กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 927

สรุปบท บทที่ 927.6 ยืมพันภูเขาหมื่นสายน้ำจากท่านทั้งหลาย (เจ็ด): กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!

ตอน บทที่ 927.6 ยืมพันภูเขาหมื่นสายน้ำจากท่านทั้งหลาย (เจ็ด) จาก กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 927.6 ยืมพันภูเขาหมื่นสายน้ำจากท่านทั้งหลาย (เจ็ด) คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายกำลังภายใน กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

แต่ไหนแต่ไร​มาเมือง​หง​จู๋ก็​มีผังเมือง​ที่​ถนน​แนวตั้ง​ตรอก​แนวนอน​ ระหว่าง​ถนน​ชมน้ำ​กับ​ถนน​ชมภูเขา​มีตรอก​เล็ก​ไร้​ชื่อ​อยู่​แห่ง​หนึ่ง​ มีร้านหนังสือ​ขนาดเล็ก​ที่​ไม่มีกรอบ​ป้าย​หน้า​ร้าน​ตั้งอยู่​ที่นี่​ กิจการ​ตลอด​ทั้งปี​เงียบเหงา​ซบเซา​ เพียงแต่ว่า​ราคา​หนังสือ​สูงมาก​ผิดปกติ​ ทั้ง​ยัง​ไม่ให้​ต่อราคา​ ปี​หนึ่ง​ไม่เปิดร้าน​ เปิดร้าน​ที​หนึ่ง​กิน​ได้​นาน​สามปี​

เถ้าแก่​หนุ่ม​คน​นั้น​ก็​คือ​ห​ลี่​จิ่น​เทพ​วารี​แม่น้ำ​ชงตั้น​ เวลานี้​กำลัง​นอน​เอนกาย​งีบหลับ​อยู่​บน​เก้าอี้หวาย​ มือหนึ่ง​ถือ​เตา​อุ่น​มือ​

บาง​บ้าน​ที่​กิน​อาหาร​ส่งท้าย​ปี​กัน​เร็ว​หน่อย​ก็​จุด​ประทัด​กัน​เสียงดัง​เป็น​ระลอก​แล้ว​

คน​ที่​เป็น​ขุนนาง​ ใน​สายตา​ของ​คนนอก​ก็​หนี​ไม่พ้น​แบ่ง​ออก​เป็น​ขุนนาง​ดี​กับ​ขุนนาง​เลว​ สำหรับ​คนใน​วงการ​ขุนนาง​แล้วก็​ง่าย​เหมือนกัน​ อยาก​ปีน​ขึ้น​สู่ที่สูง​หรือไม่​

ที่ว่าการ​ของ​โลก​มนุษย์​กับ​วงการ​ขุนนาง​ขุนเขา​สายน้ำ​อันที่จริง​ก็​ไม่ได้​ต่างกัน​ ถ้าอย่างนั้น​เทพ​วารี​แห่ง​แม่น้ำ​ชงตั้น​อย่าง​ห​ลี่​จิ่น​ผู้​นี้​ก็​เห็นได้ชัด​ว่า​ถือเป็น​คน​จำพวก​ที่​ไม่อยาก​ป่ายปีน​สู่ที่สูง​

พูดถึง​แค่​ฝน​ห่า​ใหญ่​สีทอง​สามครั้ง​เมื่อ​หลาย​ปีก่อน​ เว่ย​ซาน​จวิน​แห่ง​ภูเขา​พี​อวิ๋น​ท่าน​นั้น​ได้รับ​ผลประโยชน์​มาก​ที่สุด​ ประเด็นสำคัญ​คือ​ใน​อาณาเขต​ของ​เขา​ สิ่งศักดิ์สิทธิ์​แห่ง​ขุนเขา​สายน้ำ​กลุ่ม​ใหญ่​ต่าง​ก็​มองว่า​ซาน​จวิน​ใหญ่​เว่ย​ขี้เหนียว​มาก​ แม้แต่​ภูเขา​ทายาท​ที่อยู่​ใน​อาณาเขต​ของ​ภูเขา​พี​อวิ๋น​เอง​ก็​ยัง​ไม่ได้รับ​ไอ​ฝน​สัก​เศษเสี้ยว​

ห​ลี่​จิ่น​หรี่ตา​ลง​ เส้นเอ็น​หัวใจ​ขึง​ตึง​ เพียงแต่​ไม่นาน​ก็​คลี่​ยิ้ม​แล้ว​ลุกขึ้น​ยืน​ “เจ้าขุนเขา​เฉิน​ ช่างมีวิชา​อภินิหาร​ที่​ยอดเยี่ยม​เสีย​จริง​”

รอ​กระทั่ง​ได้ยิน​คำเชื้อเชิญ​ของ​ ‘แขกไม่ได้รับเชิญ​’ ท่าน​นั้น​ ห​ลี่​จิ่น​ก็​ถามอย่าง​กังขา​ว่า​ “คล้ายคลึง​กับ​ร่ม​หมื่น​ประชา​หรือ​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ได้ยิน​คำ​เปรียบเทียบ​นี้​ก็​หลุด​หัวเราะ​พรืด​ คิด​แล้วก็​เอ่ย​ว่า​ “พอ​จะพูดว่า​เป็น​แบบนี้​ได้​อยู่​กระมัง​”

ห​ลี่​จิ่น​ครุ่นคิด​อยู่​พัก​หนึ่ง​ ก่อน​เอ่ย​ว่า​ “ข้า​ไม่ขอรับ​คุณ​ความชอบ​ส่วน​ที่​ท่าน​จะมอบให้​ แต่​ข้า​มีเรื่อง​หนึ่ง​อยาก​ขอร้อง​ ถือ​เป็นการ​แลกเปลี่ยน​กัน​”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​กล่าว​ “การค้าขาย​ยัง​คงเดิม​ แต่​หาก​เทพ​วารี​ห​ลี่​มีเรื่อง​อยาก​จะขอร้อง​ ขอ​แค่​เป็นเรื่อง​ที่​ข้า​ทำได้​ ข้า​ก็​จะไม่ปฏิเสธ​แน่นอน​”

ห​ลี่​จิ่น​ถามหยั่งเชิง​ “รอ​ให้​คราวหน้า​เจ้าขุนเขา​กลับมา​ที่​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ จะช่วย​รบกวน​ให้​เจ้าขุนเขา​ ‘ลงสี​’ บน​ภาพ​ลายเส้น​ขาว​ดำ​ให้​สัก​ภาพ​ได้​หรือไม่​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​ถาม “ใช่หนึ่ง​ใน​สอง​ภาพ​ที่​จูเหลี่ยน​มอบให้​พี่​ห​ลี่​หลัง​กลับ​จาก​นคร​ลม​เย็น​มาพร้อมกับ​เพ่​ยเซียง​แล้ว​บังเอิญ​ผ่าน​ที่​แห่ง​นี้​พอดี​หรือไม่​?”

ห​ลี่​จิ่น​พยักหน้า​รับ​ “ใช่แล้ว​”

เฉิน​ผิง​อัน​กระจ่างแจ้ง​อยู่​ใน​ใจ รู้​ว่า​คราว​ก่อนที่​จูเหลี่ยน​เดิน​ทางผ่าน​ร้าน​แห่ง​นี้​ได้​มอบ​ม้วน​ภาพ​ให้​ห​ลี่​จิ่น​สอง​ภาพ​ ล้วน​เป็น​ภาพ​ลายเส้น​ขาว​ดำ​ ภาพ​แรก​ที่​วาด​คือ​ภาพ​ปลา​หลี​กับ​ปัญญาชน​ ปัญญาชน​มีรูปโฉม​เป็น​ห​ลี่​จิ่น​ที่​ขี่​ปลา​หลี​ตัว​ใหญ่​ เผย​ให้​เห็น​แค่​หัว​กับ​หาง​ ร่าง​ของ​ปลา​หลี​ถูก​บดบัง​อยู่​ใน​ทะเล​เมฆ บน​ม้วน​ภาพ​นี้​จูเหลี่ยน​ใช้ตราประทับ​ตัวอักษร​สีชาด​แกะสลัก​เป็น​คำ​แปด​คำ​ ‘จิตใจ​ข้า​ลึกล้ำ​ ขอบเขต​ยิ่งใหญ่​แจ่มกระจ่าง​’ ส่วน​อีก​ภาพ​หนึ่ง​คือ​ปัญญาชน​ที่อยู่​ใน​ภาพ​แรก​คล้าย​กับ​ได้​กระโดด​ข้าม​ประตู​มังกร​ไป​เรียบร้อย​แล้ว​ ยืน​อยู่​บน​ประตู​มังกร​หลุบ​ตา​ลง​มอง​กระแสน้ำ​เชี่ยวกราก​ เนื่องจาก​ใน​มือ​ของ​ปัญญาชน​ได้​จับ​เสาใหญ่​ของ​ประตู​มังกร​เอาไว้​ จูเหลี่ยน​จึงประทับตรา​ด้วย​อักษร​สีขาว​เป็น​คำ​แปด​คำ​ว่า​ ‘ปลา​มังกร​เปลี่ยน​ร่าง​ เชี่ยวชาญ​ยอดเยี่ยม​’

แต่​เพียงแค่​เพราะ​ภาพ​ทั้งสอง​เป็น​ภาพ​ลายเส้น​ขาว​ดำ​ ดังนั้น​ ‘คำ​ขอร้อง​’ ของ​ห​ลี่​จิ่น​ที่​บอ​กว่า​ลงสี​ก็​เหมือน​การ​วาด​ลายเส้น​ทอง​ให้​กับ​…เทวรูป​ที่อยู่​ใน​วัดวาอาราม​อย่างหนึ่ง​

เรื่อง​ของ​การ​แต่งตั้ง​สิ่งศักดิ์สิทธิ์​แห่ง​ขุนเขา​สายน้ำ​อย่าง​เป็นทางการ​ แน่นอน​ว่า​ต้อง​ดู​ที่​วัตถุประสงค์​ของ​ฮ่องเต้​ของ​ราชสำนัก​ใน​ท้องถิ่น​ หรือไม่​ก็​อริยะ​ปราชญ์​ศาล​บุ๋น​จึงจะมี ‘ปาก​อม​กฎ​สวรรค์​’ ได้​

แต่​หาก​เป็นการ​วาด​ลายเส้น​ทอง​ใน​ระดับ​รอง​ลงมา​ พวก​ผู้ฝึก​ตน​ที่​บุญ​กุศล​เปี่ยมล้น​สมบูรณ์​ หรือไม่​ก็​ผู้ฝึก​ตน​ใหญ่​บางส่วน​ที่​ขอบเขต​มาก​เพียงพอ​ก็​สามารถ​มีประสิทธิผล​ได้​เช่นกัน​

เฉิน​ผิง​อัน​พยักหน้า​ “ไม่ต้อง​รอ​คราวหน้า​ วันนี้​ก็​ทำ​เรื่อง​นี้​ให้ได้​เลย​”

ห​ลี่​จิ่น​เอ่ย​อย่าง​จนใจ​ “อยู่​ใน​…ความฝัน​เช่นนี้​ ม้วน​ภาพ​ทั้งสอง​ของ​ข้า​ล้วน​เป็น​ของปลอม​”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​กล่าว​ “เทพ​วารี​ห​ลี่​แค่​เพ่ง​สมาธินิมิต​ถึง แค่​ลอง​ก็​จะรู้​ได้​เอง​”

ห​ลี่​จิ่น​จึงรวบรวม​สมาธินึกถึง​ม้วน​ภาพ​ทั้งสอง​ แน่นอน​ว่า​เป็น​ภาพ​ที่​ปัญญาชน​ขี่​ปลา​หลี​กลายเป็น​เซียน​ ส่วน​เรื่อง​ปลา​หลี​กระโดด​ข้าม​ประตู​มังกร​นั้น​ ตอนนี้​ยัง​ไม่กล้า​คิดถึง​

เฉิน​ผิง​อัน​บิด​หมุน​ข้อ​มือหนึ่ง​ครั้ง​ ใน​มือ​ก็​ถึงกับ​มีเหล็กหมาด​หิมะ​ที่​ปี​นั้น​มอบให้​กับ​วิญญูชน​จงขุย​ปรากฏ​ขึ้น​มา เขา​รับ​ม้วน​ภาพ​มา คลี่​กาง​กลางอากาศ​ ช่วย​ลง​ลายเส้น​สีทอง​อย่าง​ละเอียด​ให้​กับ​ปลา​หลี​ตัว​นั้น​ สุดท้าย​จึงแต้ม​นัยน์ตา​ให้​กับ​มัน​

ห​ลี่​จิ่น​ประหลาดใจ​อย่าง​หนัก​ อยู่​ใน​นิมิต​เช่นนี้​ก็​ถึงกับ​เปลี่ยน​จาก​ภาพมายา​ให้​กลายเป็น​ของจริง​ได้​ด้วย​หรือ​?

หรือว่า​ข้า​กำลัง​ฝัน​ไป​?

ใช่ ข้า​กำลัง​ฝัน​อยู่​นี่​นา​…

ถ้าอย่างนั้น​เมื่อ​ตื่น​จาก​ฝัน​แล้ว​คง​ไม่ใช่เป็นการ​ใช้ตะกร้า​ไม้ไผ่​ตัก​น้ำ​ครั้งหนึ่ง​หรอก​กระมัง​? แต่​คิด​แล้วก็​ไม่น่าจะเป็น​แบบ​นั้น​ เฉิน​ผิง​อัน​ไม่มีทาง​ล้อเล่น​กับ​ตน​ใน​เรื่อง​แบบนี้​แน่นอน​

เฉิน​ผิง​อัน​พลัน​เอ่ย​ว่า​ “ใน​เมื่อ​มาก็​มาแล้ว​ ถ้าอย่างนั้น​เรื่อง​ดี​ก็​มาเป็น​คู่​”

ห​ลี่​จิ่น​ลังเล​เล็กน้อย​

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​กล่าว​ “ไม่ได้​เหนื่อยยาก​อะไร​”

วาด​ลายเส้น​สีทอง​ลง​บน​ชุด​คลุม​อาคม​ตัว​ยาว​ที่อยู่​บน​ร่าง​ของ​ปัญญาชน​ใน​ม้วน​ภาพ​ที่สอง​

หลังจากนั้น​เฉิน​ผิง​อัน​ก็​หยิบ​ตราประทับ​ชื่อ​สอง​ชิ้น​ออกมา​ เฉิน​ผิง​อัน​แห่ง​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ เฉินสือ​อี​

บน​เป็น​อักษร​ลาย​นูน​ ล่าง​เป็น​อักษร​ลาย​เว้า​ มีทั้ง​สีแดง​และ​สีขาว​ มีความหมาย​ร้อย​เรียง​ต่อเนื่อง​กัน​

เนื่องจาก​มีข้อ​พิถีพิถัน​ใน​การ​ใช้จำนวน​ตราประทับ​ สมัยโบราณ​ชอบ​ใช้ตราประทับ​คี่​ เพราะ​มีความหมาย​ว่า​ ‘ใช้หนึ่ง​ไม่ใช้สอง​ ใช้สามไม่ใช้สี่ ใช้เลขคี่​เพื่อ​ประคอง​หยาง​’

ดังนั้น​สุดท้าย​เฉิน​ผิง​อัน​จึงหยิบ​ตราประทับ​อีก​ชิ้น​หนึ่ง​ออกมา​ คือ​ตราประทับ​อักษร​น้ำ​ที่อยู่​เคียงข้าง​เขา​มานาน​หลาย​ปี​

ห​ลี่​จิ่น​เก็บ​ม้วน​ภาพ​ทั้งสอง​มา ประสานมือ​โน้ม​กาย​คารวะ​เฉิน​ผิง​อัน​ แสดง​การ​ขอบคุณ​จาก​ใจจริง​ พอ​ยืดตัว​ขึ้น​แล้วก็​เอ่ย​เสียงทุ้ม​หนัก​ว่า​ “อีก​เดี๋ยว​ธูป​ก้าน​นั้น​จะต้อง​แสดง​ความจริงใจ​อย่าง​แท้จริง​ เทพ​วารี​แห่ง​แม่น้ำ​ชงตั้น​ ห​ลี่​จิ่น​ยินดี​ช่วย​ขุนเขา​สายน้ำ​ของ​ใบ​ถงทวีป​ตามที่​กำลัง​อันน้อย​นิด​จะอำนวย​”

คน​ชุด​เขียว​หายวับ​ไป​แล้ว​

ห​ลี่​จิ่น​ลืมตา​ขึ้น​ รีบ​หยิบ​ม้วน​ภาพ​ทั้งสอง​ออก​มาจาก​วัตถุ​ฟางชุ่น​

ลง​ลายเส้น​สีทอง​แล้ว​จริง​ดัง​คาด​

โชคชะตา​น้ำ​เปี่ยมล้น​ เหนือ​เกิน​กว่า​ที่​จินตนาการ​ไว้​

ห​ลี่​จิ่นรี​บ​ทะยาน​ลม​กลับ​ไป​ยัง​จวน​วารี​แม่น้ำ​ชงตั้น​ อีก​ทั้ง​ยัง​อาบน้ำ​ผลัด​เสื้อผ้า​อย่าง​เคร่งขรึม​จริงจัง​ สุดท้าย​สูด​ลม​หายใจเข้า​ลึก​หนึ่ง​ครั้ง​ หันหน้า​ไป​ทางทิศใต้​ สอง​นิ้ว​ทำท่า​คีบ​ธูป​ รวบรวม​โชคชะตา​น้ำ​ส่วนหนึ่ง​ใน​อาณาเขต​ สุดท้าย​จุด​ธูป​ดอก​นั้น​ขึ้น​มา

ขณะเดียวกัน​นั้น​

ใน​บริเวณ​ใกล้เคียง​กับ​แม่น้ำ​ชงตั้น​ เทพ​วารี​แห่ง​สายน้ำ​ที่​บน​แขน​มีงูเขียว​ตัว​หนึ่ง​รัด​พัน​ก็​ทำ​เช่นนี้​เหมือนกัน​

เหนียง​เนียง​เทพ​วารี​บางคน​ก็​ยิ่ง​ทำ​เช่นนี้​ มีความจริงใจ​อย่าง​ถึงที่สุด​ ไม่แพ้​ให้​กับ​สหาย​ร่วมงาน​สอง​คน​เลย​

พื้นที่​มงคล​ราก​บัว​ของ​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ เจียว​น้ำ​หง​เซี่ย​นำพา​สิ่งศักดิ์สิทธิ์​แห่ง​ขุนเขา​สายน้ำ​ใต้​อาณัติ​มากมาย​ พา​กัน​จุด​ธูป​หอม​หนึ่ง​ดอก​

ลำน้ำ​ฉีตู๋​ที่​อุตรกุรุทวีป​

ใน​จวน​โหว​ใหม่เอี่ยม​ที่​โอ่อ่า​โอฬาร​ เด็กหนุ่ม​ชุด​ดำ​ดวงตา​ทั้งคู่​เป็น​สีทอง​คน​หนึ่ง​นั่งขัดสมาธิ​อยู่​บน​เก้าอี้​ประธาน​ใน​ห้องโถง​หลัก​ ยิ้ม​ร่า​มอง​สุ่ยเจิ้ง​ของ​ศาล​ลำน้ำ​ตอน​บน​ซึ่งมาเป็น​แขก​ที่​จวน​ “ซือ​ถูจีตั้ง​ เจ้าลอง​ว่า​มาสิว่า​นี่​ว่า​เป็น​ครอบครัว​คนยากจน​ต่อให้​อยู่​ใน​ตลาด​จอแจ​ก็​ไร้​คน​ถามไถ่ ครอบครัว​คน​ร่ำรวย​ต่อให้​อยู่​ใน​ป่า​ลึก​ก็​มีญาติ​ห่างไกล​ไป​เยี่ยม​หา​หรือไม่​?”

รอยยิ้ม​บน​ใบหน้า​ของ​สหาย​ร่วมงาน​ใน​อดีต​ ลูกน้อง​ใน​ทุกวันนี้​กระอักกระอ่วน​อย่าง​ยาก​จะปกปิด​ได้​

ห​ลี่​หยวน​เพียงแค่​หัวเราะ​หึหึ​ ไม่ได้​กลัว​ว่า​อีก​ฝ่าย​จะรู้สึก​ยอก​แสลงใจ​ ทั้งสองฝ่าย​รู้ไส้​รู้​พุง​กัน​ดี​ เป็น​เพื่อนบ้าน​กัน​มานาน​หลาย​ปี​ อีก​ฝ่าย​คือ​คน​ประเภท​ที่ว่า​ไร้​ผลประโยชน์​ก็​ไม่ยอม​ตื่น​เช้า มีเพียง​เงินถึง​เท่านั้น​ ทุก​เรื่อง​ล้วน​คุย​กัน​ได้​

ทั้งสองฝ่าย​ต่าง​ก็​เป็น​สุ่ยเจิ้ง​เหมือนกัน​ เป็น​พี่น้อง​ร่วมทุกข์​ร่วม​ยาก​กัน​มานาน​หลาย​ปี​

ใน​อดีต​ศาล​สามแห่ง​ของ​ลำน้ำ​ฉีตู๋​ ก่อนหน้านี้​เหลือ​แค่​สอง​แห่ง​ ศาล​ตอน​บน​ตั้งอยู่​ที่​หน่วย​ฉงเสวียน​ราชวงศ์​ต้า​หยวน​ ห​ลี่​หยวน​รับหน้า​ที่อยู่​ใน​ศาล​ตอนกลาง​ ตั้งอยู่​ที่​สำนัก​มังกร​น้ำ​ เพียงแต่ว่า​ถูก​หลอม​ให้​กลายเป็น​ศาล​บรรพ​จารย์​ไป​

ใน​ถ้ำสวรรค์​วัง​มังกร​ เกาะ​เป็ดน้ำ​ที่​เคย​เป็น​สถานที่​ประกอบ​พิธีกรรม​ของ​ห​ลี่​หยวน​ก็​เคย​ได้​ช่วย​สาน​สะพาน​ความสัมพันธ์​ ช่วย​ให้​เฉิน​ผิง​อัน​ซื้อ​ไว้​ได้​ด้วย​ราคา​ที่ต่ำ​มาก​

เมื่อ​เทียบ​กัน​แล้ว​ ก่อนที่จะ​เลื่อนตำแหน่ง​เป็น​หลง​ถิงโหว​แห่ง​ลำน้ำ​ใหญ่​ผู้ทรงเกียรติ​ ยังคง​เป็น​เจ้าคน​ที่​ชื่อว่า​ซือ​ถูจีตั้ง​ที่อยู่​ตรงหน้า​ผู้​นี้​ที่​ฟุ่มเฟือย​มือเติบ​

ใน​หอ​สยบ​ปีศาจ​ ‘แห่ง​หนึ่ง​’ อาจารย์​ผู้เฒ่า​เรือน​กาย​สูงใหญ่​คน​หนึ่ง​ยืน​พิง​ราว​รั้ว​มอง​ไกลๆ​ ไป​ยัง​ต้น​อู๋ถง​ต้น​นั้น​

ข้าง​กาย​คือ​นักพรต​วัยกลางคน​คน​หนึ่ง​ ใน​มือถือ​ไม้เท้า​ไม้ไผ่​สีม่วง​ ตรง​เอว​ห้อย​น้ำเต้า​ลูก​ใหญ่​และ​กระบวย​ตัก​เหล้า​ สวม​เสื้อ​สีเหลือง​รองเท้า​ป่าน​ สะพาย​กระบี่​ถือ​แส้ปัดฝุ่น​

อันที่จริง​อาจารย์​ผู้เฒ่า​กับ​นักพรต​ ‘วัยกลางคน​’ ผู้​นี้​ หาก​จะพูดถึง​ในเวลานี้​แล้ว​ ทั้งสองฝ่าย​ล้วน​เป็น​คนใน​อดีต​ที่​กำลัง​มอง​เรื่อง​ในอนาคต​อยู่​ตอนนี้​

นักพรต​ยิ้ม​ถาม “ออก​เดินทางไกล​อยู่​ข้างนอก​ เป็น​อย่างไรบ้าง​?”

อาจารย์​ผู้เฒ่า​เอ่ย​เย้ยหยัน​ตัวเอง​ “ไม่อย่างไร​ ไม่อย่างไร​เลย​ เด็ก​ใน​หมู่บ้าน​รังแก​คนแก่​ไร้​เรี่ยวแรง​อย่าง​ข้า​”

อาจารย์​ผู้เฒ่า​มอง​อยู่​ครู่หนึ่ง​ก็​เอ่ย​ว่า​ “สหาย​ฉุน​หยาง​ เจ้าช่วย​ทำนาย​ชะตา​ให้​หน่อย​ได้​ไหม​?”

นักพรต​พยักหน้า​รับ​ด้วย​รอยยิ้ม​ “ปรมาจารย์​มหา​ปราชญ์​พูด​แล้ว​ หลวี่เหยียน​มีหรือ​จะกล้า​ไม่ทำตาม​”

อาจารย์​ผู้เฒ่า​เอ่ย​สัพยอก​ “หลวี่เหยียน​อะไร​กัน​ ต้อง​เป็น​หลวี่​จู่ที่​เลื่อมใส​มานาน​ถึงจะถูก​”

หลวี่เหยียน​ไม่รู้​ว่า​ควรจะ​หัวเราะ​หรือ​ร้องไห้​ดี​ นับ​นิ้ว​คำนวณ​อยู่​พัก​หนึ่ง​ก็​พูด​ด้วย​สีหน้า​เคร่งขรึม​ว่า​ “ลมโชย​เหนือ​ดิน​ มอง​”

อาจารย์​ผู้เฒ่า​อืม​รับ​หนึ่ง​ที​ คือ​แถว​ที่​ห้า​ของ​การ​ทำนาย​ พยักหน้า​รับ​ จากนั้น​โบก​ชาย​แขน​เสื้อ​ เอ่ย​ว่า​ “ทำนาย​อีก​”

คำทำนาย​ของ​หลวี่เหยียน​ก่อนหน้านี้​พูดถึง​ฟ้าดิน​เคลื่อน​โคจร​ หยิน​เติบโต​หยาง​สลาย​ มหา​มรรคา​เสื่อมถอย​หมื่น​สรรพสิ่ง​ก้าวเดิน​ลำบาก​ หรือ​ควรจะ​พูด​ให้​ถูกต้อง​ก็​คือ​ ท่ามกลาง​การเปลี่ยนแปลง​สารพัด​ ควรจะ​มองดู​สถานการณ์​ไป​ก่อน​

วิญญูชน​ควร​สงบนิ่ง​ไม่ควร​เคลื่อนไหว​ เลือก​มอง​ลมบน​กำแพง​ไป​ก่อน​ชั่วคราว​

ผ่าน​ไป​พัก​หนึ่ง​หลวี่เหยียน​ก็​เอ่ย​อี​กว่า​ “เก้า​ห้า​ มอง​ข้า​รอด​ วิญญูชน​ไร้​ภัย​”

อาจารย์​ผู้เฒ่า​ยิ้ม​เอ่ย​ “นี่​ก็​ดีมาก​น่ะ​สิ ผู้​ที่​ช่วยเหลือ​ตัวเอง​สวรรค์​ย่อม​ช่วยเหลือ​”

หลวี่เหยียน​ทำ​ท่าจะ​พูด​แต่​ก็​ไม่พูด​ ช่างเถอะ​ ท่าน​คือ​ปรมาจารย์​มหา​ปราชญ์​ ใน​ใต้​หล้า​ไพศาล​ แน่นอน​ว่า​ท่าน​พูด​อย่างไร​ก็​ต้อง​เป็น​อย่างนั้น​

อาจารย์​ผู้เฒ่า​เอา​สอง​มือ​ไพล่หลัง​ ยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “อย่า​ได้​รู้สึก​ว่า​ข้า​ทำ​อะไร​ไป​บ้าง​ จะเป็นไปได้​อย่างไร​”

ปรมาจารย์​มหา​ปราชญ์​พลัน​จุ๊ปาก​ เอ่ย​มาประโยค​หนึ่ง​ว่า​ “โอ้​ ที่แท้​แสงจันทร์​ก็​ไม่ได้​แนบ​ติดกับ​แผ่น​ฟ้า แต่​เดิน​ท่อง​อยู่​เพียงลำพัง​หรือ​นี่​”

หลวี่เหยียน​พยักหน้า​รับ​ด้วย​รอยยิ้ม​

อาจารย์​ผู้เฒ่า​เอ่ย​อย่าง​สะท้อนใจ​ตามมา​อีก​สอง​ประโยค​อย่าง​ไม่ทราบ​สาเหตุ​

ปรมาจารย์​มหา​ปราชญ์​แห่ง​ใต้​หล้า​ไพศาล​ท่าน​นี้​พูดถึง​ชื่อ​สอง​สามชื่อ​

อวี๋เค่อ​ที่​เป็น​ชื่อ​หนึ่ง​ใน​นั้น​คือ​ชื่อ​ของ​ห​ลี่​เซิ่ง ส่วน​โค่ว​หมิง​กลับเป็น​ชื่อจริง​ของ​เจ้าลัทธิ​ใหญ่​แห่ง​ป๋า​ยอ​วี้​จิง

ประโยค​ท้าย​

“ก็​ไม่รู้​จริงๆ​ ว่า​ใน​โลก​นี้​จะมีคน​สัก​กี่​คน​ที่​ก่อ​ลัทธิ​ตั้ง​ตน​เป็น​บรรพ​จารย์​ แล้​วจะ​มีสัก​กี่​คน​ที่​บอ​กว่า​ตัวเอง​ไร้​ศัตรู​เทียมทาน​”

ประโยค​ก่อนหน้า​นั้น​

“หาก​ไม่มีเฉิน​ชิงตู​ อวี๋เค่อ​ โค่ว​หมิง​ เฉิน​ผิง​อัน​”

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!