กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 926

สรุปบท บทที่ 926.2 ยืมพันภูเขาหมื่นสายน้ำจากท่านทั้งหลาย (หก): กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!

บทที่ 926.2 ยืมพันภูเขาหมื่นสายน้ำจากท่านทั้งหลาย (หก) – ตอนที่ต้องอ่านของ กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!

ตอนนี้ของ กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 926.2 ยืมพันภูเขาหมื่นสายน้ำจากท่านทั้งหลาย (หก) จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

แม้ว่า​กระจกเงา​ประหลาด​ที่​สามารถ​คัดลอก​ร่างกาย​และ​ปณิธาน​หมัด​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​ไว้​ได้​ชั่วขณะ​จะลี้ลับ​มหัศจรรย์​อย่าง​มาก​ มอง​ดูเหมือน​วิชา​อภินิหาร​ของ​ผู้ฝึก​ลมปราณ​บาง​ประเภท​มากกว่า​ แต่​แท้จริง​แล้ว​กลับเป็น​กระบวนท่า​หมัด​อย่างหนึ่ง​

เพียงแต่ว่า​นอกจากนี้​แล้ว​ ชิงถงยัง​แอบ​เล่น​ตุกติก​บางอย่าง​ด้วย​

ชิงถงเค้น​รอยยิ้ม​เสแสร้ง​ส่งไป​ให้​ ถูก​ผู้เยาว์​คน​หนึ่ง​เปิดโปง​การกระทำ​ที่​ไม่ค่อย​น่า​ภูมิใจย่อม​รู้สึก​ลำบากใจ​อยู่​บ้าง​ไม่มาก​ก็​น้อย​ “ไม่ทัน​ระวัง​ ข้า​จะหยุด​เดี๋ยวนี้​”

เดิมที​ตน​ก็​ยึดครอง​ความได้เปรียบ​ที่​ขอบเขต​สูงกว่า​ระดับ​หนึ่ง​อยู่แล้ว​ ยัง​จะใช้วิชา​คาถา​มาขโมย​วิชา​หมัด​ของ​อีก​ฝ่าย​ นี่​ไม่เข้าท่า​เลย​จริงๆ​

นี่​แสดงให้เห็น​ว่า​ท่ามกลาง​การ​ถามหมัด​ครั้งนี้​ ชิงถงยังคง​ผ่อนคลาย​อยู่​มาก​ มาด​ของ​ปรมาจารย์​ที่​สามารถ​รับมือ​ได้​อย่าง​สบาย​เหลือแหล่​เช่นนั้น​ ไม่ใช่ว่า​จะเสแสร้ง​กัน​ได้​

ปัญหา​เพียง​หนึ่งเดียว​ยังคง​เป็นเรื่อง​ที่ว่า​ชิงถงค้นพบ​ว่า​เฉิน​ผิง​อัน​ที่​ออก​หมัด​มาแล้ว​หลายครั้ง​ ยังคง​อำพราง​ตัว​ได้​อย่าง​ลึกล้ำ​จน​มองไม่เห็น​ก้นบึ้ง​อยู่​เหมือนเดิม​

หมัด​สามครั้ง​ของ​ชิงถงเมื่อครู่นี้​ แม้จะอยู่​ไกล​เกิน​กว่า​จะเรียก​ว่า​ออกแรง​อย่าง​เต็มกำลัง​ แต่​หาก​หล่น​ลง​บน​ร่าง​ของ​ปรมาจารย์​ทั่วไป​ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​ผู้ฝึก​ยุทธ​เต็มตัว​ที่​ไม่ใช่เผ่า​ปีศาจ​ ไม่ว่า​อย่างไร​ก็​น่าจะ​ร่อแร่​ปางตาย​แล้ว​

หรือ​จะบอ​กว่า​เพราะ​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​อยู่​ใน​สภาพ​นี้​ ภายนอก​จึงมอง​ความผิดปกติ​อะไร​ไม่ออก​?

แล้ว​นับประสาอะไร​กับ​ที่​ชิงถงยัง​อด​พึมพำ​ใน​ใจไม่ได้​ว่า​ เมื่อ​ครู่​ทั้งสองฝ่าย​แลกหมัด​กัน​อย่าง​อันตราย​ถึงเพียงนั้น​ แต่​เจ้าเด็ก​นี่​กลับ​ยัง​แบ่ง​สมาธิมาสังเกตเห็น​การกระทำ​เล็กๆ น้อยๆ​ ของ​ตน​อีก​หรือ​?

ชิงถงยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “ฟ้าดิน​ที่ว่างเปล่า​ มองดู​แล้ว​จืดชืด​น่าเบื่อ​เกินไป​หน่อย​ ถ้าอย่างนั้น​ข้า​จะสร้าง​สนามรบ​ขึ้น​มาก็แล้วกัน​ จะได้​ช่วย​กระตุ้น​ให้​ดู​น่าสนใจ​มากขึ้น​”

เพียง​ดีดนิ้ว​ นคร​แห่ง​หนึ่ง​ก็​โผล่​มาจาก​ความว่างเปล่า​ อาณาบริเวณ​กว้างขวาง​ บางที​อาจจะ​ทัดเทียม​ได้​กับ​เมืองหลวง​ของ​ราชวงศ์​ใหญ่​อันดับ​หนึ่ง​ของ​ทวีป​แดน​เทพ​แผ่นดิน​กลาง​ได้​เลย​

ใน​นคร​มีหอ​เรือน​งดงาม​ลดหลั่น​เรียงราย​ กระจัดกระจาย​กัน​ดุจ​ดวงดาว​บน​ท้องฟ้า​ นอกเมือง​ก็​มีเทือกเขา​ทอดตัว​ยาว​ แม่น้ำ​ลำคลอง​ไหล​ไกล​หมื่น​ลี้​ และ​ยังมี​ยอดเขา​แห่ง​หนึ่ง​ที่​โผล่​ตระหง่าน​ขึ้น​มาจาก​พื้นที่ราบ​ ยอดเขา​สูงเดียวดาย​มีทะเล​เมฆโอบล้อม​อยู่​กึ่งกลาง​ภูเขา​

ชิงถงยืน​อยู่​บน​หลังคา​ของ​ตำหนัก​ใหญ่​หลัง​หนึ่ง​ มือหนึ่ง​ไพล่หลัง​ อีก​มือหนึ่ง​ผาย​มือ​ออกมา​ “เฉิน​ผิง​อัน​ ต่อจากนี้​ข้า​จะเล่น​เป็นเพื่อน​เจ้าแค่​เวลา​ชั่ว​หนึ่ง​ก้านธูป​เท่านั้น​”

ความนัย​ใน​ประโยค​นี้​ก็​คือ​จะลงมือ​อย่าง​จริงจัง​แล้ว​ ไม่ช่วย​ป้อน​หมัด​ให้​อีกแล้ว​?

มอง​คนหนุ่ม​ที่​ชื่อเสียง​เลื่อง​ระบือ​ ทว่า​สภาพ​น่าสังเวช​ ชิงถงก็​หัวเราะ​หยัน​ หากว่า​อีก​ฝ่าย​ไม่ได้​มีสถานะ​เป็น​อิ่น​กวาน​ ทั้ง​ยัง​สวม​ยศ​ลูกศิษย์​ปิด​สำนัก​ของ​เห​วิน​เซิ่ง เป็น​ผู้​ที่​มีคุณูปการ​ซึ่งศาล​บุ๋น​ให้การ​ดูแล​เป็น​อย่าง​ดี​ อีก​ทั้ง​ยัง​เดินทาง​มาร่วมกับ​ ‘เสี่ยว​โม่’ ผู้​นั้น​

วันนี้​เจ้าก็​ไม่มีทางได้​เห็น​ร่าง​จริง​ของ​ข้า​ด้วยซ้ำ​ นั่น​ก็​ยิ่ง​ไม่ต้อง​พูดถึง​การ​ป้อน​หมัด​ที่​โดน​ต่อย​แล้ว​ไม่ยอม​โต้​คืน​อย่าง​ก่อนหน้านี้​เลย​

หาก​การ​ถามหมัด​ครั้ง​ต่อไป​พ่ายแพ้​ เจ้าเฉิน​ผิง​อัน​ก็​น่าจะ​ถอดใจ​ได้​แล้ว​ จงไป​จาก​ที่​แห่ง​นี้​แต่​โดยดี​ วันหน้า​ทั้งสองฝ่าย​จะเป็น​เหมือน​น้ำ​บ่อ​ที่​ไม่ยุ่ง​กับ​น้ำ​คลอง​ ต่าง​คน​ต่าง​เดิน​ไป​บน​เส้นทาง​ของ​ตัวเอง​

ข้า​ไม่ถ่วง​รั้ง​การซ่อมแซม​ตรวจสอบ​ช่องโหว่​ให้​กับ​ใบ​ถงทวีป​ของ​เจ้า แต่​เจ้าก็​อย่า​มาตาม​ตอแย​ข้า​ให้​รำคาญใจ​

แน่นอน​ว่า​การกระทำ​ที่​ใช้อารมณ์​อย่าง​การ​เอา​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ครึ่งหนึ่ง​ย้าย​มาไว้​ที่นี่​ การ​ทำให้​ศัตรู​บาดเจ็บ​หนึ่ง​พัน​ตัวเอง​เสียหาย​แปด​ร้อย​ ทำร้าย​คนอื่น​แล้ว​ยัง​ไม่ส่งผลดี​ต่อ​ตัวเอง​เช่นนั้น​ ก็​อย่า​ได้​ทำ​เลย​

พลัง​อำนาจ​ของ​ชิงถงพลัน​แปร​เปลี่ยนไป​ ดีด​ปลายเท้า​หนึ่ง​ที​ ตำหนัก​ใหญ่​ใต้​ฝ่าเท้า​ก็​พังครืน​ลง​ เพียง​ชั่วพริบตา​ก็​แหลก​สลาย​กลายเป็น​ผุยผง​ ฝุ่น​กระจาย​คลุ้ง​ตลบอบอวล​

หลังจาก​เป็น​ฝ่าย​ปล่อย​หมัด​ออก​ไป​หนึ่ง​ครั้ง​ ชุด​คลุม​อาคม​สีแดงสด​ทำท่า​ยก​สอง​มือ​สกัด​บัง​ ร่าง​ทั้ง​ร่าง​กระแทก​พื้น​ แผ่น​หลัง​กรีด​ร่อง​ลึก​ขนาดใหญ่​ยักษ์​ไป​บน​พื้นดิน​ใน​นคร​

ผู้เฒ่า​ผม​ขาว​มาปรากฏตัว​อยู่​บน​ถนน​ เดิน​อยู่​ข้าง​ร่อง​ลึก​ด้วย​ฝีเท้า​เนิบนาบ​ผ่อนคลาย​ ยังมี​อารมณ์​ถามอี​กว่า​ “การ​ถามหมัด​ของ​เจ้ากับ​เฉาสือ​ใน​สวน​กง​เต๋อ​ เขา​ต้อง​ออม​ฝีมือ​ไว้​แน่นอน​ สรุป​แล้ว​ออม​แรง​ไว้​กี่​ส่วน​กัน​เล่า​?”

การ​ที่​ถามเช่นนี้​ไม่ใช่เพราะ​ชิงถงจงใจทำให้​เฉิน​ผิง​อัน​โมโห​ หรือ​ดูแคลน​ขอบเขต​วิถี​วร​ยุทธ​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​

สามารถ​เอา​มาเปรียบเทียบ​กับ​เฉาสือ​ได้​ เดิมที​ก็​เป็นการ​มอง​สูงอย่างหนึ่ง​แล้ว​

ทุกวันนี้​ไม่เพียงแต่​ใต้​หล้า​ไพศาล​เท่านั้น​ที่ยอมรับ​เรื่อง​นี้​ ในความเป็นจริง​แล้ว​บางที​นอกจาก​ใต้​หล้า​ห้า​สีที่​นคร​บิน​ทะยาน​เป็นใหญ่​เพียง​หนึ่งเดียว​แล้ว​ ใต้​หล้า​ที่​เหลือ​อีก​สี่แห่ง​ก็​ล้วน​คิด​แบบนี้​เหมือนกัน​

เฉิน​ผิง​อัน​กระโดด​ออก​มาจาก​ร่อง​ลึก​ ชุด​คลุม​อาคม​บน​ร่าง​ยังคง​ไม่เปื้อน​ฝุ่น​สัก​เม็ด​ดังเดิม​

การกระทำ​ต่อมา​ของ​เขา​ทำให้​ชิงถงที่​ได้​เห็น​อยาก​หัวเราะ​ เพราะ​เฉิน​ผิง​อัน​ที่​โดน​หมัด​เดียว​ก็​ล้มคว่ำ​ผู้​นั้น​กลับ​แค่​กระโดด​เบา​ๆ ไม่กี่​ที​ ราวกับ​กำลัง​ยืดเส้นยืดสาย​อย่างไร​อย่างนั้น​

แต่เพียง​ไม่นาน​ชิงถงก็​หัวเราะ​ไม่ออก​แล้ว​ ไม่ใช่ว่า​กริ่งเกรง​อีก​ฝ่าย​ แต่​โมโห​เสีย​มากกว่า​

เพราะ​ชิงถงที่​บอ​กว่า​ตัวเอง​วาด​ยันต์​ใหญ่​สอง​สามชนิด​เป็น​เห็น​ว่า​รอบด้าน​ชุด​คลุม​อาคม​สีแดงสด​มีประกาย​แสงไฟเปล่ง​วิบวับ​ขึ้น​มาเป็น​จุด​ๆ เหมือน​ดวงดาว​ก่อน​ จากนั้น​ก็​กลายเป็น​ผุยผง​ที่​ปลิว​กระจาย​ไป​ทั่ว​

คือ​ภาพ​เหตุการณ์​จาก​การ​ที่​ยันต์​หลาย​สิบ​แผ่น​เผาไหม้​หมดสิ้น​ในเวลาเดียวกัน​

อาศัย​ริ้ว​กระเพื่อม​ของ​ปราณ​วิญญาณ​ที่​หลงเหลือ​จาก​ยันต์​เหล่านั้น​ ชิงถงที่​เป็น​ผู้เชี่ยวชาญ​สาย​ยันต์​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​คน​หนึ่ง​ เพียง​ไม่นาน​ก็​อนุมาน​ได้​ถึงประสิทธิผล​ที่​มีร่วมกัน​ของ​ยันต์​สอง​ชนิด​นั้น​

เอา​มาใช้ชะลอ​เรือน​กาย​ ไม่เพียงแต่​เพิ่ม​ภาระ​น้ำหนัก​ให้​กับ​หมัด​และ​เท้า​ ยัง​จะใช้ร่างกาย​ของ​ผู้ฝึก​ตน​มาสยบ​ข่ม​เรือน​กาย​ของ​ผู้ฝึก​ยุทธ​ด้วย​

สืบสาวราวเรื่อง​กัน​แล้วก็​คือ​เจ้าหมอ​นี่​จงใจทำให้​ตัวเอง​ออก​หมัด​ช้าลง​!

ชิงถงเคย​เจอ​คน​ที่​ฉาย​ประกาย​เฉียบคม​ เคย​เจอ​คน​ที่​กำเริบเสิบสาน​ แต่​คน​ที่​อายุ​น้อย​ๆ ก็​กล้า​ประมาทเลินเล่อ​แบบนี้​กลับ​เพิ่ง​เคย​เจอ​เป็นครั้งแรก​จริงๆ​

อยาก​ตาย​มาก​นัก​หรือ​?

ราวกับ​อีก​ฝ่าย​จะเดา​ความคิด​ของ​ชิงถงออก​ แม้จะไม่ได้​เอ่ย​ถ้อยคำ​ใดๆ​ แต่​ชิงถงก็​เดา​ความคิด​ของ​อีก​ฝ่าย​ออก​เช่นเดียวกัน​

ข้า​ฆ่าผู้อาวุโส​ไม่ตาย​ แต่​เจ้าแค่​ใช้สถานะ​ของ​ผู้ฝึก​ยุทธ​ก็​สามารถ​ฆ่าข้า​ให้​ตาย​ได้​หรือ​?

ข้า​ว่า​ไม่แน่​เสมอไป​หรอก​

ชิงถงพยักหน้า​ การ​ที่​ตน​ชิงชังพวก​ผู้ฝึก​กระบี่​ก็​ใช่ว่า​จะไร้เหตุผล​จริงๆ​

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​ผู้ฝึก​กระบี่​ที่​เรียน​หมัด​ฝึก​วร​ยุทธ​ ผู้ฝึก​กระบี่​ที่​อายุ​น้อย​

……

ก่อนหน้านี้​เสี่ยว​โม่ไม่ยินดี​รอ​อยู่​ที่​เดิม​ให้​เกะกะ​หมัด​เท้า​ ร่าง​จึงทะยาน​ห่าง​ออก​ไป​ร้อย​กว่า​ลี้​แล้ว​นั่งลง​ขัดสมาธิ​ เอา​ไม้เท้า​ไม้ไผ่​สีเขียว​มรกต​วาง​พาด​ไว้​บน​หัวเข่า​

ชิงถงที่​เป็น​ผู้ฝึก​ลมปราณ​ เป็น​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​คน​หนึ่ง​ ไม่มีทาง​แข็งแกร่ง​ไป​ยังไง​

ไม่อย่างนั้น​ก่อนหน้านี้​พบ​เจอ​ตน​ ชิงถงผู้​นี้​ก็​ไม่มีทาง​ปิดประตู​ไม่ต้อน​รับแขก​ แค่​ขับไล่​คน​ไป​โดยตรง​ก็​พอแล้ว​

เรื่อง​เดียว​ที่​เสี่ยว​โม่ค่อนข้าง​สนใจ​ยังคง​เป็น​ประโยค​ท้าย​ๆ ของ​ชิงถงที่​บอ​กว่า​ ‘เป็น​ยันต์​ใหญ่​สอง​สามแผ่น​’

น้ำหนัก​หมัด​เท้า​ของ​คุณชาย​บ้าน​ตน​ หนัก​เบา​สูงต่ำ​ ไม่มีตัวแปร​ที่​แน่นอน​

เพราะ​ความนัย​ใน​ความหมาย​ของ​สหาย​สี่จู๋ผู้​นี้​ก็​คือ​ เจ้าอาศัย​ความโชคดี​จึงมีชีวิต​อยู่​มาได้​จนถึง​ทุกวันนี้​ ทว่า​ข้า​สามารถ​มีชีวิต​อยู่​มาจน​วันนี้​ได้​เพราะ​อาศัย​ความสามารถ​ที่​แท้จริง​ อาศัย​เวท​กระบี่​ของ​บน​ร่าง​

เมื่อ​หมื่น​ปีก่อน​ ต่อให้​เป็น​พวก​เซียน​ดิน​ที่​ถูก​เรียกขาน​ว่า​ผู้ฝึก​ตน​ มีขอบเขต​พอๆ กัน​ ความสามารถ​สูงต่ำ​ พลัง​พิฆาต​แข็งแกร่ง​หรือ​อ่อนด้อย​ กลับเป็น​ความต่าง​ราว​ฟ้ากับ​เหว​

ผู้ฝึก​กระบี่​คือ​นักพรต​อันดับ​หนึ่ง​อย่าง​สมชื่อ​

โลก​มนุษย์​ในเวลานั้น​ บรรพบุรุษ​ของ​ต้น​อู๋ถง​อย่าง​เจ้าคน​ผู้​นี้​ก็​ยัง​ถือได้ว่า​ปกติธรรมดา​อย่าง​มาก​ เป็นความ​ปกติ​แบบ​ที่​ธรรมดา​สามัญอย่าง​แท้จริง​

เหตุผล​ก็​เรียบง่าย​มาก​ พูดถึง​แค่​ต้นไม้​พืชพรรณ​ หาก​จะนับ​บรรพบุรุษ​ของ​ใคร​ของ​มัน​ นับ​ได้​ไหว​หรือ​?

พูดถึง​แค่​การช่วงชิง​แห่ง​น้ำ​และ​ไฟครั้งนั้น​ เทือกเขา​ สายน้ำ​ พืชพรรณ​ใน​โลก​มนุษย์​ถูก​ทำลาย​ไป​กี่มากน้อย​? มาก​จน​นับไม่ถ้วน​

อย่าง​เสี่ยว​โม่ที่​เคย​เดิน​ทางผ่าน​ต้นไม้​ก็​ยัง​แค่​มอง​ไม่กี่​ที​เท่านั้น​ นี่​ยัง​เป็น​เพราะ​ต้นไม้​ต้น​นี้​ถูก​เผาไหม้​ใน​เพลิง​ใหญ่​โหมกระหน่ำ​แต่​ก็​ยัง​ไม่ตาย​ ต้นไม้​แห้งเหี่ยว​เจอ​กับ​ฤดูใบไม้ผลิ​ก็​กลับคืน​มามีชีวิตชีวา​ได้​อีกครั้ง​

การ​มาเยือน​ครั้งนี้​ หาก​ไม่เป็น​เพราะ​เสี่ยว​โม่ติดตาม​อยู่​ข้าง​กาย​คุณชาย​ สหาย​? ก็​แค่​คำพูด​ตามมารยาท​เท่านั้น​ สหาย​บน​เส้นทาง​เดียวกัน​อะไร​ ทั้งสองฝ่าย​ไม่ได้​เป็นเพื่อน​ แล้วก็​ยิ่ง​ไม่ได้​อยู่​บน​เส้นทาง​เดียวกัน​

ดังนั้น​ถึงได้​บอก​ว่าการ​กลับมา​พบ​เจอกัน​อีกครั้ง​หลังจาก​ลา​กัน​ไป​นาน​ถึงหมื่น​ปี​ครั้งนี้​ก็​เหมือน​ลูกหลาน​ตระกูล​สูงศักดิ์​ผู้​หนึ่ง​ที่มา​นั่ง​คุย​เล่น​อยู่​กับ​คนรวย​ที่​กลายเป็น​เศรษฐี​ใน​ชั่ว​ข้ามคืน​คน​หนึ่ง​

ชิงถงส่ายหน้า​ “พวก​เจ้ากลายเป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​ได้​ ไย​จะไม่ใช่ความโชคดี​ที่​ใหญ่​เทียมฟ้า​ที่​เทียบ​กัน​แล้ว​มีแต่​สูงกว่า​เล่า​?”

“แล้ว​ลอง​มามองดู​พวก​ภูต​ต้นไม้​ดอกไม้​อย่าง​พวกเรา​ ต่อให้​โชคดี​แค่​ไหน​ ต่อให้​หลอม​ร่าง​ได้​สำเร็จ​ แต่​มีคนใด​บ้าง​ที่​กลายเป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​ได้​?”

“ช่วง​แรกเริ่ม​ของ​การ​ฝึก​ตน​ สติปัญญา​เปิด​ออก​ได้​ไม่ง่าย​ เดิมที​ก็​ยากลำบาก​ที่สุด​ใน​บรรดา​สรรพ​ชีวิต​ที่​มีสติปัญญา​แล้ว​ ลำพัง​แค่​หลอม​เรือน​กาย​ ไม่พูดถึง​เทียบ​กับ​เผ่า​มนุษย์​ เทียบ​แค่​กับ​เจ้า แล้วก็​พวก​หยวน​โส่ว​ หย่า​งจื่อ​ พวกเรา​ไม่ใช่แค่​ไม่มีทาง​เหนื่อย​เพียง​ครึ่ง​ได้​ผลลัพธ์​เป็น​เท่าตัว​เท่านั้น​ ก่อนที่จะ​หลอม​เรือน​กาย​ได้​สำเร็จ​ เนื่องจาก​ไม่สามารถ​เคลื่อนย้าย​ไป​ไหน​ได้​ ต้อง​เผชิญหน้า​กับ​ภัยพิบัติ​จาก​ทั้งคน​และ​ธรรมชาติ​ที่มา​เยือน​อย่าง​ไม่คาดฝัน​ ไม่พูดถึง​ลำ​กาย​ พูดถึง​แค่​จิต​แห่ง​มรรคา​ที่​เพิ่ง​ก่อ​เป็น​รูปร่าง​ ความทุกข์ทรมาน​ที่​ต้อง​พบ​เจอ​ พวก​คน​ที่​ได้รับ​เงื่อนไข​พิเศษ​บน​เส้น​ทางการ​ฝึก​ตน​อย่าง​พวก​เจ้าย่อม​ไม่เข้าใจ​”

“น้ำท่วม​ไหลบ่า​ ไฟไหม้​ภูเขา​ ภัย​ทาง​สงคราม​การ​สู้รบ​ ลม​พัด​กระโชก​ฝนฟ้า​กระหน่ำ​ถูก​ทำลาย​หัก​โค่น​ หายนะ​มากมาย​ ไม่ได้​มีแค่​อย่าง​เดียว​ บางที​ขอบเขต​ใด​ขอบเขต​หนึ่ง​ที่​พวก​เจ้าใช้เวลา​แค่​สอง​สามปี​ก็​สามารถ​กระโดด​ไป​ถึงได้​ ส่วนใหญ่​มักจะ​เป็น​ความสูง​บน​มหา​มรรคา​ที่​พวกเรา​ไขว่คว้า​ทั้ง​ชีวิต​ก็​ยัง​ไม่ได้มา​ครอบครอง​”

ผล​คือ​เสี่ยว​โม่โพล่ง​กลับมา​ด้วย​ประโยค​ว่า​ “ข้า​จะต้อง​เข้าใจ​เรื่อง​พวก​นี้​ไป​ทำไม​”

ชิงถงสะอึก​อึ้ง​ไป​ทันใด​ นี่​ก็​คือ​ผู้ฝึก​กระบี่​ นิสัย​เสียที่​หมื่น​ปี​ก็​แก้​ไม่หาย​!

เสี่ยว​โม่เหลือบมอง​ธูป​ก้าน​นั้น​ ถามว่า​ “เทพ​มาเยือน​ครึ่งหนึ่ง​? วิถี​วร​ยุทธ​ใน​ใต้​หล้า​ทุกวันนี้​ มีคำกล่าว​นี้​แล้ว​หรือ​?”

ชิงถงยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “ระยะทาง​ร้อย​ลี้​ เดิน​ได้​เก้า​สิบ​ลี้​เพิ่งจะ​ถือว่า​มาได้​แค่​ครึ่งทาง​เท่านั้น​” (เปรียบเปรย​ว่า​เรื่อง​ใด​ก็ตาม​เมื่อ​ใกล้​จะสำเร็จ​ก็​ยิ่ง​ทำได้​ยาก​มาก​เท่านั้น​ จึงต้อง​ยิ่ง​จริงจัง​ตั้งใจ​ พยายาม​ไม่ย่อท้อ​จนกว่า​จะสำเร็จ​)

ดังนั้น​การ​ที่​ชิงถงไม่ได้​บอ​กว่า​ขอบเขต​วิถี​วร​ยุทธ​ของ​ตัวเอง​เป็น​แค่​ชั้น​คืน​ความจริง​ก็​ถือว่า​มีความจริงใจ​มาก​พอแล้ว​

เสี่ยว​โม่สัมผัส​ได้​ถึงการเปลี่ยนแปลง​บน​เส้นเอ็น​หัวใจ​ของ​อีก​ฝ่าย​ก็​หลุด​หัวเราะ​พรืด​ “ร่าง​จริง​ไม่กล้า​มารำลึก​ความหลัง​ที่นี่​ ยัง​จะพูดถึง​ความจริงใจ​อะไร​อีก​?”

แน่นอน​ว่า​ชิงถงรู้ดี​ถึงหนึ่ง​ใน​วิชา​อภินิหาร​ของ​สหาย​ท่าน​นี้​ จึงไม่ถือสา​ที่​เสียง​ใน​ใจถูก​เสี่ยว​โม่ได้ยิน​เข้า​ เพียงแต่​ปาก​ก็​ยัง​อด​เอ่ย​สัพยอก​ไม่ได้​ว่า​ “สหาย​สี่จู๋ ท่อง​ใต้​หล้า​ไพศาล​กับ​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​มานาน​ขนาด​นี้​แล้ว​ ถึงอย่างไร​ก็​น่าจะ​เคย​ได้ยิน​ประโยค​ที่ว่า​ ‘อะไร​ที่​ไม่สมควร​ฟังอย่า​ฟัง’ กระมัง​”

สหาย​ที่​ถูก​เฉิน​ผิง​อัน​เรียก​ว่า​เสี่ยว​โม่ผู้​นี้​ ใน​ฐานะ​หนึ่ง​ใน​ปีศาจ​ใหญ่​ยุค​บรรพกาล​ที่​มีชื่อเสียง​เลื่องลือ​ไป​ทั้ง​ใต้​หล้า​ แน่นอน​ว่า​ย่อม​ต้อง​มีชื่อจริง​ จือ​จู (鼅鼄) ออกเสียง​เหมือนกับ​จือ​จู (蜘蛛) ที่​แปล​ว่า​แมงมุมใน​โลก​ยุค​หลัง​

เพียงแต่ว่า​อักษร​สอง​ตัว​นี้​พบเห็น​ได้​ยาก​มาก​ อีก​ทั้ง​เมื่อ​เวลา​แปรเปลี่ยน​ก็​มีการเปลี่ยนแปลง​ทาง​ตัวอักษร​อีก​หลาย​ตัว​ นอกจาก​ ‘พจนานุกรม​อธิบาย​ศัพท์​’ เล่ม​นั้น​แล้วก็​ยังมี​บันทึก​ที่​กระจัดกระจาย​ทำนอง​ว่า​ ‘พ่น​ใย​กลายเป็น​ตาข่าย​ ถัก​ตาข่าย​ดักจับ​อาหาร​ มีประโยชน์​ใน​คืน​มืด​’ ส่วน​อย่าง​อื่น​ล้วน​กลายเป็น​ดั่ง​หมอ​กค​วันที่​ลอย​ผ่าน​ตา​ไป​แล้ว​

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!