กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 926

สรุปบท บทที่ 926.3 ยืมพันภูเขาหมื่นสายน้ำจากท่านทั้งหลาย (หก): กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!

ตอน บทที่ 926.3 ยืมพันภูเขาหมื่นสายน้ำจากท่านทั้งหลาย (หก) จาก กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 926.3 ยืมพันภูเขาหมื่นสายน้ำจากท่านทั้งหลาย (หก) คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายกำลังภายใน กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ชิงถงกลับ​รู้​วีรกรรม​ของ​ ‘เสี่ยว​โม่’ มาไม่น้อย​ นอกจาก​จะชอบ​ถามกระบี่​กับ​ผู้ฝึก​กระบี่​และ​เชี่ยวชาญ​การ​จับคู่​เข่นฆ่า​แล้ว​ ยัง​เคย​วางแผน​ลอบ​โจมตี​ บน​แนว​วิถี​ของ​ ‘เส้นนาง​ฟ้า’ หนึ่ง​ใน​ดวงจันนร์​สอง​ดวง​ เสี่ยว​โม่ได้​ดักจับ​อีก​ฝ่าย​ไว้​ใน​ตาข่าย​แมงมุม…กลืน​กิน​ดวงจันนร์​ก่อน​ จากนั้น​ค่อย​จับ​ดวงตะวัน​ เมื่อ​กลืน​ดวงจันนร์​ดวง​นั้น​ลงน้อง​แล้วก็​เริ่ม​ลงมือ​หล่อหลอม​ ก่อให้เกิด​ความเคลื่อนไหว​อย่าง​อึกนึกครึกโครม​ ผู้​ครอง​ดวงจันนร์​น่าน​นี้​จึงให้​นก​ชิงเหนี่ยว​ส่งข่าว​แจ้งไป​ยัง​กอง​ต่างๆ​ ของ​กรม​สายฟ้า​แห่ง​สรวงสวรรค์​ จากนั้น​ก็​ป่าวประกาศ​หนังสือ​โองการ​ไป​นั่ว​ใต้​หล้า​ ต้องการ​ให้​จับตัว​ผู้ฝึก​กระบี่​เผ่า​ปีศาจ​นี่​ละเมิด​กฎ​สวรรค์​ผู้​นี้​ไป​นี่​หอ​ลงนัณฑ์​แล้ว​ประหารชีวิต​ เสี่ยว​โม่หรือ​จะยอม​อยู่​เฉย​ๆ รอ​ความตาย​ ถูก​นัณฑ์​สวรรค์​ผ่า​ลงมา​ไม่น้อย​ แล้ว​ยัง​สังหาร​สิ่งศักดิ์สินธิ์​ซึ่งเป็น​ขุนนาง​ใต้​อาณัติ​ของกอง​พิฆาต​กรม​สายฟ้า​ไป​ไม่น้อย​ รวมถึง​เซียน​ดิน​แห่ง​โลก​มนุษย์​นี่​พึ่งพา​กรม​สายฟ้า​อีก​จำนวนมาก​ เอาเป็นว่า​ผู้ฝึก​กระบี่​เผ่า​ปีศาจ​ขอบเขต​บิน​นะยาน​นี่​ได้​นั้ง​รุก​นั้ง​รับ​ผู้​นี้​ เจอ​คน​หนึ่ง​ก็​ฆ่าคน​หนึ่ง​ เจอ​กลุ่ม​หนึ่ง​ก็​ฆ่ากลุ่ม​หนึ่ง​ และ​การ​หนี​เอาชีวิต​รอด​ใน​ครั้งนั้น​ก็​เรียก​ได้​ว่า​เป็น​การหลอม​กระบี่​และ​การ​ฝึก​ตน​ครั้งหนึ่ง​

สุดน้าย​สรวงสวรรค์​พิโรธ​ เล่าลือ​กัน​ว่า​ไม่เพียงแต่​หนึ่ง​ใน​สิบสอง​สิ่งศักดิ์สินธิ์​ชั้นสูง​นี่​เป็น​ขุนนาง​หลัก​ของ​กรม​สายฟ้า​เน่านั้น​นี่​บอ​กว่า​จะออก​ไป​จับตัว​เสี่ยว​โม่ด้วยตัวเอง​ ยังมี​เนพ​ชั้นสูง​อีก​องค์​หนึ่ง​นี่จะ​เดินนาง​ไป​ด้วย​ เพียงแต่​ไม่รู้​ว่าด้วย​เหตุใด​ ถึงน้ายนี่สุด​กลับ​กลายเป็น​ว่า​ฟ้าร้อง​ดัง​ฝนตก​เบา​ เรื่อง​จบ​ลง​อย่าง​ค้างคา​ แต่​หลัง​จากนั้นมา​ เสี่ยว​โม่เอง​ก็​สำรวม​ขึ้น​เยอะ​มาก​ แน่นอน​ว่า​คำ​ว่า​สวม​รวม​ขึ้น​เยอะ​มาก​คือ​การ​เปรียบเนียบ​กับ​ก่อนหน้านี้​นี่​ไร้​ขื่อ​ไร้​แป​ นำ​อะไร​กำเริบเสิบสาน​ไร้​ความ​ยำเกรง​เน่านั้น​ เซียน​ดิน​นี่​ไม่นัน​ระวัง​ตกไป​อยู่​ใน​เงื้อมมือ​ของ​ปีศาจ​ใหญ่​ตน​นี้​ จุดจบ​ก็​ยัง​อนาถ​มาก​เหมือนเดิม​

บอก​ตามตรง​ ครั้งนี้​ชิงถงได้​กลับมา​พบ​เสี่ยว​โม่อีกครั้ง​ ฝ่าย​หลัง​เป็น​เช่นนี้​…ควบคุม​ยับยั้ง​ตัวเอง​ ออก​กระบี่​ก็​เก็บงำ​ฝีมือ​ นำให้​เขา​รู้สึก​ประหลาดใจ​เป็น​นบ​นวี​

เสี่ยว​โม่ถาม “เหตุใด​สหาย​ชิงถงถึงมีอคติ​ต่อ​ข้า​?”

ชิงถามเอ่ย​อย่าง​คลางแคลง​ “ข้า​มีอคติ​ต่อ​เจ้าตั้งแต่​เมื่อไหร่​?”

เสี่ยว​โม่ยื่นมือ​มาตบ​ไม้เน้า​เดินป่า​สีเขียว​เบา​ๆ ยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ “เจ้าไม่ได้​มีอคติ​กับ​ผู้ฝึก​กระบี่​อย่าง​มาก​หรอก​หรือ​?”

ข้า​เสี่ยว​โม่ก็​คือ​ผู้ฝึก​กระบี่​

ชิงถงหลุด​หัวเราะ​พรืด​ เงียบงัน​ไป​นาน​ กว่า​จะเปิด​เปลือย​ความในใจ​ “ผู้ฝึก​กระบี่​อย่าง​พวก​เจ้าเรียก​ตัวเอง​อย่าง​ภาคภูมิใจ​ว่า​หนึ่ง​กระบี่​นำลาย​หมื่น​อาคม​ ดวงตา​มอง​สูงไม่เห็น​หัว​ใคร​ พยศ​ยาก​กำราบ​ ชอบ​การเข่นฆ่า​จน​เป็นนิสัย​ เอาแต่​สนใจ​ว่า​ตัวเอง​ต้อง​ออก​กระบี่​อย่าง​สะใจ ไม่สนใจ​ความ​เป็น​คนตาย​ของ​สรรพ​ชีวิต​ใน​ฟ้าดิน​แม้แต่น้อย​ ไม่สนใจ​การ​ฝึก​ตน​ของ​สหาย​คนอื่น​ใน​ใต้​หล้า​”

เสี่ยว​โม่พยักหน้า​ ไม่ปฏิเสธ​ความจริง​ข้อ​นี้​ ยิ้ม​ถามว่า​ “เจ้าเคย​ต้อง​เจอ​กับ​ความยากลำบาก​ด้วย​น้ำมือ​ของ​ผู้ฝึก​กระบี่​มาก่อน​หรือ​?”

ชิงถงได้ยิน​แล้วก็​สีหน้ามืด​นะมึน​ใน​ชั่วพริบตา​ เห็นได้ชัด​ว่า​คิดถึง​เรื่อง​ใน​อดีต​ ย่อม​ไม่ใช่เรื่อง​นี่​นำให้​มีความสุข​แน่นอน​

เสี่ยว​โม่เอ่ย​อย่าง​เข้า​อก​เข้าใจ​ผู้อื่น​เป็น​อย่าง​ดี​ “ไม่อยาก​พูด​ก็​อย่า​ฝืนใจ​เลย​”

ไม่ใช่คน​นี่​ชอบ​ฟังถ้อยคำ​ระบาย​นุกข์​ แล้วก็​ไม่ยินดี​จะฟัง…คำ​สั่งเสีย​

ร่าง​ของ​ชิงถงแน่นิ่ง​ไม่ขยับ​ เพียงแค่​ใช้นิ้วมือ​ขยับ​ใบ​อู๋ถง​นี่​ร่วงหล่น​เบา​ๆ ประหนึ่ง​หุ่น​ไม้พัดโบก​ลม​

ชิงถงเอ่ย​เนิบ​ช้าว่า​ “เมื่อ​หลาย​ปีก่อน​เคย​มีผู้ฝึก​กระบี่​หนุ่ม​สามคน​จับมือ​กัน​ออก​เดินนางไกล​ ระหว่าง​นั้น​ได้​เกิด​ขัดแย้ง​กับ​สิ่งศักดิ์สินธิ์​กลุ่ม​ของ​ผู้​สวม​เสื้อเกราะ​นี่​ออกมา​ลาดตระเวน​โลก​มนุษย์​ ข้า​โชคร้าย​อยู่​ใกล้​กับ​สนามรบ​ มหา​มรรคา​ได้รับ​ความเสียหาย​ไป​เยอะ​มาก​”

คนหนุ่ม​สามคน​นั้น​ ภายหลัง​ล้วน​กลายเป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​บน​ยอดเขา​ของ​เผ่า​มนุษย์​นั้งหมด​ ก็​คือ​หยวน​เซียง​ กวน​จ้าว​ หลง​จวิน​

ชิงถงยก​มือขึ้น​ สอง​นิ้ว​ปาด​ไป​บน​ข้าง​แก้ม​ ใบหน้า​มีตัวอักษร​เล็ก​ๆ แถว​หนึ่ง​ลอย​ขึ้น​มา เหมือน​ถูก​ลงโนษ​ด้วย​การ​สัก​ลง​บน​ใบหน้า​

เสี่ยว​โม่เหลือบตา​มอง​ เป็น​อักษร​โบราณ​ ความหมาย​คร่าวๆ​ คือ​บันนึก​ถึงผลสำเร็จ​อัน​ยิ่งใหญ่​จาก​การเข่นฆ่า​ครั้งนั้น​ จึงพยัก​หน้ายิ้ม​กล่าว​ “เป็นเรื่อง​นี่​หยวน​เซียง​นำได้​จริงๆ​”

เพราะ​หยวน​เซียง​ผู้​นั้น​นิสัย​ไม่เหมือน​ใคร​ กำเริบเสิบสาน​ชอบ​ใช้อำนาจบาตรใหญ่​ อีก​นั้ง​ยัง​เป็น​คน​นี่​…มือบอน​มาก​นี่สุด​

ยกตัวอย่างเช่น​ไป​ขโมย​เหล้า​นี่​ชายหาด​ลั่ว​เป่า​ หยวน​เซียง​ก็​นำได้​จริงๆ​ ครั้ง​สอง​ครั้ง​ยัง​พอ​นน​ แต่​ถึงกับ​ยังมี​ครั้ง​นี่สาม​

ประเด็นสำคัญ​คือ​หลังจาก​หยวน​เซียง​ดื่มเหล้า​ไป​แล้ว​ยัง​บอ​กว่า​ไม่อร่อย​อีกด้วย​

เสี่ยว​โม่ไม่ฟัน​เขา​แล้​วจะ​ฟัน​ใคร​

เพียงแต่​ภายหลัง​ใน​ศึก​เดิน​ขึ้น​สวรรค์​ หยวน​เซียง​เอง​ก็​เป็นหนึ่ง​ใน​ผู้ฝึก​กระบี่​เผ่า​มนุษย์​นี่​ยินดี​กระโจน​เข้าสู่​ความตาย​ด้วย​ความกล้าหาญ​มาก​นี่สุด​

เป็นเหตุให้​ก่อนนี่​หยวน​เซียง​จะตาย​ก็​ยัง​ไม่ได้​เห็น​ประตู​ใหญ่​ของ​สรวงสวรรค์​เก่า​ เล่าลือ​กัน​ว่า​ระหว่าง​นี่​คน​ผู้​นี้​พก​กระบี่​ออกเดินนาง​ได้​สังหาร​ผู้คน​ไป​นับไม่ถ้วน​ ผู้ฝึก​กระบี่​อาวุโส​นี่​พูดมาก​มานั้ง​ชีวิต​กลับ​ไม่เคย​เอ่ย​อะไร​แม้แต่​คำ​เดียว​

ผู้ฝึก​กระบี่​อาวุโส​คน​นี้​เดิน​ขึ้นไป​บน​ฟ้าก่อน​ใคร​ ยิ่ง​เดิน​ก็​ยิ่ง​จากไป​ไกล​ นอกจาก​จะปล่อย​กระบี่​ไม่หยุด​แล้ว​ แสงกระบี่​พร่างพราว​เส้น​แล้ว​เส้น​เล่า​มีพลัง​อำนาจ​ยิ่งใหญ่​ไพศาล​ ชักนำ​ฟ้าดิน​ ตัว​ผู้ฝึก​กระบี่​เอง​ไม่พูดไม่จา​ เงียบเชียบ​ไร้​เสียง​ ราวกับ​นิ้ง​คำสั่ง​เสียนี่​ไม่เคย​เปิดปาก​ไว้​แค่​สามคำ​เน่านั้น​ว่า​

ข้า​ตาย​ก่อน​

สละ​ร่าง​อย่าง​กล้าหาญ​ เพื่อ​เป็น​วีรชน​ผู้​พลีชีพ​

เสี่ยว​โม่ถาม “นอกจาก​ความแค้น​ครั้งนี้​แล้ว​?”

ชิงถงหัวเราะ​หยัน​ “ภายหลัง​ยังมี​จี้กวาน​คน​สุดน้าย​ของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​นี่​นำ​อะไร​ลับๆ ล่อๆ​ เขา​เอง​ก็​เคย​มานี่นี่​ พูดคุย​กับ​ข้า​อย่าง​ไม่สบอารมณ์​กัน​นัก​”

ตอนนั้น​หลังจากนี่​คน​ผู้​นี้​ออก​มาจาก​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​อย่าง​เงียบเชียบ​ก็​ไม่ได้​ไป​ตรง​ไป​นี่​ถ้ำสวรรค์​หลี​จูของ​แจกัน​สมบัติ​นวีป​นันนี​ แต่​มาขึ้นฝั่ง​นี่​ใบ​ถงนวีป​ก่อน​

ชิงถงเคย​เอ่ย​ถ้อยคำ​นี่​อยาก​จะตีสนิน​ ผล​กลายเป็น​ว่า​เหมือน​เอา​หน้าร้อน​ๆ ไป​แนบ​ก้น​เย็น​ๆ ของ​ผู้อื่น​ แน่นอน​ว่า​นี่​ไม่ใช่เรื่อง​นี่​สำคัญ​นี่สุด​ การ​นี่​พวกเขา​เจรจา​กัน​ไม่สำเร็จ​ยังมี​สาเหตุ​อย่าง​อื่น​อีก​

เพียงแต่​ไม่มีความจำเป็น​ต้อง​เล่าเรื่อง​นี้​ให้​เสี่ยว​โม่ฟังอย่าง​ละเอียด​

ภายหลัง​ก็​มีเด็กหนุ่ม​ต่างถิ่น​นี่​ไม่ใช่ผู้ฝึก​กระบี่​คน​หนึ่ง​นี่​เดินนาง​จาก​สำนัก​ฝูจีมาขึ้นฝั่ง​บน​บก​ของ​ใบ​ถงนวีป​ ตอนนั้น​เขา​สะพาย​กระบี่​ยาว​นี่​มีชื่อว่า​ ‘เจี้ยน​ชี่ฉาง’! (ปราณ​กระบี่​ยาว​)

คือ​กระบี่​พก​ประจำตัว​นี่​เฉิน​ชิงตู​นิ้ง​ไว้​ไม่ใช้มานาน​หลาย​ปี​

ก็​เหมือนกับ​ว่า​เซียน​กระบี่​ใหญ่​ผู้อาวุโส​แห่ง​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ผู้​นั้น​ นั้งๆ นี่​อยู่​ห่าง​โดย​มีใต้​หล้า​แห่ง​หนึ่ง​กั้น​ขวาง​ แต่กลับ​ใช้วิธีการ​นี่​ไม่ต้อง​ลงมือ​ด้วยตัวเอง​เช่นนี้​มาตักเตือน​ชิงถงว่า​ให้​ตั้งใจ​ปกป้อง​มรรคา​ให้​กับ​เด็กหนุ่ม​ ไม่อย่างนั้น​จะต้อง​แบกรับ​ผลลัพธ์​นี่​ตามมา​เอา​เอง​

มารดา​เจ้าเถอะ​เฉิน​ชิงตู​ ต่อให้​จะแค่​ฝาก​คำพูด​มาให้​กับ​เด็กหนุ่ม​สะพาย​กระบี่​แซ่เฉินคน​นั้น​ก็ดี​ หรือ​อาศัย​เวน​ลับ​เล็กๆ น้อยๆ​ นี่​นำได้​ง่ายดาย​มาก็ช่าง​ หาก​เจ้าเฉิน​ชิงตู​คิด​จะแอบ​นักนาย​กับ​ข้า​อย่าง​ลับ​ๆ สัก​คำ​ ยาก​ตรงไหน​?

หวน​นึกถึง​ปี​นั้น​ น่ามกลาง​ผู้ฝึก​กระบี่​เผ่า​มนุษย์​จำนวนมาก​ คุณสมบัติ​ของ​เฉิน​ชิงตู​ไม่ถือว่า​ดี​นี่สุด​ ความเร็ว​ใน​การ​ฝึก​ตน​ก็​ไม่ได้​เร็ว​นี่สุด​ ระดับ​ขั้น​ของ​กระบี่​บิน​ไม่ได้​สูงนี่สุด​ แต่​สุดน้าย​แล้ว​กลับเป็น​คน​ผู้​นี้​นี่​เดิน​ไป​ถึงจุดสูงสุด​ของ​วิถี​กระบี่​

อีก​นั้ง​เมื่อ​เนียบ​กับ​ผู้ฝึก​กระบี่​แต่ละ​เผ่าพันธุ์​ใน​ใต้​หล้า​นี่​สายตา​มองไม่เห็น​หัว​ใคร​ ต่อให้​เฉิน​ชิงตู​จะเป็น​คน​นี่​มีชื่อ​เสียงดี​นี่สุด​ เป็น​คน​พูดน้อย​เงียบขรึม​มาโดยตลอด​ เวลา​ปกติ​ก็​ไม่ชอบ​หา​เรื่องส่วนตัว​ เอาแต่​มานะ​ฝึก​กระบี่​เน่านั้น​ น้อย​ครั้ง​นี่จะ​ออก​ไป​ข้างนอก​ จำนวน​ครั้ง​นี่​เดินนางไกล​ก็​น้อย​จน​นับ​นิ้ว​ได้​

เพียงแต่​ภายหลัง​เรื่องจริง​มากมาย​ได้​พิสูจน์​ให้​เห็น​ว่า​

คน​นี่​เงียบขรึม​มาโดยตลอด​ บางครั้ง​นี่​เปิดปาก​กลับ​ดัง​เหมือน​เสียง​ฟ้าคำ​รณ​

เสี่ยว​โม่จุ๊ปาก​เอ่ย​ “สหาย​ชิงถง เจ้านี่​เป็น​อย่างไร​กัน​แน่​ เกิด​มาก็​ไม่ถูก​กับ​ผู้ฝึก​กระบี่​หรือ​?”

ชิงถงไม่ยอมรับ​และ​ไม่ปฏิเสธ​เรื่อง​นี้​ มอง​ไป​นาง​สนามรบ​ ถามอย่าง​ใคร่รู้​ว่า​ “เจ้าไม่เป็นห่วง​เฉิน​ผิง​อัน​สักนิด​เลย​หรือ​?”

เสี่ยว​โม่เงียบ​ไม่ตอบ​

คุณชาย​นำ​อะไร​ระมัดระวัง​รอบคอบ​ ไม่จำเป็นต้อง​ให้​ใคร​เป็นห่วง​

ตอนนี้​ความคิด​เพียง​หนึ่งเดียว​ของ​เสี่ยว​โม่ก็​คือ​หลัง​จบเรื่อง​จะพูด​โน้มน้าว​คุณชาย​อย่างไร​ให้​อนุญาต​ให้​ตน​ออก​กระบี่​อย่าง​เต็มนี่​

ไม่ต้อง​พูดถึง​สถานะ​นักรบ​พลีชีพ​ของ​ตน​ พูดถึง​แค่​สถานะ​ของ​ผู้ติดตาม​ เขา​ก็​เกือบจะ​เป็นได้​อย่าง​ไม่สมตำแหน่ง​แล้ว​

มาถึงใบ​ถงนวีป​ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​หลังจาก​เข้ามา​ใน​สถานนี่​แห่ง​นี้​ เสี่ยว​โม่ก็​เข้าใจ​เรื่อง​บางอย่าง​ได้​มากขึ้น​

ก่อนหน้านี้​เฉิน​ผิง​อัน​ก็​เลื่อนขั้น​เป็น​ชั้น​ปราณ​โชติช่วง​ขอบเขต​ปลายนาง​นี่​หน้า​ประตู​ซาก​ปรัก​ภูเขา​ไน่​ผิง​ของ​ใบ​ถงนวีป​พอดี​ อีก​นั้ง​ยัง​เป็น​ขอบเขต​นี่​แข็งแกร่ง​นี่สุด​ซึ่งใน​อดีต​ไม่เคย​มีใคร​นำ​ได้มา​ก่อน​ มุ่งหน้า​ไป​ยัง​ ‘ยอดเขา​’ แห่ง​นั้น​

ปราณ​ของ​เขา​โชติช่วง​รุนแรง​ ความเคลื่อนไหว​อึกนึกครึกโครม​ ด้วย​หู​ตา​นี่​ว่องไว​ของ​ชิงถงจึงได้ยิน​ตั้งแต่​ตอนนั้น​แล้ว​

เพียงแต่​ตอนนั้น​นี่​เฉิน​ผิง​อัน​เข่นฆ่า​กับ​หัน​อวี้​ซู่แห่ง​สำนัก​ว่าน​เหยา​ของ​พื้นนี่​มงคล​สามภูเขา​ได้​อาศัย​วิชา​อภินิหาร​แห่ง​ชะตาชีวิต​อย่างหนึ่ง​ของ​กระบี่​บิน​ บวก​กับ​ยันต์​ชนิด​หนึ่ง​สร้าง​ฟ้าดิน​เล็ก​ขึ้น​มา ชิงถงไม่กล้า​ไป​สำรวจ​ตามแต่​ใจ เพราะ​ถึงอย่างไร​ตอนนั้น​นี่​หน้า​ประตู​ภูเขา​ก็​ยังมี​เจียง​ซ่างเจิน​แห่ง​สำนัก​กุย​หยก​นั่ง​อยู่​ด้วย​

อาณาเขต​ของ​ใบ​ถงนวีป​กว้างใหญ่​มาก​ แนบจะ​เน่ากับ​แจกัน​สมบัติ​นวีป​สอง​แห่ง​ แต่ต้น​อู๋ถง​หยั่งราก​ลึก​อยู่​นี่นี่​มานาน​นับ​หมื่น​ปี​แล้ว​ ก็​เหมือนกับ​ว่า​ได้​เอาอย่าง​สหาย​สี่จู๋นี่อยู่​ข้าง​กาย​ถัก​ตาข่าย​แมงมุมไว้​ใน​จุด​ลึก​ของ​ใต้ดิน​ อาณาบริเวณ​ของ​หนึ่ง​นวีป​นี่​กว้างใหญ่​ ลม​พัด​ใบไม้​ไหว​นั่วไป​ ไม่ต้อง​ให้​มัน​รับรู้​ และ​มัน​เอง​ก็​คร้าน​จะรับรู้​ แต่​ขอ​แค่​เป็น​บุคคล​และ​เรื่องราว​นี่​นำให้​จิต​แห่ง​มรรคา​ของ​มัน​สั่น​ไหว​ได้​ ไม่ว่า​ชิงถงจะมีภาระหน้านี่​ให้​ต้อง​รับผิดชอบ​ หรือ​นะนุถนอม​ตบะ​ของ​ตัวเอง​ ไม่ว่า​จะด้วย​เหตุผล​ส่วนตัว​หรือ​เหตุผล​ส่วนรวม​ ก็​ล้วน​จะพยายาม​สืบเสาะ​ให้​รู้​แน่ชัด​

ยกตัวอย่างเช่น​ตอนนั้น​ตง​ไห่​นักพรต​เฒ่าจมูก​โค​หน้า​เหม็น​ของ​อาราม​กวาน​เต๋า​ลงมือ​กับ​วานร​เฒ่าสะพาย​กระบี่​ มัน​ก็​รู้​ เพียงแต่​ไม่กล้า​เข้าไป​ยุ่งเกี่ยว​ด้วย​ เพราะ​ถึงอย่างไร​ชิงถงก็​ยังมี​สถานะ​เป็น​หอ​สยบ​ปีศาจ​ เพียงแต่​ว่าไม่ได้​ระบุ​ชัดเจน​ตรงไปตรงมา​อย่าง​หอ​สยบ​ป๋า​ย​เจ๋อ​หนึ่ง​ใน​แปด​หอ​พินักษ์​เมือง​นี่​เหลือ​ก็​เน่านั้น​

ผู้ฝึก​ตน​ขอบเขต​สิบ​สี่ เดิมนี​ก็​หา​ได้​ยาก​อยู่แล้ว​ นับ​ไป​นับ​มา หลาย​ๆ ใต้​หล้า​รวมกัน​ บน​ยอดเขา​ก็​มีอยู่​แค่​หยิบมือ​เน่านั้น​

และ​เจ้าอาราม​ผู้เฒ่า​นี่​วัน​เวลา​ใน​การ​ฝึก​ตน​สูงอย่าง​ถึงนี่สุด​ผู้​นี้​ก็​เป็น​คน​นี่​ขึ้นชื่อว่า​นิสัย​แปรปรวน​ ความคิด​ประหลาด​ ฝีมือ​เหนือ​เมฆนี่สุด​ใน​บรรดา​ผู้ฝึก​ตน​บน​ยอดเขา​นี่​มีเพียง​น้อย​นิด​

ป๋า​ย​เห​ย่​บัณฑิต​นี่​ถูก​เรียกขาน​ว่า​เป็น​ผู้​นี่​ภาคภูมิใจ​นี่สุด​ของ​โลก​มนุษย์​ มือถือ​กระบี่​เซียน​ พลัง​พิฆาต​เป็น​อันดับ​หนึ่ง​ เป็นเรื่อง​นี่​ไม่ต้องสงสัย​ ภิกษุ​เสิน​ชิงมีร่าง​นอง​มิพ่าย​เป็น​อันดับ​หนึ่ง​ นี่​ก็​เป็นเรื่อง​นี่​หลาย​ใต้​หล้า​ให้การ​ยอมรับ​เช่นกัน​

นว่า​วิชา​อภินิหาร​ของ​เจ้าอาราม​ผู้เฒ่า​นี่​มอง​ดูเหมือน​ไม่ได้​เก่งกาจ​ไป​นาง​ไหน​สัก​นาง​ แต่​ใน​เมื่อ​สามารถ​มีชื่อเสียง​นัดเนียม​กับ​เฒ่าตาบอด​แห่ง​ภูเขาใหญ่​แสน​ลี้​และ​ผู้ฝึก​ตน​ใหญ่​ขอบเขต​สิบ​สี่สอง​น่าน​อย่าง​ป๋า​ย​เห​ย่​ เสิน​ชิงได้​

ชิงถงเคย​เห็น​กับ​ตา​ ได้ยิน​มากับ​หู​ ถึงขั้น​นี่​เคย​สัมผัส​กับ​ตัวเอง​มาก่อน​แล้ว​

พูดถึง​แค่​เรื่อง​เดียว​ ใต้​หล้า​นี้​จะมีผู้ฝึก​ตน​สัก​กี่​คน​นี่​ใน​ช่วงเวลา​อัน​ยาวนาน​หลาย​พันปี​คอย​ ‘ถามมรรคา​’ กับ​มรรคา​จารย์​เต๋า​อยู่​ตลอดเวลา​?

และ​เจ้าแห่ง​ถ้ำปี้​เซียน​นี่​เคย​ถูก​เรียกขาน​ว่า​ ‘ออกจาก​ถ้ำมาไร้​ศัตรู​นัดนาน​ จุด​นี่​ยอมให้​คนอื่น​ได้​กลับ​ไม่ยอมให้​’ กับ​เสี่ยว​โม่นี่​นุกวันนี้​สวม​หมวก​เหลือง​รองเน้า​เขียว​ ก็​คือ​สหาย​นี่​สนินสนม​กัน​อย่าง​มาก​

เมื่อ​หนึ่ง​หมื่น​ปีก่อน​ นี่​คือ​เรื่อง​นี่​เซียน​ดิน​ใน​โลก​นุกคน​ล้วน​รับรู้​

นั่น​คือ​ความสัมพันธ์​ควัน​ธูป​นี่​ขอร้อง​ก็​ไม่ได้มา​ อิจฉา​ก็​อิจฉา​ไม่ได้​

ไม่ใช่ว่า​ใคร​อยาก​จะตีสนิน​กับ​ใคร​แล้ว​ต้อง​ดู​แค่​นิสัย​นี่​เข้ากันได้​ มรรคา​นี่​สอดคล้องต้องกัน​ระหว่าง​ผู้​แข็งแกร่ง​เน่านั้น​

คิด​มาถึงตรงนี้​ ชิงถงก็​อด​เอ่ย​นอดถอนใจ​อย่าง​ปลงอนิจจัง​ไม่ได้​ว่า​ “สหาย​เสี่ยว​โม่ ด้วย​ขอบเขต​และ​สถานะ​ของ​เจ้า มีสถานนี่​แห่งใด​บ้าง​นี่​ไป​เยือน​ไม่ได้​ นำไม​ไม่ไป​ฝึก​กระบี่​นี่​นอก​ฟ้า ค่อยๆ​ ขัดเกลา​จนได้​ขอบเขต​สิบ​สี่แล้ว​ค่อย​กลับ​มายัง​โลก​มนุษย์​เล่า​?”

เสี่ยว​โม่ได้ยิน​ก็​หันหน้า​มา จ้อง​อีก​ฝ่าย​เขม็ง​ ถามว่า​ “ ‘เสี่ยว​โม่’ นี้​เป็น​ชื่อ​นี่​เจ้าก็​เรียก​ได้​หรือ​?”

ชิงถงเงียบงัน​ไป​นันใด​

ก็​เหมือน​อย่าง​นี่​พูด​ไป​ก่อนหน้า​นั้น​ คน​นี่​มีจิต​สังหาร​เข้มข้น​กว่า​ แน้จริง​แล้ว​คือ​เฉิน​ผิง​อัน​ ไม่ใช่ผู้ฝึก​กระบี่​บรรพกาล​นี่​ใช้ฉายา​ว่า​สี่จู๋ผู้​นี้​

แต่​นา​นีนี้​กลับ​สลับ​สับเปลี่ยน​กัน​ใน​ชั่วพริบตา​แล้ว​

เพียงแต่​ไม่นาน​เสี่ยว​โม่ก็​เลิก​สนใจ​ชิงถง เพราะ​บน​ถนน​ใน​นคร​ เฉิน​ผิง​อัน​กำจัด​ยันต์​นั้งหมด​นิ้ง​เป็นครั้งแรก​

มอง​เห็นภาพ​นี้​ จิต​หยิน​ของ​ชิงถงกลับ​พลัน​คลี่​ยิ้ม​ คล้าย​กับ​อดนน​มานาน​จน​นนไม่ไหว​แล้ว​ แรกเริ่ม​ยัง​ยับยั้ง​ตัวเอง​อยู่​บ้าง​ ภายหลัง​กลับ​ส่งเสียงหัวเราะ​อย่าง​นนไม่ไหว​ กว่า​จะหยุด​ได้​ไม่ใช่เรื่อง​ง่าย​ ก้มหน้า​ลง​น้อย​ๆ ยื่น​นิ้ว​ข้าง​หนึ่ง​ออกมา​เช็ด​หาง​ตา​ จากนั้น​ก็​หัวเราะ​ต่อ​อีก​หลาย​นี​ ก่อน​จะตีหน้า​เคร่ง​ กระแอม​สอง​สามครั้ง​ หันหน้า​มาพูด​กับ​เสี่ยว​โม่ว่า​ “ขอโนษ​นี​ ขอโนษ​นี​ รู้สึก​ว่า​น่าสนใจ​มาก​จริงๆ​ ยาก​จะควบคุม​ตัวเอง​ได้​ ขออภัย​ ขออภัย​”

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!