กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 918

สรุปบท บทที่ 918.1 ในเสียงท่องตำราบนเส้นทางแห่งสันติสุข: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!

สรุปตอน บทที่ 918.1 ในเสียงท่องตำราบนเส้นทางแห่งสันติสุข – จากเรื่อง กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! โดย Internet

ตอน บทที่ 918.1 ในเสียงท่องตำราบนเส้นทางแห่งสันติสุข ของนิยายกำลังภายในเรื่องดัง กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

หลังจากที่​ลู่​เฉิน​ออก​มาจาก​สำนัก​ชิงเหลียง​ของ​อุตรกุรุทวีป​แล้วก็​ไม่ได้​ตรง​กลับ​ไป​ที่​ป๋า​ยอ​วี้​จิง แต่​ไป​เยือน​แคว้น​ชิงเฮาก่อน​รอบ​หนึ่ง​ ได้​พบ​กับ​บัณฑิต​แซ่เฉิน​ที่​เดิมที​สมควร​แซ่ห​ลี่​ที่​ถนน​ต้ง​เซียน​ จากนั้น​ก็​แอบ​กลับ​ไป​ที่​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ ต้องการ​ไป​พบ​สหาย​เก่า​ที่​ขอบเขต​แตกต่าง​จาก​ตน​ แต่กลับ​มิอาจ​ดูแคลน​สถานะ​ของ​อีก​ฝ่าย​ได้​

จาก​อุตรกุรุทวีป​เดิน​ทางข้าม​ทะเล​ลง​ใต้​ไป​ตลอดทาง​ ทะยาน​ลม​มาถึงเหนือ​พื้นดิน​ของ​แจกัน​สมบัติ​ทวีป​ ไม่ผิด​ไป​จาก​ที่​คาด​ อริยะ​ปราชญ์​ศาล​บุ๋น​ที่นั่ง​พิทักษ์​ม่าน​ฟ้าเป็น​คนคุ้นเคย​กัน​ดี​ จึงพูดคุย​กับ​ลู่​เฉิน​อยู่​หลาย​คำ​

ลู่​เฉิน​รู้สึก​ว่า​การรำลึก​ความหลัง​ที่​คำพูดคำจา​ไม่มาก​แต่​ความผูกพัน​ค่อน​ข้างมาก​ครั้งนี้​ สามารถ​ถือว่า​พูดคุย​กัน​อย่าง​ถูกคอ​ได้​ ส่วน​เรื่อง​ที่ว่า​อีก​ฝ่าย​จะคิด​อย่างไร​ ลู่​เฉิน​ไป​ควบคุม​อะไร​ไม่ได้​

เมือ​งอ​วี้​จางจังหวัด​หง​โจว​ ศูนย์​ตัด​ต้นไม้​ที่​ก่อ​ตั้งขึ้น​มาใหม่​

ขุนนาง​หลัก​คน​แรก​ที่​ดูแล​ศูนย์​ตัด​ต้นไม้​คือ​คน​ของ​เมืองหลวง​ที่​มีชื่อว่า​หลิน​เจิ้งเฉิง

ได้ยิน​มาว่า​ก่อนหน้านี้​รับหน้า​ที่อยู่​ใน​ที่ว่าการ​กรม​กลาโหม​ของ​เมืองหลวง​ เป็น​รองหัวหน้า​ของ​หน่วย​รายงาน​ข่าว​ อายุ​ไม่น้อย​แล้ว​ ไม่รู้​ว่า​คว้า​เอางาน​ดี​ที่​ได้​ค่าน้ำร้อนน้ำชา​อย่าง​งามงาน​นี้​มาได้​อย่างไร​

ใต้เท้า​หลิน​ท่าน​นี้​ ทั้ง​ไม่ได้​มีการกระทำ​ของ​ขุนนาง​ใหม่​ที่​ไฟแรง​สูงสามกอง​ แล้วก็​ทั้ง​ไม่ได้​ไม่สนใจ​สิ่งใด​เอาแต่​เสวยสุข​อย่าง​เดียว​ โดย​ภาพรวม​แล้ว​ถือว่า​ทำ​อะไร​อยู่​ใน​กฎ​ใน​เกณฑ์​ ขั้น​ตอนที่​ควร​ปฏิบัติ​ก็​ปฏิบัติ​ไป​รอบ​หนึ่ง​ ยกตัวอย่างเช่น​สวม​ชุด​ขุนนาง​พา​เสมียน​ผู้น้อย​ของ​ที่ว่าการ​ไป​จุด​ธูป​กราบไหว้​ที่​ศาล​บุ๋น​บู๊​และ​ศาล​เทพ​อภิบาล​เมือง​ใน​พื้นที่​ด้วยกัน​ เนื่องจาก​ศูนย์​ตัด​ต้น​ไม้เป็น​ที่ว่าการ​แห่ง​ใหม่​จึงไม่มีงาน​ที่​ต้อง​รับ​ช่วงต่อ​จาก​คน​ก่อนหน้า​ จึงประหยัดเวลา​ไป​ได้​ไม่น้อย​

ท่ามกลาง​ม่าน​ราตรี​ของ​คืนนี้​ นักพรต​หนุ่ม​คน​หนึ่ง​ที่​บน​ศีรษะ​สวม​กวาน​ดอกบัว​เดิน​ตรง​เข้า​ประตู​มาโดย​ไม่แม้แต่​จะเคาะ​ประตู​ มานั่งลง​บน​ม้านั่ง​ข้าง​กระถาง​ไฟ ยื่นมือ​ไป​อัง​ไฟหา​ความอบอุ่น​ ตัวสั่น​เยือก​หนึ่ง​ที​ หัวเราะ​ร่า​ถามว่า​ “นักฆ่า​ที่​ลอบ​โจมตี​หนิง​เหยา​ปี​นั้น​ จนถึง​ตอนนี้​ยัง​สืบหา​ผู้บงการ​ที่อยู่​เบื้องหลัง​ไม่เจอ​อีก​หรือ​?”

หลิน​เจิ้งเฉิงวาง​ตำรา​ใน​มือ​ลง​ เหลือบตา​ขึ้น​มอง​ ยังคง​นั่ง​นิ่ง​ไม่ขยับ​ แสร้ง​ทำเป็น​ไม่ได้ยิน​คำถาม​ของ​เจ้าลัทธิ​สามแห่ง​ป๋า​ยอ​วี้​จิง หลิน​เจิ้งเฉิงแค่​กุม​หมัด​เอ่ย​คำพูด​ตามมารยาท​ว่า​ “คารวะ​เจ้าลัทธิ​ลู่​”

ลู่​เฉิน​สะบัด​ชาย​แขน​เสื้อ​ “พวกเรา​สอง​คน​เป็น​ใคร​กับ​ใคร​ งี่เง่าแล้ว​นะ​”

ตั้ง​แผง​ดูดวง​อยู่​ใน​เมือง​เล็ก​มาสิบ​กว่า​ปี​ ทั้งสองฝ่าย​รู้ไส้​รู้​พุง​กัน​ดี​ยิ่ง​

แต่​ก็​เหมือน​อย่าง​เฉาเกิง​ซิน​แห่ง​จวน​ผู้ตรวจ​การงาน​เตาเผา​ที่​จำเป็นต้อง​จับตามอง​เจ้าขุนเขา​หนุ่ม​ของ​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ไว้​ให้​มาก​ที่สุด​ แต่​ทั้งสองฝ่าย​กลับ​ไม่มีโอกาส​ได้​พบ​หน้า​พูดคุย​กัน​สักครั้ง​

กับ​ลู่​เฉิน​เอง​ หลิน​เจิ้งเฉิงก็​เป็น​เช่นนี้​เหมือนกัน​

หลิน​เจิ้งเฉิงคือ​คนใน​พื้นที่​ของ​ถ้ำสวรรค์​หลี​จู ยิ่ง​เป็น​ฮุน​เจ่อ​รุ่น​ที่สอง​ที่​ซิ่ว​หู่​เลือก​มาเอง​กับ​มือ​

ไม่อย่างนั้น​ราชครู​ต้า​หลี​ผู้ยิ่งใหญ่​ก็​คง​ไม่ถึงขั้น​ว่างงาน​จน​ไป​ช่วย​ตั้งชื่อ​ให้​กับ​ลูกชาย​ของ​ขุนนาง​จวน​ผู้ตรวจ​การคน​หนึ่ง​หรอก​

ส่วน​ฮุน​เจ่อ​คน​ก่อน​ เมื่อ​ระยะเวลา​หกสิบ​ปี​ที่​กำหนด​ไว้​มาถึง ก็​ต้อง​ปลด​ประจำการ​โดยที่​ถือว่า​ไม่มีคุณ​ความชอบ​และ​ไม่มีความผิดพลาด​ แน่นอน​ว่า​ซิ่ว​หู่​ชุย​ฉาน​ย่อม​ไม่ค่อย​พอใจ​

ก่อน​คน​ผู้​นี้​ อันที่จริง​ยังมี​เซียน​กระบี่​ต่างถิ่น​อีก​คน​หนึ่ง​ที่​รับหน้าที่​เป็น​ฮุน​เจ่อ​อยู่​ใน​ถ้ำสวรรค์​หลี​จูได้​ยาวนาน​ที่สุด​ อีก​ทั้ง​ฝ่าย​นั้น​ยังมี​สถานะ​ที่​ลึกลับ​อำพราง​ซึ่งพิเศษ​อย่าง​ถึงที่สุด​ นั่น​ก็​คือ​เป็น​จี้กวาน​

นี่​เป็นความลับ​ที่​ราชครู​ชุย​เพิ่งจะ​เปิดเผย​ให้​หลิน​เจิ้งเฉิงทราบ​ใน​การ​พบ​หน้า​กัน​ครั้งสุดท้าย​ ผู้ฝึก​กระบี่​ที่​ออกจาก​บ้านเกิด​ไป​อย่าง​เงียบเชียบ​ ผ่าน​ภูเขา​ห้อย​หัว​มาเยือน​ใต้​หล้า​ไพศาล​ คือ​จี้กวาน​คน​สุดท้าย​ใน​ประวัติศาสตร์​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​

ในความเป็นจริง​แล้ว​ ตั้งแต่​ครั้งแรก​ที่​หนิง​เหยา​เดินทาง​ไปเที่ยว​เยือน​ถ้ำสวรรค์​หลี​จู หยาง​เหล่า​โถว​ก็ได้​เปิด​เผยความลับ​สวรรค์​แก่​นาง​ เพียงแต่ว่า​ตอนนั้น​ผู้เฒ่า​พูดจา​ค่อนข้าง​คลุมเครือ​ พูด​แค่​ว่า​มีผู้ฝึก​กระบี่​ต่างถิ่น​คน​หนึ่ง​ที่​ตาย​อยู่​ใน​บริเวณ​ใกล้เคียง​กับ​เมือง​เล็ก​ ก่อนหน้า​นั้น​ผู้ฝึก​กระบี่​คน​นี้​ได้​รวบรวม​สิ่งที่​พบเห็น​ระหว่าง​ขุนเขา​สายน้ำ​เรียบเรียง​ขึ้น​เป็น​เล่ม​ สุดท้าย​ได้​ทิ้ง​บันทึก​ท่องเที่ยว​เล่ม​หนึ่ง​เอาไว้​ มีบางครั้ง​ที่จะ​หยิบ​มาเปิด​อ่าน​ดู​

หนิง​เหยา​ในเวลานั้น​แค่​กึ่ง​เชื่อ​กึ่ง​กังขา​ ตอนนั้น​นาง​ไม่ได้​คิดลึก​ ภายหลัง​หยาง​เหล่า​โถว​จึงเปลี่ยน​เรื่อง​คุย​ ถามคำถาม​สุดท้าย​กับ​นาง​ว่า​อะไร​คือ​เสียง​ใน​ใจ

เด็กสาว​พลัน​เข้าใจ​กระจ่างแจ้ง​ใน​ชั่วพริบตา​ นาที​นั้น​นาง​ก็ได้​เข้าสู่​สภาวะ​ลี้ลับ​มหัศจรรย์​คล้าย​การ​เข้าฌาน​ของ​ลัทธิ​พุทธ​ และ​คล้าย​การ​เดิน​เข้าไป​สู่เรือน​ใจของ​ลัทธิ​เต๋า​อย่างหนึ่ง​

หลิน​เจิ้งเฉิงเดา​ว่า​ผู้ฝึก​กระบี่​ที่​เป็นหนึ่ง​ใน​สามขุนนาง​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ผู้​นี้​ตั้ง​ใจมาที่นี่​เพราะ​กระบี่​โบราณ​ที่​แขวน​อยู่​ใต้​สะพาน​ เพียงแต่​ไม่รู้​ว่า​เพราะเหตุใด​ถึงไม่ได้รับ​การตอบรับ​เสียที​ เขา​ก็​เลย​อยู่​ต่อ​ที่​ถ้ำสวรรค์​หลี​จู หันมา​เป็น​ฮุน​เจ่อ​แทน​ เพียงแต่ว่า​เวลา​นั้น​เกิด​ก่อนที่​ชุย​ฉาน​จะมารับหน้าที่​เป็น​ราชครู​ต้า​หลี​นาน​มาก​ สกุล​ซ่งต้า​หลี​ยังคง​ถูก​ปิดหูปิดตา​ จึงไม่รู้​ว่า​มีความ​เชื่อมโยง​กับ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ลึกล้ำ​ถึงเพียงนี้​

แต่​จี้กวาน​ท่าน​นี้​ นอกจาก​ภายนอก​จะเป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​แล้ว​ยังมี​สถานะ​ที่​แอบแฝง​ยิ่งกว่านั้น​ คือ​ยัง​เป็น​ปรมาจารย์​ใหญ่​วิถี​วร​ยุทธ​คน​หนึ่ง​ที่อยู่​บน​ยอดเขา​ ใต้​ฝ่าเท้า​ไร้​เส้นทาง​ให้​เดิน​แล้ว​

ใน​ประวัติศาสตร์​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ ผู้ฝึก​ยุทธ​ขอบเขต​ปลายทาง​มีน้อย​จน​นับ​นิ้ว​ได้​

คน​สุดท้าย​คือ​ป๋า​ย​เลี่ยน​ซวง​ แล้ว​ยัง​เป็น​สตรี​ผู้​หนึ่ง​

นี่​ไม่สมเหตุสมผล​อย่างยิ่ง​ ต่อให้​โชคชะตา​บู๊​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​จะถูก​ปราณ​กระบี่​สยบ​กำราบ​ไว้​แค่​ไหน​ จำนวน​ของ​ผู้ฝึก​ยุทธ​เต็มตัว​ขอบเขต​เก้า​ ขอบเขต​สิบ​ก็​ไม่น่าจะ​น้อย​ถึงเพียงนี้​

ยึดครอง​

เพราะว่า​มีคน​ยึดครอง​โชคชะตา​บู๊​ไป​เพียงลำพัง​

บุคคล​อันดับ​หนึ่ง​ด้าน​การเรียน​วร​ยุทธ​ของ​ใต้​หล้า​ไพศาล​ ‘หลง​ป๋อ​’ จางเถียว​เสีย​ ใน​อดีต​ตอนที่​คน​ผู้​นี้​ยัง​ไม่หมดอาลัยตายอยาก​ ช่วงเวลา​ที่​ปณิธาน​หมัด​อยู่​บน​ยอดเขา​สูงสุด​ จางเถียว​เสีย​ในเวลานั้น​เรียก​ได้​ว่า​เปี่ยม​ไป​ด้วย​ปณิธาน​ฮึกเหิม​ มอง​ตำแหน่ง​เทพ​แห่ง​การต่อสู้​เหนือ​ขอบเขต​ปลายทาง​เป็น​ของ​ใน​กระเป๋า​ตัวเอง​อย่าง​สิ้นเชิง​ มีความคิด​ทำนอง​ที่ว่า​หาก​ไม่ใช่ข้า​แล้​วจะ​เป็น​ใคร​ไป​ได้​

ผล​คือ​บน​มหาสมุทร​กว้างใหญ่​เคย​มีการ​ถามหมัด​กับ​ผู้ฝึก​ยุทธ​เต็มตัว​ไม่ทราบ​นาม​คน​หนึ่ง​

จางเถียว​เสีย​ไม่แพ้​ แต่​ก็​ไม่ชนะ​

แต่​หลัง​จากนั้นมา​จางเถียว​เสีย​ก็​หันไป​ฝึก​ตน​ สุดท้าย​กลายเป็น​ผู้ฝึก​ยุทธ​ขอบเขต​ปลายทาง​ที่​มีอายุขัย​ยาวนาน​ที่สุด​ใน​ประวัติศาสตร์​ของ​ใต้​หล้า​ไพศาล​

สำหรับ​ยศ​ตำแหน่ง​ คำ​เรียกขาน​ที่​ไพเราะ​มากมาย​ซึ่งโลก​ภายนอก​ตั้ง​ให้​เขา​ ยกตัวอย่างเช่น​บุคคล​อันดับ​หนึ่ง​ของ​วิถี​วร​ยุทธ​ใน​ใต้​หล้า​ จางเถียว​เสีย​ล้วน​ไม่เคย​ยอมรับ​ พวก​เจ้าอยาก​จะพูด​อะไร​ก็​พูด​ไป​ ถึงอย่างไร​ข้า​จางเถียว​เสีย​ก็​ไม่ยอมรับ​ ไม่สนใจ​

การ​ที่​ลู่​เฉิน​รู้เรื่อง​นี้​ยัง​ต้อง​ยก​คุณ​ความชอบ​ให้​กับ​เซียน​ฉาคนพาย​เรือ​เฒ่าลูกศิษย์​ไม่ได้รับ​การ​บันทึก​ชื่อ​ของ​ตน​

เซียน​ฉาก็​คือ​คน​ที่​ชมศึก​เพียง​หนึ่งเดียว​ใน​การ​ถามหมัด​ครั้งนั้น​พอดี​

สงคราม​บน​ยอดเขา​สูงสุด​ของ​วิถี​วร​ยุทธ​ครั้งนั้น​ เรือน​กาย​ของ​สอง​ฝ่าย​ขยับ​ว่องไว​ดุจ​สาย​ฟ้าแลบ​ ความเร็ว​นั้น​เหนือกว่า​กระบี่​บิน​ของ​ผู้ฝึก​กระบี่​ ตี​กัน​จน​มหาสมุทร​ใน​รัศมี​พัน​ลี้​รอบด้าน​ยุบ​หาย​ลง​ไป​เป็น​แถบ​ๆ มองเห็น​ก้นบึ้ง​ของ​ทะเล​หลาย​จุด​

มิน่าเล่า​ชุย​ฉาน​ถึงได้​เลือก​ให้​คน​ผู้​นี้​มารับหน้าที่​เป็น​ฮุน​เจ่อ​ ขอบเขต​ไม่สูง แต่​ดัน​ใจแข็ง​เหมือน​หิน​ที่​น้ำมัน​และ​เกลือ​ก็​ไม่ซึมเข้า​จริงๆ​ (หมัก​เนื้อ​แล้ว​น้ำมัน​กับ​เกลือ​ไม่ซึมเข้าเนื้อ​ อุป​มาถึงคน​มีทิฐิ​ หัวแข็ง​ ดื้อรั้น​)

อีก​ทั้งเมือง​เล็ก​แห่ง​นี้​ยังมี​ขนบธรรมเนียม​ที่​เรียบง่าย​ นี่​มัน​เกิดเรื่อง​อะไร​ขึ้น​กัน​แน่​ แต่ละคน​ถึงได้​พูดจา​ทิ่มแทงใจ​ผู้อื่น​ไม่แพ้​กัน​เลย​เช่นนี้​

หลิน​เจิ้งเฉิงลุกขึ้น​ เดิน​อ้อม​โต๊ะ​หนังสือ​มานั่งลง​ข้าง​กระถาง​ไฟ หยิบ​เอา​มันเทศ​ที่​ปิ้ง​สุก​แล้ว​ขึ้น​มาปัดฝุ่น​แล้ว​เริ่ม​กัด​กิน​

ลู่​เฉิน​ยิ้ม​เอ่ย​เตือน​ “กิน​ช้าๆ หน่อย​ ระวัง​ร้อน​”

หลิน​เจิ้งเฉิงเหลือบมอง​ฟ้าดิน​เล็ก​ที่​ลอย​อยู่​กลางอากาศ​

มีแสงสว่าง​บางส่วน​ที่​แทบจะ​ไม่ขยับ​แล้ว​

ยกตัวอย่างเช่น​เฟิงอี๋​ที่อยู่​ใน​เหลา​สุรา​ที่สูง​ที่สุด​ของ​เมือง​เล็ก​ ลู่​เหว่​ย​ผู้ฝึก​ตน​ของ​สำนัก​หยิน​หยาง​ สารถี​เฒ่าที่​มีชาติกำเนิด​มาจาก​กรม​สายฟ้า​สรวงสวรรค์​เก่า​

แสงสว่าง​บางส่วน​สว่าง​พร่างพราว​ดุจ​ดวงดาว​ที่​ลอย​สูง อย่าง​ห​ร่วน​ซิ่ว​ ห​ลี่​หลิ่ว​

และ​ยังมี​ซูฮั่น​ ช่างเตาเผา​ที่​เป็น​ชาย​หัวใจ​หญิง​ซึ่งเป็น​เทพ​พิรุณ​กลับ​ชาติ​มาจุติ​

หรือ​อย่าง​จื้อ​กุย​เด็กสาว​ที่​หนี​ออก​มาจาก​บ่อ​โซ่เหล็ก​

ขณะเดียวกัน​นั้น​บน​ร่าง​ของ​ทุก​คนใน​เมือง​เล็ก​ก็​มีเส้นด้าย​ผลกรรม​ที่​บ้าง​ก็​ร้อย​เรียง​อยู่​ด้วยกัน​ บ้าง​ก็​ถูก​ตัดขาด​ไป​อย่าง​เงียบเชียบ​

สุดท้าย​ร้อยรัด​ทุกคน​ไว้​ด้วยกัน​ ผู้ฝึก​ตน​มีน้อย​ แต่​เส้นด้าย​หนา​ คนธรรมดา​มีเส้นด้าย​ยาว​อยู่​บน​ร่าง​เยอะ​ยิ่งกว่า​ แต่กลับ​เล็ก​บาง​

มีเพียง​ทาง​ฝั่งของ​ร้าน​ยา​ตระกูล​หยาง​เท่านั้น​ที่​เป็น​กลุ่ม​เมฆหมอก​ลอย​บดบัง​

ลู่​เฉิน​กัด​มันเทศ​ที่อยู่​ใน​มือ​ พลัน​เอ่ย​อย่าง​ขุ่นเคือง​ว่า​ “เจ้าเฉิน​ผิง​อัน​ผู้​นี้​เจ้าคิด​เจ้าแค้น​เกินไป​แล้ว​ ข้า​ไม่ได้​ทำ​อะไร​สักหน่อย​ เป็นหนี้​ต้อง​จ่าย​ เป็น​คน​ชั่วร้าย​ต้อง​ชด​ใช้กรรม​ อาศัย​อะไร​มาโกรธเคือง​ข้า​อยู่​แค่​คนเดียว​ เจ้าที่​เป็น​ผู้อาวุโส​ต้อง​จัดการ​บ้าง​นะ​ ควบคุม​เขา​เสีย​บ้าง​ ทุกวันนี้​คำพูดคำจา​ของ​เจ้าค่อนข้าง​ใช้ได้ผล​กับ​เฉิน​ผิง​อัน​มากกว่า​ใคร​เลย​นะ​”

หลิน​เจิ้งเฉิงเอ่ย​เตือน​ “มอง​ดูเหมือน​ไม่ได้​ทำ​อะไร​อย่าง​แท้จริง​”

มอง​ดูเหมือน​ แท้จริง​

——

Next

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!