กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 890

สรุปบท บทที่ 890.2 อะไรคือห่มดาวสวมจันทร์: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!

สรุปตอน บทที่ 890.2 อะไรคือห่มดาวสวมจันทร์ – จากเรื่อง กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! โดย Internet

ตอน บทที่ 890.2 อะไรคือห่มดาวสวมจันทร์ ของนิยายกำลังภายในเรื่องดัง กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

เฉิน​ผิง​อัน​ฉวยโอกาส​ตอนที่​เว่ย​ป้อ​เหม่อลอย​ ใช้เสียง​ใน​ใจถามว่า​ “เสี่ยว​โม่ ระดับ​ขั้น​คือ​อะไร​?”

เสี่ยว​โม่ตอบ​ตามตรง​อย่าง​สัตย์​จริง​ “อาวุธ​กึ่ง​เซียน​”

เว่ย​ป้อ​กำลังจะ​แข็งใจ​ยื่นมือ​ไป​รับ​ของขวัญ​

เฉิน​ผิง​อัน​รีบ​ใช้มือหนึ่ง​คว้า​มือ​ของ​เว่ย​ซาน​จวิน​เอาไว้​ อีก​มือหนึ่ง​กด​ข้อมือ​ของ​เสี่ยว​โม่ พูด​บ่นว่า​ “ล้วน​เป็น​คน​ครอบครัว​เดียวกัน​ จะเกรงใจ​กัน​ไป​ไย​ เสี่ยว​โม่อ่า​ เจ้าเห็น​เว่ย​ซาน​จวิน​ของ​พวกเรา​เป็น​ใคร​ เก็บ​ไป​เลย​ เก็บ​ไป​เลย​”

เว่ย​ป้อ​หัวเราะ​ร่า​เอ่ย​ว่า​ “เสี่ยว​โม่อ่า​ เฉิน​ผิง​อัน​พูด​มีเหตุผล​ ล้วน​เป็น​คน​ครอบครัว​เดียวกัน​ เจ้าจะเกรงใจ​ไป​ไย​ ของขวัญ​นี้​ข้า​จะรับ​ไว้​แล้ว​ แล้วก็​ขอให้​ข้า​ได้​เอ่ย​ประโยค​เกรงใจ​เป็น​ครั้งสุดท้าย​ ข้า​ต้อง​ขอบคุณ​เจ้าด้วย​ งานเลี้ยง​ท่อง​ราตรี​คราวหน้า​จะขาด​พี่​เสี่ยว​โม่ไป​ได้​อย่างไร​ ต่อให้​เป็น​งานเลี้ยง​ท่อง​ราตรี​ที่​จัด​ขึ้น​เพื่อ​เสี่ยว​โม่โดยเฉพาะ​ก็​ยัง​จัด​ให้ได้​”

หาก​เจ้าขุนเขา​เฉิน​ไม่ทำ​เช่นนี้​ เว่ย​ซาน​จวิน​ก็​ยัง​ไม่แน่ใจ​ แต่​ยิ่ง​เฉิน​ผิง​อันเป็น​เช่นนี้​ เว่ย​ป้อ​ก็​ยิ่ง​รู้​ว่า​หาก​ตน​ไม่รับ​ของขวัญ​เอาไว้​ต้อง​เสียใจ​จน​ไส้เขียว​แน่​

ต้องการ​ศักดิ์ศรี​หน้าตา​หรือไม่​?

หาก​ข้า​ผู้อาวุโส​ยัง​ต้องการ​ศักดิ์ศรี​หน้าตา​จะสามารถ​จัด​งานเลี้ยง​ท่อง​ราตรี​ได้​หลายครั้ง​ขนาด​นั้น​หรือ​? ชื่อเสียง​ฉาวโฉ่​ระบือ​ไป​ถึงอุตรกุรุทวีป​โน่น​แล้ว​!

หลิ่ว​จงหลง​ไร้​ศัตรู​ทัด​ทานบน​โต๊ะ​สุรา​ แพร่​กัน​ออก​ไป​ได้​อย่างไร​?

แล้ว​งานเลี้ยง​ท่อง​ราตรี​ของ​ภูเขา​พี​อวิ๋น​บ้าน​ตน​ แรกเริ่ม​สุด​เกิดขึ้น​ได้​อย่างไร​?

เฉิน​ผิง​อัน​มอง​ไป​ยัง​เว่ย​ซาน​จวิน​

สอง​ชิ้น​เยอะ​เกินไป​หน่อย​หรือไม่​ ชิ้น​เดียว​พอ​ไหม​

เว่ย​ป้อ​มอง​เจ้าขุนเขา​เฉิน​

ไสหัวไป​

สายตา​ของ​เจ้าขุนเขา​เฉิน​ยังคง​หนักแน่น​

ต้น​ไผ่​ที่​ก่อนหน้านี้​กว่า​ข้า​จะใช้เงินทอง​ของจริง​ซื้อ​มาจาก​ฮูหยิน​ภูเขา​ชิงเสิน​ได้​อย่าง​ไม่ง่าย​ล่ะ​? ข้า​มอบให้​ภูเขา​พี​อวิ๋น​เปล่าๆ​ นะ​?

เว่ย​ซาน​จวิน​ตอบกลับ​ด้วย​เสียงหัวเราะ​เย็นชา​

เรื่อง​ไหน​ก็​ส่วน​เรื่อง​นั้น​ ข้า​กับ​สหาย​สี่จู๋แค่​พบ​เจอ​ก็​เหมือน​รู้จัก​กัน​มานาน​ เจ้ามีหน้า​ขวาง​ ข้า​ก็​มีหน้า​รับ​ไว้​

เพื่อนบ้าน​สอง​คน​ เวลานี้​แม้เงียบงัน​ไม่ส่งเสียง​กลับ​เหนือกว่า​การ​พูดคุย​กัน​ออกเสียง​เสีย​อีก​

เฉิน​ผิง​อัน​รู้สึก​ว่า​ถึงอย่างไร​ฝีมือ​ของ​ตน​ก็​ด้อย​กว่า​คน​เขา​ จึงได้​แต่​หุบ​มือ​กลับมา​ สอด​สอง​มือ​ไว้​ใน​ชาย​แขน​เสื้อ​ ยิ้ม​เอ่ย​ “เสี่ยว​โม่อ่า​ พวกเรา​สามารถ​รอ​เทียบเชิญ​ของ​งานเลี้ยง​ท่อง​ราตรี​ครั้ง​ต่อไป​ได้​แล้ว​ ถึงอย่างไร​โอกาส​ก็​หา​ได้​ยาก​ เป็นเรื่อง​ดี​ที่​ไม่ได้​พบ​เจอ​ได้​บ่อยๆ​”

เว่ย​ป้อ​เก็บ​ขวาน​หยก​เขียว​และ​เย​ว่​หยก​เหลือง​ใส่ไว้​ใน​ชาย​แขน​เสื้อ​ ยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “จะดื่มเหล้า​หรือ​ดื่ม​ชา ล้วน​ฟังพวก​เจ้า”

เฉิน​ผิง​อัน​หัวเราะ​หึหึ​ถามว่า​ “ดื่ม​โชคชะตา​ขุนเขา​สายน้ำ​ได้​หรือไม่​เล่า​?”

เว่ย​ป้อ​โบก​ชาย​แขน​เสื้อ​ “ตามใจ​”

เสี่ยว​โม่รู้สึก​ว่า​คุณชาย​บ้าน​ตน​กับ​เว่ย​ซาน​จวิน​มีความสัมพันธ์​ที่​ลึกล้ำ​ต่อกัน​จริงๆ​ ดูท่า​ของขวัญ​ที่​มอบให้​ไป​จะไม่เสียเปล่า​

ใน​ภูเขา​พี​อวิ๋น​มีอะไร​? บน​ยอดเขา​มีเมฆหลาก​สี มีต้นไม้​เขียวขจี​ มีศาลา​หอ​เรือน​

วันนี้​ใน​ภูเขา​มีเรื่อง​อะไร​? สหาย​รัก​ได้​กลับมา​พบ​เจอ​หน้า​ ร่ำสุรา​ดอก​สน​ ใช้น้ำ​ฤดูใบไม้ผลิ​ชงชา

สุรา​ดอก​สน​ที่​เว่ย​ซาน​จวิน​หมัก​เอง​กับ​มือ​รสชาติ​เลิศ​ล้ำ​ เพียงแต่ว่า​ชื่อเสียง​ไม่โด่งดัง​เท่า​เหล้า​หมัก​ตำหนัก​ฉางชุน​ก็​เท่านั้น​

จะว่า​ไป​แล้ว​ ใน​อาณาเขต​ของ​ขุนเขา​เหนือ​ ใคร​จะกล้า​ดื่ม​สุรา​ดอก​สน​ของ​ภูเขา​พี​อวิ๋น​ง่ายๆ​ บ้าง​เล่า​? ก็​มีแค่​เข้าร่วม​งานเลี้ยง​ท่อง​ราตรี​เท่านั้น​ถึงจะมีโอกาส​ได้​ดื่ม​สัก​กา​

เหล้า​หมัก​ตระกูล​เซียน​ที่​แพง​ที่สุด​ใน​ใต้​หล้า​แห่ง​นี้​ นอกจาก​ภูเขา​ชิงเสิน​แห่ง​ถ้ำสวรรค์​จู๋ไห่​แล้วก็​คือ​ภูเขา​พี​อวิ๋น​ของ​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​นั่นเอง​

น้ำพุ​คือ​น้ำพุ​หยก​มรกต​ที่​มีเฉพาะ​ใน​ภูเขา​พี​อวิ๋น​ซึ่งติดอันดับ​หนึ่ง​ใน​น้ำพุ​ที่​มีชื่อเสียง​ของ​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​

อันที่จริง​เรื่อง​ของ​การประเมิน​น้ำพุ​มาจาก​ฝีมือ​ของ​คน​เชื่อ​ดาบ​สำนัก​โม่อย่าง​ต่งสุ่ย​จิ่ง เนื่องจาก​น้ำพุ​สามแห่ง​ที่​ติดอันดับ​ล้วน​ถูก​เขา​เหมา​มาเป็น​ของ​ตัวเอง​หมด​แล้ว​

ใบชา​คือ​ชาใหม่​ก่อน​และ​หลัง​ช่วง​ฝน​ธัญพืช​ที่​หน่วน​ซู่น้อย​ส่งมาให้​ มาจาก​ต้น​ชาป่า​เก่าแก่​หลาย​ต้น​บน​ยอดเขา​ไฉ่อวิ๋น​ หน่วน​ซู่รับผิดชอบ​เด็ด​ใบชา​ จากนั้น​ค่อย​ให้​พ่อครัว​เฒ่าเป็น​คน​ผัด​ใบชา​เอง​กับ​มือ​

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​เอ่ย​ “ขอให้​ข้า​ได้​เปลี่ยน​จาก​แขก​เป็น​เจ้าบ้าน​สักครั้ง​ ข้า​จะเป็น​คน​ต้ม​ชาเอง​”

หลังจาก​นั่งลง​แล้วก็​สะบัด​ชาย​แขน​เสื้อ​ชุด​เขียว​ ร่าย​เวท​วารี​และ​อัคคี​สอง​บท​

เรื่อง​ของ​การต้ม​ชา ทำได้​อย่าง​คล่องแคล่ว​ดุจ​เมฆคล้อย​น้ำ​ไหล​ มอง​แล้ว​เพลินตา​สบายใจ​

เว่ย​ป้อ​สอด​สอง​มือ​ไว้​ใน​ชาย​แขน​เสื้อ​ ยิ้ม​จน​ตาหยี​

เด็กหนุ่ม​รองเท้าแตะ​ใน​อดีต​กลับ​มีมาด​สง่างามดุจ​เซียน​เช่นนี้​แล้ว​

กลับ​จาก​ภูเขา​พี​อวิ๋น​ไป​ยัง​ภูเขา​ลั่วพั่ว​

คืนนี้​หนิง​เหยา​พัก​อยู่​ใน​เรือน​ของ​หน่วน​ซู่น้อย​ หมี่​ลี่​น้อย​มักจะ​มาขอ​นอน​กับ​พี่​หญิง​หน่วน​ซู่เป็นประจำ​อยู่แล้ว​ คราวนี้​ก็​เลย​ตามมา​ด้วย​ ถึงอย่างไร​ที่นั่น​ก็​มีผ้าห่ม​มาก​พอ​

เฉิน​ผิง​อัน​นั่ง​อ่านหนังสือ​อยู่​ที่​ชั้นหนึ่ง​ของ​เรือน​ไม้ไผ่​ พอ​ถึงกลางดึก​ก็​ไป​ที่​บ้าน​บรรพบุรุษ​ตรอก​หนี​ผิง​ ไป​จุด​ตะเกียง​แล้ว​นั่ง​อยู่​ทั้งคืน​โดยที่​ไม่รู้สึก​เปลี่ยวเหงา​

……

เช้าตรู่​วัน​ที่สอง​กลับมา​ที่​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ เฉิน​ผิง​อัน​กับ​หนิง​เหยา​ก็​ไป​เยือน​หอ​บูชา​กระบี่​อีกครั้ง​

ผู้ฝึก​กระบี่​แห่ง​หลิว​เสีย​ทวีป​อย่า​งอ​วี๋​เย​ว่​กลับเป็น​เค่อ​ชิงของ​สกุล​เซี่ย​มี่อวิ๋น​แห่ง​ธวัล​ทวีป​

ผู้ฝึก​กระบี่​เฒ่าไม่ค่อย​กล้า​พบ​หน้า​เจ้าขุนเขา​เท่าใด​นัก​ จึงรีบ​เตรียมตัว​ออกเดินทาง​ทันที​ ไม่อย่างนั้น​ด้วย​เรื่อง​ลูกศิษย์​ที่​เขา​หลอก​ที​ก็​หลอก​เอา​มาได้​ถึงสอง​คน​ ผู้ฝึก​กระบี่​เฒ่าก็​ควรจะ​เผ่น​นาน​แล้ว​ หาก​ยัง​ไม่ยอม​หนี​อย่าง​รู้​กาลเทศะ​ ทำให้​ใคร​บางคน​ไม่ต้อง​เจอ​หน้า​ใจก็​ไม่ต้อง​หงุดหงิด​ อวี๋​เย​ว่​ก็​เริ่ม​กังวล​แล้ว​ว่า​จะถูก​เซียน​กระบี่​ใหญ่​หมี่​ถามกระบี่​เอา​

อวี๋​เย​ว่​เจอ​เฉิน​ผิง​อัน​ก็​รู้​ความหมาย​ของ​ใต้เท้า​อิ่น​กวาน​คร่าวๆ​ แล้ว​ จึงยิ่ง​สบายใจ​ขึ้น​ได้​หลาย​ส่วน​

เฉิน​ผิง​อัน​เอ่ย​สัพยอก​ “อย่า​รู้สึก​ว่า​ข้า​กำลัง​ไล่​คน​เชียว​นะ​”

“มีหรือ​จะกล้า​”

อวี๋​เย​ว่​ยิ้ม​กล่าว​ “ใต้เท้า​อิ่น​กวาน​ บอก​หมี่​อวี้​ว่า​อย่า​โกรธ​เลย​นะ​ หลาย​วันนี้​ที่​ข้า​อยู่​บน​ภูเขา​จงใจเรียก​เขา​ว่า​เซียน​กระบี่​หมี่​เอง​แหละ​ แม้จะบอ​กว่า​ข้า​ไม่มีประโยชน์​กะ​ผายลม​อะไร​ที่​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ แต่​จะดี​จะชั่ว​ก็​ยัง​รู้​ขนบธรรมเนียม​ของ​ที่นั่น​ วันหน้า​ได้​เจอ​กับ​สหาย​เฒ่าอย่าง​ผู​เห​อ​ก็​จะมีเรื่อง​ให้​คุยโว​บน​โต๊ะ​สุรา​แล้ว​ ฮ่าๆ ตา​เฒ่าผู​อย่าง​เจ้ากล้า​เรียก​หมี่​อวี้​เช่นนี้​ไหม​? ข้า​กล้า​ อีก​ทั้ง​ทุกครั้งที่​เจอ​หน้า​ยัง​เรียก​ว่า​เซียน​กระบี่​ทุกครั้ง​ด้วย​”

หาก​จะบอ​กว่า​อวี๋​เย​ว่​ไม่รู้สึก​ประ​ห​วัน​พรั่นพรึง​เลย​ นั่น​ก็​คือ​การ​โกหก​คนอื่น​แล้ว​ยัง​โกหก​ตัวเอง​ โชคดี​ที่​แม้ทุกครั้ง​หมี่​อวี้​จะมีสายตา​ไม่เป็นมิตร​ แต่กลับ​ไม่เคย​ลงมือทำ​อะไร​จริงจัง​

อันที่จริง​การ​พูด​แบบนี้​ไม่ค่อย​เหมาะสม​ โชคดี​ที่​อวี๋​เย​ว่​ไม่ใช่ผู้อาวุโส​ที่​จิตใจ​คับแคบ​ ไม่อย่างนั้น​การ​เอ่ย​ประโยค​เหล่านี้​อาจ​ทำให้​เฉิน​ผิง​อัน​ถูก​อาฆาตแค้น​เอา​ได้​

อวี๋​เย​ว่​ทอดถอนใจ​พูด​จาก​ใจจริง​ “ใต้เท้า​อิ่น​กวาน​ นี่​เรียก​ว่า​พูดมาก​เสีย​ที่ไหน​ นี่​คือ​เวท​กระบี่​ คือ​มรรค​กถา​”

นึกถึง​การพบกัน​ครั้งแรก​ที่​เกาะ​ยวน​ยาง​ อิ่น​กวาน​หนุ่ม​ท่าน​นี้​มีความ​มาดมั่น​ มีปณิธาน​ห้าว​เหิม​ถึงเพียงใด​

แต่​วันนี้​ขณะที่​กำลังจะ​จากลา​กัน​ คำพูด​จาก​ใจจริง​ของ​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​ทำให้​อวี๋​เย​ว่​ตระหนัก​ได้​ว่า​เซียน​กระบี่​หนุ่ม​ที่อยู่​ตรงหน้า​ผู้​นี้​ แท้จริง​แล้ว​ยัง​เป็น​ลูกศิษย์​คน​สุดท้าย​ของ​สาย​เห​วิน​เซิ่ง คือ​จอม​ปราชญ์​น้อย​ที่​อ่าน​ตำรา​อริยะ​ปราชญ์​มาอย่าง​ทะลุปรุโปร่ง​

“ข้า​มีแค่​เรื่อง​เดียว​ที่​ไม่ขอ​เอ่ย​ถ้อยคำ​เกรงใจ​อะไร​กับ​ผู้​ถวาย​งานอ​วี๋”​

เฉิน​ผิง​อัน​กล่าว​ต่อ​อี​กว่า​ “ท่าน​ห้าม​ปล่อย​ให้​เด็ก​สอง​คน​นี้​ถูก​คน​รังแก​อยู่​ข้างนอก​ทั้งๆ ที่​พวกเขา​เป็น​ฝ่าย​มีเหตุผล​เด็ดขาด​ ไม่มีเรื่องราว​หรือ​น้ำใจ​ใน​โลก​มนุษย์​อะไร​ที่​ต้อง​คิดถึง​แค่​สถานการณ์​โดยรวม​อย่าง​เดียว​เท่านั้น​ ผู้ฝึก​กระบี่​ถึงอย่างไร​ก็​เป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​ ผู้ฝึก​กระบี่​จำเป็นต้อง​เป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​”

“ไม่ว่า​จะเป็น​ด้าน​นิสัยใจคอ​หรือ​การกระทำ​ใดๆ​ ข้า​จะไม่ยอมให้​เด็ก​ๆ ที่​ต้อง​พลัด​จาก​บ้านเกิด​อย่าง​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​เหล่านี้​ล้วน​กลาย​มาเป็น​ว่า​…มิอาจ​เทียบ​ใต้​หล้า​ไพศาล​ได้​ติด​ กลายเป็น​ว่า​ไม่เหมือน​ผู้ฝึก​กระบี่​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​อีกต่อไป​ หาก​วันใด​ข้า​ค้นพบ​ว่า​เป็น​เช่นนี้​ ผู้​ถวาย​งานอ​วี๋​ ถ้าอย่างนั้น​ก็​ต้อง​ขอโทษ​แล้ว​”

“ข้า​จะเปลี่ยน​มาเป็น​คน​สั่งสอน​พวกเขา​แทน​”

ผู้ฝึก​กระบี่​เฒ่าเอ่ย​เสียงทุ้ม​หนัก​ “อวี๋​เสีย​ผู้ฝึก​กระบี่​แห่ง​หลิว​เสีย​ทวีป​จะไม่ทำให้​อาจารย์​เฉิน​ผิดหวัง​เด็ดขาด​”

ไม่เหมือนกับ​ความคิด​ที่​ละเอียดอ่อน​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​

หนิง​เหยา​ยังคง​ทำ​เหมือน​อย่าง​ที่​เคย​เป็นมา​ ฉวยโอกาส​ตอนที่​เฉิน​ผิง​อัน​ใช้เสียง​ใน​ใจพูดคุย​กับ​อวี๋​เย​ว่​เอ่ย​สั่งสอน​เด็กน้อย​สอง​คน​ของ​บ้านเกิด​ และ​นาง​ก็​ยังคง​คร้าน​จะใช้เสียง​ใน​ใจอยู่​เหมือนเดิม​

“อวี๋​ชิงจาง คุณสมบัติ​ด้าน​การ​ฝึก​ตน​ของ​เจ้า แค่​ถือว่า​พอใช้ได้​เท่านั้น​ ตัว​เจ้าเอง​เป็น​วัตถุดิบ​อย่างไร​ ตัว​เจ้าย่อม​รู้ดี​ที่สุด​ เรื่อง​ของ​การ​ฝึก​ตน​ต้อง​มานะ​หมั่นเพียร​ ไม่ใช่ว่า​มาถึงใต้​หล้า​ไพศาล​แล้​วจะ​ลืม​กำพืด​ อย่า​เรียนรู้​เอาอย่าง​คำพูด​ทำนอง​ที่ว่า​เทียบ​กับ​คน​ที่อยู่​สูงก​ว่าไม่ได้​ เทียบ​กับ​คน​ที่อยู่​ต่ำกว่า​เหลือแหล่​อะไร​นั่น​ จำไว้​ว่า​อ่าน​ตำรา​ให้​มาก​ๆ เจอ​กับ​เรื่อง​อะไร​ก็​ต้อง​หัด​ใช้สมอง​ เรียนรู้​เอาอย่าง​อิ่น​กวาน​ของ​พวก​เจ้าให้​มาก​”

“เฮ้อ​เซียงถิง​ อย่า​ปล่อย​ให้​อวี๋​ชิงจางทิ้ง​ระยะห่าง​มากเกินไป​ ภายใน​เวลา​หกสิบ​ปี​ อย่าง​มาก​สุด​อนุญาต​ให้​เจ้าห่าง​แค่​ครึ่ง​ขอบเขต​เท่านั้น​ ความมั่นใจ​นี้​อย่า​ให้​ร่วง​ดิ่ง​ลง​ไป​ ถอย​ไป​พูด​หนึ่ง​ก้าว​ ฝึก​กระบี่​สามารถ​ฝึก​ให้​ขอบเขต​ไต่​ทะยาน​อย่าง​เชื่องช้า​ได้​ แต่​เป็น​คน​อย่า​ได้​จิตใจ​คับแคบ​ชั่วร้าย​ เมื่อ​จิตใจ​เที่ยงตรง​จิตวิญญาณ​ก็​แจ่มกระจ่าง​ จิต​แห่ง​กระบี่​ใสสะอาด​ไม่ว่า​เวท​กระบี่​อะไร​ก็​ล้วน​ใช้ได้ผล​”

หนิง​เหยา​พูด​ด้วย​สีหน้า​เรียบ​เฉย​ “พวก​เจ้าสอง​คน​จงจำคำ​ที่​ข้า​สอน​ทุก​คำ​ไว้​ให้​ขึ้นใจ​”

อวี๋​ชิงจางกับ​เฮ้อ​เซียงถิง​พูด​เสียงสั่น​พร้อมกัน​โดย​ไม่ได้​นัดหมาย​ “จำได้​แล้ว​ขอรับ​!”

ความลับ​และ​เรื่อง​วงใน​บางอย่าง​ของ​ใต้​หล้า​ห้า​สี ห่าน​ขาวใหญ่​ผู้​นั้น​เคย​เล่า​ให้​ฟังแล้ว​

ขอบเขต​หยก​ดิบ​ ขอบเขต​เซียน​เห​ริน​และ​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​คน​แรก​ใน​ประวัติศาสตร์​ของ​ใต้​หล้า​ใหม่เอี่ยม​!

ใช้กระบี่​สังหาร​สิ่งศักดิ์สิทธิ์​ชั้นสูง​

พก​กระบี่​ออก​เดินทางไกล​เพียงลำพัง​ เมื่อ​การ​ถามกระบี่​ครั้งหนึ่ง​ผ่าน​ไป​ ลูกศิษย์​คน​สุดท้าย​ของ​มรรคา​จารย์​เต๋า​ก็​ถูก​ทำร้าย​จน​บาดเจ็บสาหัส​

ทุกวันนี้​คือ​บุคคล​อันดับ​หนึ่ง​ของ​ใต้​หล้า​ห้า​สี!

สำหรับ​ตัวอ่อน​เซียน​กระบี่​ทั้ง​เก้า​คน​แล้ว​ พวกเขา​ไม่รู้สึก​ว่า​ประหลาด​ มีแค่​ความคิด​เดียว​เท่านั้น​

หนิง​เหยา​สมกับ​เป็น​หนิง​เหยา​

ใต้​หล้า​นี้​หา​ผู้ฝึก​กระบี่​ที่​ ‘ต่อให้​จะแค่​เหมือน​หนิง​เหยา​’ สัก​คน​ก็​หาไม่​เจอ​แล้ว​

อวี๋​เย​ว่​เงี่ยหู​ตั้งใจฟัง​ อันที่จริง​ผู้เฒ่า​ก็​ไม่ได้ดี​ไป​กว่า​เด็ก​ทั้งสอง​คน​สัก​เท่าไร​

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!