สองนิ้วของเฉินผิงอันคีบตะเกียบไผ่เขียวที่อยู่ในมือจับหมุนไปมา “ว่าอย่างไร?”
ลู่เหว่ยเอ่ย “หากรอดได้ก็มีชีวิตรอด”
พึ่งพิงอยู่ใต้ชายคาของผู้อื่นก็จำต้องยอมก้มหัว เวลานี้สถานการณ์ไม่ได้อยู่ข้างพวกเขา พูดจาอ่อนข้อไปก็ไม่มีประโยชน์ ทิ้งถ้อยคำอาฆาตไว้ก็ไม่มีความหมายใดๆ เช่นกัน
ก็เหมือนอย่างที่ลู่เหว่ยพูดไว้ก่อนหน้านี้ ภูเขาสูงสายน้ำไหลยาว หวังว่าอิ่นกวานหนุ่มที่ทำอะไรกำเริบเสิบสานผู้นี้จะรักษาตัวให้ดี สี่ฤดูของฟ้าดินสับเปลี่ยนหมุนเวียน ลมและน้ำหมุนวนย้อนกลับ ย่อมต้องมีโอกาสที่จะคิดบัญชีกันใหม่
ดูเหมือนลู่เหว่ยจะตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาดแล้ว จึงยังมีอารมณ์มองตะเกียบไผ่เขียวที่เหลือเพียงด้ามเดียวนั้น
ก่อนหน้านี้เฉินผิงอันใช้ตะเกียบด้ามหนึ่งต่างกระบี่ฟันยันต์พิฆาตศพที่เป็นยันต์แทนตัวออกโดยตรง
เวทกระบี่ระดับนี้ พลังพิฆาตเช่นนี้ มีแต่ผู้ฝึกกระบี่ขอบเขตเซียนเหรินเท่านั้น ไม่ต้องคิดให้มากความแล้ว
ประเด็นสำคัญคือกระบี่นี้ลี้ลับมหัศจรรย์เกินไป วิถีวงโคจรของกระบี่คล้ายเส้นตรงดิ่งที่พุ่งมาในระยะสั้นเส้นหนึ่ง
หนึ่งกระบี่ปล่อยออกไป แสงกระบี่หล่นร่วงลงมา มองเมินการไหลรินของแม่น้ำยาวแห่งกาลเวลา มองเมินการรวมตัวและการแยกสลายของปราณวิญญาณฟ้าดิน นี่ก็คือเวทคาถาใกล้เคียงมหามรรคาอย่างที่กล่าวถึงในตำนาน
และ ‘วิชาอภินิหาร’ ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่พุ่งดิ่งตรงลงมายังใต้หล้าเช่นนี้ ก็คือเวทกระบี่ที่หล่นลงมาในโลกมนุษย์ก่อนหน้าเวทคาถานับพันหมื่น
“คิดไม่ถึงว่าผู้อาวุโสลู่จะมีนิสัยแข็งกระด้างเช่นนี้ ในที่สุดขนบธรรมเนียมของสกุลลู่ก็ทำให้ข้ามองพวกเจ้าสูงขึ้นแล้ว”
เฉินผิงอันถาม “มีชีวิตรอดได้ก็มีชีวิตรอด? ถ้าอย่างนั้นข้าสามารถเข้าใจว่า…คิดจะตายก็ได้เหมือนกัน ได้หรือไม่?”
ลู่เหว่ยหลุดหัวเราะพรืด
คิดอยากจะให้ข้าส่ายหางขอร้องความเมตตา ฝันไปเถอะ
สำหรับเวทกระบี่ ลู่เหว่ยรู้จักเยอะจริงๆ
คำว่า ‘ไม่ใช่ผู้ฝึกกระบี่ก็อย่าได้พูดถึงเวทกระบี่อย่างส่งเดช’ แน่นอนว่าเป็นคำพูดที่อิ่นกวานหนุ่มพูดให้คนรู้สึกสะอิดสะเอียน จงใจดูแคลนบรรพจารย์สกุลลู่ท่านนี้
อันที่จริงเกี่ยวกับที่มาของวิถีกระบี่ของโลกมนุษย์และเวทกระบี่ในใต้หล้าแล้ว สกุลลู่แผ่นดินกลางไม่กล้าพูดว่ารู้ความจริงถึงแปดเก้าในสิบส่วน แต่เมื่อเทียบกับสำนักชั้นสูงบนยอดเขาแล้วก็รู้ความลับมากมายเกี่ยวกับปฏิทินเหลืองส่วนแรกๆ อยู่จริง
อย่าเห็นว่าเวลานี้สีหน้าแววตาของลู่เหว่ยต่างก็สงบนิ่งเป็นธรรมชาติ แต่แท้จริงแล้วทะเลสาบหัวใจกลับมีลูกคลื่นซัดถาโถม มีแต่จะรุนแรงยิ่งกว่าไทเฮาหนันจาน
หรือว่ารายงานบนจดหมายลับของตระกูลมีข้อผิดพลาด อันที่จริงเฉินผิงอันยังไม่มอบขอบเขตกลับคืน หรือจะบอกว่าได้แอบทำการค้ากับเจ้าลัทธิลู่อย่างลับๆ รักษามรรคกถาส่วนหนึ่งของป๋ายอวี้จิงเอาไว้ เพื่อเตรียมไว้ใช้ในช่วงเวลาที่จำเป็น ก็เหมือนอย่างที่เอามารับมือกับสถานการณ์ในวันนี้? บรรพบุรุษท่านนี้นี่นะ ด้วยมรรคกถาเลิศล้ำค้ำฟ้าของเขา มีหรือจะคิดคำนวณถึงหายนะของวันนี้ไม่ได้?
สะบั้นเส้นด้ายแห่งโลกีย์ กระโดดออกไปนอกสามภพ เป็นเหตุให้ขี้เหนียวร่มเงาบรรพบุรุษมากเป็นพิเศษ ไม่ยินดีจะมีความเกี่ยวข้องใดๆ กับสกุลลู่แผ่นดินกลาง?
เพียงแต่เจ้าลู่เฉินไม่ดูแลลูกหลานสกุลลู่ก็ยังพอทำเนา แต่จำเป็นต้องทำร้ายตัวเองถึงขนาดนี้เชียวหรือ
ตามลำดับอาวุโสที่อยู่บนทำเนียบตระกูลสกุลลู่ ลู่เหว่ยต้องเรียกเจ้าลัทธิสามแห่งป๋ายอวี้จิงว่าบรรพจารย์อา
ความคิดของลู่เหว่ยแล่นเร็วจี๋
หรือจะบอกว่า ‘นายแห่งกระบี่’ ผู้นี้ได้ครอบครองมหามรรคาแห่งเวทกระบี่หลายเส้นแล้ว?
ปัญหานั้นอยู่ที่ว่าหอครองดาวของตระกูลสกุลลู่กลับไม่มีบันทึกใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้
ในเรื่องที่ใหญ่เทียมฟ้าเรื่องนี้ เจ้าประมุขสกุลลู่และผู้ที่คอยสังเกตปรากฎการณ์ฟ้าและการเปลี่ยนแปลงทางดวงดาวทั้งหลาย รวมไปถึงพวกเยว่ตู๋จู้สื่อ ซือเฉินซือแห่งหอสวรรค์ที่รับหน้าที่ตรวจสอบแก้ไขช่องโหว่ ย่อมไม่มีทางกล้า แล้วก็ไม่คิดจะปิดบังเรื่องใดๆ กับบรรพบุรุษสกุลลู่ที่ออกจากบ้านเกิดมานานหลายปีและกำลังจะกลับเข้าสู่ตระกูลอย่างตนแน่นอน
เพราะขอแค่เฉินผิงอันเรียนรู้วิถีกระบี่เส้นหนึ่งมาจากบุคคลยุคบรรพกาลผู้นั้นได้ เวทกระบี่ชนิดหนึ่งก็จะมีการจำแลงบนมหามรรคาเกิดขึ้น แล้วชักนำให้เกิดภาพเหตุการณ์ผิดปกติแห่งฟ้าดิน
บางทีอาจเป็นการร่วงลงมาของดวงดาวบรรพกาลบางดวง หรือไม่ก็แม่น้ำแห่งกาลเวลาบางช่วงตอนที่แห้งขอดกะทันหัน!
ปีนั้นหลังจากที่เฉินผิงอันเดินไปบนสะพานแบบคานของเมืองเล็ก สกุลลู่แผ่นดินกลางรู้ข่าวก็รีบระดมพลใหญ่โต เจ้าประมุขนำพาคนไปเฝ้าพิทักษ์หอสวรรค์ด้วยตัวเอง สิ้นเปลืองพละกำลังมหาศาลเพื่อสืบเสาะเรื่องนี้อย่างไม่เสียดาย วันแล้ววันเล่าผ่านไป ปีแล้วปีเล่าผ่านไป ไม่กล้าเพิกเฉยละเลยแม้แต่น้อย
ให้คำอธิบายการปิดด่านตลอดหลายปีมานี้ของพวกกลุ่มคนสกุลลู่ที่รับผิดชอบสังเกตการณ์ผืนฟ้าเพื่อตรวจสอบดูแนวโน้มแห่งวิถีกระบี่ว่า ‘เฝ้ามองตาไม่กะพริบ’ ก็ไม่เกินจริงเลยแม้แต่น้อย
ลู่ไถที่มาจากสายตรงเช่นเดียวกับลู่เหว่ย ปีนั้นเหตุใดถึงออกเดินทางไปท่องเที่ยวแจกันสมบัติทวีปเพียงลำพัง แล้วเหตุใดถึงได้บังเอิญไปเจอกับเฉินผิงอันบนเรือข้ามฟากเกาะกุ้ยฮวาพอดี?
นี่เป็นเรื่องที่สกุลลู่คิดร้อยตลบแล้วก็ยังไม่เข้าใจ เหตุใดผู้ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็น ‘นายแห่งกระบี่’ เป็น ‘ผู้ครองกระบี่’ คนใหม่ ไม่เพียงแต่ไม่ได้เป็นผู้ฝึกกระบี่ ถึงขั้นที่ว่ายังไม่เคยเรียนเวทกระบี่สักบท
ดังนั้นถึงจำเป็นต้องมีคนไปอยู่ข้างกายเฉินผิงอัน คอยสังเกตการณ์เรื่องนี้อย่างใกล้ชิด
ส่วนเรื่องที่ตัวลู่ไถเองถูกปิดหูปิดตามาโดยตลอด
สุดท้ายลูกหลานสายหลักที่ทางตระกูลฝากความหวังไว้สูง แต่กลับเลือกจะทำเรื่องเนรคุณด้วยการหลอกลวงตระกูลอย่างร้ายกาจ
นั่นก็เพราะลู่ไถเปิดเผยความลับสวรรค์ที่ใบถงทวีปโดยพลการ เกือบจะทำให้ตลอดทั้งสกุลลู่ของแผ่นดินกลาง รวมไปถึงสายรองทั้งหมดถูกลากเข้าไปในเหวลึกไร้ก้นแห่งหนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!