อริยะปราชญ์ผู้มีรูปปั้นตั้งบูชาในศาลบุ๋นซึ่งนั่งพิทักษ์ม่านฟ้าไม่ได้ใช้เสียงในใจพูดด้วยซ้ำ เปิดปากเอ่ยตามตรงว่า “ข้าไม่อยู่”
หม่าขู่เสวียนได้ยินแล้วก็หัวเราะก๊ากดังลั่น คิดไม่ถึงว่าอาจารย์เฮ้อที่มีคุณสมบัติได้กินเนื้อหัวหมูเย็นๆ ผู้นี้จะมีอารมณ์ขันด้วย
ไม่สนใจเซียนซือทำเนียบวงศ์ตระกูลที่น่าสงสารกลุ่มนั้นอีก หม่าขู่เสวียนไปนั่งอยู่ข้างกายอวี๋สืออู้
เกาหมิงเอ่ยถาม “เหล่าหม่า ขอพูดอะไรกับท่านหน่อยได้ไหม”
หม่าขู่เสวียนยิ้มกล่าว “มีลมก็รีบผาย”
เกาหมิงถาม “ข้าเปลี่ยนไปอยู่กับภูเขาลั่วพั่ว ไปเป็นลูกศิษย์ของเฉินผิงอันแทนได้ไหม? ข้ารู้สึกว่าไปที่นั่น อยู่กับอิ่นกวาน อาจจะได้ดีกว่านี้”
สาวใช้สู่เตี่ยนและศิษย์พี่ของเด็กหนุ่มหันมามองหน้ากันตาปริบๆ
พวกเขาต่างก็รู้ว่าเด็กหนุ่มคนนี้หากไม่ปิดปากเงียบไม่เอ่ยอะไร ขอแค่เปิดปากพูดขึ้นก็มักจะเป็นคำพูดที่เหลวไหลเสมอ เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าจะใจกล้าเทียมฟ้าถึงเพียงนี้ ไม่ว่าคำพูดอะไรก็กล้าพูดจริงๆ
เกาหมิงก้มหน้าลงลูบมีดผ่าฟืนที่ตัวเองรักเล่มนั้น พึมพำกับตัวเองว่า “อย่างน้อยออกจากบ้านก็มีหน้ามีตา ไม่เหมือนติดตามท่านเหล่าหม่าขึ้นเหนือล่องใต้ เจอกับเซียนซือบนภูเขา ไม่ว่าจะชายหรือหญิง สายตาที่มองข้าล้วนแปลกประหลาด บรรพจารย์ลุงอวี๋ ประโยคนั้นพูดว่าอย่างไรแล้วนะ?”
อวี๋สืออู้กล่าว “คานบนไม่ตรงคานล่างเอียง”
เกาหมิงพยักหน้ารับอย่างแรง “ใช่!”
“เลือกไม่ได้ว่าควรไปเกิดในครรภ์ไหน การกราบไหว้อาจารย์ก็พอๆ กัน ต้องยอมรับชะตากรรมแต่โดยดี”
หม่าขู่เสวียนไม่โกรธกลับกันยังขำ อีกทั้งยังหัวเราะอย่างเบิกบานใจมาก ดูไม่เหมือนเสแสร้งแกล้งทำ เขาลูบศีรษะของเด็กหนุ่ม “อีกอย่าง อาจารย์เองก็ไม่ได้ปฏิบัติต่อเจ้าไม่ดีเสียหน่อย บอกแล้วว่าจะพาเจ้าไปเป็นเทพเซียนฝึกตนอยู่บนภูเขา ติดตามข้ามากินดีอยู่ดี ทั้งสองเรื่องนี้ข้าล้วนทำได้แล้ว”
เกาหมิงคิดแล้วก็พยักหน้าเอ่ยว่า “ก็จริงนะ”
ตอนนั้นที่อยู่ร้านเหล้าของเมืองเล็ก ก่อนที่เด็กหนุ่มจะเผ่นหนีไปยังไม่ลืมยกมีดผ่าฟืนในมือเช็ดคราบเลือดไปบนศพ
อันที่จริงคนบ้านเดียวกันกลุ่มนั้นไม่ได้ไล่เขาไป แล้วก็ไม่ได้ตำหนิที่เขาฟันคนส่งเดช ก่อหายนะครั้งใหญ่
คงเป็นเพราะเด็กซื่อบื้อที่เติบใหญ่มาด้วยกันผู้นี้ ยามที่ต่อยตีขึ้นมามักจะลงมือหนักสุด แล้วยังชอบเสนอตัวอยู่แนวหน้าสุดด้วย
ทว่าเมื่อเด็กหนุ่มเห็นความใจฝ่อ ความหวาดกลัวและความขี้ขลาดในดวงตาของพวกเขากลับรู้สึกว่าน่าเบื่อ
หากกลุ่มของหม่าขู่เสวียนไม่ได้ปรากฏตัว เขาก็คงติดตามคนบ้านเดียวกันมั่วสุมอยู่ด้วยกันต่อไป เพราะถึงอย่างไรเขาก็ไม่มีสถานที่อื่นให้ไปเยือนอยู่แล้ว
แต่ในเมื่อตอนนั้นหม่าขู่เสวียนบอกแล้วว่าสามารถติดตามเขาไปเป็นเทพเซียนได้ เด็กหนุ่มมีดผ่าฟืนจึงอยากรู้ว่าอะไรคือเทพเซียน
เกาหมิงถามอย่างใคร่รู้ “เหล่าหม่า ท่านกับเฉินผิงอันเป็นคนบ้านเดียวกันไม่ใช่หรือ ทำไมถึงไม่ถูกกันเสียล่ะ? ท่านไปมีเรื่องกับใครดันไม่มี ดันไปมีเรื่องกับเขาเนี่ยนะ”
หม่าขู่เสวียนยกสองมือขึ้น สอดรองไว้ใต้ท้ายทอย หรี่ตายิ้มเอ่ย “ในบรรดาคนวัยเดียวกัน ดูเหมือนว่าจะเป็นข้าที่ชนะเขาได้สองครั้ง?”
เด็กหนุ่มเงยหน้าเอ่ยชมเชย “ถ้าอย่างนั้นเหล่าหม่าท่านก็ใช้ได้เลยนี่นา เคยมีหน้ามีตากับเขามาก่อนด้วย”
หม่าขู่เสวียนชี้ไปที่อวี๋สืออู้ “แต่ทุกวันนี้คนที่ทำให้เฉินผิงอันกริ่งเกรงได้อย่างแท้จริงก็คือบรรพจารย์ลุงอวี๋ของพวกเจ้า”
คนคนเดียวได้ครอบครองโชคชะตาบู๊สามส่วน
มีเทพคุ้มครองตามความหมายที่แท้จริง
อวี๋สืออู้มองผู้เยาว์ทั้งหลายแล้วส่ายหน้า ยิ้มเอ่ย “พวกเจ้าเชื่อจริงๆ หรือ?”
สาวใช้สู่เตี่ยนกับลูกศิษย์วั่งจู่กึ่งเชื่อกึ่งกังขา
มีเพียงเด็กนุ่มมีดผ่าฟืนที่พยักหน้าเอ่ย “เชื่อสิ ทำไมจะไม่เชื่อล่ะ”
อวี๋สืออู้ยิ้มรับ หันหน้าไปมองทางทิศใต้
ในสายตาของเขา สรรพชีวิตทั้งหมดที่มีสติปัญญา ความเป็นความตายล้วนเหมือนมดตัวหนึ่ง แต่กลับงดงามดุจเทพเจ้า
ศาลบุ๋นแผ่นดินกลาง ในพื้นที่ลับขุนเขาสายน้ำแห่งหนึ่งของสวนกงเต๋อ ผู้ฝึกกระบี่หลิวชาเปลี่ยนจากจอมยุทธเคราดกผู้กล้าหาญที่เดินกร่างได้ทั่วใต้หล้าเปลี่ยวร้าง กลายมาเป็นคนตกปลาคนหนึ่งที่หลงใหลในการตกปลา
เรื่องอย่างการตกปลานี้ ช่างทำให้คนลุ่มหลงได้ง่ายจริงๆ
ข้อพิถีพิถันในการตกปลาของหลิวชายิ่งนานก็ยิ่งมีมากขึ้นเรื่อยๆ คันเบ็ดตกปลา ข้องตกปลานั้นไม่ต้องพูดถึงแล้ว นอกจากนี้คือตำแหน่งในการตกปลา ตะขอตกปลา เส้นเอ็นที่ใช้ตกปลา ตกปลาแบบจมตกปลาแบบลอย เหยื่อล่อที่ใช้ตกปลา ที่แท้ล้วนมีความรู้ทั้งสิ้น ทุกวันนี้ ‘มรรคกถา’ ของหลิวชาพัฒนารุดหน้าไปมาก เข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง
แน่นอนว่าเงื่อนไขก็คือหลิวชาจงใจกดขอบเขต ใช้สายตา พละกำลังของมนุษย์ธรรมดามาตกปลาอยู่ที่นี่ หากไม่ทำเช่นนี้การตกปลาก็ไม่มีความบันเทิงใดๆ ให้กล่าวถึง
วันนี้ได้ปลามาเยอะ หลิวชาจึงต้มแกงปลาให้ตัวเองหม้อหนึ่ง ก่อนหน้านี้ได้ขอพวกฟืน ข้าวสาร น้ำมัน เกลือบางส่วนมาจากทางฝั่งของศาลบุ๋น คิดว่าจะซื้อลูกปลามาปล่อยเลี้ยงไว้ในทะเลสาบเสียหน่อย หากเรื่องแค่นี้ศาลบุ๋นยังขี้งก ถ้าอย่างนั้นหลิวชาก็จะจ่ายเงินซื้อมาเอง ทั้งเงินค่าลูกปลาและเงินค่าเดินทาง เขาจะออกเองทั้งหมด
หย่างจื่อปีศาจใหญ่บนบัลลังก์เก่าถูกกักตัวไว้ในกลุ่มเทือกเขาอัคคีแห่งหนึ่งที่เงียบสงัดไร้ผู้คน เล่าลือกันว่าที่นั่นเคยเป็นเตาหลอมโอสถแห่งหนึ่งของมรรคาจารย์เต๋า
สตรีผู้หนึ่งที่ปักปิ่นเรียบง่ายสวมกระโปรงผ้า หน้าตาธรรมดาสามัญมาเปิดร้านเหล้าร้านหนึ่งในพื้นที่เงียบสงัดริมน้ำติดภูเขา เวลาปกติไม่มีลูกค้าแม้แต่ผีสักตน นางเองก็ไม่ถือสา
หลี่เซิ่งให้นางรับปากแค่เรื่องเดียวเท่านั้น นอกจากห้ามข้ามดินแดนแล้วก็คือห้ามทำร้ายชีวิตคนอื่น นอกจากนี้ในอาณาเขตพันลี้ นางล้วนสามารถไปมาได้อย่างเสรี
วันนี้คนที่มาดื่มเหล้าที่นี่รวมกันแล้วได้หนึ่งโต๊ะอย่างที่หาได้ยาก คือนายท่านเทพภูเขาที่มีบุคลิกสุภาพสง่างาม และยังมีแม่ย่าลำคลองที่มีลักษณะเป็นเด็กสาว อีกสองคนที่เหลือคือภูตภูเขาที่หลอมเรือนกายได้ประสบความสำเร็จแล้ว
เพียงแต่ว่าลูกค้าสี่คนที่มาดื่มเหล้าต่างก็ไม่รู้รากฐานความเป็นมาของหย่างจื่อ เพียงแค่เห็นเถ้าแก่เนี้ยะของร้านเหล้าเป็นภูตเผ่าน้ำที่พอจะฝึกตนได้ประสบความสำเร็จบ้างเล็กน้อย
วันนี้หย่างจื่อนั่งอยู่ที่โต๊ะเหล้าตัวหนึ่งเพียงลำพัง เปิดอ่าน ‘ตำราใหม่’ เล่มหนึ่งที่ไพศาลสั่งห้ามอ่านมานานแล้ว บนตำรามีเรื่องราวนิทานชาดกที่เกี่ยวกับการฆ่างูสองตัว ทำเอาหย่างจื่อที่ได้อ่านทอดถอนใจอย่างปลงอนิจจัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!