กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 917

สรุปบท บทที่ 917.4 เรื่องนี้สิ้นสุดลงแล้ว: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!

สรุปเนื้อหา บทที่ 917.4 เรื่องนี้สิ้นสุดลงแล้ว – กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! โดย Internet

บท บทที่ 917.4 เรื่องนี้สิ้นสุดลงแล้ว ของ กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

เฉิน​ผิง​อัน​เอ่ย​อย่าง​จนใจ​ “ขอบคุณ​นักพรต​ซุน​ที่รัก​และ​เอ็นดู​”

อู๋ซวงเจี้ยง​พลัน​ถามเสี่ยว​โม่ว่า​ “ใน​บรรดา​ผู้ฝึก​ตน​กลุ่ม​ของ​พวก​เจ้าที่​ถูก​ป๋า​ย​เจ๋อ​ปลุก​ขึ้น​มา ไม่ทราบ​ว่า​ความสามารถ​ใน​การเข่นฆ่า​ของ​สหาย​โม่เซิงอยู่​ใน​อันดับ​ที่​เท่าไร​?”

เสี่ยว​โม่ตอบ​อย่าง​จริงใจ​ “พลัง​พิฆาต​ การป้องกัน​ วิชาการ​หลบหนี​ เสี่ยว​โม่ล้วน​ไม่ถือว่า​อยู่​ใน​ระดับ​สูงสุด​ แต่​ลำดับ​รายชื่อ​ใน​แต่ละ​ด้าน​ล้วน​ถือว่า​อยู่​ใน​อันดับ​ต้น​ๆ เป็นเหตุให้​หาก​จะต้อง​จับคู่​เข่นฆ่า​กัน​ขึ้น​มาจริงๆ​ ไม่ว่า​จะเจอ​กับ​ใคร​ก็​ล้วน​สามาถรักษาตัว​รอด​ได้​ นอกจาก​คน​สอง​สามคน​แล้ว​ ขอ​แค่​ไม่มีคนอื่น​มาขัดขวาง​ก็​ล้วน​สามารถ​สังหาร​ได้​”

อู๋ซวงเจี้ยง​พลัน​กระจ่างแจ้ง​อยู่​ใน​ใจ “เสี่ยว​โม่คือ​คน​ที่​ปี​นั้น​เคย​หมัก​เหล้า​ร่วมกับ​เจ้าแห่ง​ถ้ำปี้​เซียว​และ​เคย​ถามกระบี่​กับ​หยวน​เซียง​สินะ​?”

เสี่ยว​โม่ยิ้ม​อย่าง​เขินอาย​ “เรื่อง​ใน​อดีต​ ไม่มีค่า​พอให้​พูดถึง​”

เจิ้งต้าเฟิง​รีบ​ยก​ชามเหล้า​ขึ้น​ “ข้อ​นี้​เสี่ยว​โม่เหมือน​ข้า​ มิน่าเล่า​ถึงได้​ถูกชะตา​กัน​นัก​”

ล้วน​เป็น​คน​บน​เส้นทาง​เดียวกัน​นี่​นะ​ ลูกผู้ชาย​ไม่พูดถึง​ความกล้าหาญ​ใน​วันวาน​ เรื่อง​สกปรก​โสมมใน​อดีต​ไม่มีค่า​พอให้​โอ้อวด​

เสี่ยว​โม่หันหน้า​ไปหา​เจิ้งต้าเฟิง​ สอง​มือ​ชูชามเหล้า​ขึ้น​กระดก​ดื่ม​รวดเดียว​หมด​

เฉิน​ผิง​อัน​ถาม “ตำหนัก​สุ้ยฉู​มีเหรียญทองแดง​แก่น​ทอง​ที่​เหลือใช้​บ้าง​หรือไม่​?”

อู๋ซวงเจี้ยง​พยักหน้า​ “มีอยู่​บ้าง​”

เฉิน​ผิง​อัน​ถามอย่าง​ใคร่รู้​ “ไม่ทราบ​ว่า​ ‘มีอยู่​บ้าง​’ ของ​เจ้าตำหนัก​อู๋​คือ​เท่าไร​หรือ​?”

อู๋ซวงเจี้ยง​ตอบ​ “จะมาก​หรือ​น้อย​ล้วน​ไม่มีความหมาย​ ถึงอย่างไร​ก็​ไม่ให้​เจ้า แล้ว​นับประสาอะไร​กับ​ที่​น้ำ​ไกล​มิอาจ​ดับ​กระหาย​ใกล้​ได้​ นก​ใน​กรง​กระบี่​บิน​เล่ม​นั้น​ของ​เจ้า หาก​คิด​จะสร้าง​เค้าโครง​ของ​แม่น้ำ​แห่ง​กาลเวลา​สาย​หนึ่ง​ขึ้น​มาก​็ต้อง​มาขอ​เหรียญทองแดง​แก่น​ทอง​ของ​ตำหนัก​สุ้ยฉู​หรือ​? ทำไม​ คิด​จะให้​ข้า​เอา​หัว​โหม่ง​ใต้​หล้า​ห้า​สีออก​ไป​หรือ​อย่างไร​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ยัง​ไม่ถอดใจ​ “จะปรึกษา​กัน​สักหน่อย​ไม่ได้​เลย​หรือ​?”

ส่วน​เรื่อง​ที่ว่า​อู๋ซวงเจี้ยง​ ‘เข้าใจ​ดุจ​ฝ่ามือ​’ ของ​ตัวเอง​ถึงเพียงนี้​ได้​อย่างไร​ ตอน​อยู่​คฤหาสน์​หลบ​ร้อน​และ​ตอนที่​คุย​เล่น​กับ​เกา​เห​ย่​โหว​ใน​จวน​เฉวียน​ฝู่ รวมไปถึง​ตอน​รำลึก​ความ​หลังกับ​ฉีโซ่ว​ ดูเหมือนว่า​อู๋ซวงเจี้ยง​จะรู้​ชัดเจน​ดี​ ถ้าอย่างนั้น​ก็​ไม่ต้อง​เดา​แล้ว​ ถึงอย่างไร​ก็​เดา​ไม่ออก​

และ​แม่น้ำ​แห่ง​กาลเวลา​สาย​นั้น​ ต่อให้​ถูก​ตน​สร้าง​ขึ้น​มาได้​จริงๆ​ ก็​ใช่ว่า​จะไม่ต้อง​เปลี่ยนแปลง​เลย​แม้แต่​ส่วน​เดียว​ ในอนาคต​ก็​ยัง​ต้องการ​ ‘น้ำ​เป็น​’ ที่​มีต้นกำเนิด​ไม่ขาดสาย​เช่นกัน​ ใช้สิ่งนี้​มาเพิ่ม​ระดับน้ำ​ ถึงขั้น​ที่ว่า​ขยับขยาย​ท้องน้ำ​ พูด​ง่ายๆ​ ก็​คือ​ ในอนาคต​จันทร์​กลาง​บ่อ​จะสามารถ​จำแลง​กระบี่​บิน​หนึ่ง​ล้าน​เล่ม​ นก​ใน​กรง​ก็​สามารถ​สร้าง​แม่น้ำ​แห่ง​กาลเวลา​ที่​ลึก​จน​มองไม่เห็น​ก้นบึ้ง​ขึ้น​มาสาย​หนึ่ง​ได้​เช่นกัน​ วิชา​อภินิหาร​หลายอย่าง​ของ​กระบี่​บิน​แห่ง​ชะตาชีวิต​สอง​เล่ม​ช่วยเหลือ​กันและกัน​ และ​เมื่อ​เฉิน​ผิง​อัน​กลายเป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ ถ้าอย่างนั้น​ยาม​เจอ​กับ​อู๋​โจว​หรือไม่​ก็​ป๋า​ย​โอ่​ว​ที่​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​ก็​ไม่ต้อง​หัน​เลี้ยว​เผ่นหนี​โดย​ไม่ทัน​ได้​พูด​ได้​จา อย่าง​น้อยที่สุด​ก็​มีต้นทุน​ซึ่งเป็น​เรี่ยวแรง​ใน​การ​สู้รบ​แล้ว​

อู๋ซวงเจี้ยง​เอ่ย​อย่าง​ตรงไปตรงมา​ว่า​ “ใน​เมื่อ​ทุก​เรื่อง​ล้วน​ปรึกษา​กัน​ได้​ ถ้าอย่างนั้น​เรื่อง​นี้​ก็​เว้น​ไว้​เถอะ​”

เฉิน​ผิง​อัน​ซักถาม​ “มีประโยชน์​ต่อ​ตำหนัก​สุ้ยฉู​หรือ​?”

อู๋ซวงเจี้ยง​ส่ายหน้า​ ให้​คำตอบ​แบบ​ขอไปที​ “ก็​เหมือนกับ​หน้าผา​สังหาร​มังกร​นั่นแหละ​ ไม่มีประโยชน์​ที่​แท้จริง​อะไร​ ก็​แค่​เก็บ​ไว้​แล้ว​น่ามอง​ ของ​ที่​ขาย​ง่าย​ซื้อ​ยาก​ ใคร​เล่า​จะรังเกียจ​ว่า​มีมาก​ไป​”

เฉิน​ผิง​อัน​รู้สึก​เหนื่อยใจ​เล็กน้อย​

“ถึงได้​บอก​อย่างไร​ล่ะ​ว่า​ชีวิต​นี้​เจ้าไม่มีทาง​เป็น​ชุย​ฉาน​ได้​ หาก​เป็น​เขา​ ป่านนี้​คง​ทำการค้า​กับ​ศาล​บุ๋น​ไป​นาน​แล้ว​ เศษชิ้นส่วน​ร่าง​ทอง​ ที่ใด​ใน​โลก​มนุษย์​ที่​มีมาก​ที่สุด​? แน่นอน​ว่า​ต้อง​เป็น​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ เมื่อ​สงคราม​ใหญ่​บัง​เกิดขึ้น​ สิ่งศักดิ์สิทธิ์​แห่ง​ขุนเขา​สายน้ำ​ใน​แต่ละ​สถานที่​ไม่ได้​มีขา​เสียหน่อย​ จะหนี​ไป​ไหน​ได้​ ก็​แค่​ใช้วิธี​หนามยอกเอาหนามบ่ง​ มีอะไร​ให้​ต้อง​ลำบากใจ​เล่า​?”

“ไม่ตอบ​ตกลง​ซ่งเห​อ​เป็น​ราชครู​ต้า​หลี​คน​ใหม่​ก็​ถือว่า​เจ้าเฉิน​ผิง​อัน​รู้จัก​ตัวเอง​อยู่​บ้าง​”

เจิ้งต้าเฟิง​ฟังด้วย​ความ​เบิกบานใจ​

อู๋ซวงเจี้ยง​ไม่เห็น​เป็นสำคัญ​ “โลก​มนุษย์​เป็น​เช่นนี้​ แล้ว​นอก​ฟ้าล่ะ​? เหมือน​ถูก​มัด​มือ​มัด​เท้า​เช่นนี้​จะพูด​ประโยค​ว่า​ข้า​จะทำ​อะไร​ก็​เรื่อง​ของ​ข้า​ให้​สมกับ​เป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​เต็มตัว​ได้​อย่างไร​”

เจิ้งต้าเฟิง​เริ่ม​พัดลม​กระพือ​ไฟ “เฉิน​ผิง​อัน​มีเรื่อง​ที่​เฉิน​ผิง​อัน​ทำ​อย่าง​ชุยเฉิง​หรือ​อู๋ซวงเจี้ยง​ไม่ได้​ อู๋ซวงเจี้ยง​ก็​มีเรื่อง​ที่​อู๋ซวงเจี้ยง​ทำ​อย่าง​เฉิน​ผิง​อัน​ไม่ได้​เหมือนกัน​ไม่ใช่หรือ​”

อู๋ซวงเจี้ยง​ยิ้ม​น้อย​ๆ “ข้า​ก็​แค่​บอ​กว่า​เฉิน​ผิง​อัน​มิอาจ​เป็น​ซิ่ว​หู่​ได้​ ไม่ได้​บอ​กว่า​ข้า​เป็น​ซิ่ว​หู่​หรือ​อิ่น​กวาน​ได้​เสียหน่อย​ คนละเรื่อง​กัน​ ไม่ขัดแย้ง​กัน​ อาจารย์​เจิ้งไม่จำเป็นต้อง​ใช้เหตุผล​มาปฏิเสธ​เหตุผล​”

เจิ้งต้าเฟิง​รีบ​ดื่มเหล้า​ระงับ​ความตกใจ​ รับมือ​ได้​ค่อนข้าง​ยาก​อยู่​นะ​ จึงโยก​หัว​ไป​ทาง​ชุยตง​ซาน​ ความหมาย​คือ​ตา​เจ้าบ้าง​

ชุยตง​ซาน​เอ่ย​อย่าง​อ่อน​ระโหยโรยแรง​ “เคย​สู้แล้ว​ สู้ไม่ได้​”

เฉิน​ผิง​อัน​ถาม “เจ้าตำหนัก​อู๋​เตรียม​จะไป​จาก​นคร​บิน​ทะยาน​แล้ว​หรือ​?”

อู๋ซวงเจี้ยง​พยักหน้า​ “กลับ​ไปดู​ที่นั่น​สักหน่อย​ มีคน​รุ่นเยาว์​ที่​คุณสมบัติ​พอใช้ได้​อยู่​หลาย​คน​ที่​จำเป็นต้อง​ให้​ข้า​ไป​ชี้แนะ​ด้าน​การ​ฝึก​ตน​ด้วยตัวเอง​ อีก​ทั้ง​ข้า​ยัง​รับปาก​ซุน​ไหว​จงไว้​ด้วยว่า​จะช่วย​ปกป้อง​มรรคา​ให้​กับ​นักพรต​หญิง​แห่ง​อาราม​เสวียน​ตู​ เนื่องจาก​นาง​คือ​เสาคาน​ของ​อาราม​เสวียน​ตู​ในอนาคต​ ข้า​จึงต้อง​ทำตาม​สัญญา”

กลับ​?

เฉิน​ผิง​อัน​ดื่มเหล้า​ไป​เงียบๆ​ หนึ่ง​อึก​

ใน​ฐานะ​หนึ่ง​ใน​กองกำลัง​ลัทธิ​เต๋า​ของ​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​ นักพรต​สามคน​ซึ่งมีนักพรต​ของ​ตำหนัก​สุ้ยฉู​เป็นหนึ่ง​ใน​นั้น​ได้​จับมือ​กัน​เร่ง​เดินทาง​มายัง​ใต้​หล้า​ห้า​สี ตำหนัก​สุ้ยฉู​อยู่​ทาง​ทิศตะวันออก​ วาด​วงกลม​เป็น​รัศมี​ของ​อาณาเขต​ขุนเขา​สายน้ำ​ กับ​ภูเขา​ใต้​อาณัติ​ที่​อาราม​เสวียน​ตู​มาสร้าง​ไว้​ใน​ใต้​หล้า​ห้า​สีก็​ตั้งอยู่​หนึ่ง​เหนือ​หนึ่ง​ใต้​ของ​กองกำลัง​ป๋า​ยอ​วี้​จิงพอดี​

ก็​เหมือนกับ​ ไม่ใช่เหมือนกับ​อะไร​แล้ว​ แต่​เป็น​การแสดงออก​อย่าง​ชัดเจน​ว่า​พวกเรา​สอง​บ้าน​จงใจทำให้​ป๋า​ยอ​วี้​จิงของ​พวก​เจ้าสะอิดสะเอียน​

จะไม่ยอมให้​ป๋า​ยอ​วี้​จิง ‘เดินทาง​เก่า​’ กลาย​เป็นใหญ่​เพียง​หนึ่งเดียว​อย่าง​ใน​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​อีก​แน่นอน​

ผู้ฝึก​ตน​ที่​กล้า​งัดข้อ​กับ​ป๋า​ยอ​วี้​จิงอย่าง​ตรงไปตรงมา​เช่นนี้​

ตลอดทั้ง​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​ก็​มีแค่​อู๋ซวงเจี้ยง​กับ​นักพรต​ซุน​แล้ว​

ผู้ฝึก​ตน​ของ​ตำหนัก​สุ้ยฉู​ขึ้นชื่อว่า​ไม่กลัว​ตาย​

สาย​เซียน​กระบี่​ลัทธิ​เต๋า​ของ​อาราม​เสวียน​ตู​นั้น​เป็นที่​รู้กัน​ว่า​ชอบ​ต่อย​ตี​ หรือ​พูด​ให้​ถูก​ก็​คือ​ชอบ​รุม​ตี​

อู๋ซวงเจี้ยง​ลุกขึ้น​ยืน​ เตรียม​จะจากไป​แล้ว​

เฉิน​ผิง​อัน​ลุกขึ้น​กุม​หมัด​เอ่ย​ “ขอ​อวยพร​ให้​อาจารย์​อู๋​เดินทาง​ราบรื่น​”

การค้าขาย​ไม่สำเร็จ​ มิตรภาพ​ยัง​คงอยู่​

อู๋ซวงเจี้ยง​มอง​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​ที่​มอง​ดูเหมือน​สะอึก​อึ้ง​อยู่​ตลอดเวลา​ผู้​นี้​ เหอะ​ เจ้าคนเลว​ ตอนนี้​ต้อง​คิด​ไว้​เรียบร้อย​แล้ว​ว่า​จะตีสนิท​กับ​เหวย​เซ่อ​อย่างไร​แน่นอน​

นี่​คือ​ข้อดี​ที่​เก็บงำ​ได้​อย่าง​มิดชิด​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​ มีสะพาน​เดิน​ข้าม​สะพาน​ มีถนน​เดิน​บน​ถนน​ ใต้​ฝ่าเท้า​ไร้​เส้นทาง​ก็​ลุย​ลำธาร​ข้าม​ขุนเขา​

แต่​นี่​ไม่ใช่สาเหตุ​ที่​วันนี้​อู๋ซวงเจี้ยง​เลือก​จะเป็น​ฝ่าย​ปรากฏตัว​โดยที่​ไม่ใช่แค่​จากไป​อย่าง​เงียบเชียบ​

คน​ผู้​หนึ่ง​พก​กระบี่​บิน​ทะยาน​มุ่งหน้า​ไป​ยัง​ใต้​หล้า​ไพศาล​

คน​ผู้​หนึ่ง​ยอมให้​ศาล​บุ๋น​หัก​คุณูปการ​อย่าง​ไม่เสียดาย​เพื่อ​เร่งรุด​เดินทาง​มายัง​ใต้​หล้า​ห้า​สี

ห่าน​ขาวใหญ่​ฟุบ​ตัว​อยู่​บน​โต๊ะ​ โมโห​นัก​ ถูก​เจ้าหมอ​นี่​แสร้งทำ​เป็นยอด​ฝีมือ​ใส่อีกแล้ว​

แต่​เห็นแก่​ที่​เจ้าหมอ​นี่​มุ่งมาด​ปรารถนา​ที่จะ​จัดการ​กับ​เต๋า​เหล่า​เอ้อ​ผู้​นั้น​ เขา​จึงได้​แต่​ยอม​ๆ ไป​

ตอน​อยู่​บน​เรือ​ราตรี​ อันที่จริง​ชุยตง​ซาน​และ​เจียง​ซ่างเจิน​ที่​ต่อให้​จะรู้​วิธี​ผสาน​มรรคา​ของ​อู๋ซวงเจี้ยง​ ซึ่งเรียก​ได้​ว่า​…ช่างคิด​ไม่ซ้ำใคร​

แต่​คน​ทั้งสอง​แอบ​กระซิบกระซาบ​กัน​เป็นการ​ส่วนตัว​ก็​ยังคง​ไม่รู้สึก​ว่า​อู๋ซวงเจี้ยง​จะสามารถ​ตัดสิน​เป็น​ตาย​กับ​อวี๋​โต้​ว​ได้​จริงๆ​ รอ​กระทั่ง​วันนี้​ชุยตง​ซาน​รู้​ความจริง​เพิ่มขึ้น​จาก​เดิม​ ไม่แน่​ว่า​อาจ​มีหวัง​ก็​เป็นได้​

อู๋ซวงเจี้ยง​มองเห็น​สุรา​ที่​เหลืออยู่​ใน​ชามเล็กน้อย​ก็​ยก​ชามเหล้า​ชูขึ้น​สูง คล้าย​เอ่ย​ประโยค​อวยพร​ไร้​เสียง​ประโยค​หนึ่ง​ จากนั้น​ก็​ยืน​ดื่มเหล้า​จน​หมด​

ชุยตง​ซาน​ยืด​เอว​ตรง​ กระดก​ดื่ม​หมด​ใน​รวดเดียว​ เจิ้งต้าเฟิง​กับ​เสี่ยว​โม่ก็​ทำ​เช่นเดียวกัน​

ก่อน​จะดื่มเหล้า​ เจิ้งต้าเฟิง​ยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ “สหาย​เก่า​สหาย​ใหม่​ สุรา​ดี​หลาย​ชามพบปะ​กัน​ด้วยความยินดี​”

เสี่ยว​โม่ไม่ได้​เอ่ย​อะไร​ บน​สมุดบัญชี​เล่ม​เล็ก​บาง​เล่ม​มีชื่อ​ของ​นักพรต​หญิง​อู๋​โจว​เพิ่ม​มาอีก​ชื่อ​หนึ่ง​

ต้อง​ตั้งใจ​ฝึก​กระบี่​ให้​ดีแล้ว​จริงๆ​ หมื่น​ปี​กว่า​มาแล้ว​ จะปล่อย​ให้​มีธรณีประตู​หนึ่ง​กั้น​ขวาง​เอาไว้​แบบนี้​ไม่ได้​

ชุยตง​ซาน​สูด​ลม​หายใจเข้า​ลึก​หนึ่ง​ที​ ข้า​ผู้อาวุโส​ต้อง​ตั้งใจ​ฝึก​ตน​ให้​ดีแล้ว​!

ตอนแรก​ก็​ถูก​เจิ้งจวี​จงทำให้​โมโห​อัดอั้น​จน​เกิด​บาดเจ็บ​ภายใน​ วันนี้​ดัน​ถูก​อู๋ซวงเจี้ยง​แสร้ง​ทำตัว​เป็นยอด​ฝีมือ​บรรลุ​มรรคา​มาพูด​ใส่อีก​

ดื่ม​สุรา​อวยพร​ให้​สายลม​ตะวันออก​ ฟังเสียง​ปราณ​กระบี่​เหมือน​เสียง​มังกร​ร้อง​คำราม​ใน​ป่าใหญ่​ มอง​แสงกระบี่​ประหนึ่ง​บุปผา​เบ่งบาน​ ใต้​หล้า​อยู่​ร่วมกัน​อย่าง​เป็นสุข​

เฉิน​ผิง​อัน​หยิบ​เหล้า​ทะเลสาบ​คน​ใบ้​ไห​หนึ่ง​ที่​ยัง​ไม่ถูก​แกะ​ผนึก​ขึ้น​มาจาก​บน​โต๊ะ​ ยื่น​ส่งให้​กับ​อู๋ซวงเจี้ยง​

อู๋ซวงเจี้ยง​ถึงกับ​ไม่ปฏิเสธ​ ยิ้ม​รับ​เอาไว้​แล้ว​ “ช่วย​นำ​ความ​ไป​บอก​แทน​ข้า​ วันหน้า​ก็​ช่วย​ถามไถ่สาร​ทุกข์สุข​ดิบ​หมี่​ลี่​น้อย​แทน​ข้า​ด้วย​”

เพราะ​อยาก​มีลูกสาว​ที่​เป็น​เช่นนี้​จริงๆ​ ใสซื่อ​ น่ารักน่าเอ็นดู​

แม่นาง​น้อย​ชอบ​กะพริบตา​ปริบๆ​ เอียง​ศีรษะ​ ราวกับ​กำลัง​บอ​กว่า​หัว​กบาล​เล็ก​ๆ ของ​ข้า​เฉลียวฉลาด​มาก​เลย​นะ​

ใคร​บ้าง​จะไม่ชอบ​

เจิ้งต้าเฟิง​หัวเราะ​เสียงดัง​ หน้าตา​ของ​ผู้พิทักษ์​ฝ่ายขวา​ของ​ภูเขา​ลั่วพั่ว​เรา​ช่างใหญ่โต​จริงๆ​

เฉิน​ผิง​อัน​พยัก​หน้ายิ้ม​เอ่ย​ “ไม่มีปัญหา​”

อู๋ซวงเจี้ยง​หิ้ว​กา​เหล้า​เดิน​ออก​ไป​สอง​ก้าว​ก็​หมุนตัว​กลับมา​ ยิ้ม​เอ่ย​กับ​พวก​เฉิน​ผิง​อันว่า​ “เรื่อง​นี้​สิ้นสุดลง​แล้ว​ ค่อย​พบ​เจอกัน​ใหม่​ใน​ยุทธ​ภพ​”

——

Next

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!