กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 884

อยู่​ใน​เมืองหลวง​ต้า​หลี​ จู๋เฟิ่งเซียน​ไม่กล้า​ก่อเรื่อง​ ตอนที่​ควัก​ทอง​ก้อน​หนึ่ง​ออกมา​ให้​เป็น​รางวัล​จึงฉวยโอกาส​ลูบคลำ​มือ​เล็ก​ขาวนวล​ของ​สตรี​ผู้​นั้น​ไป​เล็กน้อย​

ช่วยไม่ได้​ ก่อนหน้านี้​ตอนที่​จู๋เฟิ่งเซียน​ให้​เงินก้อน​เป็น​รางวัล​ สตรี​สอง​คน​ไม่แม้แต่​จะปรายตา​มอง​ด้วยซ้ำ​

หลังจากที่​เดิน​ออก​มาจาก​เหลา​สุรา​พร้อมกับ​สหาย​เฒ่า จู๋เฟิ่งเซียน​ที่​เดิน​อยู่​ริม​ลำคลอง​ชางผู​ก็​อด​เอ่ย​ทอดถอนใจ​ประโยค​หนึ่ง​ไม่ได้​ ทอง​ล้ำค่า​ ใน​สายตา​มองไม่เห็น​เงิน​สักนิด​

เวลานี้​อวี่​ชางหมาง​เหลือบมอง​ไป​ยัง​เหยียน​กวาน​กับ​หวง​เหมย​ที่​เดิน​ขึ้น​บันได​มา รวม​เสียง​ให้​เป็น​เส้น​เอ่ย​ว่า​ “น่า​อัดอั้น​นัก​ หาก​รู้​แต่แรก​ว่า​จะมีสถานการณ์​เช่นนี้​ ให้​ตาย​อย่างไร​ก็​คง​ไม่เข้า​ร่วมกับ​หอ​ฝูสู่แล้ว​ เรื่อง​นี้​ต้องโทษ​ข้า​จริงๆ​ ที่​ลาก​เจ้าให้​มาซวย​ด้วย​”

พูดถึง​ตำแหน่ง​ผู้อาวุโส​ของ​พรรค​ที่​แท้จริง​แล้ว​ไม่มีอำนาจ​แท้​จริงอยู่​ใน​มือ​แม้แต่น้อย​ และ​เวลา​ที่​มากกว่า​นั้น​ก็​แค่​ช่วย​ป้อน​หมัด​ให้​กับ​เด็กน้อย​สอง​คน​เท่านั้น​

เหยียน​กวาน​ยัง​นับว่า​ดี​ ออก​หมัด​รู้จัก​หนัก​เบา​ แล้ว​ยัง​เป็น​คน​ที่​ถือว่า​มีคุณธรรม​ เพียงแต่​มอง​แม่นาง​น้อย​ที่​คิ้ว​ตา​อ่อนหวาน​ผู้​นั้น​แล้ว​ ยาม​ที่​ลงมือ​นั่น​ต่างหาก​ที่​เรียก​ว่า​อำมหิต​ เห็น​พวกเขา​เป็น​เสาไม้เดิน​ได้ที่​เอาไว้​ซ้อมมือ​ชัด​ๆ

เพียงแต่​จำต้อง​ยอมรับ​ว่า​ผลสำเร็จ​บน​วิถี​วร​ยุทธ​ของ​หวง​เหมย​จะต้อง​สูงกว่า​ศิษย์​พี่​อย่าง​เหยียน​กวาน​แน่นอน​

แม้ทุกวันนี้​จะยัง​เป็น​แค่​ขอบเขต​หก​ แต่กลับ​มุ่งหน้า​เข้าหา​ขอบเขต​เดินทางไกล​แล้ว​ หันมา​มอง​เหยียน​กวาน​ มีความเป็นไปได้​อย่างยิ่ง​ว่า​ชีวิต​นี้​จะหยุด​อยู่​แค่​ที่​ขอบเขต​ร่าง​ทอง​แล้ว​ ในอนาคต​อย่าง​มาก​สุด​ก็​แค่​ถูก​ส่งให้​ไป​อยู่​ใน​พรรค​ของ​ศิษย์​พี่​บางคน​เท่านั้น​ พูด​เสีย​น่าฟัง​ว่า​ไป​ฝึก​ประสบการณ์​ทำความเข้าใจ​กับ​ขนบธรรมเนียม​และ​เรื่องราว​ใน​โลก​มนุษย์​ แต่​แท้จริง​แล้ว​กลับ​เป็นการ​ไป​คบค้า​อยู่​กับ​กิจธุระ​ยิบ​ย่อย​กอง​ใหญ่​ใน​ยุทธ​ภพ​

จู๋เฟิ่งเซียน​ยิ้ม​เอ่ย​ “ลูกผู้ชาย​ยืด​ได้​หด​ได้​ ไม่เป็นไร​ ถือ​เสีย​ว่า​มีข้าว​ให้​กิน​เปล่าๆ​ คิด​ให้​ตก​ สีหน้า​ของ​คน​ที่​มอบ​ข้าว​ให้​กิน​ไม่น่าดู​ ไม่นับว่า​เป็น​อะไร​ได้​ ขอ​แค่​ถ้วย​ข้าว​ที่อยู่​บน​โต๊ะ​ไม่รสชาติ​แย่​เกินไป​ก็​พอแล้ว​”

ทาง​ฝั่งของ​หัว​เรือ​มีแขกไม่ได้รับเชิญ​สอง​คน​เดิน​ออกมา​ ดู​จาก​ท่าทาง​แล้ว​น่าจะ​ตั้งใจ​มาหา​พวกเขา​

คน​ชุด​เขียว​เป็น​ฝ่าย​กุม​หมัด​ยิ้ม​เอ่ย​ก่อน​ว่า​ “เจ้าประมุข​ผู้เฒ่า​จู๋ จากลา​กันที่​แคว้น​ชิงหลวน​ ไม่ได้​เจอกัน​นาน​หลาย​ปี​ มาด​ของ​เจ้าประมุข​ผู้เฒ่า​ยังคง​สง่างามดังเดิม​”

องค์​รักษ์​หนุ่ม​ที่​เดิน​รั้ง​ไป​ด้านหลัง​คน​ผู้​นั้น​ครึ่งตัว​กุม​หมัด​ตาม​

จู๋เฟิ่งเซียน​พอ​จะรู้สึก​คุ้นเคย​คิ้ว​ตา​ของ​คน​ตรงหน้า​อยู่​บ้าง​ จึงลอง​ถามหยั่งเชิง​ว่า​ “ใช่คุณชาย​เฉิน​ที่​…พบ​เจอกัน​โดยบังเอิญ​ที่​อาราม​จิน​กุ้ย​หรือไม่​?”

อันที่จริง​ต้อง​เป็น​เฉิน​เซียน​ซือ​แล้ว​ เพียงแต่ว่า​จู๋เฟิ่งเซียน​ไม่รู้สึก​ว่า​ท่าน​ผู้​นี้​คือ​เทพ​เซียน​บน​ภูเขา​ กลับ​รู้สึก​เหมือน​เป็น​คนใน​ยุทธ​ภพ​มากกว่า​

ปี​นั้น​พบ​เจอกัน​โดยบังเอิญ​ จู๋เฟิ่งเซียน​ยัง​ให้​กลุ่ม​ของ​เฉิน​เซียน​ซือ​ผู้​นี้​เข้า​พัก​ใน​เรือน​ที่​คน​ของ​พรรค​ต้า​เจ๋อ​เพิ่งจะ​ออก​เงิน​สร้าง​เสร็จ​พอดี​ ทั้งสองฝ่าย​ต่าง​ก็​ถูกชะตา​กัน​มาก​

เฉิน​ผิง​อัน​พูด​กลั้ว​หัวเราะ​เสียงดัง​กังวาน​ “เจ้าประมุข​ผู้เฒ่า​ช่างสายตา​ดี​ยิ่งนัก​!”

จู๋เฟิ่งเซียน​แผด​เสียงหัวเราะ​ดังลั่น​ คว้า​จับ​แขน​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​เอาไว้​ “ไป​ ไป​ดื่มเหล้า​ที่​ชั้นสอง​กัน​ ใน​ห้อง​ของ​ข้า​มีสุรา​ดี​บน​ภูเขา​อยู่​ด้วย​! ซื้อ​มาจาก​เมืองหลวง​ต้า​หลี​ ขนาด​ตา​เฒ่าอวี่​ข้า​ยัง​ตัดใจ​ให้​เขา​ดื่ม​ไม่ได้​เลย​”

เฉิน​ผิง​อัน​ถาม “คือ​เหล้า​หมัก​เซียน​ของ​ตำหนัก​ฉางชุน​ที่​มีเงิน​ก็​ซื้อ​ไม่ได้​น่ะ​หรือ​?”

ชั้นสอง​?

อวี๋หง​อาจารย์​และ​ศิษย์​สามคน​เหมือน​จะเข้า​พัก​อยู่​ที่​ชั้น​สาม ต่าง​คน​ต่าง​มีห้องส่วนตัว​

แน่นอน​ว่า​บางที​อาจ​เป็น​เพราะ​ห้อง​ที่​ชั้น​สามของ​ตำหนัก​ฉางชุน​มีจำนวน​น้อย​เกินไป​ ต่อให้​มีเงิน​เทพ​เซียน​ก็​ยัง​เข้า​พัก​ไม่ได้​

จู๋เฟิ่งเซียน​ถลึงตา​เอ่ย​ “คุณชาย​เฉิน​ หาก​เจ้าพูดคุย​กับ​คนอื่น​แบบนี้​จะไม่มีเพื่อน​แล้ว​นะ​”

เฉิน​ผิง​อัน​ถูก​ลากตัว​ให้​เดิน​ไป​ ยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ “เจ้าประมุข​ผู้เฒ่า​ไม่มี แต่​ใน​มือ​ข้า​บังเอิญ​มีอยู่​สอง​สามกา​นะ​ แต่​เป็น​แบบ​ที่​ถูก​ที่สุด​”

จู๋เฟิ่งเซียน​พยักหน้า​กล่าว​ “ดี​ สหาย​อย่าง​คุณชาย​เฉิน​ ข้า​จะถือว่า​เพิ่ง​รู้จัก​ คบหา​เป็น​สหาย​ด้วย​แน่​แล้ว​!”

เสี่ยว​โม่เดินตาม​อยู่​ด้านหลัง​เฉิน​ผิง​อัน​ เห็น​ว่า​ผู้ฝึก​ยุทธ​เต็มตัว​ที่​ชื่อว่า​อวี่​ชางหมาง​ส่งสายตา​สอบถาม​มาให้​ตน​ เสี่ยว​โม่ก็​คลี่​ยิ้ม​น้อย​ๆ ผงกศีรษะ​ให้​อีก​ฝ่าย​

ไป​ถึงห้อง​ชั้นสอง​ ระหว่าง​ที่​คุณชาย​กับ​สหาย​ใน​ยุทธ​ภพ​สอง​คน​เดิน​ไป​ที่​โต๊ะ​เหล้า​ เสี่ยว​โม่ที่​เดิน​อยู่​รั้ง​ท้ายสุด​ก็​ปิดประตู​ห้อง​ลง​เบา​ๆ

จู๋เฟิ่งเซียน​นั่งลง​แล้วก็​ยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ “ตอนแรก​ปรมาจารย์​ผู้เฒ่า​อวี๋​อยาก​ให้​พวกเรา​พัก​อยู่​ชั้นบน​ เพียงแต่​ข้า​กับ​ตา​เฒ่าอวี่​ต่าง​ก็​รู้สึก​ว่า​ไม่จำเป็นต้อง​สิ้นเปลือง​เงินทอง​ส่วน​นี้​ หาก​เป็นไปได้​ล่ะ​ก็​ พวกเรา​อยาก​พัก​อยู่​ที่​ชั้นหนึ่ง​กัน​ด้วยซ้ำ​ เพียงแต่​ปรมาจารย์​ผู้เฒ่า​อวี๋​ไม่ยอม​ตอบ​ตกลง​ คุณชาย​เฉิน​ โดยสาร​เรือ​ของ​ตำหนัก​ฉางชุน​ลำ​นี้​ ทุกวัน​คง​มีค่าใช้จ่าย​ไม่น้อย​เลย​กระมัง​?”

เฉิน​ผิง​อัน​พยักหน้า​รับ​ด้วย​รอยยิ้ม​ “ดังนั้น​จึงเป็น​เหมือน​เจ้าประมุข​ผู้เฒ่า​จู๋ ไม่อาจ​ตัดใจ​พัก​อยู่​ที่​ชั้น​บนสุด​ได้​ ที่นั่น​ลมแรง​เกินไป​ หาก​ไม่ทัน​ระวัง​ต้อง​กวาด​เอา​เงิน​ใน​กระเป๋า​ไป​จน​หมด​แน่​”

อวี่​ชางหมาง​ที่​เงียบงัน​มาตลอด​ยิ้ม​ชอบใจ​

จู๋เฟิ่งเซียน​เห็นด้วย​เป็น​อย่างยิ่ง​ จุ๊ปาก​เอ่ย​ว่า​ “หาก​จะพูด​เรื่อง​ค่าใช้จ่าย​ด้าน​เงินทอง​ล่ะ​ก็​ ไม่ใช่แค่​ว่า​บน​สวรรค์​หนึ่ง​วัน​บน​พื้นดิน​หนึ่ง​ปี​ เทียบ​กับ​เทพ​เซียน​บน​ภูเขา​อย่าง​พวก​เจ้าไม่ได้​จริงๆ​”

เฉิน​ผิง​อัน​หันหน้า​มาตบ​แขน​เสี่ยว​โม่ ยิ้ม​เอ่ย​ “เสี่ยว​โม่ เจ้าประมุข​ผู้เฒ่า​จู๋ดื่มเหล้า​เก่ง​มาก​ อีก​เดี๋ยว​เจ้าจำไว้​ว่า​ต้อง​คอย​ขวาง​ไว้​ให้​ข้า​ด้วย​”

เสี่ยว​โม่ที่​เดิมที​คิด​ว่า​จะยืน​อยู่​อย่างนั้น​ถึงได้​นั่งลง​

จู๋เฟิ่งเซียน​หยิบ​เหล้า​ออกมา​สอง​กา​ ระหว่าง​นั้น​ก็​เหลือบ​มอ​งอ​วี่​ชางหมาง​หนึ่ง​ที​ ฝ่าย​หลัง​ส่ายหน้า​อย่าง​ไม่เผย​ร่องรอย​

จู๋เฟิ่งเซียน​ริน​เหล้า​สี่ถ้วย​ เสี่ยว​โม่โน้ม​กาย​ไป​ด้านหน้า​ ใช้สอง​มือ​ประคอง​รับ​ถ้วย​เหล้า​ เอ่ย​ขอบคุณ​หนึ่ง​คำ​

แรกเริ่ม​ยัง​พูดคุย​กัน​อย่าง​คลุมเครือ​ ส่วนใหญ่​เป็น​เฉิน​ผิง​อัน​ที่​ถามถึงสถานการณ์​ช่วง​หลาย​ปี​ที่ผ่านมา​ของ​จู๋เฟิ่งเซียน​ รวมไปถึง​เรื่อง​การ​ฝึก​ตน​ของ​หลานสาว​เจ้าประมุข​ผู้เฒ่า​ที่อยู่​ใน​อาราม​จิน​กุ้ย​

รอ​กระทั่ง​เหล้า​สอง​สามจอก​ไหล​ลงท้อง​ก็​เริ่ม​คุย​กัน​อย่าง​ผ่อนคลาย​มากขึ้น​ จู๋เฟิ่งเซียน​ยก​จอก​เหล้า​ขึ้น​ “ข้า​กับ​ตา​เฒ่าอวี่​ถือว่า​อายุ​มาก​แล้ว​ แต่​เจ้ากับ​พี่น้อง​เสี่ยว​โม่ต่าง​ก็​ยัง​หนุ่มแน่น​ ไม่ว่า​จะอย่างไร​ เห็นแก่​ที่​พวกเรา​ทั้งสองฝ่าย​ต่าง​ก็​ยัง​มีชีวิต​อยู่​ก็​ควร​ต้อง​ดื่ม​ให้​หมด​จอก​สักหน่อย​”

ต่าง​คน​ต่าง​ดื่ม​สุรา​ใน​จอก​ แล้ว​จู๋เฟิ่งเซียน​ก็​ริน​เหล้า​เต็ม​จอก​อีกครั้ง​

เฉิน​ผิง​อัน​จิบ​เหล้า​หนึ่ง​อึก​ ถามว่า​ “เจ้าประมุข​ผู้เฒ่า​เข่นฆ่า​บน​สนามรบ​จน​ฝ่าทะลุ​ขอบเขต​แล้ว​หรือ​?”

จู๋เฟิ่งเซียน​คลี่​ยิ้ม​อย่าง​สง่างาม “ก็​แค่​โชคดี​เท่านั้น​ ไม่มีค่า​พอให้​พูดถึง​”

จากนั้น​ผู้เฒ่า​ก็​ชี้ไป​ที่​อวี่​ชางหมาง​ “ตา​เฒ่าอวี่​ผู้​นี้​ต่างหาก​ที่​มีค่า​พอให้​พูดถึง​ ใช้สอง​หมัด​ต่อย​ให้​ผู้ฝึก​ตน​เซียน​ดิน​เผ่า​ปีศาจ​คน​หนึ่ง​ตาย​ไป​ ถือว่า​เป็น​ลูกผู้ชาย​ตัวจริง​แล้ว​”

อวี่​ชางหมาง​ส่ายหน้า​ “เหยียบ​โชคดี​ขี้หมา​บน​สนามรบ​ ก็​แค่​บังเอิญ​เก็บตก​ได้​เท่านั้น​ เป็นที่​ขบขัน​ของ​ทุกคน​แล้ว​ หาก​เป็นการ​จับคู่​เข่นฆ่า​กัน​ก็​คง​ต้อง​แลก​คุณ​ความชอบ​ทางการ​สู้รบ​กัน​แล้ว​”

เซียน​ซือ​หนุ่ม​คน​หนึ่ง​ที่​มีเงิน​ซื้อ​เหล้า​เซียน​ตำหนัก​ฉางชุน​ได้​ลง​ ไม่ใช่ซื้อ​ได้​ไหว​

ประวัติ​ความเป็นมา​คร่าวๆ​ เป็น​อย่างไร​ อวี่​ชางหมาง​พอ​จะรู้อยู่​ใน​ใจ

บน​ภูเขา​ ขอบเขต​ของ​เซียน​ซือ​ทำเนียบ​ตระกูล​คน​หนึ่ง​สูงหรือ​ต่ำ​ หรือ​ตบะ​มีเท่าไร​ ไม่ได้​เป็นตัวแทน​ของ​ทุกอย่าง​

เห็น​เพียง​ว่า​คนหนุ่ม​ที่​รู้จัก​กับ​จู๋เฟิ่งเซียน​ตั้งแต่​เมื่อ​หลาย​ปี​ก่อนหน้านี้​เป็น​ฝ่าย​ดื่ม​สุรา​คารวะ​ตน​ “เก็บตก​มาจาก​กอง​คนตาย​ ทำไม​จะไม่ใช่ความสามารถ​ที่​แท้จริง​ล่ะ​ ผู้อาวุโส​อวี่​ เห็นแก่​ประโยค​นี้​ ท่าน​ผู้อาวุโส​ต้อง​ดื่ม​ให้​หมด​จอก​ ต่าง​คน​ต่าง​ลงโทษ​ตัวเอง​หนึ่ง​จอก​”

จู๋เฟิ่งเซียน​ด่า​ขำ​ๆ “เร็ว​เข้า​ เหล้า​ทั้งสอง​จอก​ต้อง​ดื่ม​กัน​ให้​หมด​ จำไว้​ว่า​อย่า​ทำเป็น​มือ​สั่น​ อิดๆ ออดๆ​ เหมือน​สตรี​ล่ะ​”

เหล้า​ของ​ตำหนัก​ฉางชุน​ ว่า​กัน​ว่า​เป็น​เหล้า​เซียน​ที่​สามารถ​รักษา​บาดแผล​ได้ดี​ที่สุด​ เมื่อ​เทียบ​กับ​เหล้า​ตระกูล​เซียน​ทั่วไป​แล้ว​เป็นประโยชน์​ต่อ​ร่างกาย​มากกว่า​ อยู่​บน​ภูเขา​ก็​ถือเป็น​ของดี​ที่​มีแต่​ราคา​ทว่า​หา​ซื้อ​ได้​ยาก​ อวี่​ชางหมาง​มีต้นตอ​ของ​โรค​ทิ้ง​ไว้​ตั้งแต่​ตอน​อยู่​บน​สนามรบ​ ยัง​ไม่เคย​รักษา​ให้​หาย​ดี​มาโดยตลอด​ ไม่อย่างนั้น​ก็​คง​ไม่ถึงขั้น​ไป​สวามิภักดิ์​กับ​อวี๋หง​ วันนี้​หาก​ดื่มได้​หนึ่ง​จอก​ก็​ต้อง​ดื่ม​ให้​มาก​เข้า​ไว้​

ส่วน​เรื่อง​ที่ว่า​เหตุใด​พวกเขา​สอง​คน​ถึงไม่ไป​ราชสำนัก​ต้า​หลี​เพื่อ​ช่วง​ชิงตำแหน่ง​ผู้​ถวายงาน​ปลายแถว​มาเป็น​ ทุก​บ้าน​ล้วน​มีคัมภีร์​ที่​อ่าน​ยาก​

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!