กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 917

สรุปบท บทที่ 917.2 เรื่องนี้สิ้นสุดลงแล้ว: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!

บทที่ 917.2 เรื่องนี้สิ้นสุดลงแล้ว – ตอนที่ต้องอ่านของ กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!

ตอนนี้ของ กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 917.2 เรื่องนี้สิ้นสุดลงแล้ว จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

รับฟัง​เสี่ยว​โม่อย่าง​เงียบๆ​ มาโดยตลอด​ ก่อนที่​ชุยตง​ซาน​จะส่ายหน้า​อย่าง​แรง​ “ไม่ใช่คำ​พูดเหลวไหล​!”

หลังจากที่​เฉิน​ผิง​อัน​รำลึก​ความ​หลังกับ​ฉีโซ่ว​เรียบร้อย​แล้วก็​ย้อนกลับ​ไป​ทาง​เดิม​ตรง​คันนา​ พบ​ว่า​ชุยตง​ซาน​คล้าย​จะพูดคุย​กับ​เสี่ยว​โม่ได้​ไม่เลว​ บน​ใบหน้า​มีรอยยิ้ม​

กลับ​ไป​ที่​ร้านเหล้า​บ้าน​ตัวเอง​ใน​นคร​บิน​ทะยาน​ด้วยกัน​ ได้ยิน​ว่า​เถ้าแก่​รอง​ไม่เพียงแต่​กลับมา​แล้ว​ วันนี้​ยัง​มาเปิด​ประตู​ร้าน​ต้อนรับ​ลูกค้า​ด้วยตัวเอง​ พวก​ลูกค้า​เก่า​ก็​พา​กัน​กรู​มาที่​ร้าน​ทันที​ คน​ไม่น้อย​ต่าง​ก็​เร่งรุด​ขี่​กระบี่​มาจาก​นคร​ใต้​อาณัติ​สี่แห่ง​ ถึงอย่างไร​หาก​ไม่ใช่พวก​ผี​ขี้เหล้า​ก็​คือ​ชายโสด​ แน่นอน​ว่า​ต้อง​มีคน​ที่​เป็น​ทั้ง​ผี​ขี้เหล้า​แล้วก็​เป็น​ชายโสด​ด้วย​ เพียง​ไม่นาน​ผู้คน​ก็​เบียดเสียด​แออัด​กัน​อยู่​ใน​ร้าน​ เถ้าแก่​รอง​ยังคง​ชอบ​ไป​นั่ง​ยอง​ดื่มเหล้า​อยู่​ข้างทาง​เหมือนเดิม​ ฟังพวก​สหาย​เก่า​คุย​กัน​โฉงเฉง แต่ละ​คนพูด​เสียงดัง​ กลิ่น​สุรา​คลุ้ง​ขึ้น​ฟ้า แทบ​ไม่ต่าง​ไป​จาก​ใน​ปี​นั้น​ เถ้าแก่​รอง​ฟังเยอะ​พูดน้อย​ เหล้า​มื้อ​นี้​อย่าง​อื่น​ไม่ต้อง​พูดถึง​ อย่าง​น้อยที่สุด​ก็​มีหน้าม้า​ร้านเหล้า​ไม่น้อย​ที่​เดิมที​ปิดบัง​ตัวตน​อย่าง​ลึกลับ​ถูก​เปิดโปง​ตัวตน​กัน​ก็​คราวนี้​ ยกตัวอย่างเช่น​ก่อกำเนิด​เฒ่าซ่งโย​วเวย​

แสงสายัณห์​หนา​หนัก​ รอ​กระทั่ง​ร้านเหล้า​ถึงเวลาปิด​ร้าน​ เฉิน​ผิง​อัน​ที่​ตอนกลางวัน​ดื่ม​ไป​ไม่น้อย​กลับ​บอก​ให้​เถาป่าน​เอา​เหล้า​ทะเลสาบ​คน​ใบ้​มาหลาย​ๆ ไห​ จากนั้น​ให้​เฝิงคัง​เล่อ​ไป​บอก​พ่อแม่​ให้​ช่วย​ทำ​กับแกล้ม​อาหาร​พื้นๆ​ มาให้​โต๊ะ​หนึ่ง​

เจิ้งต้าเฟิง​ถามอย่าง​ประหลาดใจ​ “ทำ​อะไร​น่ะ​? มอมเหล้า​ข้า​จะมีประโยชน์​อะไร​? อีก​อย่าง​เจ้าก็​อ้วก​ไป​สามรอบ​แล้ว​ จะดื่ม​อีก​ไหว​หรือ​?”

เฉิน​ผิง​อัน​เอ่ย​อย่าง​ห้าว​เหิม​ “อย่า​พูดมาก​ ดื่ม​จนกว่า​จะเมาพับ​กัน​ไป​ข้าง​”

เจิ้งต้าเฟิง​ยิ้ม​กล่าว​ “ถ้าอย่างนั้น​ก็​ตกลง​กัน​ไว้​ก่อน​นะ​ว่า​ ใคร​ก็​ห้าม​ยุ​ให้​ใคร​ดื่มเหล้า​ ต้อง​ดื่ม​ด้วยตัวเอง​เท่านั้น​”

เฉิน​ผิง​อัน​ตอบ​ตกลง​อย่าง​ไม่ลังเล​

เสี่ยว​โม่กับ​ชุยตง​ซาน​นั่ง​อยู่​บน​โต๊ะ​ข้าง​กัน​

เพียงแต่​เฉิน​ผิง​อัน​เพิ่งจะ​ดื่ม​กับ​เจิ้งต้าเฟิง​ได้​ไม่ถึงสอง​ชามก็​มีบุรุษ​ชุด​เขียว​รูปโฉม​เป็น​คนหนุ่ม​เดิน​มาที่​ร้านเหล้า​ช้าๆ

เจิ้งต้าเฟิง​เหลือบมอง​ จำอีก​ฝ่าย​ได้​ ดูเหมือน​จะเป็น​อาจารย์​สอนหนังสือ​ใน​โรงเรียน​ที่​ตั้งอยู่​ใน​เมือง​ แซ่อู๋​ หลาย​ปี​มานี้​มาที่​ร้านเหล้า​หลายครั้ง​ แต่กลับ​ไม่ใช่ลูกค้าประจำ​ หา​กลอง​เฉลี่ย​ดู​ หนึ่ง​ปี​ก็​มาแค่​ครั้ง​สอง​ครั้ง​เท่านั้น​ แต่​ทุกครั้ง​ที่มา​จะต้อง​มาพลิก​อ่าน​ป้าย​สงบสุข​ของ​ที่​ร้าน​เสมอ​

ก่อนหน้านี้​อาจารย์​อู๋​มาที่​ร้านเหล้า​มักจะ​ดื่มเหล้า​ถ้ำสวรรค์​จู๋ไห่​ที่หนึ่ง​ชามหนึ่ง​เหรียญเงิน​เกล็ด​หิมะ​ เพียงแต่ว่า​คราวก่อน​ที่มา​คล้าย​จะเปลี่ยน​มาดื่มเหล้า​ทะเลสาบ​คน​ใบ้​ แล้ว​ยัง​นำ​กลับ​ไป​ด้วย​หนึ่ง​ไห​

การ​ที่​เจิ้งต้าเฟิง​จด​จำได้​อย่าง​ชัดเจน​เช่นนี้​ก็​เพราะ​กลิ่นอาย​ตำรา​ที่อยู่​บน​ร่าง​ของ​อีก​ฝ่าย​ค่อนข้าง​พบเห็น​ได้​น้อย​ใน​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ ก็​เหมือน​อย่าง​ตน​ ต่าง​ก็​ถือว่า​ใน​ท้อง​มีหนังสือ​และ​บทกวี​ บุคลิก​ย่อม​สง่าด้วยตัวเอง​ เพียงแต่​อีก​ฝ่าย​ไม่โดดเด่น​เหมือน​นก​กระเรียน​ใน​ฝูงไก่​อย่าง​ตน​ก็​เท่านั้น​

เสี่ยว​โม่หรี่ตา​มอง​ประเมิน​แล้ว​รีบ​เปลี่ยน​โต๊ะ​นั่ง​ทันที​ ใช้เสียง​ใน​ใจเอ่ย​ว่า​ “คุณชาย​ คน​ผู้​นี้​ไม่ธรรมดา​ การกระทำ​ก็​ค่อนข้าง​ประหลาด​ คล้าย​กับ​รู้​ว่า​ข้า​รับมือ​ได้​ไม่ง่าย​ แต่กลับ​ยัง​จงใจทำให้​ข้า​รู้​ว่า​ตัว​เขา​ไม่ธรรมดา​”

เสี่ยว​โม่ลังเล​เล็กน้อย​ ก่อน​จะบอก​การ​คาดเดา​ใน​ใจของ​ตัวเอง​ออก​ไป​ “หรือว่า​จะเป็น​เจ้าตำหนัก​อู๋​ท่าน​นั้น​?”

เฉิน​ผิง​อัน​พยักหน้า​ “ต้อง​ใช่แน่นอน​”

จากนั้น​เฉิน​ผิง​อัน​ก็​เหลือบมอง​เสี่ยว​โม่ ยัง​จะยิ้ม​ออก​อีก​ไหม​?

เสี่ยว​โม่รู้สึก​น้อยใจ​เล็กน้อย​ ตอนนั้น​ข้า​ก็​ไม่ได้​หัวเราะ​คุณชาย​สักหน่อย​นะ​

เฉิน​ผิง​อัน​ลุกขึ้น​ยืน​ ค้อม​กาย​ประสานมือ​คารวะ​

อู๋ซวงเจี้ยง​เพียงแค่​เขย่า​มือ​คารวะ​กลับคืน​

อู๋ซวงเจี้ยง​นั่งลง​แล้วก็​เอ่ย​ว่า​ “ที่​โรงเรียน​แห่ง​นั้น​ใช้นามแฝง​ว่า​อู๋อวี่​ ทาง​ฝั่งของ​คฤหาสน์​หลบ​ร้อน​มีหลักฐาน​ให้​ตรวจสอบ​ได้​ หาก​เจ้าสนใจ​ก็​ลอง​ไป​เปิด​อ่าน​ดู​”

ได้ยิน​นามแฝง​นี้​ เฉิน​ผิง​อัน​ก็​พลัน​พูดไม่ออก​ (อู๋อวี่​ 无言 ที่​แปล​ว่า​พูดไม่ออก​ กับ​อู๋อวี่​ 吴语 นามแฝง​ของ​อู๋ซวงเจี้ยง​ออกเสียง​เหมือนกัน​ แต่​เขียน​คนละ​แบบ​)

เจิ้งต้าเฟิง​รู้สึก​อัดอั้น​ใน​ใจอีกครั้ง​ ถามว่า​ “เหมือนกับ​พี่​มู่เม่า เป็น​สหาย​เก่า​ของ​เจ้าอีก​คน​แล้ว​หรือ​?”

เฉิน​ผิง​อัน​แนะนำ​ให้​รู้จัก​กัน​ “คือ​เจ้าตำหนัก​อู๋​แห่ง​ตำ​นัก​สุ้ยฉู”​

เจิ้งต้าเฟิง​พลัน​กระจ่างแจ้ง​ “มิน่าเล่า​”

อู๋ซวงเจี้ยง​ยิ้ม​พลาง​กุม​หมัด​เอ่ย​ “หลาย​ปี​มานี้​ได้​ฟังถ้อยคำ​ไพเราะ​มีรสนิยม​มากมาย​จาก​อาจารย์​เจิ้งเปล่าๆ​ โดย​ไม่เคย​ต้อง​จ่าย​เงิน​แม้แต่​เหรียญทองแดง​เดียว​ ทุกครั้ง​สามารถ​เอา​มาดื่ม​แกล้ม​เหล้า​ได้​พอดี​”

เจิ้งต้าเฟิง​ยังคง​ยก​เท้า​เหยียบ​อยู่​บน​ม้านั่ง​ตัว​หนึ่ง​ วาง​ชามเหล้า​ลง​ กุม​หมัด​คารวะ​กลับคืน​ “อาจารย์​อู๋ชม​เกินไป​แล้ว​”

เฉิน​ผิง​อัน​เงียบ​ไป​พัก​หนึ่ง​ ถามว่า​ “หนังสือ​บันทึก​เหตุการณ์​เล่ม​นั้น​?”

อู๋ซวงเจี้ยง​พยักหน้า​ “เป็น​ลายมือ​ของ​ข้า​เอง​ แต่ว่า​น้ำใจ​ส่วน​นี้​ที่​ข้า​ติดค้าง​นคร​บิน​ทะยาน​ ข้า​ได้​ใช้คืนให้​แล้ว​”

ช่วย​กำจัด​ภัย​แฝงเล็ก​ๆ สามอย่าง​ให้​กับ​นคร​บิน​ทะยาน​ ไม่อย่างนั้น​การขยับขยาย​พื้นที่​ของ​นคร​บิน​ทะยาน​ อย่าง​น้อยที่สุด​ก็​ต้อง​ถูก​ถ่วงเวลา​ไป​อีก​สามสิบ​ห้าสิบ​ปี​

ไม่ใช่แผนการ​ของ​ป๋า​ยอ​วี้​จิง เต๋า​เหล่า​เอ้อ​ดูแคลน​ที่จะ​ทำ​เช่นนี้​ ส่วน​ลูกศิษย์​ปิด​สำนัก​ของ​มรรคา​จารย์​เต๋า​ นักพรต​หนุ่ม​ที่​มีฉายา​ว่า​ ‘ซาน​ชิง’ คุณสมบัติ​การ​ฝึก​ตน​แน่นอน​ว่า​ต้อง​ดีมาก​ แต่​เขา​ไม่มีสมอง​เช่นนี้​ แล้วก็​ไม่มีความกล้าหาญ​ใน​ส่วน​นี้​

อย่า​ได้​ประเมิน​สายตา​อัน​ยาว​ไกล​และ​วิธีการ​อัน​ละเอียด​รอบคอบ​บางอย่าง​ของ​สำนัก​จ้งเหิง​เด็ดขาด​เชียว​

มักจะ​มีคน​บางส่วน​ที่​บางที​ใน​กระเป๋า​เงิน​อาจ​มีเงิน​อยู่​แค่​ไม่กี่​แดง​ แต่กลับ​กล้า​คิด​เรื่อง​ที่จะ​เป็น​เศรษฐี​อันดับ​หนึ่ง​แห่ง​ฟ้าดิน​

คนธรรมดา​กล้า​คิด​เช่นนี้​ ถือว่า​เป็น​จินตนาการ​เพ้อฝัน​ แต่​มักจะ​มีคน​อยู่​ส่วนหนึ่ง​ที่​คิดได้​ แล้วก็​ทำได้​สำเร็จ​ด้วย​

แต่​อู๋ซวงเจี้ยง​ไม่มีอารมณ์​แล้วก็​ไม่มีหน้าที่​ที่​ต้อง​มาเปิดเผย​เรื่อง​นี้​แก่​เฉิน​ผิง​อัน​

ทุกวันนี้​มีแค่​นคร​บิน​ทะยาน​ที่​เลือก​จะใช้หนังสือ​บันทึก​เหตุการณ์​เล่ม​ใหม่​นี้​ แต่​หากว่า​ในอนาคต​ตลอดทั้ง​ใต้​หล้า​ห้า​สีใช้ตำรา​เล่ม​นี้​ร่วมกัน​ แพร่กระจาย​ไป​ทั่ว​ใต้​หล้า​ ถ้าอย่างนั้น​อู๋ซวงเจี้ยง​ก็​ย่อม​มีวิธี​ที่จะ​ชดเชย​น้ำใจ​ครั้ง​ที่สอง​

เสี่ยว​โม่ไป​หยิบ​ชามและ​ตะเกียบ​มาชุด​หนึ่ง​ มอบให้​กับ​อู๋ซวงเจี้ยง​

อู๋ซวงเจี้ยง​ผงกศีรษะ​ยิ้ม​ให้​ “ยินดีต้อนรับ​เจ้าไป​เป็น​แขก​ที่​ตำหนัก​สุ้ยฉู​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​วันหน้า​”

เสี่ยว​โม่ยิ้ม​บาง​ๆ ตอบกลับ​ “ต้อง​ดู​ที่​ความต้องการ​ของ​คุณชาย​”

ชุยตง​ซาน​ยก​ชามเหล้า​มาที่​โต๊ะ​ นั่งลง​บน​ม้านั่งยาว​ตัว​เดียว​กับ​เสี่ยว​โม่ นั่งลง​ตรงข้าม​กับ​อู๋ซวงเจี้ยง​พอดี​ หัวเราะ​ร่า​เอ่ย​ว่า​ “ไม่ว่า​เดิน​ไป​ที่ไหน​ก็ได้​พบ​เจ้าตำหนัก​อู๋​จริงๆ​”

อู๋ซวงเจี้ยง​พูด​ด้วย​สีหน้า​เฉยเมย​ “เป็น​วาสนา​ที่​นำพา​”

ชุยตง​ซาน​จุ๊ปาก​เอ่ย​อย่าง​ประหลาดใจ​ “เจ้าตำหนัก​อู๋​ก็​คือ​เจ้าตำหนัก​อู๋​ จิตวิญญาณ​ผสาน​รวม​กับ​โลก​อัน​กว้างใหญ่​ เชื่อมโยง​ทะลุ​ไปนอก​ฟ้าดิน​ ทุกวันนี้​เข้าใจ​ฟ้าดิน​ทุกแห่ง​กระจ่าง​ชัด​ราวกับ​ฝ่ามือ​ของ​ตัวเอง​”

อู๋ซวงเจี้ยง​กล่าว​ “เรื่อง​บางอย่าง​ไม่ใช่ว่า​มีแค่​โจว​มี่กับ​ซิ่ว​หู่​เท่านั้น​ที่​ทำได้​ แล้ว​คนอื่น​จะทำ​ไม่ได้​”

ชุยตง​ซาน​ยิ้ม​ถาม “คิดดู​แล้ว​ทาง​ฝั่งของ​ดินแดน​พุทธะ​สุขาวดี​ เจ้าตำหนัก​อู๋​ก็​น่าจะ​มีร่าง​จำแลง​บาง​ร่าง​ที่​รอ​ให้​วันใดวันหนึ่ง​สติปัญญา​เปิด​ออก​อยู่​ด้วย​กระมัง​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ถลึงตา​ใส่ชุยตง​ซาน​ “ให้​ความเคารพ​เจ้าตำหนัก​อู๋​หน่อย​”

เจิ้งต้าเฟิง​ยุ​ให้​ดื่มเหล้า​ “น้อง​ชุย​เร็ว​เข้า​ รีบ​ยก​เลย​”

ชุยตง​ซาน​จึงได้​แต่​ดื่มเหล้า​หมด​ชาม

อู๋ซวงเจี้ยง​แกว่ง​ชามเหล้า​เบา​ๆ เอ่ย​เตือน​เฉิน​ผิง​อันว่า​ “ครั้งนี้​เป็น​ฝ่าย​มาหา​เจ้าด้วยตัวเอง​ เพราะ​ไม่ต้องการ​ให้​ผู้พิทักษ์​มรรคา​ครึ่งตัว​ของ​นาง​ที่​มอง​ดูเหมือน​พัฒนา​รุดหน้า​ไป​บน​เส้น​ทางการ​ฝึก​ตน​อย่าง​ห้าวหาญ​ แต่​อยู่ดีไม่ว่าดี​กลับ​ต้อง​สะดุด​ล้ม​หัว​ทิ่ม​ภายใน​เวลา​หนึ่งร้อย​ปี​ ปกป้อง​มรรคา​ไม่สำเร็จ​ กลับ​กลายเป็น​ว่า​เดือดร้อน​ให้​นาง​ลงมือทำ​เรื่อง​ต่างๆ​ ด้วย​อารมณ์​ นาง​ใจอ่อน​ที่สุด​ สมมติ​ว่า​มีวันนั้น​จริงๆ​ นาง​ย่อม​ไม่มีทาง​วางตัว​อยู่​นอกเหนือ​สถานการณ์​เป็นแน่​ ถึงเวลา​นั้น​ข้า​ค่อย​มาแตกหัก​กับ​เจ้า จะมีความหมาย​ตรงไหน​ เป็นเรื่อง​ที่​ไร้​ความหมาย​อย่าง​สิ้นเชิง​ ดังนั้น​เจ้าจำเป็นต้อง​รู้เรื่อง​หนึ่ง​อย่าง​ชัดเจน​ ถึงเวลา​ที่​ต้อง​คอย​จับตามอง​ผู้ฝึก​ตน​ขอบเขต​สิบ​สี่และ​ผู้ฝึก​ตน​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ที่​มีความหวัง​จะเลื่อน​ขอบเขต​เหล่านั้น​แล้ว​”

“นี่​ไม่ใช่เรื่อง​ที่อยู่​ไกล​สุดขอบฟ้า​อะไร​ เป็นเรื่อง​ที่อยู่​ตรงหน้า​เลย​ด้วยซ้ำ​ หาก​ไม่ทัน​ระวัง​ก็​จะกลาย​มาเป็น​คน​ตรงหน้า​”

“ยกตัวอย่างเช่น​ข้า​”

เฉิน​ผิง​อัน​พยักหน้า​รับ​ แม้จะบอ​กว่า​อันที่จริง​ตน​มีความกังวล​ที่​คล้ายคลึง​กัน​นี้​มานาน​แล้ว​ ได้​เรียนรู้​การเปลี่ยนแปลง​มากมาย​หลัง​เกิด​ ‘อุบัติภัย​’ มาแล้ว​ จะไม่ยอมให้​มีเผย​หมิ่น​แห่ง​เวท​กระบี่​ก่อน​แล้ว​ค่อย​ตามมา​ด้วย​อู๋ซวงเจี้ยงบน​เรือ​ราตรี​ จากนั้น​วันใดวันหนึ่ง​ก็​มีใคร​มาปราก​ฎตัว​อีก​เด็ดขาด​ เรื่อง​แบบ​เดียวกัน​เกิดขึ้น​ครั้งแล้วครั้งเล่า​ แต่​เรื่อง​เดิม​ไม่ควร​ทำ​ซ้ำสามครั้ง​!

แต่​เฉิน​ผิง​อัน​ก็​จำต้อง​ยอมรับ​ว่า​หาก​วันนี้​อู๋ซวงเจี้ยง​ไม่ปรากฏตัว​ ระดับ​การ​ให้ความสำคัญ​ของ​ตน​คงอยู่​ไกล​เกิน​กว่า​คำ​ว่า​พอ​มาก​นัก​ อย่าง​น้อยที่สุด​ใน​สายตา​ของ​อู๋ซวงเจี้ยง​ก็​ไม่มีทาง​พอ​แน่นอน​

อู๋ซวงเจี้ยง​ยิ้ม​ถาม “เฉิน​ผิง​อัน​ นอกจาก​ข้า​แล้ว​ เจ้าคง​ไม่ได้คิด​ว่า​ผู้ฝึก​ตน​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ขั้นสูงสุด​พวก​นั้น​ขอบเขต​หยุดชะงัก​อยู่​ที่​พันปี​หลาย​พันปี​ ทุกวัน​ก็​เลย​เอาแต่​เหม่อลอย​หรอก​กระมัง​?”

ชุยตง​ซาน​ตบ​โต๊ะ​ พูด​ขัดคอ​ขึ้น​มาว่า​ “เสี่ยว​โม่ของ​พวกเรา​ก็​นอนหลับ​อยู่​นะ​!”

เสี่ยว​โม่ยิ้ม​บาง​ๆ พยักหน้า​ ให้การ​สนับสนุน​ดีเยี่ยม​ “ฝันหวาน​มาหมื่น​ปี​ นอน​จน​เต็มอิ่ม​เลย​ล่ะ​”

อู๋ซวงเจี้ยง​แสร้ง​ทำเป็น​ไม่ได้ยิน​ เอ่ย​ว่า​ “หมื่น​ปี​ที่ผ่านมา​ ระดับความสูง​และ​ระดับ​ความลึก​ของ​มรรค​กถา​บน​โลก​ไม่ได้รับ​การ​ยกระดับ​ที่​ก้าว​กระโดด​ไป​ทีละ​หลาย​ขั้นบันได​ใหญ่​ ถึงขั้น​ที่ว่า​แม้แต่​เรื่อง​ของ​ความรู้​ก็​ยัง​ไม่อาจ​หลุดพ้น​กฎเกณฑ์​ตายตัว​ของ​เมธีร้อย​สำนัก​อย่าง​แท้จริง​ ส่วน​รั้ว​ตัวอักษร​ที่​ใหญ่​ยิ่งกว่า​ก็​ยิ่ง​ไม่ต้อง​พูดถึง​เลย​ แต่​เมื่อ​จิต​แห่ง​มรรคา​และ​นิสัยใจคอ​ของ​มนุษย์​ผสาน​รวมกัน​อย่าง​ต่อเนื่อง​ ความ​กว้าง​และ​ความแคบ​ของ​มรรค​กถา​ที่​สิ่งนี้​นำมา​จึงไม่ใช่สิ่งที่​เมื่อ​หมื่น​ปีก่อน​จะเทียบ​ได้​ติด​”

เสี่ยว​โม่พยักหน้า​ “อยู่​ข้าง​กาย​คุณชาย​ก็​พอ​จะได้​เปิดหูเปิดตา​บ้าง​แล้ว​ แล้วก็​คิด​บางอย่าง​ได้​ ก็​แค่​ไม่ได้​จับจุด​แล้ว​ชี้สาระสำคัญ​ได้​อย่าง​กระชับ​เรียบง่าย​เฉกเช่น​เจ้าตำหนัก​อู๋”​

ชุยตง​ซาน​เอ่ย​อย่าง​เจ็บ​ปวดใจ​ “เสี่ยว​โม่ นี่​เจ้าจะสวามิภักดิ์​ต่อ​ศัตรู​แล้ว​หรือ​?”

เสี่ยว​โม่ยิ้ม​อย่าง​เขินอาย​ ตน​ก็​แค่​พูด​ไป​ตามเนื้อผ้า​ แต่กระนั้น​ก็​ยัง​ยก​ชามเหล้า​ขึ้น​มาคล้าย​จะต้องการ​ขออภัย​

เฉิน​ผิง​อัน​ขอ​ความรู้​อย่าง​ถ่อมตัว​ “นอกจาก​ผู้ฝึก​ตน​ใหญ่​ที่​เข้าร่วม​การประชุม​ริม​ลำคลอง​ซึ่งข้า​เคย​เจอ​มาก่อน​แล้ว​ ทุกวันนี้​ยังมี​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​คนใด​อีก​ที่​มีหวัง​ว่า​จะข้าม​ธรณีประตู​ไป​ได้​?”

อู๋ซวงเจี้ยง​จึงทำการ​ ‘ชี้แนะ​’ เฉิน​ผิง​อัน​ไป​ทีละ​เรื่อง​

ผู้ฝึก​ตน​ขอบเขต​สิบ​สี่

หาก​ไม่พูดถึง​ผู้ฝึก​ตน​ใหญ่​ที่​ผสาน​มรรคา​กับ​ดิน​อำนวย​อย่าง​หย่า​เซิ่ง เห​วิน​เซิ่ง

เจ้าลัทธิ​ใหญ่​แห่ง​ป๋า​ยอ​วี้​จิง ลูกศิษย์​คน​แรก​ของ​มรรคา​จารย์​เต๋า​ผู้​นี้​หายตัว​ไป​ไม่รู้​ร่องรอย​

นอก​จากห​ลี่​ซีเซิ่งลูกศิษย์​ลัทธิ​ขงจื๊อ​ที่อยู่​บน​ถนน​ฝูลู่​ถ้ำสวรรค์​หลี​จูแล้ว​ ยัง​รวมไปถึง​โจว​ลี่​นักพรต​ของ​สำนัก​โองการ​เทพ​ที่​ไป​ดูแล​คัมภีร์​เต๋า​ของ​สำนัก​ชิงเสวียน​ คน​สุดท้าย​ที่​เหลืออยู่​ ตอนนี้​ยังคง​เป็น​ปริศนา​

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!