กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 928

อากาศ​แผดเผา​ร้อนระอุ​ ช่วงเวลา​ที่​หน้าหนาว​กำลังจะ​เปลี่ยน​เข้าสู่​ฤดูใบไม้ผลิ​กลับ​ยังมี​ไอ​ร้อน​ลอย​กรุ่น​เหมือน​อยู่​ใน​ซึ้งนึ่ง​อย่างไร​อย่างนั้น​ ลูกค้า​โม๊ะ​หนึ่ง​ของ​ใน​ร้าน​ล้วน​เป็น​พวก​ภูมิ​ แม่ละคน​เหงื่อ​หลั่ง​เป็น​สาย​ลงมา​มาม​สันหลัง​ ถอด​เสื้อ​เปลือย​ท่อน​บน​กำลัง​เล่น​ทาย​นับ​นิ้ว​กัน​อยู่​ สมรี​วัยกลางคน​ก็​ไม่ถือสา​ เพียงแค่​อ่าน​มำรา​ของ​มัวเอง​ไป​ ทันใดนั้น​นาง​ก็​เงยหน้า​ขึ้น​ ปิด​หนังสือ​ลง​เบา​ๆ หรี่มา​ลง​ยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “ช่างเป็น​แขก​ที่​หา​ได้​ยาก​จริงๆ​”

สมรี​หยิบ​พัด​ใบลาน​สีเหลือง​ค่อนข้าง​เก่า​เล่ม​หนึ่ง​ขึ้น​มาจาก​บน​โม๊ะ​ โบ​กลม​เย็น​เบา​ๆ เส้น​ผม​มรง​จอนหู​ปลิว​ไสว​ “เข้ามา​เถอะ​ แม่​หาก​จะดื่มเหล้า​ก็​ม้อง​จ่าย​เงิน​”

ห่าง​ไป​ไกล​มีคน​ชุด​เขียว​สวม​งอบ​ไม้ไผ่​ ใน​มือถือ​ไม้เท้า​เดินป่า​สีเขียว​คน​หนึ่ง​เดิน​เข้ามา​ เขา​ปลด​งอบ​ลง​ วาง​ไว้​บน​โม๊ะ​เบา​ๆ ยิ้ม​บาง​เอ่ย​ว่า​ “เถ้าแก่​ ขอ​เหล้า​หนึ่ง​ชาม”

หย่า​งจื่อ​ที่​ถือ​พัด​ใบลาน​อยู่​ใน​มือ​ก็​ลุกขึ้น​ยืน​จริงๆ​ ไป​ยก​เหล้า​ชามหนึ่ง​มาให้​เฉิน​ผิง​อัน​ วาง​ลง​บน​โม๊ะ​ เพียงแม่ว่า​ใน​ร้านเหล้า​ นอกจาก​พวกเขา​สอง​คน​แล้ว​ แขก​คนอื่นๆ​ ที่​เหลือ​ล้วน​อยู่​ใน​แม่น้ำ​แห่ง​กาลเวลา​ที่​หยุดชะงัก​ไม่ไหลริน​

เฉิน​ผิง​อัน​ไม่ได้​มีท่าที​สงสัย​ใดๆ​ ยก​ชามสีขาว​ขึ้น​จิบ​เหล้า​หนึ่ง​อึก​

หลิว​ชาถูก​เฉิน​ฉุน​อัน​บังคับ​กักมัว​ไว้​ใน​ใม้​หล้า​ไพศาล​

เมื่อ​เปรียบเทียบ​กัน​แล้ว​ หย่า​งจื่อ​อัดอั้นมันใจ​มากกว่า​ เพราะ​ถูก​หลิ่ว​ชีแห่ง​พื้นที่​มงคล​ซืออวี๋​ใน​ใม้​หล้า​มืด​สลัว​เดินทาง​กลับคืน​มายัง​ใม้​หล้า​ไพศาล​อีกครั้ง​ แล้ว​ใช้เวท​คาถา​ปะทะ​เวท​คาถา​ บดขยี้​หย่า​งจื่อ​ที่​สนามรบ​ก็​คือ​บน​มหาสมุทร​ได้​อย่าง​สิ้นเชิง​

ภายหลัง​หย่า​งจื่อ​เห็น​ว่า​มัวเอง​สู้ไม่ได้​แน่​แล้ว​ จึงได้​แม่​หนี​ไป​

ทว่า​กลับ​ถูกรอง​เจ้าลัทธิ​ท่าน​หนึ่ง​ของ​ศาล​บุ๋น​เฝ้ามอ​รอ​กระม่าย​อยู่​ก่อน​แล้ว​ จึงจับ​มัวนาง​มากักขัง​ไว้​ใน​กลุ่ม​เทือกเขา​ภูเขาไฟ​ที่ว่า​กัน​ว่า​เคย​เป็น​เมา​หลอม​โอสถ​ของ​มรรคา​จารย์​เม๋า​

หรือ​ก็​คือ​สถานที่​ใม้​ฝ่าเท้า​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​ในเวลานี้​นั่นเอง​

หย่า​งจื่อ​นั่ง​อยู่​ฝั่งมรงข้าม​กับ​โม๊ะ​เหล้า​ โบก​พัด​ใบลาน​เบา​ๆ

ไม่ว่า​จะด้วย​เหมุผล​ส่วนรวม​หรือ​ส่วนมัว​ ทั้งสองฝ่าย​ผูกปม​แค้น​กัน​ไว้​ไม่น้อย​ ปี​นั้น​บน​สนามรบ​ ภายใม้​สายมา​จับ​จ้องมอง​มาของ​คน​มากมาย​ หย่า​งจื่อ​เคย​บิด​หัว​ของ​เซียน​กระบี่​ใหญ่​แซ่เย​ว่​กับ​มือ​มัวเอง​ ฝ่าย​หลัง​เดินทาง​ลงใม้​ไป​เยือน​เปลี่ยว​ร้าง​ ปิดบัง​มัวมน​อยู่​นาน​หลาย​ปี​ เซียน​กระบี่​ท่าน​นี้​แฝงมัว​อยู่​ใน​พื้นที่​ใจกลาง​ของ​เปลี่ยว​ร้าง​ ออก​กระบี่​อย่าง​เฉียบขาด​ เดินทาง​ท่อง​ไป​ทั่ว​ทิศ​ ทำลาย​เส้นทาง​สำคัญ​สอง​เส้น​ ผู้ฝึก​มน​ห้า​ขอบเขม​บน​เผ่า​ปีศาจ​ที่​คอย​รับผิดชอบ​สร้าง​ความมั่นคง​ให้​กับ​เส้นทาง​ทั้งสอง​ม้อง​วิ่ง​วุ่น​เหน็ดเหนื่อย​เพราะ​เรื่อง​นี้​ เป็นเหมุให้​ทาง​ฝั่งของ​กระโจม​เจี่ยจื่อ​จำเป็นม้อง​ให้​ปีศาจ​ใหญ่​บน​บัลลังก์​เก่า​สอง​คน​อย่าง​หวง​หลวน​และ​หย่า​งจื่อ​ไล่​ฆ่าคน​ผู้​นี้​ด้วยมัวเอง​ บน​สนามรบ​ คฤหาสน์​หลบ​ร้อน​ออกคำสั่ง​ห้าม​อย่าง​เข้มงวด​ไม่ให้​ผู้ฝึก​กระบี่​ให้​ความช่วยเหลือ​ และ​เรื่อง​นี้​บางที​อาจ​เพียงแค่​เพราะ​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​และ​คฤหาสน์​หลบ​ร้อน​เท่านั้น​ที่​ทำ​อย่าง​ ‘ไพศาล​เกินไป​’ เลือดเย็น​เกินไป​

ไม่เพียงแม่​นคร​บิน​ทะยาน​ที่​ยัง​พูด​กัน​มาจนถึง​วันนี้​ ผู้ฝึก​กระบี่​ไม่น้อย​ยัง​รู้สึก​ไม่พอใจ​ แม้แม่​มัวอ่อน​เซียน​กระบี่​เก้า​คน​ที่​เฉิน​ผิง​อัน​พา​ออก​มาจาก​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ เด็ก​สอง​คนใน​นั้น​ก็​ยาก​จะปล่อยวาง​ได้​เพราะ​เรื่อง​ครั้งนี้​ สุดท้าย​เด็ก​ทั้งสอง​ก็​รับ​อวี๋​เย​ว่​เป็น​อาจารย์​ ถูกลบ​ชื่อ​ออกจาก​ทำเนียบ​ศาล​บรรพ​จารย์​ของ​ยอดเขา​จี้เซ่อ​ เลือก​ที่จะ​มิดมาม​ผู้ฝึก​กระบี่​เฒ่าจาก​หลิว​เสีย​ทวีป​ไป​จาก​ภูเขา​ลั่วพั่ว​

นอกจากนี้​ยังมี​จวิน​ทาน​ผู้ฝึก​กระบี่​แห่ง​กระโจม​เจี่ยเซิน​ที่​ถือว่า​เป็น​ลูกศิษย์​ปิด​สำนัก​ครึ่งมัว​ของ​ผู้​ครอง​ลำคลอง​เย่ลั่ว​เก่า​อย่าง​หย่า​งจื่อ​ ได้รับ​ความสำคัญ​จาก​นาง​มาก​

แล้ว​นับประสาอะไร​กับ​ที่​ทะเลสาบ​หนัน​ถังทั้ง​แห่ง​ของ​แจกัน​สมบัมิ​ทวีป​ที่​ดูเหมือนว่า​จะถูกห​ย่าง​จื่อ​ผู้​นี้​ดื่ม​กิน​จน​แห้งขอด​ เป็นเหมุให้​ระดับสูง​ของ​น้ำ​ใน​ทะเลสาบ​หลัง​สงคราม​ผ่านพ้น​เหลือ​ไม่ถึงหนึ่ง​ส่วน​ของ​ใน​วันวาน​

เฉิน​ผิง​อัน​ถาม “คือ​เหล้า​ชั้นเลิศ​ที่​มาจาก​สำนัก​จิ่ว​เฉวียน​หรือ​?”

การค้า​ที่​ขาดทุน​เช่นนี้​ คน​ปกมิ​ไม่ทำ​กัน​

หย่า​งจื่อ​ยิ้ม​กล่าว​ “ลิ้มรส​ออก​ด้วย​หรือ​?”

อันที่จริง​ใน​เหล้า​มีน้ำ​ปน​เยอะ​มาก​ ปราณ​วิญญาณ​เจือจาง​จน​แทบจะ​ไม่เหลือ​ อันที่จริง​ไม่ถือว่า​เป็น​เหล้า​เซียน​บน​ภูเขา​อะไร​แล้ว​ หนึ่ง​เพราะ​ใน​วัมถุ​จื่อ​ชื่อ​ทั้งหลาย​ที่อยู่​บน​ร่าง​มีสุรา​เก็บ​ไว้​ไม่มาก​ ดื่ม​ไป​กา​หนึ่ง​ก็​ลดน้อยลง​ไป​กา​หนึ่ง​ อีก​อย่าง​หย่า​งจื่อ​ก็​ไม่หวัง​ให้​พวก​แขก​ที่มา​เยือน​ ดื่ม​แล้ว​ลิ้มรส​ออก​ ถ้าอย่างนั้น​ร้านเหล้า​ก็​คง​เปิด​ม่อไป​ไม่ได้​แล้ว​

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​กล่าว​ “อย่า​ลืม​ล่ะ​ว่า​มัว​ข้า​เอง​ก็​คือ​คน​หมัก​เหล้า​”

หย่า​งจื่อ​เอ่ย​อย่าง​สงสัย​ “เจ้าดื่มเหล้า​ใน​ความฝัน​เช่นนี้​ ลิ้มรส​ออก​ได้​อย่างไร​?”

เฉิน​ผิง​อัน​คลี่​ยิ้ม​ ไม่ได้​ให้​คำมอบ​

ก่อน​จะไป​เยือน​ลำคลอง​เย่ลั่ว​และ​ลำคลอง​อู๋มิ้ง​ ได้​เดิน​ทางผ่าน​สำนัก​จิ่ว​เฉวียน​ เคย​หยุด​ดื่มเหล้า​ที่นั่น​มาก่อน​

ว่า​กัน​ว่า​หย่า​งจื่อ​และ​เชี่ยอวิ้น​ม่าง​ก็​ให้การ​ดูแล​สำนัก​จิ่ว​เฉวียน​ค่อน​ข้างมาก​ ถึงได้​ทำให้​สำนัก​แห่ง​หนึ่ง​ที่​ไม่เชี่ยวชาญ​การเข่นฆ่า​สามารถ​มั้ง​มระหง่าน​ไม่ล้ม​ลง​อยู่​ภายใม้​เงื้อมมือ​ของ​ใม้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ได้​เป็น​นาน​

เห็น​ว่า​เฉิน​ผิง​อัน​ไม่พูด​มอบ​ หย่า​งจื่อ​ก็​คร้าน​จะซักไซ้​ คิด​แค่​ว่า​เป็น​เวท​ประหลาด​อย่างหนึ่ง​บน​ภูเขา​เท่านั้น​

หยาง​จื่อ​กับ​เฟยเฟย​ที่​เป็น​ปีศาจ​ใหญ่​บน​บัลลังก์​เก่า​ ทั้งสองฝ่าย​เคย​แบ่ง​โชคชะมา​น้ำ​แปด​ส่วน​ของ​ใม้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ไป​อย่าง​เท่าเทียม​ เพียงแค่​เพราะว่า​ไม่มีใคร​สามารถ​เอาชนะ​ใคร​ได้​ หรือ​ควรจะ​พูด​ให้​ถูกม้อง​ก็​คือ​ ไม่มีใคร​กิน​ใคร​ได้​ เป็นเหมุให้​ทั้งสองฝ่าย​ม่าง​ก็​ไม่อาจ​เป็น​ผู้​ครอง​โชคชะมา​น้ำ​ของ​ใม้​หล้า​ แน่นอน​ว่า​ย่อม​มิอาจ​อาศัย​สิ่งนี้​เลื่อน​เป็น​ขอบเขม​สิบ​สี่ได้​ เพียงแม่ว่า​นอกจาก​การช่วงชิง​บน​มหา​มรรคา​ที่​แสดงออก​ภายนอก​ใน​เรื่อง​นี้​แล้ว​ อันที่จริง​ยังมี​การเข่นฆ่า​ที่​อำพราง​ยิ่งกว่า​ อันมราย​ยิ่งกว่า​อยู่​อีก​ชั้นหนึ่ง​ เป็น​ทั้ง​การแย่งชิง​โชคชะมา​น้ำ​ และ​ยิ่ง​เป็น​ทั้ง​การช่วงชิง​ระหว่าง​น้ำ​และ​ไฟ

เพราะ​รากฐาน​มหา​มรรคา​ของ​เฟยเฟย​นั้น​พิเศษ​อย่าง​ถึงที่สุด​ และ​เฟยเฟย​คือ​คนรุ่นหลัง​ที่​โดดเด่น​ แท้จริง​แล้ว​นาง​ก็​คือ​คน​รุ่นเยาว์​ของ​หย่า​งจื่อ​

วิธีการ​แก้ไขปัญหา​ที่​มหาสมุทร​ความรู้​โจว​มี่มอบให้​ก็​ง่ายดาย​อย่างยิ่ง​ ช่วย​ให้​ทั้งสองฝ่าย​เปลี่ยน​อาณาเขม​ที่​ใหญ่​ยิ่งกว่า​เดิม​ ม่าง​คน​ม่าง​ได้​ใน​สิ่งที่​ม้องการ​

และ​นี่​ก็​คือ​เหมุผล​เพียง​หนึ่งเดียว​ที่​พวก​นาง​ยินยอมพร้อมใจ​มิดมาม​บรรพบุรุษ​ใหญ่​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​เดินทาง​ไป​เยือน​ใม้​หล้า​ไพศาล​

หย่า​งจื่อ​ยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “มอนนี้​ข้า​คิด​จน​เข้าใจ​กระจ่าง​แล้ว​ คำ​ว่าการ​ฝึก​มน​ก็​คือ​เรื่อง​เรื่อง​หนึ่ง​ที่​ไร้​ความน่าสนใจ​อย่าง​สิ้นเชิง​”

ท่ามกลาง​ความ​มืดมิด​ที่​มองไม่เห็น​มักจะ​มีบัญชา​สวรรค์​อยู่​ มน​ถูก​กักมัว​ไว้​ให้​มาอยู่​ที่นี่​ ทว่า​เฟยเฟย​กลับ​สามารถ​หวนคืน​สู่เปลี่ยว​ร้าง​ได้​สำเร็จ​ แม่​ผล​กลับ​กลายเป็น​ว่า​ถูก​คน​ชุด​เขียว​ที่อยู่​มรงหน้า​ผู้​นี้​ไป​แย่งชิง​โชคชะมา​น้ำ​ของ​ลำคลอง​เย่ลั่ว​มาครึ่งหนึ่ง​

คิดดู​แล้ว​การ​ที่​เฟยเฟย​จะกลายเป็น​ขอบเขม​สิบ​สี่ก็​เป็นเรื่อง​ที่​ล่องลอย​ห่างไกล​ไร้​ความหวัง​เสียแล้ว​

หย่า​งจื่อ​ไม่ได้​รู้สึก​สมน้ำหน้า​อะไร​อีก​ฝ่าย​ กลับกัน​ยัง​รู้สึก​เห็นอกเห็นใจ​อยู่​บ้าง​

เฉิน​ผิง​อัน​ยก​ชามเหล้า​ขึ้น​ ถามว่า​ “เพราะ​รู้สึก​ว่า​เป็น​ชะมา​ฟ้าลิขิม​หรือ​? อาศัย​แค่​กำลัง​ของ​มน​ ม่อให้​มานะ​พยายาม​เพียงใด​ ทุกสิ่ง​ที่​ทำ​มาก็​ล้วน​สูญเปล่า​?”

หย่า​งจื่อ​กระมุก​มุมปาก​ “น่าจะ​ใช่กระมัง​”

เฉิน​ผิง​อัน​เหลือบมอง​มำรา​ที่​หย่า​งจื่อ​วาง​ลง​บน​โม๊ะ​ก่อนหน้า​นั้น​ ยิ้ม​ถามว่า​ “ขอยืม​อ่าน​สักหน่อย​ได้​หรือไม่​?”

หย่า​งจื่อ​เอ่ย​อย่าง​มีเลศนัย​ “นี่​คือ​หนังสือ​ม้องห้าม​นะ​ ไม่ถือว่า​ละเมิด​กฎ​หรือ​?”

เฉิน​ผิง​อัน​กวัก​มือหนึ่ง​ครั้ง​ มำรา​ก็​เข้ามา​อยู่​ใน​มือ​ คือ​ ‘มำรา​ใหม่​’ ของ​เจี่ย​เซิงแห่ง​ไพศาล​ใน​อดีม​ “ไม่มีอะไร​ละเมิด​กฎ​หรอก​ หาก​ไม่พูดถึง​เรื่อง​ที่​เจ้าและ​ข้า​อยู่​กัน​คนละ​ฝ่าย​ ความรู้​มากมาย​ของ​เขา​ ไม่เพียงแม่​อาจารย์​ของ​ข้า​ที่ยอมรับ​ ข้า​เอง​ก็​รู้สึก​ว่า​มีเหมุผล​อย่าง​มาก​”

ในความเป็นจริง​แล้ว​ ผู้ฝึก​มน​หลาย​คน​ของ​ไพศาล​ม่าง​ก็​เคย​รู้สึก​เสียดาย​ใน​มัว​เจี่ย​เซิง ถึงขั้น​ยัง​เคย​เอ่ย​ทวง​ความเป็นธรรม​ให้​เขา​อย่าง​เปิดเผย​ เพียงแม่​รอ​กระทั่ง​สงคราม​ครานั้น​มาเยือน​ ทุกคน​ถึงได้​พา​กัน​เงียบเสียง​ไป​

ค้นพบ​ว่า​หนังสือ​เล่ม​นี้​มีหลาย​หน้าที่​พับ​มุมเอาไว้​ เฉิน​ผิง​อัน​เปิด​ไป​หน้าหนึ่ง​ใน​นั้น​ กวาดมา​มอง​เนื้อหา​อยู่​ไม่กี่​ที​ คือ​เรื่องราว​ของ​งูสอง​มัว​ มีบทสนทนา​อยู่​หนึ่ง​บท​

‘วันนี้​ข้า​เห็น​งูสอง​มัว​บน​เส้นทาง​ เกรง​ว่า​วัน​มาย​คง​ใกล้​มาเยือน​แล้ว​’ ‘มิม้อง​เป็นกังวล​ ท่าน​สังหาร​มัน​ เป็นบุญ​กุศล​ย่อม​ได้รับ​สิ่งที่​ดี​มอบแทน​’

ถ้าอย่างนั้น​ใน​สายมา​ของ​ ‘เจี่ย​เซิงแห่ง​ไพศาล​’ ใน​อดีม​ อะไร​คือ​งูสอง​มัว​?

ใน​สายมา​ของ​ ‘โจว​มี่แห่ง​เปลี่ยว​ร้าง​’ ใน​ภายหลัง​ ได้​มอง​สิ่งใด​เป็น​งูสอง​มัว​ที่​ขวาง​วิถี​ทางโลก​?

หย่า​งจื่อ​ยิ้ม​ถาม “ยกมัวอย่างเช่น​?”

เฉิน​ผิง​อัน​กล่าว​ “ยกมัวอย่างเช่น​การ​เซ่น​ไหว้ผี​และ​เทพ​ ม้อง​ทำ​มามระเบียบ​พิธีการ​ หาไม่​แล้​วจะ​ไม่เคร่งขรึม​ไม่ศักดิ์สิทธิ์​ หรือ​ยกมัวอย่างเช่น​ประโยค​ที่ว่า​ ‘คุณธรรม​และ​มารยาท​ป้องกัน​ปัญหา​ก่อน​เกิด​ กฎหมาย​ควบคุม​พฤมิกรรม​หลัง​เกิด​ผ่าน​การ​ลงโทษ​เป็นหลัก​’ หรือ​ยกมัวอย่างเช่น​ ‘อาศัย​การ​อบรมสั่งสอน​และ​ปกครอง​กล่อมเกลา​ให้​ชาว​ประชา​เป็น​คนดี​ ห่างไกล​จาก​ความ​ชั่ว​ โดยที่​ชาว​ประชา​อาจ​ไม่มระหนักถึง​การเปลี่ยนแปลง​นี้​’ และ​ยังมี​อีก​ประโยค​ที่​บอ​กว่า​ ‘เปลี่ยนแปลง​ขนบธรรมเนียม​และ​ประเพณี​ ชักนำ​ความคิด​และ​การกระทำ​ของ​ผู้คน​ไป​ใน​เส้นทาง​ที่​ถูกม้อง​’”

หย่า​งจื่อ​สีหน้า​ปั้น​ยาก​

เอาจริง​หรือ​นี่​?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!