กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 909

พอได้​พูด​คำ​ว่า​ ‘เสี่ยว​ตง​’ นักพรต​เนิ่น​ก็​ให้​สะทก​สะท้อนใจ​ หวน​นึกถึง​อดีต​อัน​ห่างไกล​ ตน​ก็​เคย​ไล่ตาม​ ‘เสี่ยว​ต่ง’​ ที่​เดิน​ทางผ่าน​ขุน​เขาใหญ่​แสน​ลี้​เหมือนกัน​

ห​ลี่​ไหว​ตบ​โต๊ะ​ นักพรต​เนิ่น​หุบปาก​ฉับ​ทันใด​ หรือว่า​ตน​จะพูด​ผิด​ไป​?

ห​ลี่​ไหว​ยก​นิ้วโป้ง​ขึ้น​ “สุ่ย​จิ่ง อร่อย​! เอา​มาอีก​สอง​ชาม”

มองออก​ว่า​ต่งสุ่ย​จิ่งมาที่​บ้าน​บรรพบุรุษ​แห่ง​นี้​เป็นประจำ​ รอ​ให้​ห​ลี่​ไหว​กิน​เกี๊ยว​น้ำ​หมด​ไป​อีก​ชาม ต่งสุ่ย​จิ่งก็​ก่อไฟ​ขึ้น​มากระถาง​หนึ่ง​เรียบร้อย​ นั่ง​ยอง​อยู่​ด้าน​ข้าง​ ปิ้ง​เผือก​ย่าง​บ๊ะจ่าง​รอ​แล้ว​

กระตุก​เชือก​ ลอก​ใบไม้​ที่​ห่อ​บ๊ะจ่าง​ออก​ ใน​มือ​ต่งสุ่ย​จิ่งก็​มีบ๊ะจ่าง​ที่​ถูก​ย่าง​จน​เป็น​สีเหลือง​ทอง​ ห​ลี่​ไหว​มอง​จน​รู้สึก​หิว​ขึ้น​มาอีก​ แย่ง​เอา​บ๊ะจ่าง​มา บิ​ครึ่ง​แบ่ง​ให้​นักพรต​เนิ่น​

ต่งสุ่ย​จิ่งจึงได้​แต่​ลอกเปลือก​บ๊ะจ่าง​ลูก​ใหม่​อีก​ลูก​ คน​ทั้ง​สามนั่ง​ล้อม​กระถาง​ไฟกัน​ ต่งสุ่ย​จิ่งเอ่ย​เสียง​เบา​ “สามีของ​เจ้าคน​มัด​ผมแกละ​ เปีย​น​เห​วิน​เม่าเพิ่งจะ​มารับหน้าที่​เป็น​เซวี๋ยเจิ้ง​ที่​ฉู่โจว​ของ​พวกเรา​ แต่​ว่าไม่ได้​เลื่อนตำแหน่ง​ขุนนาง​ ถือว่า​ย้าย​จาก​เมืองหลวง​มาทำงาน​นอก​สถานที่​ เพียงแต่ว่า​ตำแหน่ง​ขุนนาง​น้ำ​ใสทั้ง​ยัง​สูงศักดิ์​อย่าง​เซวี๋ยเจิ้ง​ที่​ราชสำนัก​ต้า​หลี​เพิ่ง​ก่อตั้ง​ได้​แค่​ไม่กี่​ปี​นี้​ คน​ทั่วไป​มิอาจ​คว้า​มาครอง​ได้​ ปกติ​แล้ว​จะต้อง​เป็น​ขุนนาง​เก่าแก่​ของ​หก​กรม​ใน​เมืองหลวง​ที่​มาจาก​สำนัก​ราชบัณฑิต​ฮั่น​หลิน​เท่านั้น​ ไม่มีหวัง​จะเลื่อนขั้น​ขุนนาง​แล้ว​ ก่อนที่จะ​ลา​ออกจาก​วงการ​ขุนนาง​กลับ​ไป​ใช้ชีวิต​ที่​บ้านเกิด​ ฮ่องเต้​จะจงใจประทาน​ตำแหน่ง​นี้​ให้​กับ​ขุนนาง​บุ๋น​เป็นพิเศษ​ เดิมที​เซวี๋ยเจิ้ง​ก็​ไม่มีระดับ​ขั้น​ ก็​เหมือน​อย่าง​เขต​ห​ลิง​โจว​ ฉิงโจว​สอง​แห่ง​ที่อยู่​ใน​อาณาเขต​ของ​เมืองหลวง​สำรอง​ที่​ก็​ให้​รอง​เจ้ากรม​ผู้เฒ่า​ของ​กรม​โยธา​ท่าน​หนึ่ง​และ​ซื่อ​ชิงท่าน​หนึ่ง​ของ​ศาล​หง​หลู​เป็น​ผู้ดูแล​ ทุกวันนี้​หัวหน้า​ของ​เปีย​น​เห​วิน​เม่าคือ​ซื่อ​เฉิงแห่ง​ศาล​กวง​ลู่​ ตำแหน่ง​เซวี๋ยเจิ้ง​ของ​ฉู่โจว​สี่ปี​จะครบวาระ​ กลับ​ไป​เมืองหลวง​ก็​น่าจะ​ได้​เป็น​เส้าชิงของ​ศาล​กวง​ลู่​แล้ว​ (ศาล​กวง​ลู่​คือ​ระบบ​อย่างหนึ่ง​ใน​สมัยโบราณ​ ตำแหน่ง​ขุนนาง​คือ​ชิง เส้าชิงและ​เฉิง ดูแล​เรื่อง​อาหาร​ใน​งาน​เซ่นไหว้​ การประชุม​ใน​ท้องพระโรง​ งานเลี้ยง​ ฯลฯ​) ในอนาคต​ความเป็นไปได้​ที่จะ​ได้​ดูแล​ศาล​กวง​ลู่​มีไม่มาก​ น่าจะ​ถูก​โยกย้าย​ให้​ไป​รับ​ตำแหน่ง​เท่าเดิม​ใน​ที่ว่าการ​หก​กรม​ หรือไม่​ก็​ให้​ไป​รับ​ตำแหน่ง​ที่​เมืองหลวง​สำรอง​ สะสมไป​ทีละ​นิด​จนกระทั่ง​ไป​ถึงตำแหน่ง​หนึ่ง​ สุดท้าย​ได้รับ​ยศ​มหาบัณฑิต​ที่​ลำดับ​รายชื่อ​รั้งท้าย​ ในอนาคต​มีหวัง​ว่า​จะได้รับ​สมญานาม​ที่​ไม่เลว​ ส่วน​เรื่อง​การ​ที่จะ​ได้​ไป​เสวยสุข​ใน​ศาล​บูร​พก​ษัตริย์​นั้น​ก็​ช่างเถิด​ ตัว​เปีย​น​เห​วิน​เม่าเอง​ยัง​ไม่กล้า​คิด​ไป​ถึงขั้น​นี้​เลย​”

ห​ลี่​ไหว​กิน​บ๊ะจ่าง​ สีหน้า​เหลอ​หรา​ “หา​?”

นักพรต​เนิ่น​ทอดถอนใจ​

เสี่ยว​ต่ง​พูดจ้อ​อยู่​ตั้ง​นาน​ คุณชาย​ของ​ตน​ตอบรับ​กระชับ​เรียบง่าย​แค่​คำ​เดียว​ก็​เพียง​พอแล้ว​

ต่งสุ่ย​จิ่งยิ้ม​เอ่ย​ “เจ้าคือ​นักปราชญ์​ของ​สำนักศึกษา​ ตาม​กฎ​ใหม่​ของ​ศาล​บุ๋น​ วันหน้า​ย่อม​เลี่ยง​การ​จะไปมาหาสู่​กับ​ราชสำนัก​ต้า​หลี​ไม่ได้​ เรื่อง​ใน​วงการ​ขุนนาง​ที่​มอง​ดูเหมือน​ยิบ​ย่อย​น่าเบื่อ​พวก​นี้​ ช้าเร็ว​ก็​ต้อง​ได้​สัมผัส​”

วงการ​ขุนนาง​ต้า​หลี​ใน​ทุกวันนี้​มีการ​โยกย้าย​เกิดขึ้น​ถี่ครั้ง​ จาก​เมืองหลวง​ไป​ยัง​ท้องถิ่น​ ถนนหนทาง​มีคน​สัญจร​ขวักไขว่​ พูดถึง​แค่​พวก​ลูก​พี่ใหญ่​ใน​อำเภอ​และ​เขต​ที่อยู่​ใน​เขต​ของ​จังหวัด​ฉู่โจว​ใหม่​ก็​แทบจะ​เปลี่ยน​โฉมหน้าใหม่​กัน​หมด​แล้ว​

อู๋​ยวน​รับหน้าที่​เป็น​ผู้ว่า​จังหวัด​ ปี​นั้น​ตอนที่​รับ​ตำแหน่ง​อยู่​ใน​อำเภอ​ไหว​หวง​ต้อง​ออกจาก​ตำแหน่ง​ไป​อย่าง​หม่นหมอง​ ครั้งนี้​จึงถือว่า​เป็นการ​แว้ง​กลับมา​เอาคืน​อย่าง​งดงาม​

ส่วน​เว่ยห​ลี่​ผู้ว่า​จังหวัด​หลง​โจว​คน​ก่อนที่​มีชาติกำเนิด​จาก​ขุนนาง​บุ๋น​แคว้น​หวง​ถิง ทุกวันนี้​ไป​รับหน้าที่​เป็น​เจ้ากรม​พิธีการ​ที่​เมืองหลวง​สำรอง​ของ​ต้า​หลี​ต่อ​

เฉาเกิง​ซิน​ที่​ก่อนหน้านี้​เป็น​ขุนนาง​หลัก​ของ​จวน​ผู้ตรวจการ​งาน​เตาเผา​ก็​ยิ่ง​เปลี่ยน​จาก​เป็น​ขุนนาง​ผู้ตรวจการ​หลง​โจว​ไป​เป็นรอง​เจ้ากรม​ฝ่ายขวา​กรม​โยธา​เมืองหลวง​แห่ง​ที่สอง​ จากนั้น​เลื่อนขั้น​ไป​เป็นรอง​เจ้ากรม​ขุนนาง​ของ​เมืองหลวง​ต้า​หลี​ ได้​อยู่​ใน​ตำแหน่ง​ใจกลาง​สำคัญ​ของ​ราชสำนัก​

ส่วน​หยวน​เจิ้งติ้ง​ได้​เป็น​ใต้เท้า​ผู้ว่า​ของ​หง​โจว​เพื่อนบ้าน​ที่อยู่​ทางเหนือ​

จิ่งควน​เจ้าเมือง​คน​ใหม่​ของ​เขตการปกครอง​เป่า​ซีจังหวัด​ฉู่โจว​เคย​เป็น​หลา​งจงของกอง​ชิงลี่​กรม​คลัง​เมืองหลวง​ ดูแล​กระเป๋า​เงิน​ของ​จังหวัด​สามแห่ง​ซึ่งมีจังหวัด​หง​โจว​เป็นหนึ่ง​ใน​นั้น​

แต่​อันที่จริง​ใน​หลาย​ๆ ครั้ง​ คน​เชื่อ​ดาบ​สำนัก​โม่ที่​ต้อง​ปิดบัง​อำพราง​ตัวตน​อย่าง​ต่งสุ่ย​จิ่งก็​ยัง​รู้สึก​อิจฉา​ห​ลี่​ไหว​ที่​สามารถ​ปล่อยตัว​ลอย​ไป​ตาม​กระแส​คลื่น​ หรือ​ควรจะ​พูดว่า​พอใจ​กับ​สิ่งที่​ตัวเอง​มีอยู่​?

ห​ลี่​ไหว​เอ่ย​อย่าง​ใจฝ่อ​ “ข้า​รู้​ว่า​จ้าว​เหยา​ที่​เป็น​สหาย​ร่วม​เรียน​ของ​พวกเรา​ ทุกวันนี้​รับหน้าที่​เป็นรอง​เจ้ากรม​อาญา​ของ​ต้า​หลี​”

“ยังมี​อู๋​ยวน​ขุนนาง​ผู้​เป็น​ดุจ​บิดร​มารดา​ใน​อำเภอ​เมื่อก่อน​ ทุกวันนี้​กลับมา​ที่นี่​ก็​รับหน้าที่​เป็น​ใต้เท้า​ผู้ว่า​ของ​จังหวัด​ฉู่โจว​ใหม่​แล้ว​”

“นอกจากนี้​ผู้ตรวจการ​เฉาที่​ชอบ​ดื่มเหล้า​ไม่ชอบ​ไป​ขานชื่อ​ผู้​นั้น​ เมื่อ​หลาย​ปีก่อน​ก็​เหมือนว่า​จะโยกย้าย​ไป​รับ​ตำแหน่ง​ขุนนาง​ใหญ่​ที่​กรม​ขุนนาง​ในเมืองหลวง​แล้ว​?”

ต่งสุ่ย​จิ่งยิ้ม​ถาม “แล้ว​อย่างไร​อีก​?”

ห​ลี่​ไหว​ถอนหายใจ​ “ไม่มีแล้ว​”

นักพรต​เนิ่น​ช่วย​พูด​ทวง​ความเป็นธรรม​ให้​ “ไย​คุณชาย​จะต้อง​ไป​พัวพัน​กับ​กิจธุระ​ล่าง​ภูเขา​ที่​เกี่ยวพัน​กับ​ทางการ​พวก​นี้​ด้วย​?”

ห​ลี่​ไหว​ส่ายหน้า​ “ต้า​หลี​ของ​พวกเรา​ไม่เหมือน​ที่อื่น​”

ไม่ว่า​ตำแหน่ง​นักปราชญ์​นี้​ของ​ตน​จะหล่น​มาจาก​ฟ้าอย่างไร​ แล้ว​หล่น​มากระแทก​หัว​ของ​ตน​ได้​อย่างไร​ แต่​ใน​เมื่อ​เป็น​นักปราชญ์​แล้ว​ ห​ลี่​ไหว​ก็​ไม่ยินดี​จะทำได้​แย่​กว่า​คนอื่น​มาก​นัก​

ตอน​เด็ก​ระหว่าง​ที่​เดินทาง​ไป​ขอ​ศึกษา​ต่อ​ ยามค่ำคืน​ที่​ต้อง​นอน​ค้างแรม​ใน​ชาน​ป่า​รกร้าง​ เฉิน​ผิง​อัน​ช่วย​ดูต้นทาง​ให้​ เขา​เคย​พูด​ความในใจ​บางอย่าง​กับ​ห​ลี่​ไหว​ ทุกวันนี้​เขา​จำได้​ไม่ค่อย​ชัดเจน​แล้ว​ ห​ลี่​ไหว​แค่​จำความหมาย​คร่าวๆ​ ได้​ บอ​กว่า​คน​คน​หนึ่ง​ตอนที่​ยัง​เล็ก​ ใน​ช่วงเวลา​ที่​มีเพียง​การเรียนหนังสือ​เท่านั้น​ที่​พอ​จะทำได้​ ไม่กลัว​ว่า​จะจดจำ​หลักการ​เหตุผล​ของ​อริยะ​ปราชญ์​ใน​ตำรา​พวก​นั้น​ไม่ได้​ กลัว​ก็​แต่ว่า​แม้แต่​เรื่อง​นี้​ก็​ยัง​ไม่ยินดี​จะทำให้​ดี​ ถ้าอย่างนั้น​วันหน้า​เดิน​ออกจาก​ห้อง​หนังสือ​ไป​ก็​ไม่ต้อง​อ่านหนังสือ​อีกแล้ว​ เพราะ​ง่าย​มาก​ที่จะ​ทำ​เรื่อง​ถัดไป​ได้​ไม่ดี​

ตอนนั้น​ห​ลี่​ไหว​บอ​กว่า​ ก็​ข้า​ไม่เหมาะ​จะเรียนหนังสือ​อย่างไร​ล่ะ​ เฉิน​ผิง​อัน​จึงพูดว่า​ เขา​เอง​ก็​ไม่เหมาะ​จะเผา​เครื่อง​ปั้น​เหมือนกัน​ เรียนรู้​อะไร​ได้​ช้าเกินไป​ มือ​มักจะ​ตาม​ไม่ทัน​ แต่​มีเพียง​ความพยายาม​เท่านั้น​ ถึงจะมีโอกาส​ทำ​เรื่อง​ถัดไป​ได้ดี​ยิ่งกว่า​เดิม​

นักพรต​เนิ่น​รีบ​เปลี่ยน​คำพูด​ใหม่​ทันที​ “คุณชาย​ถ่อมตัว​เช่นนี้​ ไย​ต้อง​กลัดกลุ้ม​ว่า​จะทำการ​ใหญ่​ไม่สำเร็จ​”

ไม่ใช่ว่า​เถาถิงไม่มีความกล้าหาญ​อะไร​จริงๆ​ แต่​เป็น​เพราะ​เฒ่าตาบอด​ผู้​นั้น​ป่าเถื่อน​เกินไป​

ยกตัวอย่างเช่น​ครั้งนี้​เดินทางไกล​มาปกป้อง​มรรคา​ให้​กับ​ห​ลี่​ไหว​ เฒ่าตาบอด​ก็ได้​ทิ้ง​คำพูด​ประโยค​หนึ่ง​ไว้​ให้​กับ​เถาถิง หากว่า​ลูกศิษย์​ของ​ข้า​ได้รับ​ความ​ตกอกตกใจ​แม้เพียง​น้อย​ ข้า​จะตัด​ขา​ที่​ห้า​ของ​เจ้าให้​ขาด​

นักพรต​เนิ่น​ที่​น่าสงสาร​ ทุกวันนี้​กลัว​ก็​แต่ว่า​วันใด​ห​ลี่​ไห​วจะ​ไม่ระวัง​ดื่ม​ชาร้อน​จน​ลวกปาก​หรือไม่​ ขอบเขต​บิน​ทะยาน​คน​หนึ่ง​ เป็น​ผู้​ปกป้อง​มรรคา​มาได้​จน​ถึงขั้น​นี้​ ไม่พูดว่า​ต่อจากนี้​จะไม่มีใคร​ทำได้​ แต่​ก่อนหน้านี้​ต้อง​ไม่เคย​มีใคร​ได้​ทำ​มาก่อน​แน่นอน​

ต่อให้​เป็น​เช่นนี้​ก็​ดูเหมือนว่า​เฒ่าตาบอด​จะยัง​ไม่หายห่วง​ห​ลี่​ไหว​ แม้จะอยู่​ไกล​ถึงใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ แต่​ก็​ไม่รู้​ว่า​ใช้เวท​ลับ​บรรพกาล​อะไร​ ถึงกับ​สามารถ​เข้ามา​ใน​ความฝัน​ของ​ห​ลี่​ไหว​ได้​โดยตรง​ จากนั้น​ก็​กระชาก​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​อย่าง​เถาถิงให้​เข้าไป​อยู่​ใน​ความฝัน​

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!