กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 908

บัณฑิต​แซ่จงกับ​เจ้าอ้วน​ข้าง​กาย​ที่​อ้วน​จน​เหมือน​จะมีไขมัน​ไหล​เยิ้ม​ออกมา​ที่​บอ​กว่า​ตัวเอง​ชื่อ​กู​ซู แซ่อวี่​ ทุกวัน​เอาแต่​ป้วนเปี้ยน​อยู่​ข้าง​กาย​หญิง​งาม ปาก​เรียก​นาง​ว่า​พี่สาว​ แต่กลับ​เรียก​ตัวเอง​ว่า​พี่​อวี่​

ชายฉกรรจ์​สวม​เสื้อเกราะ​ที่​ดาบ​ไม่ห่าง​กาย​ซึ่งเป็น​หัวหน้า​คน​นั้น​ คือ​ผู้ฝึก​ยุทธ​ขอบเขต​ห้า​ เขา​กับ​สตรี​โต​เต็ม​วัย​ที่​มีชาติกำเนิด​มาจาก​ผู้ฝึก​ตน​อิสระ​รู้จัก​กัน​กลางทาง​ ถือเป็น​ยวน​ยาง​ป่า​ที่​จับคู่​กัน​ชั่วคราว​

สาวงาม​มีนาม​ว่า​วัง​ม่าน​เมิ่ง ตัว​ไม่สูง เรือน​กาย​เล็ก​กะทัดรัด​ ความขาว​สามารถ​บดบัง​ร้อย​ความอัปลักษณ์​ได้​ แล้ว​นับประสาอะไร​กับ​ที่​สตรี​ก็​เกิด​มาหน้าตา​งดงาม​หยาดเยิ้ม​ บวก​กับ​ที่​นาง​ยัง​ชอบ​สวม​ชุด​รัดรูป​สำหรับ​เดินทาง​ตอนกลางคืน​ สวม​รองเท้า​ปัก​ลาย​ เวลา​เดิน​ยัง​จงใจบิด​เอว​ ราวกับว่า​หาก​โดน​ลม​พัด​มานาง​ก็​อาจจะ​ล้ม​ลง​ไป​กอง​อยู่​กับ​พื้น​ได้​ทุกเมื่อ​

ทุกครั้งที่​นาง​ได้​เห็น​เจ้าอ้วน​แซ่อวี่​ที่​ใบหน้า​เต็มไปด้วย​เนื้อ​ไขมัน​ก็ได้​แต่​ข่ม​กลั้น​ความ​สะอิดสะเอียน​เอาไว้​ แสร้ง​ทำเป็น​ยินยอม​คล้อยตาม​

ยัง​ดี​ที่สาม​ชั่ว​ยาม​ก่อน​และ​หลัง​ช่วง​เที่ยง​ของ​ทุกวัน​ยัง​สามารถ​ค้นหา​สมบัติ​เงินทอง​และ​ของโบราณ​ล้ำค่า​ได้​ต่อไป​ เพียงแต่ว่า​ใน​เมือง​ที่​พวกเขา​อยู่​แห่ง​นี้​ ผล​เก็บเกี่ยว​ที่​ได้รับ​ยัง​ต้อง​ถูก​กู่​ชิว​ที่​มีสถานะ​ประหลาด​จด​ลงบันทึก​ แบ่งแยก​เป็น​ประเภท​ต่างๆ​ แล้ว​ประเมินราคา​คร่าวๆ​ เพราะ​จาก​ข้อตกลง​ที่​พวกเขา​มีกับ​บัณฑิต​แซ่จง ผล​เก็บเกี่ยว​สิบ​ส่วน​ พวกเขา​จะได้​ส่วนแบ่ง​ไป​แค่​ส่วน​เดียว​เท่านั้น​

แรกเริ่ม​แน่นอน​ว่า​ทุกคน​ต่าง​ไม่พอใจ​ ใต้​หล้า​มีการค้า​แบบนี้​เสีย​ที่ไหน​ จึงวางแผน​ร่วมกัน​เป็นการ​ส่วนตัว​ ความกล้าหาญ​พลัน​บังเกิด​ ฉวยโอกาส​ที่​มือ​ดาบ​ชุด​เขียว​ซึ่งปรากฏตัว​ลึกลับ​ ตบะ​ลึกล้ำ​เกิน​จะคาดเดา​ไม่อยู่​ใน​เมือง​ชั่วคราว​ จึงเตรียม​จะเล่นงาน​คน​แซ่จง กลางดึก​ที่​ค่ำคืน​มืดมิด​ลมแรง​คืนหนึ่ง​ จงใจทิ้ง​กู่​ชิว​เอาไว้​ หมาย​จะร่วมมือ​กัน​ฆ่าบัณฑิต​ยากจน​คน​นั้น​ทิ้ง​ซะ กลับ​กลายเป็น​ฝ่าย​โดน​ซ้อม​เสีย​จน​ร้อง​โหยหวน​ มีเพียง​สาวงาม​ที่​ถูก​เจ้าอ้วน​เรียก​ว่า​พี่สาว​ พูด​อย่าง​เจ็บ​ปวดใจ​ว่า​พี่สาว​ท่าน​ช่างเลอะเลือน​นัก​ แม้ว่า​นาง​จะถูกจับ​แขวน​เอา​หัว​ห้อย​พื้น​เหมือน​คนอื่นๆ​ แต่กลับ​ไม่ได้​ถูก​ซ้อม​

หลังจาก​คืน​นั้น​มา ทุกคน​ต่าง​ก็​ยอมรับ​ชะตากรรม​กัน​แต่​โดยดี​

ท่ามกลาง​ม่าน​ราตรี​ของ​คืนนี้​ ใน​ศาล​เทพ​อภิบาล​เมือง​ของ​เข​ตก​การปกครอง​เก่า​ ผี​วิญญาณ​หยิน​ต่าง​ก็​ถอยร่น​ออก​ไป​หมด​แล้ว​ กู่​ชิว​ที่นั่ง​อยู่​ด้านหลัง​โต๊ะทำงาน​ตัว​ใหญ่​ของ​ท่าน​เทพ​อภิบาล​เมือง​ใน​อดีต​วาง​พู่​กันลง​เบา​ๆ เงยหน้า​มอง​ไป​ยัง​…ผี​ที่นั่ง​อยู่​บน​ธรณีประตู​ของ​ห้องโถง​ใหญ่​ ถามเสียง​เบา​ว่า​ “อาจารย์​จง ทำไม​ถึงไม่บอก​พวกเขา​ไป​ตามตรง​ว่าการ​ที่​ท่าน​บีบ​ให้​พวกเขา​ทำ​เช่นนี้​อยู่​ทุกวัน​ ทั้ง​ทำให้​พวกเขา​สามารถ​มีชีวิต​ต่อไป​ได้​ แล้ว​ยัง​หา​เงินได้​ด้วย​ ยิ่ง​สามารถ​ช่วย​สะสมบุญ​กุศล​ให้​กับ​พวกเขา​”

จงขุย​นั่ง​หันหลัง​ให้​กับ​กู่​ชิว​ที่​เป็น​ผี​เช่นเดียวกัน​ เอ่ย​ว่า​ “นี่​เกี่ยวพัน​ไป​ถึงการ​มีใจทำ​ความดี​กับ​การ​ไร้​เจตนา​ทำความ​ชั่ว​ เจ้าสามารถ​ใคร่​ครวญถึง​ความรู้​ที่อยู่​ใน​นี้​ดู​ให้​ดี​ได้​ วันใด​คิดได้​จน​กระจ่าง​แล้ว​ ไม่แน่​ว่า​เจ้าอาจจะ​สามารถ​นั่ง​บน​ตำแหน่ง​ของ​เทพ​อภิบาล​เมือง​ได้​อย่าง​มั่นคง​ สามารถ​พลิก​สมุดบันทึก​คุณความดี​ได้​”

กู่​ชิว​ผู้​นี้​ ตอนที่​มีชีวิต​อยู่​เคย​เป็น​ทายาท​ของ​ขุนนาง​กอง​การ​ถัก​ทอ​ของ​ราชวงศ์​ต้าย​วน​ เป็น​จิ้น​ซื่อ​สอบ​ติด​สอง​กระดาน​ เป็น​นายอำเภอ​ของ​อำเภอ​แห่ง​หนึ่ง​ซึ่งอยู่​ใกล้เคียง​กับ​ตัว​เขตการปกครอง​แห่ง​นี้​ เพียงแต่ว่า​บัณฑิต​อ่อนแอ​คน​หนึ่ง​ยก​ดาบ​ฆ่าฟัน​ จะสามารถ​ต้านทาน​อะไร​ได้​ จะสามารถ​ปกป้อง​อะไร​ได้​ จึงถูก​ผู้ฝึก​ตน​เผ่า​ปีศาจ​ที่​บุก​นำ​เข้ามา​ใน​ที่ว่าการอำเภอ​ฉีก​ทึ้ง​ร่าง​จน​ตายทั้งเป็น​ ตาย​อย่าง​เจ็บปวด​ทรมาน​ทั้ง​สภาพ​ยัง​น่า​อเนจอนาถ​ แต่​เจอ​กับ​หายนะ​เช่นนี้​แล้ว​ หลัง​ตาย​ไป​กลับ​ไม่ได้​กลาย​ไป​เป็น​ผี​ร้าย​ แต่​ยัง​รักษา​สติปัญญา​เสี้ยว​หนึ่ง​เอาไว้​ได้​ กลายเป็น​ผี​เร่ร่อน​เตร็ดเตร่​อยู่​ที่นี่​ ถึงขั้น​ที่ว่า​ค่อยๆ​ กลาย​มาเป็นเจ้าของ​เมืองผี​แห่ง​นี้​ แล้ว​ยัง​รับเอา​ ‘ผี​สาว​ขี้อาย​’ ที่อยู่​ใน​ลานบ้าน​ขนาดเล็ก​ต้น​ท้อ​ไว้​เป็น​ผี​ชางบ​ริ​วาร​ เนื่องจาก​ไม่ชอบ​เจ้าคน​ที่ตั้ง​ตน​เป็น​จักรพรรดิ​พระองค์​ใหม่​ของ​ราชวงศ์​ต้าย​วน​ ทำ​อะไร​อย่าง​ขอไปที​เกินไป​ ไม่แยกแยะ​ถูก​ผิด​ ไม่ถามถึงสถานะ​ของ​คนตาย​ จึงเก็บ​รวบรวม​ซาก​โครงกระดูก​ทั้งหลาย​มา ระหว่าง​ที่​เคลื่อนย้าย​พวก​มัน​ปริ​แตก​ไม่เหลือ​ชิ้น​ดี​ กู่​ชิว​จึงเคย​พยายาม​ไป​เยี่ยมเยือน​กระ​โจมทัพ​ยามค่ำคืน​ หวัง​จะปรึกษา​กับ​แม่ทัพ​บู๊​ที่​รับผิดชอบ​จัด​งานพิธี​ทำบุญ​อุทิศ​ส่วนกุศล​ให้​แก่​ผู้ล่วงลับ​คน​นั้น​ดี​ๆ ผล​คือ​ถูก​มอง​เป็น​ผี​ร้าย​ที่มา​ก่อกวน​ ไม่สนใจ​กู่​ชิว​ที่​พยายาม​หลบเลี่ยง​การ​โจมตี​ของ​ผู้ฝึก​ตน​พลาง​พูด​อธิบาย​ซ้ำไปซ้ำมา​เลย​สักนิด​ คงจะ​เห็น​เขา​เป็นคุณ​ความชอบ​ทางการทหาร​อย่างหนึ่ง​กระมัง​ นับแต่​นั้น​มากู่​ชิว​ก็​หมดอาลัยตายอยาก​

เด็กสาว​ที่​เป็น​ผี​ชางหิ้ว​เหล้า​สอง​กา​ที่​หมัก​มานาน​หลาย​ปี​มาที่​ศาล​เทพ​อภิบาล​เมือง​ โยน​เหล้า​กา​หนึ่ง​ให้​กับ​จงขุย​

จงขุย​ลุก​ขึ้นไป​รับ​กา​เหล้า​ พูด​ด้วย​สีหน้า​จริงจัง​ว่า​ “เสี่ยว​ฝ่าง ห้าม​มีความคิด​ไม่ซื่อ​มาชอบ​พี่​จงเข้า​ล่ะ​”

เด็กสาว​ผี​ชางนาม​ว่า​เสี่ยว​ฝ่างคลี่​ยิ้ม​หวาน​ “ไม่มีทาง​”

จงขุย​จึงรู้สึก​ผิดหวัง​เล็กน้อย​ “แอบ​ชอบ​ก็​ไม่ได้​เป็นปัญหา​สัก​เท่าไร​หรอก​นะ​”

เด็กสาว​ส่าย​หน้ายิ้ม​บาง​ๆ “ไม่มีทาง​อีก​เหมือนกัน​”

จงขุย​ทอดถอนใจ​ นั่ง​กลับ​ลง​ไป​บน​ธรณีประตู​ แกะ​ผนึก​ดิน​ออก​ สูด​ดมกลิ่น​ พูด​บ่น​กับ​ตัวเอง​อย่าง​น้อยเนื้อต่ำใจ​ “ต้องโทษ​กลิ่นอาย​เที่ยงธรรม​ที่​ดุดัน​บน​ร่าง​ของ​ข้า​ ไม่รู้​ว่า​ขับไล่​โชคชะตา​ดอก​ท้อ​ไป​กี่มากน้อย​แล้ว​”

กู่​ชิว​รู้สึก​จนใจ​อยู่​บ้าง​

อาจารย์​จงผู้​นี้​ไม่ว่า​อะไร​ก็ดี​หมด​ มีเพียง​เรื่อง​นี้​ที่​ออกจะ​ไม่ได้ความ​

จงขุย​ดื่มเหล้า​หมด​ก็​เดินเท้า​กลับ​ไป​ยัง​ที่พัก​ชั่วคราว​ของ​ตัวเอง​

ไม่รู้​ว่า​เจ้าอ้วน​นั่น​ไป​มั่วสุม​อยู่​ที่ไหน​ กังวล​ว่า​อวี่จิ่น​จะก่อเรื่อง​อะไร​ขึ้น​มาอีก​ จงขุย​จึงยก​ฝ่ามือขึ้น​มา มอง​ขุนเขา​สายน้ำ​ผ่าน​ฝ่ามือ​มองหา​ร่องรอย​ของ​เจ้าอ้วน​ ผล​คือ​ต้อง​รีบ​สลาย​เวท​คาถา​ทิ้ง​ไป​อย่าง​รวดเร็ว​ ส่ายหน้า​อย่าง​ระอา​ใจ

ซาก​ปรัก​โรงเตี๊ยม​ตระกูล​เซียน​แห่ง​หนึ่ง​ใน​เมือง​ อากาศ​บน​พื้นดิน​อบอุ่น​ เป็นช่วง​ปลาย​ฤดูหนาว​ แต่​ดอกไม้​กลับ​ชูช่อ​บานสะพรั่ง​อยู่​บน​พื้นหญ้า​สีเขียว​แห่ง​หนึ่ง​

เสื้อผ้า​หลาย​ชิ้น​ถอด​ระเกะระกะ​อยู่​บน​พื้น​

เรือน​กาย​อวบ​อิ่ม​ผิว​เป็น​สีขาว​ดุจ​หิมะ​ขาวโพลน​กาง​สอง​แขน​ออก​ ต้น​หญ้า​สีเขียว​จึงทะลุ​มาตาม​ร่อง​นิ้ว​

นาง​เชิด​ศีรษะ​ขึ้น​สูง คล้าย​โศกเศร้า​คล้าย​พร่ำบ่น​ เสียง​ลมหายใจ​อ่อนระทวย​ เห็นได้ชัด​ว่า​ถูก​รังแก​มาอย่าง​หนัก​

ทำเอา​เจ้าอ้วน​ที่นอน​ฟุบ​อยู่​บน​หัว​กำแพง​ทอดถอนใจ​ไม่หยุด​

สงคราม​หน้าท้อง​ครั้งหนึ่ง​ กว่า​จะ ‘ตี​กลอง​ถอน​ทัพ​’ ออก​มาจาก​ท่ามกลาง​เสียง​บุรุษ​คำราม​เสียง​สตรี​ร้อง​ครวญคราง​ได้​ไม่ใช่เรื่อง​ง่าย​ นัดหมาย​กัน​ไว้​เรียบร้อย​แล้ว​ว่า​จะนัด​รบ​กัน​ใหม่​

ประเด็นสำคัญ​คือ​พี่สาว​คน​นั้น​ ทั้งๆ ที่​ระหว่าง​นั้น​มองเห็น​เจ้าอ้วน​บน​หัว​กำแพง​ นาง​กลับ​ยังคง​ยิ้ม​หวาน​หยดย้อย​ เลิกคิ้ว​ข้าง​หนึ่ง​ขึ้น​

ทำเอา​เจ้าอ้วน​เกือบ​อดไม่ไหว​เตรียม​จะไป​ ‘ช่วยเหลือ​’ ตะโกน​เสียงดัง​ว่า​รีบ​ปล่อย​พี่สาว​ เจ้าโจร​ชั่ว​อย่า​หวัง​จะทำ​เรื่อง​ชั่วช้า​ได้​สมใจ

กลับ​มาหา​จงขุย​ด้วย​อารมณ์​ขุ่นข้อง​ เจ้าอ้วน​นั่ง​ตัวอ่อน​พิง​ระเบียง​คน​งาม หัวเราะ​หึหึ​เอ่ย​ว่า​ “สมกับ​คำ​ว่า​นัก​เล่น​หมากล้อม​เจอ​คน​ฝีมือ​สูสี แม่ทัพ​มือดี​เจอ​ผู้​มาก​ความสามารถ​จริงๆ​”

กลาง​ระเบียง​วาง​กระถาง​ไฟไว้​สอง​ใบ​ จงขุย​กำลัง​อ่านหนังสือ​ ไม่ต่อ​คำ​

จวน​ขุนนาง​ชั้นสูง​สอง​แห่ง​ใน​เมือง​ที่​เป็น​เพื่อนบ้าน​กัน​ ดูเหมือนว่า​เพื่อนบ้าน​สอง​คน​จะไม่ถูกกัน​ หอ​เก็บ​หนังสือ​แห่ง​หนึ่ง​ตั้ง​ชื่อว่า​หอ​เก็บ​ตำรา​เจ็ด​พัน​เล่ม​ ส่วน​หอ​เก็บ​ตำรา​ของ​อีก​บ้าน​ตั้ง​ชื่อว่า​หอ​เก็บ​ตำรา​แปด​พัน​เล่ม​

อวี่จิ่น​นั่งไขว่ห้าง​ สอง​มือวาง​พาด​ไป​บน​ราว​ระเบียง​ ถามว่า​ “พี่น้อง​จง ผี​ชั่วร้าย​ใน​เมือง​ที่​ถูก​กู่​ชิว​จับตัว​ไป​ไว้​ใน​ศาล​เทพ​อภิบาล​เมือง​ประจำ​อำเภอ​ ใน​เมื่อ​ช่วย​กลับมา​หมด​แล้ว​ ไม่สู้พวกเรา​?”

เส้นทาง​น้ำพุ​เหลือง​ไม่มีที่​ให้​ค้างแรม​

โลก​สว่าง​คน​ฆ่าคน​ โลก​มืด​ผี​กิน​ผี​

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!