กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 941

สรุปบท บทที่ 941.2 ทะยานฟ้าหมื่นลี้ต้องมีกระบี่ยาว: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!

บทที่ 941.2 ทะยานฟ้าหมื่นลี้ต้องมีกระบี่ยาว – ตอนที่ต้องอ่านของ กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!

ตอนนี้ของ กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 941.2 ทะยานฟ้าหมื่นลี้ต้องมีกระบี่ยาว จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ไหล่​ของ​เฉินห​ลิง​จวิน​เอียง​ไป​ข้าง​หนึ่ง​ อยาก​จะเผ่น​ให้​ว่องไว​เหมือน​ทา​น้ำมัน​ใต้​ฝ่าเท้า​ ฝ่ามือ​ข้าง​นั้น​ของ​ลู่​เฉิน​กลับ​เพิ่ม​แรง​กด​ลงมา​อีก​ ถึงอย่างไร​ก็​อย่า​หวัง​ว่า​จะหนี​ไป​ได้​

ลู่​เฉิน​หันหน้า​มายิ้ม​เอ่ย​ “สหาย​จิ่งชิง ไม่ได้​เจอกัน​แค่​ไม่กี่​วัน​ ทำไม​ถึงทำตัว​ห่างเหิน​กับ​ผิน​เต้า​เช่นนี้​เล่า​ ไม่มีแม้แต่​รอยยิ้ม​ให้​กัน​เลย​สักครั้ง​”

เฉินห​ลิง​จวิน​ที่​เรือน​กาย​ขึง​เกร็ง​เงยหน้า​ขึ้น​ฝืน​เค้น​รอยยิ้ม​ให้​เจ้าลัทธิ​ลู่​แห่ง​ป๋า​ยอ​วี้​จิงผู้​นั้น​

ลูกผู้ชาย​ยืด​ได้​หด​ได้​ แค่​สอง​เค่อ​เท่านั้น​ อีก​อย่าง​นาย​ท่าน​บ้าน​ตน​ก็​อยู่​ข้าง​กาย​ เจ้าลัทธิ​ลู่​เจ้าอย่า​มากร่าง​กับ​ข้า​เลย​

เบาไม้เบามือ​กับ​ข้า​หน่อย​ ลอง​เพิ่ม​น้ำหนัก​อีก​สัก​สอง​สามส่วน​ดู​สิ? นาย​ท่าน​ใหญ่​เฉิน​อย่าง​ข้า​จะลง​ไป​ชักดิ้นชักงอ​ร้องไห้​โวยวาย​ให้​เจ้าดู​เลย​

ลู่​เฉิน​ยิ้ม​ตาหยี​เอ่ย​ว่า​ “สหาย​จิ่งชิง ผิน​เต้า​ลืม​ไป​แล้ว​ว่า​พวกเรา​สอง​คน​ใจตรงกัน​ เสียง​ใน​ใจนั้น​ของ​เจ้า ดัง​เข้าหู​ผิน​เต้า​ก็​เหมือน​เสียง​ฟ้าผ่า​อย่างไร​อย่างนั้น​”

เฉินห​ลิง​จวิน​ยกมือ​สั่น​ๆ ขึ้น​เช็ด​เหงื่อ​ที่อยู่​บน​ใบหน้า​ ตะเบ็งเสียง​ดังลั่น​ พูด​อย่าง​คน​แข็ง​นอก​อ่อน​ใน​ว่า​ “เจ้าลัทธิ​ลู่​ รังแก​คนอื่น​ก็​ต้อง​มีขอบเขต​นะ​ ทำไม​ท่าน​ถึงได้​ชอบ​ข่มขู่​ข้า​อยู่​เรื่อย​เลย​ ข้า​ก็​มีอารมณ์​โมโห​ได้​เหมือนกัน​นะ​…”

ตัวเอง​นึก​ว่า​เสียงดัง​ปาน​ฟ้าผ่า​ แต่​อันที่จริง​กลับ​ดัง​แค่​หวึ่งๆ​ เหมือน​เสียง​ยุง​บิน​ ลู่​เฉิน​เอ่ย​ด้วย​สีหน้า​ตกตะลึง​ “เจ้าโมโห​ได้​มาก​แค่​ไหน​กัน​ล่ะ​ แสดง​ออกมา​ให้​ผิน​เต้า​ดู​หน่อย​สิ?”

ลู่​เฉิน​ยกมือ​ข้าง​นั้น​ขึ้น​ช้าๆ ตรง​กลางฝ่ามือ​ของ​เจ้าลัทธิ​สามแห่ง​ป๋า​ยอ​วี้​จิงผู้​นี้​อันที่จริง​มีภาพ​บรรยากาศ​ภูเขา​สายน้ำ​สั่นสะเทือน​ เมื่อครู่นี้​ลอง​อนุมาน​ดู​อ้อม​ๆ ไป​รอบ​หนึ่ง​ ทำการ​ทำนาย​ดู​ก็​เริ่ม​รู้สึก​นับถือ​เด็กชาย​ชุด​เขียว​ตรงหน้า​ผู้​นี้​นิดๆ​ แล้ว​

ไม่พูดถึง​คำพูด​ห้าว​เหิม​และ​เรื่องเล่า​เทพ​เซียน​ร้อย​เรียง​ติดต่อ​กันที่​เฉินห​ลิง​จวิน​สร้าง​ไว้​กับ​บรรพ​จารย์​สามลัทธิ​ พูดถึง​แค่​กับ​เจ้าอาราม​ผู้เฒ่า​คน​นั้น​ ไม่ถูก​เจ้าแห่ง​ถ้ำปี้​เซียว​ที่​มีชื่อเสียง​เลื่องลือ​ว่า​ ‘จุด​ที่​ละเว้น​คนอื่น​ได้​ไม่ละเว้น​’ มานาน​นับ​หมื่น​ปี​ตบ​จน​กลายเป็น​ก้อน​เนื้อ​เละ​ๆ ก็​ถือว่า​…เป็นเรื่อง​มหัศจรรย์​ใหญ่​เทียมฟ้า​แล้ว​

ท่ามกลาง​ม้วน​ภาพ​แห่ง​กาลเวลา​ที่​พร่า​เลือน​ภาพ​หนึ่ง​ เด็กชาย​ชุด​เขียว​เขย่ง​ปลายเท้า​ตบ​เขา​วัว​ บอ​กว่า​บน​ภูเขา​มีหญ้า​เขียว​มาก​พอให้​เล็ม​กิน​

หาก​เป็น​ผู้ฝึก​ตน​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​อย่าง​พวก​ชิงถง คาด​ว่า​เวลานี้​คง​ได้​ไป​เกิด​ใหม่​เรียบร้อย​แล้ว​

ภายหลัง​ก็​เห็น​ว่า​วัว​ดำ​ตัว​นั้น​หันหน้า​กลับมา​ ใบหน้า​ของ​เด็กชาย​ชุด​เขียว​เต็มไปด้วย​ความปลาบปลื้ม​ ผล​คือ​เขา​ยัง​เอ่ย​อีก​ประโยค​หนึ่ง​ว่า​ พอ​ได้ยิน​คำ​ว่า​กิน​ก็​เข้าใจ​ได้​เลย​หรือ​ เป็นเรื่อง​ดี​ ไม่แน่​ว่า​วันหน้า​จะสามารถ​ฝึก​วิชา​เซียน​ได้​จริง​

คาด​ว่า​หาก​เปลี่ยน​มาเป็น​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​อย่าง​พวก​นักพรต​เนิ่น​ก็​คงจะ​ต้อง​ไป​เดิน​บน​เส้นทาง​สู่น้ำพุ​เหลือง​เป็นเพื่อน​ชิงถงแน่นอน​แล้ว​

ใน​บรรดา​ผู้ฝึก​ตน​ใหญ่​ขอบเขต​สิบ​สี่ พลัง​พิฆาต​ของ​ป๋า​ย​เห​ย่​ และ​การป้องกัน​ของ​ภิกษุ​เสิน​ชิง หรือ​ก็​คือ​ภิกษุ​น้ำแกง​ไก่​ ต่าง​ก็​ได้รับ​การ​ยอมรับ​ว่า​เป็น​อันดับ​หนึ่ง​

ทว่า​เฒ่าตาบอด​ใน​ภูเขาใหญ่​แสน​ลี้​ กับ​เจ้าอาราม​ผู้เฒ่า​ตง​ไห่​แห่ง​อาราม​กวาน​เต๋า​ ทั้ง​เรื่อง​ของ​การป้องกัน​และ​โจมตี​ก็​แค่​เพราะ​เปรียบเทียบ​กับ​ป๋า​ย​เห​ย่​และ​เสิน​ชิงเท่านั้น​ ถึงได้​ดู​ไม่โดดเด่น​ถึงเพียงนั้น​

ใน​สายตา​ของ​ซุน​ไหว​จงแห่ง​อาราม​เสวียน​ตู​ บรรพ​จารย์​สามลัทธิ​ หรือ​แม้แต่​จอม​ปราชญ์​น้อย​เอง​ เต๋า​เหล่า​เอ้อ​ ป๋า​ย​เจ๋อ​ บวก​กับ​อีก​สี่คน​นี้​ พอ​จะเอา​มารวมกัน​ให้​กลายเป็น​ ‘สิบ​ผู้​กล้า​ใน​ใต้​หล้า​’ กลุ่ม​ที่สอง​ของ​ตลอด​หมื่น​ปี​ได้​

กวอ​จู๋จิ่ว​คลี่​ยิ้ม​ไม่เอ่ย​อะไร​

เฉิน​ผิง​อัน​ถาม “ทำไม​หรือ​?”

กวอ​จู๋จิ่ว​หัวเราะ​หึหึ​ “อาจารย์​พ่อ​ ไม่รู้​ว่า​ทำไม​ ยิ่ง​คิด​เยอะ​คำพูด​ยิ่ง​น้อยลง​ ประหลาด​จริง​”

เฉิน​ผิง​อัน​ตีหน้า​เคร่ง​พยักหน้า​รับ​ “ดีมาก​ เหมือน​อาจารย์​พ่อ​”

ชิงถงไม่เคย​เห็น​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​มีสีหน้า​อ่อนโยน​ขนาด​นี้​มาก่อน​

ห​ลี่​ไหว​พลัน​เอ่ย​ว่า​ “เฉิน​ผิง​อัน​ ขอ​ปรึกษา​กับ​เจ้าสัก​เรื่อง​สิ”

เฉิน​ผิง​อัน​พยักหน้า​รับ​ด้วย​รอยยิ้ม​ เดิน​เข้าไป​ใน​ห้อง​พร้อมกับ​ห​ลี่​ไหว​

นักพรต​เนิ่น​ที่​ยืน​นิ่ง​อยู่​หน้า​ประตู​เป็น​เทพ​ทวารบาล​ตื่นเต้น​ยิ่งกว่า​ห​ลี่​ไหว​เสีย​อีก​ ยืน​เพียง​ครู่เดียว​ นักพรต​เนิ่น​กลับ​รู้สึก​ว่า​นั่งลง​ผ่อนคลาย​กว่า​มาก​นัก​

ก็​เหมือน​อย่าง​ขุนนาง​ผู้​ซื่อสัตย์​ที่​หยิ่งในศักดิ์ศรี​มาเจอ​กับ​กษัตริย์​ทรราช​ที่​ไม่สน​น้ำร้อนน้ำชา​ใดๆ​ ยาก​ที่จะ​แสดง​ปณิธาน​ออกมา​ โชคดี​ที่​ถูก​ทรราช​ผู้​นั้น​แต่งตั้ง​เป็น​ขุนนาง​ใหญ่​คนสำคัญ​ให้​ไป​อยู่​ตำหนัก​รัชทายาท​ คอย​ให้การ​ช่วยเหลือ​ประคับประคอง​รัชทายาท​ จากนั้น​ก็​มีวันหนึ่ง​ที่​ฮ่องเต้​เฒ่าผู้​นั้น​วางท่า​ว่า​จะสั่งเสีย​ก่อน​ตาย​ บอ​กว่า​จะยก​ทรัพย์สิน​ทั้งหมด​ใน​ท้องพระคลัง​ให้​ตำหนัก​รัชทายาท​ดูแล​ ก็​เหมือน​พูดจา​อย่าง​เปิดเผย​ตรงไปตรงมา​ว่า​วันหน้า​เจ้าเป็น​คน​รับผิดชอบ​ ‘สำเร็จ​ราชการ​แทน​’ และ​รัชทายาท​คน​นี้​กลับ​ดัน​มาทำตัว​ขี้ขลาด​ใน​ช่วงเวลา​ที่​เป็น​กุญแจ​สำคัญ​เช่นนี้​

น่าจะ​มีความหมาย​ประมาณ​นี้​กระมัง​ ส่วน​ความต่าง​ใน​รายละเอียด​อื่นๆ​ สามารถ​มองข้าม​ไป​ได้​

และ​จะไม่ทำให้​นักพรต​เนิ่น​ที่นั่ง​อยู่​ตรง​ธรณีประตู​ตื่นเต้น​ได้​อย่างไร​ไหว​

หลักการ​เหตุผล​ใน​ใต้​หล้า​ก็​หนี​ไม่พ้น​คำ​ว่า​ เข้ามา​อยู่​ใน​กระเป๋า​จึงจะสบายใจ​ ของดี​ๆ ที่​คนอื่น​ขอร้อง​ก็​ยัง​ไม่ได้มา​ คุณชาย​ นาย​ท่าน​ห​ลี่​ไหว​ บรรพบุรุษ​น้อย​ห​ลี่​ไหว​ ขอให้​ท่าน​เอา​มาไว้​ใน​กระเป๋า​ให้​สบายใจ​ก่อน​เถอะ​นะ​

มัลละ​เกราะ​ทอง​ที่​ไม่สนใจ​ความเป็นความตาย​มากมาย​ขนาด​นั้น​ บวก​กับ​พวก​แมลง​น่าสงสาร​บางส่วน​ที่​กลาย​มาเป็น​เซียน​ผี​ จากนั้น​ถูก​กัก​อยู่​ใน​ ‘กรงขัง​กลาง​ท้อง​’ ของ​มัลละ​เกราะ​ทอง​ หาก​พวก​มัน​ล้วน​รับ​ห​ลี่​ไหว​เป็น​เจ้านาย​…

อยู่​ใน​ใบ​ถงทวีป​ที่​พลัง​ชีวิต​เสียหาย​อย่าง​หนัก​ ขอ​แค่​ไม่มีผู้ฝึก​ตน​ขอบเขต​สิบ​สี่มาขวางทาง​ก็​มาก​พอ​จะเดินกร่าง​ใน​หนึ่ง​ทวีป​ได้​เลย​!

อยู่​กับ​เฉิน​ผิง​อัน​ ห​ลี่​ไหว​ไม่เคย​มีข้อห้าม​อะไร​อยู่แล้ว​

ถึงอย่างไร​ตัวเอง​เป็น​คน​อย่างไร​ เฉิน​ผิง​อัน​ก็​รู้ดี​ที่สุด​อยู่แล้ว​

ก่อนหน้านี้​เฒ่าตาบอด​ที่อยู่​ใน​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​ได้​ลา​กห​ลี่​ไหว​และ​นักพรต​เนิ่น​เข้าไป​ใน​ความฝัน​ หวนกลับ​ไป​ยัง​ภูเขาใหญ่​แสน​ลี้​อีกครั้ง​

ผล​คือ​ตอน​อยู่​บน​ยอดเขา​แห่ง​นั้น​มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์​ใหญ่​ยักษ์​ตน​หนึ่ง​ที่​ไม่เคย​พบ​เจอ​มาก่อน​ปรากฏตัว​ ต่อให้​อีก​ฝ่าย​อยู่​ใน​ท่า​นั่งคุกเข่า​ข้างเดียว​ ศีรษะ​นั้น​ก็​ยัง​สูงทัดเทียม​กับ​ยอดเขา​

เกือบจะ​ทำเอา​ห​ลี่​ไหว​ตกใจ​จน​ออก​มาจาก​ดินแดน​แห่ง​ความฝัน​ ตอนนั้น​ยังคง​เป็น​เฒ่าตาบอด​ที่​ช่วย​สร้าง​ความสงบ​ให้​กับ​จิต​แห่ง​มรรคา​ของ​เขา​ ห​ลี่​ไหว​ถึงได้​ไม่ถอย​ออกจาก​ฝัน​

แน่นอน​ว่า​นักพรต​เนิ่น​ยอมรับ​ใน​ตัว​ห​ลี่​ไหว​มาก​ ขี้ขลาด​ แต่กลับ​ใจคอ​กว้างขวาง​มีน้ำใจ​ ไม่ใช่เมล็ด​พันธ์​บัณฑิต​ แต่​มักจะ​มีความคิด​ดี​ๆ ผุด​วาบ​ขึ้น​มาใน​หัว​ มีหลักการ​เหตุ​ผลดี​ๆ หลุด​ออก​มาจาก​ปาก​อยู่​เสมอ​

สงคราม​ครั้งหนึ่ง​สิ้นสุดลง​ อดทน​ผ่าน​มัน​ไป​ไม่ได้​ มัลละ​เกราะ​ทอง​ใต้​บัญชา​การณ์​ของ​ห​ลี่​ไหว​ก็​จะเป็น​เหมือน​ตำรา​ที่​วาง​อยู่​บน​ชั้น​หนังสือ​ใน​ห้อง​วันนี้​ที่​เป็นได้​แค่​ของ​ประดับ​ตกแต่ง​ห้อง​ แต่​คน​ทั่ว​ทั้ง​ใต้​หล้า​ไพศาล​กลับ​ฝาก​ความหวัง​ไว้​กับ​ห​ลี่​ไหว​ เจ้าเป็น​นักปราชญ์​ของ​สำนักศึกษา​ซาน​ห​ยา​ คือ​ลูกศิษย์​ของ​ฉีจิ้งชุน​ คือ​ลูกศิษย์​ของ​ลูกศิษย์​สาย​เห​วิน​เซิ่ง เจ้ามีพลัง​การ​สู้รบ​ที่​น่าหวาดกลัว​ซึ่งเป็น​กุญแจ​สำคัญ​อยู่​ใน​มือ​ เหตุใด​ไม่ยินดี​พา​ตัว​เข้าสู่​สนามรบ​?

ต่อให้​ห​ลี่​ไหว​สามารถ​อดทน​ผ่าน​ด่าน​ยาก​ทางใจ​ด่าน​นี้​ไป​ได้​ เริ่ม​บังคับ​ให้​ตัวเอง​ยอมรับ​หลักการ​เหตุผล​บางอย่าง​บน​สนามรบ​ จำต้อง​ทำ​เรื่อง​ที่​ผิด​ต่อ​ตำรา​อริยะ​ปราชญ์​ คอย​บอก​กับ​ตัวเอง​อย่าง​ต่อเนื่อง​ว่า​บน​สนามรบ​ดาบ​และ​หอก​ไร้​ตา​ หาก​ใจอ่อน​เป็น​สตรี​ก็​ไม่สามารถ​กุมอำนาจ​ทางการทหาร​ได้​ สุดท้าย​นำ​ทัพ​ใหญ่​เกราะ​ทอง​กรีฑา​ทัพ​ลง​ใต้​ไป​ตลอดทาง​ ถ้าอย่างนั้น​ชีวิต​ของ​ห​ลี่​ไหว​ในอนาคต​ก็​จะเหมือน​ได้​เดิน​ไป​บน​ทางแยก​อีก​ทาง​หนึ่ง​ บางที​อาจ​เติบใหญ่​เพราะเหตุนี้​ อาจ​ดี​ได้​ยิ่งกว่า​นี้​ หรือ​อาจ​ถึงขั้น​ได้​กลายเป็น​วิญญูชน​อย่าง​สมชื่อ​คน​หนึ่ง​ แต่ว่า​กลับ​มีความเป็นไปได้​มากกว่า​ว่า​จะไม่อาจ​ปล่อยวาง​ได้​ลง​ ต้อง​มีชีวิต​จมอยู่​ใน​ความรู้สึกผิด​ไป​ชั่วชีวิต​ ราวกับว่า​หลักการ​เหตุผล​อะไร​ล้วน​รู้​หมด​ ก็​แค่​ว่า​…ตัวเอง​ปล่อยวาง​ตัวเอง​ไม่ลง​ก็​เท่านั้น​

ทว่า​คำพูด​เหล่านี้​ หลักการ​เหตุผล​พวก​นี้​ เฉิน​ผิง​อัน​ก็​ยัง​ไม่คิด​จะแจกแจง​รายละเอียด​ปลีกย่อย​กับ​ห​ลี่​ไหว​ ‘ชั่วคราว​’ เหมือนกัน​

บน​เส้นทาง​ของ​ชีวิต​คน​ บางครั้ง​รับเอา​หลักการ​เหตุผล​ข้อ​หนึ่ง​ที่​มีน้ำหนัก​มาก​มา ต่อให้​หลักการ​เหตุผล​ข้อ​นี้​จะดี​แค่​ไหน​ แต่​ก็​เป็น​แค่​การ​เพิ่ม​ก้อนหิน​ใหญ่​ก้อน​หนึ่ง​ลง​ไป​ใน​ตะกร้า​สะพาย​หลัง​ของ​คน​ที่​เดิน​ขึ้น​เขา​เท่านั้น​

จะทำให้​คน​เดินโซเซ​ มิอาจ​แบกรับ​น้ำหนัก​ได้​ไหว​ ขมขื่น​เกิน​กว่า​จะบรรยาย​

ห​ลี่​ไหว​เอ่ย​อย่าง​กังขา​ “นี่​เรียก​ว่า​ไม่น่าฟัง​แล้ว​หรือ​?”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “ที่​น่าฟัง​ก็​คือ​ เจ้าห​ลี่​ไหว​คือ​ลูกศิษย์​ของ​สาย​เห​วิน​เซิ่งพวกเรา​ ถ้าอย่างนั้น​ก็​ง่าย​แล้ว​ นับตั้งแต่​เห​วิน​เซิ่งอาจารย์​ปู่​ของ​เจ้า มาจนถึง​อาจารย์​ฉีผู้​ถ่ายทอดวิชา​ความรู้​ให้​เจ้า ไป​จนถึง​อาจารย์​ลุง​ใหญ่​ชุย​ฉาน​ อาจารย์​ลุง​รอง​จั่ว​โย่ว​ อาจารย์​ลุง​สามหลิว​สือ​ลิ่ว​ จน​มาถึงอาจารย์​อา​น้อย​เฉิน​ผิง​อัน​ พวกเรา​ที่อยู่​ท่ามกลาง​สงคราม​ใหญ่​ที่​หอบ​ม้วน​สอง​ใต้​หล้า​เข้า​ไว้​ด้วยกัน​คราว​นั้น​ ต่าง​ก็​ออกแรง​กัน​ไป​ไม่หน่อย​ หาก​เอาเรื่อง​ผลงาน​ทางการ​สู้รบ​มาคุย​กัน​ พวกเรา​ทุกคน​เฉลี่ย​ให้​เจ้าคนละ​นิด​คนละ​หน่อย​ ก็​ไม่ถือว่า​น้อย​แล้ว​”

ห​ลี่​ไหว​ทำ​หน้า​อึ้ง​ตะลึง​ จากนั้น​ก็​เอ่ย​อย่าง​อัดอั้น​ว่า​ “นี่​ยัง​สู้คำพูด​ที่​ไม่น่าฟัง​ไม่ได้​เลย​นะ​”

นักพรต​เนิ่น​ที่​ยืน​อยู่​ตรงหน้า​ประตู​ไม่ชอบใจ​ทันใด​ เจ้าคน​แซ่เฉิน​ผู้​นี้​ ทำไม​เจ้าถึงได้​ชั่วร้าย​ขนาด​นี้​ล่ะ​

ไม่เห็น​หัว​ข้า​นักพรต​เนิ่น​เลย​ใช่ไหม​ ถึงได้​กล้า​รังแก​คุณชาย​บ้าน​ข้า​อย่าง​เปิดเผย​เช่นนี้​?

พวกเรา​สอง​คน​มาขีดเส้น​แบ่ง​กัน​เลย​ หาก​แน่จริง​ก็​อย่า​นับ​ที่พึ่ง​ของ​ใคร​ของ​มัน​ จากนั้น​ถอดยศ​ที่​เป็น​สิ่งลวงตา​จับต้อง​ไม่ได้​พวก​นั้น​ทิ้ง​ไป​ รวมไปถึง​หลัง​จบเรื่อง​ใคร​ก็​ห้าม​อาฆาตแค้น​ มาฝึกปรือ​ฝีมือ​กัน​ มาประลอง​มรรค​กถา​กัน​ดี​ไหม​ล่ะ​?

เฉิน​ผิง​อัน​เอ่ย​ต่อ​อี​กว่า​ “ห​ลี่​ไหว​ ต้อง​เชื่อมั่น​ใน​ตัวเอง​ นอก​สนามรบ​ วันหน้า​เจ้าสามารถ​ทำ​เรื่อง​ต่างๆ​ ได้​อีก​มากมาย​ ศึกษา​หา​ความรู้​ใน​ห้อง​หนังสือ​ และ​ยัง​มีเรื่อง​ที่​นอกเหนือจาก​การศึกษา​หา​ความรู้​ บางที​เรื่อง​ส่วนใหญ่​ใน​บรรดา​เรื่อง​พวก​นั้น​คนอื่น​ก็​อาจ​ทำได้​ แต่​ก็​จะต้อง​มีบาง​เรื่อง​ที่​มีแค่​ห​ลี่​ไหว​เท่านั้น​ที่​ถึงจะทำได้​ ไม่ว่า​จะใน​ฐานะ​ลูกศิษย์​ลัทธิ​ขงจื๊อ​หรือ​การ​อยู่​ร่วมกับ​สังคม​ของ​ตัวเอง​ ความมั่นใจ​น้อย​นิด​แค่นี้​ก็​ควร​ยัง​ต้อง​มี”

ห​ลี่​ไหว​เงยหน้า​ขึ้น​ “ข้า​ไม่ค่อย​เชื่อมั่น​ใน​ตัวเอง​สัก​เท่าไร​ แต่​ข้า​เชื่อมั่น​ใน​ตัว​เจ้า”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​พร้อมกับ​ปรบมือ​ “แค่นี้​ก็​พอแล้ว​ไม่ใช่หรือ​”

ห​ลี่​ไหว​นึก​เรื่อง​หนึ่ง​ขึ้น​ได้​ก็​หยิบ​ตำรา​เล่ม​นั้น​ที่​วาง​อยู่​บน​โต๊ะ​ขึ้น​มา ถามชวน​คุย​ว่า​ “เฉิน​ผิง​อัน​ เจ้ารู้จัก​หลวี่เหยียน​ที่​เขียนหนังสือ​เล่ม​นี้​ไหม​?”

เฉิน​ผิง​อัน​พยักหน้า​รับ​ด้วย​รอยยิ้ม​ “ไม่เพียงแค่​รู้จัก​ ข้า​ยัง​เคย​เจอหลวี่​จู่ผู้​นี้​มาก่อน​ด้วย​ ฉายา​ของ​เขา​คือ​ฉุน​หยาง​ คือ​เกา​เจิน​ผู้​บรรลุ​มรรคา​ที่​มีความรู้​มาก​คน​หนึ่ง​ หลวี่​จู่ก็​เหมือน​อาจารย์​ฉีที่​เดิน​ไป​บน​เส้นทาง​ของ​การผสาน​รวม​สามลัทธิ​ได้​สูงมาก​ไกล​มาก​”

เฉิน​ผิง​อัน​กวาดตา​มอง​ชั้น​หนังสือ​ พอ​มั่นใจ​ใน​ตำแหน่ง​เดิม​ของ​ตำรา​เล่ม​นี้​แล้วก็​อด​ทอดถอนใจ​อย่าง​ปลงอนิจจัง​ไม่ได้​ว่า​ ขนาด​นี้​ก็​ยัง​ถูกห​ลี่​ไหว​พลิก​หา​ออกมา​ได้​นะ​?

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!