กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 888

ฮ่องเต้​ซ่งเห​อ​พูด​เข้า​ประเด็น​ทันทีที่​พบ​หน้า​ แต่​ดูเหมือนว่า​เฉิน​ผิง​อัน​จะไม่มีท่าที​อยาก​พูดคุย​ด้วย​ รอ​อยู่​ครู่หนึ่ง​ เห็นได้ชัด​ว่า​ซ่งเห​อ​ไม่มีความคิด​ว่า​จะกลับ​ไป​ทั้ง​อย่างนี้​ เหลือบตา​มอง​ตะเกียบ​และ​ชามบน​โต๊ะ​สุรา​จึงขยับ​เก้าอี้​ที่อยู่​ข้าง​มือ​มาตัว​หนึ่ง​ สับเปลี่ยน​ตำแหน่ง​เล็กน้อย​ เอนตัว​ไปหา​เฉิน​ผิง​อัน​ ถามว่า​ “อาจารย์​เฉิน​ พวกเรา​นั่งลง​คุย​กัน​ดี​ไหม​?”

เฉิน​ผิง​อัน​พยักหน้า​ ขยับ​เก้าอี้​ตาม​ไป​ด้วย​ จากนั้น​ขยับ​ชุดก​ว้า​ให้​เข้าที่​ พอ​นั่งลง​แล้วก็​ยก​ขา​ไขว่ห้าง​

เผย​ให้​เห็น​รองเท้า​ผ้าพื้น​หนา​สีดำ​ขาว​ตัดกัน​คู่​หนึ่ง​

ซ่งเห​อ​เอ่ย​ “อาจารย์​เฉิน​ลอง​พิจารณา​ดูก่อน​ ข้า​สามารถ​รอ​ได้​”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​ถาม “เป็น​ความคิด​ของ​ไทเฮา​หรือ​?”

ซ่งเห​อ​ส่ายหน้า​ “เป็น​ความคิด​ของ​ข้า​เอง​”

ซ่งเห​อ​ไม่รู้สึก​ว่า​ตัวเอง​เปิดปาก​ขอร้อง​แล้ว​อีก​ฝ่าย​จะต้อง​ตอบ​ตกลง​ยอม​เป็น​ราชครู​ต้า​หลี​ทันที​

คน​สามกลุ่ม​ โต๊ะ​กินเลี้ยง​สามตัว​ต่าง​ก็​ไม่ได้​อยู่​ใกล้​กัน​

ฮ่องเต้​กับ​เฉิน​ผิง​อัน​นั่ง​ด้วยกัน​ลำพัง​โต๊ะ​หนึ่ง​ แน่นอน​ว่า​ต้อง​คุย​ธุระ​เรื่องสำคัญ​ เวลานี้​ทั้งสองฝ่าย​ต่าง​ก็​นั่งลง​แล้ว​

คน​หนึ่ง​คือ​จักรพรรดิ​แห่ง​ล่าง​ภูเขา​ อีก​คน​หนึ่ง​คือ​เจ้าสำนัก​ของ​บน​ภูเขา​ เป็น​คน​วัย​เดียวกัน​

คน​ทั้งสอง​ไม่ได้​นั่ง​ตรงข้าม​กัน​ แล้วก็​ไม่ได้​เห็น​หน้า​เข้าหา​เศษซาก​อาหาร​บน​โต๊ะ​ด้วย​

ฮองเฮา​อวี๋เหมี่ยน​ยืน​อยู่​ข้าง​โต๊ะ​จัด​เลี้ยง​อีก​ตัว​หนึ่ง​

ออกมา​จาก​วัง​คราวนี้​ ฮ่องเต้​ซ่งเห​อ​ย่อม​สวม​ชุด​สามัญชน​ปลอม​กาย​ออกมา​ นอกจาก​ฮองเฮา​อวี๋เหมี่ยน​แล้ว​ ข้าง​กาย​ยังมี​ผู้ติดตาม​อีก​สามคน​ หนึ่ง​คือ​ขันที​เฒ่าฝ่าย​ซือห​ลี่​เจียน​ที่​แต่งกาย​เป็น​เศรษฐี​เฒ่า กับ​อีก​คน​หนึ่ง​เป็น​ผู้​ถวายงาน​สกุล​ซ่งที่อยู่​ใน​ราชสำนัก​ต้า​หลี​แต่​ไม่ค่อย​ชอบ​เปิดเผย​หน้าตา​เท่าใด​นัก​ เป็น​คน​เฝ้าสุสาน​ของ​สุสาน​หลวง​สกุล​ซ่ง ผู้ติดตาม​คน​สุดท้าย​ เวลานี้​อยู่​บน​ถนน​นอกบ้าน​ตระกูล​เปีย​น​ รับผิดชอบ​เฝ้ารถม้า​คัน​นั้น​

อวี๋เหมี่ยน​มีสถานะ​สูงศักดิ์​เป็น​ถึงฮองเฮา​ บวก​กับ​ที่​เกือบ​ร้อย​ปี​ที่ผ่านมา​นี้​สกุล​ซ่งต้า​หลี​มีราชครู​ชุย​ฉาน​อยู่​ จึงไม่เคย​ต้อง​กังวล​เรื่อง​ที่​วังหลัง​ พระญาติ​ฝ่าย​ภรรยา​หรือ​ขันที​เข้ามา​ยุ่ง​เกี่ยวกับ​เรื่อง​การปกครอง​ ดังนั้น​อวี๋เหมี่ยน​จึงถือว่า​เคย​ได้​เห็น​ผู้​บรรลุ​มรรคา​บน​ภูเขา​มาไม่น้อย​แล้ว​ หล่อเหลา​สง่างามเหมือน​เว่ย​ป้อ​ซาน​จวิน​แห่ง​ขุนเขา​เหนือ​ เซียน​ซือ​ที่​รูปโฉม​อ่อนเยาว์​เหมือน​เด็ก​ของ​ศาล​ลม​หิมะ​ เจ้าประมุข​ผู้เฒ่า​สกุล​เจีย​งอ​วิ๋น​หลิน​ที่​หนวดเครา​ยาว​สวย​ มอง​แล้ว​เหมือน​เทพ​เซียน​

นอกจากนี้​ยังมี​ข้อยกเว้น​ที่​นับ​นิ้ว​ได้​อีก​ไม่กี่​ข้อ​ที่​ทำให้​อวี๋เหมี่ยน​จด​จำได้​อย่าง​ลึกซึ้ง​ ยก​อย่างเช่น​ห​ร่วน​ฉงอริยะ​แห่ง​สำนัก​กระบี่​หลง​เซี่ยง​ ผู้​ถวายงาน​อันดับ​หนึ่ง​ของ​ราชวงศ์​ต้า​หลี​ผู้​นี้​ พูด​ไม่ได้​ว่า​เขา​ไม่สนใจ​การแต่งเนื้อแต่งตัว​เสีย​เลย​ แต่​ก็​เป็น​พวก​ที่​เงียบขรึม​พูดน้อย​ ทุกครั้งที่​เข้า​วัง​มาเข้าเฝ้า​ ช่างห​ร่วน​แทบจะ​ไม่ได้​พูด​อะไร​ ล้วน​เป็น​ฮ่องเต้​ที่​ถามคำถาม​ และ​ทุกครั้ง​คำตอบ​ของ​ช่างห​ร่วน​ก็​ ‘กระชับ​เรียบง่าย​’ อย่าง​มาก​ ราวกับ​…รีบ​กลับ​ไป​ตี​เหล็ก​หลอม​กระบี่​ที่​ภูเขา​อย่างไร​อย่างนั้น​ และ​ยังมี​ถงเห​วิน​ช่างซาน​จวิน​แห่ง​ขุนเขา​ตะวันตก​ที่​ลักษณะ​เหมือน​ชาวนา​ใน​ชนบท​ สวม​ชุด​ผ้าป่าน​เนื้อ​หยาบ​ แล้ว​ยัง​ชอบ​เปลือย​เท้า​ตลอด​ทั้งปี​ ไม่ต้อง​พูดถึง​ตอน​ยืน​อยู่​กับ​เว่ย​ป้อ​ ต่อให้​แค่​ยืน​เคียง​บ่า​อยู่​กับ​จิ้น​ชิงซาน​จวิน​แห่ง​ขุนเขา​กลาง​ บอก​ตามตรง​ว่า​ต่อให้​นา​งอวี๋เหมี่ยน​ไม่มอง​คน​ที่​หน้าตา​มาก​แค่​ไหน​ก็​ยัง​อด​รู้สึก​จาก​ใจจริง​ไม่ได้​ว่า​ถงซาน​จวิน​ผู้​นั้น​ดู​ยากจน​ข้นแค้น​อยู่​มาก​จริงๆ​

ตอนที่​ถงซาน​จวิน​นั่ง​อยู่​ตรงนั้น​ อวี๋เหมี่ยน​ยัง​อด​กังวล​ไม่ได้​ว่า​อีก​ฝ่าย​จะยก​เท้า​ขึ้น​มาแคะ​เมื่อไหร่​

ส่วน​เซียน​กระบี่​หนุ่ม​ของ​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ที่อยู่​ตรงหน้า​ผู้​นี้​ แน่นอน​ว่า​ก็​ทำให้​อวี๋เหมี่ยน​จด​จำได้​อย่าง​ชัดเจน​เหมือนกัน​

อวี๋เหมี่ยน​เป็น​สตรี​ที่​มีจิตใจ​ละเอียดอ่อน​อย่าง​มาก​ เมื่อ​ครู่​นาง​มอง​แวบเดียว​ก็​เห็น​รองเท้า​ผ้า​ที่​ฝีเย็บ​ประ​ณีติ​คู่​นั้น​ทันที​

โต๊ะ​สุดท้าย​แน่นอน​ว่า​ต้อง​เป็น​ของ​บ้าน​ดอง​สอง​บ้าน​ที่​ชาย​หญิง​ของ​สอง​ฝ่าย​เพิ่งจะ​แต่งงาน​กัน​ไป​นั่นเอง​ ทั้งสองฝ่าย​ต่าง​ก็​เป็น​ตระกูล​ขุนนาง​ของ​เมืองหลวง​ต้า​หลี​ ตำแหน่ง​ไม่ใหญ่​ แต่​ก็​เป็น​ขุนนาง​น้ำ​ใสที่​มาจาก​เส้นทาง​ที่​ถูกต้อง​อย่าง​การ​สอบ​ ทว่า​ทุกวันนี้​คน​ที่​มีคุณสมบัติ​จะเข้าร่วม​ประชุม​เช้าใน​ท้องพระโรง​กลับ​มีแค่​เปีย​น​เห​วิน​เม่าคนเดียว​เท่านั้น​

ทุกคน​กลั้นหายใจ​ทำสมาธิ​ ไม่มีใคร​กล้า​กระซิบกระซาบ​กัน​

เจ้าบ่าว​เจ้าสาว​ตื่นเต้น​จน​หน้า​แดงก่ำ​ รู้สึก​ราวกับ​ฝัน​ไป​อย่างไร​อย่างนั้น​

ใน​ฐานะ​คนนอก​เพียง​คนเดียว​ หลิน​โส่ว​อี​นั่ง​อยู่​ข้าง​กาย​เพื่อนร่วมห้อง​อย่าง​สือ​เจีย​ชุน​

ก่อนหน้านี้​ฮองเฮา​อวี๋เหมี่ยน​หันมา​ยิ้ม​ให้​พวกเขา​ ยื่นมือ​มากด​ลง​บน​ความว่างเปล่า​สอง​ที​ บอกเป็นนัย​แก่​ทุกคน​ว่า​ให้​นั่งลง​ได้​

รอ​กระทั่ง​ทุกคน​นั่งลง​หมด​แล้ว​ เปีย​น​เห​วิน​เม่ากลับ​สังเกตเห็น​ว่า​ฮองเฮา​กลับ​ยัง​ยืน​อยู่​ เขา​จึงอยาก​จะลุกขึ้น​ยืน​เหมือนกัน​ เพียงแต่ว่า​เพิ่งจะ​ขยับ​ก้น​ยกขึ้น​ก็​รู้สึก​ว่า​ไม่ค่อย​เหมาะ​เท่าไร​ จึงได้​แต่​นั่ง​กลับ​ลง​ไป​เงียบๆ​ แต่​โดยดี​

ซ่งเห​อ​เปิดปาก​เอ่ย​ว่า​ “ข้า​มีข้อสงสัย​มาโดยตลอด​ อยาก​จะขอ​ถามอาจารย์​เฉิน​สักหน่อย​”

เฉิน​ผิง​อัน​เอ่ย​ “ถามมาได้​เลย​”

ซ่งเห​อ​ถาม “ดูเหมือนว่า​หลังจาก​อาจารย์​เฉิน​ประสบ​พบ​เจอ​เรื่อง​ต่างๆ​ ของ​ใน​ปี​นั้น​ ความรู้สึก​ที่​มีต่อ​ราชสำนัก​ต้า​หลี​กลับ​ไม่แย่​?”

ยกตัวอย่างเช่น​จาก​รายงาน​ของ​สายลับ​ต้า​หลี​ ครั้ง​ที่สอง​ที่​เฉิน​ผิง​อัน​เดินทางไกล​ ระหว่างทาง​ต้อง​ผ่าน​แคว้น​ซูสุ่ย​ที่อยู่​ภาค​กลาง​ของ​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ ได้​กลายเป็น​สหาย​ต่างวัย​กับ​ซ่งอวี่​เซาผู้ฝึก​ยุทธ​ใน​ยุทธ​ภพ​ ทั้งสองฝ่าย​เผชิญหน้า​กับ​กองทัพ​ใหญ่​ที่​มีทหารม้า​หมื่น​คน​ยกทัพ​มาประชิด​ชายแดน​ ใน​ขบวน​รบ​ยิ่งใหญ่​ เด็กหนุ่ม​ที่​ถือ​กระบี่​ไม้ไหว​อยู่​ใน​มือ​เคย​แนะนำ​ตัวเอง​อย่าง​เปิดเผย​ว่า​ ‘เฉิน​ผิง​อัน​แห่ง​ต้า​หลี​อยู่​ที่นี่​แล้ว​!’

เฉิน​ผิง​อัน​บิด​หมุน​ข้อมือ​ก็​มีน้ำเต้า​เลี้ยง​กระบี่​สีชาด​ใบ​หนึ่ง​โผล่​มา เขา​ดื่มเหล้า​หนึ่ง​อึก​ จากนั้น​วาง​น้ำเต้า​เลี้ยง​กระบี่​ไว้​บน​หัวเข่า​เบา​ๆ “ครั้งแรก​ที่​ข้า​ออก​เดินทางไกล​ก็​คือ​การ​เดินทาง​ไป​เยือน​สำนักศึกษา​ซาน​ห​ยา​ที่อยู่​ใน​อาณาเขต​ต้า​สุย​กับ​พวก​หลิน​โส่ว​อี​ ออกจาก​ชายแดน​ที่​ด่าน​เห​ย่​ฟู ตอนที่​เข้าไป​ใน​แคว้น​หวง​ถิงซึ่งตอนนั้น​ยัง​เป็น​แคว้น​ใต้​อาณัติ​ของ​สกุล​เกา​ต้า​สุย​ ระหว่าง​เส้นทาง​กลับ​บ้านเกิด​ก็​ยังคง​ผ่าน​แคว้น​หวง​ถิงเหมือนเดิม​ แต่​เดิน​ไป​บน​ทาง​สะพาน​เลียบ​หน้าผา​ ข้าม​ชายแดน​มาจาก​ด่าน​รั้ว​ล้อม​วัว​ ตอนนั้น​ลม​หิมะ​พัด​แรง​มาก​ ระหว่าง​ทางได้​เจอ​กับ​ทหาร​ลาดตระเวน​ของ​กองทัพ​ชายแดน​กอง​หนึ่ง​ มีทหารม้า​คน​หนึ่ง​ควบม้า​ออกมา​ เป็น​ทหารม้า​ที่​ยัง​หนุ่ม​มาก​ ตอนนั้น​อย่าง​มาก​สุด​ก็​น่าจะ​อายุ​แค่​ยี่สิบ​ต้น​ๆ กระมัง​ ปี​นั้น​ข้า​ยัง​ไม่เข้าใจ​ว่า​เหตุใด​ตอนที่​ทหารม้า​คน​นั้น​ควบม้า​มาถึง ถึงได้​มีสีหน้า​แววตา​เด็ดเดี่ยว​เหี้ยมหาญ​ถึงเพียงนั้น​ ภายหลัง​ข้า​ถึงเข้าใจ​ แรกเริ่ม​ทหารม้า​กอง​นี้​เข้าใจผิด​คิด​ว่า​ข้า​เป็น​สายลับ​ของ​แคว้น​ศัตรู​ อีก​ทั้ง​ยัง​อาจจะ​เป็น​ผู้ฝึก​ลมปราณ​คน​หนึ่ง​ด้วย​ ดังนั้น​วิธี​ที่​ถูกต้อง​ที่สุด​ในเวลานั้น​ก็​คือ​รีบ​แจ้งให้​ผู้ฝึก​ตน​ติดตาม​กองทัพ​ม้าเหล็ก​ต้า​หลี​ที่อยู่​ใน​บริเวณ​ใกล้เคียง​ได้​รับรู้​ อีก​ทั้ง​การ​พบ​เจอกัน​บน​ทางแคบ​ท่ามกลาง​ลม​หิมะ​ครั้งนี้​ มีความเป็นไปได้​อย่างยิ่ง​ว่า​ทั้งสองฝ่าย​อาจ​ต้อง​ตัดสิน​เป็น​ตาย​กัน​ใน​เสี้ยว​วินาที​ รอ​กระทั่ง​ข้า​บอก​สถานะ​ออก​ไป​ แล้ว​มอบ​เอกสาร​ผ่าน​ด่าน​ที่​ที่ว่าการอำเภอ​หลง​เฉวียน​มอบให้​ พิสูจน์​ได้​ว่า​สถานะ​ไม่ผิดพลาด​แล้ว​ ทหาร​ที่นั่ง​อยู่​บน​หลัง​ม้าคน​นั้น​ก็​ไม่ได้​โยน​เอกสาร​ผ่าน​ด่าน​กลับมา​ให้​ข้า​ แต่​พลิกตัว​ลง​จาก​หลัง​ม้า หลังจาก​ยื่น​เอกสาร​ผ่าน​ด่าน​ให้​แล้ว​ยัง​ยิ้ม​เอ่ย​กับ​ข้า​ประโยค​หนึ่ง​ ความหมาย​คร่าวๆ​ ก็​คือ​สภาพอากาศ​ย่ำแย่​ ลม​หิมะ​ขวางทาง​ หาก​กังวล​ว่า​จะเจอ​ปัญหา​ก็​สามารถ​ไป​พัก​ค้างแรม​ที่​ปล่องไฟ​ส่งสัญญาณของ​พวกเขา​ก่อน​ได้​ พวกเขา​มีอาหาร​ให้​กิน​ รอ​ให้​ลม​หิมะ​เบา​ลง​แล้ว​ค่อย​ออกเดินทาง​อีกครั้ง​”

นัก​เดินทางไกล​คน​หนึ่ง​ที่​เดิน​ทางข้าม​ผ่าน​หมื่น​ภูเขา​พัน​สายน้ำ​มานาน​แล้ว​เล่า​เหตุการณ์ในอดีต​ที่​เกิดขึ้น​เมื่อ​ยี่สิบ​ปีก่อน​ให้​ฟังยาวเหยียด​

ฮ่องเต้​ซ่งเห​อ​มีความอดทน​อย่าง​มาก​ ฟังเข้าหู​ไม่มีตกหล่น​แม้แต่​คำ​เดียว​ เพียงแต่ว่า​หลังจาก​ฟังจบ​แล้วก็​ยัง​อด​เกิด​ความกังขา​อยู่​หลาย​ส่วน​ไม่ได้​

แค่​เรื่องเล็ก​ๆ แค่นี้​เอง​หรือ​?

เฉิน​ผิง​อัน​ถาม “ฝ่าบาท​รู้สึก​ว่า​นี่​เป็นเรื่อง​เล็กน้อย​เกินไป​ เลย​รู้สึก​ไม่ค่อย​กล้า​เชื่อ​ใช่หรือไม่​?”

ซ่งเห​อ​พยักหน้า​ “เป็น​เช่นนี้​จริง​ ข้า​รู้สึก​ไม่ค่อย​กล้า​เชื่อ​สัก​เท่าไร​”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​กล่าว​ “เป็น​เรื่องเล็ก​จริงๆ​ หรือ​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ส่ายหน้า​ ถามเอง​ตอบ​เอง​ “ข้า​ว่า​ไม่แน่​เสมอไป​หรอก​ ใน​ฐานะ​กองทัพ​ม้าเหล็ก​ต้า​หลี​ เผชิญหน้า​กับ​เซียน​ซือบน​ภูเขา​ยัง​เหี้ยมหาญ​ไม่กลัว​ตาย​ ทหาร​ลาดตระเวน​ชายแดน​ เผชิญหน้า​กับ​ชาวบ้าน​ต้า​หลี​ก็​มีความใส่ใจ​อย่าง​มาก​”

นี่​ทำให้​เด็กหนุ่ม​จาก​อำเภอ​ไหว​หวง​เขต​หลง​เฉวียน​ที่​ตอนนั้น​เพิ่งจะ​เรียน​วิชา​หมัด​ฝึก​วร​ยุทธ​ ลูกศิษย์​เตาเผา​มังกร​ตรอก​หนี​ผิง​ที่​ตอน​ไป​เยือน​ถนน​ฝูลวี่​และ​ตรอก​เถาเย่​ยัง​กังวล​ว่า​รองเท้าแตะ​ของ​ตน​จะเหยียบ​ให้​พื้น​หิน​เขียว​เปรอะเปื้อน​ มีความทรงจำ​ที่​แจ่มชัด​ต่อ​ ‘ราชวงศ์​ต้า​หลี​’ ที่​พร่า​เลือน​เป็นครั้งแรก​

เฉิน​ผิง​อัน​ยก​น้ำเต้า​เลี้ยง​กระบี่​เคาะ​ลง​บน​หัวเข่า​เบา​ๆ “ใน​ความเห็น​ของ​ข้า​ สิ่งที่​ช่วย​ค้ำ​ประคอง​ผืน​ฟ้าที่​กำลังจะ​ถล่ม​ลงมา​ของ​ไพศาล​มีอยู่​สามอย่าง​ แสงกระบี่​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ จิตใจ​ของ​จอม​ยุทธ​ผู้​ผดุง​ความเป็นธรรม​ของ​อุตรกุรุทวีป​ กีบ​เท้า​ม้าของ​กองทัพ​ม้าเหล็ก​ต้า​หลี​”

คำพูด​ประเภท​นี้​ ต่อให้​เป็น​เรื่องจริง​ แต่​หาก​เปลี่ยน​มาเป็น​คนนอก​ที่​พูด​ก็​ยัง​เห็นได้ชัด​ว่า​…ไม่ถูก​กาลเทศะ​ อีก​ทั้ง​ยัง​อาจ​ตก​เป็นที่​ต้องสงสัย​ว่า​พูดจา​วางโต​ไม่รู้จัก​ละอาย​

แต่​เมื่อ​หลุด​ออก​มาจาก​ปาก​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​กลับ​มีน้ำหนัก​อย่างยิ่ง​ ทั้ง​ยัง​เหมาะสม​อย่าง​ถึงที่สุด​

เมื่อก่อน​บางที​ไม่ว่า​ใคร​ก็​อาจ​รู้สึก​ว่า​ฉีจิ้งชุน​เลือก​เด็กหนุ่ม​จาก​ตรอก​หนี​ผิง​ที่​ไม่สะดุดตา​ รับ​ลูกศิษย์​แทน​อาจารย์​ เป็น​การกระทำ​ที่​เหมือน​เด็ก​เล่น​เกินไป​หรือไม่​ ย่อ​มอด​ถามไม่ได้​ว่า​เพราะอะไร​

แต่​ทุกวันนี้​ไม่ว่า​ใคร​ก็​รู้สึก​ว่า​ฉีจิ้งชุน​ที่อยู่​ใน​ถ้ำสวรรค์​หลี​จูได้​ช่วย​รับ​ลูกศิษย์​ปิด​สำนัก​ที่จะ​มาสืบทอด​ควัน​ธูป​ให้​สาย​เห​วิน​เซิ่งอย่าง​เฉิน​ผิง​อัน​ สายตา​ช่างดี​เหลือเกิน​

ฮองเฮา​อวี๋เหมี่ยน​เข้า​อก​เข้าใจ​ผู้อื่น​เป็น​อย่าง​ดี​ จึงนำ​เหล้า​หนึ่ง​กา​และ​จอก​เหล้า​หนึ่ง​จอก​มามอบให้​ฮ่องเต้​ซ่งเห​อ​ด้วยตัวเอง​

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​พลาง​ผงกศีรษะ​ให้​นาง​

ฮองเฮา​จึงเบี่ยง​กาย​ยอบ​ตัว​คารวะ​

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!