กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 911

เซอ​เย​ว่​ส่ายหน้า​โดยตรง​ หาก​เจ้ากับ​อิ่น​กวาน​นิสัย​เหมือนกัน​ พวกเรา​สอง​คน​ก็​ไม่มีทาง​กิน​เป็ด​ผัด​หน่อไม้​แห้ง​หม้อ​เดียวกัน​ได้​หรอก​

“นับแต่​เด็ก​เฉิน​ผิง​อัน​ก็​มีจิตใจ​ละเอียดอ่อน​ ไม่ชอบ​พูดมาก​ ส่วน​ข้า​ กลับเป็น​คน​ตรงไปตรงมา​ คิด​อะไร​ก็​พูด​ออกมา​อย่างนั้น​ ไม่ว่า​จะน่าฟัง​หรือไม่​น่าฟัง​ ข้า​ก็​ไม่สนใจ​ พูด​ไป​ก่อน​แล้ว​ค่อย​ว่า​กัน​ ปี​นั้น​ทั้งสองฝ่าย​ได้​รู้จัก​กัน​แล้ว​ แรกเริ่ม​ที่​ข้า​อยู่​กับ​เฉิน​ผิง​อัน​ อันที่จริง​ก็​รู้สึก​ว่า​ไม่สนุก​เอา​เสีย​เลย​ รู้สึก​ว่า​ไอ้​หมอ​นี่​น่าเบื่อ​ ข้า​เป็น​คน​ที่​ชอบ​เล่น​สนุก​ มักจะ​ต่อย​ตี​กับ​คน​วัย​เดียวกัน​เป็นประจำ​ ดูเหมือนว่า​ทำ​แบบนี้​ถึงจะดู​ใกล้ชิด​สนิทสนม​กัน​ เป็น​แบบนี้​ความสัมพันธ์​ถึงจะดีขึ้น​ แน่นอน​ว่า​จะระวัง​ตอน​ออกแรง​ด้วย​ เวลา​นั้น​เฉิน​ผิง​อัน​โดน​ตี​ไป​ไม่น้อย​ แต่​ก็​แค่​คิด​ว่า​ข้า​ล้อเล่น​กับ​เขา​จึงไม่โกรธ​ ต่อมา​วันหนึ่ง​ข้า​ถูก​เพื่อนบ้าน​คน​หนึ่ง​ถีบ​จาก​ด้านหลัง​ แน่นอน​ว่า​อีก​ฝ่าย​ก็​ล้อเล่น​เหมือนกัน​ แต่​ข้า​กลับ​โกรธ​จน​ไฟโทสะ​ลุก​ท่วม​สามจั้ง แล้วก็​เพราะ​กำลัง​อารมณ์ไม่ดี​ จึงต่อย​กับ​เขา​อย่าง​รุนแรง​ไป​รอบ​หนึ่ง​ ภายหลัง​เป็น​เฉิน​ผิง​อัน​ที่​หา​ยาสมุนไพร​มาให้​ ข้า​จึงคล้าย​จะเข้าใจ​เรื่อง​หนึ่ง​ใน​ฉับพลัน​ ข้า​คน​นี้​ มีปัญหา​ใน​การ​วางตัว​อยู่​ร่วมกับ​คนอื่น​ บางที​ชั่วชีวิต​นี้​คง​ยาก​ที่จะ​มีสหาย​ที่​แท้จริง​แล้ว​ เอาเป็นว่า​หลังจากนั้น​ข้า​ก็​ใช้หมัด​ใช้เท้า​กับ​คนอื่น​น้อย​มาก​ แต่​เฉิน​ผิง​อัน​ก็​ยัง​มักจะ​ติดตาม​อยู่​ด้านหลัง​ข้า​บ่อยๆ​ ขึ้นเขาลงห้วย​ไป​ด้วยกัน​ ข้า​สอน​ให้​เขา​ทำ​สารพัด​อย่าง​ นาน​วัน​เข้า​ก็​กลายเป็น​ความเคยชิน​ ดูเหมือนว่า​ก็ได้​กลาย​เป็นเพื่อน​กัน​แล้ว​”

“ตอน​เด็ก​ๆ มักจะ​เล่น​แลกหมัด​กับ​คนอื่น​ ดู​ว่า​ใคร​จะทน​เจ็บ​ไม่ได้​ก่อน​กัน​ จนกว่า​อีก​ฝ่าย​จะยอมแพ้​ถึงจะหยุด​ ข้า​มักจะ​เป็น​คน​ที่​ชนะ​เสมอ​ แต่​เฉิน​ผิง​อัน​ไม่เคย​เล่น​แบบนี้​ ภายหลัง​ด้าน​หลังเขา​มีเจ้าขี้มูก​ยืด​น้อย​ติด​ตามมา​ เขา​กลับ​ชอบ​เล่น​กับ​ข้า​ เด็ก​ตัว​ใหญ่​เท่า​ก้น​ ไม่ยอมแพ้​ง่ายๆ​ เล่น​ไป​ร้องไห้​ไป​ ยืนกราน​ไม่ยอมแพ้​ เฉิน​ผิง​อัน​ต้อง​พูด​ปลอบ​อยู่​นาน​ถึงจะโน้มน้าว​ให้​เจ้าขี้มูก​ยืด​น้อย​เลิกเล่น​ได้​ แล้วก็​บอก​ข้า​ว่า​อย่า​เล่น​แบบนี้​กับ​เจ้าขี้มูก​ยืด​น้อย​อีก​ เด็ก​ตัว​ใหญ่​เพียง​เท่านั้น​ กำลัง​อยู่​ใน​ช่วงตัว​ยืด​ ย่อม​ทน​รับ​การ​ถูก​ตี​ไม่ได้​”

ไม่รู้​ว่า​เหตุใด​ ไม่ว่า​เฉิน​ผิง​อัน​ใน​ทุกวันนี้​เป็น​อย่างไร​ วันหน้า​เฉิน​ผิง​อัน​ก็​จะยัง​เป็น​คน​แบบนี้​เสมอ​

ใน​สายตา​ของ​หลิว​เสี้ยน​หยาง​ ดูเหมือน​จะเห็น​เขา​เป็น​เพียง​เด็กหนุ่ม​ตรอก​หนี​ผิง​ตัว​ผอม​ดำ​ ดวงตา​ใสกระจ่าง​คน​นั้น​อยู่​เสมอ​ ไม่ว่า​ทำ​อะไร​ก็​มีสีหน้า​จริงจัง​ เวลา​พูด​กับ​คนอื่น​ก็​จะต้อง​มอง​ตา​อีก​ฝ่าย​ มีเพียง​ตอนที่​คิด​เรื่อง​ใน​ใจเท่านั้น​ถึงจะเม้มปาก​ ไม่รู้​ว่า​กำลัง​คิด​อะไร​อยู่​ ถามไป​ก็​ไม่บอก​ ราวกับว่า​ทั่ว​ทั้ง​บ้านเกิด​ คน​ที่​ใช้ชีวิต​ไป​วัน​ๆ ก็​ใช้ชีวิต​ไป​วัน​ๆ คน​ที่​มีหวัง​ก็​คาดฝัน​ถึงอนาคต​ คน​ที่​ไม่มีเงิน​ก็​อยาก​หาเงิน​ มีเพียง​เด็กหนุ่ม​รอง​เท้าสาน​ที่​เงียบขรึม​พูดน้อย​เท่านั้น​ที่​คล้าย​เดิน​ถอยหลัง​อยู่​เพียงลำพัง​

หลิว​เสี้ยน​หยาง​พูด​อย่าง​สะท้อนใจ​ “ไม่ว่า​จะอย่างไร​ พวกเรา​สามคน​ต่าง​ก็​เติบใหญ่​แล้ว​”

ใน​อดีต​ที่​เพิ่ง​ผ่าน​ไป​ไม่นาน​ น้ำ​ใน​ลำธาร​เริ่ม​ตื้นเขิน​ น้ำ​ใน​บ่อ​เริ่ม​เยียบ​เย็น​ ต้น​ไหว​แก่​ยิ่งกว่า​เดิม​ โซ่เหล็ก​เกิด​สนิม​ เมฆใหญ่​คล้อย​ลง​ต่ำ​ ใบ​ท้อ​ของ​ปี​นั้น​ไม่เห็น​ดอก​ท้อ​

ทว่า​ทุกวันนี้​ หิมะ​ที่​ทับถม​หลอมละลาย​ น้ำแข็ง​คลาย​จาก​ภูเขา​เขียว​ เสียง​น้ำแข็ง​ตกหล่น​ นก​น้อย​ใต้​ใบไม้​ เป็น​อีก​ปี​ที่​ดอก​ท้อ​เบ่งบาน​ บอ​กว่า​ปี​นั้น​วสันต์​ฤดู​งดงาม​ที่สุด​

……

ท่ามกลาง​ม่าน​ราตรี​ คน​ผู้​หนึ่ง​เข้ามา​ใน​ศาล​เทพ​อัคคี​ของ​เมือง​สุย​เจี้ย​

คน​ผู้​นี้​เข้ามา​ที่​ตำหนัก​หลัก​ของ​ศาล​เทพ​อัคคี​ที่​ผ่าน​การซ่อมแซม​จน​เหมือน​ใหม่​แล้วก็​ไม่กล้า​ส่งเสียงดัง​ปลุก​ให้​คน​เฝ้าศาล​ที่นอน​กรน​เสียงดัง​สนั่นฟ้าตื่น​ เขา​ฉีก​ยันต์​รอย​หิมะ​บน​ร่าง​ออก​ ป้องกัน​ไม่ให้​เสมียน​โลก​มืด​ของ​ศาล​เทพ​อภิบาล​เมือง​สัมผัส​ได้​ถึงร่องรอย​ แต่​ใน​ฝ่ามือ​ของ​บุรุษ​ยังคง​กำ​แกน​ไม้ท้อ​ที่​ปี​นั้น​ผู้อาวุโส​เฉิน​มอบ​ไว้​ให้​แน่น​ หันหน้า​ไป​ทาง​เทวรูป​ดิน​ปั้น​ลงสี​ กุม​หมัด​เอ่ย​ว่า​ “ตู้​อวี๋​แห่ง​ตำหนัก​ขวาน​ผี​คารวะ​ท่าน​เทพ​ รบกวน​ท่าน​แล้ว​ ข้า​ขอ​พัก​สักครู่​แล้ว​จะจากไป​ทันที​”

หลาย​ปี​มานี้​ตู้​อวี๋​ออก​ท่อง​ยุทธ​ภพ​ นอกจาก​จะเลื่อน​จาก​ขอบเขต​ถ้ำสถิต​ขั้นสูงสุด​ใน​ปี​นั้น​กลาย​มาเป็น​ขอบเขต​ชมมหาสมุทร​แล้ว​ ยัง​เรียน​วิชา​ยันต์​สอง​บท​เป็น​แล้ว​ ปี​นั้น​ผู้อาวุโส​คนดี​มอบ​กระดาษ​ให้​เขา​สอง​แผ่น​ ด้านบน​แยกกัน​บันทึก​เคล็ดลับ​การ​วาด​ยันต์​ปราณ​หยาง​ส่องไฟ​และ​ยันต์​ทำลาย​สิ่งกีดขวาง​ภูเขา​สายน้ำ​

แน่นอน​ว่า​ตู้​อวี๋​ย่อม​มีคุณสมบัติ​ใน​การเรียน​สาย​ยันต์​ ไม่อย่างนั้น​ปี​นั้น​ก็​คง​ไม่อาจ​สอน​ยันต์​รอย​หิมะ​และ​ยันต์​แบก​ศิลา​ที่​เป็น​ ‘วิชา​ความรู้​ของ​วงศ์ตระกูล​บน​ภูเขา​’ ให้​กับ​ผู้อาวุโส​เซียน​กระบี่​ที่​เรียก​ตัวเอง​ว่า​เฉิน​คนดี​ได้​

มองออก​ว่า​ยันต์​เซียน​สอง​บท​นี้​ไม่เหมือนกับ​ยันต์​ขุนเขา​สายน้ำ​ที่​เอา​มาใช้ป้องกัน​ผี​บังตา​

ชายฉกรรจ์​เครา​ดก​คน​หนึ่ง​เผย​ร่าง​จริง​ออก​มาจาก​เทวรูป​ใน​ศาล​ พลิ้ว​กาย​ลง​บน​พื้น​ ยิ้ม​ถาม “เจอ​เรื่อง​อะไร​อีกแล้ว​หรือ​?”

ตู้​อวี๋​ยิ้ม​ฝืด​เฝื่อน​ อีก​ฝ่าย​พูด​ตรงเผง​เลย​

ก่อน​จะมาที่​ศาล​เมือง​สุย​เจี้ย​แห่ง​นี้​ ตู้​อวี๋​เคย​แอบ​ไป​เยือน​ทะเลสาบ​ชางอ​วิ๋น​รอบ​หนึ่ง​ ไปหา​อิน​โหว​หู​จวิน​

อีก​ฝ่าย​ไม่ได้​ซ้ำเติม​เขา​ หลังจาก​ฟังเรื่อง​ที่​ตู้​อวี๋​ประสบ​พบ​เจอ​มา อิน​โหว​ก็​แค่​บอ​กว่า​ทะเลสาบ​ชางอ​วิ๋น​เล็ก​ๆ แห่ง​นี้​ไม่มีทาง​ปกป้อง​เขา​ตู้​อวี๋​ได้​แน่นอน​ ต้อง​รีบ​หา​หนทาง​อย่าง​อื่น​แล้ว​

หู​จวิน​ท่าน​นั้น​นับว่า​ยังมี​คุณธรรม​มีน้ำใจ​ ยัง​ถามเขา​ว่า​ต้อง​การเงิน​ค่าเดินทาง​สำหรับ​การวิ่งเต้น​ทำ​เรื่อง​ต่างๆ​ หรือไม่​

“ศาล​บ้าน​ข้า​เล็ก​ อาจ​รับรอง​แขก​ได้​ไม่ดี​พอ​”

ชายฉกรรจ์​โบกมือ​ บังคับ​ม้านั่งยาว​ที่​เรียง​กัน​อยู่​สอง​แถว​ตรง​มุมห้อง​มา โยน​เหล้า​กา​หนึ่ง​ให้​ตู้​อวี๋​ “ไหน​ลอง​ว่า​มาสิ ไป​ทำผิด​เรื่อง​อะไร​มา ตบะ​น้อย​นิด​แค่นี้​ของ​ข้า​ เรื่อง​จะขอให้​ช่วย​ต้อง​ไม่มีทาง​ช่วย​ได้​แน่นอน​ แต่​เลี้ยง​เหล้า​เจ้า ฟังเจ้าระบาย​ความทุกข์​กลับ​ไม่มีปัญหา​”

ตู้​อวี๋​หนี​หัวซุกหัวซุน​มาตลอดทาง​ เหน็ดเหนื่อย​หมด​เรี่ยวแรง​ทั้ง​ยัง​อก​สั่น​ขวัญ​ผวา​ เวลานี้​นั่ง​แปะ​อยู่​บน​ม้านั่งยาว​ ยกมือ​รับ​กา​เหล้า​เอาไว้​ แหงนหน้า​กระดก​ดื่ม​อึก​หนึ่ง​แรง​ๆ “อันที่จริง​ข้า​ไม่ควร​มาที่นี่​ หาก​ไม่ระวัง​อาจ​เดือดร้อน​ให้​ท่าน​เทพ​มีเรื่อง​กับ​ผู้บังคับบัญชา​ ภายหลัง​อาจ​มีเซียน​ซือ​มาสอบสวน​ถึงที่​ ท่าน​เทพ​บอก​ไป​ตามตรง​ได้​เลย​ว่า​ตู้​อวี๋​มาที่นี่​จริง​ ไม่ต้อง​ช่วย​ปิดบัง​ให้​ข้า​ ส่วน​เรื่อง​ที่ว่า​ข้า​ไป​ทำ​อะไร​ไว้​คง​ไม่เล่า​แล้ว​ สามารถ​ได้มา​พัก​หาย​ใจหาย​คอ​อยู่​ที่​ศาล​เทพ​อัคคี​แห่ง​นี้​ก็​ถือว่า​เป็น​ความโชคดี​อย่าง​ใหญ่หลวง​แล้ว​”

ชายฉกรรจ์​หัวเราะ​ ไม่ยอมรับ​และ​ไม่ปฏิเสธ​ ถามว่า​ “หรือไม่​ข้า​ให้​คน​เฝ้าศาล​ทำ​กับแกล้ม​สอง​สามจาน​มาดื่ม​กับ​เหล้า​ดี​ไหม​? ด้านหลัง​ศาล​ยังมี​ห้องครัว​อยู่​ห้อง​หนึ่ง​ หาก​รังเกียจ​ว่า​ฝีมือ​การ​ทำอาหาร​ของ​คน​เฝ้าศาล​บ้าน​ข้า​ไม่ได้ความ​ ข้า​สามารถ​ให้​เขา​ไปหา​ซื้อ​อาหาร​มื้อ​ดึก​จาก​ใน​เมือง​สุย​เจี้ย​มาให้ได้​ ข้า​รู้จัก​ร้านอาหาร​ดี​ๆ อยู่​หลาย​ร้าน​ ฝีมือ​ไม่เลว​ ราคา​ถูก​ทั้ง​ยังมี​คุณภาพ​…”

ตู้​อวี๋​โบกมือ​เป็น​พัลวัน​ “เรื่องมาก​หนึ่ง​เรื่อง​ไม่สู้เรื่อง​ลดน้อยลง​หนึ่ง​เรื่อง​ แค่​ดื่มเหล้า​ก็​พอแล้ว​”

มอง​ผู้ฝึก​ตน​ที่​ดู​เหน็ดเหนื่อย​จาก​การ​เดินทาง​ทั้ง​ยัง​อ่อนล้า​หมด​เรี่ยวแรง​ตรงหน้า​ ชายฉกรรจ์​เครา​ดก​ก็​ลูบ​หนวด​ยิ้ม​ “เป็น​ถึงนาย​ท่าน​เทพ​เซียน​ขอบเขต​ชมมหาสมุทร​แล้ว​ ยังมี​สภาพ​กระเซอะกระเซิง​แบบนี้​อีก​หรือ​?”

ตู้​อวี๋​ยิ้มเจื่อน​ “ดื่มเหล้า​แล้วก็​คิด​ว่า​จะไป​เสี่ยง​ดวง​ที่อื่น​เสียหน่อย​ หาก​ไม่ได้​จริงๆ​ ก็​คง​ได้​แต่​วิ่ง​ไป​หลบภัย​ที่​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​แล้ว​”

ชายฉกรรจ์​เครา​ดก​พยักหน้า​ “ดู​ท่าจะ​เป็นเรื่อง​ยุ่งยาก​ไม่น้อย​”

ตู้​อวี๋​คิด​ว่า​จะรักษา​ม้าตาย​ดั่ง​ม้าเป็น​ หลังจาก​พัก​หาย​ใจหาย​คอ​ที่นี่​แล้ว​ คืนนี้​หลัง​ออก​ไป​จาก​เมือง​สุย​เจี้ย​ก็​จะไป​เยือน​ทะเลสาบ​กระบี่​ฝูผิง​โดยตรง​!

หาก​เจ้าคน​ที่​ชื่อว่า​โจว​เฝย​ ทั้ง​ยัง​ใช้จ่าย​อย่าง​มือเติบ​ผู้​นั้น​คือ​เจียง​ซ่างเจิน​ที่​ทำให้​เซียน​กระบี่​ลี่​คิดถึง​พะวง​หา​ได้​ตลอด​จริงๆ​ ล่ะ​?

ปี​นั้น​ช่วย​เฝ้าบ้าน​ให้​กับ​ผู้อาวุโส​เฉิน​ รับผิดชอบ​ดูแล​เด็ก​ใน​ห่อ​ผ้าอ้อม​ มีคน​ปีน​กำแพง​เข้ามา​ พูดจา​ไม่น่าเชื่อถือ​ แนะนำ​ตัวเอง​หนึ่ง​ประโยค​ แต่กลับ​พูดอ้อม​ไป​อ้อม​มาว่า​ ‘เจียง​จาก​เซิงเจียง​ที่​แปล​ว่า​ขิง​ ซ่างจาก​ฉงซ่างที่​แปล​ว่า​เลื่อมใส​ และ​เจิน​จาก​เจินเจี่ย​ที่​แปล​ว่า​จริง​เท็จ​’

ตอนนั้น​ตู้​อวี๋​ด่ากลับ​ไป​ประโยค​หนึ่ง​ว่า​ ‘ข้า​คือ​ท่าน​ปู่​ของ​เจ้าเจียง​ซ่างเจิน’​

เพียงแต่ว่า​จุด​เดียว​ที่​คล้ายคลึง​กับ​เจียง​ซ่างเจิน​ก็​คือ​…มีเงิน​! ปี​นั้น​ของขวัญ​พบ​หน้าที่​มอบให้​ตู้​อวี๋​ แค่​ลงมือ​ก็​คือ​เม็ด​เสื้อเกราะ​สำนัก​การทหาร​สีทอง​ชิ้น​หนึ่ง​

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!