แสงอาทิตย์พลันสาดส่องลงบนภูเขา แสงจันทร์ค่อยๆ ลอยขึ้นสูง
บนโลกมนุษย์ร่วมกันจุดตะเกียงบนฟ้า
แม่น้ำที่ไหลคดเคี้ยวลงสู่มหาสมุทรเส้นหนึ่ง ปราณน้ำเข้มข้น เลียบช่วงลำคลองมีท่าเรือน้อยใหญ่สิบหกแห่งกระจายกันไปเพื่อให้เรือข้ามฟากบนภูเขามาจอดเทียบท่า การค้าเจริญรุ่งเรือง บริเวณโดยรอบท่าเรือทุกแห่งล้วนมีเมืองเล็กที่สร้างขึ้นติดกับน้ำ มีขนาดใหญ่เท่าอำเภอไหวหวง พอถึงยามค่ำคืนแสงไฟก็สว่างไสวราวกับเวลากลางวัน สองฟากฝั่งมีศูนย์ฝึกยุทธตั้งเรียงราย ก่อตั้งเป็นพรรคในยุทธภพมากมาย ต่อให้จะปรากฏอยู่ในสายตาของตี้ซือที่ตรวจสอบสภาพภูมิศาสตร์ซึ่งแค่พอจะมีความรู้เบื้องต้น ก็ยังมองออกว่าภาพบรรยากาศโชคชะตาบู๊ของที่แห่งนี้ยิ่งใหญ่อย่างมาก เป็นหนึ่งในทวีป
อู๋ซูเดินทางไกลไปเยือนทวีปอื่นยี่สิบกว่าปีแล้ว ทุกวันนี้ก็ยังเดินทางไปที่ใต้หล้าเปลี่ยวร้างด้วย บวกกับอริยะบู๊ท่านนี้ไม่ค่อยสนใจเรื่องการรับลูกศิษย์ จนถึงทุกวันนี้ก็ยังรับลูกศิษย์เปิดภูเขามาแค่คนเดียว เป็นเหตุให้ผู้ฝึกยุทธขอบเขตปลายทางของใบถงทวีปเหลือเพียงเย่อวิ๋นอวิ๋นคนเดียวเท่านั้น นี่จึงทำให้ทุกวันนี้ภูเขาผูซานมีคำเรียกขานอย่างไพเราะซึ่งได้รับการประเมินไว้สูงอย่างมาก
‘วิชาหมัดในหนึ่งทวีป มีเพียงที่ผูซาน’
และเรือนอวิ๋นฉ่าวของภูเขาผูซานนั้นก็คู่ควรกับคำเรียกขานที่ไพเราะนี้จริงๆ ในวันเริ่มต้นฤดูร้อนและเริ่มต้นฤดูหนาว สองวันนี้ของทุกปีผูซานจะต้องทำการสอนหมัดตามกฎบรรพบุรุษ นอกจากกระบวนท่าหมัดวิชาลับของเรือนอวิ๋นฉ่าวที่จะไม่สอนแล้ว วิชาอื่นๆ ล้วนไม่มีเก็บซ่อนเอาไว้ ยินดีที่จะทุ่มเทสอนให้กับผู้ฝึกยุทธจากแต่ละฝ่ายที่มาเรียนวิชาหมัดที่นี่อย่างหมดหน้าตัก ขณะเดียวกันผู้ฝึกยุทธของผูซานทุกคนที่ลงไปจากภูเขาก็จะจัดการประลองยุทธสามครั้งเพื่อประลองวิชาด้านการต่อสู้ หรือไม่ก็ช่วยป้อนหมัดให้กับผู้อื่น หากมีคนต่างถิ่นที่เป็นผู้ฝึกยุทธขอบเขตเดียวกันเอาชนะได้ก็จะได้รับเสียงไชโยโห่ร้องกึกก้อง ถูกเชื้อเชิญให้ไปเป็นแขกที่เรือนอวิ๋นฉ่าว ถูกเรียกขานว่าแขกผู้มีเกียรติ
ดูเหมือนว่าดวงจันทร์บนฟ้าจะเอ็นดูประกายน้ำของที่แห่งนี้มากเป็นพิเศษ บนพื้นผิวของลำคลองจึงเต็มไปด้วยแสงจันทร์ทอประกาย ประหนึ่งทางช้างเผือกที่อยู่บนโลกมนุษย์ สีสันของราตรีสงบผ่อนคลาย ลมแม่น้ำพัดโชยมาเบาๆ ทัศนียภาพงดงามทำให้คนมองจิตใจปลอดโปร่งโล่งเบา
เรือหอเรือนท่องเที่ยวลำหนึ่งล่องมาตามกระแสน้ำ ด้านบนมีหอเรือนแค่สองชั้น เตี้ยกว่าคนอื่นระดับหนึ่ง ขอแค่มีเรือท่องเที่ยวลำอื่นลอยสวนผ่านไปก็มักจะต้องตกอยู่ในสภาพการณ์ที่คนอื่นก้มหน้ามองข้า ข้าแหงนหน้ามองคนอื่นเสมอ
ร้านน้ำชาเปิดโล่งแห่งหนึ่งบนชั้นสอง เฉินผิงอันสั่งชาบนภูเขามาสองกาจากฉาเหนียง (สตรีที่คอยรับหน้าที่ชงชา ขายชา ยกชามาเสิร์ฟ) กาหนึ่งคือชาเมฆหมอกและอีกกาหนึ่งคือชาสุ่ยเซียนเก่าแก่ นางจึงมอบขนมและผลไม้บางส่วนมาให้เปล่าๆ
เมื่อครู่นี้ฉาเหนียงพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะแนะนำชาสุ่ยเซียนนี้ บอกว่าคือชาเหยียนฉาที่มีชื่อเสียงชนิดหนึ่งบนภูเขาเซียนแห่งหนึ่งของแจกันสมบัติทวีป ยากมากที่จะได้มาครอง ต้นชาร้อยปีเรียกว่าสูง พันปีถึงจะเรียกว่าเก่าแก่ ดังนั้นราคาแพงจึงมีเหตุผลที่มันแพง หากลูกค้ารู้สึกว่ารสชาติธรรมดา ขอแค่มีคำติว่าไม่ดี ทางเรือหอเรือนก็สามารถลดราคาให้ได้
ดูจากท่าทางของนาง หากไม่สั่งชาสุ่ยเซียนเก่าแก่นี้ก็คงจะไม่มอบขนมและผลไม้ให้แล้ว เฉินผิงอันคลี่ยิ้มบางๆ เป็นเวรกรรมที่ต่งครึ่งเมืองคนร่วมบ้านเกิดผู้นั้นสร้างขึ้นอีกแล้ว
น้ำพุ ใบชา เหล้าหมักตระกูลเซียน อุปกรณ์ในการชงชาหรือดื่มเหล้า ขอแค่เป็นของที่เพิ่งมีชื่อเสียงได้แค่ไม่กี่ปีอยู่ในแจกันสมบัติทวีป โดยเฉพาะอย่างยิ่งของดีราคาไม่ต่ำ คาดว่าจำนวนอย่างน้อยครึ่งหนึ่งต้องมีความเกี่ยวข้องกับต่งสุ่ยจิ่งอย่างเลี่ยงไม่ได้
ชาแน่นอนว่าเป็นชาดี ในตำราบันทึกการท่องเที่ยวที่ยังไม่จัดพิมพ์ของสวีหย่วนเสียเล่มนั้นก็เคยบันทึกชาสุ่ยเซียนเก่าแก่นี้ไว้โดยเฉพาะ ปัญหาคือปีนั้นขนาดพี่ใหญ่สวียังได้ดื่มสุ่ยเซียนเก่าแก่นี้ ราคาของใบชาในท้องถิ่นสูงหรือต่ำ แค่คิดก็พอจะรู้ได้
ผลคือเพียงแค่ติดตามเรือข้ามฟากเคลื่อนย้ายสถานที่มา นำมาขายที่นี่ หนึ่งการาคาตั้งสองเหรียญเงินเกล็ดหิมะ ต่อให้หน้าหนากล้าพูดว่ารสชาติน้ำชาธรรมดาจริงๆ เรือหอเรือนแห่งนี้ช่วยลดราคาให้ก็ยังต้องจ่ายหนึ่งเหรียญเงินเกล็ดหิมะอยู่ดีไม่ใช่หรือ?
ในด้านการทำการค้า ต่งสุ่ยจิ่งที่มีพรสวรรค์ยอดเยี่ยมต้องมีจุดเริ่มต้นที่ขอบเขตบินทะยาน
เฉินผิงอันหยิบยานั่งลืมตนเม็ดสุดท้ายของตำหนักพยัคฆ์เขียวออกมาจากชายแขนเสื้อ กลืนไปพร้อมกับน้ำชา
ไม่ต้องสงสัยเลยว่ายาของตำหนักพยัคฆ์เขียวต่อจากนี้ต้องมีเม็ดชุดขนนกอีกสองเตาส่งไปถึงภูเขาเซียนตูอย่างรวดเร็วแน่นอน
ด้วยนิสัยการอยู่ร่วมกับผู้อื่นของเทพเซียนผู้เฒ่าลู่ ไม่พูดถึงตัวของเฉินผิงอันเอง แม้แต่สำนักเบื้องล่าง ในอนาคตอีกหลายร้อยปีก็ไม่ต้องกลุ้มแล้วว่ายานั่งลืมตนจะมีไม่พอใช้
หากใช้คำพูดของเทพเซียนผู้เฒ่าก็คือของดีของบ้านตัวเอง แน่นอนว่าต้องมอบให้คนกันเองก่อน
ไม่เป็นไร ภูเขาลั่วพั่วและยอดเขาชิงผิงย่อมต้องตอบแทนให้แน่นอน ในอนาคตปราณวิญญาณขุนเขาสายน้ำของในอาณาเขตภูเขาชิงจิ้ง มีแต่จะเปี่ยมล้นยิ่งกว่าช่วงที่ปราณวิญญาณของตำหนักพยัคฆ์เขียวโชติช่วงที่สุด
ผ่านท่าเรืออีกสามแห่ง และยังเหลือระยะทางน้ำอีกประมาณสองร้อยลี้ก็จะไปถึงหน้าประตูภูเขาของเรือนอวิ๋นฉ่าวภูเขาผูซานแล้ว
เผยเฉียนถาม “อาจารย์พ่อ เรื่องที่ผู้ฝึกยุทธของเรือนอวิ๋นฉ่าวลงจากภูเขาไปช่วยสอนหมัดให้คนอื่น ภูเขาลั่วพั่วของพวกเราสามารถเรียนรู้เอาอย่างได้หรือไม่?”
เฉินผิงอันพยักหน้ารับ “ต้องเรียนรู้ได้แน่นอน”
เฉาฉิงหล่างกล่าว “เงื่อนไขก็คือขนบธรรมเนียมประจำตระกูลต้องดีมาก กลิ่นอายของผู้ฝึกยุทธบนภูเขามากเพียงพอ อีกทั้งยามที่คบค้าสมาคมกับคนอื่นล่างภูเขา ต้องไม่พูดจาตามแต่ใจมากเกินไป จะว่าอย่างไรดีล่ะ หมัดทั้งอยู่บนเวทีประลอง แต่หมัดก็อยู่นอกหมัดเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นทั้งๆ ที่สอนหมัดอย่างจริงจัง ป้อนหมัดอย่างระมัดระวัง แต่กลับเพราะพูดแค่ประโยคสองประโยคผิดไป ทำให้คนเข้าใจผิด ย่อมเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้น ไม่เพียงแต่ทำลายชื่อเสียง ยังก่อให้เกิดคำวิพากษ์วิจารณ์ไม่หยุด สร้างศัตรูไว้ทั่วทุกหนแห่ง ใช้เวลาแค่ไม่กี่สิบปีก็จะถูกโดดเดี่ยวอยู่ในยุทธภพ ถึงเวลานั้นทั้งๆ ที่พวกเราหวังดี แต่กลับต้องเจอถ้อยคำเลวร้าย ไม่ว่าใครก็มิอาจทนรับได้ ไปๆ มาๆ ด้านหนึ่งรังเกียจว่าอีกฝ่ายไร้คุณธรรม อีกด้านรู้สึกว่าอีกฝ่ายใช้อำนาจรังแกคนอื่น สองฝ่ายจึงกลายเป็นเกลียดแค้นกันเอง”
เผยเฉียนกล่าว “ขนบธรรมเนียมประจำตระกูลของพวกเราก็ดีอยู่แล้วไม่ใช่หรือ?”
เฉาฉิงหล่างยิ้มเอ่ย “ไม่ว่าทำเรื่องอะไรก็ตาม หากมีการเตรียมการมาก่อนย่อมสำเร็จได้ แต่หากไม่เตรียมการจะล้มเหลว”
เฉินผิงอันดื่มน้ำชาหนึ่งอึก พยักหน้ายิ้มกล่าว “พูดได้ดีกันทั้งคู่”
นี่เรียกว่ากวนน้ำให้ขุ่นเสียที่ไหน ลูกศิษย์เปิดขุนเขากับลูกศิษย์ผู้เป็นที่ภาคภูมิใจ ต่างก็ดีกันทั้งคู่เลยนี่นา
ลมแม่น้ำโชยมาแผ่วๆ ประกายแสงระยิบระยับ พอเข้าช่วงหน้าหนาว ต่อให้อยู่บนเรือหอเรือน นักท่องเที่ยวก็ไม่รู้สึกหนาว
นี่ก็ต้องยกคุณความชอบให้กับรากภูเขาที่หนาแน่นมากพอของภูเขาผูซานแล้ว เป็นเหตุให้ขุนเขาสายน้ำรอบด้าน ต่อให้จะอยู่ในช่วงหิมะละลายก็ยังมีอากาศอบอุ่น คล้ายกับกระถางไฟธรรมชาติ
สกุลเย่ของเรือนอวิ๋นฉ่าวเป็นเจ้าของที่ดินรายใหญ่ที่บนภูเขายังคงให้การยอมรับ ได้ครอบครองโฉนดที่ดินมากมาย แม้แต่มหาบรรพตของแคว้นเล็กสองแห่ง บวกกับทะเลสาบใหญ่อีกสองแห่ง อันที่จริงต่างก็เป็นอสังหาส่วนตัวของผูซาน
คนทั้งสี่นั่งล้อมโต๊ะน้ำชาอยู่ด้วยกัน เฉินผิงอันนั่งไขว่ห้าง ควักกระบอกยาสูบออกมา เป็นแค่วัสดุไม้ไผ่เขียวธรรมดาในภูเขาเท่านั้น ตรงปากที่ใช้สูบทำมาจากหินหยกขาวในลำคลองหลงซวีซึ่งเอามาแกะสลัก เส้นยาสูบสีเหลืองทองหนึ่งถุงถูกเฉินผิงอันขยำเป็นก้อนเล็กๆ
เอาอย่างตอนที่หยางเหล่าโถวสูบยา ก็มีแค่สถานการณ์สองอย่างเท่านั้น หากไม่จำเป็นต้องตั้งใจคิดเรื่องบางอย่าง คิดเรื่องน่ากังวลทั้งใกล้และไกลไปพร้อมกัน ไม่อย่างนั้นก็เหมือนอย่างตอนนี้ วันนี้ไม่มีเรื่องอะไร จึงไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!