อีกทั้งภรรยาที่ฝูหนันหัวแต่งเข้าบ้านอย่างถูกต้องตามธรรมเนียมก็เป็นทายาทสายตรงของสกุลเจียงอวิ๋นหลินแห่งแจกันสมบัติทวีป ดังนั้นไม่ว่าอย่างไรรัชทายาทอวี๋หลินโหยวก็คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะสุภาพมีมารยาทกับตนมากขนาดนี้
นอกจากนี้มีบรรพจารย์ตระกูลฝูท่านหนึ่งที่รับผิดชอบดูแลอาวุธกึ่งเซียนซึ่งใช้ในการโจมตีที่มีความสัมพันธ์คล้ายคลึงกับผู้ถ่ายทอดมรรคาบนภูเขาของฝูหนันหัว เขาปิดด่านมาเกือบยี่สิบปีแล้ว
หากออกจากด่าน ตระกูลฝูก็อาจจะมีขอบเขตหยกดิบเพิ่มมาคนหนึ่ง หากเจ้านครฝูฉีก็ฝ่าทะลุขอบเขตสำเร็จเหมือนกัน ตระกูลฝูก็จะได้ครอบครองผู้ฝึกตนห้าขอบเขตบนถึงสองคนในเวลาเดียวกัน
จู๋ซวินกระตุกชายแขนเสื้อของสามี รัชทายาทพยักหน้ายิ้มรับ ใช้สายตาบอกเป็นนัยแก่นางว่าไม่ต้องกริ่งเกรงมากนัก นางถึงได้ถามเสียงเบาว่า “ฝูเซียนซือ ได้ยินมาว่าสตรีตระกูลฝูของพวกท่านเป็นผู้กล้าหลายคน อีกทั้งฐานะในตระกูลยังสูงมากด้วย ถึงขั้นที่ว่ามีสตรีไม่น้อยเคยรับตำแหน่งเป็นเจ้านครของนครมังกรเฒ่ามาก่อน?”
ฝูหนันหัวยิ้มเอ่ย “เป็นเช่นนี้จริง ตระกูลฝูของพวกเราไม่เคยให้ความสำคัญกับบุรุษดูแคลนสตรี คนนอกถึงขั้นยังรู้สึกว่าพวกเราให้ความสำคัญกับสตรีดูแคลนบุรุษหรือไม่”
จู๋ซวินมีความประทับใจที่ดีเยี่ยมต่อนายน้อยผู้สุภาพอ่อนโยนผู้นี้
หนึ่งเพราะถูกชะตา อีกหนึ่งมีสาเหตุมาจากคนเปรียบเทียบกับคน ของเปรียบเทียบกับของ
พูดถึงแค่แคว้นจินหู่ที่อยู่ในอันดับท้ายสุดของราชวงศ์ใหญ่สิบแห่ง ขั้นตอนการขึ้นครองราชย์ของโอสรสวรรค์ในทุกวันนี้มิอาจไม่พูดว่าคดเคี้ยวมีแต่อุปสรรค ดูเหมือนว่าจะเกี่ยวพันไปถึงการแข่งขันด้วยกำลังระหว่างผู้ฝึกตนทวีปอื่นกับผู้ฝึกตนในพื้นที่ สุดท้ายสำนักแห่งหนึ่งในธวัลทวีปเป็นฝ่ายชนะไป งูเจ้าถิ่นมิอาจกดข่มมังกรข้ามแม่น้ำได้ เป็นเหตุให้บุคคลอันดับหนึ่งและอันดับสองของที่ว่าการเก้ามนตรีเล็กใหญ่ทั้งหลาย ขุนนางสำคัญเกือบครึ่งในราชสำนักของเมืองหลวงแคว้นจินหู่ต่างก็มีสำนักต่างถิ่นแห่งนี้เป็นผู้เลือก ฮ่องเต้รับหน้าที่แค่ออกพระราชโองการเท่านั้น
เล่าลือกันว่าเซียนซือของสำนักแห่งนี้ เมื่ออยู่กับขุนนางใหญ่บุ๋นบู๊ของแคว้นจินหู่ พูดไม่เข้าหูกันคำเดียวก็ชี้หน้าด่าเหมือนสั่งสอนบุตรชายอย่างไรอย่างนั้น
ภายหลังรองเจ้าขุนเขาคนหนึ่งของสำนักศึกษาเทียนมู่ เวินอวี้มาเยือนแคว้นจินหู่ด้วยตัวเอง จวนเซียนต่างถิ่นที่เท่ากับว่าเป็นไท่ซ่างหวงของแคว้นจินหู่ถึงได้ยอมสำรวมขึ้นหน่อย
ผ่านไปไม่นานนักก็มีลูกศิษย์ลัทธิขงจื๊อผู้เฒ่าคนหนึ่งที่ได้ครองยศวิญญูชนของสำนักศึกษาเทียนมู่ และนักปราชญ์หนุ่มคนหนึ่งของสำนักศึกษาต้าฝูที่มีชื่อว่าหยางผู่ พากันมารับหน้าที่เป็นเจ้ากรมพิธีการและเส้าชิงศาลหงหลูของแคว้นจินหู่
เพียงไม่นานก็มีพื้นที่มงคลถ้ำเมฆาสกุลเจียงของสำนักกุยหยกที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น อยู่ดีๆ ถึงได้ให้แคว้นจินหู่ยืมเงินก้อนโตโดยไม่คิดดอกเบี้ย อีกทั้งยังชี้ตัวว่าต้องการให้เส้าชิงศาลหงหลูที่ชื่อว่าหยางผู่รับผิดชอบดูแลรายการใช้จ่ายทั้งหมดของเงินก้อนนี้ ขุนนางศาลหงหลูคนหนึ่งจะดูแลการเงินและภาษีได้อย่างไร จะไม่สลับตำแหน่งกันมั่วหรอกหรือ ราชสำนักแคว้นจินหู่จึงได้แต่จัดตั้งตำแหน่งขุนนางเฉพาะกาลอย่างตำแหน่งผู้ดูแลการเบิกจ่ายขึ้นมาชั่วคราว ถือว่าเป็นตำแหน่งที่สร้างขึ้นเพื่อหยางผู่โดยเฉพาะ
อวี๋หลินโหยวเอ่ยเสียงเบา “ขอละลาบละล้วงถามสักคำ ทุกวันนี้ฝูเซียนซือมีขอบเขตอะไรแล้ว?”
หากเป็นขอบเขตก่อกำเนิด เชื้อเชิญให้อีกฝ่ายมาเป็นราชครูของราชวงศ์สกุลอวี๋จะเป็นไรไป?
ฝูหนันหัวเอ่ยเยาะหยันตัวเอง “พูดไปแล้วก็น่าละอายใจ เป็นแค่โอสถทองเท่านั้น”
พรรคชิงจ้วนมีเซียนดินโอสถทองแค่สองคน เกาซูเหวินได้ยินก็ทำสีหน้าไร้อารมณ์ เฉยชาเป็นปกติ ไต้หยวนตีหน้าเคร่งแอบขำอยู่กับตัวเอง
เซียนดินโอสถทองที่อายุน้อยขนาดนี้บอกว่าตัวเองละอายใจ ถ้าอย่างนั้นผู้ฝึกตนขอบเขตโอสถทองที่อยู่ที่นี่ในเวลานี้ อันที่จริงก็มีสามคน ใครที่อายุมากที่สุด? ขอบเขตหยุดชะงักมานานที่สุด? ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่ข้าไต้หยวนก็แล้วกัน
สตรีแซ่เหมียวผู้นั้นขมวดคิ้วน้อยๆ ผลคือหันไปเห็นสายตาเย็นชาของสาวใช้พกดาบคนหนึ่งข้างกายฝูหนันหัวเข้าพอดี
ผู้ฝึกตนหญิงของพรรคชิงจ้วนที่ดูแลเงินผู้นี้รู้สึกเพียงว่าเสียวสันหลังวาบในชั่วพริบตา ก่อนจะรีบเก็บสีหน้า ไม่กล้าอาละวาดอีก
ความสัมพันธ์ระหว่างสองทวีปที่อยู่เหนือใต้มีการเปลี่ยนแปลงแบบพลิกฟ้าพลิกดิน
แจกันสมบัติทวีปในอดีต คนที่มาจากทางใต้ล้วนเป็นนายท่านใหญ่
ใบถงทวีปในทุกวันนี้ คนที่มาจากทางเหนือล้วนเป็นคนอำมหิต
ฝูหนันหัวไม่มีอารมณ์มาจงใจหยอกเย้าโอสถทองเฒ่าสองคนอย่างเกาซูเหวินและไต้หยวนจริงๆ
เพราะถึงอย่างไรเมื่อเทียบกับผู้ฝึกตนรุ่นเดียวกันบางส่วนในอดีต ไยตนจะไม่ใช่ ‘โอสถทองเฒ่า’ เล่า?
หวนนึกถึงกลุ่มคนที่ออกท่องถ้ำสวรรค์หลีจูในอดีต ไม่ต้องพูดถึงเจียงอวิ้นที่ถือว่าเป็นญาติกันครึ่งตัว พูดถึงแค่ไช่จินเจี่ยนแห่งภูเขาเมฆาเรือง เวลานั้นไม่ว่าจะคุณสมบัติด้านการฝึกตน ผลเก็บเกี่ยวทางโชควาสนา ฝูหนันหัวต่างก็มองนางจากมุมของคนที่สูงส่งกว่า ผลคือทุกวันนี้แม้แต่นางก็ยังเป็นก่อกำเนิดแล้ว ไม่เพียงเข้าไปอยู่ในยอดเขาลวี่กุ้ยเลื่อนเป็นขอบเขตก่อกำเนิดนานแล้ว ยิ่งกลายเป็นบรรพจารย์หญิงที่มีที่นั่งอยู่ช่วงหน้าๆ ของศาลบรรพจารย์ภูเขาเมฆาเรืองอีกด้วย
แต่ตนกลับยังมองไม่เห็นคอขวดขอบเขตโอสถทองเลยด้วยซ้ำ
แล้วก็โชคดีที่ภูเขาเมฆาเรืองยังไม่เลื่อนเป็นสำนัก ไม่อย่างนั้นไปแสดงความยินดีที่นั่น ได้เจอกับไช่จินเจี่ยน ฝูหนันหัวก็ไม่รู้ว่าจะพูดคุยอะไรกับนางได้แล้ว
ส่วนใครบางคนก็ยิ่งไม่ต้องไปพูดถึง
ฝูหนันหัวแค่คิดก็หงุดหงิดใจ ตั้งแต่แรกที่เป็นความไม่ยินยอม จนมาเป็นการถอดใจอย่างสิ้นเชิง ถึงรู้สึกหนาวเหน็บในหัวใจ สุดท้ายก็ไม่ไปคิดถึงมันเสียเลย
เคยเป็นเด็กบ้านนอกขาเปื้อนโคลนที่ต่ำต้อยราวกับมดปลวกเองนะ
ฝูหนันหัวถอนหายใจในใจหนึ่งที เรื่องราวในอดีตมิกล้าหวนนึกถึง
ในเมื่อทนย้อนมองกลับไปไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นมองไปข้างหน้าก็แล้วกัน
ได้ยินว่าหวงจงโหวเจ้าแห่งยอดเขาเกิงอวิ๋นได้สร้างคุณความชอบใหญ่หลวง เท่ากับว่าช่วยให้ภูเขาเมฆาเรืองข้ามผ่านด่านยากมาได้ เป็นเหตุให้เจ้าขุนเขาหญิงผู้นั้นเรียกประชุมศาลบรรพจารย์อย่างรวดเร็ว ผ่านการตัดสินใจร่วมกันไป หวงจงโหวจึงกำลังจะได้รับข้อยกเว้นให้ใช้ขอบเขตโอสถทองมารับหน้าที่เป็นเจ้าขุนเขาคนใหม่ของภูเขาเมฆาเรือง
อีกทั้งเขายังเป็นเจ้าขุนเขาที่เป็นขอบเขตโอสถทองคนแรกในประวัติศาสตร์ของภูเขาเมฆาเรืองด้วย
ตระกูลฝูได้รับจดหมายเชื้อเชิญฉบับหนึ่ง ครั้งนี้ฝูหนันหัวกลับมาที่แจกันสมบัติทวีป อีกเดี๋ยวก็จะต้องไปเข้าร่วมงานพิธีรับตำแหน่งเจ้าสำนักคนใหม่ที่ภูเขาเมฆาเรืองแล้ว
ฝูหนันหัวสนิทกับไช่จินเจี่ยนมาก แต่กับหวงจงโหวผีขี้เหล้าผู้นั้นกลับไม่เคยมีความสัมพันธ์อะไรกัน แต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่ใช่คนบนเส้นทางเดียวกัน
ในเมื่อไปเยือนสถานที่ท่องเที่ยวทั้งหลายมาแล้ว เกาซูเหวินจึงพาคนจากไปอย่างรู้กาลเทศะ ทิ้งไว้เพียงคนนอกสองกลุ่มให้พูดคุยกัน ในฐานะเจ้าของต้นไม้ผูกกระบี่ ไต้หยวนย่อมต้องอยู่กับแขกต่อ
อวี๋หลินโหยวพูดคุยกับฝูหนันหัวตามมารยาทอยู่พักหนึ่งก็พาภรรยาขอตัวลากลับไป
ก่อนที่ฝูหนันหัวจะลงจากภูเขา รัชทายาทสกุลอวี๋จะต้องมาหาฝูหนันหัวเป็นการส่วนตัวอีกครั้งแน่นอน
ฝูหนันหัวยิ้มเอ่ยกับไต้หยวนว่า “ข้าเพิ่งมาถึงครั้งแรก ไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับพรรคชิงจ้วนมากนัก ไม่รู้ว่าทุกวันนี้ไต้เซียนซือรับหน้าที่อะไรในพรรคแห่งนี้ เป็นบรรพจารย์ผู้คุมกฎหรือเป็นผู้ดูแลคลังสมบัติ?”
ไต้หยวนตอบอย่างนอบน้อม “ตอบฝูเซียนซือ ข้าน้อยมีความรู้ความสามารถตื้นเขิน มิอาจรับตำแหน่งใหญ่ได้ แต่เจ้าประมุขเกาให้ความรักความเอ็นดู นอกจากจะดูแลต้นไม้ผูกกระบี่แล้วยังมีกิจการที่บ่อไข่มุกมรกตอีกแห่งหนึ่งที่ข้าก็เป็นคนดูแลด้วยเหมือนกัน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!