กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 866

หัน​เชี่ยว​เซ่อ​ถาม “ถ้าอย่างนั้น​ศิษย์​พี่​มาทำ​อะไร​ที่นี่​?”

ศิษย์​พี่​ไม่ใช่คน​ที่จะ​ชอบ​ร่วมวง​เรื่อง​สนุก​อย่าง​แน่นอน​ ยิ่ง​ไม่มีทาง​ทำ​เรื่อง​ที่​เกินความจำเป็น​เช่นนี้​

เจิ้งจวี​จงมอง​ไป​ยัง​ทิศทาง​ของ​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​ “เพราะ​ก่อนหน้านี้​เคย​สัญญากับ​คน​คน​หนึ่ง​เอาไว้​ แต่​ตอนนี้​ดูท่า​แล้ว​คง​ไม่ต้อง​ช่วย​แล้ว​ล่ะ​”

หัน​เชี่ยว​เซ่อ​ร้อง​อ้อ​หนึ่ง​ที​ ถึงอย่างไร​ก็​ไม่เข้าใจ​ว่า​ศิษย์​พี่​พูด​เรื่อง​อะไร​ หาก​ศิษย์​หลาน​สอง​คน​อย่าง​กู้​ช่าน​และ​ฟู่จิ้น​อยู่​ด้วย​ คาด​ว่า​คงจะ​เดา​คำตอบ​ได้​ เช่นว่า​สัญญากับ​ใคร​ แล้​วจะ​ช่วย​ใคร​

ใน​เมื่อ​เจอ​ศิษย์​พี่​ระหว่างทาง​ ทาง​ฝั่งของ​กู้​ช่าน​ก็​คง​ไม่มีเรื่อง​อะไร​ของ​นาง​แล้ว​

ลูกศิษย์​ใหญ่​เปิด​สำนัก​กับ​ลูกศิษย์​ปิด​สำนัก​ต่าง​ก็​มุ่งหน้า​ไป​ยัง​สนามรบ​ประหลาด​ ศิษย์​พี่​กลับ​ยังคง​หยุด​เท้า​อยู่​แค่​ตรงนี้​ แสดงว่า​ต้อง​ไม่มีอันตราย​ใหญ่หลวง​อะไร​แน่นอน​

หัน​เชี่ยว​เซ่อ​ดึง​ต้นสน​โบราณ​ต้น​หนึ่ง​ที่​ขึ้นอยู่​ริม​หน้าผา​ออกมา​พร้อม​ราก​ โยน​ไป​ยัง​ทะเล​เมฆ เอ่ย​สัพยอก​ว่า​ “ได้ยิน​มาว่าที่​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ยินดี​เอา​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​สามคน​มาแลก​กับ​ศิษย์​พี่​คนเดียว​เชียว​นะ​”

เจิ้งจวี​จงยิ้ม​เอ่ย​ “เยอะ​ขนาด​นี้​เชียว​?”

หัน​เชี่ยว​เซ่อ​ถาม “เกิด​อะไร​ขึ้น​ที่​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​?”

นาง​สัมผัส​ได้​ถึงปราก​ฎการณ์​ประหลาด​เสี้ยว​นั้น​ น่าเสียดาย​ที่อยู่​ห่าง​เกินไป​

เจิ้งจวี​จงให้​คำตอบ​ “เซียน​กระบี่​ใหญ่​ผู้อาวุโส​ออก​กระบี่​แล้ว​ ใช้หนึ่ง​กระบี่​สังหาร​ผู้​ลงทัณฑ์​หนึ่ง​ใน​สิ่งศักดิ์สิทธิ์​ชั้นสูง​ยุค​บรรพกาล​”

แต่​ดูเหมือนว่า​ฝ่าย​หลัง​จะเป็น​ฝ่าย​หวน​กลับคืน​บ้านเกิด​เพราะ​หวัง​หลุดพ้น​จาก​กรงขัง​เสีย​มากกว่า​

หัน​เชี่ยว​เซ่อ​ยก​ชาย​เสื้อ​ขึ้น​อย่าง​ต่อเนื่อง​ คอย​ดึง​เอา​เศษหิน​ยักษ์​ก้อน​แล้ว​ก้อน​เล่า​ออก​มาจาก​หน้าผา​ ขว้าง​ใส่ทะเล​เมฆเล่น​ พลาง​ถามชวน​คุย​ด้วยว่า​ “ใน​เมื่อ​เฉิน​ชิงตู​ไร้​ศัตรู​ทัดทาน​ขนาด​นี้​ ต่อให้​ปี​นั้น​ฟัน​บรรพบุรุษ​ใหญ่​ของ​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​ไม่ตาย​ แต่​ก็​น่าจะ​ฟัน​ราชา​บน​บัลลังก์​เก่า​เพิ่ม​อีก​สัก​สอง​สามคน​สิ”

เจิ้งจวี​จงพูด​อย่าง​เฉยเมย​ “คำพูด​ที่อยู่​ใน​หัว​ อย่า​พูด​ออกมา​มาก​นัก​ เพราะ​ง่าย​ที่จะ​ไม่เหลือ​หัว​อยู่​จริงๆ​”

คุณสมบัติ​ด้าน​การ​ฝึก​ตน​ของ​หัน​เชี่ยว​เซ่อ​ แน่นอน​ว่า​พอ​มีอยู่​บ้าง​ ไม่อย่างนั้น​ใน​อดีต​นาง​ก็​คง​ไม่ตั้ง​ปณิธาน​ยิ่งใหญ่​ว่า​จะฝึก​เวท​คาถา​สิบ​ชนิด​บน​มหา​มรรคา​ของ​นคร​จักรพรรดิ​ขาว​ให้​สำเร็จ​

เพียงแต่ว่า​ใน​สายตา​ของ​เจิ้งจวี​จงศิษย์​พี่​ที่​รับ​ลูกศิษย์​แทน​อาจารย์​ หัน​เชี่ยว​เซ่อ​ก็​แค่​วาด​กระบวย​ตาม​รูป​น้ำเต้า​ (อุป​มาถึงการ​ลอกเลียนแบบ​) ที่อยู่​ระดับ​ปลายแถว​เท่านั้น​ ไม่อาจ​นำ​มรรค​กถา​มากมาย​มาปรับ​ใช้กับ​ตัวเอง​ สาเหตุ​นั้น​นอกจาก​จะเกี่ยวพัน​กับ​วิชา​ที่​มีหลากหลาย​ซึ่งต้อง​ย้อน​สืบเสาะ​ไป​ถึงต้นกำเนิด​แล้ว​ นาง​ยัง​ไม่เข้าใจ​คำกล่าว​ที่ว่า​แม้ความรู้​จะมีความต่าง​ แต่​ย่อม​ต้อง​มีส่วน​ที่​เหมือนกัน​ ยิ่ง​ไม่เข้าใจ​เรื่อง​การบุก​เบิกทาง​เส้น​ใหม่​บน​รอย​เก่า​ของ​คน​ที่​เดิน​อยู่​เบื้องหน้า​ ดังนั้น​มรรค​กถา​แค่​สิบ​ชนิด​นาง​ถึงได้​เรียนรู้​อย่าง​เชื่องช้า​ปาน​นั้น​

หัน​เชี่ยว​เซ่อ​ถามอย่าง​ระมัดระวัง​ “ศิษย์​พี่​ ขอ​ถามเรื่อง​ที่​ฟังแล้ว​ไม่ค่อย​ให้​ความเคารพ​อย่างหนึ่ง​กับ​ท่าน​ได้​หรือไม่​?”

เจิ้งจวี​จงกล่าว​ “ลู่​เฉิน”​

เส้น​ทางการ​ฝึก​ตน​ของ​เจ้าลัทธิ​สามแห่ง​ป๋า​ยอ​วี้​จิงขยับ​เข้าใกล้​มหา​มรรคา​อย่างยิ่ง​ แต่กลับ​มิมีร่องรอย​ให้​สืบเสาะ​

อีก​ทั้ง​ผู้ฝึก​ตน​ใหญ่​อย่าง​พวก​ห​ลี่​เซิ่ง เจ้าลัทธิ​ใหญ่​แห่ง​ป๋า​ยอ​วี้​จิง อวี๋​โต้​ว​ อู๋ซวงเจี้ยง​แห่ง​ตำหนัก​สุ้ยฉู​ ยาม​ลงมือทำ​อะไร​ขึ้น​มา ถึงอย่างไร​ก็​มีระเบียบ​ขั้นตอน​ มีหลัก​ให้​ปฏิบัติตาม​

แต่​ลู่​เฉิน​กลับ​ไม่เหมือนกัน​

ระหว่าง​ฟ้าดิน​ วัตถุ​สิ่งของ​แต่ละ​อย่าง​ล้วน​มีเจ้าของ​ ขอบเขต​สิบ​สี่ที่​ผสาน​มรรคา​กับ​ฟ้าอำนวย​ ดิน​อวยพร​ คน​สามัคคี​ ก็​คือ​ได้​ครอบครอง​หนึ่ง​ซึ่งขาด​บางอย่าง​ไป​ แต่​มหา​มรรคา​ส่วน​นั้น​กลับ​ยัง​พอ​จะถือว่า​มีลำดับ​ขั้นตอน​เป็น​ของ​ตัวเอง​

เพียงแต่ว่า​ภาพมายา​ที่​ทั้ง​วัตถุ​และ​ตัว​ข้า​ล้วน​ไร้​ที่​สิ้นสุด​นี้​ ภาพ​บรรยากาศ​ยังคง​เล็กน้อย​เกินไป​ ไม่มาก​พอที่จะ​กลาย​มาเป็น​ความจริง​ได้​

ผู้ฝึก​ตน​แสวง​หาความ​เป็น​อมตะ​ไม่เสื่อมสลาย​ พยายาม​ที่จะ​มีชีวิต​ยืนยาว​อยู่​คู่​ฟ้าดิน​ เดิมที​ก็​เป็น​การกระทำ​ที่​ผิด​หลัก​ทำนองคลองธรรม​อยู่แล้ว​ ผู้ฝึก​ลมปราณ​ก็​เหมือน​โจร​ที่​ปีน​กำแพง​ข้าม​ดินแดน​เข้าไป​ จากนั้น​หนี​เข้า​ป่า​ไป​คอย​ปล้น​ผู้คน​ ยึดครอง​พื้นที่​แห่ง​หนึ่ง​มา ทำ​การปล้น​ชิงมาจาก​ฟ้าดิน​ สุดท้าย​กลายเป็น​คน​ตะกละ​ไม่รู้จัก​อิ่ม​ซึ่งเปลี่ยนแปลง​ได้​อย่าง​ต่อเนื่อง​ ทว่า​กลับ​มีแต่​เข้า​ไม่มีออก​

ยาก​นัก​ที่จะ​ทำลาย​รูปแบบ​ตายตัว​นี้​ทิ้ง​ไป​

หัน​กลับมา​มอง​ลู่​เฉิน​ เขา​กลับ​แสวงหา​มหา​มรรคา​ที่​แท้จริง​มาตั้งแต่​แรกเริ่ม​

หัน​เชี่ยว​เซ่อ​พูด​ด้วย​สีหน้า​จริงจัง​ว่า​ “ถ้าอย่างนั้น​วันหน้า​ขอ​แค่​ข้า​ได้​เจอ​กับ​เขา​ก็​จะหลบ​ไป​อยู่​ให้​ไกล​ จะไม่ไป​มีเรื่อง​กับ​เขา​เด็ดขาด​”

หลังจาก​ได้รับ​คำตอบ​ นาง​ก็​รู้สึก​ประหลาดใจ​มาก​จริงๆ​

คิดไม่ถึง​จริงๆ​ ว่า​ใน​ใจของ​ศิษย์​พี่​ ลู่​เฉิน​จะได้รับ​การประเมิน​ที่สูง​ถึงเพียงนี้​

เจิ้งจวี​จงเอ่ย​ “เจ้าน่ะ​หรือ​จะหาเรื่อง​ลู่​เฉิน​ได้​?”

หัน​เชี่ยว​เซ่อ​เงียบ​ไม่ตอบ​

ความหมาย​ของ​เจิ้งจวี​จงก็​คือ​ ไม่เพียงแต่​ขอบเขต​ของ​สอง​ฝ่าย​ที่​แตก​ต่างกัน​ ความหมาย​ดั้งเดิม​ที่​แท้จริง​ก็​คือ​ ต่อให้​เจ้าหัน​เชี่ยว​เซ่อ​พยายาม​หาเรื่อง​ลู่​เฉิน​อย่าง​เอาเป็นเอาตาย​ก็​ไม่มีความหมาย​ ลู่​เฉิน​คร้าน​จะสนใจ​เจ้าด้วยซ้ำ​

หัน​เชี่ยว​เซ่อ​เอ่ย​อย่าง​ขลาด​ๆ ว่า​ “ศิษย์​พี่​ ยังมี​มรรค​กถา​อีก​สอง​บท​ ทำให้​คน​ยาก​จะเดิน​ก้าว​เข้า​ห้อง​ได้​อย่าง​แท้จริง​”

เรื่อง​ของ​การ​ตั้ง​ปณิธาน​ยิ่งใหญ่​ ไม่ใช่เรื่องเล็ก​ที่​พูด​ง่ายๆ​ แค่​สอง​สามประโยค​ก็​จบเรื่อง​ หาก​หัน​เชี่ยว​เซ่อ​ไม่อาจ​ทำตาม​ความปรารถนา​ใน​ใจได้​สำเร็จ​ ชีวิต​นี้​ก็​คง​ได้​แต่​หยุด​เท้า​อยู่​ที่​ขอบเขต​เซียน​เห​ริน​แล้ว​ ทำให้​นาง​ถูก​กำหนด​มาแล้ว​ว่า​จะไม่อาจ​ฝ่าทะลุ​คอขวด​เลื่อน​เป็น​บิน​ทะยาน​ คอขวด​บน​มหา​มรรคา​นั้น​จะแข็งแกร่ง​ถึงขั้น​ที่​ฟ้าผ่า​ก็​ไม่สะเทือน​ ต้อง​มีจุดจบ​เป็น​การสละ​ร่าง​ตาย​ไป​อย่าง​แน่นอน​

เจิ้งจวี​จงกลับ​มีเพียง​ความ​เงียบ​

หัน​เชี่ยว​เซ่อ​นั่ง​อยู่​ริม​หน้าผา​ เอ่ย​อย่าง​จนใจ​ว่า​ “ศิษย์​พี่​ ข้า​ไม่เคย​ขอร้อง​อะไร​ท่าน​ ใช่ไหม​ มีเพียง​เรื่อง​นี้​ ท่าน​ก็​ช่วย​ข้า​หน่อย​เถอะ​ ข้า​หยุด​อยู่​ที่​ขอบเขต​เซียน​เห​ริน​มานาน​มาก​แล้ว​ อายุขัย​มีจำกัด​ ข้า​ไม่อยาก​ตาย​จริงๆ​ ยิ่ง​ไม่ยินดี​ที่จะ​สละ​ศพ​ไป​จุติ​เกิด​ใหม่​ หวน​กลับมา​ฝึก​ตน​อีกครั้ง​ อย่าง​ฟู่จิ้น​ ภายนอก​มองดู​มีหน้ามีตา​อย่าง​ถึงที่สุด​ แต่​แท้จริง​แล้ว​กลับ​น่าสงสาร​นัก​ ข้า​ไม่อยาก​เป็น​ฟู่จิ้น​แห่ง​นคร​จักรพรรดิ​ขาว​คน​ที่สอง​ใน​สายตา​ของ​คนนอก​”

อยู่ดีๆ​ เจิ้งจวี​จงก็​เอ่ย​ประโยค​หนึ่ง​ขึ้น​มาอย่าง​ไม่มีต้นสายปลายเหตุ​ “หาก​เอาแต่​เรียนรู้​โดย​ไม่รู้จักคิด​พิจารณา​ย่อม​พบ​เจอ​กับ​ความ​สับสน​”

ไม่ได้​บอ​กว่า​เจ้าหัน​เชี่ยว​เซ่อ​อ่าน​ตำ​รามา​มาก​ก็​จะต้อง​เข้าใจ​มาก​ เจ้าก็​เป็น​แค่​ร้านหนังสือ​ที่​วาง​ตัวอักษร​ไว้​ชั่วคราว​ร้าน​หนึ่ง​เท่านั้น​

อาศัย​การ​อ่าน​ตำ​รามา​เพิ่มพูน​วิชา​ความรู้​ ไม่ได้​เท่ากับ​ได้​เพิ่ม​สติปัญญา​

หัน​เชี่ยว​เซ่อ​อึ้ง​ตะลึง​ จากนั้น​ก็​ยก​สอง​มือ​กุม​หัว​โอดครวญ​ อาละวาด​กรีดร้อง​เสียงแหลม​

ศิษย์​พี่​พูด​ก็​เหมือน​ไม่ได้​พูด​นั่นแหละ​

เจิ้งจวี​จงก้มหน้า​มอง​หัน​เชี่ยว​เซ่อ​แวบ​หนึ่ง​

หัน​เชี่ยว​เซ่อ​หยุด​กรีดร้อง​อย่าง​เสียกิริยา​ทันที​ ไม่โวยวาย​อีกต่อไป​ นาง​สูด​จมูก​ รู้สึก​น้อยเนื้อต่ำใจ​อยู่​บ้าง​

เจิ้งจวี​จงหัวเราะ​ “วิธี​แก้ปัญหา​นั้น​อยู่​ใน​ตำรา​ประเภท​คำ​อรรถาธิบาย​หรือ​การอธิบาย​คำศัพท์​โบราณ​ที่​มีอยู่​ใน​นคร​จักรพรรดิ​ขาว​”

ดวงตา​หัน​เชี่ยว​เซ่อ​เป็นประกาย​

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!