กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 964

หวังซุนขมวดคิ้วน้อยๆ “ไม่ใช่เรื่องนี้เลย”

หลงซินผู้ปลุกความกล้าโต้กลับไปว่า “อันที่จริงก็คือเรื่องนี้นี่ แหละ ลองคิดดูสิ หากข้า มีเวทกระบี่ของผู้ไร ้เทียมทานที่แท้จริงหรือ มีมรรคกถาของเจ้าลัทธิลู่ เจ้าจะไม่มองข้านานอีก หน่อย อดทนฟัง เรื่องที่เกี่ยวกับข้ามากอีกหน่อยหรอกหรือ?”

หวังซุนครุ่นคิด “ดูเหมือนว่าจะเป็ นเช่นนี้จริงๆ”

อันที่จริงหลงชื่อรู ้ชัดเจนดีกว่า อันที่จริงไม่ได้เป็ นแบบนี้เลย

ขอบเขตของตนสูงแล้ว ชื่อเสียงโด่งดังแล้วก็หนีไม่พ้นว่า สามารถท าให้หวังซุนมองเขา นานหน่อย ฟังเขามากหน่อยเท่านั้น แต่ถึงอย่างไรก็ไม่เกี่ยวข้องกับความชื่นชอบ

การที่เขา “ก่อกวนสุ่มสี่สุ่มห้า เช่นนี้ก็เพราะอยากจะพูดกับนาง ให้มากอีกนิด ไม่ถึงกับ ท าให้บรรยากาศเย็นชา ได้แต่มองหน้ากันตา ปริบๆ โดยที่ไม่ได้พูดคุยอะไรกัน

หากเพียงแค่รู้สึกกระอักกระอ่วนก็คงไม่เท่าไร กลัวก็แต่ว่าพอ นางรู ้สึกกระอักกระอ่วน รู ้สึกว่าไม่มีเรื่องอะไรให้พูดคุยก็จะแค่เอ่ยไป ตามมารยาทสองสามค าแล้วหมุนตัวเดินจาก ไปทันที

ความลุ่มหลงในรักที่รักเขาข้างเดียวในใต้หล้านี้ ดูเหมือนว่าจะ ไม่มีค่าแม้แต่แดงเดียว เช่นนี้เสมอ

แต่หากว่ามีค่า ไยต้องรักฝ่ายเดียวด้วยเล่า

หลงซินผู่เอ่ยอย่างระมัดระวังว่า “เรื่องที่จะโน้มน้าวให้ป่ายเหย่มา รับหน้าที่เป็ นตูเจี่ยง หรือไม่ก็เตี้ยนจู่ ข้าสามารถลองดูได้ หากช่วย เจ้า…ช่วยพวกเจ้าได้ย่อมดีที่สุด หากช่วยไม่ ได้ อารามเสวียนตูของ พวกเจ้าก็ไม่มีอะไรเสียหาย”

หวังซุนคล้ายจะประหลาดใจอยู่บ้าง นางพยักหน้ารับ เอ่ยอย่าง ไม่ลังเลว่า “ไม่ว่าจะ ส าเร็จหรือไม่ก็ต้องขอบคุณเจ้าไว้ก่อนแล้ว”

หวังชินผู่เงียบงันไป เรื่องอย่างการหาเรื่องชวนคุยโดยที่ไม่มีเรื่อง ให้คุยนี้ อันที่จริง ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

หวังซุนกล่าว “เลื่อนเป็ นขอบเขตบินทะยานสองครั้งนับว่าเก่ง มากแล้ว”

หวังซินผู่เอ่ยเย้ยหยันตัวเอง “ก็แค่พอได้”

หวังซุนเลิกคิ้วข้างหนึ่ง

หวังชินผู้รีบเปลี่ยนคาพูดใหม่ทันที “เก่งมากจริงๆ!”

เกี่ยวกับรายชื่อสิบคนในใต้หล้าที่เพิ่งออกจากเตามาสดๆ ร ้อนๆ นั้น หวังชินผู้ทาท่าจะ พูดไม่พูด รู ้สึกเป็ นกังวลอย่างยิ่ง

เดิมทีเขาก็เป็ นบรรพจารย์ของสานักหนึ่งอยู่แล้ว ย่อมรู ้ดีถึงวิถี การและความอันตราย ที่ซุกซ่อนอยู่ในเรื่องนี้ หากไม่เป็ นเพราะรายชื่อที่อยู่ดีๆ ก็ป่ าวประกาศไปทั่วใต้หล้านี้ อันที่จริงหลงซินผู่คงไม่มีทางมาพบหวังซุนที่อารามเสวียนตู สิบคนแห่งใต้หล้าฉบับใหม่ล่าสุดของใต้หล้ามืดสลัว หรือควรจะพูดให้ถูกต้องคือสิบเอ็ดคน

อวี่โต้ว ลู่เฉิน เจ้าแห่งถ้าปี้เชียว อู๋โจว ซุนไหวจง หลินเจียงเชียน อู่ชวงเจี้ยง เกากู เหยาชิง หวังชุน ชินขู่

อันที่จริงก่อนหน้านี้ พวกชอบสอดรู ้สอดเห็นในหลายๆ ใต้หล้าที่ ไม่ว่าจะจัดอันดับ คนในใจของตัวเองออกมาอย่างไร สิบคนก็คือสิบ คน

นี่เป็ นเพราะรายชื่อสิบคนรุ่นเยาว์และตัวสารองสิบคนของหลาย ใต้หล้าคราวก่อนที่ เป็ นตัวเปิด อันดับสิบคนดันมีสิบเอ็ดคน

และนั่นก็เหมือนจะกลายมาเป็ นธรรมเนียมสืบทอดอย่างหนึ่ง

หลงซินผู้ยิ้มแห้งแล้ง เอ่ยว่า “สหายคงซาน สิบคนในใต้หล้านั้น …”

หวังซุนเอ่ยอย่างตรงไปตรงมาว่า “หากอิงตามมรรคกถาสูงต่า พลังพิฆาตมากน้อย ข้าไม่ควรติดอันดับสิบคน หลังเท่านั้น” อย่าง มากสุดก็ควรถูกโยนไปอยู่ในรายชื่อของตัวสารองในช่วง

หลงซินผู้ถอนหายใจหนักๆ หนึ่งที

ตัวเลือกของตัวสารอง จานวนคนมีเยอะมาก มากถึงยี่สิบเอ็ดคน!

นอกจากภิกษุ “เจียงชิว” ที่เป็ นผู้นา คนผู้หนึ่งที่เป็ นคนที่ไร ้ ชื่อเสียง ถูกจากัดความว่า เป็ น “บุคคลอันดับที่สิบเอ็ดแห่งใต้หล้า” แล้ว คนที่เหลืออีกยี่สิบคน รายชื่อไม่ได้เรียงตาม ลาดับสูงต่า

มิอาจแบ่งอันดับสูงต่าให้กับผู้ฝึกตนใหญ่หรือปรมาจารย์วิถีวร ยุทธพวกนี้ได้จริงๆ บางทีหลายๆ คนอาจไม่เคยเจอกันมาก่อนด้วยซ้า แล้วนับประสาอะไรกับที่ผู้ฝึกตน บนยอดเขาจานวนไม่น้อย ในช่วง พันปีที่ผ่านมาหรือหลายร ้อยปีมานี้ เดิมทีก็ไม่เคยมีการ ลงมือมาก่อน ไม่เคยประลองมรรคกถาหรือเวทกระบี่กับผู้ใด

ห้านครสิบสองหอเรือนของป่ ายอวี้จึงมีเต้ากวานสามท่านที่ติด อันดับตัวส ารอง

เว่ยฮูหยิน จื่อชวีหยวนจวิน รองเจ้านครอันดับหนึ่งของนครหนัน หัว นักพรตหญิงผู้นี้ ถูกสายอารามหวงถึงของใต้หล้ามืดสลัวเคารพ บูชาเป็ นบรรพจารย์รุ่นแรกร่วมกัน

เว่ยฮูหยินรับลูกศิษย์มามากมาย ในบรรดานั้นก็มีลูกศิษย์ผู้สืบ ทอดคนหนึ่งที่รับหน้าที่ ดูแลร ้อยบุปผาในใต้หล้า มีเรื่องเล่าแห่งเซียน ที่กล่าวขานว่าเขาคือผู้ที่ “สั่งความกลุ่มบุปผา ว่าอย่าออกจากภูเขา

เจ้าหอจื่อซี่ เจียงจ้าวหมอ

เจ้าตาหนักแห่งตาหนักเจิ้นเยว่ในหอปี้อวิ๋น เจินเหรินผู้เฒ่ามีชื่อ ว่าหวงเจี้ยโส่ว ฉายา “เฉวียนเหิง” มีอีกฉายาว่า “เสวียนหวง” นอกจากจะนั่งบัญชาการณ์ถ้าแยนเสียตาหนัก เจิ้นเยว่แล้ว ก็ยังรับ หน้าที่ดูแลเสื้อเกราะระดับขั้นสูงสุดทั้งหลาย มีหอเก็บตาราอยู่แห่ง หนึ่ง ชื่อว่าหอมิให้เวลาล่วงเลยเปล่า (ปู่ เจี้ยวอีรื่อเสียนกั้ว) นักพรต เฒ่ามักจะห้อยกุญแจหนัก หลายจินพวงหนึ่งไว้ตรงเอวตลอดทั้งปี ว่า กันว่าการที่เขาได้ฉายาว่า “เสวียนหวง” เป็ นเพราะ มรรคาจารย์เต๋า ประทานอักษรคาว่า “เสวียน” ให้เขาด้วยตัวเอง เพื่อให้เป็ นกรอบป้ าย ห้อง หนังสือของหอเก็บต ารา นี่น่าจะแสดงถึงการฝากความหวังอย่าง หนึ่งที่มรรคาจารย์เต๋ามีต่อหวงเจี้ยโส่ว

เจ้าหอรุ่นก่อนและเจ้าหอคนปัจจุบันของหอปี้อวิ่นคือลูกศิษย์และ ลูกศิษย์ของลูกศิษย์ ของเจินเหรินผู้เฒ่า เนื่องจากหวงเจี้ยโส่วคือผู้ ฝึกตนที่มีอายุขัยพอๆ กับผังติ่งเจ้านครหลิง เป่าที่มีฉายาว่า “ชวีชิน” ตามการคิดค านวณบนภูเขา ผู้ฝึกลมปราณบนภูเขารุ่นอายุหกสิบปี หรือหนึ่งร ้อยปี ถือจะเป็ น ‘คนวัยเดียวกัน” นอกจากนี้แล้วก็มีคา กล่าวถึงคนรุ่นพันปี ถือว่า เป็ นรุ่นอาวุโสใหญ่ หวงเจี้ยโส่วกับผังติ่ง “คนรุ่นเดียวกัน สองคนนี้ กาลเวลาในการฝึกตน ของนักพรตเฒ่า อันที่จริงยาวนานยิ่งกว่าเจ้าลัทธิแห่งป่ ายอวี้จิงสองท่านอย่างอวี่โต้ว และลู่เฉินเสียอีก หากพูดถึงแค่อายุขัยในการฝึกตน ไม่พูดถึงสถานะ นอกจากเจ้าลัทธิใหญ่โค่วหมิงแล้ว อันที่จริงเทียนเซียนเต้ากวานคน อื่นๆ ต่างก็เป็ นผู้เยาว์บนภูเขาของพวกเขาทั้งสิ้น

หากยังรวมถึงผู้ฝึกกระบี่ขอบเขตบินทะยานที่ฝึกตนอยู่ในนคร เสินเชียวของป่ายอวี้จิง ในทุกวันนี้อย่างหาวขู่สิงกวานรุ่นสุดท้ายแห่ง กาแพงเมืองปราณกระบี่เข้าไปอีกคน

ถ้าอย่างนั้นก็เท่ากับว่าป่ ายอวี้จิงได้ครอบครองตัวสารองถึงสี่ ท่านแล้ว

ราชวงศ์ชิงเสินของปิงโจว ราชครูป้ ายโอ่ว ผู้ฝึกยุทธขอบเขต ปลายทาง บุคคลอันดับที่ สามแห่งวิถีวรยุทธในใต้หล้า

อันดับที่หนึ่งบนภูเขาของหรูโจวคือจูโหม่วเหริน มีฉายาใหม่ ล่าสุดว่า “ลวี่ผิง” ในอดีต คือบุคคลอันดับที่สิบเอ็ดที่ไม่มีการ เปลี่ยนแปลง ทุกวันนี้กลับถูกเจียงชิวที่จู่ๆ ก็โผล่มาแย่งชิง ตาแหน่ง ไปแล้ว

เยี่ยนโจว เซียนกระบี่อิสระคนหนึ่งที่มีชื่อว่าเนี่ยปี้เสีย ตลอดชีวิต อันยาวนานถึงสาม พันปี พเนจรร่อนเร่ไปทั่วสารทิศไม่เคยหยุดนิ่ง ข่าวคราวหายสาบสูญไปนานแล้ว แต่เล่าลือ กันว่าตะเกียงแห่งชะตา ชีวิตของนางที่วางไว้ในตาหนักหัวหยางของภูเขาตี้เฝ่ ย ตลอดพันปี ที่ผ่านมากลับไม่เคยมอดดับ เกี่ยวกับที่อยู่ของเนี่ยปี้เสีย ผู้คนพากัน พูดไปหลากหลาย บ้างก็ บอกว่าอันที่จริงนางไปหลอมกระบี่อยู่นอก ฟ้ าแล้ว แล้วก็มีบอกว่านางอาจจะอยู่ฟ้ านอกฟ้ า ใช ้เทวบุตรมารนอก โลกมาขัดเกลาวิถีกระบี่ ถึงขั้นยังมีคนบอกว่านางไปอยู่ดินแดนพุทธะ สุขาวดีแล้ว

บทที่ 964.2 ดื่มสุราหมดจอก 1

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!