กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 908

ไต้​หยวน​อยู่​ใน​พรรค​ นอกจาก​บ่อ​ไข่มุก​มรกต​แล้ว​ อันที่จริง​ก็​ไม่มีอำนาจ​ที่​แท้จริง​อีก​ ผู้ฝึก​ตน​ของ​พรรค​ชิงจ้วน​ที่​จัดการ​ดูแล​กิจธุระ​ทุกอย่าง​อย่าง​แท้จริง​ล้วน​เป็น​คนสนิท​ของ​บรรพ​จารย์​เกา​ซูเห​วิน​ คน​ที่​ดูแล​เงิน​คือ​ชู้รัก​ของ​บรรพ​จารย์​เกา​ นอกจาก​นาง​จะดูแล​คลัง​ทรัพย์สิน​แล้ว​ สตรี​ทรง​เสน่ห์​ที่​นอกจาก​บรรพ​จารย์​เกา​แล้วก็​ไม่เคย​มอง​ใคร​เต็มๆ​ ตา​ผู้​นี้​ยัง​รับผิดชอบ​ดูแล​ทุกอย่าง​ของตลาด​ภูเขา​หยก​ขาว​ด้วย​ อีก​ทั้ง​ผู้คุม​กฎ​ของ​พรรค​ก็​คือ​ผู้ฝึก​ตน​เฒ่าขอบเขต​ประตู​มังกร​คน​หนึ่ง​ที่​คุณสมบัติ​ธรรมดา​อย่าง​มาก​ แต่กลับ​ได้​เนื้อ​ชิ้น​โต​อย่าง​สระ​เรียก​มังกร​ไป​ ก็เพราะว่า​เป็น​ลูกศิษย์​ผู้สืบทอด​ของ​บรรพ​จารย์​เกา​ จึงวาง​อำนาจบาตรใหญ่​ เวลา​ปกติ​เจอ​เซียน​ดิน​โอสถ​ทอง​เช่น​ตน​มักจะ​ชอบ​คลี่​ยิ้ม​เสแสร้ง​ เรียก​คำ​แล้ว​คำ​เล่า​ว่า​ศิษย์​หลาน​ไต้​

จางหลิว​จู้ถามอย่าง​เยือกเย็น​ “บ้านเกิด​ของ​สหาย​ท่าน​นี้​อยู่​ที่ใด​ ขอ​ทราบ​นาม​ของ​เจ้าได้​หรือไม่​?”

เด็กหนุ่ม​ชุด​ขาว​ยังคง​ค้าง​อยู่​ใน​ท่า​ประหลาด​นั้น​ พูด​ด้วย​สีหน้า​จริงใจ​ “ข้า​คือ​ตง​ซาน​ไงล่ะ​”

จางหลิว​จู้ยิ้ม​ถาม “ถ้าอย่างนั้น​ไม่ทราบ​ว่า​สหาย​ตง​ซาน​มานาน​แค่​ไหน​แล้ว​ ได้ยิน​ไป​มาก​น้อย​แค่​ไหน​แล้ว​?”

อีก​ฝ่าย​สะบัด​พระ​ราชโองการ​ฉบับ​หนึ่ง​ใน​มือ​เสียงดัง​พั่บๆ​ พูด​ด้วย​สีหน้า​จริงจัง​ว่า​ “มาถึงก่อน​พวก​เจ้าครู่หนึ่ง​ เมื่อครู่นี้​มัวแต่​ชื่นชม​พระ​ราชโองการ​กล่าวโทษ​ตัวเอง​ของ​ฮ่องเต้​ฉบับ​นี้​ อะไร​ที่​บอ​กว่า​เฝ้าเอง​ขโมย​เอง​ เสียใจ​ก็​สาย​ไป​แล้ว​พวก​นั้น​ ข้า​ล้วน​ไม่ได้ยิน​ ดังนั้น​จึงไม่มีความจำเป็น​ที่จะ​ต้อง​ฆ่าคน​ปิดปาก​”

จางหลิว​จู้สีหน้ามืด​ทะมึน​ เจ้าตัวดี​ พูดจา​กวน​อารมณ์​นัก​

เด็กหนุ่ม​ชุด​ขาว​เก็บ​พระ​ราชโองการ​ฉบับ​นั้น​ใส่ไว้​ใน​ชาย​แขน​เสื้อ​ ยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ “ฮ่าๆ จางอันดับ​หนึ่ง​ได้ยิน​ว่า​ข้า​มาถึงที่นี่​นาน​แล้วก็​เลย​โล่งใจ​ใช่หรือไม่​? รู้สึก​ว่า​อย่าง​มาก​ข้า​ก็​แค่​เชี่ยวชาญ​ด้าน​การ​เก็บงำ​ลมปราณ​ หาก​ต้อง​ประมือ​กัน​ขึ้น​มาจริงๆ​ ก็​ไม่แน่​เสมอไป​ว่า​จะต่อสู้​เก่ง​สัก​เท่าไร​ หึ​ นี่​เป็น​เพราะ​จางอันดับ​หนึ่ง​ดี​ใจเร็ว​เกินไป​แล้ว​ เพราะ​ข้า​หลอก​พวก​เจ้าหรอก​นะ​ ข้า​ติดตาม​พวก​เจ้ามาตลอดทาง​จน​เข้ามา​ใน​หอ​เติง​หมี​แห่ง​นี้​ เห็น​ว่า​พวก​เจ้าพูดคุย​กัน​อย่าง​ถูกคอ​จึงตัดใจ​ขัดจังหวะ​ไม่ลง​ ก็​เลย​นอน​พัก​อยู่​บน​ซุ้มองุ่น​ไป​ครู่หนึ่ง​ ไม่เชื่อ​ใช่ไหม​? ไม่เชื่อ​ก็​ลองดู​ใต้​ฝ่าเท้า​ของ​พวก​เจ้าสิมีเมล็ด​องุ่น​กอง​เล็ก​ๆ กอง​อยู่​ใช่หรือไม่​?”

ไต้​หยวน​รีบ​ก้มหน้า​มอง​ลง​ไป​ทันที​ จางหลิว​จู้กลับ​นั่ง​นิ่ง​ไม่ขยับ​ คน​ทั้งสอง​เป็น​ผู้ฝึก​ตน​เซียน​ดิน​ที่​ห่าง​กัน​แค่​ขอบเขต​เดียว​ ทว่า​นี่​ก็​คือ​ความแตกต่าง​ที่​แท้จริง​ของ​เซียน​ซือ​ทำเนียบ​กับ​ผู้ฝึก​ตน​อิสระ​แล้ว​

จางหลิว​จู้แสร้ง​ทำเป็น​เยือกเย็น​ ลูบ​หนวด​ยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “สหาย​ท่าน​นี้​ไม่เดิน​บน​เส้นทาง​ปกติ​จริงๆ​”

ผู้ฝึก​ตน​คน​หนึ่ง​ที่มา​นอน​อยู่​บน​ซุ้มองุ่น​นาน​เป็น​ครึ่ง​ๆ วัน​โดยที่​ตน​สัมผัส​ไม่ได้​เลย​แม้แต่น้อย​ ต้อง​เป็น​ศัตรู​ที่​ร้ายกาจ​แน่นอน​!

ชุยตง​ซาน​พลิกตัว​หมุน​กลับ​ ใช้สอง​มือ​ดัน​ซุ้มองุ่น​ พลิ้ว​กาย​ลง​บน​พื้น​ สะบัด​ชาย​แขน​เสื้อ​ ยืน​พิง​เสาต้น​หนึ่ง​ของ​ซุ้มองุ่น​ “เอาล่ะ​ ไม่มัว​อ้อมค้อม​กับ​พวก​เจ้าแล้ว​ ข้า​ยัง​มีธุระ​ต้อง​ไป​ทำ​”

ชุยตง​ซาน​มอง​ไป​ยัง​ก่อกำเนิด​ผู้เฒ่า​ “อาจารย์​ข้า​กังวล​ว่า​เจ้าจะพูด​ไม่ชัดเจน​ วาด​งูเติม​ขา​กับ​ไต้​หยวน​ ถึงได้​ให้​ข้า​มาที่​เมือง​ลั่ว​จิง เรื่องจริง​ก็​พิสูจน์​ให้​เห็น​แล้ว​ว่า​อาจารย์​ข้า​คิด​ถูก​ จางหลิว​จู้เจ้าทำตัว​อวด​ฉลาด​ ไม่เป็นไร​ ใน​เมื่อ​ข้า​มาแล้วก็​จะไม่ปล่อย​ให้​พวก​เจ้าสอง​คน​เลอะเลือน​หรือไม่​ก็​แสร้ง​เลอะเลือน​แล้ว​”

ชุยตง​ซาน​หันหน้า​ไป​มอง​ทาง​ไต้​หยวน​ พูด​อย่าง​ตรงไปตรงมา​ว่า​ “ไต้​หยวน​ ภายใน​หนึ่งร้อย​ปี​ เจ้าอยาก​เป็น​เจ้าประมุข​รุ่น​ที่​แปด​ที่​ได้รับ​ความไว้วางใจ​จาก​ทุก​คนใน​พรรค​ชิงจ้วน​หรือไม่​? นอกจากนี้​คนเก่ง​ย่อม​ต้อง​เหนื่อย​กว่า​คนอื่น​ จึงต้อง​ควบ​ตำแหน่ง​ผู้​ถวายงาน​วงใน​อันดับ​หนึ่ง​ของ​ราช​วงศ์สกุล​อวี๋​แห่ง​นี้​ไป​ด้วย​?”

ไต้​หยวน​มีสีหน้า​กระอักกระอ่วน​ คนบ้า​จาก​ไหน​กัน​นี่​ ถึงกับ​กล้า​มาพูดจา​เหลวไหล​อยู่​ตรงนี้​

ชุยตง​ซาน​เห็น​ว่า​เขา​ไม่พูด​ก็​พยักหน้า​ด้วย​รอยยิ้ม​ “ดีมาก​ จะถือว่า​เจ้าเห็นด้วย​แล้ว​”

จากนั้น​จึงหันไป​เอ่ย​กับ​จางหลิว​จู้ “ส่วน​จางอันดับ​หนึ่ง​ หมวก​ขุนนาง​ของ​เสี่ยว​หลง​ชิว​ถือว่า​ใหญ่​มาก​พอแล้ว​ ไม่อาจ​เลื่อนตำแหน่ง​สูงกว่า​นี้​ได้​อีกแล้ว​ จะให้​เจ้าไป​เป็น​เจ้าขุนเขา​ก็​คง​ไม่ได้​กระมัง​ เพราะ​ถึงอย่างไร​ก็​เป็น​คนนอก​ ไม่สมเหตุสมผล​ ไม่มีหลินฮุ่ย​จื่อ​และ​เฉวียน​ชิงชิว​ ก็​ใช่ว่า​ต้า​หลง​ชิวจะ​ไม่มีคนอื่น​ให้​ใช้งาน​อีก​”

หน้า​ของ​จางหลิว​จู้เปลี่ยนสี​ไป​เล็กน้อย​ นี่​คือ​เรื่อง​ลับ​อันดับ​หนึ่ง​ของ​เสี่ยว​หลง​ชิว​ คน​ผู้​นี้​รู้​ได้​อย่างไร​?!

ชุยตง​ซาน​ยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “อาจารย์​ของ​ข้า​บอก​แล้ว​ว่า​ ค่าตอบแทน​จาก​การ​ที่​เจ้านำ​ความ​มาบอกต่อ​ที่​เมือง​ลั่ว​จิงคราวนี้​ เขา​สามารถ​ช่วย​พูด​ทวง​ความเป็นธรรม​แทน​เจ้าที่​เสี่ยว​หลง​ชิว​ได้​ อนุญาต​ให้​เจ้ารักษา​ยศ​เค่อ​ชิงอันดับ​หนึ่ง​เอาไว้​ได้​ จากนั้น​ค่อย​ไปหา​ตำแหน่ง​ขุนนาง​บางอย่าง​จาก​ราชวงศ์​ต้าฉง​มา ยกตัวอย่างเช่น​ตำแหน่ง​…ราชครู​? ดังนั้น​หลังจาก​เจ้าออก​ไป​จาก​เมือง​ลั่ว​จิงก็​ไม่ต้อง​กลับ​เสี่ยว​หลง​ชิว​ทันที​ ให้​ตรง​ไป​ที่​ราชวงศ์​ต้าฉง​ได้​เลย​ ไปหา​รอง​เจ้ากรม​โยธา​ที่​ชื่อว่า​ไช่โย่วจ​วิน​ บอก​ไป​ว่า​ตัวเอง​เป็นเพื่อน​บน​ภูเขา​ของ​โจว​เฝย​ ยินดี​ที่จะ​เป็น​กุนซือ​ห้อง​บัญชี​ให้​เขา​ชั่วคราว​สี่ห้า​ปี​ อาจารย์​ยัง​ให้​ข้า​เตือน​เจ้าว่า​ใจร้อน​ย่อม​กิน​เต้าหู้​ร้อน​ไม่ได้​ ใช้เวลา​แค่​ไม่กี่​ปี​ อดทน​ทำความเข้าใจ​กับ​เบื้องลึก​เบื้องหลัง​วงการ​ขุนนาง​ของ​ราชวงศ์​ต้าฉง​ให้​ชัดเจน​เสีย​ก่อน​ จางอันดับ​หนึ่ง​ นี่​เรียก​ว่า​?”

จางหลิว​จู้รีบ​คำ​ต่อ​ทันใด​ “ลับ​มีด​ให้​คม​ย่อม​ผ่า​ฟืน​ได้​ง่าย​!”

เหล้า​หลง​ชิว​หนึ่ง​กา​ดื่ม​จน​ก่อกำเนิด​ผู้เฒ่า​ร้อน​ลวก​ไป​ทั้ง​ใจทั้ง​ตับ​ไต​ไส้พุง​ ราวกับว่า​ราชครู​ต้าฉง​ได้​เป็น​ของ​ที่​หล่น​มาอยู่​ใน​กระเป๋า​ของ​ตัวเอง​เรียบร้อย​แล้ว​

ส่วน​สหาย​ตรง​หน้าที่​เรียก​ตัวเอง​ว่า​ ‘ตง​ซาน​’ ผู้​นี้​ ใน​เมื่อ​เป็น​ลูกศิษย์​ผู้​เป็นที่​ภาคภูมิใจ​ของ​เซียน​กระบี่​เฉิน​ ถ้าอย่างนั้น​ก็​เป็น​คนกันเอง​ครึ่งตัว​แล้ว​

ประเด็นสำคัญ​คือ​เซียน​กระบี่​เฉิน​คล้าย​จะปู​ทาง​ให้​เขา​ราวกับ​คาดการณ์​ได้​ล่วงหน้า​ คิดได้​ตรง​กับ​ที่​จางหลิว​จู้คิด​ไว้​ใน​ใจพอดี​ ราชวงศ์​ต้าฉง​ที่​เป็น​ดั่ง​ตะ​วันลอย​ขึ้น​กลาง​นภา​นั้น​ก็​คือ​ ‘สถาน​ประกอบ​พิธีกรรม​’ ที่​ดี​ที่สุด​ที่​ก่อกำเนิด​เฒ่าต้องการ​ใช้มัน​แสดง​ฝีมือ​ที่สุด​

ขณะเดียวกัน​จางหลิว​จู้ก็​เกิด​ความเคารพ​ยำเกรง​ต่อ​เซียน​กระบี่​เฉิน​ที่​สามารถ​มอง​ทะลุ​ความคิด​จิตใจ​ของ​ผู้อื่น​ได้​อย่าง​ง่ายดาย​มากกว่า​เดิม​

พอ​หวนนึก​ไป​ถึงเหตุ​เปลี่ยนแปลง​ใน​สวนป่า​ของ​เสี่ยว​หลง​ชิว​ จางหลง​จู้ก็​มีความรู้สึก​เหมือน​เกิด​ภาพลวงตา​ว่า​ เซียน​กระบี่​ใหญ่​เฉิน​ที่​เวท​กระบี่​เลิศ​ล้ำ​ผู้​นั้น​ ไม่ว่า​จะนิสัยใจคอ​ วิธีการ​ หรือ​บุคลิก​ก็​เหมือน​จะคล้าย​ผู้ฝึก​ตน​อิสระ​มากกว่า​

พลิก​มือ​เรียก​ฝน​พลิก​มือ​เรียก​เมฆ เพียง​ชั่วพริบตา​ก็​ทำให้​ผู้ฝึก​ตน​ทำเนียบ​ก่อกำเนิด​สอง​คน​ของ​เสี่ยว​หลง​ชิวก​ลาย​เป็น​นักโทษ​ได้​ ทุกวันนี้​ถูก​หลง​หรา​น​เซียน​จวิน​จับตัว​ไป​ที่​สำนัก​เบื้องบน​แผ่นดิน​กลาง​ ไม่รู้​ว่า​เป็น​หรือ​ตาย​

ชุยตง​ซาน​พยักหน้า​เอ่ย​ชื่นชม​ “เด็ก​ที่​สามารถ​สั่งสอน​ได้​ อนาคต​ยาว​ไกล​ไร้ขีดจำกัด​”

จากนั้น​ชุยตง​ซาน​ก็​ยก​ชาย​แขน​เสื้อ​ข้าง​หนึ่ง​ขึ้น​ โบก​ไล่​กลิ่น​เครื่อง​ประทิน​โฉมของ​สตรี​ที่​วนเวียน​อยู่​รอบกาย​เนิ่นนาน​ไม่จางหาย​ทิ้ง​ไป​ จุ๊ปาก​เอ่ย​ “พวก​ท่าน​ทั้งสอง​ต่าง​ก็​เป็น​ผู้ฝึก​ตน​เซียน​ดิน​ที่​มีปณิธาน​ยิ่งใหญ่​ ต้อง​ทำตัว​ให้​สะอาด​สำรวม​เข้า​ไว้​นะ​ ต้อง​รู้จัก​อบรม​บ่ม​เพาะ​ตัวเอง​ให้​ดี​ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​กับ​ผู้ฝึก​ตน​หญิง​บน​ทำเนียบ​ ดื่มเหล้า​เคล้า​นารี​ให้​น้อย​หน่อย​ ทำสงคราม​เทพ​เซียน​ให้​น้อย​หน่อย​ เก็บ​ออม​แรง​เอาไว้​บ้าง​ สะสมชื่อเสียง​อัน​ดีงาม​ ไม่อย่างนั้น​คน​หนึ่ง​คือ​ว่าที่​ราชครู​ต้าฉง​ในอนาคต​ คน​หนึ่ง​คือ​ว่าที่​เจ้าประมุข​รุ่น​ที่​แปด​ของ​พรรค​ชิงจ้วน​ ภาพ​จำที่​ใหญ่​ที่สุด​ที่​มอบให้​กับ​คนนอก​กลับ​มีแต่​ภาพ​กลุ่ม​บุปผา​นารี​ แบบนี้​ไม่ค่อย​เข้าท่า​แล้ว​ บน​ภูเขา​ของ​ใบ​ถงทวีป​ทุกวันนี้​จะว่า​ใหญ่​ก็​ใหญ่​ จะว่า​เล็ก​ก็​เล็ก​มาก​ เรื่อง​ดี​ไม่ออกจาก​บ้าน​ คำพูด​เลวร้าย​แพร่​ไป​ไกล​ได้​พัน​ลี้​”

ไต้​หยวน​เหลือบตา​มอง​จางหลิว​จู้ จางหลิว​จู้นั่ง​ตัวตรง​อยู่​ที่​เดิม​ สายตา​มอง​ตรง​ไม่ลอกแลก​

ชุยตง​ซาน​ยกนิ้ว​ข้าง​หนึ่ง​ขึ้น​ ชี้ๆ จิ้มๆ ไป​ที่​เซียน​ดิน​ทั้งสอง​ท่าน​ “อาจารย์​กับ​ข้า​ไม่ต้องการ​ให้​แขก​ผู้สูงศักดิ์​ของ​ภูเขา​บ้าน​ตัวเอง​ในอนาคต​เป็น​วีรบุรุษ​ที่​ชอบ​คลุกคลี​อยู่​ใน​ดง​ผง​เครื่อง​ประทิน​โฉม เกลือกกลั้ว​อยู่​ใน​กระโจม​ชวน​รัก​ชวน​ฝัน​และ​สยบ​อยู่​เบื้อง​ใต้​กระโปรง​สีทับทิม​หรอก​นะ​”

จางหลิว​จู้ขุ่นเคือง​เล็กน้อย​ ใน​ใจสบถ​ด่าว่า​ไต้​หยวน​เจ้าทำให้​ข้า​เดือดร้อน​!

ก่อน​จะรู้จัก​กับ​ไต้​หยวน​ ข้า​ผู้อาวุโส​ขึ้นชื่อว่า​เป็น​คน​ที่​มานะ​ใน​การ​ฝึก​ตน​ ไหน​เลย​จะรู้จัก​ผู้ฝึก​ตน​หญิง​ทำเนียบ​ เทพธิดา​ผายลม​สุนัข​อะไร​

ชุยตง​ซาน​ปรบมือ​ ยิ้ม​เอ่ย​ “ก็​เหมือน​อย่าง​ที่​จางอันดับ​หนึ่ง​พูด​เมื่อครู่นี้​ พวกเรา​สามคน​ควร​ร่วมแรงร่วมใจ​ ร่วมมือ​กัน​อย่าง​จริง​ใจดี​ไหม​?”

จางหลิว​จู้และ​ไต้​หยวน​ต่าง​ก็​ลุกขึ้น​คารวะ​ พูดจา​มั่นเหมาะ​น่าเชื่อถือ​ ขาด​ก็​แค่​ไม่ได้​สาบาน​ต่อ​ฟ้าเท่านั้น​

สุดท้าย​ชุยตง​ซาน​สะบัด​ชาย​แขน​เสื้อ​ หัวเราะ​หน้าทะเล้น​ “ข้า​เอง​ก็​จะวาด​งูเติม​ขา​เลียนแบบ​จางอันดับ​หนึ่ง​ดู​บ้าง​ ปิดประตู​ลง​แล้วก็​พูดจา​ภาษาคนกันเอง​ หาก​พวก​เจ้าสอง​คน​กล้า​ทำผิด​แล้ว​ผิด​อีก​ วันใด​ทำให้​อาจารย์​ของ​ข้า​ต้อง​ผิดหวัง​ ข้า​จะซ้อม​พวก​เจ้าปางตาย​เสีย​ก่อน​ แล้ว​ค่อย​ทำให้​พวก​เจ้าเข้าใจ​ว่า​อะไร​ที่​เรียก​ว่า​อยู่​ไม่สู้ตาย​”

ก่อนที่​ชุยตง​ซาน​จะออก​มาจาก​ภูเขา​เซียน​ตู​ อาจารย์​ของ​เขา​เคย​ถามคำถาม​ที่​น่าสนใจ​มาก​ข้อ​หนึ่ง​

หาก​ได้รับ​การอนุญาต​อย่าง​ลับ​ๆ จาก​เหวย​อิ๋ง​เจ้าสำนัก​กุย​หยก​ ให้​ผลประโยชน์​ล่อลวง​ใจที่​ไม่ต่างกัน​สัก​เท่าไร​ จางไต้​สอง​คน​ก็​จะติดตาม​เหวย​อิ๋ง​เหมือนกัน​ อีก​ทั้ง​ยัง​ยอม​ปรนนิบัติ​รับใช้​อย่าง​ถวายหัว​เลย​หรือไม่​

ชุยตง​ซาน​พยักหน้า​บอ​กว่า​ใช่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!