กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 909

อันที่จริง​เจี่ยนเฟิง​เตรียมใจ​สำหรับ​การ​ที่​ต้อง​กลับ​ไป​มือเปล่า​แล้ว​ ฉวยโอกาส​ตอนที่​ยัง​กิน​บ๊ะจ่าง​ใน​มือ​ไม่หมด​พูดคุย​เรื่อง​การวางแผน​สร้าง​โรงเรียน​ใน​ท้องถิ่น​อีก​สอง​สามประโยค​ ยังคง​เป็น​ต่งสุ่ย​จิ่งที่​เชิญคน​ให้​เป็นตัวแทน​ออก​เงิน​ใน​การ​สร้าง​ถนน​ซ่อม​สะพาน​อยู่​เบื้องหลัง​ บางอย่าง​ก็​มีค่า​ควร​ให้​ปรึกษาหารือ​ เงิน​จำนวน​ไม่น้อย​ไม่ได้​ใช้หมด​ไป​กับ​เรื่องสำคัญ​ และ​เรื่อง​พวก​นี้​ก็​อยู่​นอกเหนือ​ขอบเขต​การ​รับผิดชอบ​ของ​จวน​ผู้ตรวจการ​งานเตาเผา​แล้ว​ แล้ว​นับประสาอะไร​กับ​ที่​ล้วน​เป็นเรื่อง​หยุมหยิม​ขี้หมูราขี้หมาแห้ง​ เจี่ยนเฟิง​เอง​ก็​เพราะ​เป็น​ขุนนาง​ผู้ตรวจการ​อย่าง​เบื่อหน่าย​ เห็น​อยู่​ใน​สายตา​ รู้สึก​ว่า​มีรายละเอียด​มากมาย​เหลือเกิน​ที่​จำเป็นต้อง​แก้​ให้​ปรับปรุง​ให้​สมบูรณ์​ ใน​เมื่อ​วันนี้​กว่า​จะได้​พบ​ต่ง​ครึ่ง​เมือง​ได้​ไม่ใช่เรื่อง​ง่าย​ ก็​ถือ​เสีย​ว่า​คุย​เรื่องไร้สาระ​นอกเหนือจาก​เรื่อง​เป็นการเป็นงาน​ไป​สอง​สามคำ​ ต่อให้​จะถูก​คน​เขา​รังเกียจ​ก็​ไม่เป็นไร​

ต่งสุ่ย​จิ่งตอบรับ​อย่าง​ขอไปที​จริง​ดัง​คาด​ พูด​แค่​ว่า​วันหน้า​หาก​มีเวลาว่าง​จะลอง​ถามดู​ เจี่ยนเฟิง​รู้​ว่า​สิบ​ใน​สิบ​คือ​หมดหวัง​แล้ว​

ออก​มาจาก​บ้าน​หลัง​นั้น​ เดิน​อยู่​ใน​ตรอก​เก่า​โทรม​เพียงลำพัง​ เจี่ยนเฟิง​ก็​ยิ้มเฝื่อน​กับ​ตัวเอง​ วันนี้​เหนื่อย​เปล่า​อีกครั้ง​แล้ว​

ไม่เสียแรง​ที่​ตน​ถูก​คน​พูดลับหลัง​ว่า​เป็น​ใต้เท้า​ผู้ตรวจการ​ที่​ไม่ได้ความ​ที่สุด​ใน​ประวัติศาสตร์​

ห​ลี่​ไหว​ที่อยู่​ใน​ห้อง​ทำ​ท่าจะ​พูด​แต่​ก็​ไม่พูด​

ต่งสุ่ย​จิ่งส่ายหน้า​ ยิ้ม​เอ่ย​ “ชน​กำแพง​เกิด​เสียงดัง​ก็​คือ​ความรู้สึก​ตาม​สัญชาตญาณ​”

ห​ลี่​ไหว​ถาม “อ่าน​มาจาก​ใน​ตำรา​หรือว่า​เฉิน​ผิง​อัน​พูด​ให้​ฟัง?”

ต่งสุ่ย​จิ่งทั้ง​ขำ​ทั้ง​ฉุน​

ห​ลี่​ไหว​หัวเราะ​หึหึ​ “เจ้าเลิกเรียน​เร็ว​ อ่าน​ตำ​รามา​น้อย​ ยัง​สู้ข้า​ไม่ได้​ด้วยซ้ำ​”

ต่งสุ่ย​จิ่งลังเล​อยู่​พักใหญ่​ อัดอั้น​อยู่​นาน​ สุดท้าย​ก็​ยัง​ไม่ถามออก​ไป​

แต่​ห​ลี่​ไหว​กลับ​รู้​ว่า​ต่งสุ่ย​จิ่งอยาก​จะถามอะไร​ “หาก​มีสอง​แล้ว​เลือก​ได้​แค่​หนึ่ง​ ข้า​ต้อง​เลือก​เจ้ามาเป็น​พี่เขย​แน่นอน​”

ต่งสุ่ย​จิ่งกึ่ง​เชื่อ​กึ่ง​กังขา​ “เจอ​กับ​หลิน​โส่ว​อี​ คำถาม​แบบ​เดียวกัน​นี้​ เจ้าจะตอบ​อย่างไร​?”

ห​ลี่​ไหว​หัวเราะ​ดังลั่น​

ต่งสุ่ย​จิ่งไม่ซักไซ้​เอา​คำตอบ​อีก​ เพียง​หันหน้า​ไป​มอง​ต้น​หลิว​ที่​ปลูก​อยู่​ข้าง​บ่อน้ำ​ใน​ลานบ้าน​ อ่อนโยน​นุ่มนวล​ สายตา​ของ​บุรุษ​ก็​อ่อนโยน​เช่นเดียวกับ​ต้น​หลิว​ต้น​นั้น​

ที่ว่าการ​น้ำ​ใสแห่ง​หนึ่ง​ภายใต้​การปกครอง​ของกอง​รถม้า​กรม​กลาโหม​เมืองหลวง​ สำนัก​รายงาน​ข่าว​ที่ทำการไปรษณีย์​ที่​ตั้งอยู่​ใน​ตรอก​เม่าไต้​ วันนี้​มีแขก​ผู้สูงศักดิ์​ใน​วงการ​ขุนนาง​สอง​คน​ที่​ไม่เคย​มายัง​ที่​แห่ง​นี้​มาก่อน​มาเยือน​

หนึ่ง​คือ​คนกันเอง​ของ​สำนัก​การทหาร​ อีก​หนึ่ง​คือ​ขุนนาง​กรม​พิธีการ​ ตำแหน่ง​ขุนนาง​ของ​ทั้งสอง​คือ​หลา​งจง อีก​ทั้ง​ยัง​เป็น​หลา​งจงใน​เมืองหลวง​ที่​มีอำนาจ​มาก​ที่สุด​ของ​ราชสำนัก​ต้า​หลี​ด้วย​

ลูกหลาน​ชนชั้นสูง​ของ​เมืองหลวง​ที่​มีตำแหน่ง​อยู่​ใน​สำนัก​รายงาน​ข่าว​แซ่ฟู่นาม​หู​ เขา​มีพี่ชาย​ที่​มีอนาคต​สดใส​ได้ดิบได้ดี​อย่าง​ถึงที่สุด​นาม​ว่า​ฟู่อวี้​ ก่อนหน้านี้​ไม่นาน​เพิ่ง​ออกจาก​ท้องถิ่น​กลับ​ไป​รายงาน​การปฏิบัติการ​ที่​เมืองหลวง​ ปลดระวาง​ตำแหน่ง​เจ้าเมือง​ของ​เขตการปกครอง​เป่า​ซีใน​หลง​โจว​เก่า​ ถือ​เป็นการ​โยกย้าย​มารับ​ตำแหน่ง​ที่​เท่าเดิม​ เพิ่งจะ​รับหน้าที่​เป็น​เส้าจาน​ซื่อ​ใน​หน่วย​จาน​ซื่อ​หนึ่ง​ใน​เก้า​มนตรี​เล็ก​ ดูแล​หอ​จั่ว​ชุน​ ฟู่หู​ทั้ง​เคารพ​ทั้ง​หวาดกลัว​ลูกผู้พี่​ที่​เจริญก้าวหน้า​ใน​วงการ​ขุนนาง​ผู้​นี้​ บวก​กับ​ที่​ฟู่อวี้​มีอายุ​มากกว่า​ฟู่หู​หนึ่ง​รอบ​ จึงมีความหมาย​เหมือน​เป็น​ทั้ง​พี่ชาย​และ​เป็น​ทั้ง​บิดา​

วันนี้​หลังจากที่​ฟู่หู​จัด​การงาน​เสร็จ​เรียบร้อย​แล้ว​ เดิมที​เขา​กำลัง​นั่งไขว่ห้าง​กำ​หยก​มัน​แพะ​ชิ้น​หนึ่ง​เล่น​อยู่​ใน​มือ​ เมื่อ​เขา​ได้ข่าว​มาจาก​เสมียน​ที่​หน้า​ประตู​ก็​พลัน​ตกใจ​สะดุ้งโหยง​ สร่าง​จาก​สุรา​ลำคลอง​ชางผู​ที่​ดื่ม​มาเมื่อคืน​ทันที​ เข้าใจผิด​คิด​ว่า​ตัวเอง​ทำงาน​ผิดพลาด​ใหญ่​เทียมฟ้า​ที่​ตรงไหน​ ใน​ประวัติศาสตร์​ของ​ราช​วงศ์สกุล​หลู​ใน​อดีต​ เคย​มีคดี​ที่​กล่อง​ตราประทับ​ของ​ห้อง​พิจารณาคดี​กรม​กลาโหม​ถูก​ขโมย​ไป​ เดือดร้อน​เป็น​วงกว้าง​ ฮ่องเต้​พิโรธ​หนัก​ สั่งให้​ตรวจสอบ​แล้ว​ตรวจสอบ​อีก​ สอบสวน​ไป​ถึงสุดท้าย​จึงรู้​ว่า​แม้แต่​กล่อง​ตราประทับ​ที่​ใช้ใน​สำนัก​รายงาน​ข่าว​ก็​ยัง​ถูก​นัก​การหลอม​ทิ้ง​ไป​ด้วย​ เป็นเหตุให้​หมวก​ขุนนาง​และ​ศีรษะ​ของ​คน​ที่อยู่​ในกรม​กลาโหม​ราชสำนัก​สกุล​หลู​หล่น​หายกัน​ไป​เยอะ​มาก​ ตอนนั้น​สกุล​ซ่งต้า​หลี​ที่​เป็น​แคว้น​ใต้​อาณัติ​ของ​สกุล​หลู​ก็ได้​แต่​เห็น​เป็น​เรื่องตลก​เรื่อง​หนึ่ง​เท่านั้น​

รู้​ว่า​อีก​ฝ่าย​ตั้งใจ​มาหา​เหล่า​หลิน​ ฟู่หู​ก็​เดิน​วน​อยู่​ใน​ห้อง​สอง​รอบ​ กระทืบเท้า​หนึ่ง​ที​ สุดท้าย​ก็​ตัดสินใจ​ว่า​จะลอง​บุก​ไป​ลุย​สระ​มังกร​ถ้ำพยัคฆ์​ดู​สัก​รอบ​

คิดถึง​เหล่า​หลิน​ ตลอด​หลาย​ปี​มานี้​ทำงาน​อย่าง​รอบคอบ​ระมัดระวัง​ ตรากตรำ​เหน็ดเหนื่อย​เหมือน​วัว​แก่ๆ​ ตัว​หนึ่ง​ ยาม​อยู่​กับ​ตน​ก็​ปรองดอง​กัน​เป็น​อย่าง​ดี​ ทำ​เรื่อง​ต่างๆ​ มากมาย​ อยู่​ใน​โอ​วา​สไม่เคย​คิด​แย่งชิง​อำนาจ​

อีก​อย่าง​จะดี​จะชั่ว​ตน​ก็​นั่ง​อยู่​บน​เก้าอี้​ผู้นำ​ของ​สำนัก​รายงาน​ข่าว​ ก็​ควรจะ​ต้อง​ปกป้อง​พี่น้อง​ใน​ที่ว่า​การบ้าน​ตัวเอง​เสียหน่อย​

เพียงแต่ว่า​รอ​กระทั่ง​ฟูหู​ไป​ถึงด้านนอก​ห้องทำงาน​ของ​หลิน​เจิ้งเฉิง เห็น​คน​สอง​คน​ที่อยู่​ด้านใน​ ความกล้าหาญ​ของ​เขา​ก็​หายวับ​ไป​อย่าง​สิ้นเชิง​ เป็นเหตุให้​ไม่ทันสังเกต​เห็น​ว่า​เหล่า​หลิน​บ้าน​ตน​ที่​พบ​กับ​แขกไม่ได้รับเชิญ​สอง​คน​แล้ว​เพียงแค่​นั่ง​อยู่​บน​เก้าอี้​ข้าง​กระถาง​ไฟ โน้มตัว​ไป​ข้างหน้า​ยื่นมือ​ไป​อัง​ไฟ ถึงกับ​ไม่ได้​ลุกขึ้น​มารับรอง​แขก​ มาด​ใหญ่​จน​เหมือน​เป็น​เจ้ากรม​ของ​หก​กรม​อย่างไร​อย่างนั้น​

ต้อง​รู้​ว่า​คน​สอง​คน​ที่​ยืน​อยู่​ใน​ห้อง​ ผู้เฒ่า​ผม​ขาว​คน​นั้น​กับ​ชายฉกรรจ์​ร่าง​กำยำ​ที่​พลัง​อำนาจ​น่า​ครั่นคร้าม​คือ​หลา​งจงกอง​ชิงลี่​ฝ่าย​บวงสรวง​กรม​พิธีการ​ต้า​หลี​ กับ​หลา​งจงกอง​คัดเลือก​ทหาร​แห่ง​กรม​กลาโหม​เชียว​นะ​!

ตำแหน่ง​ใน​วงการ​ขุนนาง​ของ​คน​ทั้งสอง​ แต่ไหนแต่ไร​มาก็​เป็น​ตัวเลือก​ที่​สำคัญ​ที่สุด​ที่​ราชครู​ชุย​ฉาน​ต้อง​คัดเลือก​ไว้​ด้วยตัวเอง​ อีก​ทั้ง​ไม่จำเป็นต้อง​ได้รับ​ความ​เห็นชอบ​จาก​เจ้ากรม​กลาโหม​ เจ้ากรม​พิธีการ​รวมถึง​รอง​เจ้ากรม​ด้วย​

หลิน​เจิ้งเฉิงกำลังจะ​ลุกขึ้น​ยืน​ เพียงแต่ว่า​หัว​หน้าที่​โผล่​หัว​มาตรง​ประตู​ห้อง​แวบเดียว​ก็​ก้าว​ถอย​หนี​ไป​กลับ​หาย​ไป​ไม่เหลือ​เงาแล้ว​

หลิน​เจิ้งเฉิงจึงได้​แต่​กลับมา​นั่ง​บน​เก้าอี้​ใหม่​อีกครั้ง​ พยักหน้า​เอ่ย​กับ​หลา​งก​วาน​ทั้งสอง​ว่า​ “ความหมาย​ของ​ฝ่าบาท​ ข้า​เข้าใจ​แล้ว​ จะออกเดินทาง​ไป​ที่​ศูนย์​ตัดไม้​ของ​เข​ตอ​วี้​จางทันที​”

หลา​งจงผู้เฒ่า​ยิ้ม​เอ่ย​ “เดิมที​ควร​เป็นรอง​เจ้ากรม​เฉาของ​กรม​ขุนนาง​ที่​เป็น​ผู้นำ​ขบวน​มาพบ​และ​แจ้งข่าว​แก่​อาจารย์​หลิน​ด้วยตัวเอง​ที่นี่​ เพียงแต่ว่า​พอ​รอง​เจ้ากรม​เฉาได้ยิน​ว่า​ต้อง​มาพบ​อาจารย์​หลิน​ก็​ขา​แพลง​ทันที​ ต้อง​รีบ​หา​คน​มาใส่ยา​ให้​”

เฉาเกิง​ซิน​รับหน้าที่​เป็น​ขุนนาง​อยู่​ใน​จวน​ผู้ตรวจ​การงาน​เตาเผา​ของ​หลง​โจว​มานาน​หลาย​ปี​ แล้วก็​เพราะ​อยู่​ใน​ตำแหน่ง​นี้​ถึงได้​มีโอกาส​ล่วงรู้ความลับ​อันดับ​หนึ่ง​ของ​ต้า​หลี​

ใน​ถ้ำสวรรค์​หลี​จูแห่ง​นั้น​มี ‘สถานะ​หน้าที่​’ อย่างหนึ่ง​ที่​ถูก​เก็บงำ​อำพราง​เอาไว้​ ไม่มีตำแหน่ง​ไม่มีระดับ​ขั้น​ แต่​สำหรับ​ราชสำนัก​ต้า​หลี​แล้ว​กลับ​สำคัญ​ยิ่งกว่า​ขุนนาง​ผู้ตรวจ​การงาน​เตาเผา​ใน​แต่ละ​ยุค​แต่ละ​สมัย​เสีย​อีก​

มีชื่อว่า​ ‘หุน​เจ่อ​’ ความหมาย​คือ​คน​เฝ้าประตู​

คน​ผู้​นี้​ต่างหาก​ถึงจะเป็นหูเป็นตา​ของ​โอร​สวรรค์​ที่​แท้จริง​ของ​ราชสำนัก​ต้า​หลี​ คือ​คน​รู้ใจ​ตัวจริง​ของ​ฮ่องเต้​สกุล​ซ่งต้า​หลี​ หรือ​ควรจะ​พูดว่า​ของ​ราชครู​ชุย​ฉาน​ท่าน​นั้น​

และ​หุน​เจ่อ​คน​สุดท้าย​ที่​ถูก​ต้า​หลี​จัดวาง​ไว้​ใน​ถ้ำสวรรค์​หลี​จู ก็​คือ​บิดา​ของ​หลิน​โส่ว​อี​ ขุนนาง​ผู้ช่วย​จวน​ผู้ตรวจการ​ใน​อดีต​ ทุกวันนี้​มีตำแหน่ง​ขุนนาง​ต่ำต้อย​อยู่​ใน​สำนัก​รายงาน​ข่าว​ที่ทำการไปรษณีย์​ของ​เมืองหลวง​ หลิน​เจิ้งเฉิง

อีก​ทั้ง​เฉาเกิง​ซิน​ยังมี​การ​คาดเดา​ที่​มากกว่า​นั้น​

นับแต่​ใน​อดีต​ที่อยู่​ใน​ถ้ำสวรรค์​หลี​จูกระทั่ง​มาอยู่​ใน​เมืองหลวง​ต้า​หลี​ทุกวันนี้​ มีความเป็นไปได้​อย่างยิ่ง​ว่า​หลิน​เจิ้งเฉิงจะยังคง​สถานะ​หุน​เจ่อ​เอาไว้​ หาก​การ​เจรจา​ระหว่าง​เจ้าขุนเขา​หนุ่ม​ของ​ภูเขา​ลั่วพั่ว​กับ​สกุล​ซ่งต้า​หลี​ไม่เป็น​ผลสำเร็จ​ ทั้งสองฝ่าย​ฉีกหน้า​แตกหัก​กัน​อย่าง​สิ้นเชิง​ หลิน​เจิ้งเฉิงผู้​นี้​ก็​จะต้อง​กลาย​มาเป็น​เขื่อนกั้นน้ำ​ด่าน​สุดท้าย​ที่​ราชครู​ชุย​ฉาน​ทิ้ง​ไว้​ใน​เมืองหลวง​ต้า​หลี​ อย่าง​น้อยที่สุด​ก็​ต้อง​รับประกัน​ว่า​เฉิน​ผิง​อัน​จะไม่เปิดฉาก​เข่นฆ่า​สังหาร​

แม้ว่า​เฉาเกิง​ซิน​จะไม่เข้าใจ​ว่า​เหตุใด​ผู้ฝึก​ตน​ห้า​ขอบเขต​กลาง​ที่​ขอบเขต​ไม่สูงคน​หนึ่ง​ถึงสามารถ​ทำได้​ถึงขั้น​นี้​ แต่​เฉาเกิง​ซินก​ลับ​ยึดถือ​ใน​หลักการ​ข้อ​หนึ่ง​ คน​ที่​ตนเอง​ไป​มีเรื่อง​ด้วย​ไม่ได้​ก็​อย่า​ได้​ไป​ใกล้ชิด​แตะต้อง​เด็ดขาด​

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!