กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 908

เวินอวี้​ถาม “เหตุ​เปลี่ยนแปลง​ที่​เสี่ยว​หลง​ชิว​ เจ้าน่าจะ​รู้​แล้ว​กระมัง​?”

หวัง​ไจ่พยักหน้า​ “ได้​อ่าน​รายงาน​จาก​ทาง​สำนักศึกษา​ระหว่าง​ที่​เดินทาง​มาแล้ว​”

เวินอวี้​ยิ้ม​กล่าว​ “หากว่า​เขา​ไม่ลงมือ​ ข้า​ก็​คงจะ​ต้อง​ไป​พูดคุย​กับ​หลง​หรา​น​เซียน​จวิน​ผู้​นั้น​สักหน่อย​ จำต้อง​พูดว่า​ การ​ถอน​ฟืน​ใต้​กระทะ​ครั้งนี้​ทำได้​งดงาม​ยิ่ง​ สะใจยิ่งนัก​!”

หวัง​ไจ่ลุกขึ้น​เอ่ย​ “ข้า​ยัง​มีธุระ​ ต้อง​ไปหา​เจ้าขุนเขา​ฟ่าน​สักหน่อย​”

เวินอวี้​โบกมือ​ “จำไว้​ว่า​อย่า​ได้​หยิบ​อะไร​ติดไม้ติดมือ​ไป​ เรื่อง​อย่าง​การ​เป็น​โจร​ขโมย​หนังสือ​นี้​ ไม่ว่า​อย่างไร​ก็​ไม่สมควร​ทำ​ยิ่งกว่า​พับ​หน้า​หนังสือ​เสีย​อีก​”

หวัง​ไจ่จากไป​ด้วย​รอยยิ้ม​ เอา​สอง​มือ​ไพล่หลัง​ แสดงให้เห็น​ว่า​ตัวเอง​บริสุทธิ์​ จากนั้น​ก็​เดิน​เลียบ​ ‘เส้นทาง​ภูเขา​อัน​คดเคี้ยว​’ ออก​ไป​จาก​ห้อง​หนังสือ​ ตอนที่​เดิน​ไป​ถึงหน้า​ประตู​ห้อง​ เวินอวี้​ยืด​คอ​ยาว​ออกมา​ พลัน​ตะคอก​อย่าง​เดือดดาล​ “หวัง​ไจ่!”

หวัง​ไจ่จึงได้​แต่​เดิน​ย้อน​กลับมา​ทาง​เดิม​ เอา​ตำรา​เล่ม​หนึ่ง​วาง​กลับ​ไว้​ที่​เดิม​ เวินอวี้​ลุกขึ้น​โดยตรง​ ถลึงตา​เอ่ย​ “ยังมี​อีก​สอง​เล่ม​นะ​!”

หวัง​ไจ่จึงหยิบ​หนังสือ​อีก​สอง​เล่ม​ออก​มาจาก​ขาย​แขน​เสื้อ​ ยิ้ม​กล่าว​ “เป็นรอง​เจ้าขุนเขา​สำนักศึกษา​แล้ว​ ขี้โมโห​ให้​น้อย​ๆ หน่อย​สิ”

เวินอวี้​เอ่ย​อย่าง​ขำ​ๆ ปน​ฉุน​ “หาก​เปลี่ยน​ข้า​ที่​ได้​ไป​อยู่​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ รับรอง​ว่า​เจ้าดื่มเหล้า​ไม่ต้อง​จ่าย​เงิน​”

“ไม่มีทาง​”

หวัง​ไจ่ยืน​พิง​กรอบประตู​ เอ่ย​ว่า​ “แต่​หากว่า​เจ้าไป​ที่​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ ไม่แน่​ว่า​อาจ​ได้​เป็น​เถ้าแก่​สามของ​ร้านเหล้า​ก็​เป็นได้​”

เวินอวี้​ไม่ยอมรับ​และ​ไม่ปฏิเสธ​ เพียง​ถามอย่าง​ใคร่รู้​ว่า​ “พวก​เจ้าสนิท​กัน​ขนาด​นี้​ เฉิน​ผิง​อัน​ไม่ได้​มอบ​ตราประทับ​ไว้​ให้​เจ้าสัก​อัน​เลย​หรือ​?”

หวัง​ไจ่ยิ้ม​ตาหยี​ “เจ้าเดา​ดู​สิ”

ก้าว​ยาว​ๆ เดิน​จากไป​

เงยหน้า​มอง​ฟ้า ดวงตะวัน​ร้อนแรง​ส่องแสง​จ้า บัณฑิต​ที่​คิด​ว่า​ตัวเอง​ไม่เคย​สร้าง​คุณ​ความชอบ​แม้แต่น้อย​ไว้​ที่​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​เอ่ย​เสียงดัง​กังวาน​ว่า​ “คน​เดิน​บน​ทาง​ดิน​โคลน​ไม่เหนื่อยหน่าย​ วีรบุรุษ​สังหาร​โจร​ไม่บันทึก​ลง​ตำรา​ ผู้​กล้า​แท้จริง​ไม่สง่างาม ภูผา​หิน​สูงตระหง่าน​เทียม​ขอบฟ้า​”

“ที่แท้​คือ​วิญญูชน​!”

……

ท่าเรือ​เฮย​เซี่ยน​ เถ้าแก่​ร้าน​มีชื่อว่า​อวี๋​ฟู่ซาน​ ฉายา​ก็​คือ​ฟู่ซาน​

อวี๋​ฟู่ซาน​ที่​มีรูปโฉม​เป็น​เด็กหนุ่ม​นั่ง​อยู่​ริม​ลำคลอง​หน้า​ประตู​ร้าน​ตัวเอง​ กำลัง​ตกปลา​ฆ่าเวลา​

ยาม​กลางคืน​คลื่น​ลม​ยัง​ไม่สงบ​ บน​และ​ล่าง​มีดวงจันทร์​ดวง​ใหม่​สอง​ดวง​

เห็น​นักพรต​หญิง​สะพาย​กระบี่​คน​หนึ่ง​ รูปโฉม​งดงาม​จริง​แท้​ รู้สึก​เพียง​ว่า​สตรี​ที่​ถูกใจ​ตัวเอง​ที่สุด​ เกรง​ว่า​นับแต่​คืนนี้​ไป​น่าจะ​ต้อง​ไป​อยู่​ใน​อันดับ​ที่สอง​แล้ว​

คิดไม่ถึง​ว่า​พอ​นักพรต​หญิง​คน​นั้น​ขยับ​เข้ามา​ใกล้​จะพูด​เข้า​ประเด็น​ทันที​ “ข้า​ชื่อ​หวง​ถิง ได้ยิน​มาว่า​เจ้ายินดี​จะไป​ฝึก​ตน​อยู่​ที่​ภูเขา​ไท่​ผิง​?”

ก่อนหน้า​นั้น​ก็​มีลูกค้า​สวม​งอบ​สวม​เสื้อกันฝน​คน​หนึ่ง​มาเยือน​ แล้วก็​เคย​พูดคุย​เรื่อง​นี้​กัน​จริงๆ​

เพียงแต่ว่า​รอ​กระทั่ง​หวง​ถิงเดิน​มาอยู่​ตรงหน้า​ อวี๋​ฟู่ซาน​ก็​ให้​รู้สึก​เขินอาย​เล็กน้อย​

หวง​ถิงเห็น​เขา​ลังเล​ คิดดู​แล้ว​คง​มีความ​ลำบากใจ​ จึงเอ่ย​ว่า​ “ไม่บังคับ​”

นาง​ทิ้ง​ประโยค​นี้​ไว้​แล้วก็​เตรียม​จะขี่​กระบี่​จากไป​ อวี๋​ฟู่ซาน​รีบ​โยน​คันเบ็ด​ตกปลา​ทิ้ง​ พูด​อย่าง​หนักแน่น​ว่า​ “ไป​! ทำไม​จะไม่ไป​เล่า​!”

หวง​ถิงยืน​อยู่​ที่​เดิม​

อวี๋​ฟู่ซาน​จึงได้​แต่​หยุด​ยืน​นิ่ง​ด้วย​ความสงสัย​ นาง​เตรียม​จะบอก​กฎ​บางอย่าง​ของ​ภูเขา​ให้​เขา​ฟังหรือ​?

หวง​ถิงชี้ไป​ยัง​ร้าน​ที่​ประตู​เปิด​อ้า​ “ไม่สน​แล้ว​รึ​?”

อวี๋​ฟู่ซาน​โบกมือ​เป็น​วงกว้าง​ “ล้วน​เป็น​ของ​นอกกาย​”

หวง​ถิงถอนหายใจ​ เหตุใด​ถึงได้​รู้สึก​ว่า​นาง​ได้ตัว​นาย​ท่าน​คน​หนึ่ง​ที่​ดีแต่​ใช้เงิน​ไม่รู้จัก​หาเงิน​มากัน​นะ​

บน​ภูเขา​ลั่วพั่ว​

แม้จะบอ​กว่า​ชุยตง​ซาน​พูดคุย​กับ​จิตรกร​เอก​บางท่าน​ของ​แผ่นดิน​กลาง​เรียบร้อย​แล้ว​ แต่​จูเหลี่ยน​ที่อยู่​ว่าง​ไม่มีอะไร​ทำ​ก็​ยัง​ใช้สอง​มือถือ​พู่กัน​มือ​ละ​ด้าม​ ซ้าย​ขวา​ตวัด​ขีดเขียน​พร้อมกัน​ กำลัง​วาด​ภาพเหมือน​ของ​คน​คน​หนึ่ง​

ใช้ลายเส้น​เล็ก​บาง​วาด​เป็น​เค้าโครง​ บุคคล​ใน​ภาพวาด​เริ่ม​ปรากฏ​ชัดเจน​ให้​เห็น​เป็นรูปเป็นร่าง​

ชุด​เขียว​สะพาย​กระบี่​

โดยเฉพาะ​ดวงตา​คู่​นั้น​ที่​เป็นประกาย​น่า​จับจ้อง​มาก​เป็นพิเศษ​

จูเหลี่ยน​ยิ้ม​บาง​ๆ ถาม “แบบนี้​ได้​ไหม​?”

คน​จิ๋ว​ดอกบัว​นอนคว่ำ​อยู่​ข้าง​แท่น​ฝน​หมึก​บน​โต๊ะ​วาดภาพ​พยักหน้า​รับ​อย่าง​แรง​ คง​รู้สึก​ว่า​ยัง​แสดง​ความจริงใจ​ได้​ไม่มาก​พอ​จึงลุกขึ้น​นั่ง​ ปรบมือ​แรง​ๆ จริงจัง​

ใน​พื้นที่​มงคล​ราก​บัว​ เพ่​ยเซียง​แห่ง​แคว้น​หู​มาหา​เจียว​น้ำ​หง​เซี่ย​

เพ่​ยเซียง​ขมวดคิ้ว​น้อย​ๆ บน​ใบหน้า​มีความ​กลัดกลุ้ม​ “งานพิธี​ของ​สำนัก​เบื้องล่าง​ครั้งนี้​ไม่ได้​เชิญพวกเรา​ เป็น​เพราะ​เจ้าขุนเขา​มีความเห็น​บางอย่าง​เลย​คิด​จะฉวยโอกาส​นี้​มาตี​กระทบ​พวกเรา​หรือไม่​?”

ก่อตั้ง​สำนัก​เบื้องล่าง​ เป็น​เรื่องใหญ่​ถึงเพียงใด​

นาง​กับ​หง​เซี่ย​ที่​แม้ขอบเขต​จะไม่สูง แต่​จะดี​จะชั่ว​พวก​นาง​ก็​เป็นสมาชิก​ของ​ศาล​บรรพ​จารย์​สำนัก​เบื้องบน​เชียว​นะ​

ความคิด​ของ​หง​เซี่ย​ไม่ได้​มีมากมาย​เหมือน​เจ้าแห่ง​แคว้น​หู​ท่าน​นี้​ เอ่ย​เสียง​เบา​ว่า​ “เจ้าขุนเขา​ต้อง​มีการพิจารณา​และ​ไตร่ตรอง​เป็น​ของ​ตัวเอง​แน่นอน​”

บุปผา​ใน​คันฉ่อง​จันทรา​ใน​สายน้ำ​บน​ภูเขา​แห่ง​หนึ่ง​ของ​ใบ​ถงทวีป​

“เจ้าโจร​เจียง​ไป​ขโมย​ขี้​ไก่​ที่ไหน​อีกแล้ว​?”

“เริ่ม​คิดถึง​เปิง​เลอะ​เจินจ​วิน​ขึ้น​มาบ้าง​แล้ว​”

“ไม่มีเปิง​เลอะ​เจินจ​วิน​คอย​ด่า​เจ้าโจร​เจียง​ ช่างเป็นความ​บกพร่อง​ใน​ความ​สมบูรณ์แบบ​”

“ได้ยิน​มาว่า​มีเซียน​กระบี่​หนุ่ม​คน​หนึ่ง​จาก​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ที่​ถึงกับ​ได้​เป็น​อิ่น​กวาน​”

“อิ่น​กวาน​คือ​ขุนนาง​ตำแหน่ง​อะไร​? เป็น​ขุนนาง​อยู่​ที่ไหน​?”

“ถือเป็น​ขุนนาง​ตำแหน่ง​ใหญ่​ที่สุด​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​แล้ว​”

“โอ้โห​ ถ้าเจ้าโจร​สุนัข​เจียง​เจอ​กับ​คน​ผู้​นี้​ จะไม่ต้อง​ทุ่ม​ชีวิต​แก่ๆ​ สุดตัว​เลย​หรอก​หรือ​?”

“ก็เพราะว่า​ไม่ใช่คน​บน​เส้นทาง​เดียวกัน​ ย่อม​ไม่มีทาง​มาคลุกคลีตีโมง​กัน​ได้​”

“เป็น​คน​อย่า​เอาแต่​ด่า​เจียง​ซ่างเจิน​ ควรจะ​ทำความเข้าใจ​เรื่อง​ของ​ใต้​หล้า​บ้าง​ไม่มาก​ก็​น้อย​”

ริม​หน้าผา​สำนัก​ซาน​ไห่​ ฝน​ห่า​ใหญ่​เท​กระหน่ำ​ลงมา​ แม่นาง​น้อย​คน​หนึ่ง​ที่​มีชื่อเล่น​ว่า​เชิงฮวา​เดิน​ถือ​ร่ม​อยู่​ริมทะเล​เพียงลำพัง​ มอง​ไป​ยัง​ผืน​มหาสมุทร​ที่​กว้างใหญ่​ไร้​ที่​สิ้นสุด​

แม่นาง​น้อย​ทรุดตัว​ลงนั่ง​ยอง​ คล้าย​กับ​ว่า​หลบ​อยู่​ใน​ร่ม​กระดาษ​น้ำมัน​ เหม่อมอง​ไป​ยัง​ทิศ​ไกล​

ได้​ฟังพี่​หญิง​ชุ่ย​พูดถึง​หลักการ​เหตุผล​ข้อ​หนึ่ง​

ความชอบ​มาก​เป็นพิเศษ​ที่​ไม่ได้​เปิดปาก​พูด​ออก​ไป​ ก็​เหมือน​ซาก​วาฬ​ที่​จมลง​น้ำ​ไป​อย่าง​เงียบเชียบ​

อันที่จริง​แม่นาง​น้อย​ไม่ค่อย​เข้าใจ​นัก​ แค่​ฟังแล้ว​รู้สึก​เศร้า​นิดๆ​

บน​เรือข้ามฟาก​เฟิงยวน​ หมี่​ลี่​น้อย​ ไฉอู๋​ ป๋า​ย​เสวียน​ ซุน​ชุน​หวัง​ สี่คน​นี้​ไม่เพียงแต่​สนิทสนม​กัน​มาก​ ยัง​เหมือนว่า​จะมีความรู้​ใจกัน​อย่าง​ถึงที่สุด​ พอ​มีเวลาว่าง​จะต้อง​มาจับกลุ่ม​อยู่​รวม​กันที่​ห้อง​ของ​ผู้พิทักษ์​ฝ่ายขวา​

สุรา​ของ​ไฉอู๋​ ทุกวันนี้​ก็​เป็น​ผู้พิทักษ์​ฝ่ายขวา​ที่​เป็น​คน​ดูแล​

เหมือน​อย่าง​ซุน​ชุน​หวัง​ แม้ว่า​ใน​สายตา​ของ​ป๋า​ย​เสวียน​แล้ว​นาง​ยังคง​เป็น​แม่นาง​น้อย​ตาปลา​ตาย​อยู่​เหมือนเดิม​ ทั้ง​ยัง​ไม่ชอบ​ดื่มเหล้า​ แล้วก็​ไม่เข้าใจ​การ​ดื่ม​ชา แต่​เวลาว่าง​จาก​การ​ฝึก​กระบี่​ก็​มักจะ​มานั่ง​อยู่​กับ​ไฉอู๋​ แต่​อันที่จริง​ต่อให้​มานั่ง​อยู่​ด้วย​ นาง​ก็​ไม่กล้า​คุย​อะไร​กับ​ไฉอู๋​ เว้น​เสีย​จากว่า​มีผู้พิทักษ์​ฝ่ายขวา​อยู่​ด้วย​ ตาปลา​ตาย​ถึงจะแทะ​เมล็ด​แตง​ พอ​มีความเคลื่อนไหว​อยู่​บ้าง​ ไม่อย่างนั้น​ก็​นั่ง​ทื่อ​มะลื่อ​อยู่​ตรงนั้น​ ไม่ขยับเขยื้อน​ราวกับ​ผี​ตัว​หนึ่ง​ พูดน้อย​ยิ่งกว่า​เจ้าใบ้​น้อย​ที่​ร้าน​ยา​สุ้ย​เสีย​อีก​

วันนี้​คน​ทั้ง​สี่มารวมตัวกัน​อีกครั้ง​ ร่วมกัน​ปรึกษา​ถึงงานใหญ่​

ไม่ทัน​ระวัง​ก็​คุย​กัน​ไป​ถึงการ​ฝึก​ตน​ที่​น่าเบื่อหน่าย​ ป๋า​ย​เสวียน​ก็​เริ่ม​ใช้น้ำเสียง​ของ​ผู้อาวุโส​สั่งสอน​ไฉอู๋​ที่​ตอนนี้​ขอบเขต​ต่ำสุด​อีกครั้ง​

ไฉอู๋​ดื่มเหล้า​ไป​อึก​ใหญ่​ก็​พูด​อย่าง​มีเหตุผล​ว่า​ “อาจารย์​เสี่ยว​โม่กับ​เจ้าสำนัก​ชุย​ต่าง​ก็​บอก​กับ​ข้า​ว่า​ไม่ต้อง​รีบร้อน​ฝ่าทะลุ​ขอบเขต​”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!