กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 923

เวลานี้​ใน​ภาพวาด​คือ​ทัศนียภาพ​ยาม​สนธยา​ คน​ทั้งสอง​ขี่​ลา​ เพียง​ไม่นาน​ก็​มาถึงเนินเขา​ขนาดเล็ก​ที่​โผล่​พรวด​โดดเด่น​ขึ้น​มา มาถึงยอดเขา​ ทอดสายตา​มอง​ไป​ไกล​ก็​เห็น​ว่า​ตรง​ถนน​ที่​เล็ก​แคบ​ ข้างทาง​มีสิ่งปลูกสร้าง​เรียบง่าย​ลักษณะ​เหมือน​จุด​พัก​ม้าอยู่​แห่ง​หนึ่ง​ มีขบวน​ทัพ​ที่​ยิ่งใหญ่​เกรียงไกร​ทอด​ยาว​ไป​ตาม​เส้นทาง​ภูเขา​ จำนวน​คน​หลาย​พัน​คน​ ถึงขั้น​ที่ว่า​ใน​กลุ่ม​นั้น​ยังมี​ราชรถ​ของ​จักรพรรดิ​ ดู​จาก​สีหน้า​ตื่นตระหนก​ของ​เหล่า​ขุนนาง​บุ๋น​บู๊​นับ​ร้อย​แล้ว​เหมือน​จะออกจาก​เมืองหลวง​เพื่อ​ไป​หลบภัย​? เฉิน​ผิง​อัน​ปลด​น้ำเต้า​เลี้ยง​กระบี่​ลงมา​ดื่มเหล้า​หนึ่ง​อึก​ ใน​สายตา​คล้าย​มอง​เห็นภาพ​เหล่า​ขุนนาง​ของ​เมืองหลวง​ที่​กำลัง​เร่งรุด​เดินทาง​ ใน​ม้วน​ภาพ​มีเพียง​คน​ผู้เดียว​ที่​คล้าย​จะถูก​ลง​สีสัน​ นั่น​คือ​บุรุษ​วัยกลางคน​คน​หนึ่ง​ ตรง​เอว​ห้อย​กระบอกไม้ไผ่​ทรง​ยาว​ นิ้วชี้​กับ​นิ้วกลาง​ของ​มือขวา​มีรอย​ด้าน​อยู่​ตรง​ท้อง​นิ้ว​เล็กน้อย​ หลังจากที่​ผละ​ออกจาก​เส้นทาง​ที่​ผู้คน​เบียดเสียด​ยัดเยียด​มาได้​เขา​ก็​กัด​กิน​แผ่น​แป้ง​ย่าง​พลาง​เดิน​เลียบ​ลำธาร​เส้น​หนึ่ง​เข้าไป​ใน​ป่า​ลึก​

เฉิน​ผิง​อัน​ค้นพบ​เรื่อง​ที่​น่าสนใจ​เรื่อง​หนึ่ง​ หาก​จะบอ​กว่า​ฟ้าดิน​เล็ก​ก่อนหน้านี้​คือ​ภาพวาด​น้ำหมึก​ ถ้าอย่างนั้น​รอ​กระทั่ง​ตน​ได้​เห็น​บุรุษ​ผู้​นี้​ ตำแหน่ง​ที่​มีบุรุษ​เป็น​จุดศูนย์กลาง​ หรือ​ควรจะ​พูดว่า​จุด​ที่​สายตา​ของ​บุรุษ​มอง​ไป​เห็น​ก็​จะค่อยๆ​ กลาย​มาเป็น​ภาพ​ที่​วาด​เน้นหนัก​ใน​รายละเอียด​ ชัดเจน​ทุก​จุด​ทุก​มุม ต้นไม้​ดอกไม้​ ปลา​ที่​แหวกว่าย​ใน​ลำธาร​ล้วน​มีชีวิต​เหมือน​จริง​ สุดท้าย​กลาย​มาเป็น​ภาพ​ขุนเขา​เขียว​สายน้ำ​ใสที่​เปี่ยม​ไป​ด้วย​พลัง​ชีวิต​แห่ง​หนึ่ง​ ไม่ต่าง​ไป​จาก​ ‘ความจริง​’ ใน​โลก​มนุษย์​เลย​

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​เอ่ย​ “พวกเรา​ติดตาม​ท่าน​เทพ​เทวดา​น้อย​คน​นี้​ไป​กัน​เถอะ​”

ท่ามกลาง​แสงสายัณห์​ บุรุษ​เจอ​กระท่อม​กลาง​ป่า​ตั้งอยู่​ริม​ลำธาร​แห่ง​หนึ่ง​ หลังคา​ต่ำ​เตี้ย​ มีแค่​หญิง​ชรา​หนึ่ง​คน​กับ​หญิง​ที่​ออกเรือน​แล้ว​ใช้ชีวิต​พึ่งพา​กันและกัน​อย่าง​ยากลำบาก​ พวก​นาง​นั่ง​หันหน้าเข้าหากัน​กำลัง​ถัก​กรง​เลี้ยง​นก​

หญิง​ชรา​เชื้อเชิญ​ให้​บุรุษ​กิน​อาหาร​ เพื่อ​หลีกเลี่ยง​ข้อครหา​ ตอนกลางคืน​บุรุษ​จึงนอน​ใต้​ชายคา​ พลิกตัว​กลับไปกลับมา​ มิอาจ​ข่มตา​นอน​ได้​หลับ​จึงหยิบ​ตำรา​หมากล้อม​เล่ม​หนึ่ง​ออก​มาจาก​สาบ​เสื้อ​ตรง​หน้าอก​ ลุกขึ้น​นั่ง​ อาศัย​แสงจันทร์​เปิด​อ่าน​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ก่อน​จะหลับตา​ทำสมาธิ​ สอง​นิ้ว​ทำท่า​คีบ​เม็ด​หมาก​แล้ว​ทยอย​วาง​เม็ด​หมาก​ลง​คล้าย​กำลัง​เล่น​หมากล้อม​อยู่​กับ​ตัวเอง​

เฉิน​ผิง​อัน​อยู่​ใต้​ต้นไม้​ห่าง​จาก​กระท่อม​มาไกล​ เมื่อ​ครู่​ฉวย​จังหวะ​เหลือบตา​มอง​หน้าปก​ของ​ตำรา​หมากล้อม​ ถึงกับ​เป็น​ตำรา​หมากล้อม​มีชื่อเสียง​ที่​มีหลักฐาน​ให้​สืบหา​เล่ม​หนึ่ง​ ใน​ประวัติศาสตร์​ของ​ใต้​หล้า​ไพศาล​ ชื่อเสียง​ของ​มัน​มีไม่น้อย​ เพียงแต่ว่า​มีชื่อเสียง​อยู่​ใน​ล่าง​ภูเขา​ คือ​ตำรา​ที่​กล่าวถึง​สอง​ฝ่าย​ซึ่งเล่น​หมากล้อม​กัน​ไป​ได้​ห้า​ตา​ มีคำ​เรียกขาน​ที่​ไพเราะ​ว่า​ ‘หมากล้อม​ห้า​ตา​ที่​ได้​ดู​ระหว่าง​พักฟื้น​ขณะ​ป่วย​’

เฉิน​ผิง​อัน​นั่ง​อยู่​บน​หลัง​ลา​ เหลือบตา​มอง​ยันต์​ม้าขาว​ควบ​ผ่าน​ช่องแคบ​ที่อยู่​ข้าง​ไหล่​ ความเร็ว​ใน​การ​ไหล​หาย​ไป​ของ​กาลเวลา​ไม่ได้​มีการเปลี่ยนแปลง​

อันที่จริง​ต่อให้​มีผู้ฝึก​ตน​ทะยาน​ลม​ ก้มหน้า​ลง​มอง​ฟ้าดิน​ทั้ง​แห่ง​ก็​ดูเหมือนว่า​จะเห็น​เพียง​ภาพ​เหตุการณ์​ของ​ที่​แห่ง​นี้​เท่านั้น​ คาด​ว่า​ผู้อาวุโส​ท่าน​นั้น​คง​อาศัย​สิ่งนี้​มาเตือน​ตน​ว่า​ เมื่อ​ผ่าน​ด่าน​หนึ่ง​ไป​ก็​จะมีทัศนียภาพ​ของ​ด่าน​ถัดไป​รอ​อยู่​ รอ​กระทั่ง​ผ่าน​ทุก​ด่าน​ไป​ได้​หมด​แล้ว​ ทั้งสองฝ่าย​จึงจะได้​พบกัน​? เพื่อ​อะไร​? คิด​จะถ่วงเวลา​เพื่อ​ขอความช่วยเหลือ​จาก​ทาง​ศาล​บุ๋น​อย่างนั้น​หรือ​? ไม่อย่างนั้น​หาก​จะบอ​กว่า​คิด​จะขอ​เชิญให้​ใคร​บางคน​มาให้​ความช่วยเหลือ​ที่นี่​เพื่อ​ขัดขวาง​ตน​กับ​เสี่ยว​โม่ ก็​ไม่ได้​มีความหมาย​มาก​นัก​

เสี่ยว​โม่ถาม “คุณชาย​ ต้องการ​ให้​ข้า​ออก​กระบี่​สืบค้น​ให้​รู้​ชัด​กัน​ไป​เลย​หรือไม่​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ส่าย​หน้ายิ้ม​เอ่ย​ “ยอม​ทน​ไป​ก่อน​ รอ​ดู​การเปลี่ยนแปลง​ไป​อย่าง​เงียบๆ​”

เสี่ยว​โม่ถาม “สถานะ​ของ​คน​ผู้​นั้น​คือ​ฉีไต้​จ้าว​คน​หนึ่ง​กระมัง​?”

เฉิน​ผิง​อัน​พยักหน้า​ “มองดู​แล้ว​ฝีมือ​ใน​การ​เล่น​หมากล้อม​น่าจะ​ไม่แย่​”

บุรุษ​ที่อยู่​ใต้​ชายคา​ เวลานี้​ไม่เหมือน​กำลัง​ศึกษา​หมากล้อม​ แต่​เหมือน​กำลัง​เล่น​หมากล้อม​กับ​ตัวเอง​ หาก​จะบอ​กว่า​ฝีมือ​การ​เล่น​หมากล้อม​ของ​เขา​สูง แต่​ก็​ดูเหมือนว่า​จะไม่ได้​สูงไป​อย่างไร​

หาก​จะพูดถึง​รูปแบบ​และ​การ​ลงมือ​ก่อน​ของ​การ​เล่น​หมากล้อม​ใน​ใต้​หล้า​ เฉิน​ผิง​อัน​คิด​ว่า​ตัวเอง​ค่อนข้าง​ชำนาญ​ ก็​แค่​ท่องจำ​ให้​ขึ้นใจ​เท่านั้น​ แล้ว​นับประสาอะไร​กับ​ที่สี่​คนใน​ม้วน​ภาพ​ที่​มาจาก​พื้นที่​มงคล​ดอกบัว​ของ​ปี​นั้น​ นอกจาก​เว่ย​คอแข็ง​แล้ว​ คนอื่นๆ​ ที่​เหลือ​อีก​สามคน​อย่าง​จูเหลี่ยน​ หลู​ป๋า​ยเซี่ยง​และ​สุย​โย่ว​เปีย​น​ ต่อให้​เอา​ไป​วาง​ไว้​ใน​ใต้​หล้า​ไพศาล​ก็​ล้วน​ถือว่า​เป็นยอด​ฝีมือ​กัน​ทุกคน​ อีก​ทั้ง​ทาง​ฝั่งของ​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ก็​ยังมี​เจิ้งต้าเฟิง​กับ​ซาน​จวิน​เว่ย​ป้อ​ที่​ต่าง​ก็​ชำนาญ​ใน​ด้าน​นี้​ อีก​ทั้งปี​นั้น​ตอน​ที่อยู่​ใน​คฤหาสน์​หลบ​ร้อน​ก็​มียอด​ฝีมือ​มากมาย​ดุจ​ก้อน​เมฆ หลิน​จวิน​ปี้​และ​พวก​เสวียน​เซิน​ เฉากุ่น​ต่าง​ก็​เป็น​นัก​เล่น​ระดับ​แคว้น​อันดับ​หนึ่ง​กัน​ทั้งนั้น​

ทุกวันนี้​ด้วย​พรสวรรค์​ใน​การ​เล่น​หมากล้อม​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​ เล่น​กับ​คนอื่น​ด้วย​การ​วางหมาก​สามสิบ​ห้าสิบ​เม็ด​ แสร้งทำ​เป็นยอด​ฝีมือ​ เขา​ก็​ยัง​ทำได้​ไม่มีปัญหา​ แต่​หาก​เป็น​หลังจากนั้น​ก็​คง​ต้อง​เผย​พิรุธ​แล้ว​

ดังนั้น​ตอน​ที่อยู่​คฤหาสน์​หลบ​ร้อน​ เวลา​ที่​สอน​ให้​คนอื่น​เล่น​หมากล้อม​ ใต้เท้า​อิ่น​กวาน​มักจะ​ชอบ​บอ​กว่า​ตัวเอง​คือ​คน​เล่น​หมากล้อม​ฝีมือ​ย่ำแย่​แค่​ครึ่งตัว​เท่านั้น​

ใน​ห้อง​ไม่มีแสงตะเกียง​ หญิง​ชรา​กับ​สตรี​ออกเรือน​แล้ว​ที่อยู่​กัน​คนละ​ห้อง​เริ่ม​เล่น​หมากล้อม​ ไม่มีกระดาน​หมาก​และ​เม็ด​หมาก​ ทั้งสองฝ่าย​แค่​ใช้ปาก​บรรยาย​ตำแหน่ง​การ​วาง​เม็ด​หมาก​เท่านั้น​ แต่ละครั้ง​ใช้เวลา​คิด​นาน​มาก​ เป็นเหตุให้​เล่น​กัน​จน​ฟ้าสาง ขอบฟ้า​เริ่ม​กลายเป็น​สีขาว​พุงปลา​ ทั้งสองฝ่าย​ก็​เพิ่ง​วางหมาก​กัน​ไป​ไม่ถึงสี่สิบ​เม็ด​ บุรุษ​หยิบ​เอา​เม็ด​หมาก​และ​กระดาษ​ออก​มาจาก​กระบอกไม้ไผ่​ทรง​ยาวนาน​แล้ว​ เอา​วาง​ไว้​ด้าน​ข้าง​ เงี่ย​หูฟัง​แนวทาง​การประชัน​หมากล้อม​ใน​ห้อง​พลาง​จัดวาง​เม็ด​หมาก​ลง​บน​กระดาษ​ที่​ใช้ต่าง​กระดาน​หมาก​ตาม​ไป​ด้วย​ รอ​กระทั่ง​หญิง​ชรา​บอ​กว่า​ชนะ​เก้า​เม็ด​ สตรี​ออกเรือน​แล้ว​ยอมแพ้​ บุรุษ​ถึงได้​ปลุก​ความกล้า​เคาะ​ประตู​เบา​ๆ ครู่หนึ่ง​ต่อมา​หญิง​ชรา​กับ​สตรี​ออกเรือน​แล้วก็​เดิน​ออก​มาจาก​ห้อง​ บุรุษ​ขอ​ความรู้​อย่าง​นอบน้อม​ หญิง​ชรา​ไป​ก่อ​ฟืน​ทำอาหาร​ แค่​บอก​ให้​ลูกสะใภ้​ที่​หลังจาก​เป็น​ม่าย​ก็​ไม่ได้​แต่งงาน​ใหม่​ถ่ายทอด​เคล็ดลับ​ใน​การ​เล่น​หมากล้อม​ให้​กับ​เขา​ สตรี​ที่​สวม​กระโปรง​ผ้า​ปัก​ปิ่น​ไม้สอน​ไป​ได้​ไม่ถึงครึ่ง​ชั่ว​ยาม​ก็​บอ​กว่า​มาก​พอ​จะทำให้​เขา​ไร้​ศัตรู​ทัดทาน​ใน​โลก​มนุษย์​ได้​แล้ว​

พูด​มาถึงตรงนี้​ สตรี​ออกเรือน​แล้วก็​มอง​มายัง​ใต้​ต้นไม้​นอก​ห้อง​ นาง​ทัด​เส้น​ผม​ไว้​หลัง​ใบ​หู​คล้าย​ตั้งใจ​คล้าย​ไม่ได้​เจตนา​

เฉิน​ผิง​อัน​แสร้ง​ทำเป็น​มองไม่เห็น​ภาพ​นี้​ สตรี​จึงลุก​ขึ้นไป​ทำงาน​ของ​ตัวเอง​ บุรุษ​บอกลา​จากไป​ เดิน​เลียบ​ลำธาร​พลาง​หันหน้า​กลับ​ไป​มอง​ กระท่อม​หลัง​นั้น​กลับ​ไม่อยู่แล้ว​ บุรุษ​ผิดหวัง​อย่างยิ่ง​

พริบตา​นั้น​ก็​คล้าย​ว่า​เฉิน​ผิง​อัน​กับ​เสี่ยว​โม่ได้​กลับ​มาจาก​การ​ทวนกระแส​แม่น้ำ​แห่ง​กาลเวลา​ กลับ​ขึ้น​มาขี่​ลา​อยู่​บน​เนินเขา​อีกครั้ง​ แล้ว​ก็ได้​เห็น​ว่า​บุรุษ​ที่​ตรง​เอว​รัด​กระบอกไม้ไผ่​เดิน​เลียบ​ลำธาร​มา

เสี่ยว​โม่ยิ้ม​ถาม “คุณชาย​ต้อง​เล่น​หมากล้อม​ให้​ชนะ​พวก​นาง​จึงจะถือว่า​ผ่าน​ด่าน​หรือ​?”

เฉิน​ผิง​อัน​พยักหน้า​รับ​ “น่าจะ​ใช่แล้ว​ อีก​เดี๋ยว​เจ้าจับตามอง​ฉีไต้​จ้าว​ผู้​นั้น​ต่อ​ ข้า​จะไป​ที่​จุด​พัก​ม้า ดู​ว่า​จะสามารถ​เก็บตก​ของดี​อะไร​ได้​หรือไม่​ ตอนที่​ฟ้าสางจะกลับมา​พบ​กับ​เจ้าอีกครั้ง​”

หลังจากนั้น​เสี่ยว​โม่ก็​ขี่​ลา​ตาม​บุรุษ​ผู้​นั้น​ไป​ต่อ​ ส่วน​เฉิน​ผิง​อัน​ไป​ยัง​เส้น​ทางตรง​ตีน​ภูเขา​ ตามหา​ขุนนาง​เฒ่าที่​คล้าย​จะเป็น​คนใน​ภาพวาด​คน​หนึ่ง​ อีก​ฝ่าย​สวม​ชุด​สีม่วง​พก​ถุงลาย​ปลา​สีทอง​ เฉิน​ผิง​อัน​จึงหา​ข้ออ้าง​ง่ายๆ​ มาชวน​ผู้เฒ่า​คุย​ สุดท้าย​บอ​กว่า​ยินดี​จะจ่าย​เงิน​ราคา​สูงเพื่อ​ขอ​ซื้อ​ตำรา​ ผู้เฒ่า​ปฏิเสธ​ไป​อย่าง​ละมุนละม่อม​ บอ​กว่า​ตำรา​ใน​หีบ​พวก​นั้น​เขา​เก็บรักษา​เป็น​อย่าง​ดี​มานาน​มาก​แล้ว​ ทองพันชั่ง​ก็​ไม่ขาย​ เฉิน​ผิง​อัน​ไม่พูดพร่ำทำเพลง​ก็​ตบ​หีบ​ตำรา​ทั้งหลาย​ที่อยู่​บน​รถม้า​ให้​ร่วง​ลงพื้น​ แล้ว​ยื่นมือ​ออก​ไป​โบก​หนึ่ง​ที​ ลม​เย็น​พัด​โชย​มาเป็น​ระลอก​ ตำรา​ทุก​เล่ม​ถูก​เปิด​ไป​ทีละ​หน้า​ นอกจาก​หน้าปก​แล้ว​ ล้วน​เป็น​ตำรา​เปล่า​จริง​ดัง​คาด​

ส่วนบุคคล​และ​รถม้า​ทั้งหลาย​ก็​เหมือนว่า​จะตก​อยู่​ใน​สภาวะ​หยุดนิ่ง​ตาม​ไป​ด้วย​ เฉิน​ผิง​อัน​ยืน​อยู่​ที่​เดิม​ ส่าย​หน้ายิ้ม​เอ่ย​ “ขุนเขา​สายน้ำ​แร้นแค้น​ ตำรา​ที่​ผู้อาวุโส​สะสมไว้​ยัง​น้อย​ไป​สักหน่อย​ เป็นเหตุให้​แค่​ทำให้​พอเป็นพิธี​ก็​ยัง​ทำ​ไม่ได้​”

หลังจากนั้น​เฉิน​ผิง​อัน​ก็​ไม่เหลือ​ความสนใจ​ที่จะ​สืบเสาะ​อะไร​ต่อ​อีก​ ฟ้าดิน​เล็ก​จำลอง​แห่ง​นี้​บอบบาง​เกินไป​ มีเพียง​เส้นเอ็น​กับ​กระดูก​แต่​ไม่มีเลือดเนื้อ​ ใน​เมื่อ​ไม่มีเลือดเนื้อ​แล้​วจะ​เอา​จิงเสิน​ชี่ที่อยู่​ใน​ระดับ​ขั้น​ลึก​กว่า​มาจาก​ไหน​?

ขี่​ลา​กลับมา​เดิน​บน​เส้นทาง​ต่อ​อีกครั้ง​ ไปหา​เสี่ยว​โม่และ​กระท่อม​หลัง​นั้น​

เพียงแต่​ไม่ลืม​โบก​ชาย​แขน​เสื้อ​อีกที​ ทำให้​ตำรา​ทั้งหลาย​กลับ​เข้าไป​ใน​หีบ​ ภาพ​เหตุการณ์​หมุน​ย้อนกลับ​ หีบ​ทุก​ใบ​กลับ​ขึ้นไป​อยู่​บน​รถม้า​ใหม่​อีกครั้ง​

จากนั้น​ก็​รอ​จน​ ‘ฟ้าแห่ง​นี้​’ สว่าง​ เฉิน​ผิง​อัน​ไม่รอ​ให้​หญิง​ออกเรือน​แล้ว​คน​นั้น​เงยหน้า​มอง​ตัวเอง​อีกครั้ง​ก็​พา​เสี่ยว​โม่ขี่ม้า​ตรง​ไป​ข้างหน้า​ เพียงแค่​รอ​ให้​สตรี​ออกเรือน​แล้ว​เอ่ย​ประโยค​ว่า​ไร้​ศัตรู​ เขา​ก็​เปิดปาก​ยิ้ม​กล่าว​ “ไม่แน่​เสมอไป​”

ไป​ถึงชานบ้าน​ที่​ปู​ด้วย​ไม้ใต้​ชายคา​ กุมมือ​คารวะ​ฉีไต้​จ้าว​พลาง​ยิ้ม​เอ่ย​ “ขอยืม​เม็ด​หมาก​และ​กระดาษ​จาก​อาจารย์​สักหน่อย​”

หลังจากนั้น​เฉิน​ผิง​อัน​ก็​วาง​สถานการณ์​หมาก​เมฆหลาก​สีที่​ศิษย์​พี่​ชุย​ฉาน​เคย​เล่น​กับ​เจิ้งจวี​จง แต่​วันนี้​แน่นอน​ว่า​เฉิน​ผิง​อัน​แค่​ลักไก่​แสร้ง​ทำเป็น​เจิ้งจวี​จงเล่น​หมากล้อม​ เชื้อเชิญ​ให้​อีก​ฝ่าย​มาประชัน​กัน​

สตรี​ออกเรือน​แล้ว​อึ้ง​งัน​ไร้​คำพูด​ ส่วน​หญิง​ชรา​กลับ​พึมพำ​กับ​ตัวเอง​ว่า​ “ศาสตร์​แห่ง​หมากล้อม​ของ​โลก​ยุค​หลัง​สูงส่งถึงเพียงนี้​แล้ว​หรือ​?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!