กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 940

แน่นอน​ว่า​หวง​ชงต้อง​ไม่ปฏิเสธ​ความหวังดี​นี้​

บางที​อีก​ฝ่าย​อาจจะ​แค่​เอ่ย​ประโยค​ตามมารยาท​หลังจากที่​ดื่มเหล้า​ไป​เมามาย​แล้ว​ แต่​ก็​อาจจะ​ไม่ใช่

หลังจากที่​หวง​ชงเดิน​ออก​ไป​ได้​ระยะทาง​หนึ่ง​ พอ​หันกลับ​ไป​มอง​อีกครั้ง​ก็​เห็น​ว่า​เด็กชาย​ชุด​เขียว​ยังคง​ยืน​อยู่​ที่​เดิม​ คลี่​ยิ้ม​กว้าง​โบกมือ​อำลา​ตน​ สุดท้าย​สะบัด​ชาย​แขน​เสื้อ​สอง​ข้าง​เดิน​เข้าไป​ใน​ประตู​

อันที่จริง​ส่วนลึก​ใน​ใจของ​ฮ่องเต้​พระองค์​นี้​ คน​ของ​ภูเขา​ลั่วพั่ว​ที่​หวง​ชงอยาก​เจอ​มาก​ที่สุด​ นอกจาก​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​ที่​ต้อง​อยู่​อันดับ​หนึ่ง​แน่นอน​อยู่แล้ว​ คน​ที่​ตามมา​ด้านหลัง​ติดๆ​ ก็​คือ​ปรมาจารย์​ใหญ่​หญิง​ท่าน​หนึ่ง​

ขอ​แค่​ได้​พบ​เจอ​พวกเขา​ หวง​ชงก็​สามารถ​ไม่ต้อง​พูดคุย​เรื่อง​ผู้​ถวายงาน​หรือ​เค่อ​ชิงอะไร​ก็ได้​

……

เฉิน​ผิง​อัน​ไม่ได้​หลอก​ชิงถงจริงๆ​ ในความเป็นจริง​แล้ว​จิต​หยิน​ออก​เดินทางไกล​ของ​ลู่​เฉิน​กับ​เฉิน​ผิง​อัน​คน​หนึ่ง​ที่​สร้าง​ดินแดน​แห่ง​ความฝัน​ขึ้น​มาใหม่​ เวลานี้​อยู่​ใน​โพรง​หิน​แห่ง​หนึ่ง​ด้วยกัน​

เฉิน​ผิง​อัน​ที่​สวม​ชุด​เขียว​ปัก​ปิ่น​หยก​กับ​เจ้าลัทธิ​ลู่​ที่​สวม​กวาน​ดอกบัว​ยืน​อยู่​ริม​ขอบ​ของ​ผนัง​หิน​ด้วยกัน​ ลู่​เฉิน​ยก​มือขึ้น​ก็​สามารถ​เอื้อม​ไป​แตะ​บน​เพดาน​ของ​ถ้ำหิน​ได้​แล้ว​

ใน​พื้นที่​ที่​คับแคบ​แห่ง​นี้​ ตอนนั้น​นักพรต​ฉุน​หยาง​ที่มา​สร้าง​โอสถ​ทอง​อยู่​ที่นี่​คล้าย​ว่า​จะไม่ได้​ทิ้งร่องรอย​ใดๆ​ เอาไว้​ เหลือ​ไว้​เพียง​เบาะ​รอง​นั่ง​เก่า​คร่ำคร่า​ใบ​หนึ่ง​ที่​ถัก​ทอ​ขึ้น​มาจาก​หญ้า​ชนิด​หนึ่ง​ที่​ธรรมดา​ที่สุด​

ลู่​เฉิน​เดิน​วนรอบ​เบาะ​รอง​นั่ง​ใบ​นั้น​ไป​หนึ่ง​รอบ​ ยก​มือขึ้น​หนึ่ง​แนบ​ติดกับ​ผนัง​ถ้ำ พอ​หยุด​เดิน​แล้วก็​เอ่ย​ว่า​ “เบาะ​รอง​นั่ง​ใบ​นี้​ ผิน​เต้า​มอง​ความมหัศจรรย์​อะไร​ไม่ออก​”

เฉิน​ผิง​อัน​สอด​มือสอง​ข้าง​ไว้​ใน​ชาย​แขน​เสื้อ​อยู่​ตลอดเวลา​ ยืน​อยู่​ที่​เดิม​ ถามว่า​ “แม้ว่า​หลวี่​จู่จะไม่ได้​ร่าย​ตรา​ผนึก​ขุนเขา​สายน้ำ​อะไร​เอาไว้​ แต่​เจ้าว่า​หลาย​ปี​ที่ผ่านมา​นี้​ พวก​คน​ตัด​ต้นไม้​และ​คน​เก็บ​สมุนไพร​ที่อยู่​ใน​บริเวณ​ใกล้เคียง​จะไม่มีใคร​ที่​เข้ามา​ใน​ที่​แห่ง​นี้​บ้าง​เลย​หรือ​?”

ลู่​เฉิน​ส่ายหน้า​ “เกิน​ครึ่ง​น่าจะ​ไม่มี”

เฉิน​ผิง​อัน​หัน​ตัว​กลับมา​ เอนกาย​พิง​ผนัง​หิน​ “เด็ก​คน​นั้น​?”

ลู่​เฉิน​นั่ง​แปะ​ลง​ไป​บน​เบาะ​รอง​นั่ง​ ขยับ​ขา​นั่งขัดสมาธิ​ หัน​ฝ่ามือขึ้น​ด้านบน​ สอง​นิ้ว​ทำ​มุทรา​ ยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “ก็​แต่​เพิ่ม​ทางเดิน​อีก​เส้น​หนึ่ง​ให้​เด็ก​คน​นั้น​ จะไม่เป็นการ​วาด​งูเติม​ขา​ ฉีเจิน​ทำ​อะไร​รู้​หนัก​เบา​มาก​ที่สุด​แล้ว​ จะต้อง​เอา​เด็ก​คน​นี้​ไป​ไว้​ที่​อาราม​ชิวหา​ว​ ทั้ง​ไม่ดึง​ต้น​หญ้า​ช่วย​ให้​เติบโต​ แล้วก็​ไม่ย่ำยี​วัตถุดิบ​สวรรค์​ ใช่แล้ว​ ตอนนี้​เด็ก​คน​นั้น​ชื่อว่า​เย่​หลา​ง เย่​ที่​แปล​ว่า​ใบไม้​ หลา​งจาก​วลี​ว่า​ยกตนข่มท่าน​”

เฉิน​ผิง​อัน​ถามอย่าง​สงสัย​ “เด็ก​คน​นั้น​มีคุณสมบัติ​ใน​การ​ฝึก​ตน​จริงๆ​ หรือ​?”

ลู่​เฉิน​ส่ายหน้า​ “หาก​พูด​กัน​ใน​ความหมาย​ที่​เข้มงวด​ เขา​ไม่เหมาะ​จะฝึก​ตน​ ต่อให้​ไป​โขก​หัว​ขอร้อง​อยู่​ที่​หน้า​ประตู​ภูเขา​ของ​พรรค​หวง​เหลียง​ก็​ยัง​ขึ้น​เขา​ไป​ไม่ได้​ เป็น​เทพ​เซียน​ไม่ได้​ แต่​เด็ก​คน​นี้​มีราก​แห่ง​สติปัญญา​ คุณสมบัติ​ใน​การ​ฝึก​ตน​สามารถ​มองเห็น​ได้​ด้วย​ตาเปล่า​ แต่​ราก​แห่ง​สติปัญญา​ บอ​กว่า​มีประโยชน์​ก็​มีประโยชน์​มาก​ แต่​หาก​จะบอ​กว่า​ไร้ประโยชน์​เลย​ก็​ไร้ประโยชน์​จริงๆ​ ยกตัวอย่าง​เช่นว่า​ ไม่ว่า​จะอยู่​ใน​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​หรือ​ใต้​หล้า​ไพศาล​แห่ง​นี้​ ภิกษุ​ที่​ไม่มีชื่อเสียง​ใน​วัดวา​ทั้งหลาย​ พูดถึง​แค่​ระดับ​ขั้น​ความลึกซึ้ง​ของ​พระธรรม​ก็​ไม่แน่​เสมอไป​ว่า​จะแย่​ไป​กว่า​พวก​มังกร​คชสาร​แห่ง​ลัทธิ​พุทธ​ที่​มีสถานะ​เป็น​ผู้ฝึก​ตน​ห้า​ขอบเขต​บน​สัก​เท่าไร​ แต่​เมื่อ​ไม่อาจ​ฝึก​ตน​ก็​คือ​ไม่อาจ​ฝึก​ตน​ โชคดี​ที่​ไม่ถ่วง​รั้ง​การ​ฝึก​ปฏิบัติธรรม​ของ​พวกเขา​”

เฉิน​ผิง​อัน​ถาม “เด็ก​คน​นั้น​รับ​โชควาสนา​ส่วน​นี้​ของ​เจ้าไว้​ได้​หรือ​?”

ลู่​เฉิน​พยักหน้า​รับ​ด้วย​รอยยิ้ม​ “ถ้าอย่างนั้น​เจ้าเห็น​ยันต์​ที่​เขา​วาด​บน​พื้น​หรือไม่​ ไม่ธรรมดา​อย่าง​มาก​เลย​ล่ะ​ น่าเสียดาย​ที่​มีแค่​จิตวิญญาณ​ ไม่ได้​ใน​ทาง​รูปลักษณ์​ เป็น​หอ​เรือน​กลางอากาศ​ ดังนั้น​หาก​ไม่ได้​เจอ​เจ้าและ​ข้า​ สภาพการณ์​ของ​เขา​ตลอดชีวิต​นี้​ก็​จะคล้ายคลึง​กับ​หลวงจีน​ทั้งหลาย​ที่​ข้า​พูดถึง​”

เฉิน​ผิง​อัน​หันหน้า​ไป​มอง​ลู่​เฉิน​ที่​นั่งขัดสมาธิ​อยู่​บน​เบาะ​รอง​นั่ง​ พูด​ด้วย​สีหน้า​จริงจัง​ว่า​ “ใน​นิยาย​ยุทธ​ภพ​และ​นิทาน​เรื่องเล่า​ประหลาด​ต่าง​ก็​มีแนวคิด​บางอย่าง​พวก​นั้น​อยู่​ หนึ่ง​คือ​ถูก​ศัตรู​ตาม​ไล่​ฆ่า พลัด​ตกลง​ไป​จาก​หน้าผา​ อืม​ สถานที่​แห่ง​นี้​ค่อนข้าง​เหมือน​นะ​ จากนั้น​ก็​เจอ​กับ​โครงกระดูก​ของ​ยอด​ฝีมือ​หรือไม่​ก็​ร่องรอย​เซียน​โดยบังเอิญ​ ไม่พูดพร่ำทำเพลง​ก็​โขก​หัว​เสียงดัง​ ไม่แน่​ว่า​อาจ​ไป​สัมผัส​โดน​กลไก​อะไร​บางอย่าง​ ทำ​ให้ได้​เคล็ด​วิชา​ลับ​ด้าน​การ​ฝึก​วร​ยุทธ​ที่​พอ​ฝึก​สำเร็จ​แล้​วจะ​ไร้​ศัตรู​ทัดเทียม​ใน​ใต้​หล้า​ เจ้าไม่ลองดู​บ้าง​เล่า​ ถึงอย่างไร​ที่​แห่ง​นี้​ก็​มีแค่​พวกเรา​สอง​คน​ ไม่น่าอาย​หรอก​”

ลู่​เฉิน​พยักหน้า​รับ​รัว​ๆ เหมือน​โขลก​กระเทียม​ “ใช่แล้ว​ๆ เจ้าลูก​กระต่าย​เจีย​งอ​วิ๋น​เซิงชอบ​อ่านหนังสือ​เบ็ดเตล็ด​พวก​นี้​ที่สุด​ ตอนที่​เฝ้าประตู​ของ​ภูเขา​ห้อย​หัว​ก็​อ่าน​ พอ​มาเป็น​เจ้านคร​แล้วก็​ยัง​ทำ​เหมือนเดิม​”

เฉิน​ผิง​อัน​มีความทรงจำ​ที่​ลึกซึ้ง​ต่อ​นักพรต​น้อย​คน​นั้น​อย่าง​มาก​ ทุกครั้งที่​เจอกัน​เขา​จะต้อง​อ่านหนังสือ​อยู่​เสมอ​ จึงถามว่า​ “เป็น​เจ้านคร​ของ​นคร​เสิน​เซียว​หรือว่า​เป็น​เจ้านคร​ของ​นคร​ชิงชุ่ย​ล่ะ​?”

ลู่​เฉิน​ยิ้ม​กล่าว​ “เป็น​เจ้านคร​ชิงชุ่ย​ ถือว่า​ได้รับ​การ​เลื่อนขั้น​อย่าง​เป็น​ข้อยกเว้น​ เป็น​เจ้านคร​ของ​นคร​หนึ่ง​ใน​ป๋า​ยอ​วี้​จิงที่​ไม่ได้​เป็น​ผู้ฝึก​ตน​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​ ใน​ประวัติศาสตร์​ถือว่า​หา​ได้​ยาก​มาก​”

แน่นอน​ว่า​มีสาเหตุ​มาจาก​ลู่​เฉิน​พยายาม​อย่าง​สุดความสามารถ​อันน้อย​นิด​ที่​มี เพียงแต่ว่า​ขณะเดียวกัน​เจีย​งอ​วิ๋น​เซิงก็​ต้อง​เผชิญหน้า​กับ​หายนะ​เป็น​ตาย​ครั้งหนึ่ง​ นั่น​ต่างหาก​จึงจะเป็นการ​ทดสอบ​ใหญ่​ที่​แท้จริง​ มีชีวิต​อยู่​ต่อ​ก็ได้​เป็น​เจ้านคร​ชิงชุ่ย​อย่าง​ถูกต้อง​ชอบธรรม​ ไม่ได้​ถูก​มอง​เป็น​แค่​คน​เฝ้าประตู​ที่​มีแค่​ยศ​ของ​เจ้านคร​อย่าง​ว่างเปล่า​เท่านั้น​ หาก​ทำ​ไม่สำเร็จ​ ถ้าอย่างนั้น​ก็​ค่อย​ว่า​กัน​ใหม่​ชาติหน้า​ก็แล้วกัน​

เพราะ​ปี​นั้น​ตอนที่​ลู่​เฉิน​กลับ​จาก​ฟ้านอก​ฟ้ามายัง​ป๋า​ยอ​วี้​จิงได้​กักตัว​เทวบุตร​มาร​นอก​โลก​ที่​มีขนาด​เท่า​เมล็ด​งามาด้วย​ตน​หนึ่ง​ จากนั้น​ก็​โยน​มัน​เข้าไป​ใน​ดวงจิต​แห่ง​มรรคา​ของ​เจีย​งอ​วิ๋น​เซิงต่อหน้าต่อตา​ศิษย์​พี่​อวี๋​โต้​ว​

ธรรมะ​สูงหนึ่ง​ฉื่อ​ อธรรม​สูงหนึ่ง​จั้ง

ลู่​เฉิน​ยิ้ม​กล่าว​ “สามารถ​ถอน​ภาพ​ฝัน​อีก​อัน​หนึ่ง​ออก​ได้​แล้ว​หรือไม่​?”

เฉิน​ผิง​อัน​แสร้ง​ทำเป็น​ไม่ได้ยิน​

ลู่​เฉิน​ถอนหายใจ​ เพราะ​ใน​ ‘ซาก​ปรัก​ศาล​หลวี่กง’​ แห่ง​นั้น​ ดินแดน​ความฝัน​ก็​จะมีการ​จำแลง​บน​มหา​มรรคา​เช่นนี้​ต่อไป​

ตอนนี้​ที่นั่น​ ลู่​เฉิน​ หลู​เซิง เด็กสาว​ภูต​ดอก​โบตั๋น​ ผู้ฝึก​ตน​อิสระ​กลุ่ม​นั้น​ เทพ​ใหญ่​ศาล​เถื่อน​สอง​คน​…ยังคง​พูดคุย​กัน​อยู่​ที่​เดิม​

ราวกับว่า​เฉิน​ผิง​อัน​ไม่เคย​ปรากฏตัว​มาก่อน​ ลู่​เฉิน​ผู้​นั้น​ไม่ได้​เปิดเผย​ตัวตน​ของ​เด็กสาว​โบตั๋น​ ยังคง​ดื่มเหล้า​ร่วมโต๊ะ​กับ​หลู​เซิง สอง​ฝ่ายใน​ลานบ้าน​ที่​ไม่โรมรัน​กัน​อีกต่อไป​ยังคง​ยืน​รอ​ฟังคำสั่ง​…

เฉิน​ผิง​อัน​กล่าว​ “ถึงอย่างไร​ประคับประคอง​ตน​ได้​อีกไม่นาน​ก็​จะสลาย​หาย​ไป​เอง​อยู่แล้ว​”

ก็​เหมือน​น้ำหมึก​เข้มข้น​ที่​ใช้เขียน​ตัวอักษร​แบบ​หวัด​เสร็จ​ใน​รวดเดียว​ ต่อให้​ตัวอักษร​มีมาก​แค่​ไหน​ รอย​น้ำหมึก​บน​กระดาษ​ก็​ย่อม​ต้อง​เจือจาง​และ​แห้ง​ไป​อยู่ดี​

ลู่​เฉิน​เอง​ก็​ไม่มัว​ถกเถียง​ใน​เรื่อง​เล็กน้อย​เรื่อง​นี้​อีก​ อยู่ดีๆ​ ก็​พูด​อย่าง​ปลงอนิจจัง​ขึ้น​มาว่า​ “สรุป​แล้ว​ใต้​หล้า​นี้​มีคน​ที่​ตัดขาด​จาก​โลก​ภายนอก​อยู่​อย่าง​สันโดษ​หรือไม่​”

เฉิน​ผิง​อัน​ไม่มีความคิด​จะพูดคุย​ด้วย​ เห็น​ว่า​ลู่​เฉิน​ไม่มีท่าที​ว่า​จะลุกขึ้น​ก็​นั่ง​ไป​ริม​ขอบ​ของ​ช่อง​โพรง​หิน​ เท้า​สอง​ข้าง​ห้อย​อยู่​นอก​หน้าผา​ ทอดสายตา​มอง​ไป​ยัง​ทิศ​ไกล​เงียบๆ​

“เฉิน​ผิง​อัน​ เจ้าว่า​หาก​ยุค​เสื่อม​มาถึงจริงๆ​ ผู้คน​ในเวลานั้น​จะคิด​ไม่ตก​ จะถกเถียง​กัน​เรื่อง​ปัญหา​ข้อ​หนึ่ง​ว่า​สรุป​แล้ว​บน​โลก​มีผู้ฝึก​บำเพ็ญตน​อยู่​หรือไม่​?”

ลู่​เฉิน​ถามเอง​ตอบ​เอง​ “ปัญหา​ใหญ่​เทียมฟ้า​ ดูเหมือนว่า​จะมีแค่​ข้อ​เดียว​ก็​พอแล้ว​”

“ดูเหมือนว่า​พวกเขา​ต่าง​ก็​เคยชิน​กับ​การ​ที่​ฟ้าร้อง​ฝนตก​ แดด​ส่อง​เหงื่อ​ออก​ มนุษย์​ธรรมดา​ล่าง​ภูเขา​มีเกิด​แก่​เจ็บ​ตาย​ พืช​หญ้า​ใน​ฟ้าดิน​มีแห้งเหี่ยว​งอ​กง​งาม…เฉิน​ผิง​อัน​ เจ้าคิด​ว่า​เรื่อง​ที่​ถูก​พวกเรา​ยอมรับ​ว่า​ถูก​ต้องตาม​หลัก​ฟ้าดิน​ เส้นสาย​ที่​ถูก​เรียก​รวม​ว่า​เป็น​ความสัมพันธ์​ใน​เชิงเหตุ​และ​ผล​เช่นนี้​ เมื่อ​สืบสาว​ไป​ถึงต้นกำเนิด​แล้ว​ ใคร​จะสามารถ​รับผิดชอบ​เส้นสาย​นี้​ได้​? หาก​จะบอ​กว่า​ชีวิต​คน​คือ​การ​ติดหนี้​และ​ใช้หนี้​ครั้งหนึ่ง​ ถ้าอย่างนั้น​คน​รับประกัน​ที่อยู่​ตรงกลาง​ สรุป​แล้ว​จะเป็น​ใคร​ แล้ว​จะเป็น​บุคคล​แบบ​ใด​? ข้า​เคย​ถามคำถาม​เช่นนี้​กับ​ศิษย์​พี่​มาก่อน​ ศิษย์​พี่​ตอบ​ไม่ตรง​คำถาม​ บอก​กับ​ข้า​ว่า​นี่​เป็น​แค่​ปัญหา​เล็กน้อย​เท่านั้น​ ข้า​จึงถามว่า​ ถ้าอย่างนั้น​ใน​ความเห็น​ของ​ศิษย์​พี่​ ปัญหา​ใหญ่​ที่​แท้จริง​ล่ะ​คือ​อะไร​?”

“ศิษย์​พี่​ยิ้ม​ตอบคำถาม​ บอ​กว่า​ถ้าหาก​มอง​ฟ้าดิน​ทั้ง​แห่ง​เป็นหนึ่ง​อย่างหนึ่ง​ ถ้าอย่างนั้น​ผู้ฝึก​ตน​อย่าง​เรา​ๆ จะมีวิชา​อภินิหาร​ที่จะ​เพิ่ม​หนึ่ง​ที่​ดูเหมือนว่า​จะไม่แปรเปลี่ยน​มานับแต่​โบราณ​นี้​มากขึ้น​อีก​นิด​ หรือ​ลด​มัน​ให้​น้อยลง​อีกหน่อย​ได้​หรือไม่​?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!