กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 910

นักพรต​น้อย​กอด​ไม้กวาด​ไว้​ใน​อ้อม​อก​ เงียบงัน​ไป​เนิ่นนาน​ รู้สึก​เพียง​ว่า​เรื่องเล่า​ของ​นักพรต​ผู้​นี้​ช่างมีสีสัน​น่าสนใจ​ ไม่มีบัณฑิต​กับ​ปีศาจ​จิ้งจอก​ แล้วก็​ไม่มีเจิน​เห​ริน​ขึ้น​ปะรำ​พิธี​ไป​ขับไล่​เสนียด​ความ​ชั่วร้าย​ ก็​แค่​ว่า​ออกจะ​ประหลาด​ไป​สักหน่อย​ ฟังดู​แล้ว​ไม่เลว​ แต่​เขา​ก็​ตัดใจ​เอา​ไป​เล่า​ให้​พวก​ศิษย์​พี่​ศิษย์​น้อง​ฟังไม่ได้​จริงๆ​ เพราะ​ถึงอย่างไร​ตน​ก็​ต้อง​จ่าย​เงิน​ตั้ง​สามอีแปะ​เชียว​นะ​ สุดท้าย​นักพรต​น้อย​ก็​ทอดถอนใจ​อย่า​งอด​ไม่อยู่​ “ท่าน​นักพรต​มาจาก​ไหน​หรือ​?”

ลู่​เฉิน​ยิ้ม​พลาง​โบกมือ​ “บอก​ตามตรง​ ข้า​เก่ง​ด้าน​ดู​ลายมือ​มาก​ อา​โห​ย่ว​ มา แบมือ​มา ข้า​จะช่วย​ดูดวง​ให้​เจ้า”

นักพรต​น้อย​เกิด​ระแวดระวัง​ขึ้น​มาทันที​ นี่​คือ​คิด​จะปล่อย​สาย​เบ็ด​ยาว​เพื่อ​ตกปลา​ตัว​ใหญ่​ สืบสาวราวเรื่อง​กัน​แล้ว​คือ​คิด​จะหลอก​เอา​เงิน​จาก​ข้า​หรือ​?

ลู่​เฉิน​บ่น​ “ไม่เก็บ​เงิน​!”

นักพรต​น้อย​ถาม “พอ​ท่าน​ดู​ว่า​ลายมือ​ไม่ดี​ก็​จะเก็บ​เงิน​เพิ่ม​ เป็นการ​จ่าย​เงิน​ฟาดเคราะห์​ใช่หรือไม่​?”

ลู่​เฉิน​สูด​ลมหายใจ​ดัง​เฮือก​ สาย​เต๋า​บ้าน​ตน​มีอัจฉริยะ​แบบนี้​ได้​อย่างไร​กัน​

วันหน้า​ติดตาม​ตน​ไป​ตั้ง​แผง​ดูดวง​ก็​ถือเป็น​วัตถุดิบ​ที่​ดี​ชิ้น​หนึ่ง​เลย​นะ​

นักพรต​น้อย​ลังเล​เล็กน้อย​ สุดท้าย​ก็​ยังมี​สีหน้า​หม่นหมอง​ กัด​ริมฝีปาก​ วาง​ไม้กวาด​ลง​ เอ่ย​อำลา​ท่าน​นักพรต​ด้วย​การ​ก้มหัว​คารวะ​ตาม​ขนบ​ลัทธิ​เต๋า​ จากนั้น​ค้อม​เอว​ลง​ มือ​ทั้งสอง​หยิบ​ที่​ตัก​ผง​เอา​ใบไม้​ร่วง​ไป​เท​ยัง​จุด​ที่​ห่าง​ไป​ไกล​

ลู่​เฉิน​ถอนหายใจ​

เดิมที​เด็กน้อย​อยาก​ถามแซ่ของ​ตน​ เพียงแต่ว่า​คำพูด​มารอ​อยู่​ที่​ริมฝีปาก​แล้ว​ สุดท้าย​ก็​ยัง​รู้สึก​ว่า​ไม่มีความจำเป็น​นั้น​

รอ​กระทั่ง​เด็กน้อย​เท​ใบไม้​ร่วง​ใน​ที่​ตัก​ผง​เสร็จ​ หันหน้า​ไป​มอง​ นักพรต​หนุ่ม​ที่นั่ง​อยู่​บน​ราว​รั้ว​ก็​ไม่อยู่แล้ว​

ลู่​เฉิน​แอบ​มาถึงที่​ธรณีประตู​ของ​ตำหนัก​ใหญ่​ใน​อาราม​เต๋า​ ทั้ง​กวักมือ​ทั้ง​โบกมือ​ให้​กับ​เจ้าอาราม​ผู้เฒ่า​ที่​สวม​ชุด​คลุม​เต๋า​มอซอ​ซึ่งกำลัง​นำพา​เด็ก​ทั้ง​กลุ่ม​ท่องหนังสือ​อยู่​ นักพรต​เฒ่าเห็น​เขา​ครั้งแรก​ก็​แค่​ยิ้ม​บาง​ๆ พลาง​ส่ายหน้า​ ท่องหนังสือ​ต่อไป​ แต่​พอ​หันมา​เห็น​เป็น​ครั้ง​ที่สอง​ว่า​นักพรต​หนุ่ม​แปลกหน้า​ยังคง​โบกมือ​แรง​ๆ อยู่​ตรง​ธรณีประตู​ นักพรต​เฒ่าก็​ขมวดคิ้ว​น้อย​ๆ สายตา​บอกเป็นนัย​ให้​รู้​ว่า​ตอนนี้​ตน​ยัง​ไม่ว่าง​ รอ​กระทั่ง​เห็น​เป็น​ครั้ง​ที่สาม​ เจ้าอาราม​ผู้เฒ่า​ที่​เป็น​ถึงเจ้าอาราม​แห่ง​หนึ่ง​ก็​ลุกขึ้น​ยืน​อย่าง​โมโห​ ก้าว​ยาว​ๆ ไป​ที่​หน้า​ประตู​ เตรียม​จะสั่งสอน​อีก​ฝ่าย​ คิดไม่ถึง​ว่า​อีก​ฝ่าย​จะใช้มือหนึ่ง​จับ​ชาย​แขน​เสื้อ​ มือหนึ่ง​จับมือ​ของ​ตน​แล้ว​ตบ​เบา​ๆ

เจ้าอาราม​ผู้เฒ่า​ไม่ต้อง​ก้มหน้า​ แค่​ลอง​ชั่งน้ำหนัก​ดู​ก็​รู้​ เฮ้อ​ คือ​วัตถุ​สีทอง​สีขาว​ของ​ล่าง​ภูเขา​ ช่างเถิด​ๆ เพียงแต่ว่า​มัน​ออกจะ​เบา​ไป​สักหน่อย​

นักพรต​หนุ่ม​ควัก​ ‘เหรียญทองแดง​’ ออกมา​อีก​หนึ่ง​กำมือ​ ยัด​ใส่มือ​เจ้าอาราม​ผู้เฒ่า​ต่อ​อีกครั้ง​ ฝ่าย​หลัง​ก้มหน้า​ลง​เล็กน้อย​ หลุบ​ตา​ลง​ต่ำ​แล้ว​ดวงตา​ก็​พลัน​เป็นประกาย​ หืม?​

ถึงกับ​เป็น​เงิน​เกล็ด​หิมะ​บน​ภูเขา​สามเหรียญ​?!

เจ้าอาราม​ผู้เฒ่า​รอ​อยู่​พัก​หนึ่ง​ เห็น​ว่า​อีก​ฝ่าย​ไม่คลำ​ชาย​แขน​เสื้อ​แล้วก็​กำหมัด​เบา​ๆ บิด​หมุน​ข้อมือ​เก็บ​เหรียญ​ใส่ไว้​ใน​ชาย​แขน​เสื้อ​ ไม่ต้อง​มีบทสนทนา​ ลาก​อีก​ฝ่าย​เดิน​ไป​ยัง​ทิศ​ไกล​ ถามโดยตรง​ว่า​ “สหาย​รู้​ได้​อย่างไร​ว่า​ ‘อาราม​ชิวหา​ว’​ ของ​ผิน​เต้า​มีหนังสือรับรอง​ส่วนตัว​เหลืออยู่​? กฎระเบียบ​ของ​ที่นี่​ สหาย​เข้าใจ​หรือไม่​?”

ความนัย​ใน​คำพูด​ก็​คือ​ ถึงอย่างไร​หนังสือรับรอง​ส่วนตัว​ของ​อาราม​ก็​ไม่อาจ​เทียบ​กับ​หนังสือรับรอง​ทางการ​ของ​สำนัก​ได้​ ทุกวันนี้​ราชสำนัก​ต้า​หลี​ควบคุม​เข้มงวด​ การ​มอบ​โองการ​กัน​เป็นการ​ส่วนตัว​ ในอนาคต​เอา​ไป​ใช้ตั้ง​แผง​ข้างทาง​พอ​จะทำได้​ แต่​ยาก​จะเดิน​เข้า​บ้าน​ธรณีประตู​สูง พูด​ง่ายๆ​ ก็​คือ​คิด​จะหลอก​เอา​เงิน​จาก​จักรพรรดิ​อัคร​เสนาบดี​หรือ​ชนชั้นสูง​ก็​ยาก​แล้ว​

นักพรต​หนุ่ม​ยิ้ม​อย่าง​รู้กัน​ “ไม่เข้าใจ​จะมาได้​หรือ​? ข้า​แค่​จะเอา​ไป​โอ้อวด​กับ​พวก​คน​ที่​ไม่เข้าใจ​เท่า​นั้นแหละ​”

เจ้าอาราม​ผู้เฒ่า​ทอดถอนใจ​ ยื่น​สอง​นิ้ว​ทำท่า​ขยี้​เบา​ๆ “สหาย​เข้าใจ​กฎระเบียบ​แต่กลับ​ไม่เข้าใจ​ราคาตลาด​นะ​ ต้อง​เพิ่ม​เงิน​”

เจ้าอาราม​ผู้เฒ่า​กด​เสียง​ลง​ต่ำ​อีกครั้ง​ “ตกลง​กัน​ไว้​ก่อน​ว่า​ ไม่มีการ​คืนเงิน​!”

ลู่​เฉิน​ยิ้ม​เอ่ย​ “หาก​ต้อง​เพิ่ม​เงิน​ก็​ช่างเถิด​ ข้า​แค่​มาปู​ทาง​ให้​กับ​อา​โห​ย่ว​เท่านั้น​”

นักพรต​เฒ่าอึ้ง​ตะลึง​ “เจ้าคือ​บิดา​ที่​พลัด​พรากจากกัน​ไป​นาน​หลาย​ปี​ของ​อา​โห​ย่ว​หรือ​?”

ลู่​เฉิน​หัวเราะ​หึหึ​ “เจ้าอาราม​ลอง​เดา​ดู​สิ”

นักพรต​เฒ่ายัง​ไม่ยอม​ปล่อย​เจ้าคน​ที่​มือเติบ​หลอก​ง่าย​ผู้​นี้​ไป​ เอ่ย​โน้มน้าว​ต่อ​อี​กว่า​ “สหาย​เจ้าก็​น่าจะ​เข้าใจ​ อาราม​แห่ง​นี้​ของ​ผิน​เต้า​มีขนาดเล็ก​ แต่​รายชื่อ​ลู่​เซิงของ​ทุกๆ​ สิบ​ปี​กลับ​ไม่มีทาง​หนี​ไป​ไหน​ได้​ นี่​คือ​กฎ​ที่​ฉีเทียน​จวิน​ของ​พวกเรา​ตั้ง​ไว้​นาน​แล้ว​ ถึงอย่างไร​อา​โห​ย่ว​ก็​อายุ​ยัง​น้อย​ ใน​อาราม​ยังมี​ศิษย์​พี่​กับ​อาจารย์​อา​อีก​กลุ่ม​ใหญ่​ ต้อง​รอ​ปี​ไหน​ถึงจะวน​มาถึงคราว​ของ​เขา​ได้​? ทาง​ฝั่งของ​ศาล​บรรพ​จารย์​มีการ​ทดสอบ​ที่​เข้มงวด​มาก​เลย​ล่ะ​ ก็​ไม่ใช่ว่า​ใคร​ไป​แล้วก็​จะต้อง​ได้​ทำพิธี​รับ​โองการ​ หาก​คน​ที่​แนะนำ​ไป​ไม่ผ่าน​การ​รับ​โองการ​ อีก​สิบ​ปี​ถัดมา​ก็​จะเสีย​สิทธิ์​นั้น​ไป​แล้ว​ แต่ว่า​ใน​อาราม​ชิวหา​ว​แห่ง​นี้​ล้วน​มีแต่​คนกันเอง​ ผู้ฝึก​บำเพ็ญตน​ไม่ดู​ที่​นิสัยใจคอ​ว่า​ดี​หรือ​ร้าย​แล้ว​จะต้อง​ดู​ที่​อะไร​ บรรพ​จารย์​ได้​ตั้ง​กฎ​เอาไว้​ข้อ​หนึ่ง​บอ​กว่า​ ‘หากว่า​มีคน​ที่​คุณธรรม​ความดี​เหนือ​เกิน​กว่า​ผู้ใด​ ผู้​ที่​ตบะ​สูงโดดเด่น​ก็​จะสามารถ​แหก​กฎ​มอบ​หนังสือรับรอง​ให้ได้​’ หาก​จะว่า​กัน​จริงๆ​ อาราม​ชิวหา​ว​ของ​พวกเรา​นั้น​สามารถ​มอบ​โองการ​ให้​กันเอง​ได้​ แม้ว่า​จะไม่ได้​ล้ำค่า​เท่า​ศาล​บรรพ​จารย์​ของ​สำนัก​ก็​จริง​ แต่​สถานะ​ลู่​เซิงก็​เป็น​ของจริง​เหมือนกัน​ ถึงเวลา​นั้น​บน​ศีรษะ​สวม​กวาน​ดอกบัว​ แล้ว​จะไม่ใช่นักพรต​เจิน​เห​ริน​ได้​อย่างไร​? สิ่งเหล่านี้​ไม่ใช่ว่า​ผิน​เต้า​พูด​เอา​เอง​ส่งเดช​ สหาย​เจ้าคิด​ว่า​อย่างไร​?”

เจ้าอาราม​ผู้เฒ่า​เห็น​ว่า​นักพรต​หนุ่ม​พยักหน้า​อืม​ๆๆ แต่กลับ​ไม่ยอม​ควัก​เงิน​ เขา​ก็​ให้​ร้อนใจ​นัก​

ลู่​เฉิน​มอง​เจ้าอาราม​ผู้เฒ่า​ที่​ชุด​คลุม​เต๋า​ถูก​ซัก​จน​เริ่ม​ซีด​ขาว​ แล้วก็​มอง​ไป​ยัง​ความคิด​จิตใจ​ของ​เขา​ที่​อยาก​จะทา​ทอง​ทับ​ให้​เทวรูป​ของ​บรรพ​จารย์​ดี​ๆ สัก​ชั้น​ ตำหนัก​บรรพ​จารย์​ก็​ต้อง​ซ่อม​ใหม่​หมด​ ทำ​อย่างไร​มีหน้ามีตา​ก็​จะทำ​อย่างนั้น​ วันหน้า​จะได้​เอา​ไป​โอ้อวด​กับ​อาราม​ทั้งหลาย​ที่​เป็น​เพื่อนบ้าน​กัน​ ในอนาคต​ตอนที่​จุด​ธูป​กราบไหว้​บรรพ​จารย์​บ้าน​ตน​เอว​ก็​จะได้​ยืด​ตรง​ขึ้น​ได้​หลาย​ส่วน​…ความคิด​ทั้งหลาย​นี้​ของ​เขา​ทำเอา​ลู่​เฉิน​ไม่รู้​ว่า​ควรจะ​หัวเราะ​หรือ​ร้องไห้​ดี​ ไม่ว่า​จะอย่างไร​ แม้อาราม​จะยากจน​ไป​บ้าง​ แต่​ขนบธรรมเนียม​กลับ​ไม่เลว​

ลู่​เฉินตบ​ไหล่​ของ​นักพรต​เฒ่า ยิ้ม​เอ่ย​ “เอาล่ะ​ๆ เลิก​โอดครวญ​ว่า​ยากจน​กับ​ข้า​สักที​เถอะ​ ทำเอา​บรรพ​จารย์​อย่าง​ข้า​ได้​ฟังแล้ว​น้ำตา​จะไหล​ วันหน้า​เดี๋ยว​ข้า​จะไป​บอก​ฉีเจิน​สัก​คำ​ ให้​เขา​จัด​งานพิธี​รับ​โองการ​ขึ้น​มาโดยเฉพาะ​ มอบ​สถานะ​ลู่​เซิงที่จริง​แท้​แน่นอน​ให้​กับ​อา​โห​ย่ว…”​

ได้ยิน​นักพรต​หนุ่ม​พูดจา​ระยำ​ไร้​ความ​ยำเกรง​ เจ้าอาราม​ผู้เฒ่า​ก็​โมโห​จน​ยก​หมัด​ต่อย​ลง​บน​หน้าอก​ของ​อีก​ฝ่าย​ “หุบปาก​!”

ลู่​เฉิน​ขยับ​ไป​ด้าน​ข้าง​หลบ​หมัด​นั้น​มาได้​ ไม่ได้​รู้สึก​ว่า​ถูก​ต่อย​แล้ว​เสียหน้า​ แต่​เป็น​เพราะ​กังวล​ว่า​หาก​หมัด​นี้​โดน​ตัว​เขา​จริงๆ​ จะไม่ดี​ต่อ​เจ้าอาราม​ผู้เฒ่า​ ลู่​เฉิน​ยื่นมือ​ข้าง​หนึ่ง​ออกมา​ ยิ้ม​หน้าทะเล้น​เอ่ย​ว่า​ “แค่นี้​ก็​เจรจา​ไม่สำเร็จ​แล้ว​หรือ​? เอา​เงิน​คืน​ข้า​มา!”

เจ้าอาราม​ผู้เฒ่า​หน้าเขียว​ ถอนหายใจ​ ทำ​ท่าจะ​ควัก​เอา​เงิน​ที่​เข้ามา​อยู่​ใน​กระเป๋า​แล้ว​ออกมา​ แต่​ปาก​กลับ​เอ่ย​ว่า​ “สหาย​ขี้เหนียว​จริงๆ​”

ลู่​เฉิน​ยิ้ม​บาง​ๆ “อ้อ​?”

นาที​ถัดมา​ เจ้าอาราม​ผู้เฒ่า​ก็​ต้อง​ขยี้ตา​แรง​ๆ

นักพรต​หนุ่ม​ที่อยู่​ตรงหน้า​ บน​ศีรษะ​สวม​กวาน​ดอกบัว​

และ​กวาน​ดอกบัว​นั้น​ ไม่ว่า​จะเป็น​นักพรต​ตัวจริง​หรือ​นักพรต​ตัว​ปลอม​ก็​ไม่มีทาง​กล้า​ทำ​ความผิด​มหันต์​เช่นนี้​เด็ดขาด​ ใคร​จะกล้า​ปลอมแปลง​กวาน​เต๋า​นี้​ขึ้น​มาโดยพลการ​ ยิ่ง​ไม่กล้า​สวม​กวาน​นี้​บน​ศีรษะ​ตัวเอง​เดิน​โอ้อวด​ไป​ทั่ว​

แล้ว​นับประสาอะไร​กับ​ที่​อาราม​ชิวหา​ว​ยังอยู่​ใน​อาณาเขต​ของ​สำนัก​โองการ​เทพ​

เป็นเหตุให้​นาที​ถัดมา​ น้ำตา​ร้อน​ๆ เอ่อ​คลอ​ดวงตา​ของ​เจ้าอาราม​ผู้เฒ่า​ เขา​ซาบซึ้งใจ​อย่าง​ถึงที่สุด​ ถอยหลัง​ไป​หลาย​ก้าว​ คุกเข่า​ลงพื้น​เสียงดัง​ตุ้บ​ แล้วก็​เริ่ม​โขก​ศีรษะ​ให้​กับ​บรรพ​จารย์​บ้าน​ตน​ นักพรต​เฒ่าริมฝีปาก​สั่น​ระริก​ พูด​อะไร​ไม่ออก​แม้แต่​คำ​เดียว​ ทรุดตัว​หมอบ​อยู่​กับ​พื้น​ น้ำตา​อาบ​เต็ม​ใบหน้า​ ถึงกับ​ทนไม่ไหว​ส่งเสียง​ร้องไห้​คร่ำครวญ​ดังลั่น​

หลาย​ปี​ที่ผ่านมา​นี้​ นับตั้งแต่​ตน​ที่​โง่เขลา​คุณสมบัติ​ย่ำแย่​ได้มา​เป็น​เจ้าอาราม​คน​ปัจจุบัน​ จากนั้น​ผลักดัน​กัน​มาตลอดทาง​ เจ้าอาราม​แต่ละ​รุ่น​ ดูเหมือน​ว่าการ​ฝึก​ตน​ตลอดชีวิต​ก็​ฝึก​ได้​แค่​คำ​ว่า​ยากจน​ตัว​โต​ๆ ออกมา​เท่านั้น​ ชีวิต​ช่างยากลำบาก​เหลือเกิน​

ลู่​เฉิน​ทรุดตัว​ลงนั่ง​ยอง​ ตบ​ไหล่​ของ​นักพรต​เฒ่า ยากจน​จน​มีแต่​กระดูก​คลำ​ไม่เจอ​เนื้อหนัง​แล้ว​ ยิ้ม​เอ่ย​ปลอบใจ​เสียง​เบา​ว่า​ “รู้​แล้ว​ๆ ทุกคน​ต่าง​ก็​ไม่ง่าย​เลย​”

นักพรต​เฒ่าร้องไห้​ด้วย​ความเสียใจ​อย่าง​แท้จริง​ เนิ่นนาน​กว่า​จะนึก​ขึ้น​ได้​ว่า​คน​ที่นั่ง​ยอง​อยู่​ข้าง​กาย​ตน​คือ​บรรพ​จารย์​บ้าน​ตน​ คือ​เจ้าลัทธิ​แห่ง​ป๋า​ยอ​วี้​จิง รีบ​เช็ด​น้ำตา​ กำลังจะ​ลุกขึ้น​ แต่​เงยหน้า​ก็​เห็น​ว่า​บรรพ​จารย์​นั่งลง​บน​พื้น​แล้ว​ เจ้าอาราม​ผู้เฒ่า​จึงหด​คอ​ห่อไหล่​นั่งลง​บน​พื้น​ข้าง​กัน​อย่าง​กล้า​ๆ กลัว​ๆ

ลู่​เฉิน​ถึงได้​ลุกขึ้น​ยืน​ ยิ้ม​กล่าว​ “ไป​แล้ว​ๆ จำไว้​ว่า​รอ​ให้​ฉีเจิน​กลับ​มาจาก​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ เจ้าก็​ไป​บอก​กับ​ฉีเจิน​ว่า​ ทุกวันนี้​อา​โห​ย่ว​คือ​ลูกศิษย์​ผู้สืบทอด​ของ​ข้า​แล้ว​ ให้​เขา​ตัดสินใจ​เอา​เอง​ว่า​จะทำ​อย่างไร​”

เจ้าอาราม​ผู้เฒ่า​พยักหน้า​รับ​อย่าง​แรง​ ตาพร่า​ลาย​ไป​หนึ่ง​ที​ก็​ไม่เห็น​ร่องรอย​ของ​บรรพ​จารย์​บ้าน​ตน​แล้ว​

ลู่​เฉิน​เดินทางไกล​ข้าม​ทวีป​ ผ่าน​มหาสมุทร​ใหญ่​ที่​คั่น​กลาง​ระหว่าง​สอง​ทวีป​ก็​ก้มหน้า​ลง​

ปลา​แย่งชิง​กันลง​น้ำ​ คน​แย่งชิง​กัน​พิสูจน์​มรรคา​

หวน​นึกถึง​อดีต​อัน​ห่างไกล​ ดูเหมือนว่า​จะเคย​ได้ยิน​การ​ถามตอบ​กับ​หู​ตัวเอง​มาก่อน​

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!