู้ฝึก​ตน​เผ่า​ปีศาจ​ที่​เป็น​คน​เปิดปาก​พูด​ก่อน​เป็น​คน​นำ​ขบวน​

เถ้าแก่​ร้านเหล้า​เห็น​จน​ชินตา​เสียแล้ว​ ดื่มเหล้า​เข้า​ปาก​ ใคร​เล่า​ไม่ใช่เซียน​กระบี่​ ดื่ม​ไป​มาก​พอ​ก็​เป็น​ราชา​บน​บัลลังก์​คน​ใหม่​ได้​แล้ว​

ผู้ฝึก​ตน​เผ่า​ปีศาจ​หัวเราะ​ดังลั่น​ “จริง​หรือ​? เจ้าเป็น​คน​ขอร้อง​ข้า​เอง​นะ​?”

ฉีถิงจี้ยิ้ม​บาง​ๆ ไม่เอ่ย​อะไร​

นี่​เป็นเรื่อง​ที่​แม้แต่​อา​เหลียง​ก็​ยัง​ไม่กล้า​ทำ​

ฉีถิงจี้ริน​เหล้า​ให้​ตัวเอง​หนึ่ง​ชาม เหล้า​ใน​กา​ลด​ระดับ​ถึงลง​ไป​จน​มองเห็น​ก้น​กา​แล้ว​ ดื่มเหล้า​ชามนี้​หมด​ก็​ควรจะ​ไป​ที่​ลำคลอง​อู๋ติ้ง​ได้​แล้ว​ ไม่รู้​ว่า​เฉิน​ผิง​อัน​ที่อยู่​ที่นั่น​ต้องการ​ทำ​อะไร​

ผู้ฝึก​ตน​เผ่า​ปีศาจ​คน​นั้น​เพิ่งจะ​ลุกขึ้น​ยืน​ สตรี​ขา​ยาว​ก็​เพียงแค่​ดื่มเหล้า​ ทว่า​ใน​ร้าน​กลับ​มีแสงกระบี่​พุ่ง​ฉวัดเฉวียน​ออก​ไป​ใน​เสี้ยว​วินาที​ ทั่ว​ทั้ง​ร้าน​เจิดจ้า​ไป​ด้วย​ประกาย​แสงสีขาว​หิมะ​

ตั้งแต่​หัว​จรด​เท้า​ของ​ผู้ฝึก​ตน​ที่​ลุกขึ้น​ยืน​เหมือน​ถูก​หั่น​ออก​เป็น​ชิ้นๆ​ ถูก​แยกร่าง​คาที่​ หนึ่ง​ร่าง​แบ่ง​ออก​เป็น​สามส่วน​

ผู้ฝึก​ตน​คนอื่นๆ​ ที่นั่ง​ดื่มเหล้า​ บ้าง​ก็​มีแสงเส้น​หนึ่ง​ปาด​ลำคอ​ ถูก​ตัดหัว​ บ้าง​ก็​ถูก​ตัด​ผ่า​เอว​

นอกจาก​เถ้าแก่​ร้าน​ที่​ยังคง​สบายดี​ซึ่งตอนนี้​ขา​สอง​ข้าง​อ่อน​ยวบ​ ได้​แต่​ใช้ข้อศอก​ยัน​โต๊ะ​คิดเงิน​ไม่ให้​ตัวเอง​ล้ม​ไป​กอง​กับ​พื้น​ หลีกเลี่ยง​ไม่ให้​มีลม​พัด​ต้นไม้​ไหว​แล้ว​เซียน​กระบี่​หญิง​คน​นั้น​จะเข้าใจผิด​คิด​ว่า​เป็นการ​ท้าทาย​แล้ว​ ผู้ฝึก​กระบี่​เผ่า​ปีศาจ​อีก​สิบ​กว่า​คน​ที่​เหลือ​ซึ่งมาดื่มเหล้า​ที่นี่​ล้วน​ตาย​สิ้น​ใน​เวลา​เพียง​ชั่ว​กะพริบตา​

พลาด​ทำร้าย​ให้​บาดเจ็บ​? ฆ่าผิดตัว​?

ที่นี่​ไม่ใช่โต๊ะ​เหล้า​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​เสียหน่อย​

ลู่​จือ​เหลือบมอง​กา​เหล้า​ว่างเปล่า​สอง​ใบ​ที่อยู่​บน​โต๊ะ​แล้ว​เอ่ย​ว่า​ “คิดเงิน​”

เถ้าแก่​ผู้เฒ่า​ของ​ร้านเหล้า​เป็น​แค่​ผู้ฝึก​ตน​ขอบเขต​ประตู​มังกร​คน​หนึ่ง​เท่านั้น​ ปากคอ​ของ​เขา​แห้งผาก​ ยืน​อึ้ง​พูดไม่ออก​

ลู่​จือ​ควัก​เงินร้อน​น้อย​เหรียญ​หนึ่ง​ออกมา​วาง​บน​โต๊ะ​

หาก​เปลี่ยน​มาเป็นการ​ถามกระบี่​ของ​ผู้ฝึก​กระบี่​คน​หนึ่ง​ใน​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ ต่อให้​เป็น​เซียน​กระบี่​ผู้อาวุโส​ที่​ได้​แกะสลัก​ตัวอักษร​อย่าง​พวก​ต่ง​ซาน​เกิง​ แม้จะออก​กระบี่​อย่าง​เฉียบคม​ แต่​ถึงอย่างไร​โชคชะตา​น้ำ​ของ​ลำคลอง​เย่ลั่ว​ก็​เสียหาย​ไป​ไม่มาก​นัก​ ต่อให้​แม่น้ำ​ลำคลอง​ร้อย​กว่า​เส้น​จะถูก​ปราณ​กระบี่​ปั่น​คว้าน​สับ​เละ​ แต่​ถึงอย่างไร​ผู้ฝึก​กระบี่​ก็​ไม่เอา​โชคชะตา​น้ำ​กลับ​ไป​ด้วย​ อย่าง​มาก​ก็​แค่​ทำให้​เฟยเฟย​ต้อง​เสีย​ตบะ​ไป​หลาย​ร้อย​ปี​ ถ่วง​รั้ง​การ​ฝ่าทะลุ​ขอบเขต​ผสาน​มรรคา​ของ​นาง​ให้​ช้าลง​เท่านั้น​ อย่าง​มาก​สุด​เฟยเฟย​ก็​แค่​ต้อง​ไป​ดึง​เอา​โชคชะตา​น้ำ​ของ​ที่อื่น​มา รื้อ​กำแพง​ตะวัน​ออกมา​เสริม​กำแพง​ตะวันตก​ ขอ​แค่​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​ไม่ขัดขวาง​ นาง​ย่อม​สามารถ​ชดเชย​ความเสียหาย​ได้​ คิดไม่ถึง​ว่า​จะได้มา​เจอ​กับ​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​ที่​ดูเหมือน​เกิด​มามหา​มรรคา​ก็​ใกล้ชิด​กับ​สายน้ำ​ผู้​นี้​ เขา​ถึงกับ​ประชัน​ขัน​แข่ง​กับ​นาง​ไม่แพ้​ให้​กับ​การ​แก่งแย่งชิงดี​กัน​ระหว่าง​สตรี​ของ​นาง​กับ​หย่า​งจื่อ​เลย​

กาย​ธรรม​ของ​เฟยฟย​กำ​ลำคลอง​เย่ลั่ว​ที่​กระเพื่อม​ซัด​รุนแรง​ไม่หยุดนิ่ง​เอาไว้​แน่น​แล้ว​กระชาก​มาด้านหลัง​เต็มแรง​ เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน​เอ่ย​ “แน่จริง​เจ้าก็​ไป​ก่อกวน​ที่​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​สิ!”

หนึ่ง​เพราะ​มหา​มรรคา​ของ​เฟยเฟย​คือ​ธาตุ​น้ำ​ นอกจากนี้​นาง​ยัง​เป็น​ปีศาจ​ใหญ่​บน​บัลลังก์​เก่า​ตน​หนึ่ง​ แววตา​ย่อม​สูงกว่า​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ครึ่งๆ กลางๆ​ อย่าง​เสวียน​ผู่​ระดับ​หนึ่ง​ นาง​แน่ใจ​ว่า​ร่าง​จริง​ของ​กาย​ธรรม​หมื่น​จั้งตรงหน้า​ตน​นี้​ต้อง​เป็น​เฉิน​ผิง​อัน​อิ่น​กวาน​คน​สุดท้าย​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย​แล้ว​

ส่วน​เรื่อง​ที่ว่า​เฉิน​ผิง​อัน​กลายเป็น​ผู้ฝึก​ตน​ใหญ่​ขอบเขต​สิบ​สี่คน​หนึ่ง​ได้​อย่างไร​ เฟยเฟย​ไม่สนใจ​จะซักถาม​ นาง​เพียงแค่​ด่า​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​อยู่​ใน​ใจว่า​ถึงกับ​ปล่อย​ให้​เจ้าหมอ​นี่​บุก​ลึก​เข้า​มายัง​พื้นที่​ใจกลาง​ของ​เปลี่ยว​ร้าง​ได้​

ข้าง​กาย​ของ​ฉีถิงจี้และ​ลู่​จือ​ต่าง​ก็​มีดอกบัว​สีม่วง​ทอง​ดอก​หนึ่ง​ลอยตัว​อยู่​ ปราณ​วิญญาณ​สลาย​หาย​ไป​ช้าๆ ดูเหมือน​จะดำรงอยู่​ได้​นาน​หนึ่ง​ก้านธูป​พอดี​ ซึ่งระหว่าง​นี้​จะช่วย​สกัดกั้น​ปิดบัง​ความลับ​สวรรค์​ให้​กับ​ผู้ฝึก​กระบี่​ทั้งสอง​คน​

ต้อง​เป็น​ฝีมือ​ของ​ลู่​เฉิน​แน่นอน​

หนิง​เหยา​ยืน​อยู่​ริมตลิ่ง​ลำคลอง​อู๋ติ้ง​ที่​ท้องน้ำ​ไม่มีน้ำ​เหลือ​อยู่แล้ว​ ข้าง​กาย​ของ​นาง​ก็​มีดอกบัว​ดอก​หนึ่ง​ล้อ​มวน​ไป​รอบกาย​นาง​ช้าๆ เช่นกัน​

หลังจาก​ได้​เข้าร่วม​การประชุม​ที่​ศาล​บุ๋น​แผ่นดิน​กลาง​ อันที่จริง​เฉิน​ผิง​อัน​เคย​บอก​ไว้​ว่า​ ใน​เมื่อ​เขา​กลับมา​บ้านเกิด​แล้วก็​ไม่ต้อง​สนใจ​อะไร​ทั้งนั้น​ เพราะ​ต่อให้​อยาก​จะสน​ก็​สน​ไม่ไหว​ ได้​แต่​ตั้งใจ​ฝึก​ตน​ของ​ตัวเอง​ไป​ให้​ดี​ๆ เท่านั้น​

ผล​คือ​ดี​นัก​ กลายเป็น​ว่า​ยัง​ต้อง​สิ้นเปลือง​แรงกาย​แรงใจ​อยู่​อย่างนี้​ ช่างมีชะตา​ของ​คน​เหนื่อยยาก​จริงๆ​

กาย​ธรรม​หมื่น​จั้งของ​นักพรต​ร่วมกับ​เฟยเฟย​รวบ​เอา​แม่น้ำ​คลอง​หลาย​ร้อย​สาย​ใน​เขต​น่านน้ำ​ของ​ลำคลอง​เย่ลั่ว​ให้​เข้ามา​อยู่​ใน​ช่อง​ทางน้ำ​เส้น​หลัก​ แล้ว​กระชาก​ลาก​ดึง​จน​กลายเป็น​ลำคลอง​ยาว​หลาย​แสน​จั้งลอย​อยู่​กลางอากาศ​เส้น​หนึ่ง​

นักพรต​เริ่ม​เดิน​ก้าว​ไป​ข้างหน้า​ยาว​ๆ สอง​มือ​คอย​กระชาก​เส้น​ทางน้ำ​หลัก​อย่าง​ลำคลอง​เย่ลั่ว​มาพัน​ไว้​บน​แขน​ราวกับ​เป็น​เชือก​เส้น​หนึ่ง​ บดขยี้​สังหาร​ภูต​เผ่า​น้ำ​จำนวน​นับไม่ถ้วน​ที่อยู่​ด้านใน​ไป​เรื่อยๆ​

นักพรต​ชุด​เขียว​คน​หนึ่ง​ที่​เรือน​กาย​ล่องลอย​ โฉมหน้า​พร่า​เลือน​มายืน​อยู่​บน​ไหล่​ข้าง​หนึ่ง​ของ​กาย​ธรรม​นักพรต​ที่​สวม​กวาน​ดอกบัว​ ใน​มือ​ถือหาง​กวาง​ที่​ตรง​ด้าม​สลัก​ชื่อว่า​ ‘ฝูเฉิน’​ เขา​โบก​แส้ปัดฝุ่น​ชี้ไป​ยัง​จวน​วารี​ของ​ลำคลอง​เย่ลั่ว​ที่อยู่​ห่าง​ไป​ไกล​ ยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “หลัว​เทียน​จงกลับ​สู่ตำแหน่ง​ดวงดาว​ หมู่​ดารา​รับ​คำสั่ง​กลับ​สู่ถิ่นฐาน​ ตะวัน​จันทรา​ฟังโองการ​คืน​กลับ​สู่แสงสว่าง​อีกครั้ง​”

ใน​ท้องน้ำ​ที่​แห้งขอด​หลาย​ร้อย​เส้น​ซึ่งอยู่​ใน​เขต​น่านน้ำ​ของ​ลำคลอง​เย่ลั่ว​มีไผ่​เขียว​หลาย​ต้น​ตั้ง​ตระหง่าน​ขึ้น​มา จำนวนมาก​ถึงสามพันหกร้อย​ต้น​ ตรง​กับ​จำนวน​ของ​พิธี​บวงสรวง​หลัว​เทียน​ใน​ระดับ​สูงสุด​ตาม​กฎ​ของ​ลัทธิ​เต๋า​พอดี​

เณร​น้อย​หัวโล้น​รูป​หนึ่ง​ขี่​มังกร​เพลิง​ ตรง​เอว​แยกกัน​ห้อย​กระบี่​ยาว​และ​คัมภีร์​สีทอง​หนึ่ง​หน้า​ ยืน​อยู่​บน​หัว​ของ​มังกร​เพลิง​ สอง​มือ​พนม​สิบ​นิ้ว​ พึมพำ​ว่า​ “พระธรรม​เผยแผ่​แด่​โลก​มนุษย์​ ประดุจ​ราชสีห์​ที่​สยบ​เหล่า​สรรพสัตว์​”

คำพูด​ดัง​ออก​ไป​คาถา​ตามติด​ สิงโต​ทอง​ใหญ่​เท่า​ขุนเขา​ตัว​หนึ่ง​หล่น​ลง​บน​พื้น​แล้ว​สะบัด​ขน​แหงนหน้า​คำราม​กร้าว​ เสียง​สะเทือน​เลือน​ลั่น​สังหาร​ภูตผี​เผ่า​น้ำ​ใน​ลำคลอง​เย่ลั่ว​ไป​นับไม่ถ้วน​ สิงโต​ที่​ซุกซ่อน​พระธรรม​ทั่ว​ร่าง​เปล่งรัศมี​เรืองรอง​ตัว​นี้​พลัน​กระโจน​เข้าหา​กาย​ธรรม​ของ​เฟยเฟย​

ท่ามกลาง​ภาพ​เหตุการณ์​ประหลาด​นี้​ เรือน​กาย​หนึ่ง​ที่​ไม่สะดุดตา​พลิ้ว​ลง​มาจาก​ท้องฟ้า​ ระหว่าง​ทางได้​ถูก​ลมปราณ​ชักนำ​จึงเปลี่ยน​วิถี​การ​โคจร​เล็กน้อย​ มายัง​ผืนป่า​เปลี่ยว​ร้าง​แห่ง​หนึ่ง​ริม​อาณาเขต​ของ​น่านน้ำ​ลำคลอง​เย่ลั่ว​ ก็​คือ​หาว​ซู่สิงกวาน​ที่​กลับ​จาก​ดวงจันทร์​มายัง​โลก​มนุษย์​

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!