กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 890

แม้จะบอ​กว่า​ทุกวันนี้​เฉิน​ผิง​อัน​ต้อง​มีชีวิต​ที่​ไม่เลว​แน่นอน​ สามารถ​ร่วมมือ​ทำการค้า​กับ​ซาน​จวิน​ขุนเขา​เหนือ​ได้​แล้ว​ ท่าเรือ​หนิ​วเจี่ยว​ที่​เงินทอง​ไหล​มาเท​มาแห่ง​นั้น​ ได้ยิน​ว่า​เฉิน​ผิง​อัน​ก็​ได้รับ​ส่วนแบ่ง​ด้วย​

แต่​ใน​วงการ​ขุนเขา​สายน้ำ​มีข้อห้าม​มากมาย​ ข้อ​พิถีพิถัน​เยอะ​ แล้ว​นับประสาอะไร​กับ​ที่​เหนียง​เนียง​เทพ​วารี​ท่าน​นั้น​ หาก​อิง​ตาม​ทำเนียบ​หยก​ทอง​ที่​ราชสำนัก​ต้า​หลี​ใน​อดีต​ป่าวประกาศ​แก่​ทั้ง​ทวีป​ก็​เป็น​ถึงขั้น​สี่ชั้น​โท​ ถือว่า​สูงมาก​แล้ว​

แล้ว​ก็เพราะว่า​อยู่​ใน​อาณาเขต​ของ​หลง​โจว​ถึงไม่สะดุดตา​มาก​นัก​ ไม่อย่างนั้น​หาก​เอา​ไป​วาง​ไว้​ใน​วงการ​ขุนเขา​สายน้ำ​ของ​แคว้น​เล็ก​ใต้​อาณัติ​ นั่น​ก็​เท่ากับ​เป็น​ขุนนาง​ใหญ่​ใน​พื้นที่​ศักดินา​คน​หนึ่ง​ได้​เลย​

บุรุษ​ยังคง​ยืนกราน​ใน​ความคิด​ของ​ตัวเอง​ “แค่​ส่งข่าว​ไป​แจ้งจวน​วารี​ก็​พอ​ ข้า​จะรอ​เหนียง​เนียง​เทพ​วารี​อยู่​ที่นี่​”

สตรี​ออกเรือน​แล้ว​รู้สึก​ผิดหวัง​เล็กน้อย​

ดูเหมือนว่า​เมื่อก่อน​เด็กหนุ่ม​แห่ง​ตรอก​หนี​ผิง​จะไม่ได้​เป็น​เช่นนี้​

เฉิน​ผิง​อัน​ไม่สะดวก​จะอธิบาย​อะไร​มาก​ หาก​ตน​ตรง​ไป​ที่​จวน​วารี​ นาง​ที่​เป็น​คน​เฝ้าศาล​ก็​เท่ากับ​เสียเปล่า​แล้ว​

แต่​หาก​ให้​นาง​ส่งกระบี่​บิน​ไป​แจ้งข่าว​ เย่​ชิงจู๋ก็​ต้อง​เห็นแก่หน้า​นาง​ เหนียง​เนียง​เทพ​วารี​ผู้​นี้​จึงจะรู้สึก​ว่าการ​ที่​ให้​เจ้ามาเป็น​คน​เฝ้าศาล​ไม่ได้​เสียเปล่า​

เฉิน​ผิง​อัน​นั่งลง​บน​ขั้นบันได​นอก​ประตู​ของ​ศาล​เทพ​วารี​

หมี่​ลี่​น้อย​เกา​แก้ม​ ไหล่ลู่​คอตก​ ซึมกะทือ​ไร้​ชีวิตชีวา​

รู้สึก​ว่า​ตัวเอง​สร้าง​ปัญหา​ให้​เจ้าขุนเขา​คนดี​อีกแล้ว​

อันที่จริง​แรกเริ่ม​นาง​ก็​แค่​อยาก​ไป​เที่ยวเล่น​ที่​เมือง​หง​จู๋เท่านั้น​ จากนั้น​ก็​กลับบ้าน​กัน​ได้​แล้ว​

แต่​เจ้าขุนเขา​คนดี​กลับ​เอาแต่​ส่ายหน้า​ไม่ยอม​ตอบ​ตกลง​ จะให้​นาง​กอด​ขา​ไม่ยอมให้​เขา​เดิน​เหมือน​อย่าง​ปี​นั้น​ก็​คง​ไม่ได้​กระมัง​ อาจารย์​เสี่ยว​โม่ก็​อยู่​ข้างๆ​ ด้วย​นะ​

เสี่ยว​โม่ไม่ได้​นั่งลง​ข้าง​กาย​เฉิน​ผิง​อัน​ แต่​นั่ง​อยู่​ด้าน​ขวา​สุด​

เมื่อ​เป็น​เช่นนี้​หมี่​ลี่​น้อย​จึงนั่ง​อยู่​ตรงกลาง​

บน​ผิวน้ำ​มีไอ​น้ำ​ลอย​กรุ่น​ขึ้น​มา เหนียง​เนียง​เทพ​วารี​เย่​ชิงจู๋มาที่​ศาล​บ้าน​ตัวเอง​เพียงลำพัง​ นาง​หน้าซีด​ขาว​เล็กน้อย​ มิอาจ​ปกปิด​สีหน้า​ตื่นตระหนก​ได้​

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​เมื่อ​นาง​เห็น​ว่าที่​หน้า​ประตู​ศาล​บ้าน​ตัวเอง​มีบุรุษ​ชุด​เขียว​นั่ง​อยู่​บน​ขั้นบันได​ ก็​ยิ่ง​เสียวสันหลัง​วาบ​

เย่​ชิงจู๋ยิ้ม​อย่าง​ฝืด​ฝืน​ เอ่ย​กับ​สตรี​คน​เฝ้าศาล​ว่า​ “เจ้ากลับ​ไป​ก่อน​เถอะ​ ข้า​จะคุย​ธุระ​กับ​อาจารย์​เฉิน”​

สตรี​คน​เฝ้าศาล​มึนงง​ จะพูดคุย​กัน​ ทำไม​ถึงเข้าไป​คุย​กัน​ใน​ศาล​ไม่ได้​? ไม่ต้อง​พิถีพิถัน​เรื่อง​วิถี​ของ​การ​รับรอง​แขก​บ้าง​เลย​หรือ​? ตน​จะได้​เตรียม​ผลไม้​และ​สุรามา​ให้​

เพียงแต่​นาง​หรือ​จะกล้า​ทักท้วง​เหนียง​เนียง​เทพ​วารี​ จึงเดิน​กลับ​เข้าไป​ใน​ศาล​ หลังจาก​เดิน​ข้าม​ธรณีประตู​ไป​แล้ว​นาง​ก็​แอบ​หันไป​มอง​แผ่น​หลัง​ของ​คน​ชุด​เขียว​ผู้​นั้น​

สตรี​พลัน​รู้สึก​ผิดหวัง​อีก​เล็กน้อย​

หลาย​ปี​ที่ผ่านมา​นี้​ บางครั้ง​นาง​ก็​คิด​ว่า​หาก​วันใด​ได้​กลับมา​พบ​เจอ​กับ​เด็กหนุ่ม​ตรอก​หนี​ผิง​ใน​อดีต​อีกครั้ง​ อีก​ฝ่าย​จะรู้สึก​…เสียดาย​บ้าง​หรือไม่​นะ​?

เพียงแต่​ความคิด​เล็กๆ น้อยๆ​ นี้​ของ​นาง​แค่​บัง​เกิดขึ้น​ใน​ทะเลสาบ​หัวใจ​ก็​หล่น​ร่วง​กลับ​ลง​ไป​ดังเดิม​ ถึงท้ายที่สุด​ก็​ยังมี​ความกังวล​อยู่​เล็กน้อย​ แต่​ขณะเดียวกัน​ก็​วางใจ​ได้​ด้วย​

คน​วัย​เดียวกัน​ของ​ตรอก​หนี​ผิง​ใน​ปี​นั้น​ คงจะ​เป็น​ดั่ง​คำ​ว่า​คนดี​ต้อง​ได้ดี​ตอบแทน​จริงๆ​ ในที่สุด​ก็​ไม่ต้อง​มีชีวิต​ที่​ยากลำบาก​เช่นนั้น​อีกแล้ว​

เพราะ​ตอนที่​สตรี​ออกเรือน​แล้ว​ยัง​เป็น​เด็กสาว​ที่​ยัง​ไม่แต่งงาน​ ในขณะที่​มารดา​และ​บุตรสาว​สอง​คน​ปะชุน​เสื้อผ้า​ภายใต้​แสงตะเกียง​ก็​เคย​พูดคุย​เรื่อง​สัพเพเหระ​กัน​ไป​ด้วย​

ล้วน​เป็นเรื่อง​ขี้หมูราขี้หมาแห้ง​ พูด​ไป​พูด​มา ไม่รู้​ว่า​ทำไม​ถึงพูด​ไป​ถึงเด็กหนุ่ม​ที่​ไป​เป็น​ลูกศิษย์​ของ​เตาเผา​เสียได้​ เขา​มักจะ​มาช่วย​บ้าน​พวก​นาง​ทำงาน​ใน​นา​บ่อยๆ​ ทุกครั้ง​จะต้อง​เป็น​ฝ่าย​เปิดปาก​พูด​เอง​เสมอ​ หรือไม่​ช่วง​ที่​ยุ่ง​อยู่​กับ​การ​ทำนา​ เขา​ก็​จะมัก​ ‘บังเอิญ​’ เดินผ่าน​ที่นา​ของ​พวก​นาง​พอดี​ อีก​ทั้ง​พอ​ถึงช่วง​ที่​ต้อง​แย่ง​น้ำ​เข้า​นา​ ไร่นา​ของ​ครอบครัว​นาง​กลับ​ไม่ต้อง​กลัดกลุ้ม​เรื่อง​น้ำ​ ครอบครัว​ทั่วไป​ ตอนกลางคืน​ไป​ที่​ข้าง​คันนา​รอบ​สอง​รอบ​ก็ดี​ว่า​ดีมาก​แล้ว​ แต่กลับ​มีคน​อยู่​คน​หนึ่ง​ที่​ไม่ได้​เป็น​เช่นนั้น​ เขา​มักจะ​เฝ้าอยู่​ข้าง​คันนา​ตลอด​ทั้งคืน​

การ​ที่​เป็น​เช่นนี้​ ดูเหมือนว่า​ก็​เพียงแค่​เพราะ​มารดา​ของ​เด็กสาว​เคย​ไป​ช่วย​งาน​ขาว​ดำ​ที่​ตรอก​หนี​ผิง​มาสอง​ครั้ง​เท่านั้น​ อันที่จริง​ใน​เมือง​เล็ก​ เพื่อนบ้าน​ใกล้เคียง​ที่​ขอ​แค่​ไม่ได้​เป็น​ศัตรู​กัน​ ส่วนใหญ่​อะไร​ที่​ช่วย​ได้​ก็​มักจะ​ช่วยเหลือ​กัน​เสมอ​

มารดา​ของ​นาง​บอ​กว่า​คน​ตระกูล​เฉิน​ที่​ตรอก​หนี​ผิง​ล้วน​เป็น​คนดี​ แล้ว​ยัง​บอก​อี​กว่า​เด็ก​ที่​ดี​ขนาด​นั้น​ไม่ควร​มีชีวิต​ที่​ยากลำบาก​ปาน​นั้น​

การคุย​เล่น​ใน​คืน​นั้น​ ประโยค​สุดท้าย​ที่​ท่าน​แม่เอ่ย​ทำให้​สตรี​ออกเรือน​แล้ว​จด​จำได้​ขึ้นใจ​ เด็ก​คน​นั้น​ยากลำบาก​เสีย​จน​ไม่เหลือ​ความทุกข์​ใด​ให้​กล้ำกลืน​ได้​อีกแล้ว​ ดังนั้น​เวลา​อยู่​กับ​คนนอก​อย่าง​พวกเรา​ถึงได้​มีรอยยิ้ม​ตลอดเวลา​

เมือง​เล็ก​บ้านเกิด​มีสุภาษิต​ประโยค​หนึ่ง​บอ​กว่า​ ‘ไม่ฆ่าคน​มีคุณธรรม​’ เป็น​การเอ่ยถึง​คน​คน​หนึ่ง​ที่​มีมารยาท​อย่างยิ่ง​ ไม่เคย​พูด​เรื่อง​ผิด​ถูก​ของ​ใคร​

เฉิน​ผิง​อัน​นั่ง​อยู่​บน​ขั้นบันได​ มอง​เย่​ชิงจู๋

เย่​ชิงจู๋นึก​อยาก​จะขุด​ดิน​แล้ว​มุด​หนี​ลง​ไป​ยิ่งนัก​ ใต้เท้า​อิ่น​กวาน​แห่ง​ภูเขา​ลั่วพั่ว​นั่ง​อยู่​ แต่​ตน​กลับ​ยืน​ แบบนี้​จะไม่ดูเหมือน​นาง​เหยียด​ตา​ลง​ต่ำ​มอง​เขา​หรอก​หรือ​? แต่​จะให้​ตน​นั่งลง​บน​พื้น​เลย​ก็​คง​ไม่เข้าท่า​กระมัง​

เงยหน้า​ขึ้น​แทบจะ​เวลา​เดียว​กับ​เสี่ยว​โม่ มอง​ไป​ยัง​ม่าน​ฟ้าเหนือ​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ มีแสงกระบี่​เล็ก​บาง​เส้น​หนึ่ง​ร่วง​ลงมา​

เฉิน​ผิง​อัน​ลุกขึ้น​ ไม่รอ​ให้​เขา​พูด​อะไร​ เย่​ชิงจู๋ก็​ก้าว​ถอยหลัง​ไป​ก้าว​หนึ่ง​ตาม​จิตใต้สำนึก​ เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​เอ่ย​ “ไม่มีอะไร​ คืนนี้​แค่​มาพบ​เหนียง​เนียง​เทพ​วารี​เท่านั้น​ เป็น​เพื่อนบ้าน​กัน​มานาน​หลาย​ปี​ก็​ยัง​ไม่เคย​มาเยี่ยม​หา​ นับว่า​ไม่ถูก​หลัก​มารยาท​ วันหน้า​ไป​เป็น​แขก​ที่​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ของ​พวกเรา​ ข้า​ก็​จะพยายาม​แสดงน้ำใจ​ของ​เจ้าบ้าน​อย่าง​เต็มที่​ เลี้ยง​เหล้า​เหนียง​เนียง​เทพ​วารี​”

เย่​ชิงจู๋อยาก​พูดมาก​ๆ ว่า​ข้า​ไม่ไป​

แต่​นาง​ก็​ยัง​พยักหน้า​รับ​เงียบๆ​

อันที่จริง​เฉิน​ผิง​อัน​ก็​ไม่ได้คิด​จะทำ​อะไร​กับ​นาง​และ​จวน​เทพ​วารี​จริงๆ​

สืบสาวราวเรื่อง​กัน​แล้วก็​ยัง​ต้อง​ดู​ที่​ความต้องการ​ของ​หมี่​ลี่​น้อย​ และ​ระหว่าง​ที่​เดิน​มายัง​ศาล​เทพ​วารี​แห่ง​นี้​ หมี่​ลี่​น้อย​ก็​ขมวดคิ้ว​อยู่​ตลอด​ อยาก​จะพูด​อะไร​บางอย่าง​แต่​ก็​ไม่รู้​จะพูด​อะไร​ นี่​ก็​คือ​คำตอบ​แล้ว​

เฉิน​ผิง​อัน​กุม​หมัด​บอกลา​

เย่​ชิงจู๋รีบ​ยอบ​กาย​คารวะ​ ไม่เพียงแต่​ไม่ตาย​ ยัง​ไม่ถูก​ซ้อม​ด้วย​

ดูท่า​การ​ที่​ตน​แอบ​ไป​จุด​ธูป​ขอพร​ที่​ศาล​แห่ง​อื่น​ยัง​พอ​จะมีประโยชน์​อยู่​บ้าง​

ส่วน​เรื่อง​ไป​เป็น​แขก​ที่​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ ก็​ง่าย​ยิ่งนัก​ ใช้คาถา​ถ่วงเวลา​!

เสี่ยว​โม่กลั้น​ขำ​ เหนียง​เนียง​เทพ​วารี​คน​หนึ่ง​กลาย​มามีสภาพ​เช่นนี้​ได้​ คงจะ​รู้​แล้ว​จริงๆ​ ว่า​รสชาติ​ของ​ความยากลำบาก​นั้น​เป็น​เช่นไร​

ย้อนกลับ​ไป​ทาง​เดิม​ ไป​ยัง​เมือง​หง​จู๋ เฉิน​ผิง​อัน​ก็​พลัน​หัวเราะ​

เป็น​หนิง​เหยา​ที่​พอ​กลับ​ไป​นคร​บิน​ทะยาน​แล้วก็​ถึงกับ​ให้​กวอ​จู๋จิ่ว​มาที่​ใต้​หล้า​ไพศาล​

เฉิน​ผิง​อัน​ลูบ​ศีรษะ​ของ​หมี่​ลี่​น้อย​ ถามว่า​ “คราว​หน้าที่​เจ้าเฝ้าประตู​แล้ว​เหนียง​เนียง​เทพ​วารี​มาเป็น​แขก​ จะทำ​อย่างไร​?”

หมี่​ลี่​น้อย​สะบัด​แขน​เล็ก​ๆ สอง​ข้าง​ หัวเราะ​ฮ่าๆ เอ่ย​ว่า​ “ข้า​ใจกล้า​นัก​ล่ะ​ ต่อให้​ยืน​อยู่​หน้า​ประตู​คนเดียว​ก็​ไม่เป็นไร​ แล้ว​ยัง​จะเชิญให้​เหนียง​เนียง​เทพ​วารี​ดื่ม​ชาด้วย​นะ​”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​ถาม “มีเมล็ด​แตง​รับรอง​แขก​หรือไม่​?”

หมี่​ลี่​น้อย​ขมวดคิ้ว​มุ่น​ แต่​ก็​หัวเราะ​ร่า​อย่าง​ว่องไว​ “คิด​อะไร​น่ะ​ ข้า​โกรธ​นาน​นะ​ เมล็ด​แตง​สัก​เมล็ด​ก็​ไม่มีให้​”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​เอ่ย​ “จดจำ​ความแค้น​ขนาด​นี้​เลย​หรือ​?”

หมี่​ลี่​น้อย​กระโดดโลดเต้น​ โคลง​ศีรษะ​ไปมา​ ร้อง​คำราม​หนึ่ง​ที​ ภูต​น้ำ​ใหญ่​แห่ง​ทะเลสาบ​คน​ใบ้​ ข้า​ดุร้าย​มาก​นัก​

ทาง​ฝั่งของ​เรือน​ไม้ไผ่​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ มีคน​กลุ่ม​ใหญ่​มาร่วม​ชมความ​ครึกครื้น​ มีเพียง​เผย​เฉียน​ที่​อึ้ง​งัน​ไร้​คำพูด​ที่สุด​

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!