กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 927

ภายหลัง​ต่อให้​จะจำต้อง​เปิด​ประตู​ต้อน​รับแขก​ แต่​ทำ​อะไร​ก็​ยัง​ไม่มีความพิถีพิถัน​อยู่​เหมือนเดิม​

ก็​เหมือน​ฮว่อ​หลง​เจิน​เห​ริน​อยาก​จะไป​พบ​หลิว​จวี้​เป่า​ที่​ศาล​บรรพชน​ประจำ​ตระกูล​แต่​จำต้อง​ผ่าน​ด่าน​ให้​ได้เสีย​ก่อน​

ขี่​ลา​หา​ลา​อะไร​นั่น​ ม้วน​ภาพ​ทั้งหมด​สิบสอง​ภาพ​ ฟ้าดิน​มายา​สิบสอง​แห่ง​ การ​หยั่งเชิง​มากมาย​ที่​ชิงถงจัดวาง​ไว้​ต่อเนื่อง​ร้อย​เรียง​กัน​ล้วน​เป็นการ​สาว​เส้น​ไหม​บน​จิต​แห่ง​มรรคา​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​ ลงแรง​กับ​ใจคน​ ซักไซ้​สืบเสาะ​ให้​รู้​แน่ชัด​บน​ผืน​นา​หัวใจ​ ไป​เยี่ยมเยียน​ลาน​ประกอบ​พิธีกรรม​ใน​ภูเขา​ของ​ผู้ฝึก​ตน​

นี่​เท่ากับ​เป็นการ​ประลอง​มรรค​กถา​ การ​ถามมรรคา​อย่างหนึ่ง​ของ​ผู้ฝึก​ตน​

นี่​ก็​คือ​การ​ถามกระบี่​ระหว่าง​ผู้ฝึก​กระบี่​ การ​ถามหมัด​ระหว่าง​ผู้ฝึก​ยุทธ​เต็มตัว​

หาก​จะให้​ลอง​ยกตัวอย่าง​อีก​ข้อ​หนึ่ง​ก็​เหมือน​เฉิน​ชิงตู​ออกจาก​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ ไป​เป็น​แขก​ที่​ศาล​บุ๋น​แผ่นดิน​กลาง​

จะต้อง​ผ่านการทดสอบ​ความรู้​ด้าน​บทกวี​บทประพันธ์​แต่ละ​ขั้น​ให้​ได้เสีย​ก่อน​

เสี่ยว​โม่หันหน้า​มาถาม “ชิงถง จะถามเจ้าเป็น​ครั้งสุดท้าย​ มีภัย​แฝงอะไร​ที่​ยาก​จะเอื้อนเอ่ย​หรือไม่​?”

ถามคำถาม​จบ​ เสี่ยว​โม่ก็​รอ​ฟังคำตอบ​ ชิงถงทำ​ท่าจะ​พูด​แต่​ก็​ไม่พูด​อยู่​หลายครั้ง​ สุดท้าย​ก็​ยังคง​เงียบงัน​ไม่เอ่ย​คำ​ใด​

เสี่ยว​โม่จึงพยักหน้า​พูด​กับ​ตัวเอง​ว่า​ “ไม่พูด​ก็​จะถือว่า​เจ้ายอมรับ​แล้ว​”

ใน​สายตา​ของ​เสี่ยว​โม่ นี่​ก็​คือ​การ​ไว้หน้า​แต่​ไม่ยอม​ให้หน้า​กัน​ตามแบบฉบับ​อย่างหนึ่ง​

อดทน​กับ​เจ้ามานาน​มาก​พอแล้ว​นะ​

ก่อนหน้านี้​เจอ​กับ​สารถี​เฒ่าใน​เมืองหลวง​ อีก​ฝ่าย​ก็​เป็น​แค่​ขุนนาง​หลัก​กก​อง​พิฆาต​หน่วย​อวี้​ซูกรม​สายฟ้า​ใน​ยุค​บรรพกาล​เท่านั้น​ ตำแหน่ง​ขุนนาง​ไม่ใหญ่​ ความสามารถ​ไม่มาก​พอ​

อีก​อย่าง​เรื่อง​พวก​นั้น​ก็​เป็น​เรื่องเก่าแก่​ปีมะโว้​แล้ว​ แล้ว​นับประสาอะไร​กับ​ที่​ก็​ไม่ถือว่า​เป็น​เรื่องใหญ่​อะไร​ เปิดบัญชี​ผ่าน​มานาน​แล้ว​ กลับมา​พลิก​เปิดบัญชี​เก่าๆ​ ไม่ใช่นิสัย​การกระทำ​ของ​เสี่ยว​โม่

ส่วน​อวี่จิ่น​ผี​เซียน​ที่อยู่​ข้าง​กาย​จงขุย​ก็​เหมือน​เรื่องตลก​ที่​ล้อเล่น​กัน​ขำ​ๆ มากกว่า​

เสี่ยว​โม่เก็บ​ไม้เท้า​เดินป่า​ไว้​ใน​ชาย​แขน​เสื้อ​

จิต​หยิน​ของ​ชิงถงตระหนก​ลน​ทันที​ ไม่ทำตัว​เป็น​คน​ใบ้​อีกต่อไป​ รีบร้อน​เอ่ย​ว่า​ “ช้าก่อน​!”

เพียงแต่​เสี่ยว​โม่ไม่ได้​สนใจ​ชิงถงอีกแล้ว​

อีก​ทั้ง​ต่อจากนี้​ชิงถงก็​มิอาจ​ห้ามปราม​ไม่ให้​เสี่ยว​โม่…ออก​กระบี่​ได้​อีก​

ฟ้าดิน​เล็ก​สอง​แห่ง​ที่​เหมือน​มีกระจก​บาน​หนึ่ง​แบ่ง​บน​ล่าง​ เส้นเขตแดน​ที่​เชื่อมโยง​ฟ้าดิน​กับ​ฟ้าดิน​เข้าด้วยกัน​คล้าย​ผ้า​ผืน​หนึ่ง​ที่​ปกคลุม​หมื่น​สรรพสิ่ง​ใน​ฟ้าดิน​เอาไว้​ ผล​กลับ​ถูก​คนใช้​นิ้ว​ขยุ้ม​หยิบ​ขึ้น​มา สุดท้าย​ฉีก​ออก​จน​เกิด​เป็น​รู​ขาด​

แล้วก็​เหมือน​รัง​ไหม​รัง​หนึ่ง​ที่​มีผู้ฝึก​กระบี่​แหว​กรัง​ไหม​ออกมา​

ห่าง​ไป​ไกล​ เฉิน​ผิง​อัน​ที่​สัมผัส​ถึงความผิดปกติ​ได้​อย่าง​เฉียบ​ไว​หันหน้า​ไป​มอง​ทาง​เสี่ยว​โม่

ครั้งแรก​ที่​ได้​พบ​เจอ​กับ​เสี่ยว​โม่คือ​ใน​ดวงจันทร์​ฮ่าวไฉ่​ อีก​ฝ่าย​มีใบ​หน้าเป็น​คนแก่​ พลัง​อำนาจ​ดุร้าย​กำเริบเสิบสาน​ ออก​กระบี่​อย่าง​เฉียบคม​

รอ​กระทั่ง​ทั้งสองฝ่าย​ได้​พบ​เจอกัน​อีกครั้ง​ก็​คือ​คนหนุ่ม​ที่​สุภาพ​สง่างามคน​หนึ่ง​แล้ว​

แต่​เสี่ยว​โม่ในเวลานี้​ ตัว​คน​ก็​เหมือนกับ​ชื่อ​คือ​ ‘แปลกหน้า​’ (โม่เซิง) อย่าง​มาก​แล้ว​

ไม่เห็น​ร่าง​จริง​ เห็น​เพียง​กาย​ธรรม​

ชุด​คลุม​อาคม​ตัว​หลวมโพรก​บน​ร่าง​ ใบ​หน้าที่​เดี๋ยว​ผลุบ​เดี๋ยว​โผล่​ แสงสีขาวนวล​กระจ่าง​ ร่าง​ทั้ง​ร่าง​โปร่งใส​แวววาว​ สะอาด​บริสุทธิ์​ประหนึ่ง​แก้ว​ใส มองไม่เห็น​กระดูก​ เส้นเอ็น​เส้น​ชีพจร​หรือ​เลือดเนื้อ​ใดๆ​

เส้น​ผม​สีขาว​หิมะ​ยาวเหยียด​ ล่องลอย​ดุจ​ภาพมายา​ กลิ่นอาย​เซียน​อบอวล​แผ่​ความ​ศักดิ์สิทธิ์​

มือหนึ่ง​ถือ​กระบี่​ พลัง​อำนาจ​โอ่อ่า​เคร่งขรึม​ ปณิธาน​กระบี่​เฉียบขาด​เด็ดเดี่ยว​ ปราก​ฎกาย​อยู่​ใน​ท่วงท่า​ถือ​กระบี่​บิน​ทะยาน​

นี่​คงจะ​เป็น​ท่วงท่า​ใน​ยาม​ที่​เสี่ยว​โม่อยู่​บน​ยอดเขา​ขั้น​สมบูรณ์แบบ​ของ​ขอบเขต​กระมัง​?

มายัง​ฟ้าดิน​ที่อยู่​เหนือ​ผิว​กระจก​

ร่าง​จริง​ของ​ต้น​อู๋ถง​ก็​อยู่​ที่นี่​

เสี่ยว​โม่ยัง​ไม่ได้​ปล่อย​กระบี่​อย่าง​จริงจัง​เลย​สักครั้ง​ ทว่า​ปราณ​กระบี่​บน​ร่าง​กลับ​อัด​แน่น​ท่วมท้น​ฟ้าดิน​เสียแล้ว​

ทั่ว​ทั้ง​ฟ้าดิน​ เพียง​ชั่วพริบตา​นั้น​ก็​มี ‘เสาค้ำ​’ ปราณ​กระบี่​นับไม่ถ้วน​ผุด​ครืน​ขึ้น​มาเสียงดัง​สนั่นหวั่นไหว​ แทง​ทะลุ​ลอด​ฟ้าดิน​อย่าง​ไร้​ความ​ยำเกรง​

ฟ้าดิน​ที่​น่าสงสาร​เหมือน​ผ้าแพร​ผืน​หนึ่ง​ที่​ผ่าน​การ​ถัก​ทอ​เย็บ​ปะ​อย่าง​ประณีต​ แต่กลับ​ต้อง​ถูก​แท่ง​น้ำแข็ง​ปลาย​แหลม​ฉาย​ประกาย​เฉียบคม​นับ​ร้อย​นับ​พัน​แทง​ทะลุ​เป็น​รู​พร้อมๆ กัน​

ฟ้าดิน​ที่​กว้างใหญ่​ไพศาล​ถูก​แสงกระบี่​จำนวน​หลาย​หมื่น​กรีด​เฉือน​ กลาย​มาเป็น​เศษเล็กเศษน้อย​ จุด​ที่​น่ากลัว​ที่สุด​นั้น​อยู่​ที่ว่า​จำนวน​ของ​แสงกระบี่​ที่​ปราก​ฎอยู่​ใน​มุมหลากหลาย​ไร้​ระเบียบ​ให้​กล่าวถึง​พวก​นี้​ยัง​เพิ่มจำนวน​ทับซ้อน​อย่าง​บ้าคลั่ง​ เป็นเหตุให้​ลำแสง​เก่า​ที่เกิด​จาก​การ​รวมตัวกัน​ของ​ปราณ​กระบี่​ถูก​แสงกระบี่​ใหม่เอี่ยม​กะเทาะ​แตก​ได้​อย่าง​ง่ายดาย​เพียง​ชั่วพริบตา​

ผู้ฝึก​ตน​ห้า​ขอบเขต​บน​ของ​ใบ​ถงทวีป​ พลังจิต​แข็งแกร่ง​หรือ​อ่อนด้อย​จะอิง​ตาม​ขอบเขต​สูงต่ำ​ของ​แต่ละคน​ แรง​สั่นสะเทือน​บน​จิต​แห่ง​มรรคา​จะเกิดขึ้น​ใน​ระดับ​ไม่เท่ากัน​ ทำให้​สัมผัส​ได้​ถึงความผิดปกติ​อย่าง​เลือนราง​

อริยะ​ปราชญ์​ลัทธิ​ขงจื๊อ​สามท่าน​ที่​เฝ้าพิทักษ์​ม่าน​ฟ้าของ​ใบ​ถงทวีป​ทอดสายตา​มอง​มาไกลๆ​ แล้ว​พลัน​หัวเราะ​ เห็น​เพียง​ว่า​กลางอากาศ​เหนือ​ภาค​กลาง​ของ​ใบ​ถงทวีป​คล้าย​กับ​มีลูก​แสงลูก​หนึ่ง​ปรากฏ​ขึ้น​มา เพียงแต่​ไม่รู้​ว่า​เหตุใด​ถึงเต็มไปด้วย​หนาม​แหลม​ ปราณ​กระบี่​อึมครึม​น่าสะพรึงกลัว​

อาจารย์​ผู้เฒ่า​ท่าน​หนึ่ง​ที่อยู่​ใกล้​กับ​ลูก​แสงมาก​ที่สุด​พูด​กลั้ว​หัวเราะ​เบา​ๆ ว่า​ “หอ​สยบ​ปีศาจ​ตัวดี​ เหตุใด​ถึงกลายเป็น​…เม่น​ตัว​หนึ่ง​ไป​แล้ว​เล่า​?”

บุญคุณ​ความแค้น​ส่วนตัว​ระหว่าง​ผู้ฝึก​ตน​ประเภท​นี้​ จะขัดขวาง​ไป​ไย​

อีก​อย่าง​อาจารย์​ผู้เฒ่า​ไม่วิ่ง​ไป​ช่วย​ไกล่เกลี่ย​แบบ​ลำเอียง​เข้าหา​ฝ่าย​หนึ่ง​ก็​ถือว่า​ไว้หน้า​สหาย​ชิงถงผู้​นี้​มาก​แล้ว​

หลาย​ปี​มานี้​ที่​สงคราม​ใหญ่​ปิดฉาก​ลง​ เนื่องจาก​ไม่รู้​ว่าด้วย​เหตุใด​ปรมาจารย์​มหา​ปราชญ์​ ห​ลี่​เซิ่ง หย่า​เซิ่งถึงไม่พูด​อะไร​สัก​คำ​ หอ​สยบ​ปีศาจ​แห่ง​นี้​ก็​แสร้ง​ทำเป็น​หูหนวก​เป็น​ใบ้​ไป​ด้วย​ ราวกับ​ผี​ขี้เหนียว​ที่​กำ​ถุงเงิน​เอาไว้​แน่น​ ไม่ยอม​ควัก​เงิน​จ่าย​แม้แต่​แดง​เดียว​ เอาแต่​นั่ง​ดูดาย​อยู่​เฉย​ๆ เป็นเหตุให้​การ​เก็บกวาด​แผงลอย​เละเทะ​ที่​ภูเขา​สายน้ำ​ย่อยยับ​ ใจคน​แตกฉานซ่านเซ็น​ของ​ใบ​ถงทวีป​ได้​แต่​ให้​เจ้าขุนเขา​ วิญญูชน​และ​นักปราชญ์​ของ​สำนักศึกษา​สามแห่ง​วิ่ง​วุ่น​ไป​ทั่ว​ เหน็ดเหนื่อย​กัน​จน​สายตัวแทบขาด​ เนื่องจาก​มิอาจ​เข้า​ร่วมกับ​กิจธุระ​ใน​โลก​มนุษย์​คือ​กฎ​เหล็ก​ข้อ​หนึ่ง​ที่​ห​ลี่​เซิ่งตั้ง​ไว้​ให้​กับ​อริยะ​ปราชญ์​ผู้​มีเทวรูป​ซึ่งทำ​หน้าที่นั่ง​พิทักษ์​ม่าน​ฟ้าอย่าง​พวกเขา​นาน​แล้ว​ ดังนั้น​พวกเขา​สามคน​จึงได้​แต่​เป็นกังวล​เท่านั้น​ ไม่อาจ​พูด​บ่น​แสดง​ความไม่พอใจ​ต่อ​หอ​สยบ​ปีศาจ​ได้​แม้แต่​ครึ่ง​คำ​

อันที่จริง​ขัดหู​ขัดตา​อีก​ฝ่าย​มานาน​หลาย​ปี​แล้ว​

มิอาจ​เรียกร้อง​ให้​คนอื่น​ทำตัว​เป็น​อริยะ​ปราชญ์​ได้​

อาจารย์​ผู้เฒ่า​ที่​เคย​เอ่ย​ชมอิ่น​กวาน​หนุ่ม​เอง​กับ​ปา​กว่า​ ‘เด็ก​รุ่นหลัง​ช่างมีมาด​สง่างามเหลือเกิน​’ ผู้​นี้​สะบัด​ชาย​แขน​เสื้อ​ ปิดบัง​ภาพ​บรรยากาศ​ผิดปกติ​แห่ง​ฟ้าดิน​นั้น​เอาไว้​

ทำไม​ เป็น​หน้าที่​ที่​ต้อง​ทำ​ ใคร​จะมาหา​ข้อ​ตำหนิ​ข้า​ได้​?

หอ​สยบ​ปีศาจ​แห่ง​หนึ่ง​ที่​ได้รับ​การ​แต่งตั้ง​อย่าง​ถูกต้อง​จาก​ศาล​บุ๋น​ กับ​ลูกศิษย์​ลัทธิ​ขงจื๊อ​สาย​ของ​เห​วิน​เซิ่งคน​หนึ่ง​ ถือเป็น​คนบ้านเดียวกัน​ที่​ปิดประตู​ตี​กันเอง​ นี่​เรียก​ว่า​เรื่อง​น่าอาย​ไม่ควร​เอา​ไป​แพร่งพราย​นอกบ้าน​

สนามรบ​แห่ง​ใหม่​ใน​ฟ้าดิน​ จิต​หยิน​ของ​ชิงถงกับ​ผู้เฒ่า​ร่าง​กำยำ​ที่​เป็น​จิต​หยาง​กาย​นอกกาย​สลาย​หายวับ​ไป​พร้อมกัน​ กลับคืน​สู่ร่าง​จริง​อีกครั้ง​

เพราะ​ถึงอย่างไร​ก็​ต้อง​รับมือ​กับ​ผู้ฝึก​กระบี่​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​คน​หนึ่ง​ ชิงถงหรือ​จะกล้า​ประมาท​

ส่วน​ร่าง​จริง​ของ​ต้น​อู๋ถง​ก็ได้​กลายเป็น​บุรุษ​เรือน​กาย​สูงเพรียว​ มีเส้น​แสงมืด​สว่าง​ตัด​สลับ​กัน​ ใบหน้า​พร่า​เลือน​ บน​ศีรษะ​สวม​กวาน​เต๋า​พุดตาน​ บน​ร่าง​สวม​เสื้อเกราะ​ใหม่เอี่ยม​ตัว​หนึ่ง​ ด้านใน​สวม​ชุด​คลุม​อาคม​สีทอง​หนึ่ง​ตัว​ เท้า​สวม​รองเท้า​สีเขียว​มรกต​ ตรง​เอว​ห้อย​แผ่น​หยก​โบราณ​เรียบง่าย​หนึ่ง​ชิ้น​ บน​แขน​สอง​ข้าง​มีกำไล​รัด​แขน​สีแดงสด​ สรุป​ก็​คือ​อะไร​ที่​เอา​มาสวม​ได้​ก็​ล้วน​ถูก​นำมาใช้​หมด​แล้ว​ สมบัติ​อาคม​บน​ภูเขา​สารพัด​อย่าง​ การ​แต่งกาย​ฉูดฉาด​สะดุดตา​…

ขณะเดียวกัน​นั้น​ผู้ฝึก​ตน​ใหญ่​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ที่​มีอายุขัย​ใน​การ​ฝึก​ตน​ยาวนาน​ผู้​นี้​ก็​ไม่ได้​อยู่​เฉย​รอ​ความตาย​ เท้า​ย่ำ​ดารา​ สอง​มือ​ทำ​มุทรา​ เรือน​กาย​ประหนึ่ง​ดอกไม้​ที่​เบ่งบาน​

ร่าง​จำแลง​ของ​ชิงถงมีมาก​นับ​พัน​ร่าง​ ต่าง​คน​ต่าง​ร่าย​วิชา​อภินิหาร​ พา​กัน​เรียก​สมบัติ​อาคม​ที่​ไม่เหมือนกัน​ ร่าย​คาถา​ทั้ง​โจมตี​และ​ป้อง​กันที่​แตก​ต่างกัน​

ช่างสมกับ​คำ​ว่า​ทักษะ​มาก​ไม่ทับ​ตัว​ตาย​จริงๆ​

เพียงแต่ว่า​เวท​คาถา​มีมาก​ ประเภท​ของ​คาถา​ก็​คละปน​กัน​ยุ่ง​ ไม่พูดถึง​ความลี้ลับ​ของ​มรรค​กถา​และ​ความสูง​ของ​ตบะ​ คาด​ว่า​ลำพัง​เพียงแค่​วิธีการ​ที่​ชิงถงร่าย​ใช้ใน​วันนี้​ก็​น่าจะ​เลื่อน​เป็น​สิบ​อันดับ​แรก​ของ​ไพศาล​ได้​แล้ว​

ร่าง​จำแลง​เหล่านี้​ของ​ชิงถงมีร้อย​กว่า​คน​ที่​รับผิดชอบ​สร้าง​ค่าย​กล​ขึ้น​มาชั่วคราว​ สร้าง​เป็น​ค่าย​กล​ขุนเขา​สายน้ำ​ ส่วนที่เหลือ​ซึ่งมีจำนวน​มากกว่า​เป็น​ร่าง​จำแลง​ของ​ยันต์​ เพื่อ​ป้อง​กันแสง​กระบี่​ที่​ผุด​พุ่ง​ออกมา​ไม่หยุดยั้ง​เหล่านั้น​ ก็​ถึงกับ​ยอม​ที่จะ​ให้​พินาศ​วอดวาย​กัน​ไป​ทั้งคู่​

และ​ผู้ฝึก​ตน​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ที่​บอ​กว่า​ตัวเอง​เป็น​ยันต์​ใหญ่​อยู่​สอง​สามชนิด​อย่าง​ชิงถง ยันต์​ใหญ่​ทั้งหลาย​ที่​เป็น​วิชา​ก้น​กรุ​ก็ได้​ถูก​เรียก​ออกมา​พร้อมกัน​ด้วย​ แต่ละ​ชนิด​ต่าง​ผสาน​กับ​มหา​มรรคา​ของ​ห้า​ธาตุ​ เรียก​ได้​ว่า​บรรลุ​สู่ขั้นสูงสุด​ของ​เส้นทาง​แห่ง​ยันต์​

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!