กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 919

สรุปบท บทที่ 919.2 ไยจึงมีเพียงผู้ฝึกกระบี่: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!

สรุปเนื้อหา บทที่ 919.2 ไยจึงมีเพียงผู้ฝึกกระบี่ – กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! โดย Internet

บท บทที่ 919.2 ไยจึงมีเพียงผู้ฝึกกระบี่ ของ กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

เด็กหนุ่ม​สวม​หมวก​หัว​เสือ​คน​หนึ่ง​เดิน​อยู่​ริม​ลำธาร​

นักพรต​ซุน​รีบ​กวักมือ​ยิ้ม​เรียก​อีก​ฝ่าย​ทันที​ “น้อง​ป๋า​ย​เห​ย่​ มาช่วย​เป็น​พยาน​ให้​หน่อย​”

ป๋า​ย​เห​ย่​พยักหน้า​ “เป็น​ปรมาจารย์​มหา​ปราชญ์​จริงๆ​”

นักพรต​ผู้เฒ่า​ยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “เจ้าอ้วน​เยี่ยน​ วันหน้า​จำไว้​ว่า​อย่า​บ่นว่า​อาหารเจ​ของ​อาราม​พวกเรา​ไม่อร่อย​อีก​ ปรมาจารย์​มหา​ปราชญ์​ให้​คำวิจารณ์​ว่า​ ‘สมคำเล่าลือ​’ เชียว​นะ​”

ป๋า​ย​เห​ย่​ทำ​ท่าจะ​พูด​แต่​ก็​ไม่พูด​

นักพรต​ซุน​รีบ​ขยิบตา​ให้​ ป๋า​ย​เห​ย่​จึงไม่ได้​เปิดปาก​เอ่ย​อะไร​

ก่อนที่​ป๋า​ย​เห​ย่​จะมาใต้​หล้า​มืด​สลัว​เคย​ได้​ไป​พบ​ปรมาจารย์​มหา​ปราชญ์​พร้อมกับ​ซิ่ว​ไฉเฒ่าที่​ยอดเขา​สุ้ย​ซาน​มาก่อน​

เพราะ​ตน​จะต้อง​มาฝึก​ตน​และ​ฝึก​กระบี่​ที่​อาราม​เสวียน​ตู​ ซิ่ว​ไฉเฒ่ากับ​ปรมาจารย์​มหา​ปราชญ์​ถึงได้​พูดถึง​อาหารเจ​ของ​ที่นี่​ขึ้น​มาพอดี​

ซิ่ว​ไฉเฒ่าบอ​กว่า​อาหาร​ของ​อาราม​เต๋า​เล่าลือ​กัน​ว่า​ไม่ค่อย​อร่อย​ ปรมาจารย์​มหา​ปราชญ์​จึงเคย​ประโยค​หนึ่ง​ว่า​ เคย​ได้ยิน​คน​พูดว่า​ รสชาติ​ไม่เท่าไร​จริงๆ​ นั่นแหละ​

ดังนั้น​หลังจากที่​ปรมาจารย์​มหา​ปราชญ์​กิน​อาหารเจ​ใน​อาราม​แล้ว​ถึงได้​เอ่ย​ว่า​ ‘สมคำเล่าลือ​’ อันที่จริง​ก็​เป็น​คำพูด​ตามมารยาท​ของ​แขก​ที่มา​เยือน​ถึงบ้าน​จริงๆ​

นักพรต​ซุน​ยิ้ม​ถาม “ไป​เยือน​ดวงจันทร์​เฮ่าไฉ่พร้อมกับ​จวิน​เชี่ยน​มาแล้ว​หรือ​?”

ป๋า​ย​เห​ย่​พยักหน้า​รับ​

นักพรต​ซุน​ทำ​สีหน้า​อิจฉา​ “ชมจันทร์​นอน​บน​ต้นสน​เขียว​ ถึงอย่างไร​ก็​สู้นอน​บน​จันทร์​ชมต้นสน​เขียว​ไม่ได้​ หนึ่ง​เงยหน้า​มอง​ฟ้า หนึ่ง​ก้มหน้า​มอง​ดิน​ ทัศนียภาพ​ต่างกัน​มาก​เลย​นะ​”

ป๋า​ย​เห​ย่​กล่าว​ “เจ้าอาราม​อยาก​ไป​ก็​ไม่ยาก​สักหน่อย​”

นักพรต​เฒ่าโบกมือ​ “จะพูด​แบบนี้​ไม่ได้​ ตอนนี้​เจ้าผู้​ไร้​เทียมทาน​ที่​แท้จริง​คน​นั้น​นอน​ขวางทาง​อยู่​ตรงนั้น​ ผิน​เต้า​อายุ​มาก​แล้ว​ หู​ตา​ฝ้าฟาง เท้า​หนึ่ง​ก้าว​ออก​ไป​ไม่ทัน​ระวัง​เหยียบ​บน​หน้า​เต๋า​เหล่า​เอ้อ​ยัง​พูด​ได้​ง่าย​ ถือ​เป็นความ​ผิดที่​ไร้​เจตนา​ แค่​เอ่ย​ขอโทษ​ก็​พอ​ แต่​หาก​เหยียบ​ลง​บน​เป้ากางเกง​ก็​คง​ไม่ค่อย​เข้าท่า​แล้ว​”

เดิมที​ป๋า​ย​เห​ย่อ​ยาก​นั่ง​บน​ก้อนหิน​ริม​ลำธาร​ พูดคุย​กับ​เจ้าอาราม​ผู้เฒ่า​สัก​สอง​สามประโยค​ แต่​พอ​ได้ยิน​ประโยค​จึงเดินเล่น​ไป​ข้างหน้า​ต่อ​ทันที​

เยี่ยนจั๋ว​กิน​เมล็ด​บัว​กอง​ใหญ่​ใน​อ้อม​อก​จน​หมด​แล้ว​พลัน​ยก​สอง​เท้า​ขึ้น​มาจาก​ใน​น้ำ​ ถามว่า​ “เหล่า​ซุน​ อันที่จริง​ท่า​น.​..แล้ว​ใช่ไหม​?”

“คนบน​โลก​นี้​พูด​แค่​ว่า​ไท่​ซ่างลืม​ความรัก​ มรรค​กถา​ไร้​ปราณี​แต่กลับ​มีความรัก​ความผูกพัน​ เกิด​มาก็​เป็น​คน​มีความรัก​จริงๆ​ นั่นแหละ​”

นักพรต​ซุน​ไม่ได้​ให้​คำตอบ​อย่าง​ตรงไปตรงมา​ เพียง​ยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “บุญคุณ​ความแค้น​ของ​คน​รุ่นเก่า​ พวก​ผู้เยาว์​อย่าง​พวก​เจ้าไม่ต้อง​คิดมาก​ ถึงอย่างไร​คิด​ไป​ก็​ไม่มีประโยชน์​ แค่​ตั้งใจ​ฝึก​ตน​ ต่าง​คน​ต่าง​เดิน​ไป​บน​ยอด​สูงสุด​ก็​พอ​”

นักพรต​ผู้เฒ่า​ลุกขึ้น​ยืน​ “อายุ​มาก​แล้วก็​มักจะ​คิดถึง​เรื่อง​ที่อยู่​เบื้องหลัง​”

อันที่จริง​ผู้รอบรู้​บางท่าน​ของ​ทัก​ษินา​ตย​ทวีป​ก็​เคย​เอ่ย​คำพูด​ทำนอง​นี้​มาก่อน​ ตอนนั้น​ผู้ฟัง​มีแค่​คนเดียว​ คือ​บัณฑิต​ต่างถิ่น​คน​หนึ่ง​ที่​มีชื่อว่า​หลิว​เสี้ยน​หยาง​

แต่เพียง​ไม่นาน​เจ้าอาราม​ผู้เฒ่า​ก็​หัวเราะ​ร่า​เสียงดัง​ “แต่​ผิน​เต้า​พูดถึง​มรรคา​จารย์​เต๋า​ ข้า​ยัง​หนุ่ม​อยู่​มาก​นัก​ล่ะ​ สิ่งที่คิด​ถึงใน​แต่ละวัน​ก็​มีแต่​พยายาม​เพิ่ม​มื้อ​อาหาร​ให้​มากขึ้น​”

ก่อนที่​นักพรต​ผู้เฒ่า​จะจากไป​ได้​พูด​กับ​คน​อ้วน​อายุ​น้อย​ว่า​ “คิดถึง​ปัญหา​ข้อ​หนึ่ง​ให้​ดี​ เหตุใด​ใต้​หล้า​ถึงมีเพียง​ผู้ฝึก​กระบี่​ วัน​ไหน​คิดออก​แล้ว​ เจ้าก็​จะสามารถ​ฝ่าทะลุ​ขอบเขต​ได้​”

……

เรือ​เฟิงยวน​ลำ​หนึ่ง​ได้​ข้าม​มหาสมุทร​มาถึงแผ่นดิน​ของ​ใบ​ถงทวีป​แล้ว​ หยุด​จอด​ที่​ท่าเรือ​ตระกูล​เซียน​ของ​ตำหนัก​พยัคฆ์​เขียว​ภูเขา​ชิงจิ้งครู่หนึ่ง​ก็​เดินทาง​ต่อไป​ยัง​ภูเขา​เซียน​ตู​

วันนี้​ระหว่าง​ที่​หยุดพัก​จาก​การ​ฝึก​กระบี่​ ซุน​ชุน​หวัง​ลังเล​เล็กน้อย​ก็​ยัง​เดิน​ออก​มาจาก​ห้อง​ คิด​ว่า​จะไป​นั่ง​อยู่​กับ​ไฉอู๋​สักพัก​ นาง​ไม่ชอบ​ความ​ครึกครื้น​ แต่​ดี​ที่​ไฉอู๋​เอง​ก็​ไม่ชอบ​พูดคุย​ นอกจาก​ดื่มเหล้า​ส่งเสียง​เล็กน้อย​แล้ว​ อันที่จริง​ก็​ไม่ได้​เป็น​ฝ่าย​ชวน​คุย​อะไร​มาก​นัก​ ตรง​กับ​ที่​นาง​ต้องการ​พอดี​ ผล​คือ​ซุน​ชุน​หวัง​เพิ่งจะ​เลี้ยว​ผ่าน​หัวเลี้ยว​ของ​ระเบียง​เส้น​หนึ่ง​ก็​เห็น​ว่า​ตรง​นอก​ห้อง​ของ​ไฉอู๋​มีเทพ​ทวารบาล​ยืน​นิ่ง​ไม่ขยับ​อยู่​คน​หนึ่ง​ ซุน​ชุน​หวัง​จึงเข้าใจ​ได้​ทันที​ ไฉอู๋​ยัง​ฝึก​ตน​อยู่​ ตอนนี้​ไม่สะดวก​ให้​ใคร​มารบกวน​

หมี่​ลี่​น้อย​เดิน​เบา​มือเบา​เท้า​มาหา​ซุน​ชุน​หวัง​ พอ​มาหยุด​อยู่​ข้าง​กาย​อีก​ฝ่าย​แล้ว​ ผู้พิทักษ์​ฝ่ายขวา​ก็​ยกมือ​ทำท่า​นับ​นิ้ว​คำนวณ​ เอ่ย​เตือน​เสียง​เบา​ว่า​ “พืชพรรณ​ยัง​ต้อง​ฝึก​ตน​อีก​ครึ่ง​ชั่ว​ยาม​ รอ​ได้​หรือไม่​?”

ซุน​ชุน​หวัง​ส่ายหน้า​ “คง​ต้อง​คลาด​กัน​แล้ว​ อีก​สอง​เค่อ​ให้หลัง​ข้า​จะต้อง​กลับ​ห้อง​ไป​หลอม​กระบี่​ต่อ​”

ใบหน้า​หมี่​ลี่​น้อย​เต็มไปด้วย​ความเลื่อมใส​ เอ่ย​ชื่นชม​จาก​ใจจริง​ “พวก​เจ้าสอง​คน​มานะ​ฝึก​ตน​จน​น่ากลัว​จริงๆ​”

ซุน​ชุน​หวัง​เอ่ย​ “อีก​เดี๋ยว​ไม่ต้อง​แอบ​ไป​ช่วย​เฝ้าด่าน​ให้​ข้า​หรอก​นะ​”

หมี่​ลี่​น้อย​เกา​แก้ม​ ร้อง​อ้อ​หนึ่ง​ที​ ถูก​จับได้​แล้ว​หรือ​?

ซุน​ชุน​หวัง​มีสีหน้า​ละอายใจ​อย่าง​ที่​หา​ได้​ยาก​ พูด​อธิบาย​ว่า​ “ไม่ได้​รำคาญ​…”

หยุดชะงัก​ไป​ครู่​ แม่นาง​น้อย​ที่​ถูก​ป๋า​ย​เสวียน​ตั้งฉายา​ให้​ว่า​ตาปลา​ตาย​ก็​ยัง​เอ่ย​ไป​ตามตรง​ว่า​ “อันที่จริง​ก็​รำคาญ​นั่นแหละ​ มีเจ้าเฝ้าอยู่​นอก​ประตู​กลับ​กลายเป็น​ว่า​ถ่วง​การ​ฝึก​ตน​ของ​ข้า​ จิตใจ​ไม่สงบ​”

รายชื่อ​นี้​ หากว่า​ไม่ทัน​ระวัง​แพร่​ออก​ไป​ ถูก​คน​บางคน​รู้​เข้า​ ถ้าอย่างนั้น​จะไม่ซวย​แย่​เลย​หรือ​?! ใคร​จะหนีรอด​ได้​? สมุด​เล่ม​หนึ่ง​อยู่​ใน​มือ​ ทุก​เรื่อง​ก็​จบเห่​

ป๋า​ยโส่ว​ยิ่ง​คิด​ก็​ยิ่ง​รู้สึก​ผิดปกติ​ ทำ​ใบหน้า​เหมือน​คน​ที่​คิด​ร้อย​ตลบ​ก็​ยัง​ไม่เข้าใจ​ “สรุป​ว่า​เจ้ารู้​หรือไม่​ว่า​นาง​มีขอบเขต​อะไร​?”

ป๋า​ย​เสวียน​พยักหน้า​ “ต้อง​รู้​สิ รู้เขารู้เรา​รบ​ร้อย​ครั้ง​ชนะ​ร้อย​ครั้ง​ ข้า​จะไม่รู้​ขอบเขต​ของ​เผย​เฉียน​ได้​อย่างไร​”

เห็น​ว่า​ป๋า​ยโส่ว​มีท่าที​ลังเล​ตัดสินใจ​ไม่ได้​ ดู​ก็​รู้​ว่า​เป็น​พวก​ขี้ขลาด​ ป๋า​ย​เสวียน​ก็​ส่ายหน้า​ เก็บ​สมุด​เล่ม​นั้น​มา “ช่างเถอะ​ๆ คิดไม่ถึง​ว่า​เจ้าแซ่ป๋า​ย​เหมือนกัน​ ความกล้า​ความ​อง​อาจจะ​ต่างกัน​ถึงเพียงนี้​”

ป๋า​ยโส่ว​ถาม “หมี่​ลี่​น้อย​เคย​เห็น​สมุด​เล่ม​นี้​แล้ว​หรือยัง​?”

ป๋า​ย​เสวียน​เอ่ย​อย่าง​ไม่สบอารมณ์​ “เจ้าคิด​ว่า​ข้า​โง่หรือไง​”

ใคร​บ้าง​ที่​ไม่รู้​ว่า​หมี่​ลี่​น้อย​เป็น​พวก​เดียว​กับ​เผย​เฉียน​ ต่าง​ก็​มาจาก​สาย​เรือน​ไม้ไผ่​ของ​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ที่​กล่าวถึง​ใน​ตำนาน​ ธรณีประตู​สูงมาก​ ว่า​กัน​ว่า​นอกจาก​ภูเขา​ลั่วพั่ว​แล้ว​มีแค่​คน​หนึ่ง​ที่​ชื่อ​ห​ลี่​เป่า​ผิง​กับ​อีก​คน​ที่​ชื่อ​ห​ลี่​ไหว​เท่านั้น​ที่​ถือว่า​เป็น​คน​ของ​สาย​เรือน​ไม้ไผ่​ นี่​ยัง​เป็น​ข้อมูล​ที่​ป๋า​ย​เสวียน​ใช้วิธีการ​ถามอ้อม​ๆ เอา​จาก​ผู้พิทักษ์​ฝ่ายขวา​อยู่​หน้า​ประตู​ภูเขา​หลาย​รอบ​กว่า​จะหลอก​ถามมาได้​เชียว​นะ​

ป๋า​ย​เสวียน​เห็น​ว่า​ป๋า​ยโส่ว​คล้าย​จะหวั่นไหว​ก็​พูด​โน้มน้าว​ว่า​ “พวกเรา​ไม่ใช่ว่า​จะรุม​ตี​เผย​เฉียน​ทันที​เสียหน่อย​ เจ้าคิดดู​สิ ทำไม​ขอบเขต​สิบ​ของ​วิถี​วร​ยุทธ​ถึงได้​ถูก​เรียก​ว่า​ขอบเขต​ปลายทาง​ล่ะ​?”

ป๋า​ยโส่ว​เข้าใจผิด​คิด​ว่า​เฉิน​ผิง​อัน​เปิด​เผยความลับ​สวรรค์​อะไร​กับ​ป๋า​ย​เสวียน​ จึงถามอย่าง​ใคร่รู้​ว่า​ “ทำไม​ล่ะ​?”

ป๋า​ยโส่ว​อึ้ง​ตะลึง​ มารดา​มัน​เถอะ​ เจ้าหมอ​นี่​เป็น​คนโง่​จริงๆ​ ใช่ไหม​ ช่างเถิด​ๆ จะรับ​พันธมิตร​ที่​เป็น​เช่นนี้​ไม่ได้​ จะเป็น​ตัวถ่วง​ของ​ตน​เอา​ได้​

ป๋า​ยโส่ว​ไม่สบอารมณ์​ทันที​ “อย่า​ได้​พูดจา​ครึ่งๆ กลางๆ​ สิ ไหน​ลอง​ว่า​มาสิ หากว่า​มีเหตุผล​ ข้า​ก็​จะเพิ่ม​ชื่อ​ลง​ไป​บน​สมุด​ แล้ว​ประทับ​นาม​ลง​ไป​”

“ขอบเขต​ปลายทาง​ แน่นอน​ว่า​ก็​คือ​ขอบเขต​ที่​ ‘ผู้ฝึก​ยุทธ​ใน​ใต้​หล้า​ล้วน​มาหยุด​เท้า​อยู่​ที่นี่​’ อย่างไร​ล่ะ​”

ป๋า​ย​เสวียน​เห็น​ว่า​เขา​จริงใจ​จึงพูดจ้อ​ช่วย​ไขข้อข้องใจ​ให้​กับ​ป๋า​ยโส่ว​ “คุณสมบัติ​ของ​เผย​เฉียน​นับว่า​พอใช้ได้​ ทว่า​ขอบเขต​ใน​การเรียน​วร​ยุทธ​กลับ​สูงแค่นี้​ นาง​ก็​ไม่ต้อง​นอน​หมอบ​อยู่​ที่​ขอบเขต​ปลายทาง​นี่​แต่​โดยดี​หรอก​หรือ​ ก็​ไม่เท่ากับ​ว่า​รอ​ให้​ขอบเขต​ของ​พวกเรา​พุ่ง​สวบ​ๆๆ ไล่ตาม​นาง​ไป​ทัน​ได้​หรือ​ไร​? ใช่เหตุผล​ข้อ​นี้​หรือไม่​? ลูกผู้ชาย​แก้แค้น​สิบ​ปี​ก็​ยัง​ไม่สาย​ หากว่า​ใน​เวลา​สั้น​ๆ ไม่อาจ​ทำสำเร็จ​ พวกเรา​ก็​อดทน​กับ​นาง​ไป​อีกหน่อย​ สิบ​ปี​ไม่พอ​ ถ้าอย่างนั้น​ก็​ยี่สิบ​สามสิบ​ปี​ ด้วย​คุณสมบัติ​ใน​การ​ฝึก​หมัด​ของ​ข้า​ ไม่พูดถึง​ขอบเขต​ปลายทาง​ ขอบเขต​ยอดเขา​ก็​น่าจะ​ง่ายดาย​เหมือน​กวักมือ​เรียก​ วางใจ​เถอะ​ ถึงเวลา​นั้น​ประมุข​แห่ง​พันธมิตร​เช่น​ข้า​จะไม่พูดมาก​แม้แต่​คำ​เดียว​ จะต้อง​เป็น​ฝ่าย​นำ​ขบวน​ถามหมัด​กับ​เผย​เฉียน​เป็น​คน​แรก​แน่นอน​ เจ้าป๋า​ยโส่ว​เป็น​คนกันเอง​ ก็​เป็นรอง​เจ้าประมุข​ไป​แล้วกัน​ ถึงเวลา​นั้น​รับผิดชอบ​ล้อมวง​ดักทาง​ ป้องกัน​ไม่ให้​เผย​เฉียน​เห็นท่า​ไม่ดีแล้ว​หนี​ไป​ เป็น​อย่างไร​ ให้​คำตอบ​ข้า​มาเลย​”

ป๋า​ยโส่ว​กุมขมับ​พูดไม่ออก​ เงียบ​ไป​นาน​ถึงเอ่ย​ประโยค​หนึ่ง​ว่า​ “ขอให้​ข้า​คิด​พิจารณา​ดูก่อน​”

ป๋า​ย​เสวียน​ทอด​ถอนหายใจ​ เก็บ​สมุด​ใส่ไว้​ใน​ชาย​แขน​เสื้อ​ มือหนึ่ง​หยิบ​กา​น้ำชา​บน​โต๊ะ​ขึ้น​มา ไพล่หลัง​ด้วยมือ​เดียว​ ใช้เท้า​เตะ​ประตู​ปิด​ เดิน​ไป​กลาง​ระเบียง​ ส่าย​หัว​ไป​ด้วย​ เจ้าเด็ก​นี่​ไม่สมควร​ร่วม​งานใหญ่​ด้วย​เลย​

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!