กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 927

สรุปบท บทที่ 927.3 ยืมพันภูเขาหมื่นสายน้ำจากท่านทั้งหลาย (เจ็ด): กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!

สรุปเนื้อหา บทที่ 927.3 ยืมพันภูเขาหมื่นสายน้ำจากท่านทั้งหลาย (เจ็ด) – กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! โดย Internet

บท บทที่ 927.3 ยืมพันภูเขาหมื่นสายน้ำจากท่านทั้งหลาย (เจ็ด) ของ กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตอนนั้น​ปีศาจ​ใหญ่​บน​ยอดเขา​กลุ่ม​ของ​พวกเขา​ได้รับ​คำสั่ง​จาก​ป๋า​ย​เจ๋อ​จึงจำต้อง​พา​กัน​ตื่น​จาก​การ​หลับใหล​ สิ่งมีชีวิต​บรรพกาล​ผู้​หนึ่ง​ เนื่องจาก​ลาน​ประกอบ​พิธีกรรม​หมื่น​ปี​ หรือ​ควรจะ​เรียก​ว่า​สถานที่พักฟื้น​รักษา​บาดแผล​อยู่​ใน​ดวงตะวัน​ของ​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ เป็นเหตุให้​สตรี​ที่​เป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​เหมือนกัน​ผู้​นั้น​เคย​ใช้วิชา​เฉพาะ​พูดคุย​กับ​เสี่ยว​โม่ที่​เป็น​ ‘เพื่อนบ้าน​’ บน​ฟ้า แต่​ร่าง​อยู่​ใน​ดวงจันทร์​ฮ่าวไฉ่​สอง​สามประโยค​ เดิมที​ทั้งสองฝ่าย​นัดหมาย​สถานที่​ที่จะ​มาพบ​เจอกัน​ใน​โลก​มนุษย์​ไว้​เรียบร้อย​แล้ว​ อีก​ฝ่าย​ยัง​บอก​ด้วยว่า​ทุกวันนี้​ได้​ตั้ง​นามแฝง​ให้​กับ​ตัวเอง​แล้ว​ ชื่อว่า​

เซี่ย​โก่​ว​

ก่อนหน้านี้​ที่​เสี่ยว​โม่พูดคุย​เรื่อง​ของ​บุคคล​ยุค​บรรพกาล​กลุ่ม​ของ​พวกเขา​ให้​เฉิน​ผิง​อัน​ฟัง ใน​เรื่อง​ของ​ตบะ​และ​พลัง​การต่อสู้​ เสี่ยว​โม่ที่​เป็น​นักรบ​พลีชีพ​ปฏิบัติ​ต่อ​เฉิน​ผิง​อัน​อย่าง​จริงใจ​ บอ​กว่า​ตัวเอง​ไม่ใช่ทั้งคน​ที่​พลัง​พิฆาต​สูงสุด​ แล้วก็​ไม่ใช่คน​ที่​ป้องกัน​ได้​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ เพียงแต่ว่า​เสี่ยว​โม่มั่นใจ​ได้เรื่อง​หนึ่ง​ว่า​ การป้องกัน​และ​โจมตี​ของ​ตัวเอง​ล้วน​ต้อง​ติด​สามอันดับ​แรก​ เนื่องจาก​เสี่ยว​โม่เพิ่งจะ​รู้จัก​กับ​เฉิน​ผิง​อัน​ได้​ไม่นาน​ บวก​กับ​ที่​นิสัย​ของ​ผู้ฝึก​กระบี่​นำพา​ ดังนั้น​ตอนนั้น​จึงยังมี​บาง​เรื่อง​ที่​เขา​เก็บงำ​เอาไว้​ ไม่ได้​บอก​เรื่อง​วงใน​ให้​เฉิน​ผิง​อัน​รู้​ไป​มากกว่า​นั้น​ ยกตัวอย่างเช่น​สามอันดับ​แรก​ของ​สอง​เส้นทาง​อย่าง​โจมตี​และ​ป้องกัน​ อันที่จริง​หาก​ไม่นับ​สอง​ตำแหน่ง​ที่​ตนเอง​ยึดครอง​แล้ว​ ส่วนที่เหลือ​ไม่ได้​มีสี่คน​ แต่​มีแค่​สามคน​เท่านั้น​ เพราะ​ ‘เซี่ย​โก่​ว’​ เอง​ก็​เป็น​ผู้​แข็งแกร่ง​บน​ยอดเขา​ที่​ควบ​ทั้ง​โจมตี​และ​ป้องกัน​เช่นกัน​

ส่วน​เรื่องราว​ระหว่าง​เสี่ยว​โม่กับ​สหาย​ที่​ทุกวันนี้​ใช้นามแฝง​ว่า​ ‘เซี่ย​โก่​ว’​ แน่นอน​ว่า​ย่อม​มีความรัก​ความแค้น​แต่​หนหลัง​ที่​ยาวนาน​มาก​ช่วง​หนึ่ง​ต่อกัน​

นี่​ก็​คง​เป็นหนึ่ง​ใน​สาเหตุ​ที่​เสี่ยว​โม่ไม่ยินดี​จะเล่า​ความจริง​ให้​ฟังมากกว่า​นั้น​

ไหล่​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​พลัน​หนักอึ้ง​ ร่าง​ยิ่ง​งอ​งุ้มกว่า​เดิม​

เป็น​ชิงถงที่​ยก​เอา​สถานะ​เจ้าของ​หอ​สยบ​ปีศาจ​ออกมา​อีกครั้ง​

ครู่หนึ่ง​ต่อมา​ พื้นที่​แต่ละ​จุด​ยังคง​มีแสงกระบี่​เปล่ง​วูบ​ขึ้น​มาใน​ฉับพลัน​ก่อน​จะหาย​ไป​เร็ว​ปานกัน​

ในที่สุด​ชิงถงก็​เผยโฉม​หน้าที่​แท้จริง​ให้​เห็น​เป็นครั้งแรก​ สภาพ​กระเซอะกระเซิง​ยิ่ง​ เลือด​ท่วม​เต็ม​ร่าง​ รอยแผล​บน​ร่าง​มากมาย​หลาย​จุด​ บาดแผล​ไม่ต่ำกว่า​สิบ​แผล​ลึก​จน​เห็น​กระดูก​ขาวโพลน​ สภาพ​น่าอนาถ​จน​แทบ​มิอาจ​ทน​มอง​ได้​

มีรูปโฉม​เป็น​คนหนุ่ม​ ใบหน้า​หล่อเหลา​ค่อน​ไป​ทาง​งดงาม​ ยาก​จะแยกแยะ​ว่า​เป็น​ชาย​หรือ​หญิง​

เพียงแต่​ชิงถงไม่ได้​มีมาด​ของ​ความสุขุม​ไม่สะทกสะท้าน​ของ​ผู้ฝึก​ตน​ใหญ่​บน​ยอดเขา​อีกแล้ว​ เห็นได้ชัด​ว่า​เป็น​เดือด​เป็น​แค้น​อย่าง​หนัก​ มายืน​อยู่​ห่าง​จาก​เฉิน​ผิง​อัน​ไป​ไม่ไกล​ ราวกับว่า​มีเพียง​ทำ​แบบนี้​เท่านั้น​ถึงจะพอได้​พัก​หาย​ใจหาย​คอ​บ้าง​

การ​เลือก​ของ​ชิงถงนั้น​ถูกต้อง​แล้ว​

เสี่ยว​โม่ไม่ได้​ส่งกระบี่​ต่อ​จริงๆ​ มือ​ข้าง​ที่​ถือ​กระบี่​อ้อม​ไป​ด้านหลัง​เพื่อ​แสดงให้เห็น​ถึงความจริงใจ​

ปล่อย​ให้​เจ้าได้​พัก​อยู่​ข้าง​กาย​คุณชาย​ของ​ข้า​สักครู่​ก็แล้วกัน​

พอ​เฉิน​ผิง​อัน​ได้​เห็น​โฉมหน้า​ของ​ชิงถงแล้วก็​พลัน​ทำ​หน้า​เหยเก​ทันใด​

ตาม​บันทึก​ลับ​ใน​คฤหาสน์​หลบ​ร้อน​ คำ​โบราณ​บอก​ไว้​ว่า​อู๋​ตัวผู้​ถงตัวเมีย​ ‘อู๋ถง’​ เติบโต​พร้อมกัน​แก่​ชรา​พร้อมกัน​ เกิด​พร้อมกัน​ตาย​พร้อมกัน​

และ​ลู่​ไถที่​มีชาติกำเนิด​จาก​สกุล​ลู่​สำนัก​หยิน​หยาง​แผ่นดิน​กลาง​ก็​คือ​ร่าง​ปลา​หยิน​หยาง​ที่​พันปี​ก็​ยาก​จะพานพบ​

ปี​นั้น​ก็​เป็น​ลู่​ไถที่​เดินทาง​มาเที่ยว​เยือน​ใบ​ถงทวีป​พร้อมกับ​เฉิน​ผิง​อัน​

เป็น​ผู้ฝึก​ลมปราณ​คน​หนึ่ง​กลับ​กลัว​ความสูง​มาตั้งแต่​เกิด​

โจว​จื่อ​กับ​เผย​หมิ่น​แห่ง​เวท​กระบี่​ต่าง​ก็​เป็น​อาจารย์​ผู้​ถ่ายทอด​มรรคา​ของ​ลู่​ไถ

ปี​นั้น​หลังจาก​ลู่​ไถแยกจาก​กับ​ตน​จะเคย​ถูก​โจว​จื่อ​พา​มาที่นี่​ด้วย​หรือไม่​?

เฉิน​ผิง​อัน​กลับ​ไม่ได้​ถามชิงถงเรื่อง​นี้​ เป็นเรื่อง​ที่​ไม่สำคัญ​แล้ว​ ลู่​ไถก็ดี​ ผู้ฝึก​กระบี่​หลิว​ไฉก็ช่าง​ เชื่อ​ว่า​ในอนาคต​ต้อง​มีวันที่​ได้​กลับมา​พบ​เจอกัน​ใหม่​อีกครั้ง​หรือ​ต้อง​ได้​เจอ​หน้า​กัน​แน่นอน​

เสี่ยว​โม่ผงก​ปลาย​คาง​ไป​ทาง​ชิงถง บอกเป็นนัย​ว่า​เจ้าสามารถ​ไป​จาก​ที่นี่​ได้​แล้ว​

ชิงถงกัดฟัน​กรอด​ ก่อน​จะเผ่นหนี​ไป​ไกล​

รอ​กระทั่ง​เผย​กาย​เป็น​ครั้ง​ที่สอง​ แขน​ข้าง​หนึ่ง​ของ​ชิงถงก็​ถูก​เสี่ยว​โม่ตัดขาด​ไป​แล้ว​ เพียงแต่ว่า​สะบัด​ไหล่​หนึ่ง​ครั้ง​ ชิงถงก็​มีแขน​งอก​ออกมา​ได้​ใหม่​

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​กล่าว​ “ยัง​คิด​หา​ถ้อยคำ​เหมาะ​ๆ ไม่ได้​อีก​หรือ​? เวลานี้​คิด​ไม่ตก​อย่าง​มาก​เลย​ใช่ไหม​? ทั้ง​ไม่มั่นใจ​ว่า​จะหลอก​ข้า​ได้​ แล้วก็​ไม่กล้า​พอที่จะ​ถ่ายทอด​โองการ​ปลอม​ของ​ปรมาจารย์​มหา​ปราชญ์​? เพียงแต่ว่า​หาก​ไม่แต่งเรื่อง​ก็​จะถูก​เสี่ยว​โม่ไล่​ฟัน​ไม่เลิก​ ต่อให้​ยัง​ไม่ตาย​ง่ายๆ​ แต่​ความเสียหาย​ของ​ตบะ​ โดน​กระบี่​ไป​หนึ่ง​ที​กลับเป็น​ความเสียหาย​หลาย​สิบ​ปี​หรือ​นับ​ร้อย​ปี​อย่าง​จริง​แท้​แน่นอน​ อย่า​ว่าแต่​เวลา​หนึ่ง​ก้านธูป​สอง​เค่อ​เลย​ เกรง​ว่า​แค่​เค่อ​เดียว​ ขอบเขต​ก็​คง​ถดถอย​แล้ว​กระมัง​?”

ชิงถงยก​หลัง​มือ​เช็ด​คราบเลือด​มุมปาก​ “เจ้าไม่กลัว​ว่า​ข้า​จะยอมให้​หอ​สยบ​ปีศาจ​ถูก​ทำลาย​ไป​พร้อมกัน​ แล้ว​ค่อย​วิ่ง​ไป​ขอความช่วยเหลือ​จาก​อริยะ​ปราชญ์​ผู้​มีเทวรูป​ที่​เฝ้าพิทักษ์​ม่าน​ฟ้าหรือ​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ผาย​มือ​ข้าง​หนึ่ง​ออก​มาจาก​ชาย​แขน​เสื้อ​ ชูขึ้น​สูง “ไป​เถอะ​”

ชิงถงเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน​พูด​ “แม้ว่า​ปรมาจารย์​มหา​ปราชญ์​จะไม่เคย​ให้​ข้า​นำ​ความ​มาบอก​เจ้า แต่​ถึงอย่างไร​ปรมาจารย์​มหา​ปราชญ์​ก็​เคย​มาที่นี่​ เคย​พูดคุย​กับ​ข้า​จริง​แท้​แน่นอน​ หวัง​ให้​ข้า​ฝึก​ตน​ให้​ดี​ หาก​เจ้ากล้า​ทำลาย​หอ​สยบ​ปีศาจ​ ปล่อย​ตามใจ​ให้​ผู้ฝึก​กระบี่​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ที่​มาจาก​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​คน​หนึ่ง​ทำลาย​มหา​มรรคา​ของ​ข้า​…”

เฉิน​ผิง​อัน​เก็บ​มือ​มา พยักหน้า​เอ่ย​ “วันหน้า​หาก​ข้า​มีเวลาว่าง​จะไป​ขอ​รับโทษ​กับ​ทาง​ศาล​บุ๋น​เอง​ อืม​ ไปหา​อาจารย์​ของ​ข้า​ก่อน​ได้​ แล้ว​ค่อย​ไปหา​ห​ลี่​เซิ่งก็แล้วกัน​”

สีหน้า​ของ​ชิงถงเดี๋ยว​มืด​เดี๋ยว​สว่าง​ไม่แน่นอน​

เจ้าชิงถงชอบ​นอน​รอ​เสวยสุข​นัก​ไม่ใช่หรือ​?

ได้​สิ

ไม่มีปัญหา​เลย​สักนิด​

ก่อนหน้านี้​ฉวยโอกาส​ตอนที่​แสงกระบี่​ของ​เสี่ยว​โม่แหวก​ทะลุ​ตรา​ผนึก​ฟ้าดิน​ อันที่จริง​เฉิน​ผิง​อัน​ก็ได้​ใช้นก​ใน​กรง​กับ​จันทร์​กลาง​บ่อ​ส่งกระบี่​บิน​แจ้งข่าว​ไปหา​อาจารย์​ผู้เฒ่า​ท่าน​นั้น​แล้ว​

มีสัญญาวิญญูชน​ร่วมกับ​อริยะ​ปราชญ์​ผู้​มีเทวรูป​ท่าน​นั้น​

ขอให้​เขา​ช่วย​ส่งจดหมาย​ไป​ให้​ห​ลี่​เซิ่งโดย​ต้อง​ปิดบัง​อาจารย์​ของ​ตน​

ขอร้อง​ให้​ห​ลี่​เซิ่งย้าย​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ครึ่งหนึ่ง​มาที่นี่​

ส่วน​เรื่อง​ที่จะ​ถูก​หัก​คุณ​ความชอบ​ ก็​หนี​ไม่พ้น​การ​คิดบัญชี​กัน​อย่าง​เปิดเผย​ ห​ลี่​เซิ่งกับ​ศาล​บุ๋น​ทำ​ไป​ตาม​กฎระเบียบ​ได้​เลย​

กับ​อาจารย์​ซีผิง​ เกี่ยวกับ​สมุด​คุณ​ความชอบ​ที่​มีชื่อ​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​ ควรจะ​หักลบ​ไป​เท่าไร​ก็​หักลบ​ไป​เท่านั้น​

แต่​ขอบเขต​สิบ​สี่ของ​เจ้าชิงถง ชีวิต​นี้​ก็​อย่า​ได้​หวัง​อีก​เลย​

จะว่า​ไป​แล้วก็​น่าขำ​ ช่วงเวลา​ที่ผ่านมา​นี้​เฉิน​ผิง​อัน​คิด​อยู่​ตลอด​ว่า​หาก​บรรพ​จารย์​สามลัทธิ​สลาย​มรรคา​ ผู้ฝึก​ตน​ใหญ่​ขอบเขต​สิบ​สี่บางคน​อาจ​เปิดฉาก​เข่นฆ่า​อย่าง​ใจกล้า​ หรือไม่​ก็​แอบ​วางแผน​เล่นงาน​ผู้ฝึก​กระบี่​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ขั้นสูงสุด​อย่าง​ลับ​ๆ

คิดไม่ถึง​ว่า​จะจับ​ผลัด​จับ​ผลู​กลายเป็น​ตน​คน​แรก​ที่​ขัดขวาง​ไม่ให้​คนอื่น​เลื่อน​เป็น​ขอบเขต​สิบ​สี่

ถ้าอย่างนั้น​ต่อจากนี้​เจ้าชิงถงที่อยู่​ใน​ใบ​ถงทวีป​จะต้อง​รักษาตัว​หนึ่งร้อย​ปี​หรือ​หนึ่ง​พันปี​ หรือ​อาจจะ​หมื่น​ปี​ จะมีอะไร​แตก​ต่างกัน​เล่า​?

เพียงแต่​เรื่อง​นี้​ เหตุการณ์​ดำเนิน​มาถึงขั้น​นี้​แล้วก็​ไม่มีความจำเป็น​ที่​ต้อง​เปิดปาก​เอ่ย​อีก​

หลีกเลี่ยง​ไม่ให้​ดู​เป็น​การข่มขู่​ใคร​

แม้จะบอ​กว่า​รา​คาที่​ต้อง​จ่าย​ค่อนข้าง​สูง แต่​ผลกำไร​ก็​ไม่น้อย​เหมือนกัน​

ขุนเขา​สายน้ำ​ของ​หนึ่ง​ทวีป​ อีกไม่นาน​โชคชะตา​ก็​จะมั่นคง​ได้​แล้ว​

อีก​ทั้ง​วันหน้า​เรื่อง​ของ​การ​บูรณะ​ซ่อมแซม​ก็​จะราบรื่น​กว่า​เดิม​เยอะ​มาก​

มีคน​สามัคคี​ก่อน​ ก็​มีดิน​อวยพร​ แล้วจึง​ตามมา​ด้วย​ฟ้าอำนวย​

เรื่อง​มากมาย​ที่​เดิมที​ต้อง​ขอให้​ชิงถงช่วยเหลือ​ ตน​ก็​จะสามารถ​ลงมือ​ได้​ด้วยตัวเอง​แล้ว​

ปัญหา​เพียง​หนึ่งเดียว​ก็​คือ​ คาด​ว่า​พอ​อาจารย์​รู้เรื่อง​นี้​ก็​คงจะ​โมโห​ตน​ไม่เบา​เลย​กระมัง​

ไม่สน​แล้ว​

มารดา​มัน​เถอะ​

ชิงถงลังเล​อยู่​เล็กน้อย​ ก่อน​จะตะโกนเรียก​ “เฉิน​ผิง​อัน​ เจ้าไม่สงสัย​บ้าง​หรือว่า​ทำไม​ข้า​ถึงได้​…ทำตัว​ผิดแผก​ไร้เหตุผล​เช่นนี้​?”

ประโยค​สุดท้ายนี้​ชิงถงฝืนใจ​เอ่ย​ จึงพูด​อย่าง​กระอึกกระอัก​

เฉิน​ผิง​อัน​ที่​หันหลัง​ให้​ชิงถงเพียงแค่​เงยหน้า​มอง​ม่าน​ฟ้า เอ่ย​เสียงทุ้ม​หนัก​ “รีบ​เปิด​ประตู​ ไม่ต้อง​ส่งแขก​แล้ว​”

มารดา​มัน​เถอะ​ สมอง​ของ​เจ้าชิงถงนี่​มีปัญหา​ หาก​ข้า​ผู้อาวุโส​หันหน้า​ไป​ก็​เท่ากับ​ ‘พบกัน​ใหม่​อีกครั้ง​’ แล้ว​ รนหาที่​โดน​ฟัน​จริงๆ​

ชิงถงเอ่ย​ต่อ​อี​กว่า​ “ข้า​ย่อม​มีเหตุผล​เป็น​ของ​ตัวเอง​”

เฉิน​ผิง​อัน​หันหน้า​มายิ้ม​เอ่ย​ “เจ้าชอบ​ให้​เกิดเรื่อง​แทรกซ้อน​ขนาด​นี้​เชียว​หรือ​?”

ชิงถงถูก​มอง​จน​ขนลุกขนชัน​ เงียบ​ไป​พัก​หนึ่ง​ แล้ว​ก็ได้​แต่​ฝืน​นิสัย​ถามหยั่งเชิง​ว่า​ “ทบทวน​กระดาน​ร่วมกัน​ คุย​เล่น​กัน​สัก​สอง​สามประโยค​ดี​ไหม​? หาก​คุย​กัน​ถูกคอ​ขึ้น​มา เรื่อง​ของ​การ​ร่วมมือ​กัน​ก็​ใช่ว่า​จะพูดคุย​กัน​ไม่ได้​”

หนึ่ง​เพราะ​กังวล​ว่า​ความเข้าใจผิด​ของ​ทั้งสองฝ่าย​จะลึกล้ำ​เกินไป​ ย่อม​ถูก​อาฆาตแค้น​

อันที่จริง​ชิงถงไม่ได้คิด​จะอยาก​ถูกคอ​อะไร​กับ​อีก​ฝ่าย​ทั้งนั้น​ แต่​เป็น​เพราะ​กังวล​ว่า​หาก​ไอ้​หมอ​นี่​ดึงดัน​ ออกจาก​หอ​สยบ​ปีศาจ​แล้ว​ไปหา​จอม​ปราชญ์​น้อย​ที่​ศาล​บุ๋น​ ปรึกษา​เรื่อง​ย้าย​หัว​กำแพง​ครึ่งหนึ่ง​มาไว้​ที่นี่​ต่อ​ แบบ​นั้น​จะทำ​อย่างไร​? แล้ว​ถ้าจอม​ปราชญ์​น้อย​ตอบ​ตกลง​รับปาก​เจ้าหมอ​นี่​ล่ะ​?

อีก​อย่าง​ ถึงอย่างไร​ลึก​ๆ ใน​ใจของ​ชิงถงก็​รู้สึก​ไม่ยินยอม​ อยาก​จะกอบกู้​ศักดิ์ศรี​กลับคืน​มาจาก​เรื่อง​บางอย่าง​ ส่วน​เรื่อง​การต่อสู้​นั้น​ก็​ช่างเถิด​ สถานการณ์​ไม่เอื้ออำนวย​ กิน​ความขมขื่น​จน​เต็มกลืน​ การต่อสู้​สอง​ครั้งก่อน​หลัง​ของ​วันนี้​ โดยเฉพาะ​อย่าง​หลัง​ที่​ต่อสู้​จน​เกิน​พอแล้ว​จริงๆ​ ตอนนี้​ยัง​หวาดผวา​ไม่คลาย​ หาก​เป็นไปได้​ เจ้าเฉิน​ผิง​อัน​จะพบ​ข้า​หรือไม่​ก็​ไม่สำคัญ​ แต่​ขอ​แค่​อย่า​ให้​ข้า​ได้​เจอ​เจ้า ‘เสี่ยว​โม่’ ที่อยู่​ข้าง​กาย​ของ​เจ้าอีก​ก็​พอ​

เฉิน​ผิง​อัน​คิด​แล้วก็​พยักหน้า​เอ่ย​ว่า​ “แขก​ตามใจ​เจ้าบ้าน​ ยินดี​เป็น​อย่างยิ่ง​”

สะบัด​ชาย​แขน​เสื้อ​ นั่งลง​ขัดสมาธิ​ วาง​กระบี่​พาด​ขวาง​ไว้​บน​หัวเข่า​

เฉิน​ผิง​อัน​หยิบ​ยันต์​ม้าขาว​ควบ​ผ่าน​ช่องแคบ​ออกจาก​ชาย​แขน​เสื้อ​ต่อหน้าต่อตา​ชิงถงทั้งอย่างนั้น​ ปล่อย​ให้​มัน​ลอย​อยู่​ข้าง​กาย​ ใช้คำนวณ​เวลา​

ชิงถงมอง​จน​หนังตา​กระตุก​ ควรจะ​พูดว่า​เจ้าหมอ​นี่​ระมัดระวัง​รอบคอบ​ หรือ​จะบอก​ว่าไม่ไว้หน้า​ตน​เลย​สักนิด​ดี​ล่ะ​?

เห็น​ว่า​เสี่ยว​โม่นั่ง​ตาม​ ชิงถงลังเล​อยู่​ครู่หนึ่ง​ก็​เลือก​ที่จะ​นั่งลง​ตรงข้าม​กับ​พวกเขา​

ประโยค​แรก​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​เผย​ปราณ​สังหาร​ออกมา​อย่าง​ชัดเจน​ “ใบ​ถงทวีป​ สำนัก​ใบ​ถง ถ้ำสวรรค์​อู๋ถง​ของ​ตู้​เม่า เป็น​เจ้าที่​มอบให้​รึ​?”

เห็นได้ชัด​ว่า​ชิงถงเรียนรู้​จาก​ความผิดพลาด​จน​ฉลาด​ขึ้น​มาแล้ว​ แพ้​คน​ไม่แพ้​มาด​ เอ่ย​อย่าง​ไม่สบอารมณ์​ว่า​ “ร่ม​อู๋ถง​ที่​เจ้าเอา​ออก​ไป​จาก​พื้นที่​มงคล​ดอกบัว​ใน​ปี​นั้น​ นอกจาก​จะสามารถ​บดบัง​ความลับ​สวรรค์​ได้​แล้ว​ ยัง​เป็นที่ตั้ง​ของ​พื้นที่​มงคล​หนึ่งในสี่​ส่วน​ สืบสาว​กัน​ไป​ถึงต้นตอ​ก็​ยัง​เป็น​สิ่งของ​ที่​ได้​ไป​จาก​ข้า​ไม่ใช่หรือ​ไร​”

พลิก​เปิดบัญชี​เก่า​กัน​แบบนี้​ มีความหมาย​ตรงไหน​

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​เอ่ย​ “ไม่ได้คิด​จะพลิก​บัญชี​เก่า​ เรื่อง​ของ​ตู้​เม่าคิดบัญชี​เสร็จ​ไป​นาน​แล้ว​”

ชิงถงเหลือบมอง​เสี่ยว​โม่ตาม​จิตใต้สำนึก​

เสี่ยว​โม่ยิ้ม​บาง​ๆ กล่าวว่า​ “อย่า​ใช้หัวสมอง​ของ​ตัวเอง​มาวัด​ความคิด​ของ​คุณชาย​ข้า​”

กิ่ง​ของ​ต้น​อู๋ถง​ นับแต่​โบราณ​มาถูก​เรียกขาน​ว่า​ ‘กิ่ง​หงส์​’ (เพราะ​โบราณ​เชื่อ​ว่า​หงส์​จะเกาะ​อยู่​บน​กิ่ง​ต้น​อู๋ถง​เท่านั้น​)

พื้นที่​มงคล​ดอกบัว​ที่​แบ่ง​หนึ่ง​ออก​เป็น​สี่ ส่วน​ที่​เฉิน​ผิง​อัน​ได้มา​ครอง​ก็​คือ​ร่ม​กระดาษ​น้ำมัน​ที่​เจ้าอาราม​ผู้เฒ่า​มอบให้​ และ​ตัว​ร่ม​ก็​ทำ​มาจาก​กิ่ง​ของ​ต้น​อู๋ถง​

และ​นับแต่​โบราณ​มากิ่ง​ใบ​ของ​ต้น​อู๋ถง​ก็​กลัว​ลมแรง​มาโดยตลอด​ กลัว​ว่า​ราก​ต้นไม้​จะถูก​น้ำท่วม​

ผู้ฝึก​กระบี่​หนุ่ม​ที่อยู่​ตรงหน้า​ผู้​นี้​ กลิ่นอาย​บน​ร่าง​เดี๋ยว​ผลุบ​เดี๋ยว​โผล่​ เคย​สัมผัส​กับ​กลิ่นอาย​บน​มหา​มรรคา​มาจาก​เฟิงอี๋​สตรี​หน้า​เหม็น​ผู้​นั้น​

อีก​อย่าง​บน​เส้น​ทางการ​ฝึก​ตน​ที่​ไม่ถึงครึ่ง​ร้อย​ปี​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​ มหา​มรรคา​ของ​เขา​ใกล้ชิด​กับ​น้ำ​ แต่​ต้อง​ไม่ใช่ประเภท​ที่ว่า​เป็น​ผู้ฝึก​ลมปราณ​ที่เกิด​มาก็​เหมาะกับ​การ​ฝึก​วิชา​น้ำ​อย่าง​แน่นอน​

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!