กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 926

เสี่ยว​โม่ไม่โกรธเคือง​อารมณ์​ความรู้สึก​ที่​ออก​มาจาก​ใจจริง​ของ​ชิงถงแม้แต่น้อย​

หาก​จะบอก​ว่าการ​ถามหมัด​ที่อยู่​ระหว่าง​ฟ้าดิน​ว่างเปล่า​ก่อนหน้านี้​ สอง​ฝ่าย​ต่าง​ก็​กำลัง​ฝึกปรือ​ฝีมือ​ กำลัง​อุ่นเครื่อง​ ประลอง​วิชา​ขอ​ความรู้​ต่อกัน​เท่านั้น​

ถ้าอย่างนั้น​ใน​นคร​เวลานี้​ สอง​ฝ่าย​ที่​คุมเชิง​กัน​ก็ได้​เริ่ม​เอา​ความสามารถ​ที่​แท้จริง​ออกมา​ใช้แล้ว​

ตอนที่​ผู้เฒ่า​ร่าง​กำยำ​ปล่อย​หมัด​ออก​ไป​ ระหว่าง​นั้น​ได้​เผย​ท่อน​แขน​ส่วนหนึ่ง​ให้​เห็น​โดยบังเอิญ​ ด้านบน​มีอักขระ​ยันต์​สีทอง​แน่นขนัด​ลอย​ขึ้น​มา ถึงกับ​เป็น​ตัวอักษร​ที่​แกะสลัก​ไว้​บน​กระดูก​ขาว​ใต้​กล้ามเนื้อ​

เนื้อหา​ของ​ตัวอักษร​มีทั้ง​คาถา​ตระกูล​เซียน​บท​แล้ว​บท​เล่า​ แล้วก็​มีคัมภีร์​ของ​ลัทธิ​พุทธ​ ยิ่ง​มีภาพ​ยันต์​บรรพกาล​ที่​หายสาบสูญ​ไป​นาน​อีก​หลายชนิด​

แขน​ทั้ง​แขน​ของ​ชิงถงเหมือน​ถูก​หล่อหลอม​ให้​เป็น​เทือกเขา​กระดูก​ขาว​ ส่วน​บน​ผนัง​หิน​ผา​ก็ได้​แกะสลัก​ตัวอักษร​ขนาดใหญ่​ไว้​จำนวน​นับไม่ถ้วน​ ประหนึ่ง​ยันต์​ของ​เซียน​เห​ริน​ที่​ใช้สร้าง​ความมั่นคง​แข็งแกร่ง​ให้​กับ​ตัว​ภูเขา​ สร้าง​ความหนักแน่น​ให้​กับ​ยอดเขา​ที่​ทอด​ยาว​เป็น​สาย​ สุดท้าย​จึงเป็นเหตุให้​แขน​ข้าง​หนึ่ง​เหมือน​เส้น​ชีพจร​มังกร​เส้น​หนึ่ง​ นอกจากนี้​ผิวหนัง​ เลือดเนื้อ​และ​เส้นเอ็น​เส้น​ชีพจร​กลับเป็น​เหมือน​ส่วนประกอบ​เสริม​ที่จะ​มีหรือไม่​มีก็ได้​มากกว่า​

ชุด​คลุม​อาคม​สีแดงสด​ถูก​ต่อย​เข้าไป​ฝังใน​กำแพง​สูงใหญ่​แห่ง​หนึ่ง​ ใช้ข้อศอก​ดัน​หิน​จน​ปริ​แตก​แล้ว​งัด​ตัวเอง​ออก​มาจาก​ใน​กำแพง​

ทว่า​ชิงถงที่​เมื่อครู่นี้​อัด​กระแทก​หน้าผาก​และ​หน้าอก​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​ติดๆ​ กัน​กลับ​ไม่ได้​ฉวยโอกาส​ตี​เหล็ก​ตอนที่​ยัง​ร้อน​ เนื่องจาก​ชิงถงที่​ใช้สอง​หมัด​แลก​หนึ่ง​หมัด​จึงชิงความได้เปรียบ​ไป​อย่าง​สิ้นเชิง​สัมผัส​ได้​ถึงความ​ไม่ปกติ​ของ​หมัด​นี้​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​

หมัด​นี้​ไม่ถือว่า​หนัก​มาก​หนัก​ เพียงแต่ว่า​พายุ​หมัด​กลับ​ตาม​พัวพัน​ไม่เลิก​ ช่อง​โพรง​ลมปราณ​ที่​สำคัญ​หลาย​แห่ง​ใน​ร่างกาย​ของ​ชิงถงเกิด​ความเคลื่อนไหว​ที่​ไม่เล็ก​ ส่วน​บน​แขน​ข้าง​ที่​มีอักขระ​แกะสลัก​เอาไว้​ ตัวอักษร​สีทอง​หลาย​ร้อย​ตัว​และ​ภาพ​ยันต์​หลาย​ภาพ​ก็​หม่นหมอง​ไร้​สีแทบจะ​ใน​เวลา​เพียง​เสี้ยว​วินาที​ ประหนึ่ง​เถ้าถ่าน​ที่​ร่วง​เผลาะ​ๆ ลงมา​เป็น​สาย​

หลังจากนั้น​ชิงถงก็​ยิ่ง​ระวัง​มากกว่า​เดิม​

สีแดงสด​สาย​หนึ่ง​ล่องลอย​อยู่​บน​ถนน​ แสงรุ้ง​ขาว​เส้น​หนึ่ง​ก็​ยิ่ง​ว่องไว​รวดเร็ว​มากกว่า​ กลายเป็น​เส้น​แนวตรง​เส้น​หนึ่ง​ที่​พุ่ง​ดิ่ง​เข้าหา​ชุด​คลุม​อาคม​สีแดงสด​ซึ่งคล้าย​ปลา​แหวกว่าย​อยู่​บน​ถนน​เส้น​นั้น​ สิ่งปลูกสร้าง​ตลอด​เส้นทาง​ระเบิด​แตก​เป็นแนว​ยาว​ เมื่อใด​ที่​ชิงถงทำสำเร็จ​ ส่วนใหญ่​เฉิน​ผิง​อัน​จะต้อง​ถูก​กระแทก​ชน​จน​ลอยลิ่ว​ไป​หลาย​ร้อย​ลี้​ คล้าย​เจาะทะลุ​ประตู​ใหญ่​บาน​แล้ว​บาน​เล่า​ให้​กับ​ใน​เมือง​ ย้อน​กลับมา​มอง​ชิงถง ต่อให้​โดน​หมัด​เข้าไป​หนึ่ง​หมัด​ อย่าง​มาก​ก็​แค่​เรือน​กาย​ส่าย​ไหว​ไม่กี่​ที​ เพียง​ไม่นาน​ก็​สามารถ​เอาคืน​เฉิน​ผิง​อัน​ได้​

จุด​เดียว​ที่​ผิดปกติ​ก็​คือ​ ชิงถงค้นพบ​ว่า​กระบวนท่า​หมัด​ที่​เฉิน​ผิง​อัน​ใช้ซึ่งรวมถึง​ท่า​ที่​ต่อย​ให้​ยันต์​สีทอง​สลาย​ไป​ก่อนหน้านี้​ มีแค่​ห้า​กระบวนท่า​ที่​ถูก​ใช้ซ้ำไปซ้ำมา​อยู่​ตลอด​ ราวกับว่า​เขา​ทำ​การฝึกซ้อม​ซึ่งถือ​เป็นการ​กอด​ขา​พระ​เมื่อ​จวนตัว​ จาก​แรกเริ่ม​สุด​ที่​ค่อนข้าง​ติดขัด​ จนกระทั่ง​ค่อยๆ​ ชำนาญ​ ปณิธาน​หมัด​ทอด​ยาว​ ไม่อาจ​พูด​ได้​ว่า​พัฒนา​รุดหน้า​อย่าง​ก้าว​กระโดด​ แต่​ด้วย​สายตา​ของ​ชิงถงกลับ​สามารถ​พูด​ได้​ว่า​การเปลี่ยนแปลง​จาก​หมัด​แรก​จนถึง​หมัด​สุดท้าย​ของ​อีก​ฝ่าย​ พูดถึง​แค่​การพัฒนา​ใน​ด้าน​ทักษะ​ฝีมือ​ก็​สามารถ​มองเห็น​ได้​ด้วย​ตาเปล่า​

ชิงถงเตะ​เจ้าหมอ​นั่น​ให้​กระเด็น​ออก​ไป​ร้อย​จั้งกว่า​ แผ่น​หลัง​ของ​ผู้ฝึก​ยุทธ​หนุ่ม​กระแทก​ทะลุ​จวน​ของ​ตระกูล​ใหญ่​แห่ง​หนึ่ง​ไป​โดยตรง​ กระทั่ง​ไป​ถึงใต้​ต้นไม้​ใหญ่​ต้น​หนึ่ง​ที่อยู่​บน​ถนน​นอก​กำแพง​บ้าน​ ชุด​คลุม​อาคม​สีแดงสด​ถึงใช้ข้อมือ​ยันต์​ลำต้น​ของ​ต้น​ไว้​เบา​ๆ จึงหยุด​ร่าง​เอาไว้​ได้​

เดิน​เลียบ​เส้นทาง​ใหม่เอี่ยม​เส้น​นั้น​ไป​ ชิงถงเดิน​ออก​มาจาก​ช่อง​โพรง​บน​กำแพง​ช้าๆ ยิ้ม​ถามว่า​ “คิดค้น​ขึ้น​เอง​?”

หาก​ไม่เป็น​เพราะ​จิตวิญญาณ​ของ​กระบวนท่า​หมัด​พวก​นี้​ยัง​ไม่สมบูรณ์แบบ​มาก​พอ​ ก็​ถือว่า​เป็น​หมัด​ดี​อันดับ​หนึ่ง​ใน​ใต้​หล้า​ได้​แล้ว​จริงๆ​

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​เอ่ย​ “คนอื่น​คิดค้น​”

คือ​วิชา​หมัด​ห้า​ชนิด​ของ​เฉาสือ​

การ​ถามหมัด​ใน​ศาล​บุ๋น​ก่อนหน้านี้​ เฉาสือ​บอก​อย่าง​ตรงไปตรงมา​ว่า​ตัวเอง​ได้​คิดค้น​กระบวนท่า​หมัด​สามสิบ​กว่า​ชนิด​ ตอนนั้น​เขา​เอา​มาใช้ไม่ถึงครึ่ง​

วันนี้​เฉิน​ผิง​อัน​จึงเลียนแบบ​หมัด​ห้า​ชนิด​ของ​อีก​ฝ่าย​อย่าง​ ดอก​ราตรี​ น้ำ​ไหล​ มังกร​ลง​น้ำ​ ภูเขา​ห​ลิง​จิ้ว​ เสิน​เซียว​

เฉาสือ​ไม่ถือสา​แม้แต่น้อย​ที่​คนอื่น​เรียน​วิชา​หมัด​ไป​จาก​เขา​

เพราะ​คน​ส่วนใหญ่​เรียน​ไม่เป็น​

ผู้ฝึก​ยุทธ​กลุ่ม​น้อย​ที่​พอ​จะถือได้ว่า​ไล่ตาม​มาทัน​เห็น​แผ่น​หลัง​ของ​เฉาสือ​ก็​ไม่ได้ดี​ไป​กว่า​กัน​สัก​เท่าไร​

ผู้​ที่​เรียนรู้​ข้า​รอด​ ผู้​ที่​เลียนแบบ​ข้า​ตาย​

คำพูด​ประเภท​นี้​บางที​หาก​เปลี่ยน​มาเป็น​คนอื่น​ที่​พูด​ก็​คือ​ความ​สามหาว​ ย่อม​ตก​เป็นที่​ต้องสงสัย​ว่า​คิด​สั่งสอน​ผู้อื่น​โดย​ยกตนข่มท่าน​อย่าง​เลี่ยง​ไม่ได้​

แต่​เฉาสือ​เป็น​คนพูด​ บางที​อาจ​เป็น​แค่​หลักการ​เหตุผล​ที่​เอ่ย​ด้วยใจ​ที่​สงบ​เป็นกลาง​อย่าง​ถึงที่สุด​

ต่อให้​เป็น​เฉิน​ผิง​อัน​ก็​ไม่ได้คิด​จะเรียน​หมัด​พวก​นี้​จริงๆ​ ประโยชน์​เพียง​หนึ่งเดียว​ก็​คือ​เอา​มา ‘ดัดแปลง​วิธี​’ ใน​การ​ขัดเกลา​เรือน​กาย​

กระบวนท่า​หมัด​ แนวทาง​และ​สัจธรรม​แห่ง​หมัด​ที่​แตก​ต่างกัน​สามารถ​ขัดเกลา​ภูมิศาสตร์​ภูเขา​แม่น้ำ​ที่​ไม่เหมือนกัน​ของ​เรือน​กาย​ร่าง​มนุษย์​ได้​ นี่​ต่างหาก​จึงจะเป็น​ความหมาย​ใน​การ​ประลอง​ฝีมือ​ขอ​ความรู้​ของ​ผู้ฝึก​ยุทธ​ คือ​การยืม​หิน​ของ​ภูเขา​ลูก​อื่น​มากลึง​เป็น​หยก​ของ​ตัวเอง​

ชิงถงหัวเราะ​เสียงดัง​ “หรือว่า​ขโมย​เรียน​มาเหมือนกัน​?”

เฉิน​ผิง​อัน​แก้ไข​ให้​ถูกต้อง​ “เรียน​หมัด​”

ชิงถงถามอย่าง​กังขา​ “ต่างกัน​ตรงไหน​?”

ระหว่าง​ที่​พูด​ สอง​เท้า​ของ​ชิงถงก็​ถัก​ทอ​สายฟ้า​แลบ​ปลาบ​ขึ้น​มา ประหนึ่ง​เท้า​เหยียบ​อยู่​บน​บ่อ​สายฟ้า​สอง​บ่อ​ ยังคง​เป็น​วิชา​หมัด​ แต่​ผลลัพธ์​ที่​ได้​กลับ​เหมือน​วิชา​หด​ย่อ​พื้นที่​ของ​ตระกูล​เซียน​

เพียง​ชั่วพริบตา​ชิงถงก็​พลัน​ยื่นมือ​ไป​กด​หน้าผาก​ของ​ชุด​คลุม​อาคม​สีแดงสด​ แล้ว​วิ่ง​ตะบึง​ไป​ข้างหน้า​ตลอดทาง​ ขณะเดียวกัน​ก็​พลัน​ปล่อย​หมัด​ต่อย​เข้าที่​ลำคอ​ของ​ฝ่ายตรงข้าม​

ขโมย​เรียน​วิชา​หมัด​ก็ดี​ เรียน​หมัด​ก็ช่าง​ ใน​ฐานะ​ผู้ฝึก​ยุทธ​ขอบเขต​ปลายทาง​ ใคร​บ้าง​ที่​ทำ​ไม่เป็น​?

หมัด​นี้​ชิงถงได้​เลียนแบบ​กระบวนท่า​เทพ​ตี​กลอง​สายฟ้า​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​มาพอดี​ ห้า​นิ้ว​ของ​มือขวา​กาง​เป็น​ตะขอ​ กด​ที่​หน้าผาก​แน่น​ แม้จะบอ​กว่า​มือขวา​เหมือน​กระแทก​โดน​แท่น​โม่ที่​หมุน​บด​อย่าง​รวดเร็ว​ ทว่า​ต่อให้​จะมีเลือด​ซึมออก​มาจาก​นิ้ว​ทั้ง​ห้า​ ง่ามมือ​ปริ​แตก​ มือซ้าย​ของ​ชิงถงก็​ยัง​ออก​หมัด​ไม่หยุด​ อยาก​จะรู้​นักว่า​ปณิธาน​หมัด​ที่​ต่อเนื่อง​รวด​เดียวกัน​นี้​ของ​ตน​จะสามารถ​ประคับประคอง​ไป​ได้​ถึงยี่สิบ​กว่า​หมัด​หรือไม่​ แล้ว​อีก​ฝ่าย​จะต้าน​รับ​ไว้​ได้​สัก​กี่​หมัด​ สรุป​แล้ว​ปณิธาน​หมัด​ของ​ตน​จะขาดสะบั้น​ก่อน​ หรือ​ร่างกาย​ของ​อีก​ฝ่าย​จะเกิด​ร่องรอย​ว่า​ปริ​แตก​ก่อน​กัน​แน่​

เพียง​ชั่วพริบตา​ ชิงถงก็​ปล่อย​หมัด​ไม่ทราบ​ชื่อ​ติดต่อกัน​ถึงสิบ​เก้า​หมัด​ เรือน​กาย​ของ​ทั้งสองฝ่าย​เหมือน​ ‘เดิน​ออก​’ ไป​จาก​นคร​หลาย​ลี้​

ระหว่าง​นั้น​เฉิน​ผิง​อัน​พลัน​เพิ่ม​ความเร็ว​ใน​การ​ ‘ถอยร่น​’ อยู่​สามครั้ง​ ชิงถงก็​ทำตาม​ จึงรักษาระดับ​ความเร็ว​ได้​เท่าเทียม​กับ​เฉิน​ผิง​อัน​พอดี​ เหมือน​แมว​ที่​เล่น​หยอก​หนู​อย่างไร​อย่างนั้น​

แต่​ชิงถงก็​จำต้อง​ยอมรับ​ว่า​ สิบ​เก้า​หมัด​นี้​ของ​ตน​ พละกำลัง​ไม่ถือว่า​น้อย​ แต่​น่าเสียดาย​ที่​ความหมาย​ไม่ค่อย​จะพอ​

การ​ประลอง​ฝีมือ​ระหว่าง​ปรมาจารย์​ผู้ฝึก​วร​ยุทธ​ การเรียน​วิชา​หมัด​หาก​จะพูด​ว่าง่าย​ก็​ง่าย​ เพราะ​ง่าย​มาก​ที่จะ​เลียนแบบ​ได้​เหมือน​เจ็ด​แปด​ส่วน​ แต่​หาก​จะพูด​ว่ายาก​ก็​ยาก​ การ​ที่​เรียน​หมัด​เป็นเรื่อง​ยาก​ ก็​ยาก​ตรง​ที่​การ​เข้าใจ​แก่นแท้​ของ​มัน​ ยาก​ที่จะ​มอง​ทะลุ​ไป​ถึงเส้น​ทางการ​ไหลเวียน​ของ​ปราณ​แท้จริง​ที่​บริสุทธิ์​ของ​อีก​ฝ่าย​ และ​ทาง​สาย​นี้​ก็​เหมือน​คาถา​ตระกูล​เซียน​บท​ยาว​ที่​ตัวอักษร​ซับซ้อน​ เนื้อหา​ยาก​จะทำความเข้าใจ​ สำหรับ​ผู้ฝึก​ยุทธ​ขอบเขต​ยอดเขา​ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​ขอบเขต​ปลายทาง​แล้ว​ หากว่า​ได้​แค่​เรียนรู้​กระบวนท่า​หมัด​เหมือน​แค่​รูปลักษณ์ภายนอก​จะไป​มีความหมาย​อะไร​ ไม่ได้​แก่นแท้​ของ​มัน​มาก​็เป็นได้​แค่​ซี่โครง​ไก่​เท่านั้น​

ทว่า​เวลานี้​ชิงถงกลับ​ไม่รู้สึก​ทดท้อ​ อย่าง​มาก​สุด​วันหน้า​ตน​ก็​แค่​ฝึก​หมัด​นี้​ซ้ำไปซ้ำมา​หลาย​ๆ แสน​ครั้ง​ หลาย​แสน​ครั้ง​ไม่พอ​ก็​หลาย​ล้าน​ครั้ง​

ถึงอย่างไร​กระบวนท่า​หมัด​ใน​ใต้​หล้า​ก็​เป็น​สิ่งตายตัว​ มีเพียง​คน​ที่​ปล่อย​หมัด​ออก​ไป​เท่านั้น​ที่​มีชีวิต​

ชิงถงยืน​นิ่ง​ ผลัดเปลี่ยน​ลมปราณ​แท้จริง​บริสุทธิ์​เป็นครั้งแรก​

ทั้งสองฝ่าย​ออก​มาจาก​นคร​แล้ว​ เฉิน​ผิง​อัน​เหมือน​ว่าว​สาย​ป่าน​ขาด​ที่​ลอย​ไป​กระแทก​ลง​ตรง​ทิศ​ไกล​

ชิงถงยิ้ม​กล่าว​ “อยู่​ห่าง​จาก​เวลา​หนึ่ง​ก้านธูป​อีก​ประมาณ​หนึ่ง​เค่อ​ เจ้าไหว​หรือไม่​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ลุกขึ้น​ยืน​ สูด​ลม​หายใจเข้า​ลึก​หนึ่ง​ครั้ง​แล้ว​พ่น​ลมหายใจ​ที่​แห้งแล้ง​ออกมา​ จู่ๆ ก็​เหมือน​เปลี่ยนไป​เป็น​คนละ​คน​ จาก​ก่อนหน้านี้​ที่​เป็น​คน​วัยชรา​ดุจ​บ่อ​โบราณ​ไร้​คลื่น​น้ำ​ กลาย​มาเป็น​คนหนุ่ม​ที่​เปี่ยม​ไป​ด้วย​พลัง​ชีวิต​อัน​ฮึกเหิม​ ยื่นมือ​มาก​ดด้าม​ดาบ​แคบ​เล่ม​หนึ่ง​ที่​ห้อย​ไว้​ตรง​เอว​ ยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ “หาก​พูดถึง​แค่​วิชา​หมัด​สูงต่ำ​ ยาก​มาก​ที่​เจ้าจะคู่ควร​กับ​คำ​ว่า​เทพ​มาเยือน​ครึ่งตัว​ หรือ​ควรจะ​พูดว่า​แท้จริง​แล้ว​สิ่งที่​เจ้าถนัด​ที่สุด​ก็​คือ​การ​ใช้อาวุธ​?”

ชิงถงยก​สอง​แขน​กอดอก​ ยิ้ม​กล่าว​ “ต่อให้​ข้า​มีแต่​มือเปล่า​เท้าเปล่า​ คิด​จะอัด​เจ้าก็​ยัง​มาก​พอ​เหลือแหล่​อยู่ดี​ไม่ใช่หรือ​?”

แล้ว​นับประสาอะไร​กับ​ที่​ชิงถงยัง​ไม่ได้​ออก​หมัด​อย่าง​เต็มแรง​เลย​ด้วยซ้ำ​

เกรง​ว่า​หาก​ไม่ทัน​ระวัง​ ต่อสู้​กัน​อย่าง​เต็มคราบ​แล้​วจะ​ยั้ง​มือ​ไม่อยู่​ ทำให้​อีก​ฝ่าย​ขอบเขต​ถดถอย​ หรือไม่​ก็​ฆ่าอีก​ฝ่าย​ตาย​ไป​ได้​เลย​

ชิงถงเหลือบมอง​ดาบ​ที่​ทับซ้อน​กัน​ตรง​เอว​ของ​อีก​ฝ่าย​ ผาย​มือ​ข้าง​หนึ่ง​ออกมา​ “หาก​เจ้าจะใช้ดาบ​ก็​ตามสบาย​ได้​เลย​”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “ดูเหมือน​เจ้าจะลืม​พูด​ไป​ว่า​ หลังจาก​เวลา​สอง​เค่อ​สิ้นสุดลง​แล้ว​ ต้อง​ใช้หลักเกณฑ์​อะไร​มาตัดสิน​ว่า​พวกเรา​สอง​คน​ใคร​แพ้​ใคร​ชนะ​?”

ชิงถงกล่าว​ “ถ้าอย่างนั้น​ก็​ต่อสู้​กัน​จนกว่า​อีก​ฝ่าย​จะยอมแพ้​ถึงจะรู้​ผล​?”

เฉิน​ผิง​อัน​พยักหน้า​ “ย่อม​ได้​”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!