กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 928

ก็​เหมือน​อย่าง​ในเวลานี้​ เด็กสาว​คน​หนึ่ง​นั่ง​อยู่​บน​ราว​ระเบียง​ที่​ใกล้​ที่สุด​ กำลัง​ศึกษา​ยันต์​ม้าแบก​น้ำ​แผ่น​หนึ่ง​ คือ​กระดาษ​ยันต์​สีทอง​ที่​วาด​ด้วยมือ​ กระดาษ​ยันต์​คือ​กระดาษเงินกระดาษทอง​วาด​เป็น​ภาพ​ของ​เทพ​สวม​เสื้อเกราะ​ขี่ม้า​ คล้ายคลึง​กับ​วิธี​การหด​ย่อ​พื้นที่​ เดินทาง​อย่าง​ว่องไว​ของ​เทพ​เซียน​บน​ภูเขา​ เพียงแต่​ใช้เวท​ลับ​ของ​จวน​น้ำ​เดิน​ไป​บน​เส้นทาง​ของ​สิ่งศักดิ์สิทธิ์​และ​ควัน​ธูป​ เนื่องจาก​มีขั้นตอน​ของ​การ​เรียก​ยันต์​ออกมา​จุดไฟ​เพิ่มขึ้น​มาอีก​ขั้นตอน​หนึ่ง​ จึงจะถือว่า​สร้าง​ยันต์​ได้​สำเร็จ​อย่าง​แท้จริง​ ดังนั้น​ผู้ฝึก​ตน​สาย​ยันต์​ทั่วไป​จึงวาด​ยันต์​นี้​ไม่ได้​ ยันต์​นี้​มีคำ​กล่าวขาน​ที่​ไพเราะ​ว่า​ ‘เงิน​กระดาษ​ม้าเสื้อเกราะ​ลี้ลับ​จริง​ดัง​คาด​ ระยะทาง​หมื่น​ลี้​อยู่​ใกล้​เพียง​ตรงหน้า​’

การ​ฝึก​ตน​ไม่รับรู้​การ​มาถึงของ​ฤดูกาล​ เวลา​หนึ่ง​ชุ่น​ทอง​หนึ่ง​ชุ่น​

“เรื่อง​แค่นี้​ก็​ไม่รู้​หรือ​?”

ขุนนาง​หญิง​ที่​เคย​รับหน้า​ที่อยู่​ใน​หน่วย​เอกสาร​ของ​ตำหนัก​วารี​หนันซ​วิน​หัวเราะ​หึ​หนึ่ง​ที​ “ปี​นั้น​ผู้ฝึก​กระบี่​ของ​อุตรกุรุทวีป​พวกเรา​จับมือ​กัน​เดิน​ทางข้าม​มหาสมุทร​ด้วย​ขบวน​ที่​ยิ่งใหญ่​เกรียงไกร​ ขึ้นฝั่ง​ที่​ธวัล​ทวีป​ หมาย​จะซักไซ้​เอาโทษ​ผู้ฝึก​ตน​ของ​ทวีป​นั้น​ แต่​อาจารย์​เห​วิน​เซิ่งช่วย​พูด​ไกล่เกลี่ย​ให้​ถึงได้​ไม่ได้​ตี​กัน​ แต่​พวกเรา​ก็​ไม่ได้​ไป​เสียเที่ยว​ หลังจากนั้น​ธวัล​ทวีป​ก็​ไม่มีอักษร​ ‘อุตร​’ อีก​ นี่​คือ​เรื่อง​ที่ทาง​ศาล​บุ๋น​ให้การ​ยอมรับ​นะ​ หมื่น​ปี​ที่ผ่านมา​ เก้า​ทวีป​ของ​ไพศาล​ ใน​เรื่อง​ของ​การ​เปลี่ยน​ชื่อ​ก็​มีแค่​ครั้งนี้​ครั้ง​เดียว​เท่านั้น​ จะเป็น​เรื่องเล็ก​ได้​หรือ​?”

พูด​มาถึงตรงนี้​ ขุนนาง​หญิง​ก็​มีสีหน้า​สดใส​ “ถึงได้​บอก​อย่างไร​ล่ะ​ว่า​เห​วิน​เซิ่งเอนเอียง​มาทาง​พวกเรา​อย่าง​ชัดเจน​ คือ​คนกันเอง​ของ​อุตรกุรุทวีป​ครึ่งตัว​”

“อีก​อย่าง​ลูกศิษย์​ผู้สืบทอด​ของ​เห​วิน​เซิ่งอย่าง​จั่ว​โย่ว​ อาจารย์​จั่ว​ เซียน​กระบี่​ใหญ่​จั่ว​มีเวท​กระบี่​สูงเป็น​อันดับ​หนึ่ง​ใน​ใต้​หล้า​ เผย​หมิ่น​แห่ง​เวท​กระบี่​อะไร​นั่น​ล้วน​ต้อง​ไป​ยืน​ชิด​ซ้าย​ ปี​นั้น​เซียน​กระบี่​ใหญ่​จั่ว​ออก​มหาสมุทร​เดินทางไกล​เคย​แวะ​มาที่​ทวีป​ของ​พวกเขา​ พวก​เซียน​กระบี่​จีเย​ว่​แห่ง​ภูเขา​วานร​ครวญ​พา​กัน​ขี่​กระบี่​ไป​ถึงริมฝั่ง​มหาสมุทร​ ต่าง​ก็​เคย​สัมผัส​กับ​เวท​กระบี่​ของ​อาจารย์​จั่ว​มาก่อน​ แน่นอน​ว่า​ต้อง​แพ้​ แต่​ถึงจะแพ้​ก็​แพ้​อย่าง​มีเกียรติ​ พวก​เจ้าคิดดู​สิ ผู้ฝึก​กระบี่​ทั่วไป​ที่​ไม่ประสบความสำเร็จ​มาก​พอ​ ขอบเขต​ไม่สูงพอ​ ต่อให้​ไป​ถามกระบี่​กับ​เซียน​กระบี่​ใหญ่​จั่ว​ด้วย​ความ​ฮึกเหิม​ คน​เขา​ยินดี​จะสนใจ​หรือ​ ถ้าถามข้า​นะ​ อย่า​ว่าแต่​ยกมือ​เลย​ แม้แต่​จะเลิก​เปลือกตา​ขึ้น​มอง​ก็​ยัง​ไม่ยินดี​กระมัง​?”

“ต่อให้​ไม่พูดถึง​ปฏิทิน​เหลือง​เก่าแก่​ที่ผ่านมา​ค่อนข้าง​นาน​พวก​นี้​ พูดถึง​แค่​เรื่อง​ที่​เกิดขึ้น​เมื่อ​ไม่กี่​ปีก่อน​ ทาง​ฝั่งของ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ อิ่น​กวาน​หนุ่ม​ที่​เหมือนว่า​จู่ๆ ก็​โผล่​ขึ้น​มาบน​โลก​ มีความสัมพันธ์​อย่างไร​กับ​สำนัก​กระบี่​ไท่ฮุย​และ​ทะเลสาบ​กระบี่​ฝูผิง​ ทุกวันนี้​ใคร​ไม่รู้​บ้าง​? เฉินห​ลี่​ เกา​โย่ว​ชิงแห่ง​ทะเลสาบ​กระบี่​ฝูผิง​ก็​ไม่ใช่ตัวอ่อน​ผู้ฝึก​กระบี่​ที่​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​นำมา​มอบให้​กับ​เจ้าทะเลสาบ​ลี่​กับ​มือ​ตัวเอง​หรอก​หรือ​? เฉินห​ลี่​ผู้​นั้น​ยังมี​ฉายา​ว่า​อิ่น​กวาน​น้อย​ด้วย​นะ​ ข้า​ได้ยิน​หลิว​ห​มัว​มัว​เล่า​ด้วยว่า​เฉินห​ลี่​ผู้​นี้​เขียน​บน​ป้าย​สงบสุข​ปลอดภัย​ เรียก​ตัวเอง​ว่า​เซียน​กระบี่​อายุ​ร้อย​ปี​ เฮอะ​ คุยโว​หรือ​? ผิด​แล้ว​ คน​เขา​ถ่อมตัว​ต่างหาก​เล่า​ เลื่อน​เป็น​ห้า​ขอบเขต​บน​ภายใน​หกสิบ​ปี​ก็​ยังมี​ความเป็นไปได้​”

เด็กสาว​ที่มา​จาก​ตระกูล​ชั้นสูง​ล่าง​ภูเขา​พยักหน้า​รับ​รัว​ๆ ราว​ไก่​จิก​เมล็ด​ข้าวเปลือก​ “รู้​สิๆ ก่อน​จะมาอยู่​จวน​วารี​ ข้า​เคย​ได้ยิน​ท่าน​ปู่​เล่า​ว่า​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​ผู้​นั้น​คือ​สหาย​ร่วมโต๊ะ​สุรา​ที่​สนิท​กับ​เจ้าสำนัก​หลิว​แห่ง​สำนัก​กระบี่​ไท่ฮุย​ที่สุด​ แต่​ขนาด​อยู่​บน​โต๊ะ​สุรา​ก็​ยัง​ดื่มเหล้า​สู้เจ้าสำนัก​หลิว​ไม่ได้​ เพราะฉะนั้น​ถึงได้​บอก​อย่างไร​ล่ะ​ว่า​อุตรกุรุทวีป​ของ​พวกเรา​ เวท​กระบี่​ของ​ผู้ฝึก​กระบี่​ต้อง​แพ้​ให้​กับ​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​แน่นอน​ แต่​หาก​จะวัด​ความสูงต่ำ​บน​โต๊ะ​สุรา​กัน​ล่ะ​ก็​ นั่น​ก็​ไม่ยอมแพ้​ให้​กับ​ผู้ฝึก​กระบี่​ใน​ท้องถิ่น​ของ​พวกเขา​เลย​ ผู้คุม​กฎ​หวง​แห่ง​สำนัก​กระบี่​ไท่ฮุย​ก็​บอ​กว่า​ปี​นั้น​ตอนที่​ตัวเอง​ออก​มาจาก​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​เคย​ดื่มเหล้า​ที่​ร้านเหล้า​แห่ง​นั้น​จน​ทำให้​เซียน​กระบี่​ผู้เฒ่า​ต่ง​ซาน​เกิง​ที่มา​ส่งแขก​อาเจียน​เลย​ไม่ใช่หรือ​”

ดูเหมือน​นาง​จะนึก​เรื่อง​หนึ่ง​ขึ้น​ได้​จึงเอ่ย​เสียง​เบา​ว่า​ “ดูเหมือน​จะมีข่าวลือ​เล็ก​ๆ ว่า​หลง​ถิงโหว​บอ​กว่า​ตัวเอง​คือ​พี่น้อง​ที่​ตัดหัว​ไก่​เผา​กระดาษ​ร่วม​สาบาน​ของ​ใต้เท้า​อิ่น​กวาน​ด้วย​นะ​ จริง​หรือเปล่า​?”

หากว่า​เป็นจริง​ก็​ร้ายกาจ​มาก​จริงๆ​ แม้ท่าน​โหว​แห่ง​ลำน้ำ​ใหญ่​ผู้​นี้​จะด้อย​กว่า​ห​ลิง​หยวน​กง​บ้าน​ตน​อยู่​ระดับ​หนึ่ง​ แต่​ใน​เรื่อง​นี้​ดูเหมือนว่า​จวน​โหว​จะกอบกู้​ศักดิ์ศรี​กลับคืน​มาได้​แล้ว​?

ขุนนาง​หญิง​คน​เก่า​ของ​ตำหนัก​วารี​หนันซ​วิน​เอ่ย​อย่าง​ไม่สบอารมณ์​ว่า​ “คุยโว​น่ะ​สิ ใคร​คิด​เป็นจริง​คน​นั้น​ก็​โง่แล้ว​ หลง​ถิงโหว​ผู้​นั้น​มีพฤติกรรม​อย่างไร​ คนนอก​อาจจะ​ไม่รู้​ แต่​เพื่อน​บ้านเก่า​ของ​ถ้ำสวรรค์​วัง​มังกร​อย่าง​พวกเรา​…”

ห​มัว​มัว​ผู้สอน​มารยาท​ท่าน​หนึ่ง​บังเอิญ​เดินผ่าน​ระเบียง​มาพอดี​ ได้ยิน​ประโยค​นี้​อยู่​ไกลๆ​ ก็​รีบ​ปรี่​ขึ้นหน้า​มาตวาด​สีหน้า​ดุดัน​ “บังอาจ​! ปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม​ พูดจา​ไม่รู้จัก​ละอาย​”

ห​มัว​มัว​ท่าน​นี้​ทุกวันนี้​ดูแล​กอง​มรรยาท​หนึ่ง​ใน​สิบ​หก​กอง​ของ​จวน​วารี​ นาง​เคย​เป็น​ขุนนาง​ของ​ซาก​ปรัก​วัง​มังกร​ลำคลอง​ใหญ่​สาย​หนึ่ง​ใน​อุตรกุรุทวีป​ พิถีพิถัน​ใน​เรื่อง​มารยาท​พิธีการ​ที่สุด​ เป็น​สตรี​โต​เต็ม​วัย​ที่​มีลักษณะ​แก่เฒ่า​จน​เดินเหิน​ไม่สะดวก​ นาง​เดิน​เนิบ​ช้ามาหยุด​อยู่​ตรงหน้า​เด็กสาว​พวก​นี้​ เอ่ย​อย่าง​เดือดดาล​ว่า​ “ถึงกับ​กล้า​พูดจา​เหลวไหล​ นินทา​คนอื่น​ลับหลัง​ ไร้​กฎ​ไร้​ระเบียบ​กัน​จริงๆ​ หาก​แพร่​ออก​ไป​ให้​คนนอก​ได้ยิน​เข้า​ก็​ต้อง​เข้าใจผิด​คิด​ว่า​จวน​กง​ของ​พวกเรา​ไร้​กฎระเบียบ​แล้ว​ พวก​เจ้าใครก็ตาม​ที่​เปิดปาก​พูด​จะถูก​จด​ลงบัญชี​ของกอง​การ​บันทึก​ หาก​ยัง​กล้า​พูดจา​แบบนี้​แล้ว​ถูก​จับได้​อีก​จะถูก​ขับ​ออกจาก​จวน​!”

สายตา​ของ​หญิง​ชรา​ประดุจ​เหยี่ยว​ที่​จับจ้อง​ลูกเจี๊ยบ​ตัว​น้อย​ ไม่เพียงแต่​ขุนนาง​เก่า​ของ​จวน​วารี​เท่านั้น​ สตรี​คนอื่นๆ​ ที่​เหลือ​ทุกคน​ต่าง​ก็​ตกใจ​เงียบกริบ​เหมือน​จักจั่น​ใน​หน้าหนาว​ สีหน้าซีด​ขาว​

หญิง​ชรา​ที่​พูดจา​ด้วย​สีหน้า​ดุดัน​โกรธเคือง​จริงๆ​ แต่​ก็​ไม่ใช่ว่า​นาง​จงใจทำ​เรื่องเล็ก​ให้​เป็น​เรื่องใหญ่​ อยาก​จะหาเรื่อง​เด็กสาว​กลุ่ม​หนึ่ง​ อาศัย​โอกาส​นี้​โอ้อวด​บารมี​ คน​ที่อยู่​ใน​ตำแหน่ง​เช่น​นาง​ไม่มีความจำเป็น​ต้อง​ทำ​เช่นนี้​แล้ว​ เพียงแต่​คำพูด​ซี้ซั้ว​ประเภท​นี้​จะว่า​ใหญ่​ก็​ใหญ่​จะว่า​เล็ก​ก็​เล็ก​ หาก​แพร่​ไป​เข้าหู​จวน​หลง​ถิงโหว​จริงๆ​ หาก​ไม่ทัน​ระวัง​ก็​จะกลายเป็น​ภัย​ร้าย​ ทำให้​นาย​ท่าน​กับ​หลง​ถิงโหว​ที่​เดิมที​ถือว่า​ความสัมพันธ์​ของ​สอง​ฝ่าย​ปรองดอง​กัน​ดี​เกิด​รอยร้าว​อย่าง​เลี่ยง​ไม่ได้​

ต่อให้​หลง​ถิงโหว​ใจกว้าง​ ได้ยิน​คำพูด​พวก​นี้​แล้ว​ไม่ถือสา​ แต่​กลัว​ก็​แต่​พวก​ขุนนาง​ใน​จวน​โหว​ที่​หัวรั้น​บางคน​จะยึดหลัก​ว่า​เจ้านาย​ได้รับ​ความอัปยศ​ขุนนาง​ต้อง​ตาย​ จุด​ที่​ภูเขา​สายน้ำ​ของ​สอง​จวน​เชื่อมโยง​ถึงกัน​มีค่อน​ข้างมาก​ ง่าย​ที่จะ​เกิด​ปัญหา​ขัดแย้ง​ไม่หยุดหย่อน​ ใน​นา​ของ​พวก​ชาวบ้าน​ เพียงแค่​เรื่อง​ของ​การแย่ง​น้ำ​ก็​เกิด​การ​ตะลุมบอน​กัน​ด้วย​อาวุธ​อยู่​บ่อยๆ​ แล้ว​นับประสาอะไร​กับ​สอง​จวน​อย่าง​กง​และ​โหว​ของ​ลำน้ำ​ใหญ่​เล่า​?

อีก​อย่าง​นัง​หนู​ที่​ไม่รู้​ฟ้าสูงแผ่นดิน​ต่ำ​อย่าง​พวก​เจ้าคิด​จริงๆ​ หรือว่า​ห​ลี่​หยวน​ที่​ตอน​เป็น​สุ่ยเจิ้ง​ แม้แต่​สำนัก​มังกร​น้ำ​ก็​ยัง​ไม่เห็น​อยู่​ใน​สายตา​คือ​คน​ที่​อยู่ร่วม​ด้วย​ง่าย​?

พูดถึง​แค่​เรือน​เทพ​สายฟ้า​ภูเขา​อิง​เอ๋อร์​ที่อยู่​ทาง​ทิศตะวันตก​สุด​ของ​ลำน้ำ​ใหญ่​ ปี​นั้น​กรอบ​ป้าย​หน้า​ประตู​ภูเขา​ถูก​คน​งัด​ออก​ไป​สอง​ตัว​ แต่​ทำไม​สุดท้าย​กลับ​ยัง​ฝืนใจ​ปล่อย​คน​ไป​? ก็​ไม่ใช่เพราะ​ห​ลี่​หยวน​ป่าวประกาศ​ไป​แล้ว​ว่า​หาก​กล้า​ไม่ปล่อย​คน​ หลง​ถิงโหว​เช่น​เขา​ก็​จะทำให้​น้ำท่วม​ทับ​เรือน​เทพ​สายฟ้า​หรอก​หรือ​! สุ่ยเจิ้ง​ใน​อดีต​ที่​เพิ่งจะ​เป็น​หลง​ถิงโหว​ได้​แค่​ไม่กี่​วัน​กลับ​กล้า​ไม่เห็น​กฎเกณฑ์​ของ​ศาล​บุ๋น​และ​ตำแหน่ง​ขุนนาง​อยู่​ใน​สายตา​ขนาด​นี้​ อาศัย​อะไร​? เขา​หลง​ถิงโหว​คือ​คนโง่​หรือ​ไร​?

น่าเสียดาย​ที่​ใต้เท้า​หลง​ถิงโหว​ไม่อยู่​ใน​เหตุการณ์​ ไม่อย่างนั้น​คง​อดไม่ไหว​ตอก​กลับมา​แล้ว​ว่า​ เจ้าคิดผิด​แล้ว​ ตอนนั้น​ข้า​แค่​อาศัย​เลือดร้อน​ๆ กับ​คุณธรรม​น้ำ​มิตร​ที่​ท่วมท้น​อยู่​เต็ม​ร่าง​เท่านั้น​จริงๆ​

นี่​เรียก​ว่า​เพื่อ​สหาย​แล้ว​เสียบ​มีด​สอง​ที​ เสียบ​เอง​ก่อน​หนึ่ง​ที​ ถามอีก​ฝ่าย​ว่า​กลัว​หรือไม่​ หาก​อีก​ฝ่าย​ไม่กลัว​ก็​ค่อย​เสียบ​อีก​ฝ่าย​ซ้ำอีกที​ ทำ​เช่นนี้​ซ้ำไปซ้ำมา​ ก็​แค่​ต้อง​ดู​ว่า​ใคร​อำมหิต​กว่า​กัน​ ใคร​รับได้​ไหว​มากกว่า​กัน​

มีสตรี​โต​เต็ม​วัย​ผู้​หนึ่ง​แต่งกาย​เหมือน​จักรพรรดินี​ใน​วัง​ บุคลิก​สุภาพ​เยือกเย็น​ งดงาม​จน​มิอาจ​นำ​สิ่งใด​มาบรรยาย​ได้​

บุคลิก​ท่าทาง​สดใส​แช่มชื่น​ประดุจ​ดอก​ฝูหรง​ที่​เบ่งบาน​ใน​ภูเขา​ห่างไกล​

สตรี​ก็​คือ​เสิ่น​หลิน​อดีต​เจ้าของ​ตำหนัก​วารี​หนันซ​วิน​ ห​ลิง​หยวน​กง​แห่ง​ลำน้ำ​ใหญ่​ใน​ทุกวันนี้​ ด้านหลัง​นาง​มีเทพ​หญิง​ของ​จวน​วารี​ติด​ตามมา​อีก​สอง​คน​ คือ​ขุนนาง​ที่​เป็น​ผู้นำ​ของกอง​ตรวจสอบ​และ​กอง​ของ​ตกแต่ง​ คน​หนึ่ง​มีอำนาจ​ยิ่งใหญ่​ อีก​คน​หนึ่ง​รับผิดชอบ​…รับ​ของขวัญ​

เสิ่น​หลิน​เอ่ย​ด้วย​น้ำเสียง​อ่อนโยน​ว่า​ “ห้าม​ให้​มีคราวหน้า​อีก​ ครั้งนี้​ทาง​กอง​การ​บันทึก​จะยัง​ไม่จด​บัญชี​”

หญิง​ชรา​รีบ​ยอบ​กาย​คารวะ​ห​ลิง​หยวน​กง​ทันที​ ห​ลิง​หยวน​กง​เปิดปาก​พูด​ให้​ด้วยตัวเอง​ก็​คือ​ความโชคดี​อย่าง​ใหญ่หลวง​ของ​เด็กสาว​พวก​นี้​

พวก​ขุนนาง​หญิง​พา​กัน​คารวะ​เสิ่น​หลิน​

เสิ่น​หลิน​บอก​ให้​พวก​นาง​ลุกขึ้น​ จากนั้น​ก็​ลูบ​ศีรษะ​พวก​แม่นาง​น้อย​สอง​สามคน​ที่​คุย​กัน​เต็ม​อารมณ์​ที่สุด​ พูด​กลั้ว​หัวเราะ​เบา​ๆ ด้วย​สีหน้า​อ่อนโยน​ “วันหน้า​ไป​อยู่​ข้างนอก​ จะพูดจา​อะไร​ต้อง​ระวัง​ให้​มาก​ หลิว​มรรยาท​ทั้ง​หวังดี​แล้วก็​ทำตาม​กฎ​ด้วย​ แต่กลับ​ไป​ถึงที่พัก​ของ​ตัวเอง​ ปิดประตู​ลง​พูดคุย​กัน​กลับ​ไม่ได้​เป็นปัญหา​มาก​นัก​ ไม่ต้อง​ระมัดระวัง​มากเกินไป​ อืม​ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​ต้อง​ระวัง​ว่า​อย่า​ให้​ ‘หลิว​คร่ำครึ​’ ของ​พวก​เจ้าได้ยิน​เข้า​ล่ะ​ แค่นี้​ก็​หมด​เรื่อง​แล้ว​”

หญิง​ชรา​ย่อม​รู้​ว่า​ตัวเอง​ถูก​ขุน​นางใน​จวน​วารี​ตั้งฉายา​ที่​ไม่น่าฟัง​นี้​ให้​ เพียงแต่​นาง​ไม่สนใจ​ เวลานี้​ได้ยิน​ห​ลิง​หยวน​กง​เอ่ย​สัพยอก​ หญิง​ชรา​ก็​ยัง​อดไม่ไหว​หลุด​หัวเราะ​ออกมา​

เสิ่นห​ลิง​ยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “หลิว​มรรยาท​ ขอ​คุย​ธุระ​กับ​เจ้าสักหน่อย​”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!