กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 890

เส้นทาง​กลับ​อำเภอ​เซียน​โหย​ว​หลังจากนั้น​ พอ​รู้​ว่า​เจ้าเฉิน​ผิง​อัน​ผู้​นี้​ถึงกับ​กำลังจะ​ไป​สร้าง​สำนัก​เบื้องล่าง​ที่​ใบ​ถงทวีป​ สวี​หย่วน​เสีย​ก็​อด​ไม่ได้​บอก​ให้​เฉิน​ผิง​อัน​รีบ​ๆ ไสหัวไป​ได้​แล้ว​

เฉิน​ผิง​อัน​คร้าน​จะสนใจ​เขา​ นั่ง​บน​หลัง​ม้า สอง​มือ​สอด​กัน​ไว้​ใน​ชาย​แขน​เสื้อ​ ไหล่​โยก​ไปมา​ ตรง​เอว​เหน็บ​ดาบ​สอง​เล่ม​ ขี่ม้า​อย่าง​เอ้อระเหย​ คุย​เล่น​กับ​จางซาน​เฟิงไป​เรื่อยเปื่อย​ ทั้งสองฝ่าย​นัด​กัน​ว่า​จะไป​ที่​ใบ​ถงทวีป​ด้วยกัน​ จางซาน​เฟิงจึงถามสวี​หย่วน​เสีย​ว่า​เผด็จการ​จน​น่า​โมโห​หรือไม่​? ช่วยไม่ได้​นี่​นะ​ คน​บางคน​อายุ​มาก​แล้ว​ แข้ง​ขา​ก็​ไม่ค่อย​ดี​ เดินทาง​คุ้มกัน​ไม่มีปัญหา​ แม้จะต้อง​กัด​ฝัน​เลียนแบบ​ชายฉกรรจ์​ที่​ออก​ไปหา​ประสบการณ์​ใน​ยุทธ​ภพ​ก็ตาม​ ดื่มเหล้า​เคล้า​นารี​ เห็น​สาวงาม​ก็ได้​แต่​มีใจอยาก​สังหาร​โจร​แต่กลับ​ไร้​เรี่ยวแรง​จะจับ​โจร​แล้ว​

ทำเอา​สวี​หย่วน​เสีย​โมโห​ไม่เบา​

ตลอดทาง​ที่​กลับ​ไป​ยัง​เขต​ชิงหยวน​นี้​ สวี​หย่วน​เสีย​คอย​สาน​สัมพันธ์​กับ​ที่ว่าการ​ จุด​พัก​ม้าหรือไม่​ก็​พรรค​ใน​ยุทธ​ภพ​ไป​ด้วย​ บางครั้ง​ก็​จะให้​ลูกศิษย์​ได้​ฝึกปรือ​ฝีมือ​

ไม่รู้​ว่า​เหตุใด​เสี่ยว​โม่ถึงได้​รู้สึก​ว่า​คุณชาย​ของ​ตน​ไม่เหมือนกับ​ตอน​ที่อยู่​บน​ภูเขา​ลั่วพั่ว​เลย​ เขา​เอง​ก็​มีท่าที​เกียจคร้าน​ อาบแดด​สบายใจ​ จิบ​เหล้า​คำ​เล็ก​ๆ บางครั้ง​ยัง​ผิวปาก​ ดูเหมือนว่า​จะเป็น​ทำนอง​ของ​บทเพลง​พื้นบ้าน​

พอ​ไป​ถึงศูนย์​ฝึก​ยุทธ​ที่​อำเภอ​เซียน​โหย​ว​ เสี่ยว​โม่ก็​ยิ่ง​ได้​เปิดโลก​กว้าง​ ถึงกับ​เป็น​คุณชาย​บ้าน​ตน​ที่​เข้าครัว​ทำอาหาร​โต๊ะ​หนึ่ง​ด้วยตัวเอง​

สวี​หย่วน​เสีย​เอา​สอง​มือ​กอดอก​เอนตัว​พิง​ประตู​ห้องครัว​ ยิ้ม​มอง​สหาย​เก่า​สอง​คน​กับ​สหาย​ใหม่​อีก​คน​หนึ่ง​ที่​ง่วน​ไปมา​อยู่​ตรงนั้น​

วันนี้​ที่​ดื่มเหล้า​กัน​ เป็น​เพียงแค่​งานเลี้ยง​เล็ก​ๆ เรียบง่าย​เท่านั้น​

พอ​ไป​ถึงห้อง​ของ​จางซาน​เฟิง เฉิน​ผิง​อัน​ก็​แย่ง​ไป​เปิด​ตำรา​เล่ม​หนึ่ง​ก่อน​ ใน​ตำรา​มีภาพวาด​ เขา​ถึงกับ​จุ๊ปาก​ไม่หยุด​

จางซาน​เฟิงบ่น​ “พี่ใหญ่​สวี​ ข้า​เป็น​นักพรต​คน​หนึ่ง​ ท่าน​เอา​หนังสือ​พวก​นี้​มาวาง​ไว้​บน​โต๊ะ​ หมายความว่า​อะไร​กัน​แน่​?!”

สวี​หย่วน​เสีย​หัวเราะ​หึหึ​ “คง​เป็น​เพราะ​หนังสือ​มีขา​ก็​เลย​แอบ​เดิน​เข้ามา​ด้วยตัวเอง​กระมัง​ ไม่เกี่ยว​อะไร​กับ​ข้า​ด้วย​”

ตอนกลางคืน​ยังมี​อาหาร​มื้อ​ดึก​อีก​มื้อ​ สวี​หย่วน​เสีย​พา​คน​ทั้ง​สามออกจาก​ศูนย์​ฝึก​ยุทธ​ ไปหา​ร้าน​เล็ก​ๆ แห่ง​หนึ่ง​ที่​เปิด​อยู่​ใน​ตรอก​เก่า​โทรม​ เหล้า​มื้อ​นี้​เฉิน​ผิง​อัน​กับ​จางซาน​เฟิงดื่ม​กัน​อย่าง​เต็มที่​ ดูเหมือนว่า​จะความขัดแย้ง​ภายใน​เกิดขึ้น​

ยาม​ฟ้าสางของ​วัน​ต่อมา​ เฉิน​ผิง​อัน​นวด​คลึง​ขมับ​ ไม่รู้​ด้วยซ้ำ​ว่า​ตัวเอง​กลับมา​ที่​ศูนย์​ฝึก​ยุทธ​ได้​อย่างไร​

พอ​ตื่นขึ้น​มาแล้วก็​ผลัก​ประตู​เดิน​ออก​ไป​ เดิน​ไป​ได้​แค่​ไม่กี่​ก้าว​ก็​สังเกตเห็น​ว่า​เสี่ยว​โม่นั่ง​ยอง​อยู่​บน​ขั้นบันได​ข้าง​ลาน​ประลอง​ยุทธ​ มอง​สวี​หย่วน​เสียที่​กำลัง​สอน​พวก​ศิษย์​ลูกศิษย์​หลาน​ให้​ฝึก​หมัด​เดิน​นิ่ง​

เจ้าโง่จางซาน​เฟิงถึงกับ​ยืน​ถือ​เหล้า​ชามหนึ่ง​ยืน​อยู่​ด้าน​ข้าง​ กำลัง​ใช้เหล้า​ถอน​เหล้า​คืน​วิญญาณ​อยู่​กระมัง​

สวี​หย่วน​เสีย​กวักมือ​เรียก​เฉิน​ผิง​อัน​ “มานี่​ มาสอน​วิชา​หมัด​สัก​สอง​สามกระบวนท่า​สิ”

พวก​ลูกศิษย์​ใน​ศูนย์​ฝึก​ยุทธ​พา​กัน​หันขวับ​มามอง​คุณชาย​เฉิน​ที่​ถูก​เจ้าศูนย์​พูด​เสีย​จน​ลี้ลับ​มหัศจรรย์​อย่าง​พร้อมเพรียงกัน​

สวม​ชุด​เขียว​ปัก​ปิ่น​หยก​ขาว​ สวม​รองเท้า​ผ้า​สีดำ​พื้น​หนา​

พวกเขา​จำต้อง​ยอมรับ​ว่า​รูปโฉม​ของ​อีก​ฝ่าย​พอ​จะคมคาย​อยู่​บ้าง​ ส่วน​เรื่อง​ความสามารถ​ด้าน​หมัด​เท้า​น่ะ​หรือ​ ใน​เมื่อ​เป็น​สหาย​ใน​ยุทธ​ภพ​ของ​เจ้าศูนย์​บ้าน​ตน​ ฝีมือ​สูงหรือ​ต่ำ​ก็​พอ​จะรู้กัน​ได้​แล้ว​

เหตุใด​เจ้าศูนย์​ถึงได้​มีชื่อเสียง​ที่​ดี​ขนาด​นั้น​ใน​ยุทธ​ภพ​ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​ใน​กลุ่ม​ของ​เพื่อน​ร่วม​อาชีพ​? ก็​ไม่ใช่เพราะ​ความสัมพันธ์​ควัน​ธูป​ที่​ได้​มาจาก​การ​แพ้​หมัด​หรอก​หรือ​?

หาก​ไม่เป็น​เพราะ​เจ้าศูนย์​เป็น​คน​มีคุณธรรม​ ข้าว​ทุก​มื้อ​มีให้​กิน​จน​พออิ่ม​ ไม่เคย​ถ่วงเวลา​การ​จ่ายเงินเดือน​ ไม่อย่างนั้น​ก็​คง​รั้ง​คน​ไว้​ได้​แค่​ไม่กี่​คน​จริงๆ​

เมื่อครู่นี้​จางเจิน​เห​ริน​ก็ได้​ถูก​เจ้าศูนย์​ลากตัว​มาให้​ช่วย​ถ่ายทอดวิชา​หมัด​ชุด​หนึ่ง​ เจ้าตัวดี​ คาด​ว่า​คง​เป็น​เพราะ​ยัง​ไม่สร่าง​เมา ถึงได้​วน​เป็น​วงกลม​อ่อนปวกเปียก​อยู่​ตรงนั้น​

ดังนั้น​พวกเขา​จึงไม่ค่อย​ฝาก​ความหวัง​ไว้​ที่​คุณชาย​เฉิน​ซึ่งมักจะ​ออก​ท่อง​ยุทธ​ภพ​บ่อยๆ​ ผู้​นี้​มาก​นัก​

เฉิน​ผิง​อัน​คลี่​ยิ้ม​ กระตุก​มุมหนึ่ง​ของ​ชุดก​ว้า​ตัว​ยา​วสี​เขียว​มาเหน็บ​ไว้​ตรง​เข็มขัด​ มาหยุด​อยู่​ข้าง​กาย​สวี​หย่วน​เสีย​ หันหลัง​ให้​กับ​ลูกศิษย์​ศูนย์​ฝึก​ยุทธ​ แล้ว​เดิน​นิ่ง​หก​ก้าว​ของ​วิชา​หมัด​เขย่า​ขุนเขา​ก่อน​รอบ​หนึ่ง​

พวก​คนหนุ่ม​ฉกรรจ์​ที่อยู่​ด้านหลัง​หันมา​สบตา​กัน​

นี่​ก็​ถูกต้อง​แล้ว​ ไม่เสียแรง​ที่​เป็น​สหาย​ของ​เจ้าศูนย์​บ้าน​ตน​

เสี่ยว​โม่หัวเราะ​

ปณิธาน​หมัด​ของ​ทั้ง​ร่าง​ประหนึ่ง​ขุนเขา​สายน้ำ​ ประหนึ่ง​ฟ้าดิน​ที่​เชื่อมโยง​ถึงกัน​

ผู้ฝึก​ยุทธ​ขอบเขต​เก้า​อย่าง​พวก​อวี๋หง​ โจว​ไห่​จิ้ง โชคดี​ได้​เจอ​กับ​คุณชาย​บ้าน​ตน​ ก็​เป็น​แค่​เรื่อง​ของ​หมัด​เดียว​เท่านั้น​

สวี​หย่วน​เสีย​นั่งลง​ข้าง​กาย​เสี่ยว​โม่ พูด​กลั้ว​หัวเราะ​เบา​ๆ ว่า​ “เจ้าพวก​ลูก​กระต่าย​กลุ่ม​นี้​ไหน​เลย​จะมอง​ความ​ตื้น​ลึก​ออก​ ทำให้​เสี่ยว​โม่เห็น​เรื่องตลก​แล้ว​”

เสี่ยว​โม่ส่ายหน้า​ “ต่าง​คน​ต่าง​มีสูงต่ำ​ ต่าง​คน​ต่าง​มีประสบการณ์​ไม่เหมือนกัน​”

สวี​หย่วน​เสีย​รวม​เสียง​ให้​เป็น​เส้น​เอ่ย​ว่า​ “ตลอดทาง​นี้​รบกวน​เสี่ยว​โม่แล้ว​”

เฉิน​ผิง​อันเป็น​คน​อย่างไร​เขา​รู้​ชัดเจน​ดี​ยิ่งนัก​ ออกจาก​บ้าน​มาดื่มเหล้า​กับ​ตน​และ​จางซาน​เฟิง หาก​ไม่เป็น​เพราะ​ได้รับ​บาดเจ็บสาหัส​ก็​ไม่มีทาง​พา​คน​มาด้วย​เด็ดขาด​

สวี​หย่วน​เสีย​มอง​ไป​ยัง​เงาร่าง​ที่​ยิ่ง​นาน​หมัด​เท้า​ก็​ยิ่ง​พุ่ง​ออก​ไป​อย่าง​รวดเร็ว​บน​ลาน​ประลอง​ยุทธ​ ยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “ข้า​เอง​ก็​อายุ​มาก​แล้ว​ หาก​เร็ว​กว่า​นี้​สัก​สิบ​ยี่สิบ​ปี​ จะต้อง​ดื่มเหล้า​กับ​เสี่ยว​โม่อย่าง​ไม่เมาไม่กลับ​แน่นอน​”

เสี่ยว​โม่เอ่ย​เสียง​เบา​ “ใน​สายตา​ของ​คุณชาย​ บางที​จอม​ยุทธ​ใหญ่​สวี​อาจจะ​ไม่ถือว่า​หนุ่ม​เท่าไร​แล้ว​จริงๆ​ แต่​เชื่อ​ว่า​ใน​ใจของ​คุณชาย​ จอม​ยุทธ​ใหญ่​สวี​จะต้อง​เป็น​จอม​ยุทธ​เครา​ดก​ผู้​กล้าหาญ​ที่​เดิน​อยู่​ท่ามกลาง​ลม​ฝน​คน​นั้น​ตลอดไป​อย่าง​แน่นอน​”

ผู้เฒ่า​นวด​คลึง​ปลาย​คาง​ ยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ “มีเหตุผล​”

หลังจากนั้น​เฉิน​ผิง​อัน​ก็​อยู่​ใน​ศูนย์​ฝึก​ยุทธ​ต่อไป​อีก​สามวัน​ สุดท้าย​ก็​เป็น​สวี​หย่วน​เสียที่​ไล่​คน​ ยิ้ม​ด่าว่า​เจ้าตะพาบ​ใจดำ​อย่าง​เฉิน​ผิง​อัน​และ​จางซาน​เฟิงสอง​คน​ไม่เพียงแต่​มากินเปล่า​ดื่ม​เปล่า​อยู่​ที่นี่​ ยัง​รอคอย​ให้​ตน​ตาย​เพื่อ​จะได้​แบ่ง​สมบัติ​ด้วย​ใช่ไหม​?

หลาย​วัน​มานี้​เฉิน​ผิง​อัน​คอย​สอน​หมัด​และ​ป้อน​หมัด​อยู่​ตลอด​ ในที่สุด​พวก​ลูกศิษย์​ของ​ศูนย์​ฝึก​ยุทธ​ที่​รู้สึก​ตัวอย่าง​เชื่องช้า​ก็​เปลี่ยนแปลง​ความคิด​ที่​มีต่อ​อีก​ฝ่าย​ ถึงได้​เชื่อ​ว่า​คุณชาย​เฉิน​ผู้​นี้​เป็นยอด​ฝีมือ​จริงๆ​ คาด​ว่า​อย่าง​น้อยที่สุด​ก็​น่าจะ​จัดการ​กับ​เจ้าศูนย์​ได้​ถึงสอง​คน​

หาก​มาเปิด​ศูนย์​ฝึก​ยุทธ​ที่​อำเภอ​ กิจการ​จะต้อง​ไม่แย่​อย่าง​แน่นอน​ โดยเฉพาะ​ลูกศิษย์​ผู้หญิง​ที่​ต้อง​มีไม่น้อย​แน่​

เช้าตรู่​วันนี้​นั่ง​อยู่​บน​ขั้นบันได​ เฉิน​ผิง​อัน​นวด​คลึง​หว่าง​คิ้ว​พลาง​ถือ​ชามเหล้า​มอง​จางซาน​เฟิงที่​สอน​หมัด​อยู่​ตรงนั้น​ พวก​ลูกศิษย์​ศูนย์​ฝึก​ยุทธ​ออก​หมัด​กัน​อย่าง​ประดักประเดิด​ แต่ละคน​กลั้น​ขำ​ เฉิน​ผิง​อัน​เอง​ก็​กลั้น​ขำ​เหมือนกัน​

ก่อน​จะออกเดินทาง​ สวี​หย่วน​เสีย​พลัน​มีข้อเรียกร้อง​ขอให้​เฉิน​ผิง​อัน​ช่วย​เขียน​กรอบ​ป้าย​ของ​ห้องโถง​ใหญ่​ ยัง​บอก​ด้วยว่า​ต้อง​ให้​เป็น​คำพูด​ที่​วางโต​สักหน่อย​ มีพลัง​อำนาจ​สักหน่อย​

เตรียม​พู่กัน​ หมึก​ กระดาษ​และ​แท่น​ฝน​หมึก​ไว้​เรียบร้อย​ เสี่ยว​โม่ฝน​หมึก​ให้​อยู่​ด้าน​ข้าง​ เฉิน​ผิง​อัน​ยก​พู่กัน​เขียน​ตัวอักษร​ขนาดใหญ่​ลง​ไป​สี่ตัว​ ลงท้าย​ว่า​เฉิน​ผิง​อัน​แห่ง​ภูเขา​ลั่ว​พัว​ แล้ว​ยัง​หยิบ​ตราประทับ​ส่วนตัว​ชิ้น​หนึ่ง​ออกมา​ ประทับ​ลง​ไป​ด้านบน​ เป็น​คำ​ว่า​เฉินสือ​อี​

เฉิน​ผิง​อัน​วาง​พู่กัน​ไว้​บน​ที่​วาง​พู่กัน​ หันไป​มอง​สวี​หย่วน​เสีย​ ยิ้ม​เอ่ย​ “หาก​ยัง​รู้สึก​ว่า​ไม่มีพลัง​อำนาจ​มาก​พอ​ สามารถ​เปลี่ยน​จาก​หนึ่ง​เป็น​เก้า​ได้​นะ​”

สวี​หย่วน​เสีย​หัวเราะ​ดังลั่น​ บอ​กว่า​นี่​ก็​พอสมควร​แล้ว​ ไม่อย่างนั้น​ศูนย์​ฝึก​ยุทธ​ใหญ่​เท่า​ก้น​แห่ง​นี้​ย่อม​สยบ​ไว้​ไม่อยู่​

ตัวอักษร​สี่ตัว​บน​กรอบ​ป้าย​คือ​คำ​ว่า​ หมัด​สยบ​หนึ่ง​ทวีป​

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!