กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 928

สรุปบท บทที่ 928.2 ยืมพันภูเขาหมื่นสายน้ำจากท่านทั้งหลาย (แปด): กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!

ตอน บทที่ 928.2 ยืมพันภูเขาหมื่นสายน้ำจากท่านทั้งหลาย (แปด) จาก กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 928.2 ยืมพันภูเขาหมื่นสายน้ำจากท่านทั้งหลาย (แปด) คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายกำลังภายใน กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ส่งฮ่องเต้​สกุล​ห​ลูก​ลับ​ห้อง​ทรง​พระ​อักษร​ใน​เมืองหลวง​แล้ว​ เฉิน​ผิง​อัน​ก็​ไป​เยือน​ศาล​ลำคลอง​เหยา​เย่​ ไป​พบ​กับ​พ่อ​ปู่​ลำคลอง​ที่​ชื่อว่า​เซวีย​หยวน​เซิ่งอีกครั้ง​

ครั้งแรก​ที่​เดินทาง​มาเที่ยว​เยือน​อุตรกุรุทวีป​ หลังจากที่​เฉิน​ผิง​อัน​ออก​มาจาก​นคร​ปี้​ฮว่า​ก็​เป็น​พ่อ​ปู่​ลำคลอง​ที่​ชอบ​ถ่อ​เรือ​ผู้​นี้​ที่​เป็น​คนพาย​เรือ​พา​ตน​ไป​ส่งรอบ​หนึ่ง​

เซวีย​หยวน​เซิ่งยังคง​เหมือนเดิม​ คือ​ผู้เฒ่า​ผิวดำ​เกรียม​เหมือน​ชาวนา​อายุ​มาก​คน​หนึ่ง​ที่​หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดิน​อยู่​ตลอด​ทั้งปี​

เพียงแต่ว่า​เฉิน​ผิง​อัน​ในเวลานั้น​กลับ​แต่งกาย​ด้วย​การสวม​งอบ​ห้อย​กา​เหล้า​โดยสาร​เรือ​ข้าม​แม่น้ำ​

หลังจาก​แน่ใจ​ใน​ตัวตน​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​แล้ว​ ผู้เฒ่า​ผู้​เป็น​พ่อ​ปู่​ลำคลอง​ก็​จุ๊ปาก​ด้วย​ความประหลาดใจ​ ส่ายหน้า​เอ่ย​ว่า​ “ไม่กล้า​เชื่อ​เลย​ว่า​ศาล​เล็ก​ๆ ของ​ตัวเอง​จะเคย​รับรอง​ควัน​ธูป​ของ​ใต้เท้า​อิ่น​กวาน​มาก่อน​”

ปี​นั้น​เซวีย​หยวน​เซิ่งเข้าใจผิด​คิด​ว่า​ตัวเอง​เจอ​กับ​เจ้าโง่ที่​ไม่เข้าใจ​เรื่อง​ทางโลก​คน​หนึ่ง​

ถึงกับ​ปล่อย​ให้​โชควาสนา​ใหญ่​เทียมฟ้า​เช่นนั้น​หลุด​ลอดผ่าน​ร่อง​นิ้ว​ของ​ตัวเอง​ไป​ สุดท้าย​คลาด​กับ​โอกาส​ที่จะ​ถูก​เทพ​หญิง​ฉีลู่​ของ​นคร​ปี้​ฮว่า​รับ​เป็น​นาย​

เซวีย​หยวน​เซิ่งกับ​เซียน​กระบี่​ชุด​เขียว​เดิน​ออก​มาจาก​ศาล​ เดินเล่น​ไป​ริม​ลำคลอง​ด้วยกัน​ ยาก​จะจินตนาการ​ได้​ว่า​ผู้เฒ่า​ที่​ร่าง​ทอง​ไม่ด้อย​ไป​กว่า​เทพ​วารี​ของ​แม่น้ำ​ใหญ่​ผู้​นี้​ ทุกวันนี้​จะยังคง​เป็น​พ่อ​ปู่​ลำคลอง​ของ​ศาล​เถื่อน​ที่​ไม่ได้รับ​การ​แต่งตั้ง​จาก​ทาง​ราชสำนัก​

เซวีย​หยวน​เซิ่งชี้ไป​ยัง​มุมหนึ่ง​ของ​ลำคลอง​ ยิ้ม​เอ่ย​ว่า​ “ปี​นั้น​แม่นาง​น้อย​แซ่เผย​ก็​มาฝ่าทะลุ​ขอบเขต​อยู่​ที่นี่​ พลานุภาพ​ยิ่งใหญ่​น่า​ตกใจ​ ดี​นัก​นะ​ นี่​เพิ่ง​ผ่าน​ไป​แค่​ไม่กี่​ปี​ ทุกวันนี้​ก็​ต้อง​เรียก​นาง​ว่า​ปรมาจารย์​ใหญ่​เผย​แล้ว​”

หลังจากที่​ภูเขา​ลั่วพั่ว​เข้าร่วม​งานพิธี​ของ​ภูเขา​ตะวัน​เที่ยง​ เรื่อง​นี้​ก็​กลาย​มาเป็น​หัวข้อ​พูดคุย​ที่​ไม่เล็ก​บน​โต๊ะ​สุรา​ของ​เซวีย​หยวน​เซิ่งกับ​พวก​สหาย​เก่าแก่​ทั้งหลาย​

อาจารย์​ผู้เฒ่า​เคย​ยืน​นิ่ง​ไม่ขยับ​รับ​หนึ่ง​หมัด​จาก​การ​ฝ่าทะลุ​ขอบเขต​ของ​ปรมาจารย์​ใหญ่​เผย​ผู้​นั้น​

หลังจากนั้น​ทั้งสองฝ่าย​ก็​ถือว่า​ไม่ตี​กัน​ไม่รู้จัก​กัน​ใน​ยุทธ​ภพ​กระมัง​ อาจารย์​ผู้เฒ่า​ถ่อ​เรือ​พา​นาง​ข้าม​แม่น้ำ​ พูดคุย​กัน​อย่าง​ถูกคอ​มาก​

เฉิน​ผิง​อัน​พยัก​หน้ายิ้ม​รับ​

ตอนนั้น​โอกาส​ใน​การ​ฝ่าทะลุ​ขอบเขต​ของ​เผย​เฉียน​อยู่​ที่​การต่อสู้​ระหว่าง​หลักการ​เหตุผล​ใน​ใจนาง​กับ​หลักการ​เหตุผล​บน​โลก​

เฉิน​ผิง​อัน​เคย​สอบ​ถามถึงเรื่องราว​น้อย​ใหญ่​ระหว่าง​ที่​ท่อง​ผ่าน​ขุนเขา​สายน้ำ​ร่วมกับ​เผย​เฉียน​จากห​ลี่​ไหว​อย่าง​ละเอียด​มาก่อน​

แม่นาง​น้อย​เติบใหญ่​แล้ว​ กลายเป็น​เด็กสาว​ แล้วจึง​กลาย​มาเป็น​หญิงสาว​ ก็​น่าจะ​มีเรื่อง​บางอย่าง​ที่เก็บ​ซ่อน​ไว้​ใน​ใจ

ต่อให้​เฉิน​ผิง​อัน​จะเป็น​อาจารย์​ของ​นาง​ก็​ยัง​ไม่สะดวก​จะถามมาก​นัก​

เซวีย​หยวน​เซิ่งนั่ง​ยอง​ตาม​ความเคยชิน​ หยิบ​ดิน​ขึ้น​มาปั้น​ หัวเราะ​หึหึ​เอ่ย​ว่า​ “ปี​นั้น​เจ้าคิด​อย่างไร​กัน​แน่​ โชควาสนา​ที่​คนอื่น​อยาก​ได้มา​ครอบครอง​แทบตาย​ แต่​เจ้ากลับ​อยาก​หลบ​ให้​พ้น​ใจจะขาด​ แรกเริ่ม​ข้า​เข้าใจผิด​คิด​ว่า​เจ้าเป็น​ตอไม้​ที่​ไม่เข้าใจ​เรื่อง​ความรัก​ หรือไม่​ก็​เป็น​เจ้าโง่ที่​สมอง​ไม่สมประดี​ มิฉะนั้น​ก็​อธิบาย​เรื่อง​นี้​ไม่ได้​เลย​จริงๆ​ ตอนนี้​มานึกดู​ คน​ผู้​หนึ่ง​ที่​กลายเป็น​เซียน​กระบี่​ เป็น​อิ่น​กวาน​ได้​ จะเป็น​คนโง่​ได้​อย่างไร​ ถ้าอย่างนั้น​ปี​นั้น​เจ้าก็​ต้อง​แกล้ง​โง่แน่​”

เฉิน​ผิง​อัน​นั่งลง​ริมฝั่ง​ง่ายๆ​ พยักหน้า​เอ่ย​ว่า​ “ตอนนั้น​ข้า​แกล้ง​โง่จริงๆ​ แต่​ก็​กลัว​จริงๆ​ ด้วย​นั่นแหละ​”

เซวีย​หยวน​เซิ่งหัวเราะ​ “เทพ​หญิง​ฉีลู่​ผู้​นั้น​สูงส่งนัก​ มีแต่​นาง​ที่​ไม่เห็น​คนอื่น​อยู่​ใน​สายตา​ ผล​คือ​ไม่รู้​ว่า​คน​จาก​ต่างถิ่น​โผล่​มาจาก​ที่ใด​ ปี​นั้น​นาง​ถูก​เจ้าทำให้​โมโห​เกือบตาย​แล้ว​ หาก​ได้ยิน​คำพูด​ทุเรศ​ประโยค​นี้​ของ​เจ้าอีก​คง​ต้อง​ถูก​เจ้าทำให้​โมโห​ปางตาย​อีก​หน​”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​กล่าว​ “ก็​แค่​ต่าง​คน​ต่าง​มีสิ่งที่​ตัวเอง​ชื่นชอบ​ ไม่มีการ​แบ่งแยก​สูงต่ำ​อะไร​”

พ่อ​ปู่​ลำคลอง​แอบ​นินทา​ใน​ใจอย่าง​ที่​ไม่เคย​ทำ​มาก่อน​ น่าประหลาด​นัก​ ดูเหมือนว่า​เซียน​กระบี่​หนุ่ม​ที่อยู่​ข้าง​กาย​ผู้​นี้​ ปี​นั้น​เคย​เดิน​ทางผ่าน​มารอบ​หนึ่ง​ เทพ​หญิง​แปด​ท่าน​ที่​เป็น​ภาพ​สีสัน​ใน​นคร​ปี้​ฮว่า​อย่าง​ชุน​กวาน​ เป่า​ไก้​ ห​ลิง​จือ​ จ่างฉิง เซียน​จั้ง ฉีลู่​ สิงอ​วี่​ ก​ว้า​เยี่ยน​ ต่าง​ก็​กลาย​มาเป็น​ภาพ​ลายเส้น​ขาว​ดำ​กัน​หมด​ แน่นอน​ว่า​ห้า​ท่าน​แรก​ได้​ออก​ไป​จาก​นคร​ปี้​ฮว่า​กัน​นาน​แล้ว​ บ้าง​เป็น​บ้าง​ตาย​ ต่าง​คน​ต่าง​มีโชควาสนา​กระมัง​

แต่​ใต้เท้า​อิ่น​กวาน​ผู้​นี้​จะถือว่า​เป็น​คน​สุดท้าย​ที่​คอย​นั่ง​ชมอยู่​ด้าน​ข้าง​หรือไม่​?

เฉิน​ผิง​อัน​หยิบ​น้ำเต้า​เลี้ยง​กระบี่​ลูก​นั้น​ออกมา​ดื่มเหล้า​หนึ่ง​อึก​ นี่​ก็​คือ​การ​แสร้ง​ดื่มเหล้า​ของจริง​ที่จริง​ไป​มากกว่า​นี้​ไม่ได้​อีกแล้ว​

ภาพวาด​ฝาผนัง​ลง​สีสัน​ที่​เหลือ​เพียง​สามภาพ​ใน​ปี​นั้น​ เทพ​หญิง​ฉีลู่​ นาง​เคย​ถูก​คนต่างถิ่น​อายุ​น้อย​บางคน​ทำให้​เสียใจ​อย่าง​สุด​แสน​ เพียงแต่ว่า​ภายใต้​โชควาสนา​อำนวย​จึงหันไป​สวามิภักดิ์​กับ​เจ้าสำนัก​ชิงเหลียง​ที่​จิต​แห่ง​มรรคา​สอดคล้องต้องกัน​อย่าง​เฮ้อ​เสี่ยว​เหลียง​ ส่วน​เทพ​หญิง​สิงอ​วี่​ที่​เชี่ยวชาญ​วิชา​หมากล้อม​ มีนาม​ว่า​ซูสื่อ​ ก็ได้​มีสัญญาหกสิบ​ปี​ร่วมกับ​ผู้ฝึก​ตน​หนุ่ม​ที่​ใน​มือถือ​ป้าย​หยก​โบราณ​ คุกเข่า​โขก​หัว​จนกระทั่ง​กระดูกหน้าผาก​ปริ​ออกมา​ จากนั้น​นาง​ถึงจะไป​ขอ​รับโทษ​จาก​ ‘ห​ลี่​หลิ่ว​’

ส่วน​เทพ​หญิง​ก​ว้า​เยี่ยน​ก็ได้​ติดตาม​เจ้านาย​ไป​ยัง​หลิว​เสีย​ทวีป​ ก่อน​จะออก​ไป​จาก​ชายหาด​โครงกระดูก​นาง​ได้​ไป​เยือน​หุบเขา​ผี​ร้าย​มารอบ​หนึ่ง​ เก็บ​บ่อ​สายฟ้า​ขนาด​จิ๋ว​ของ​ภูเขา​จีเซียว​มาไว้​ใน​กระเป๋า​ของ​ตัวเอง​

และ​เจ้านาย​ที่​นาง​ยอมรับ​ก็​คือ​เจ้านคร​ของ​นคร​หรง​เม่าที่อยู่​บน​เรือ​ราตรี​ เส้าเป่า​เจวี้ยน​

ทุกครั้งที่​เฉิน​ผิง​อัน​คิดถึง​เรื่อง​นี้​ก็​ไม่รู้​ว่า​โทสะ​ผุด​มาจาก​ไหน​ ปี​นั้น​ข้า​ผู้อาวุโส​อาศัย​ความสามารถ​ขุด​เอา​แส้สายฟ้า​จาก​ภูเขา​จีเซียว​มาได้​แค่​ไม่กี่​เส้น​เท่านั้น​ ไป​เกิด​ความขัดแย้ง​บน​มหา​มรรคา​กับ​เจ้าได้​อย่างไร​? มหา​มรรคา​บ้าน​เจ้าคือ​ทาง​เส้น​เล็ก​ริม​คันนา​อย่างนั้น​หรือ​? ต่อให้​เป็น​ทาง​เส้น​เล็ก​ริม​คันนา​ก็​ยัง​ดี​ ต่าง​คน​ต่าง​เบี่ยง​ตัว​เดิน​หลบ​กัน​ก็​เดินสวน​ไหล่​ผ่าน​กัน​ไป​ได้​แล้ว​ จากนั้น​ต่าง​คน​ก็​ต่าง​เดินหน้า​ไป​สิ

เซวีย​หยวน​เซิ่งถามอย่าง​ใคร่รู้​ “นี่​อยู่​ใน​ความฝัน​ของ​ใต้เท้า​อิ่น​กวาน​หรือ​?”

เฉิน​ผิง​อัน​พยักหน้า​รับ​

เซวีย​หยวน​เซิ่งทอดถอนใจ​อย่า​งอด​ไม่ได้​ “แบบนี้​ก็ได้​ด้วย​หรือ​?! ฝึก​ตน​ประสบความสำเร็จ​มาก​แล้ว​จริงๆ​ คำ​ว่า​จากลา​สามวัน​ต้อง​หันมา​มอง​กัน​เสีย​ใหม่​ช่างกล่าว​ได้ดี​จริงๆ​”

“แค่​ใช้วิธี​เล่น​เหลี่ยม​เอา​เท่านั้น​”

“บัณฑิต​อย่าง​พวก​เจ้าพูดจา​รัดกุม​น้ำ​ไม่ไหล​สัก​หยด​จริงๆ​”

“ก็​มีค่า​แค่​เงิน​แปด​เฉียน​เท่านั้นเอง​”

เซวีย​หยวน​เซิ่งอึ้ง​ตะลึง​ จากนั้น​ก็​หัวเราะ​ฮ่าๆ เสียงดัง​ “ว่า​มาเถอะ​ ครั้งนี้​มาหา​ข้า​ด้วย​เรื่อง​อะไร​”

พอ​ได้รับ​คำตอบ​จาก​เฉิน​ผิง​อัน​ เซวีย​หยวน​เซิ่งก็​ขมวดคิ้ว​ “เพื่อ​อะไร​? คุ้มค่า​หรือ​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ส่ายหน้า​ “คำถาม​ประเภท​นี้​ ใคร​ก็​ถามได้​ มีเพียง​อาจารย์​เซวีย​ที่​ถามแล้ว​เกินความจำเป็น​”

หาก​ทำ​เพื่อ​ความคุ้มค่า​ ระดับความสูง​ของ​ร่าง​ทอง​ของ​เซวีย​หยวน​เซิ่งใน​ทุกวันนี้​ อย่าง​น้อย​ก็​สามารถ​เพิ่ม​สูงขึ้น​ได้​อีก​ห้า​เท่า​

หาก​เป็น​เช่นนี้​ ด้วย​การ​แต่งตั้ง​ลำน้ำ​ใหญ่​ใน​ทุกวันนี้​ เซวีย​หยวน​เซิ่งก็​ถือว่า​มีคุณสมบัติ​มาก​พอ​เหลือแหล่​ที่จะ​เข้า​เสริม​ตำแหน่ง​สุ่ยเจิ้ง​ของ​ศาล​ลำน้ำ​ที่ว่าง​อยู่​ได้​แล้ว​

เซวีย​หยวน​เซิ่งยก​สอง​มือขึ้น​ขยี้​ใบหน้า​อย่าง​แรง​ พยักหน้า​เอ่ย​ว่า​ “ถ้าอย่างนั้น​ก็​ตกลง​ตาม​นี้​ ก็​แค่​ธูป​หนึ่ง​ดอก​ด้วย​ความจริงใจ​เท่านั้น​ ถือว่า​กราบไหว้​ความ​ไม่คุ้มค่า​ใน​ใจของ​เจ้าและ​ข้า​นั้น​ก็แล้วกัน​”

ทั้งสองฝ่าย​คุย​ธุระ​กัน​ ต่าง​ก็​เป็น​คน​ที่​ตัดสินใจ​ฉับไว​ จึงเป็น​แค่​เรื่อง​ของ​การ​พูดคุย​สอง​สามประโยค​เท่านั้น​

กลับเป็น​ตอน​พูดถึง​เผย​เฉียน​ที่​เหมือนกับ​เปิด​กล่อง​บทสนทนา​ คน​หนึ่ง​ยินดี​พูด​เยอะ​ อีก​คน​ก็​ยินดี​จะฟังเรื่อง​พวก​นี้​ ตัดใจ​จะจากไป​ไม่ได้​

เซวีย​หยวน​เซิ่งเล่า​ว่า​ไม่อาจ​เอา​แม่นาง​น้อยหน้า​เงิน​ใน​ปี​นั้น​มาเชื่อมโยง​เข้ากับ​ ‘เจิ้งซาเฉียน’​ และ​ ‘เผย​เฉียน’​ ใน​ภายหลัง​ได้​อย่างไร​

เซวีย​หยวน​เซิ่งถอนหายใจ​ “แค่​ประโยค​นี้​ของ​เจ้าก็​พอแล้ว​ เทียบ​กับ​การ​เป็น​เทพ​วารี​ที่​ตำแหน่ง​เทพ​สูงส่งแล้ว​ยัง​สบายใจ​กว่า​กัน​มาก​”

เฉิน​ผิง​อัน​ใช้เสียง​ใน​ใจเอ่ย​ว่า​ “พ่อ​ปู่​ลำคลอง​เซวี​ย​ หาก​ท่าน​เป็น​พ่อ​ปู่​ลำคลอง​ของ​ศาล​เถื่อน​ไป​ตลอด​ บางที​อาจ​พลาดโอกาส​ที่​ไม่เล็ก​ไป​”

เซวีย​หยวน​เซิ่งยื่นมือ​มาตบ​ไหล่​คนหนุ่ม​ ยิ้ม​กล่าว​ “เฉิน​ผิง​อัน​ น้ำใจ​นี้​ข้า​รับ​ไว้​แล้ว​ เจ้าไป​ทำ​ธุระ​ต่อ​เถอะ​ เร่ง​เดินทาง​สำคัญ​กว่า​”

เฉิน​ผิง​อัน​พยักหน้า​

เซวีย​หยวน​เซิ่งลุกขึ้น​ยืน​ ยิ้ม​ถามว่า​ “หลาย​ปี​มานี้​คง​ไม่ค่อย​ง่าย​เลย​สินะ​?”

“พูด​ไป​พูด​มา อันที่จริง​ก็​ง่าย​มาก​ ก็​หนี​ไม่พ้น​ว่า​…”

เฉิน​ผิง​อัน​หยุดชะงัก​ไป​เล็กน้อย​ ก่อน​เอ่ย​เนิบ​ช้าว่า​ “คน​ทำ​เรื่อง​ เรื่อง​สอน​คน​”

เซวีย​หยวน​เซิ่งพยักหน้า​เอ่ย​ “ดูเหมือนว่า​ต่อให้​พูด​จน​ฟ้าทะลุ​ก็​ยังคง​เป็น​เหตุผล​ข้อ​นี้​นั่นเอง​”

เฉิน​ผิง​อัน​คลี่​ยิ้ม​สดใส​ กุม​หมัด​อำลา​

เซวีย​หยวน​เซิ่งกุม​หมัด​กลับคืน​เงียบๆ​

กระทั่ง​วันนี้​พ่อ​ปู่​ลำคลอง​ถึงเพิ่งจะ​รู้​ว่า​ที่แท้​แล้ว​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​กับ​อิ่น​กวาน​ต่าง​ก็​มีความสำเร็จ​ร่วมกัน​ ต่าง​ก็​ไม่ทรยศ​กันและกัน​

……

จวน​ห​ลิง​หยวน​กง​ลำคลอง​จี้ตู๋​

ยาม​ฟ้าสาง กลุ่ม​สตรี​ที่​ตอนนี้​ยัง​ไม่ต้อง​ไป​ขานชื่อ​เข้างาน​ที่​โถงกลาง​มารวมตัว​คุย​เล่น​กัน​อยู่​ใน​ระเบียง​ทางเดิน​แห่ง​หนึ่ง​ เนื่องจาก​ไม่ถือว่า​เป็น​ ‘ทางหลวง​’ ของ​จวน​น้ำ​ จึงถูก​กำหนด​มาแล้ว​ว่า​จะไม่มีคนนอก​เดินผ่าน​ที่​แห่ง​นี้​ พวก​นาง​จึงไม่ต้อง​พิถีพิถัน​ใน​เรื่อง​มารยาท​พิธีการ​มาก​นัก​ สถานะ​ของ​พวก​นาง​ส่วนใหญ่​คือ​ขุนนาง​หญิง​ใน​กอง​ตรวจสอบ​ย้อน​และ​กอง​แบ่ง​เขต​ของ​จวน​น้ำ​ ฝ่าย​แรก​รับหน้าที่​กำหนด​เขตแดน​ของ​ต้นกำเนิด​สายน้ำ​น้อย​ใหญ่​ รวมไปถึง​ปกป้อง​ต้นกำเนิด​สายน้ำ​พวก​นี้​ไม่ให้​ถูก​มนุษย์​ธรรมดา​ล่วงล้ำ​เข้ามา​ทำ​เรื่อง​ที่​ผิด​กฎ​ ส่วน​หน้าที่​ของ​ฝ่าย​หลัง​ค่อนข้าง​คล้ายคลึง​กับ​ตี้ซือ​แห่ง​กอง​โหราศาสตร์​ กำหนด​ขอบเขต​แบ่งแยก​ให้​ชัดเจน​ ทุกๆ​ ระยะเวลา​ที่​กำหนด​จะต้อง​คอย​ไป​ตรวจตรา​เส้น​ชายแดน​ของ​ลำธาร​ลำคลอง​แม่น้ำ​ทะเลสาบ​ทั้งหมด​ เฝ้าพิทักษ์​ศิลา​แบ่ง​เขต​ของ​ใน​แต่ละ​พื้นที่​ ทั้งสอง​สถานที่​นี้​ต่าง​ก็​เป็น​ที่ว่าการ​น้ำ​ใสสมชื่อ​ อำนาจ​น้อย​ ไร้​ค่าน้ำร้อนน้ำชา​ เวลา​ปกติ​ก็​มีเรื่อง​ให้​ทำ​น้อย​เช่นกัน​

สตรี​เหล่านี้​หาก​ไม่ใช่เซียน​น้ำ​หรือ​ผี​พราย​ของ​ตำหนัก​วารี​หนันซ​วิน​เก่า​ก็​คือ​ผู้ฝึก​ตน​หญิง​อายุ​น้อย​ที่​เพิ่ง​มาอยู่​ใน​จวน​น้ำ​ได้​แค่​ไม่กี่​ปี​ ส่วนใหญ่​ยังมี​ความ​อ่อนเยาว์​อยู่​มาก​ นิสัย​ก็​ร่าเริง​ ยัง​ไม่ถูกลับ​เหลี่ยม​คม​อย่าง​เต็มที่​ พอ​มาอยู่​ด้วยกัน​ก็​ชวน​กัน​คุย​เสียงดัง​เจื้อยแจ้ว​ ครึกครื้น​อย่าง​มาก​ หาก​เป็น​บริเวณ​ใกล้เคียง​กับ​ห้องทำงาน​ของ​ที่ว่าการ​ที่​สำคัญ​อย่าง​พวก​กอง​ตรวจสอบ​หรือ​กอง​ให้รางวัล​และ​ลงโทษ​จะไม่มีทางได้​เห็น​ทัศนียภาพ​งดงาม​ชวน​เคลิบเคลิ้ม​เช่นนี้​แน่นอน​

มีเด็กสาว​คน​หนึ่ง​ที่​มีชาติกำเนิด​มาจาก​ตระกูล​ชั้นสูง​ของ​ราชวงศ์​ต้าจ้วน​อดไม่ไหว​ถามว่า​ “หาก​อิง​ตาม​การอธิบาย​ตัวอักษร​ของ​อาจารย์​สวี่​ อักษร​คำ​ว่า​ตู๋​หมายถึง​คูน้ำ​เล็ก​ๆ ถ้าอย่างนั้น​ก็​เป็น​แค่​ร่องน้ำ​เล็ก​ๆ สาย​หนึ่ง​เท่านั้นเอง​น่ะ​สิ นี่​มัน​เรื่อง​อะไร​กัน​?”

ขุนนาง​หญิง​ที่​มาจาก​กอง​แบ่ง​เขต​ของ​จวน​วารี​หนันซ​วิน​พยัก​หน้ายิ้ม​เอ่ย​ “อาจารย์​ผู้เฒ่า​เห​วิน​เซิ่งก็​มีบท​ฝึก​ตน​ที่​กล่าว​ไว้​ว่า​ ‘ต้นกำเนิด​น้ำ​ถูก​อุด​กั้น​ เปิด​เป็น​ร่อง​คู​ ต่อให้​เป็น​แม่น้ำ​ใหญ่​ก็​ยัง​แห้งขอด​ได้​’ นี่​แสดงให้เห็น​ว่า​อาจารย์​ผู้เฒ่า​เห​วิน​เซิ่งของ​พวกเรา​เห็น​ว่า​คำ​ว่า​ ‘ตู๋’​ นี้​จะต้อง​เล็ก​กว่า​แม่น้ำ​ลำคลอง​ นี่​ก็​เป็นการ​ยืนยัน​คำกล่าว​ของ​อาจารย์​สวี่​แล้ว​ ส่วน​คำ​ว่า​ตู๋​นี้​กลาย​มาเป็น​ลำน้ำ​ใหญ่​ได้​อย่างไร​ เมื่อก่อน​ข้า​เคย​ทำงาน​ใน​หน่วย​เอกสาร​ของ​จวน​วารี​ เคย​อ่าน​เกร็ดพงศาวดาร​ของ​ทางการ​มาหลาย​เล่ม​ ดูเหมือนว่า​จะไม่มีบันทึก​ไว้​เป็น​ลายลักษณ์อักษร​นะ​”

แล้วก็​มีตัวอ่อน​ด้าน​การ​ฝึก​ตน​ที่​มีชาติกำเนิด​จาก​กลุ่ม​ชาวบ้าน​คน​หนึ่ง​ถามอย่าง​ขลาด​ๆ ว่า​ “ทำไม​ถึงเป็น​อาจารย์​ผู้เฒ่า​เห​วิน​เซิ่งของ​ ‘พวกเรา​’ ได้​เล่า​?”

แน่นอน​ว่า​นาง​ต้อง​รู้จัก​อาจารย์​ผู้เฒ่า​ที่​ได้​ตำแหน่ง​เทพ​ใน​ศาล​บุ๋น​กลับมา​ใหม่​ผู้​นั้น​ เพียงแต่​เห​วิน​เซิ่งไม่ได้​เป็น​คน​ของ​แผ่นดิน​กลาง​หรือ​?

น่านน้ำ​ของ​จี้ตู๋​แบ่ง​หนึ่ง​ออก​เป็น​สอง​ อาณาบริเวณ​ก็​ยังคง​กว้างใหญ่​ ราชวงศ์​และ​แคว้น​เล็ก​ใต้​อาณัติ​มากมาย​ที่อยู่​ใน​การปกครอง​ของ​จวน​ห​ลิง​หยวน​กง​มีเกือบ​แปดสิบ​แห่ง​ เหมือน​อย่าง​ราชวงศ์​ต้า​จวน​ที่​ตั้งอยู่​ใกล้​กับ​ปากทาง​ลำน้ำ​จี้ตู๋​ไหล​ลง​มหาสมุทร​ เมื่อ​หลาย​ปีก่อน​ก็ได้​มีการออกคำสั่ง​อย่างหนึ่ง​ ทั้งคน​สกุล​โจว​ใน​ท้องถิ่น​ของ​ต้าจ้วน​และ​แคว้น​ใต้​อาณัติ​อีก​สิบ​กว่า​แห่ง​จึงได้​พา​กัน​ ‘ส่งบรรณาการ​’ ตัวอ่อน​ด้าน​การ​ฝึก​ตน​เกือบ​ห้าสิบ​คน​มาให้​จวน​วารี​ใน​รวดเดียว​ นอกจากนี้​ยังมี​รายชื่อ​เสริม​ที่​ได้รับ​ร่มเงา​บรรพบุรุษ​เหมือนกับ​วงการ​ขุนนาง​ ถือว่า​ได้​เดิน​เข้า​ประตู​หลัง​มาฝึก​ตน​ใน​จวน​วารี​ อันที่จริง​ก็​คือ​วิธีการ​ที่​ต้อง​ทุ่ม​เงินทอง​ของ​พวก​ลูกหลาน​ตระกูล​คนรวย​นั่นเอง​ เท่ากับ​ว่า​ได้​สถานะ​ทำเนียบ​ของ​จวน​วารี​ลำน้ำ​ใหญ่​มาเปล่าๆ​ ชาย​หญิง​กลุ่ม​นี้​ไม่ว่า​ภายใน​สิบ​ปี​จะฝึก​ตน​ประสบความสำเร็จ​หรือไม่​ จะอยู่​หรือ​จะไป​ หรือ​สุดท้าย​จะถูก​ส่งกลับ​บ้านเกิด​ก็​ล้วน​มีอนาคต​รอ​อยู่​

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!