กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา! นิยาย บท 972

หิมะใหญ่ปกคลุมเต็มภูเขา พื้นดินเป็ นสีขาวโพลนสายลมเหน็บ หนาว บนยอดเขามี่เซวียได้ยินเสียงกิ่งไม้แตกหักเหมือนเสียงหยก แตก

อยู่บนภูเขาเซียนตูแห่งนี้ นอกจากชุยตงซานที่เป็ นเจ้าสานักซึ่ง สามารถเข้าไปในพื้นที่ประกอบพิธีกรรมถ้าสวรรค์ขนาดเล็กได้แล้ว ก็มีเพียงใต้เท้าผู้พิทักษ์ฝ่ ายขวาของภูเขาลั่วพั่วซึ่งมาจากสานักเบื้อง บนอย่างโจวหมี่ลี่แล้ว!

แม้แต่ผู้ถวายงานอันดับหนึ่งอย่างหมี่อวี้และผู้คุมกฏชุยเหวย อีก ทั้งพวกเขายังเป็ นอาจารย์ของตัวอ่อนเซียนกระบี่สองคน คิดจะเข้าไป ในพื้นที่ประกอบพิธีกรรมก็ยังต้องมีการรายงานและบันทึกลงเอกสาร

เช ้าตรู่ของวันนี้ ป๋ ายเสวียนหอบเอากาจื่อซามาด้วย ยังคงชง ชาโก่วฉี่ให้กับตัวเองอยู่เหมือนเดิม แม้ว่าจะถูกพี่จิ่งชิงหลอก แต่ดื่ม ไปดื่มมาก็เกิดเป็ นความเคยชิน เวลานี้ป๋ ายเสวียนแหงนหน้ากระดก ดื่มชาโก่วฉี่อีกใหญ่ จากนั้นก็พูดกับหมี่ลี่น้อยที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามโต๊ะ ว่า “ผู้พิทักษ์ขวา ในใจนายท่านอย่างข้าขมขื่นนัก”

หากจะพูดถึงการคุยกันเรื่องน้าชา ข้าคือผู้เชี่ยวชาญที่มี ประสบการณ์โชกโชนแล้ว หมี่ลี่น้อยเอ่ยทันทีว่า “ถ้าอย่างนั้นก็ดื่ม ชาภูเขาที่พ่อครัวเฒ่าผัดเองกับมือ ขมก่อนแล้วค่อยหวาน นี่เรียกว่า

หวานย้อน (คือความรู ้สึกแบบหนึ่งยามดื่มน้าชา เมื่อดื่มน้าชาเข้า ปากจะรู ้สึกค่อนไปทางขมฝาด แต่ก็มีความรู ้สึกหวานบางเบา หลังจากนั้นรสขมฝาดค่อยๆ ลดลงรสหวานจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แล้วกลบรสขม ท้ายสุดรสหวานก็จะค่อยๆ เจือจางหายไป) อย่างไร ล่ะ!”

ป๋ ายเสวียนถอนหายใจเหมือนคนแก่ “อะไรกับอะไรกันนี่ คนละ เรื่องกันเลยนะ ผู้พิทักษ์ขวาความสามารถในการท าความเข้าใจของ เจ้ายังด้อยไปหน่อย วันหน้าข้าจะให้พี่ใหญ่เจี่ยช่วยสอนเจ้าว่าควร พูดจาอย่างไร”

นังหนูไฉอู๋ผู้นั้นเป็ นขอบเขตหยกดิบแล้ว ช่วงนี้ทาเอานายท่าน ใหญ่ป้ ายกลัดกลุ้มยิ่งนัก กลุ่มจนป๋ ายเสวียนดื่มชาก็ยังเหมือนได้รส สุรา เด็กน้อยไฉอู๋นั่นต้องตั้งใจฝึกตนขยันฝึกตนถึงเพียงใดกันนะ ถึง สามารถกระโดดไปถึงห้าขอบเขตบนได้ ล าบากล าบนนัก คุณสมบัติ ธรรมดาก็ได้แต่อาศัยความมานะหมั่นเพียรมาชดเชยข้อบกพร่อง แล้ว

หมี่ลี่น้อยเกาแก้ม ลุกขึ้นยืน หยิบคานหาบสีทองและไม้เท้าเดิน ป่าที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมาบอกว่าจะไปเล่นกับไฉอู๋

ทุกวันนี้ไฉอู๋ค่อนข้างมีเวลาว่าง ห่านขาวใหญ่บอกให้นางชะลอ การฝึกตนเอาไว้หน่อย

ป๋ ายเสวียนโบกมือ พูดอย่างมีแรงแต่ไร ้ก าลังว่า “ไปเถอะ จ าไว้ว่า น าค าพูดของข้าไปบอกกับไฉอู๋ด้วยว่า ทุกวันนี้นางเป็ นขอบเขตหยก ดิบแล้ว เป็ นเรื่องดี ในเมื่อทุกคนล้วนเป็ นสหายกัน ของขวัญแสดง ความยินดีคงไม่ต้องแล้ว จะห่างเหินกันเกินไป คราวหน้าข้าจะช่วย คิดฉายาที่มีครบทั้งกลิ่นอายเซียน ความเผด็จการ และความองอาจ ให้กับนางก็แล้วกัน วันหน้านางลงจากภูเขาไปท่องเที่ยว จะเลือกชื่อ ไหนไปใช ้ก็ได้”

หมี่ลี่น้อยตอบตกลงแล้ววิ่งตะบึงไปตลอดทาง จนไปถึงห้องของ ไฉอู๋

ก่อนหน้านี้หมี่ลี่น้อยได้ช่วยเตรียมกาเหล้าและชามเหล้าไว้ให้ เรียบร ้อยแล้ว หนึ่งวันดื่มเหล้าครึ่งจิน สาหรับไฉอู๋แล้วคือเรื่องของ สองชามเท่านั้น

ไฉอู๋ชอบมองริ้วน้าในชามสุรา ดมกลิ่นหอมของสุรา แกว่งชาม เหล้า หรี่ตายิ้ม จากนั้นก็จะยกมือขึ้น แหงนหน้ากระดกดื่มไปครึ่ง ชาม เช็ดปาก พยักหน้า ทาทุกอย่างนี้เสร็จในรวดเดียว

หมี่ลี่น้อยมักจะรู ้สึกว่าไฉอู๋จริงจังกับการดื่มเหล้ามากกว่าการฝึก ตนเสียอีก ให้ความส าคัญมากกว่านัก

ก่อนหน้านี้ไฉอู๋บอกว่านางเป็ นขอบเขตหยกดิบแล้ว ขอบเขตสิบ เอ็ด ผู้พิทักษ์ขวาคือขอบเขตถ้าสถิต ขอบเขตหก ถ้าอย่างนั้น ขอบเขตของคนทั้งสองรวมกันแล้วเอามาเฉลี่ยให้เท่าๆ กัน จากนั้น

ปัดขึ้นให้เป็ นเลขกลมๆ ก็เท่ากับว่าคนทั้งสองต่างก็เป็ นขอบเขตเก้า แล้ว

อยู่ดีๆ ก็ได้เป็ นเทพเซียนโอสถทองแล้วนะ ใช ้ได้ ใช ้ได้ ไฉอู๋มี วิชาคานวณที่ยอดเยี่ยมจริงๆ!

ไ ม่ ไ ป เ ป็ น นั ก บัญ ชีก็ ช่า ง เ ป็ น ก า ร ล ด คุณ ค่า ข อ ง ค น มี ความสามารถ

ทุกวันนี้พวกผู้ฝึกกระบี่อย่างป๋ ายเสวียนไม่ได้มารวมตัวกันบ่อย นัก เวลาที่แต่ละคนใช ้ปิดด่านนานขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

อย่างเช ้าวันนี้ หมี่ลี่น้อยก็ได้เจอแค่ป๋ ายเสวียน พวกชุนขุนหวัง ต่างก็ก าลังปิดด่านกันอยู่

ราวกับว่าแม่น้าแห่งกาลเวลาสายหนึ่งมีคนหลายคน “ลุยน้า” เข้ามาด้านใน แต่ละคนจึงมีความรู ้สึกและสภาพการณ์ที่ได้ประสบ พบเจอไม่เหมือนกัน เร็วช ้าหนักเบามีความต่าง

ไฉอู๋คุยกับหมี่ลี่น้อยเป็ นการส่วนตัว ถามว่าจู่ๆ ตนก็เลื่อนเป็ น ขอบเขตหยกดิบ คนอื่นมีความคิดเห็นอะไรหรือไม่

ตอนนั้นหมี่ลี่น้อยตอบอย่างไม่ลังเลว่า มีสิ ต้องมีแน่อยู่แล้ว! ยกตัวอย่างเช่นป๋ ายเสวียน ตอนแรกที่ได้ยินข่าวนี้ก็อึ้งค้างไปทันที พูดพึมพ ากับตัวเองอยู่ตลอดว่า จะมีคนที่เป็ นอัจฉริยะมากกว่าตนได้ อย่างไร สุดท้ายในที่สุดเขาก็คิดจนเข้าใจกระจ่างแล้ว จึงใช ้หมัดทุบ ฝ่ามือ แหงนหน้าหัวเราะดังลั่น ใช่แล้ว ไฉอู๋ไม่ใช่ผู้ฝึกกระบี่ ฝึกตนได้

เร็วหน่อยก็เป็ นเรื่องปกติ ส่วนซุนขุนหวังก็ขยันฝึกตนมากกว่าเดิม เฉิงเฉาลู่ตั้งใจฝึ กหมัดยิ่งกว่าเดิม เหอกูกับอวี๋เสียหุยต่างก็เริ่มด่า กันเองว่าเป็ นเศษสวะแล้ว ป๋ ายเสวียนบอกกับพวกเขาว่าคราวหน้าที่ พวกเขาสองคนเจอกับเทพเซียนห้าขอบเขตบนอย่างเจ้าก็ต้อง นั่งคุกเข่าดื่มเหล้าอยู่บนพื้นแล้ว….ฮ่า ไฉอู๋ ป๋ ายเสวียนพูดล้อเล่นนะ อย่าเก็บไปคิดเป็ นจริงเป็ นจัง ตอนนั้นเหอกูไม่ยอมรับ ใบหน้าแดงก่า ไปหมด ป๋ ายเสวียนเหล่ตามอง นี่ไง ข้าจะทาให้เจ้าเห็น แบบนี้ไง จาก นั้นป๋ ายเสวียนก็บอกว่าผู้มีพรสวรรค์อย่างข้าเป็ นคนนานั่งคุกเข่า คน ไร ้ความสามารถอย่างพวกเจ้าสองคนมีอะไรให้ไม่ยอมแพ้กันเล่า อวี๋ เสียหุยจึงแค่นเสียงเย็นชา ส่วนเหอกูนั้นโมโหจนกลายเป็ นข า…

หมี่ลี่น้อยเอาข่าวมาบอกแก่ไฉอู๋ ทั้งใช ้น้าเสียงบรรยายทั้งทา ท่าทางประกอบ

เทพรายงานข่าวของภูเขาลั่วพั่วไม่ทาให้เสียชื่อจริงๆ ด้วย

“ไปลาดตระเวนภูเขาก่อนนะ! ไฉอู๋ ครั้งหน้าข้าค่อยมาหาเจ้า ใหม่”

อันที่จริงวันนี้คุยกันแค่ไม่กี่ประโยค หมี่ลี่น้อยก็รีบลุกขึ้นยืนขอ ตัวลา เพียงแต่ว่าทิ้งเงินเกล็ดหิมะไว้เหรียญหนึ่งบนโต๊ะ

เป็ นกฎเก่าแก่ของผู้พิทักษ์ฝ่ ายขวาภูเขาลั่วพั่ว ไฉอู๋เคยชินเสีย แล้ว ฉวยโอกาสตอนที่หมี่ลี่น้อยก้มหน้าหยิบคานหาบสีทองมาหาบ ไว้บนไหล่ ไฉอู๋ก็รีบบิดหมุนข้อมือหนึ่งที สะบัดชายแขนเสื้อหนึ่งครั้ง

เงินเกล็ดหิมะที่อยู่บนโต๊ะก็ผลุบหายเข้าไปในชายแขนเสื้อ เปลี่ยนเป็ นเงินเกล็ดหิมะอีกเหรียญหนึ่ง จากนั้นบีบเงินเกล็ดหิมะ เหรียญที่เป็ นของตนให้แตก หมี่ลี่น้อยเงยหน้ามองมาเห็นภาพนี้ก็คลี่ ยิ้มกว้าง พยักหน้า ไปแล้วๆ ไปสารวจภูเขาแล้ว

ไฉอู๋หยิบชามเหล้าขึ้นมาอีกครั้ง แกว่งเบาๆ ริ้วน้าในชามงดงาม เสียจริง นางเกือบตัดใจดื่มเหล้าที่เหลืออีกครึ่งถ้วยไม่ลง

ส่วนที่ป๋ ายเสวียนบอกว่าจะช่วยตั้งฉายาให้นาง ไฉอู๋ก็รู ้สึกว่า ตัวเองอยากจะดื่มเหล้ามากขึ้นอีกแล้ว ครึ่งจินยังไม่ค่อยพอเท่าไร

ก่อนหน้านี้ได้ยินหมี่ลี่น้อยเล่าว่า เมื่อผ่านการอนุมานคาดเดา อย่างตั้งใจเต็มเปี่ยมของนางจนได้ผลลัพธ ์ที่แม่นยานั้นออกมา เพราะ นางมาเป็ นแขกที่นี่ ทุกครั้งที่ประตูบานนี้เปิดจะต้องมีปราณวิญญาณ ฟ้ าดินไหลหายไป กระจายไปอยู่ยอดเขามี่เซวี่ยที่อยู่ข้างนอกโดยไม่ ระวัง ดังนั้นนางจึงไม่อาจมาพบพวกเขาที่นี่บ่อยๆ ได้ มาแล้วต้อง ชดเชยด้วยปราณวิญญาณ จะทิ้งเงินเกล็ดหิมะหนึ่งหรือสองสาม เหรียญเอาไว้ก็ต้องดูว่าเวลาที่มาอยู่นานหรือสั้น ไม่อย่างนั้นจะเป็ น การเบียดบังผลประโยชน์ส่วนรวมเพื่อผลประโยชน์ส่วนตนแล้วเล่า ลือออกไปจะไม่น่าฟัง ถึงอย่างไรนางก็เป็ นคนของภูเขาลั่วพั่ว อยู่ที่ สานักเบื้องล่างแห่งนี้ต้องระวังจะกระทาการใดๆ ที่เป็ นการส่ง ผลกระทบให้กับที่นี่

แต่เรื่องนี้หมี่ลี่น้อยแค่แอบกระซิบบอกกับไฉอู๋เท่านั้น ไฉอู๋บอก ว่าจะช่วยเก็บเป็ นความลับให้

จาได้ว่าครั้งแรกหมี่ลี่น้อยพูดคุยกับไฉอู๋อย่างมีความสุข ก่อน นางจะหันหน้าไปทางอื่นขมวดคิ้ว นับนิ้วคานวณ ใบหน้าเต็มไปด้วย ความหม่นหมอง หยิบเงินเกล็ดหิมะสามเหรียญออกมาจากกระเป๋ า ผ้าฝ้ ายสะพายไหล่ สูดน้ามูก วางลงบนโต๊ะเบาๆ

เงินน้อยๆ ที่กว่าจะเก็บออมมาได้ ช่างยากล าบากนัก

ตอนนั้นโจวหมี่ลี่จากไปได้ไม่นานเท่าไร เจ้าสานักชุยและหมื่อวี้ ก็มาปรากฏตัวอยู่ข้างโต๊ะของไฉอู๋

ใบหน้าไฉอู๋เต็มไปด้วยความสงสัยใคร่รู ้ เพียงแต่ไม่รู ้ว่าควรจะ ถามอย่างไรถึงจะเหมาะสม จึงเลือกที่จะไม่พูดอะไร

ชุยตงซานก้มหน้าลง หยิบเงินเกล็ดหิมะสามเหรียญมาวางทับ ซ ้อนกัน ฟุบตัวนอนคว่าบนโต๊ะ หัวเราะร่าเอ่ยว่า “ทุกครั้งที่เปิดประตู ใหญ่ของพื้นที่ประกอบพิธีกรรม ปราณวิญญาณที่เผาผลาญไปต้อง คิดเป็ นเงินเทพเซียนจริงๆ ทว่าไม่ใช่เงินเกล็ดหิมะ แต่เป็ นเงินฝน ธัญพืช

หมื่อวี้เอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “มีค่ายกลใหญ่พิทักษ์ภูเขาคอย ปกป้ อง ปราณวิญญาณของที่นี่ไหลออกไปอยู่ข้างนอก ไม่อาจหลุด ออกจากอาณาเขตของสานักกระบี่ชิงผิงได้แม้แต่เศษเสี้ยว เจ้าสานัก ชุยท่านไร ้คุณธรรมเกินไปแล้ว แม้แต่เงินของหมี่ลี่น้อยก็ยังหลอกเอา มาได้ลงคอ!”

โชคดีที่เงินที่หลอกมาจากหมี่ลี่น้อยคือเงินเกล็ดหิมะ ไม่อย่างนั้น หมี่อวี้คงชักสีหน้าใส่ชุยตงซานไปแล้ว เรื่องจะต่อยตีกันนั้นก็ช่างเถิด แต่หมี่อวี้ย่อมต้องเอาเรื่องนี้ไปฟ้ องใต้เท้าอิ่นกวานอย่างเลี่ยงไม่ได้

ลูกศิษย์ที่เป็ นอย่างนี้ต้องควบคุมให้ดีจริงๆ

บทที่ 972.1 ไม่แปลกหน้า 1

บทที่ 972.1 ไม่แปลกหน้า 2

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กระบี่จงมา Sword of Coming กระบี่จงมา!